Just Friend...เพื่อนกัน...??

10.0

เขียนโดย ออมอนี่cake

วันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 เวลา 15.45 น.

  3 ตอน
  46 วิจารณ์
  13.64K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 17.09 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

2) The first.....1/2

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

เรื่องที่แต่งนี้เป็นเพียงเหตุการณ์ที่สมมติขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น
ตัวละครไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆทั้งสิ้น กรุณาอ่านแบบไม่คิดมากนะคะ ^__^~

เรื่องสั้น : Just Friend...เพื่อนกัน...?? [1/2] The First.
ผู้เขียน : ออมอนี่_cake

Rate : PG-17  [เรทรั่ว + ภาษาพ่อขุนรามคำแหงมหาราช...สาธุ]

๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐

 

 

 

 

 

"สมมติว่าเธอไม่รักเขา อยากรู้ว่าเรารักกันได้ไหม...สมมติว่าเธอก็รู้อยู่แก่ใจ มีฉันใช่ไหมข้างในใจเธอ โว้ว โว เย เย่"

 

 

 

 

"อะไรของคุณมึงครับ คุณภัทรดนัยครับ ถ้าคุณมึงยังไม่หยุดหอน คุณเพื่อนสุดหล่อนามว่าปาร์คจงเบจะระงับตรีนไม่หยุดฉุดไม่อยู่นะครับคุณมึงครับ"

 

 

 

 

"อ่าว เกี่ยวอาไรกะตรีนกูขรับเมิง?"

 

 

 

 

"ก็ตรีนกูเหยียบเบรคอยู่อะครับ หรือจะให้เปลี่ยนเป็นใช้บริการตรีนกูดี?"

 

 

 

 

"เออ ๆ คุณป๊อบครับตรีนคุณมึงเก็บไว้รักษาชีวิตพวกกูเหอะ เดี๋ยวเอาตรีนกูไปรับประทานแทนก็แล้วกันนะไอ้กบ"

 

 

 

 

          พวกเรา 4 คน มีเขา ป๊อบปี้ เขื่อน และจงเบ กำลังมุ่งหน้าสู่คอนโดเพื่อนผู้หญิงคนนึงที่เรียนคณะเดียวกัน วันนี้เราตั้งใจมาทำงานกลุ่มเป็นโมเดลชิ้นใหญ่ โปรเจคจบที่พวกเรารอคอยมาตลอด 4 ปี เราทั้ง 5 คนเรียนวิศวะครับ อย่าถามว่าทำไมถึงมี 1 หญิง 4 ชาย เพราะอันนี้เขาก็ไม่รู้ เคยถามไปเหมือนกันว่าเป็นผู้หญิงทำไมไม่เรียนออกแบบไป แต่ได้คำตอบกลับมาว่าอยากเรียนกับเพื่อน...

 

 

 

 

 

 

....แก้วใจคือเพื่อนผู้หญิงคนนั้น....

 

 

 

 

 

 

....แค่เพื่อนจริงๆครับ....

 

 

 

 

 

 

 

 

"เฮ้ย ๆ ๆ หยุดแล้ว ๆ .....นี่เป็นอะไรวะไอ้โมะ มึงหงุดหงิดตั้งแต่เริ่มขึ้นรถแล้วนะครับคุณเพื่อน"

 

 

 

 

 

 

"เออ ขึนรถมาก่อเอาแต่เลนโทระศัพท์ แลวก่อทำหน้ายุงขรับเมิง"

 

 

 

 

 

 

"แก้วไลน์มาถามว่าถึงยัง"

 

 

 

 

 

 

"แค่นี้? ก็บอกไปดิ่ ว่ารถมันติดมาก ก.ไก่ ล้านตัวครับ"

 

 

 

 

 

 

"กูไม่ชอบโกหกพวกมึงก็รู้"

 

 

 

 

 

 

 

 

"เออ กูรู้ว่ามึงไม่ชอบโกหก เฉพาะกับเมียมึงคนเดียว!!!! // เออ กะพวกกูเมิงเลทตลอด ด.เดก ลานตัวขรับ // จริงว่ะ แม่ง วันก่อนบอกท้องเสียไม่ยอมออกมาแฮ้งเอาท์กับพวกกู ที่แท้ก็นอนกกเมียอยู่ที่ห้อง"

 

 

 

 

 

 

"แก้วมาทำรายงานด้วยเว้ย มึงก็รู้ว่าพวกกูอ่ะ ....เพื่อนกัน..."

 

 

 

 

"เออ อ.อ่างล้านตัว!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! เพื่อนกัน!!!!!!!!!!!!!!!!"

 

 

 

 

          ใช่ครับ อย่างที่บอก เขากับแก้วน่ะเป็นแค่เพื่อนกันเท่านั้น แต่อาจจะดูสนิทกันมากกว่าคนอื่นสักหน่อยจนทำให้เพื่อนๆมันเก็บเอามาล้อ ก็เราเป็นเพื่อนข้างบ้านกันตั้งแต่เรียนอนุบาลนี่ครับ จะไม่ให้ดูแลกันดีจนเพื่อนมันเข้าใจผิดได้ยังไง ตัวติดกันตั้งแต่อนุบาล รู้ไส้รู้พุงทุกอย่าง จะให้แกล้งทำเป็นไม่รู้เพื่อรักษาระยะห่างคงทำไม่ได้

 

 

 

 

          เอาจริงๆ เขาก็ไม่ได้อยากเป็นแค่เพื่อนสักหน่อย มันเจ็บนะครับ เวลาพูดคำว่าเพื่อน ทั้งที่ในใจอยากให้เป็นมากกว่านั้น ขอข้ามคำว่าแฟนไปเลยได้ไหม คือจะให้พูดยังไงดี? ชีวิตรัก(?)ของพวกเขาน่ะ มันเลยคำว่าแฟนไปนานมากแล้วน่ะครับ

 

 

 

 

 

 

 

 

....เป็นเมียเลยเหอะ....

 

 

 

 

 

 

          ก็ได้แต่คิดในใจครับ เพราะถึงแม้เราจะสนิทกันมากแค่ไหน สิ่งที่เห็นและเป็นอยู่ คือเรายังคงยืนอยู่ในจุดที่เรียกว่า "เพื่อนกัน" อยู่วันยังค่ำ

 

 

 

 

 

....เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้เลย....

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

.

.

.

 

"ช้าอ่ะเมิง"

 

 

 

 

"อือ...............โทษที"

 

 

 

 

"รถติดจ้ะ ฟางจ๋า // จริงๆครับ น้องเฟย์ครับ รถติดมาก ก.ไก่ ล้านตัวครับ"

 

 

 

 

          มาถึงคอนโดเพื่อนสนิทที่อาศัยอยู่กับเพื่อนคนสวยอีกสองคนตั้งแต่เริ่มเข้าเรียนปีหนึ่ง ตั้งแต่ตอนนั้นทำให้เขาและเธอไม่ได้อยู่ข้างบ้านกันอีกต่อไป เธอให้เหตุผลว่าไม่อยากตื่นเช้ารีบออกมาขึ้นรถ ขอมาแชร์ค่าห้องอยู่กับเพื่อนใกล้ๆ ม. จะดีกว่า ผมก็เลยต้องระเห็จไปเช่าอยู่กับเพื่อนๆเหมือนกัน ใครจะอยู่บ้านที่ขาดคนตัวเล็กอยู่ข้างๆได้ล่ะ แต่เขาก็ไม่ได้อยู่ใกล้ ม. อย่างที่เข้าใจนะ ก็ไม่ได้ขยันอะไรขนาดนั้น

 

 

 

 

 

 

....อยู่ใกล้ๆกันดีตรงไหน....

 

 

 

 

          เป็นเขาเองที่ทรมาน สู้ห่างๆกันบ้างคงดีกว่า เพราะเขาไม่เคยชนะสายตาและท่าทางออดอ้อนจากคนตรงหน้านี้ได้เลย อยู่ใกล้กันโดยที่เขาไม่สามารถทำอะไรได้(จะทำอะไร??) สู้อยู่ไกลๆไปเลยจะได้ไม่ฟุ้งซ่าน ก็ดูลูกอ้อนมันก่อนสิครับ จะให้ผู้ชายหัวใจไม่แข็งแรง(?) แบบเขายั้งใจอยู่ได้ยังไง

 

 

 

 

 

"โมะ กูหิว มึงลองเดินไปในครัวให้กูดูหน่อยดิ่ มีข้าวผัดกุ้งอยู่....นี่กูรอมึงจนไส้กิ่วแล้วเนี่ย"

 

 

 

 

"ครับคุณแก้ว กูจะไปเอามาให้ครับ ....ตึ่ง ตะ ตึ๊ง.....ครับแบมบี้ พี่มาทำโมเดลบ้านแก้วครับ .....'เดี๋ยวกูเอามาให้' ครับอะไรนะ"

 

 

 

 

".....พยักหน้า....."

 

 

 

 

          เธอนั่งร่างแบบโมเดลโรงแรมแสนหินตั้งแต่ช่วง 2 ทุ่ม ผ่านไป 3 ชั่วโมง ไลน์กระหน่ำไปด่าพวกเพื่อนตัวแสบก็ยังมาไม่ถึง จริงๆก็บ่นแค่กับโทโมะ
แหล่ะนะ เพื่อนสนิทกันตั้งแต่เด็กคนนั้น จะด่าจะว่าอะไรมันก็ไม่เคยโกรธ แถมยังตามอกตามใจยิ่งกว่าแม่ จะไม่ให้รักมันได้ไง

 

 

 

 

 

 

....ได้ยินไม่ผิด เธอรักผู้ชายคนนั้น....

 

 

 

 

 

          เพื่อนสนิทตั้งแต่เด็กที่อยู่ด้วยกันมาตลอด รู้ใจกันทุกอย่าง แบบที่เค้าเรียกว่าอ้าปากก็เห็นลิ้นไก่อะไรอย่างนั้น ผู้ชายที่เฉยชากับคนอื่น แต่ช่างเจรจาเวลาอยู่กับเธอ ผู้ชายที่เห็นเธอเป็นที่หนึ่งเสมอ ไม่ว่าเธอจะอยู่ที่ไหน ถ้าบอกให้ไปหาก็จะรีบมา แม้แต่กับเวลาแบบนี้ ถึงแม้ว่าจะกำลังรับสายคุณแฟนที่น่ารัก แต่ก็ทำตามที่เธอขอโดยไม่ปริปากบ่น ไม่ได้อยากเป็นแฟนมันหรอกนะ เป็นเพื่อนกันแบบนี้ดีกว่า

 

 

 

 

....ก็ดูมันใส่ใจเพื่อนมากกว่าแฟนอีกนี่นา....

 

 

 

 

 

 

 

 

 

.....เอ แต่ถ้าข้ามไปเป็นเมียมันเลยล่ะ?

(คุณพระ...นางเอกฉัน (=[]=)!!!).....

 

 

 

 

 

 

"ตามสบายนะทุกคน อาหารว่างฟางเตรียมไว้ให้แล้ว ทานได้ถึงเช้าค่ะ ตั้งใจทำงานนะคะฟางกับเฟย์ขอตัวเข้าห้องก่อน ป่ะเฟย์ // พี่ฟางอยากอยู่เล่นกะหนุ่มๆก่อนไม่ได้เหรอ พี่เบหิวไหมคะ?"

 

 

 

 

 

"ฟางจ๋าจะไม่อยู่เป็นเสาหลัก(?) ให้ป๊อบก่อนเหรอครับ ป๊อบอาจจะไม่ได้มีชีวิตรอดถึงวันพรุ่งนี้นะครับ (T^T) // นั่นสิครับน้องเฟย์ พี่เขื่อนอยากได้กำลังใจจุงเบย \\(*0*)//"

 

 

 

 

 

"น้องเฟย์คะ ได้ข่าวว่าพรุ่งนี้มีสอบอิ๊งใช่ไหม? ทีนี้เข้าห้องได้หรือยังคะน้องสาวที่รัก (^_^)  // แง่ะ เฟย์ลืมอ่ะ (=[]=) บ๊ายบายนะคะหนุ่มๆ น้องเฟย์เป็นกำลังใจนะคะ  สู้ๆค่ะพี่เบ (>w<)!!! "

 

 

 

 

 

"ฮึ่ย ไอ้เบ มึงตาย ย.ยักษ์ล้านตัว!!!!!!!! // แค่กๆ ปอยๆๆ ปอยกู"

 

 

 

 

 

"เลิกเล่นได้หรือยังคุณมึง งานน่ะจะส่งชาตินี้หรือชาติหน้า?"

 

 

 

 

          นั่งรอข้าวผัดได้ 3นาที(?) ก็เกิดอารมณ์บ่จอยขึ้นมาตะหงิดๆ แต่ทำอะไรไม่ได้เพราะเป็นเธอเองที่ยัดเยียดสาวน้อยน่ารักคนนั้นให้มันไปกับมือ ใครใช้ให้มันบื้อกันล่ะ ไล่ให้ไปจีบใคร คบใครมันก็ทำตามใจหมด แต่ก็นะไม่เห็นคบใครได้เกินสองอาทิตย์ มันคงจะเกินกว่านั้นไม่ได้หรอก ผู้หญิงใจแม่น้ำเท่านั้นที่จะทนคบกะโทโมะได้ เล่นเอาเวลามาตามเธอเกือบ 20 ชั่วโมงต่อวัน แล้วจะมีเวลาที่ไหนไปแคร์คุณแฟนกันล่ะ

 

 

 

 

ถึงได้บอกไงล่ะว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ดีกว่าเปลี่ยนไปคบกันแบบแฟนเป็นไหนๆ

 

 

 

 

 

"แก้วจ๋า ส่งชาตินี้สิจ๊ะ โอ๋ๆ อย่าไปสนใจไอ้กบมันเลย เดี๋ยวมันหายเคืองไอ้เบแล้วมันก็แปลงร่างกลับมาเป็นคนเองแหล่ะจ้ะ อ้าว ไอ้โมะไปไหน?"

 

 

 

 

"คุยโทรศัพท์กับน้องแบมบี้"

 

 

 

 

 

 

"อ๋อ ถึงว่าล่ะ คุณสามีไปคุยกับสาวอื่น คุณภรรยาก็เลยโมโห โอ้ย!! กบเจ็บครับ ไอ้แก้วปล่อย!!!"

 

 

 

 

 

 

"ภรรยาบ้านมึงสิ พะ..."

 

 

 

 

"เพื่อนกัน!!!!! เออ พวกกูรับทราบไปถึงสมองส่วนซีรีบรัมแล้วครับเพื่อนแก้ว ว่าพวกมึงสองคนน่ะแค่เพื่อนกัน ไม่มีอะไรมากกว่านั้นเลยเหอะ"

 

 

 

 

"หุบปากแล้วก็รีบทำเลย สมองเท่าหางอึ่งกันทั้งนั้นเสือกจะทำโมเดลโรงแรม!!!"

 

 

 

 

"ก็เพราะมึงอยากเป็นเจ้าของโรงแรมไม่ใช่หรือไง? พูดมากจริงจะแดกไหมมึง"

 

 

 

 

"อยากเป็นเจ้าของไม่ใช่อยากสร้างเองโว้ย!!! อ๊ะ ข้าวผัดกุ้งของกูๆๆ"

 

 

 

 

 

 

          คำก็เพื่อนกัน สองคำก็เพื่อนกันเวลาพูดเอง หรือฟังจากไอพวกนั้นพูดก็ไม่ได้รู้สึกอะไรมากไปกว่าเวลาได้ยินเพื่อนสนิทคนตัวเล็กของเขาเป็นคนพูด แอบเคืองอยู่นิดๆ ทั้งๆที่มันก็เห็นและเป็นอยู่ว่าเราสองคนเป็นแค่เพื่อนกันอย่างที่พูดจริงๆ แต่ก็ยังไม่ชอบใจอยู่ดีเวลาที่แก้วพูดมันออกมา ก็ที่เราเป็นกันอยู่ตอนนี้ มันเกินเลยคำว่าเพื่อนแต่ไม่ใช่แฟนไปไกลแค่ไหนแล้ว แต่ใครใช้ให้เขาปอดแหก ไม่กล้าพูดความในใจของตัวเองออกไป และใครสั่งให้แก้วใจจอมแก่นดื้อดึงต่อความรู้สึกของตัวเองขนาดนั้นกันล่ะ มันก็เลยยังเป็นอยู่แบบนี้

 

 

 

 

 

          เขามีคนที่คบด้วย ก็เพราะแก้วชอบยุให้ไปจีบคนอื่นนี่แหล่ะ อยากยุดีนักเลยจัดให้เลย แอบเห็นนะว่าน้อยใจเขาอยู่น่ะ ฮึ! ....ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังปฏิบัติกับคนสวยเหมือนเดิม เหมือนตอนที่ไม่มีใคร คนสวยเองก็ไม่เคยก้าวถอยหลังไป เพียงแต่ยังไม่ยอมก้าวเข้ามาหาเสียที

 

 

 

 

 

....จะให้คนหล่อทำยังไงล่ะครับ....

 

 

 

 

 

 

"มาๆ ไอเบ ไอกบมึงสองคนถนัดเขียน มึงเขียนแล้วส่งให้กูกะไอ้โมะเป็นคนตัด แล้วค่อยช่วยกันขัดและประกอบ ไอ้แก้วมันร่างแบบไว้ให้แล้ว // รับทราบ!!"

 

 

 

 

 

"อ่ะกุ้ง ...อ้าม..."

 

 

 

 

" ...อั้ม...หน้ามึงซีดๆนะ เป็นอะไร หรือเป็นวันนั้น?"

 

 

 

 

 

          รีบวางโทรศัพท์แล้วหยิบจานข้าวผัดที่คนสวยของเขารออยู่เกือบจะ 5 นาทีเข้าไปแล้ว ก่อนจะนำมาวางไว้ตรงหน้า แล้วอ้าปากรับกุ้งตัวใหญ่ที่แก้วใจป้อนให้ สังเกตเห็นหน้าสวยๆของเพื่อนสนิทที่ตอนนี้ซีดลงอย่างเห็นได้ชัด จะว่าไปก็ใกล้วันนั้นของเดือนของคนสวยแล้ว เลยคาดเดาไปว่าอาจจะเป็นเพราะปวดท้องเลยแสดงออกทางสีหน้าแบบที่เคยเป็น อย่าเข้าใจผิดนะ เขาไม่ใช่โรคจิตที่คอยตามจดว่าวันไหนยังไง เพียงแต่สมองมันดันจำได้ว่านับจากวันสุดท้ายของเดือนที่แล้วที่แก้วเป็นจนมาถึงวันนี้ก็ครบ 28 วัน พร้อมที่จะเป็นในเดือนต่อไปก็เท่านั้นเอง

 

 

 

 

 

ก็บอกแล้วว่ามันสนิทกันเสียขนาดนี้ ข้ามไปเป็นเมียเลยเหอะ คนหล่อขอนะครับ T^T

 

 

 

 

 

"...ไอ้บ้า (.///////.) แดกกุ้งไปเลยป่ะ ไม่ต้องพูดมาก เอ้า อ้าปาก เหลืออีกหลายตัวเลย ฟางจ๋าทำไมใส่เยอะจังวะ? "

 

 

 

 

"มึงไม่แดกกุ้ง แล้วจะให้ฟางจ๋าของกูลำบากแกะกุ้งใส่ข้าวผัดให้มึงทำไมครับเพื่อนแก้ว?"

 

 

 

 

"ไอ้แก้วมันไม่แดก แต่คุณสามีมันแดกครับเพื่อนป๊อบ // เออว่ะ 55555555+"

 

 

 

 

"มึงมีหน้าที่ตัดป่ะ? เสร็จยังวะครับ"

 

 

 

 

"โอว คุณสามีปกป้องครับ รู้แล้วครับกำลังตั้งใจตัดครับพี่โมะ"

 

 

 

 

          นั่งป้อนข้าวป้อนน้ำกันจนเป็นนิสัย ไม่ได้คิดว่าผิดแปลกอะไรจนเพื่อนๆที่เรียนมาด้วยกันมันพอจะเข้าใจ โดนล้อประจำก็มีเจ้าชายขี่ม้าขาวมาช่วยประจำเหมือนกัน ก็เป็นเสียแบบนี้จะให้ตัดใจไปชอบคนอื่นได้ยังไงกันละคะ จริงไหม....

 

 

 

 

          เธอชอบกินข้าวผัด โทโมะชอบกินกุ้ง ตั้งแต่เด็กๆที่คุณแม่ทำอาหารให้ทานด้วยกันเวลาที่คุณน้าไม่อยู่ โทโมะก็จะถูกเชิญให้มาร่วมโต๊ะด้วย เป็นประจำที่เธอจะต้องเขี่ยกุ้งออกทุกครั้ง แต่ก็ไม่ยอมที่จะไม่สั่งข้าวผัดกุ้ง คุณแม่เลยบอกว่าให้ยกกุ้งตัวใหญ่ให้โทโมะไป โทโมะดีใจใหญ่เลย ไม่รู้ว่าเพราะชอบกินกุ้งตัวใหญ่ หรือชอบกินกุ้งตัวใหญ่จากจานข้าวผัดของเธอกันแน่ มันจึงแบบนั้นเป็นต้นมา ข้าวผัดจานเดียวกินได้สองคน

 

 

 

 

 

          ในเมื่อโอกาสของเธอมีอยู่ จะให้ทิ้งไปสั่งข้าวผัดปลาหมึกทำไมกัน แบบนี้ก็ไม่ได้ป้อนผู้ชายหน้าหล่อๆที่นั่งข้างๆนี่น่ะสิ จริงป่ะ?

 

 

 

 

 

"อิ่มยังมึง ข้าวติดปากมอมแมมหมดละ ไปอาบน้ำ"

 

 

 

 

 

"ไม่เอา ถ้าอาบน้ำ กูจะง่วง มึงก็รู้นิ่"

 

 

 

 

 

"กูรู้ เพราะนี่มันใกล้เวลานอนของมึงแล้วไง หน้าที่ออกแบบมึงก็เสร็จแล้ว ไปอาบน้ำนอนป่ะ เดี๋ยวที่เหลือพวกกูทำต่อเอง"

 

 

 

 

"ไม่เอา งานกลุ่มก็ต้องช่วยกันทำเป็นกลุ่มดิวะ ฮ้าว......"

 

 

 

 

"ดื้อ!! ลุกมาเลยมึง"

 

 

 

 

"มึงแบกกูไปนะ กูอยากขี่หลังอ่ะ ฮิฮิ"

 

 

 

 

 

 

"ฮิ้ว ว.แหวน ล้านตัว กูอิจฉาเพื่อนกันอย่างพวกมึงโว้ย!! // ดึกๆคึกอยากขี่กันนะพวกมึง ไปขี่ให้ไกลๆกัน กูอิจฉาเพื่อนกันอย่างพวกมึงเหลือเกินครับ"

 

 

 

 

"พูดมาก ทำหน้าที่พวกมึงไป แก้วมึงหนักขึ้นป่ะเนี่ย? // แบร่ ;P  กูไปนะพวกมึง ลงนรกกันต่อนะ ฮิฮิ .... ฮึ่ย หนักบ้านพ่องสิ!!!"

 

 

 

 

          เหลือบมองนาฬิกาข้างฝาห้องก็เห็นว่าเป็นเวลาอันสมควรที่คนสวยข้างๆควรจะได้พักผ่อนเสียที จึงสั่งให้ลุกไปอาบน้ำอาบท่าเตรียมตัวนอน ซึ่งแน่นอนว่าคนสวยคงไม่ยอมเพราะงานชิ้นนี้พวกเราตั้งใจทำมาด้วยกัน ตอนออกแบบก็ใช้เวลาเกือบเดือนที่ร่วมทุกข์ร่วมสุข แต่วันนี้ทุกอย่างลงตัวหมดแล้ว เหลือแค่สร้างมันขึ้นมาจากแบบที่พวกเราช่วยกันออกแค่นั้นเอง ดูสภาพก็รู้ว่าไม่ไหวแล้วยังจะเถียง จึงดุกลายๆแล้วตามใจด้วยการแบกคนสวยเข้าห้อง

 

 

 

 

....ก็ไม่ใช่ไม่เคยทำนี่นา....

 

 

 

 

 

 

 

 

"นี่ๆ พอพวกมึงขัดเสร็จมาปลุกกูนะ กูจะไปประกอบ"

 

 

 

 

"มึงนอนยาวให้สบายใจเหอะครับ ปลุกง่ายนักนี่ มาๆ เอาผ้าขนหนูมากูจะเช็ดให้ ผมก็มีอยู่แค่นี้เสือกเช็ดไม่แห้ง นอนไปทั้งอย่างนี้เดี๋ยวราก็ขึ้นหัวอ่ะ มานั่งให้ไวเลย"

 

 

 

 

          พาคนสวยมาส่งก็นั่งรออยู่ที่ปลายเตียง ห้องนี้เขาไม่ค่อยได้เข้ามาเท่าไหร่นัก เพราะแก้วบอกว่าเกรงใจเพื่อนต่างคณะที่อยู่ด้วย แม้จะรู้จักกันดี เพราะเรียนมัธยมปลายมาด้วยกัน แต่เขาก็เป็นผู้ชายจะเข้านอกออกในห้องสุภาพสตรีก็กระไรอยู่ แก้วจึงเลือกที่จะไปขลุกทำงาน หรือทำการบ้านที่ห้องเขาแทน  บ่อยครั้งที่เจ้าตัวแสบเผลอหลับไปที่ห้องของเขา จนถูกตราหน้าว่าเป็นคุณภรรยานอกสมรสอย่างที่เพื่อนๆมันพูดกันนั่นแหล่ะ

 

 

 

 

          นานๆมาทีก็ไม่ค่อยเห็นความเปลี่ยนแปลงอะไรเท่าไหร่ การจัดห้องก็คล้ายๆกับห้องที่บ้านของคนสวย ถ้าเป็นห้องนั้นเขาปีนหน้าต่างไปหาทุกวันจำได้หมดอะไรอยู่ตรงไหน

 

 

 

 

นี่เขาไม่ใช่พวกโรคจิตนะ....ก็แค่ความจำมันดีเท่านั้นเอง

 

 

 

 

 

" (=3=) ก็กูขี้เกียจเช็ดเอง... ฮิฮิ มึงเช็ดดีนะเนี่ย น่าจ้างมาเป็นช่างส่วนตัว อื้อ สบายจัง อาทิตย์ละครั้งได้ป่ะช่างหน้าผี (*__*)"

 

 

 

 

          อาบน้ำเสร็จก็ยังเห็นคนตัวสูงยังคงนั่งง่วนอยู่กับซีดีในตู้เหมือนที่เคยเป็นเพราะโทโมะชอบนักร้องผิวสีพวกนั้นเธอจึงหยิบติดมือมาทุกครั้งที่เข้าไปเลือกเพลงดีๆสักแผ่นมาฟัง แต่กลับกลายเป็นว่าตั้งใจเสาะหาให้ชายหนุ่ม แล้วหยิบอะไรก็ได้ติดมือมาให้ตัวเองมากกว่า

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

....คิดถึงแต่โทโมะ ไม่รู้เป็นแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน....

 

 

 

 

 

"กูจะเช็ดให้มึงคนเดียวนี่แหล่ะ ...ตลอดชีวิตเลยเป็นไง..."

 

 

 

 

 

          พูดออกไปด้วยความตั้งใจ แต่มันอาจจะยังน้อยเกินในคำสุดท้าย ที่ออกจะใช้เสียงเบาไปเพราะกลัวอีกฝ่ายได้ยิน จริงที่เขาก็เป็นแบบนี้ ทำแบบนี้ให้ผู้หญิงตรงหน้านี้คนเดียว และจะเป็นอยู่แบบนั้นตลอดชีวิตของเขา แต่จะให้เป็นเพื่อนกันตลอดชีวิตเช่นกันก็คงจะไม่ไหวนะ

 

 

 

 

          ก็แล้วจะให้ทำยังไง....เขากลัวถูกปฏิเสธนี่นา ถึงจะแอบคิดเข้าข้างตัวเองอยู่ก็เหอะว่าที่เราเป็นอยู่แบบนี้ได้ เพราะคนสวยก็มีใจให้เขาเหมือนกัน

 

 

 

 

 

"มึงว่าไงนะกูไม่ได้ยิน?"

 

 

 

 

"กูบอกว่าตัวมึงยังเหม็นอยู่เลยว่ะ แน่ใจนะว่าอาบน้ำแล้ว? ...ตึ่ง ตือ ตึ๊ง...หืม แบมบี้ ? ...ตึ่ง ตือ ตึ๊ง... ...ตึ่ง ตือ ตึ๊ง... "

 

 

 

 

"กูหอมจะตาย เหม็นตรงไหนวะ? ใครโทรมาทำไมไม่รับอ่ะ"

 

 

 

 

 

 

 

 

 

"แบมบี้"

 

 

 

 

"...ตึ่ง ตือ ตึ๊ง... ...ตึ่ง ตือ ตึ๊ง... "

 

 

 

 

 

"รับดิ่ โทรมาตั้งหลายรอบเดี๋ยวก็น้องเค้าก็งอนหรอกมึง"

 

 

 

 

 

          ทำลายความเงียบที่แสนจะน่าอึดอัดแบบนี้ด้วยการเร่งให้คนตัวสูงรับโทรศัพท์เสียที เบี่ยงศีรษะของตัวเองให้ออกจากการควบคุมโดยมือเรียวของอีกฝ่าย แต่ก็ไม่เป็นผลเพราะโทโมะก็ยังคงเป็นโทโมะ ยังคงดูแลเธอ ใส่ใจเธอมากกว่าทุกคน แบบนี้ไม่ชอบเลย เหมือนตัวเองเป็นนางมารร้ายที่มีความสุขทุกครั้งที่ได้แย่งความรักจากนางเอก

 

 

 

 

 

เธอกำลังสุขที่หัวใจเมื่อรู้ว่าคนตัวสูงเลือกตัวเอง....แย่จริง

 

 

 

 

 

 

"กูเช็ดผมให้มึงอยู่ ยังไม่เสร็จ... หูมึงแดงอีกละ ผื่นขึ้นง่ายจริงนะมึง ยาล่ะ?"

 

 

 

 

 

"ปะ เปล่า....(-//////-) ผมกูแห้งแล้ว มึงไปเหอะ อย่าให้น้องเค้ารอดึกๆมันไม่ดี....กู กูจะนอนแล้ว"

 

 

 

 

          เพราะมึงคนเดียว ทำให้กูเป็นนางร้ายในละคร ไม่ต้องมาทำให้กูใจเต้นได้ไหม กูอายจนตัวแดงหมดแล้ว ห่านี่!!!!!!!!!

 

 

 

 

 

 

 

"กูจะคุยจนกว่ามึงจะหลับ เหมือนทุกคืนที่ไลน์คุยกัน ถ้ามึงไม่ได้คุยกับใครจะนอนไม่หลับไม่ใช่หรือไง "  

 

 

 

 

          อันที่จริงเขารู้มานานแล้วว่าคนสวยน่ะหลับยาก ต้องได้ฟังเพลงก่อนถึงจะหลับไปเอง แต่ตั้งแต่เริ่มมีระบบแอนดรอยด์เข้ามาทำให้การติดต่อสื่อสารของคนทั่วไปมันง่ายขึ้น เราจึงได้คุยกันทุกคืนก่อนนอน เขาไม่ใช่พวกมานั่งพิมพ์ข้อความหาใคร ถ้าอยากคุยก็แค่โทรไปหาก็จบ แต่เป็นเพราะคนตัวเล็กเซ้าซี้ว่าอยากคุยผ่านแอ๊บฯ อยากทดลองของใหม่ จึงเลยตามเลยจนมาถึงตอนนี้ ที่บอกว่ารู้มานานแล้วอีกเรื่องก็คือ คนตัวเล็กไม่เคยคุยไลน์กับเพื่อนคนไหนก่อนนอนเลยสักคน

 

 

 

 

 

....เขาควรดีใจใช่ไหม?....

 

 

 

 

 

 

          จะอะไรก็ช่างเหอะ ถึงแม้เขาจะดูเลวในสายตาคนอื่นยังไง ที่ดูเหมือนไม่เคยแคร์แฟนของตัวเอง แต่แลกกับการได้เห็นคนน่ารักเขินจนหน้าแดงตัวแดงนี่ก็นับว่าคุ้มล่ะนะ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

....ยอมเป็นคนเลวที่รักเธอ....ฮิ้ว ว.แหวนล้านตัว

 

 

 

 

 

 

 

"นี่มึงเลิกคลั่งวง เคโอติก แล้วเหรอ กูเห็นโปสเตอร์สุดหวงมึงอยู่ในถังขยะหน้าคอนโด นี่ใครนะ?"

 

 

 

 

          เหลือบไปเห็นโปสเตอร์ที่แปะใกล้ๆโต๊ะเครื่องแป้งของคนตัวเล็กที่บัดนี้ถูกเปลี่ยนไปแล้วตามกาลเวลาจาก 5 หนุ่มกลายเป็น 6 หนุ่ม (XIS มี 6 คนปะคะ? แฮ่....)

 

 

 

 

....ไหนว่ารักโทโมะเคโอติกนักหนาไง ใจนางดั่งทางรถจริงๆ....

 

 

 

 

 

"XIS ไง เด็กกว่า หล่อกว่า กูก็ใจละลายดิ่ ฮิฮิ ใครใช้ให้ เคโอติก แก่ล่ะ แถมยังมีข่าวกะสาวๆ ฉาวตลอด ฮึ"

 

 

 

 

          แอบกัดเผื่อไปถึงคนที่นั่งอยู่บนเตียงที่บังเอิญมีชื่อแซ่เหมือนกันกับนักร้องที่เธอชื่นชอบ เอาจริงๆก็เพราะนักร้องหนุ่มมีชื่อเหมือนกันกับคนตัวสูงนี่หรอก เธอถึงได้เลือกปลื้มเสียนักหนา ก็มันแสดงออกว่ารักว่าชอบคนตรงหน้าไม่ได้ ก็ต้องใช้วิธีนี้แหล่ะ ...เนาะ

 

 

 

 

 

 

"พรุ่งนี้ตอนเย็นมึงว่างป่ะ ก่อนกลับไปกะกูหน่อยดิ่ มีอะไรจะคุยด้วย"

 

 

 

 

 

"ทำไม  มีราย ? ฮ้าว............ อือ กี่โมงแล้วเนี่ย มึงจะโทรหาน้องแบมบี้ดึกๆแบบนี้ไม่ได้นะ น้องเค้าเด็กอนามัยนะมึง รีบๆไปโทรเลย"

 

 

 

 

"พรุ่งนี้ก็เจอกันที่คณะ เราต้องไปส่งโมเดลที่ตึกออกแบบไม่ใช่หรือไง น้องเค้าเข้าใจง่าย ไม่โกรธ ไม่งอนอะไรโดยที่ไม่มีเหตุผลหรอก"

 

 

 

 

          ที่พูดไปน่ะ แค่อยากจะตัดบทให้คนตัวเล็กเลิกพูดถึงคนอื่นเสียทีเวลาที่อยู่ด้วยกัน อุตส่าห์แอบหนีเพื่อนมาพลอดรัก(?)กันได้สองคน ยังจะเอาชื่อน้องนู่นนี่นั่นมาทำลายบรรยากาศอีก ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่านั้นจริงๆ แต่ก็ลืมไปว่าไอ้ที่พูดมาน่ะ เข้าคนตัวเล็กข้างกายล้วนๆ

 

 

 

 

 

 

 

....งานเข้า....

 

 

 

 

 

 

"นี่มึงว่ากูป่ะ? ใช่ซี้ กูมันขี้งอน ขี้โมโหนิ่ ออกไปเลยกูจะนอนแล้ว !!! เฮ้ย ลุกไปเลย มึงมานอนบนเตียงกูทำไม ออกไปนะ!!"

 

 

 

 

          ไม่โทรก็ไม่โทรสิ จะมาพาลเรื่องนิสัยส่วนตัวของเธอทำไมกัน จริงอยู่ที่เป็นแบบนี้มันแย่ ก็ไม่ใช่เพราะเธอเป็นแบบนี้หรือไง คนตัวสูงเลยต้องคอยตามง้อ ตามใจไม่ห่าง ถ้าไม่ทำนิสัยแย่ๆแบบนั้นจะได้อยู่ด้วยกันแบบนี้ไหม เรื่องง่ายๆแค่นี้ทำไมไม่คิด

 

 

 

 

 

....เดี๋ยวนะ นี่พูดอะไรออกไปวะ? อ๊ะ แล้วจะมานอนบนเตียงกูทำไม!!!!!!....

 

 

 

 

 

"ทีมึงยังนอนเตียงกูบ่อยๆเลย แค่นี้ทำบ่น กูว่าจะแอบหลับซักงีบค่อยลุกไปช่วยไอ้ป๊อบ กูนอนนะ"

 

 

 

 

          ใช้มือกอดอกแล้วตะแคงข้างหันหน้าเข้าหาคนตัวเล็กก่อนจะแกล้งทำเป็นปิดหูปิดตาไม่รับรู้อะไรทั้งสิ้น

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

"ฮึ้ย ไอ้โมะ ไอ้บ้า! งือ...............โมะ กูง่วงแล้ว มึงลุกไปเลย โทโมะ!!! อ๊ะ โมะ ไอ้นี่ละเมอกอดกูอีกแล้ว ไอบ้า หลับง่ายตลอดนะมึง อื้อ............"

 

 

 

 

 

           ในเมื่อทุบตีด้วยความโหดร้าย(?)แล้วไม่ได้ผล จึงเลือกที่จะใช้ลูกอ้อนเขย่าแขนคนตรงหน้าเบาๆให้ตื่นแล้วลุกออกไป จริงอยู่ที่เคยนอนด้วยกันบ่อยๆ แต่นั่นมันก็ไม่ได้ใกล้ชิดถึงขนาดนี้ ถ้าเธอไปนอนที่ห้องของโทโมะ อย่างมากก็แค่นอนเอาหัวชนกัน ชี้ขาไปคนละทิศ ไม่ใช่เนื้อแนบเนื้อแบบนี้ โอ้ย!!! คนมันเขินจนตัวจะแตกอยู่แล้ว นี่ยังจะมากอดกันอีก งึ้ย!!!!!

 

 

 

 

 

 

 

// ๒๐ นาทีผ่านไป//

 

 

 

 

          เผลอจับกลุ่มผมนิ่มเบาๆ(?) แล้วบังคับให้ซุกลงที่อกกว้างของตัวเอง ในห้องมันเงียบเสียจนได้ยินเพลงที่เขาเปิดไว้เบาๆตั้งแต่เข้าห้องมา คนสวยคงทั้งเหนื่อยทั้งเพลียวันนี้ถึงได้ยอมหลับง่ายๆทั้งๆที่ยังไม่ได้คุยกัน ลูบปลายเส้นผมช้าๆพร้อมกับก้มลงสูดดมความหอมอ่อนๆของแชมพูยี่ห้อโปรดของคนตัวเล็กเบาๆ ก่อนจะได้ยินเสียงลมหายใจสม่ำเสมอที่เป็นสัญญาณว่าคนตัวเล็กได้เข้าสู่ห้วงนิทราเป็นที่เรียบร้อยแล้ว 

 

 

 

 

 

          ค่อยๆผละตัวเองออกมาช้าๆแล้วนั่งลงที่ข้างเตียง เปิดกลุ่มผมบริเวณหน้าผากสวยเบาๆแล้วโน้มตัวเข้าไปใกล้ๆ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

"...จุ๊บ...ฝันดีนะ กูรักมึง"

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

"พี่โมะ เมื่อคืนทำไมไม่รับโทรศัพท์!!"

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

to be continue..[Next  week]                           

PS# อย่าด่าแบมบี้

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา