[Fic Beast] How much? “ค่าตัวนาย..เท่าไหร่กัน?”

8.1

เขียนโดย nooonaa

วันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 23.54 น.

  38 chapter
  12 วิจารณ์
  76.74K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2556 20.25 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

24) How much? 23 : โอกาสที่จะรัก

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

by nooonaa

 

 

 

How much? 23 : โอกาสที่จะรัก

 

 

 

+DuSeop+

 

 

 

"อืม...."

 

ปวดหัว...ใครก็ได้ ปิดผ้าม่านที แสงมันแยงตาแล้วทำให้ผมรู้สึกปวดหัวมาก

 

แต่ดูท่าทีแล้วแสงยามเช้ามันก็คงไม่ยอมหลบผมง่ายๆ ผมเลยค่อยๆขยับตัวไปอีกฝั่งเพื่อหนีแสงที่เข้ามาแต่มันกลับรู้สึกแปลกๆเมื่อผมเริ่มขยับ

 

ทำไมผมถึงรู้สึกว่า...ตัวเองว่างเปล่า

 

ณ ตอนนั้นสมองมันสั่งให้ลืมตาขึ้นมาดูร่างกายตัวเองทันที แล้วพอเห็นตามที่ต้องการ ก็แทบจะหยุดหายใจ

 

เอาอีกแล้วหรอ...นี่ผมใจง่ายอีกแล้วใช่ไหม

 

ผมเลยดึงผ้าห่มที่คลุมแค่สะโพกตัวเองให้ขึ้นมาปิดถึงไหล่ แล้วควานหาอีกคนที่อยู่ด้วยกันเมื่อคืน แต่ดูเหมือนมันจะไม่อยู่แล้ว ผมไม่รู้ว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น พอเขาทำแบบนั้นกับผม มันก็ทำให้ผมย้อนภาพเหตุการณ์ที่ห้องน้ำวันนั้นขึ้นมาอย่างฉับพลัน และก็เหมือนเดิม...ผมสลบไป

 

พอคิดว่าตัวเองจะต้องถูกย่ำยีอีกครั้ง สมองมันก็หยุดทำงานแล้วพากันดับวืด แล้วผมก็ไม่รับรู้อะไรอีกเลย แต่ร่องรอยบนตัวผมที่เต็มไปด้วยรอยแดงเป็นจ้ำๆและสภาพตัวเองที่เปลือยเปล่าก็พอเดาได้ว่าผมกับมัน...คงเรียบร้อยกันไปแล้ว

 

ถ้าถามความรู้สึกของผมตอนนี้ว่ารู้สึกแย่ขนาดไหนก็คงพูดได้คำเดียวว่าแย่มาก ไม่ใช่รู้สึกแย่กับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่มันรู้สึกแย่ที่ผมไม่ต่อต้าน

 

ใจอ่อน

 

แสดงว่าที่ผ่านมา...ผมโกหกตัวเองสินะ โกหกว่าตัวเองเข้มแข็งแล้ว ทั้งๆที่ตัวเองยิ่งกว่าอ่อนแอซะอีก

 

เมื่อไหร่หัวใจดวงนี้จะเป็นของผมสักที...โดยที่ไม่ใช่ของมัน

 

ยุนดูจุน

 

พลันคิดเรื่องแบบนั้นน้ำตามันก็ไหลออกมาดื้อๆ มันแค่ไหลเท่านั้น แต่กลับไม่มีเสียงสักเอะ คงเป็นเพราะผมเหนื่อย เหนื่อยที่โดนย่ำยีเหมือนไม่ใช่คนแบบนี้

 

ไม่นานเมื่อน้ำตาผมหยุดไหล ผมก็ลุกออกจากเตียงเพื่อแต่งตัว แต่แล้วหางตาผมก็พบอะไรที่มันทำให้ผมหยุดหายใจได้ทันที ผมค่อยๆหันไปมองมันให้ชัดแล้วพยายามคิดว่ามันเป็นเพียงแค่ภาพลวงหลอกตา ขอให้มันไม่ใช่เรื่องจริง

 

อึก!

 

เรื่องจริงสินะ...นี่มึงทำกับกูแบบนี้ได้ยังไง! ยุนดูจุน!  คิดว่ากูเป็นอะไรถึงกล้าทำแบบนี้! ถึงได้หยามกันแบบนี้

 

กูไม่ใช่ผู้ชายขายตัวนะเว้ย!!!

 

ผมคว้าเงินบึกนั้นแล้วปาออกไปจนสุดแขน แต่มันกลับปลิวว่อนไปทั่วห้องซึ่งมันยิ่งตอกย้ำความเจ็บเข้าไปอีก

 

สุดท้ายกูก็กลายเป็นนายบำเรอมึงงั้นสิ

 

หึ

 

สรุปแล้วนี่มันไร้ค่ามากขนาดนั้นเลยใช่ไหม...ตัวกูคนนี้

 

ยังโยซอบ

 

เมื่อผมกลับมาถึงบ้านด้วยหัวใจที่ห่อเหี่ยวก็จัดการอาบน้ำอาบท่ากำจัดสิ่งสกปรกออก แต่ไม่ว่าจะพยายามขัดมันออกเท่าไหร่มันก็ยิ่งแดง แถมดูเด่นชัดจนสังเกตได้ ผมเลยเลิกที่จะถูมันแล้วออกมาทายาแก้ฟกช้ำแทน

 

มึงจะทิ้งรอยให้มันตอกย้ำจนกูตายเลยไหม...ยุนดูจุน

 

ครืดๆๆๆๆ

 

เสียงโทรศัพท์สั่นกับพื้นโต๊ะเรียกความสนใจจากรอยแดงนั้นได้ ผมเดินไปหยิบมันขึ้นมาดูก่อนจะพบคนที่โทรเข้ามา

 

คุณยงฮวา

 

"ครับ...คุณยงฮวา" ผมทักปลายสายด้วยน้ำเสียงปกติ แต่มันคงนิ่งเกินไปเลยทำให้ปลายสายคิดว่าผมไม่ถูกใจที่เขาโทรหา

 

(ผมโทรมารบกวนคุณหรอครับ)

 

"เปล่าครับ...ผมแค่รู้สึกเหนื่อยยังไม่หาย"

 

(ถ้าอย่างนั้นนัดดินเนอร์วันนี้ยกเลิกไปก่อนก็ได้ครับ คุณจะได้พักผ่อน) นี่คุณแคร์ผมงั้นหรอ

 

"ไม่ต้องหรอกครับ เดี๋ยวผมนอนอีกสักหน่อยคงจะดีขึ้น แล้วจะให้ผมไปเจอคุณที่ไหนดีครับ" ถ้าผมปฏิเสธคนดีๆที่จริงใจกับผมแบบเขาไป ผมคงจะเป็นคนที่แย่กว่าใครทั้งหมดแน่ แล้วผมก็เขาใจ ว่าการถูกเมินมันทรมานขนาดไหน

 

(ผมไปรับคุณดีกว่า สี่โมงเย็นเจอกันนะครับ)

 

"สี่โมง!  ทำไมเร็วจัง" กินกันตอนนั้นก็หิวตอนดึกแย่ดิ ทำไมถึงนัดซะหัววันเชียว

 

(ฮ่าๆ...ความลับครับ แล้วเจอกันนะครับ)

 

ติ๊ด

 

แล้วเขาก็วางสายไปทันที

 

คุณยงฮวาคิดจะเล่นตลกอะไรกับผมเนี่ย มามีความลับกับผมด้วย แต่เขาคงไม่คิดร้ายกับผมหรอก หรือถ้าคิดจริงผมก็คงรับได้ ก็คนอย่างผมโดนมาหมดแล้วนิ...จากผู้ชายโสมมคนนั้น

 

พอคิดก็เริ่มเครียด ผมเลยรีบไล่เรื่องนั้นออกจากสมอง มันต้องหยุดคิด หยุดคิดถึง และหยุดเจอ ผมถึงจะดีขึ้น แล้วผมก็ยังไม่อยากจะประสาทเสียตอนนี้ด้วย

 

พอสักทีเถอะ

 

ผมล้มตัวลงนอนหลังตั้งนาฬิกาปลุกให้ตื่นตอนสามโมงเย็น พอหัวถึงหมอนตาผมก็เริ่มปิด มันคงจะเหนื่อยมากสินะ...ร่างกายนี้

 

ก็คงมีแต่ช่วงเวลาที่ผมหลับ...ที่ผมไม่ได้คิดถึงเขา หรือถ้าคิดก็คงเป็นความฝัน...ที่เขาจะทำดีกับผม ซึ่งมันก็คือ...ความฝัน

 

แค่ความฝัน

 

 

 

ผมลงมานั่งรอใครอีกคนที่บอกจะมารับที่ห้องนั่งเล่น นั่งดูทีวีไปดูโทรศัพท์ไป ผมค่อนข้างจะกังวลนิดหน่อย กลัวจะสายแล้วทำให้เขารอ แล้วตอนนี้มันก็ได้เวลานั้นแล้วด้วย คงใกล้ถึงแล้วละมั้ง

 

ไม่นานเสียงคนคุยกันก็ดังอยู่หน้าบ้าน ก่อนผมจะเห็นร่างหนาเดินตามแม่บ้านเข้ามา ผมลุกขึ้นยืนแล้วทักทาย แต่ตาที่เขามองผมตอนนี้สิ มันเหมือนดีใจอะไรสักอย่าง

 

"มีอะไรรึป่าวครับ" ผมรีบก้มมองดูตัวเองที่อาจจะผิดปกติ แต่มันก็ปกติดี แล้วเขามองผมแล้วอมยิ้มทำไม

 

"ไม่มีอะไรหรอกครับ แค่คิดว่าคุณ...น่ารักดี"

 

น่ารัก!!

 

รู้สึกขนลุก

 

"ตรงไหนครับ นี่คิดจะแกล้งผมรึป่าว" ผมว่าผมก็ปกตินะ แค่ใส่เสื้อเชิตแขนสั้นสีชมพูกับกางเกงขาสั้นสีขาว มันแปลกหรอ

 

"ฮ่าๆ ผมจะแกล้งคุณทำไม ผมคิดแบบนั้นจริงๆครับ"

 

"พอเถอะครับ ผมชักเริ่มอายแล้วล่ะ" เล่นมาหยอดกันแบบนี้แล้วผมจะวางตัวยังไงล่ะ

 

"งั้นไปกันเลยไหมครับ"

 

"ได้ครับ" ผมตอบรับก่อนจะเดินไปตีคู่กับอีกคน เราคุยกันจนถึงรถก่อนที่เขาจะเปิดประตูให้ ผมมองมันแล้วเริ่มรู้สึกเขิน เขาทำเหมือนผมเป็นเด็กผู้หญิงแนะ แต่ผมก็ยอมขึ้นรถไปก่อนจะเคลื่อนตัวออกจากบ้านผม

 

"เราจะไปไหนกันหรอ" ขับออกมาไม่นานผมก็เริ่มถาม แต่อีกคนก็เอาแต่ยิ้มกรุ่มกริ่มจนผมรู้สึกระแวงขึ้นมานิดๆ เลยพยายามคิดว่ามันไม่มีอะไร แต่มันก็อดคิดไม่ได้

 

"คุณจะหลอกผมไปขายหรอ"

 

"ฮ่าๆๆๆ นี่คุณคิดได้ไงเนี่ย อย่างผมเนี่ยนะ" ก็เล่นเงียบแบบนี้ ใครจะไปไว้ใจ

 

"งั้นก็บอกผม...โอ้ย!"

 

ตึง!

 

อยู่ๆรถที่เรานั่งก็ถูกชนท้ายอย่างแรงจนผมร้องเสียงหลง รถมันกระชากตัวไปข้างหน้าแล้วหมุนอยู่กลางถนนหลายรอบ เล่นเอาหัวใจผมตกวูบ แต่โชคยังดีที่ผมคาดเข็มขัดนิรภัยไว้เลยไม่เป็นอะไรมาก ส่วนคุณยงฮวาเองพอตั้งสติได้ก็รีบหันมาสำรวจผมให้ แต่แล้วประตูรถด้านของผมก็ถูกเปิดออกก่อนจะมีแรงกระชากแขนผมให้ลงจากรถอย่างแรง มันเล่นเอาเจ็บไปหมดแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้

 

"ปล่อยคุณโยซอบเดี๋ยวนี้นะเว้ย!" เสียงคุณยงฮวาตะโกนด่าไอ้บ้าที่จับแขนผมซะแน่น แต่ผมก็ทำได้แค่พยายามทรงตัวยืน เพราะมันรู้สึกปวดไปทั้งตัวจริงๆ

 

"ห่วงตัวเองเถอะ ริจะยุ่งเมียชาวบ้านเดี๋ยวมึงจะกลายเป็นศพ ครั้งนี้แค่เบาะๆนะมึง แต่ถ้ายังยุ่งกับเมียกูอีกมึงตายแน่!" เพียงแค่เสียงนั้นขู่มันก็ทำให้ผมจำได้ว่าคนที่จับผมอยู่นั้นคือใคร นี่เขาทำแรงเกินไปรึป่าว มันอาจจะตายได้นะ

 

"ดูจุน! ทำไมต้องทำถึงขนาดนี้ด้วย!" มึงจะบ้ากันไปใหญ่แล้วนะ

 

"หึ เป็นห่วงมันรึไง ห่วงตัวเองดีกว่าไหม!"

 

อะ!

 

เพียงแค่แรงนิดเดียวก็เกี่ยวเอวผมให้ห้อยหัวโตงเตงเหนือพื้นได้ แขนแกร่งกระชับเอวผมขึ้นแล้วพาขึ้นรถคันหรูทันที

 

"ปล่อยคุณโยซอบเดี๋ยวนี้นะเว้ย!" คุณยงฮวาพยายามตะเกียตะกายออกมาจากรถที่ยับไปครึ่งคัน แต่กลับถูกลูกน้องของมันกันตัวไว้แล้วผลักเข้าหาตัวรถ

 

"อย่าทำอะไรเขานะ!" ผมตะโกนฝ่าลูกน้องมันเสียงดัง แต่ไอ้คนก็จับผมอยู่กลับรัดเอวผมแน่นจนแทบหายใจไม่ออก

 

เหมือนผมไปกระตุ้นอารมณ์โมโหของมัน

 

"ห่วงชู้ดีนักนะมึง!"

 

อัก!

 

มือใหญ่ผลักตัวผมจนหลังกระแทกประตูอีกฝั่ง มันยิ่งเจ็บไปหมดทั้งตัว

 

เคยจะทะนุถนอมผมบ้างไหม

 

"ออกรถ!"

 

เสียงขุ่นสั่งอย่างเกรี้ยวกราดจนทุกคนในรถสะดุ้งตามกันหมด ใจผมเริ่มสั่นเมื่อดวงตาเรียวนั้นมองผมเหมือนจะอยากฆ่ากันให้ตาย ผมหวั่นมาก กลัวว่ามันจะทำร้ายทำผมไปมากกว่านี้

 

ผมเลยไม่พูดอะไรต่อจากนั้นอีก พยายามคิดหาทางออกเพื่อให้รอดพ้นจากมัน แต่มือใหญ่กลับคว้าเอ้าผมขึ้นไปนั่งเกยกันจนผมรับรู้ถึงผมหายใจที่เป่ารดหน้า เพียงแค่ฝ่ามือกั้นจมูกโด่งสวยนั้นก็จะโดนแก้ม

 

"จะทำอะไร!" พยายามใช้มือดันหน้าอกอีกคนแล้วดันตัวหนี มันยิ้มแสยะเหมือนถูกใจที่ผมกลัว มันทำให้ผมรู้สึกเสียหน้าและเกิดอารมณ์โมโหทันที

 

จะเอาชนะกันทุกเรื่องเลยสินะ...ร้ายกาจ

 

"ต้องการอะไร!" ผมถามอย่างเหลืออด แต่มันกลับเอาจมูกมาคอเคลียที่กกหูผม เล่นเอาท้องน้อยหายวาบ

 

มันจะเล่นผมอีกแล้ว

 

"ของเล่นของฉันมันไม่รักดี มันอยากเปลี่ยนเจ้าของ เลยต้องลงโทษสักหน่อย"

 

ของเล่น!

 

อึก! เจ็บ

 

"กูไม่ใช่ของเล่นของมึง!"

 

"แน่ใจรึไง ที่จะพูดคำนั้น" เล่นเอาสะอึกไปหมด นี่มันต้องการให้ผมกระอักเลือดตายตรงหน้ามันจริงๆใช่ไหม

 

"คุณดูจุน...ผมไม่ใช่เด็กน้อยคนนั้นอีกต่อไปแล้ว ได้โปรดเลิกทำกับผมเหมือนไม่ใช่คน" ผมสูดลมหายใจจนสุดปอดก่อนจะกั่นคำพูดที่ดูจริงจังออกมา แต่มันแค่ฟังแล้วเลิกคิ้วข้าง

 

"ว่าอะไรนะ ฉันไม่ค่อยเข้าใจ"

 

ไอ้บ้า! เป็นมึงเองไม่ใช่รึไง ที่บอกอย่ามาเจอกันอีก แล้วนี่มันอะไรกันวะ เพราะกูมีชีวิตอยู่ใช่ไหม มึงถึงเอาแต่ทำร้ายกู!

 

"ผมเป็นลูกชายของคิมแชชูนะ คุณทำแบบนี้กับผมไม่ได้! ปล่อยผมลงเดี๋ยวนี้ แล้วอย่าหาว่าผมไม่เตือน!" คราวนี้ผมยื่นคำขาดให้มันรู้ว่าผมเอาจริง

 

"หึ คิดจะขู่คนอย่างฉันรึไง"

 

นี่มึงไม่คิดจะกลัวพ่อกูเลยใช่ไหม!

 

"ก็มึงเป็นคนพูดเอง ว่ากูไม่ควรจะมาเจอมึงอีก แล้วทำไมต้องทำแบบนี้ด้วย"

 

"ก็ตอนนี้ฉันเปลี่ยนใจแล้วไง มีอะไรข้องใจกับฉันอย่างนั้นหรอ...ของเล่นของฉัน"

 

อื่ย!

 

จะทำยังไงกัับมึงดีวะ

 

"แล้วจะพากูไปไหน"

 

"พูดกับเจ้าของให้มันดีๆหน่อย สอนไม่รู้จักจำ"

 

นี่ผมกลายเป็นคนใช้มันอีกแล้วใช่ไหม ทำไมสวรรค์ถึงคิดจะแกล้งผมฝ่ายเดียว ในเมื่อผมเป็นฝ่ายถูกกระทำนะ

 

ไม่นานรถก็ถูกจอดที่หน้าตึกเดิม ผมมองแล้วขนหัวลุกพรึบ ภาพเดิมๆที่ผมถูกลูกน้องมันกระทำก็ตีแสกเข้าหน้าอย่างจัง ผมเริ่มเผลอตัวเขยิบเข้าไปใกล้อีกคนจนชิดแล้วกำชายเสื้อสูทมันแน่น

 

"ดูจุน..." ผมมองออกไปข้างนอกรถก็เห็นชายชุดดำยืนอยู่หน้าตึกเต็มไปหมดก็เริ่มสั่น แต่ดูอีกคนจะไม่สนใจความรู้สึกผมเลย มันกระชากผมลงจากรถจนล้มกองไปกับพื้นถนนก่อนชายชุดดำนั้นจะหันมามองผมกันหมด

 

"คุณดูจุนกลับมาแล้วหรอครับ...แล้วนั่น! เด็กคนนั้นนิ" ผมจำมันได้! มันคนที่ต่อยท้องผม!

 

"อย่าเข้ามาใกล้กูนะ!" ผมรีบลุกขึ้นยืนแล้ววิ่งไปหลบข้างหลังคนตัวใหญ่ แต่มือมันก็ยังคงจับข้อมือผมไม่ยอมปล่อยเช่นกัน ผมกดหน้าเข้ากับแผ่นหลังนั้นแล้วพยายามควบคุมความรู้สึกของตัวเองตอนนี้

 

ความรู้สึกกลัว

 

"ดูจุน...ช่วยด้วย" ผมร้องขอด้วยเสียงที่เริ่มสั่น ถึงผมจะรู้ว่ามันไม่สนใจผมแต่ก็หวังว่ามีนจะช่วย

 

"ไปให้พ้นหน้าฉัน ไป!" แต่แล้วเสียงทุ้มก็ขุ่นขึ้นมาอีกครั้ง มันไล่ลูกน้องจนวิ่งหนีเตลิดเปิดเปิงไปคนละทิศละทางก่อนจะหันกลับมาหาผม

 

"ไม่ต้องกลัวไปหรอก ไม่มีใครทำอะไรมึงได้แน่ หยุดร้องไห้ได้แล้ว" มือหนาขึ้นลูบแก้มผมอย่างลืมตัว แล้วรอยยิ้มอบอุ่นนั่นอีก มันเล่นเอาผมแทบหยุดหายใจ มันจะเป็นแบบนี้ทุกครั้ง เพียงแค่มันเห็นน้ำตาผมคลอมันก็เปลี่ยนมาใจดีกับผมทันที จนผมเดาใจมันไม่ถูกแล้ว...

 

ตกลงมันเกลียดผมรึป่าว

 

อยู่ๆนิ้วเรียวก็ปาดน้ำตาผมออกแล้วจูงมือผมเข้าตึกไป  ผมเองก็พยายามขัดขืนไม่ยอมเข้าไปแต่ก็โดนแรงกระตุกนิดเดียวก็ปลิวตาม แต่พอเข้ามาได้...ข้างในตึกกลับไม่มีใครเลยสักคน

 

ผมกวาดสายตามองไปทั่วลานกว้างก็ไม่พบใคร มันแปลก...เพราะเมื่อกี้ผมยังเห็นลูกน้องมันอยู่เต็มตึก แต่แล้วผมกลับเห็นอะไรแวบๆอยู่หลังต้นไม้ประดับด้านข้าง ก่อนจะพบชายชุดดำร่างใหญ่ยืนแอบอยู่ ตรงนั่นก็มี...หลังโซฟา ตรงนั้นก็ใช่...หลังโต๊ะประชาสัมพันธ์

 

หรือเป็นเพราะคำสั่งของร่างหนาเมื่อกี้

 

'ไปให้พ้นหน้าฉันเดี๋ยวนี้ ไป!' แค่นี้พวกเขาก็ไม่ให้มันเห็นหน้าแล้วงั้นหรอ

 

น่ากลัว

 

มันพาผมมาที่ห้องของมันที่ผมเคยอยู่ก่อนจะสั่งให้ลูกน้องเฝ้าผมให้ดีๆ ผมมองแล้วก็รู้สึกเจ็บ สุดท้ายก็กลับมาเป็นคนรองรับอารมณ์มันเหมือนเคย แล้วที่เมื่อกี้มาทำใจดี...มันหมายความว่ายังไง

 

"ยืนทำไม...มานั่งนี่!" มันตะโกนเสียงดังมาจากห้องนั่งเล่นในขณะที่ผมยังคงยืนนิ่งอยู่หน้าประตูที่เดิม ผมชั่งใจในตอนแรกแต่ก็คิดว่าผมต่อต้านมันไปก็ไร้ผล หรือบางที...นี่อาจจะทำให้ผมได้อยู่ใกล้เขามากขึ้น

 

โยซอบ! อย่าคิดอย่างนั้นสิ เขาเห็นแกเป็นแค่ของเล่นนะเว้ย เลิกรักเขาได้แล้ว!

 

"เป็นอะไร...ทำหน้าเหมือนคนสับสนในชีวิต" พูดออกมาได้ แล้วสภาพตอนนี้ผมเหมือนคนรู้จักชีวิตมากเลยงั้นสิ

 

"ต้องอยู่อีกนานเท่าไหร่" ผมไม่ตอบคำถามมัน เลยทำให้ใบหน้าหล่อนั้นฉุนขึ้นมาทันที

 

"อยากไปจากฉันมากงั้นสิ หึ...มันไม่มีวันซะหรอก"

 

"ดูจุน ทำไมมึงทำแบบนี้ มึงรู้ไหมว่ากูเจ็บ"

 

"เจ็บ...เด็กร่านอย่างนายเนี่ยนะเจ็บ ฟังไม่ค่อยขึ้นวะ"

 

จึก!

 

ร่าน

 

เหมือนเข็มนับพันนับหมื่นเล่มทิ่มลงมากลางหัวใจ ขาผมนี่สั่นแล้วทรุดลงกับพื้นหน้ามันทันที ตอนนี้สมองผมตื้อไปหมด ถึงจะคิดไว้แล้วว่าต้องโดนด่าด้วยคำนี้ แต่มันก็ไม่ชินสักที เพราะมันเหมือนผมไร้ค่า

 

"มึงคงเกลียดกูมากสินะ ร่านอย่างกูเนี่ย"

 

หมดแล้ว...ความภาคภูมิใจของผม หมดไปคำนั้น

 

"หึ รู้ตัวนี่ แล้วพอฉันรู้สึกแบบนั้นก็อย่างจะทำลาย ให้ มัน สิ้น ซาก"

 

เลว!

 

มันจะมีคำไหนที่เหมาะกับมึงไปมากกว่านี้ไหม ยุนดูจุน

 

"งั้นก็ทำลายซะสิ อย่าปล่อยให้มันทำมึงเกลียดไปมากกว่านีิ้ เอาสิ! ฆ่ากูเลย!"

 

พอกันที...ความรักที่แสนเจ็บปวดแบบนี้

 

"ฆ่า...มันง่ายไป มันต้องทรมานจนขาดใจตายต่างหาก ถึงจะน่าสนุก"

 

"มึงมันบ้า!" ผมปรี่เข้าหามันแล้วสวนหมัดเข้าหาใบหน้ากวนตีนนั้น แต่เพียงแค่เสี้ยววินาทีเดียวมันก็หลบผมได้ แถมผลักผมลงไปกองกับพื้นได้อย่างง่ายดาย

 

นี่ผมทำอะไรมันไม่ได้เลยใช่ไหม

 

"อย่าคิดทำให้ฉันโกรธ เพราะไม่อย่างนั้น...นายเองที่จะเจ็บตัว!"

 

มึงมันไม่ใช่คนแล้ว

 

ผมหลบตามันทันทีที่รู้สึกเป็นรองก่อนจะค่อยๆลุกขึ้นยืน แต่เพียงแค่ปลายเท้าผมแตะพื้นก็เล่นเอาเจ็บแปลบไปทั้งขาก่อนมันจะล้มลงไปอีกครั้ง ผมร้องเสียงหลงทันที แต่ยังดีที่มีมือใหญ่คว้าเอวผมไว้ได้ทัน ผมเงยหน้าขึ้นไปมองเพื่อจะขอบคุณที่ช่วยแต่กลับเห็นมันดูหัวเสียมาก คิ้วเรียวเข้มขมวดเข้าหากันก่อนจะดุผมเสียงแข็ง

 

"ระวังหน่อยสิวะ ลุกไม่ได้ก็ไม่ต้องลุก" ถึงคำพูดจะดูต่อว่าแต่มันก็อุ้มผมให้ไปนั่งบนโซฟา เพียงแค่นั้นผมก็เริ่มสับสน

 

ตกลงมันคิดยังไงกับผม ตอนแรกก็ด่าว่าจะทำลายกัน แต่นี่กลับเป็นห่วง แล้วยิ่งสายตาอ่อนโยนนั้นอีก...มันคืออะไร

 

ตกลงสนใจกันรึป่าว

 

"ดูจุน...เราคบกันแบบเป็นแฟนไม่ได้หรอ แบบที่นายมีโอกาสจะรักฉัน"

 

เพราะฉันรักนายจริงๆ

 

 

 

<><><><><><><><><><><><> 

131012

 

ถามไปเลยโย เจ๊ก็อยากรู้! 555 อินอะ^^*

 

รอนานเลย แต่ดีใจที่รอกันนะคะ จุ๊บๆ

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา