สัญญารักลวง...

10.0

วันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 19.08 น.

  36 ตอน
  12 วิจารณ์
  70.28K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 20.50 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

25)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

*เนื่องจากเนื้อหาในตอนนี้ค่อนข้างรุนแรงและใช้คำพูดหยาบคาย โปรดใช้วิจาณญาณในการอ่าน

 


 

นิยายเรื่อง สัญญารักลวง

 

ตอนที่25 สักวัน...

 

 

 

 

 

 

 

            ป๊อปปี้ละสายตาจากคนตัวเล็ก ก่อนจะมองเข้าไปในตัวบ้านที่วันนี้ดูเงียบผิดปกติ หายไปไหนกันหมดนะ

 

 

“ฟาง ฟางตื่น”เธอตบเบาๆที่ใบหน้าแสนหวานหวังปลุกให้เธอตื่นจากห้วงนิทรา

 

 

แต่จนแล้วจนรอดเธอก็ไม่มีท่าทีว่าจะตื่นขึ้นมาเลย... เขาโคลงศีรษะเบาๆก่อนจะลงจากรถเดินอ้อมไปยังอีกฝั่ง

 

 

เขาปลดเข็มขัดนิรภัยออกจากร่างเล็ก ก่อนจะช้อนอุ้มเธอไว้แนบอก เดินดุ่มๆเข้าไปในบ้าน

 

 

หันซ้ายหันขวาก็ไม่ยักเจอใครสักคน

 

 

“เอายังไงวะเนี่ย”เขาบ่นกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะมองคนที่หลับตาพริ้มอยู่แนบอกอย่างแสนสบาย เขาหันหน้าไปทาง

 

 

บันได มองทางขึ้นที่ทอดยาวอย่างหนักใจ มันจะเป็นการเสียมารยาทหรือเปล่านะ แต่คนตัวเล็กกำลังต้องการการ

 

 

พักผ่อน ขืนเธอยังนอนในอ้อมแขนเขาแบบนี้มีหวังเมื่อยขบไปทั้งตัวแน่ ลำพังเขาไม่เท่าไหร่หรอกตัวเธอเบาอย่าง

 

 

กับตุ๊กตายัดนุ่นให้อุ้มทั้งวันยังไหว เขาหันซ้ายหันขวาอีกครั้งเมื่อแน่ใจว่าไม่มีใครแล้วจริงๆที่พอจะช่วยเขาได้ จึง

 

 

ตัดสินใจเดินขึ้นชั้นบนของบ้านไป ก่อนจะมองห้องที่เรียงรายทั้งซ้ายขวา ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยขึ้นมา เขาเคยขึ้น แต่

 

 

เมื่อตอนที่คนในอ้อมแขนยังแบเบาะ และยังเป็นเด็ก แล้วความจำมันก็เรือนลางเต็มที ก่อนจะสะดุดกับป้ายที่แปะ

 

 

อยู่หน้าประตูห้องเพียงห้องเดียว

 

 

‘ยัยหนู’ เขาคลี่ยิ้มออกมาเมื่อเห็นป้ายสีชมพูสดที่มีกระต่ายตาโตแปลกๆแปะอยู่หน้าห้อง

 

 

ไม่รอช้าเขาใช้มือที่อุ้มคนตัวเล็กไปด้วยเปิดเข้าไป เขาเดินไปวางร่างเล็กลงบนเตียง เอ่อ คิดว่าเป็นเจ้าหญิงนะ สี

 

 

ชมพูอ่อนๆ ก่อนจะเดินไปปิดประตู แต่ก็ต้องชะงักกึก

 

 

เมื่อสายตาปะทะเข้ากับผนังสีชมพูที่รูปของเขาติดอยู่เต็มไปหมด...

 

 

เขาหมุนไปรอบๆ ก่อนจะเพิ่งรู้ตัวว่าห้องนี้มันเต็มไปด้วยรูปของเขา

 

 

“พี่ป๊อป”เขาหันไปมองทางต้นเสียง ก่อนจะเดินเข้าไปหาหญิงสาวที่ลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียงอยู่ก่อนแล้ว

 

 

“เจ็บอยู่รึเปล่า”

 

 

“เจ็บนิดหน่อยค่ะ เอ่อ ขอบคุณนะคะ”

 

 

“ไม่ต้องขอบคุณหรอก...เพราะฉันเองก็ยังไม่อยากเป็นฆาตกรฆ่าคนเหมือนเธอ”เขาตอกกลับหญิงสาวด้วย

 

 

ประโยคเจ็บแสบ ยิ่งคิดถึงเรื่องราวของพิมมันก็ยิ่งเหมือนเป็นชนวนจุดความคุกรุ่นให้เขา เขาเลือกที่จะระงับอารมณ์

 

 

โกรธของตัวเองด้วยการมองไปรอบๆห้องอย่างเรื่อยเปื่อย อย่างน้อยตอนนี้เขาก็ไม่ต้องเห็นหน้าเธอตอนนี้ “เอ่อ

 

 

ฟางขอโทษค่ะ เดี๋ยวหลังจากนี้ฟางจะเอาออกแล้ว”เธอก้มหน้างุดหลังจากพูดจบ เขาเม้มริมฝีปากเข้าหากันแน่น

 

 

และถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างระงับความโกรธ ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งบนเตียงเดียวกับเธอ ร่างเล็กกระถดกายหนี

 

 

อย่างรวดเร็ว เขาคว้าแขนเรียวของเธอไว้ก่อนจะดึงร่างเล็กเข้ามาใกล้ เธอก้มหน้าลงอย่างเดิม ตัวเล็กๆนั้นสั่นระริก

 

 

อย่างหวาดกลัว

 

 

“เอาออกแล้วมันจะทำให้พิมกลับมามั้ย”

 

 

“ฟางไม่รู้” “เธอจะไม่รู้ได้ยังไง!!!”เขาตวาดกร้าว ความโกรธที่พยายามระงับเอาไว้ขาดผึ่ง

 

 

ยิ่งมองใบหน้าหวานๆนี่ทีไร มันทำให้เขายิ่งควบคุมตัวเองไม่ได้ ความโกรธแค้นมันหยั่งรากลึกไปทั่วทุกอณูของ

 

 

หัวใจตั้งแต่วันนั้น

 

 

“ฮือๆ ถ้าฟางทำอะไรให้พี่ป๊อปไม่พอใจฟางขอโทษนะ อย่านะ!”เสียงหวานทว่าแหบพร่าเอ่ยห้ามเขาเป็นพัลวัน

 

 

เมื่อเขากดร่างของเธอลงกับเตียง ดวงตากลมโตคู่นั้นสั่นระริกอย่างตื่นตระหนก หากเป็นเมื่อก่อนเขาคงใจอ่อนและ

 

 

โผเข้ากอดเธอไปนานแล้ว หากแต่ตอนนี้มันคงไม่มีทางเป็นแบบวันวานอีกแล้ว เมื่อเด็กหญิงที่เคยน่ารักน่าเอ็นดูไม่

 

 

ใช่หญิงสาวตรงหน้านี้อีกต่อไปแล้ว เธอร้ายกาจเกินกว่าจะเป็น ยัยตัวเล็ก คนเดิมของเขา

 

 

“จะกลัวอะไร ชอบไม่ใช่หรอ ไหนเธอบอกว่าอยากได้ฉันไง....ในเมื่ออยากได้ ก็จะจัดให้อยู่นี่ไง”เขาเอ่ยด้วยน้ำ

 

 

เสียงเรียบๆ ก่อนจะลงมือกระชากเสื้อผ้าที่แทบไม่มีชิ้นดีของเธอออก ทรวงอกอิ่มที่ซ่อนอยู่ภายใต้บราเซียร์ที่แทบ

 

 

ขาดออกจากกันปลุกอารมณ์ดิบเถื่อนของเขาได้อย่างดี เขากระชากอาภรณ์ชิ้นที่ขวางหูขวางตาออก ก่อนจะบีบ

 

 

เคล้นคลึงมันอย่างไม่ออมแรง

 

 

“ฟางไม่ได้อยากได้แบบนี้...ปล่อยฟางเหอะนะ”มือเล็กๆยื้อยุดมือหนาของเขาเอาไว้ ขณะที่เธอยังพร่ำหว่านล้อม

 

 

เขา หึ คิดว่าทำอย่างนี้แล้วเขาจะใจอ่อนงั้นสิ เมื่อก่อนอาจจะใช่ เพราะเขายังคงเป็นผู้ชายที่ไม่คิดว่าผู้หญิงอย่าง

 

 

เธอจะมีเล่ห์เหลี่ยมมากมายถึงขนาดนี้ แต่ในเมื่อเธอเลือกที่จะลองของ เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร

 

 

เขาจะสั่งสอนเด็กไม่รู้จักโตอย่างเธอเอง...ชีวิตของเธออาจจะไม่เคยพบเจอกับด้านมืดมาก่อน

 

 

แต่เขาสาบานว่าต่อไปนี้เขาจะทำให้เธอรู้จักกับด้านมืดอย่างแท้จริง...

 

 

“หรือว่าอยากคุมเกมส์ ...ได้สิ” ฟางทอดสายตามองรอยยิ้มร้ายกาจที่ถูกแต้มลงบนริมฝีปากที่เธอหลงใหล

 

 

เขาช่างน่ากลัวเหลือเกิน รอยยิ้มเย็นยะเยือกและสายตาเย็นชาคู่นั้นทำให้เธอรู้สึกเหมือนตัวเองกลายเป็นหิน

 

 

“กรี๊ดดดดดดดด”เธอเผลอกรี๊ดออกมาเมื่ออยู่ๆเขาช้อนร่างของเธอขึ้นทาบทับร่างแข็งแกร่งของเขา ความหนาวเย็น

 

 

จากเครื่องปรับอากาศปะทะผิวกายทำให้เธอต้องห่อไหล่อย่างเสียมิได้

 

 

“โอ้ย!”เป็นอีกครั้งที่เธอร้องขึ้นมา มือใหญ่กระชากหัวไหล่มนของเธอออกจากกันอย่างรุนแรง มือหนาบีบต้นแขน

 

 

ของเธอจนกระดูกแทบแตกออกเป็นเสี่ยงๆ เธอส่งสายตาตัดพ้อให้เขาอย่างเปิดเผย...

 

 

ถึงรู้ดีว่ามันอาจจะไม่เป็นผล แต่อย่างน้อยให้เขาได้รับรู้เอาไว้ว่าเธอก็ไม่ได้เจ็บปวดไปน้อยกว่าเขาเลย....

 

 

เธอไม่ได้ตั้งใจจะเป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดนี้ แต่เรื่องราวมันกลับบานปลายจนตัวเธอเองก็ไม่อยากจะเชื่อ

 

 

เฝ้าสวดมนต์ขอทุกวันให้เรื่องทั้งหมดมันเป็นแค่ฝัน...หากแต่ความจริงก็คือความจริง...

 

 

“ฟางเจ็บ”เธอเอ่ยขึ้นมาอย่างหวังว่าเขาจะยอมปล่อยมือที่แข็งแกร่งดั่งคีมเหล็กนี่ออกจากไหล่ของเธอเสียที

 

 

“ดี!ยิ่งเธอเจ็บเท่าไหร่ฉันยิ่งมีความสุขมากเท่านั้น!”เธอหลุบสายตาลงอย่างไม่กล้าแม้แต่จะมองดวงตาคู่นั้น ร่าง

 

 

ของเธอถูกผลักจนแทบจะร่วงลงจากตัวของเขา หากมือหนาที่ช่วยยึดสะโพกของเธอไว้ทันไม่ได้ทำให้เธอหล่นลง

 

 

ไปอย่างที่ควรจะเป็น แต่เธอควรจะดีใจแน่หรือ?

 

 

“ปลดเข็มขัดออก”เธอหลับตาลงอย่างอดสู เมื่อแรงที่บีบเค้นสะโพกทำให้เธอพอจะรู้ว่าเขาไม่พอใจกับการกระทำ

 

 

ของเธอ เขาคงโกรธเธอมาก...แต่ถ้าตอนนี้เธอเป็นเขาเธอก็จะทำแบบนี้

 

 

คนเลวก็สมควรที่จะได้รับบทเรียนอย่างสาสม...และนั่นเป็นสิ่งที่เธอต้องก้มหน้ารับ เธอเคลื่อนมือไปที่ขอบกางเกง

 

 

ของเขาก่อนจะลงมือปลดเข็มขัดออกด้วยมือที่สั่นเทา ในใจก็นึกกลัวเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นซึ่งไม่ต่างจากฝัน

 

 

ร้ายที่เขากระทำกับเธอเมื่อคืน เธอรัดเข็มขัดของเขาออกก่อนจะวางมันไว้บนเตียงข้างๆร่างของเขาและเธอ

 

 

“กางเกงด้วยมั้ยคะ”เธอถามขณะที่สายตาเสมองแผงอกของเขา เขาหัวเราะในลำคอ ก่อนมือหนาจะบีบเคล้นคลึง

 

 

หน้าอกของเธออย่างหนักหน่วง เธอกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากหวังเพียงว่ามันจะช่วยกลบเกลื่อนเสียง

 

 

สะอื้นที่เริ่มทำให้เธอน่าสมเพชขึ้นไปทุกที เธอเอื้อมมือปลดกางเกงแสล็คเนื้อดีของเขาออก ก่อนจะรูดมันลงไป

 

 

จากต้นขาแกร่งที่ตัวเธอนั่งทาทับอยู่ เธอเอื้อมมือไปปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีดำของเขาออกจากร่างแข็งแกร่งอย่างไม่

 

 

ต้องรอให้เขาออกคำสั่ง ให้ต้องสมเพชตัวเองอีกหน

 

 

“อยากมากล่ะสิท่า”วาจาร้ายกาจพ่นออกมาจากริมฝีปากหยักลึก เขาทำเหมือนเธอเป็นผู้หญิงกร้านโลกที่พร้อมจะ

 

 

มีอะไรกับผู้ชายได้โดยปราศจากความรักและขอแค่เพียงดับความใครเท่านั้น หากแต่เธอไม่ใช่ เธอคงจะลุกขึ้นมา

 

 

อาละวาดและโวยวายหรือบางทีอาจจะฆ่าคนที่กล้าทำกับเธอแบบนี้ แต่ผู้ชายตรงหน้าคือข้อยกเว้น เธอพร้อมจะทำ

 

 

ทุกอย่างให้เขาพอใจ ถึงจะรู้อยู่เต็มอกว่าความใครมันไม่มีทางกลายเป็นความรัก แต่ขอแค่เธอได้เป็นของเขา

 

 

แค่ได้รับอ้อมกอดและจุมพิตจากเขา แม้จะมาจากความใคร่ แค่ทุกสัมผัสเป็นเขา เธอก็พร้อมจะทำทุกอย่าง...

 

 

แม้แต่เรื่องน่าอาย...อย่างที่ทำอยู่

 

 

เธอก้มลงมองมือหนาที่เปลื้องอาภรณ์ชิ้นน้อยของเขาและเธอออก ก่อนจะรีบหลบสายตา เมื่อมันปะทะเข้ากับสิ่งที่

 

 

ไม่สมควรมอง

 

 

“ขยับสิ”เธอขมวดคิ้วมุ่นเมื่อไม่เข้าใจกับคำสั่งของเขา ก่อนจะเข้าใจอย่างแจ่มแจ้งเมื่อมือหนากอบกุมสะโพกของ

 

 

เธอขยับถูไถกลีบกุหลาบกับแก่นกายร้อนผะผ่าวของเขา เธอเลื่อนสะโพกไป-มาอย่างที่เขาต้องการ เสียงคราง

 

 

หนักๆและใบหน้าหล่อคมที่หลับตาพริ้มของเขาทำให้เธอลืมความละอายใจที่พึงมี ร่างเล็กขยับกลีบกุหลาบสีหวาน

 

 

ถูไถกับแก่นกายร้อนแทบปะทุของชายหนุ่มอย่างไม่เกี่ยงงอน มือน้อยๆดันแผงอกแกร่งเขาไว้เมื่อไฟราคะเริ่มแผด

 

 

เผาร่างของเธอเอง เสียงครางระงมดังไปทั่วทั้งห้องอย่างไม่มีใครยอมใคร หากแต่สำนึกผิดชอบชั่วดีที่เริ่มก่อตัวขึ้น

 

 

มาภายในจิตใจที่แสนบอบช้ำของหญิงสาวมันกำลังตะโกนบอกเธอว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่ควรทำ แม้จะรักเขามากแค่ไหน

 

 

แต่ที่นี่คือบ้านของเธอ หากมีใครรู้เข้าไม่ใช่แค่เขาและเธอที่จะเสียหาย แต่บิดาและมารดาคงไม่พอใจมากแน่

 

 

“ฟางไม่อยากทำแบบนี้แล้ว...ที่นี่มันบ้านของฟาง พี่ควรที่จะให้เกียรติฟาง”เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ จ้องลึก

 

 

เข้าไปในดวงตาของชายหนุ่มที่มองอย่างเย้ยหยัน มุมปากของเขายกขึ้นยิ้มอย่างเธอเป็นตัวน่ารังเกียจสักตัวหนึ่ง

 

 

“ฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าผู้หญิงอย่างเธอมีเกียรติ”คำพูดของเขาไม่ต่างจากเข็มจับพันเล่มที่จ้วงแทงลงมาบน

 

 

หัวใจอย่างไม่ปราณีปราศรัย เธอหลุบตาลงซ่อนน้ำตาที่จวนเจียนจะไหลลงมาซ้ำเติมความสมเพชน่าทุเรศของตัว

 

 

เอง ใช่เกียรติและศักดิ์ศรีของเธอมันหมดไปแล้วพร้อมๆกับค่ำคืนของเมื่อวานนี้

 

 

หากแต่วันนี้และวันข้างหน้าสิ่งที่มันจะยังคงอยู่กับเธอคือ ความรักที่มีต่อเขา...

 

 

แม้มันจะไม่เคยมีค่าในสายตาของเขา แต่เธอก็ไม่เคยท้อที่จะทำให้เขาเห็นมัน...

 

 

สักวันเขาจะต้องรับรู้ถึงความรักของเธอที่มีต่อเขาแน่ ถ้าถึงวันนั้นความรักของเธอจะไม่ใช่สิ่งไร้ค่าอีกต่อไป......

 

 

 

 

 

 

 

 

...................................................................................................................................

 

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา