รักไม่ได้

9.7

เขียนโดย Chapond

วันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2557 เวลา 02.39 น.

  66 ตอน
  1012 วิจารณ์
  160.29K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 23.50 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

34) ตกอยู่ในคำสาป

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 “เห้อ สุดท้าย วิวาห์หวานชื่นก็ต้องกลายเป็นวิวาห์เลือด”หวายที่พอรู้ข่าวจากกวังที่เธอใช้ให้ไป

สอดแนมงานแต่งงานป๊อปปี้กับจินนี่กลับมารายงานก็ยิ้มเยาะ ทำให้โทโมะที่มานั่งเล่นที่ปราสาทร้าง

ของพวกแวมไพร์กระหายเลือดมองด้วยความสงสัย

 

 

 

 

“ทำไมล่ะ รึว่า ยัยเด็กนั่นที่ป๊อปปี้บอกว่าเป็นน้องสาวจะเอาเหล็กแหลมแทงอกป๊อปปี้เข้า”โทโมะ

พูด ก่อนจะหัวเราะกับเฟย์ที่นั่งข้างๆ

 

 

 

 

 

“โนย่ะ แต่นังเด็กนั่นแทงจินนี่ กะจะฆ่าให้ตายโดยแทงที่อกแต่พลาดโดนที่ท้องเข้า ตอนนี้ผู้บำบัดก็

กำลังรักษาอยู่ จะเป็นจะตายยังไงก็ยังไม่รู้”หวายพูดยิ้มเยาะก่อนจะหันไปหอมแก้มกวังเป็นรางวัล

ที่มาส่งข่าวให้กับพวกเธอทราบ

 

 

 

 

 

 

 

 

“อะไรกัน พวกพี่ไม่อยู่กันนี่มีอะไรสนุกๆงั้นหรอ”เสียงดังของชายหนุ่มพูดขึ้น ก่อนประตูปราสาทจะ

เปิดออกแล้วมีชายร่างสูงทั้ง3ยืนอยู่ในชุดเดินทาง ภายนอกดูเป็นชายสมส่วน รูปร่างดี แต่เมื่อ

ทั้ง3ถอดแว่นตาดำออกมาก็พบว่ามีนัยน์ตาสีแดงเลือดบ่งบอกว่าทั้ง3คือแวมไพร์กระหายเลือดที่

อันตรายมากแพน แบงค์และไทม์ 3แวมไพร์ที่เป็นแวมไพร์ก่อตั้งพวกแวมไพร์เกรดBและเป็นพี่ชาย

ของหวายที่พึ่งกลับมจากต่างประเทศยิ้มนิดนึงก่อนจะนั่งลงที่เก้าอีสูง3ตัวเรียงกันบนแท่นแล้วมอง

หวาย โทโมะและเฟย์

 

 

 

 

 

 

 

“เดี๋ยวนี้พวกแวมไพร์ใหญ่ๆอย่างพวกนายนี่ชอบแส่เรื่องชาวบ้านแล้วรึไง”โทโมะพูดไม่สนใจ

 

 

 

 

“หึๆ ยังคงปากเสียเหมือนเดิมเลยนะโทโมะ”ไทม์พี่คนโตพูดขึ้นแล้วมองโทโมะ

 

 

 

 

 

“ปากเสียแบบนี้น่ะจะดการมันแก้เมื่อยจากเดินทางเลยดีกว่าพี่ไทม์”แพน พี่คนที่3พูดแล้วหมายจะ

เข้าไปหาเรื่องโทโมะที่นั่งอยู่กับเฟย์แล้วจ้องแพนกลับอย่างไม่กลัว

 

 

 

 

 

 

“อย่าน่าแพน โทโมะมันก็พวกเดียวกับเราแล้วนะอย่าลืสิ”แบงค์ พี่คนที่2พูดแล้วร้องห้ามแพน

 

 

 

 

 

 

“นั่นน่ะสิ จะกัดกันทำไม อย่าลืมพวกเราน่ะอยู่สูงกว่าไอ้พวกตัวเพาะเห็บนั่นนะ”หวายรีบพูดเปรียบ

เทียบถึงพวกมนุษย์หมาป่าทันที

 

 

 

 

 

“ถ้าจะมาพูดหาเรื่องกันไร้สาระแบบนี้ล่ะ ชั้นขอตัว”โทโมะพูดแล้วออกไปจากปราสาทกับเฟย์ทันที

 

 

 

 

 

 

“ชิ ตั้งแต่ได้นังถุงเลือดมานี่เอะอะก็กลับหอคอยๆ”หวายแอบบ่นโทโมะทันที

 

 

 

 

“ถุงเลือด อะไรหรอหวาย”แพนที่ไม่ค่อยชอบหน้าโทโมะก็ถามน้องสาวทันที

 

 

 

 

 

“ก็โทโมะน่ะสิ ไปลากนังมนุษย์มาจากไหนไม่รู้ แล้วทำตราทาสชั่วนิรันด์อะไรนั่นไว้ไม่ให้ไปไหนอีก

นี่คงจะกะใช้ทั้งเลือดทั้งตัวเลยล่ะสิ”หวายว่าโทโมะ แล้วคิดถึงแก้วที่อยู่หอคอย เพราะยัยนั่นคน

เดียวทำให้โทโมะไม่ค่อยมาหาเธอเหมือนเดิม

 

 

 

 

 

 

“ว้าว หมอนั่นมีของเล่นเด็ดๆมาด้วยหรอ ชักน่าสน”แพนพูดยิ้มๆ

 

 

 

 

“จริง ยัยนั่นน่ะ สวยด้วยนะพี่แพน”หวายยิ้มนึกขึ้นได้บางอย่างแล้วมองหน้าพี่ชายอย่างรู้กัน แบงค์

และไทม์มองแพนและหวายพลางส่ายหน้าเอือมๆ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“เป็นไงแบม หาเจอมั้ย”เขื่อนถามเควินและแบมวิ่งมาหาเขาหลังจากช่วยกันตามหาฟางทั่วปราสาท

 

 

 

 

“ไม่เจอ หรือว่าฟางจะออกไปข้างนอกแล้ว”เควินสันนิษฐาน

 

 

 

 

 

“งั้นเราก็ออกไปตามหาฟางสิ ไปกันเถอะ เพราะชั้นต้องพาฟางมายืนยันกับทุกคนว่าฟางไม่ได้

ทำ”แบมพูดแล้วรีบเดินไปที่ประตูแต่เควินรีบรั้งมือแบมไว้

 

 

 

 

 

 

 

“เดี๋ยวก่อน เอานี่ใส่ซะ เขี้ยวของพ่อชั้นเอง มันจะปกป้องอันตรายให้มนุษย์ธรรมดาไม่ให้ถูกปีศาจ

หรือแวมไพร์ทำร้าย”เควินพูดแล้วสวมสร้ออยเขี้ยวหมาป่าให้แบมแล้ววิ่งออกไปด้วยกัน

 

 

 

 

 

 

 

ผลัวะ

 

 

 

 

 

กวินชกหน้าป๊อปปี้ล้มทำให้เขื่อนวิ่งไปห้ามเช่นเดียวกับเควินและแบมที่รีบวิ่งกลับมา

 

 

 

 

 

“เพราะแก เป็นไงล่ะ น้องรักของแกทำร้ายจินนี่ว่าที่เมียแก ถ้าจินนี่เป็นอะไร ชั้นจะเป็นคนที่เอา

เหล็กแหลมแทงที่หัวใจแกเอง ป๊อปปี้”กวินที่เข้ามาแล้วรู้ข่าวก็เดือดจัดก่อนจะพุ่งเข้ามาเล่นงาน

ป๊อปปี้

 

 

 

 

 

“พอได้แล้ว อย่าทำพี่ป๊อป”แครอลตกใจร้องกรี้ดก่อนจะพุ่งตัวลงจากรถเข็นทำให้ตัวเองที่ขาเดินไม่

ได้ล้มลงไปกองกับพื้น ป๊อปปี้และกวินรีบเข้าไปช่วยแครอลขึ้นมานั่งที่รถเข็นตามเดิม

 

 

 

 

 

“แกรักมันมากจนเลือกที่จะอยู่กับมันงั้นหรอ ชั้นเป็นพี่แกนะแครอล”กวินพูดอย่างหัวเสียก่อนจะเดิน

หนีขึ้นไปชั้นบน ก่อนจะแอบเห็นผู้บำบัดที่ตรวจอาการของจินนี่เสร็จแล้วออกมาตัวเองจึงรีบแอบเข้า

มาในห้องจินนี่ก่อนจะนั่งลงข้างๆมองดูร่างบางที่หน้าตาซีดเซียวไม่เปล่งปลั่ง เพราะขาดเลือดและ

เสียพลังมาก กวินมองนิ่งก่อนจินนี่จะไอออกมา กวินรีบไปกอดจินนี่ไว้

 

 

 

 

“อย่าเป็นอะไรนะชั้นไม่ยอมนะถ้าเธอจะต้องจากชั้นไป ยัยบ้า”กวินพูดก่อนจะก้มลงจูบแก้มซีดของ

จินนี่

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“คุณชายคุณเขื่อนครับ เราพบนี่ครับ”องค์รักษ์คนอื่นวิ่งเอารองเท้าส้นสูงของฟางที่ถอดทิ้งไว้

 

 

 

 

 

“เจอรองเท้าจองฟางตรงไหน”ป๊อปปี้รีบถามองค์รักษ์ตัวเองก่อนจะรีบวิ่งไปที่สวนด้านหลังตามที่องค์

รักษ์บอกพร้อมกับพวกเขื่อน

 

 

 

 

 

 

“ฟาง เธออยู่ที่ไหนน่ะฟาง ออกมาเถอะ”ป๊อปปี้ตะโกนเรียกฟางแต่ทุกอย่างกลับเงียบจนชายหนุ่ม

ใจคอไม่ดีเพราะเป็นห่วงฟางมาก ก่อนจะนิ่งตั้งสติอยู่กับตัวเอง แล้วคิดในใจ ว่าฟางเองเป็นมนุษย์

แล้วฟางจะไปไหนได้ไกลล่ะ รอบๆปราสาทนั้นมีอันตรายมากมายแบบนี้

 

 

 

 

 

 

‘ฮือๆ ใครก็ได้ช่วยฟางด้วย’เหมือนเสียงกระซิบผ่านสายลมเข้ามาในโสตประสาทของป๊อปปี้ ทำให้

ชายหนุ่มชะงักมองไปรอบๆ ไม่ผิดแน่ เสียงร้องไห้ยังคงดังก้อง ป๊อปปี้ตั้งสิตฟังเสียงร้องไห้นั้นแล้ว

วิ่งนำพวกเขื่อนไปอย่างรวดเร็วจนมาถึงท้ายสวน ตรงประตูสวนที่จะออกไปข้างนอก

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“ฟาง เมื่อกี้เสียงฟางใช่มั้ย ออกมาเถอะ พี่อยู่ที่นี่แล้ว”ป๊อปปี้ตะโกนเรียกฟางอีกครั้งก่อนจะหันไป

ตามเสียงกรี้ดของแบม เควินดึงแบมเข้าหาลำตัวมากขึ้นแล้วมองไปตามหยุดเลือดแล้วต้องตกใจเมื่อ

เห็นฟางที่ไม่สวมรองเท้านั่งอยู่บนต้นไม้ ชุดราตรีสีหวานนั้นมีแต่รอบเลือดของจินนี่ และที่ทุกคน

ต้องช๊อคไปกว่านั้นคือฟางถือเหล็กแหลมชุ่มเลือดอยู่

 

 

 

 

 

 

ตุบ

 

 

 

 

 

ฟางกระโดดลงมาจากต้นไม้ ทุกคนต้องตกใจเมื่อฟางกระโดดลงมาได้โดยไม่ล้มไม่เจ็บเลย ฟางเดิน

เข้ามาหาพวกป๊อปปี้ที่ยืนอึ้ง ก่อนป๊อปปี้จะสังเกตว่า ดวงตาสีดำของฟางนั้นเป็นสีเทาจางๆ หน้าตา

ของฟางดูนิ่งไม่แสดงความรู้สึกอะไรทั้งนั้น

 

 

 

 

 

“ออกมาจากแม่หนูคนนั้นให้หมด”เสียงผู้อาวุโสพูดขึ้นทำให้ทุกคนหันไม่มองผู้อาวุโส ธามไท ฟ้า

และเคนตะที่เดินเข้ามา ผู้อาวุโสมองฟางนิ่งๆก่อนจะหันไปพยักหน้ากับธามไทและเคนตะให้พุ่งไป

จับฟาง

 

 

 

 

 

 

 

“กรี้ดดดดดด”ฟางร้อองมาเมื่อเคนตะฟาดลงที่มือที่กำเหล็กแหลมแน่นจนต้องปล่อยแล้วทรุดเมื่อ

ถูกธามไทล๊อคร่างบางกดลงกับพื้น

 

 

 

 

 

“ฟาง นี่พวกนายทำอะไรฟางกันน่ะ”ป๊อปปี้ตกใจรีบว่าพวกธามไทที่จับฟาง

 

 

 

 

 

“คุณป๊อปถอยออกไปค่ะ”ฟ้าวิ่งเข้ามาอีกครั้งพร้อมขวดใบใหญ่คล้ายน้ำเปล่า ฟ้าเอาน้ำในขวดสาด

หน้าฟางก่อนจะล๊อคคอให้เงยหน้าแล้วกรอกน้ำใส่ปากฟาง

 

 

 

 

 

“อึก”ฟางเริ่มชักกระตุกก่อนจะพ่นเลือดสีดำออกมาต่อหน้าทุกคน

 

 

 

 

“ฟาง”ป๊อปปี้วิ่งเข้าไปหาฟางอย่างตกใจ แต่ถูกธามไทง้างถีบไปให้พ้นๆทาง

 

 

 

 

 

 

 

“นี่ ช่วยจับหมอนี่ทีดิ๊ ยืนเซ่อกันทำไมวะ”ธามไทพูดอย่างหงุดหงิด เขื่นและเควินรีบล๊อคตัวป๊อปปี้ไว้

 

 

 

 

 

“ปล่อยชั้น จะทำอะไรฟางน่ะ”ป๊อปปี้แทบคลั่งเมื่อเห็นร่างบางสำลักเลือดออกมาไม่หยุด ฟ้าเร่งทุบ

ผลึกสีเหลืองจนแตกละเอียดก่อนจะผสมน้ำในขวดที่เหลืออยู่แล้วกรอกปากฟางอีกครั้ง

 

 

 

 

 

 

 

พรวด

 

 

 

ฟางพ่นเลือดสีดำออกมาครั้งสุดท้ายก่อนจะทรุดสลบลงไป

 

 

 

 

“เท่านี้คำสาปคงจะออกไปหมดแล้วล่ะ ดีนะ ที่ไม่ได้ร้ายแรงมาก”ผู้อาวุโสพูด

 

 

 

 

“นี่มันไม่ร้ายแรงมากหรอครับคุณตา ฟางอาจจะตายได้นะ ร่างกายมนุษย์ไม่ได้แข็งแรงเหมือนกับ

พวกเรา”ป๊อปปี้รีบพูดเมื่อถูกปล่อยเป็นอิสระแล้ววิ่งไปผลักธามไทและเคนตะล้มลงก่อนจะประคอง

ฟางไว้ในอ้อมกอด

 

 

 

 

 

 

“บอกพวกเราได้มั้ยคะ ว่านี่มันเกิดเรื่องอะไรกัน แล้วที่บอกว่าคำสาป คำสาปอะไรคะ”แบมถาม

 

 

 

 

 

“คำสาปสีดำไงล่ะ เป็นคำสาปจากด้านมืด สงสัยคนสาปคงจะเพิ่งเรียนวิชาแล้วเอามาใช้กับฟางเป็น

ครั้งแรก เพราะไอคำสาปไม่มีอะไรร้ายแรงมาก ก็แค่สภาพจิตใจถูกครอบงำไม่มีความรู้สึกนึกคิด ทำ

ตามคำสั่งของคนที่สาป ดีนะที่คำสาประยะแรกจะเป็นเหมือนยาพิษทำให้ฟ้าเอาแร่สีทองนี้มาบด

ผสมน้ำให้ฟางดื่มเพื่อถอนพิษ และเลือดสีดำคือเลือดที่เกิดจากคำสาป”ผู้อาวุโสพูด ป๊อปปี้อึ้งก่อน

จะมองร่างบางที่นอนสลบและที่ปากยังมีคราบเลือดติดอยู่ก็เช็ดที่ปากฟางอย่างอ่อนโยนก่อนจะอุ้ม

ฟางขึ้นมา

 

 

 

 

 

 

“แล้วพอรู้ได้มั้ยครับว่าทำไมฟางถึงถูกสาป”ป๊อปปี้พูดขณะอุ้มฟางขึ้นมาบนห้องนอนเธอแล้วถามผู้

อาวุโส “คงไปทำให้ใครไม่พอใจให้ล่ะสิแม่หนูคนนี้”ผู้อาวุโสมองฟางแล้วพูด ก่อนป๊อปปี้จะวางฟาง

ลง แล้วให้แบมและโบว์รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าและเช็ดตัวให้ฟางก่อนจะจัดท่านอนให้ฟางนอนดีๆ โดยที่

ป๊อปปี้นั่งลงอยู่ข้างๆฟางพลางกุมมือคนตัวเล็กแน่น

 

 

 

 

“แต่การที่จะถูกคำสาปได้นั้น สภาพจิตใจของคนๆนั้นต้องอ่อนแอมากถึงได้ถูกครอบงำแบบนี้”ผู้

อาวุโสพูดนิ่งๆแล้วมองป๊อปปี้ที่เห็นห่วงฟางมากแบบนี้ ก็ส่ายหน้ายิ้ม ที่ป๊อปปี้ภายนอกพยายามเย็น

ชา เข้มแข็งไม่สนใจฟาง แต่จริงๆแล้ว เขาคนนี้ล่ะที่เป็นห่วงฟางมากที่สุด เพียงเขาต้องเก็บซ่อน

ความรู้สึกนั้นไว้ข้างใน

 

 

 

 

 

 

“แต่การที่จะถูกคำสาปถูกสาปได้สมบูรณ์ได้นั้น จิตใจของผู้ที่ถูกสาปนอกจากจะอ่อนแอแล้วยังต้อง

มีใจที่เสี้ยวหนึ่งอยากทำร้ายหรืออิจฉาจินนี่เหมือนกัน ทำให้คำสาปสำเร็จได้”ผู้อาวุโสพูดทำให้

ป๊อปปี้นิ่งอึ้งแล้วมองฟางที่หลับอยู่แววตของเขาเศร้าลงไปทันที

 

 

“แต่ที่ฟางต้องเป็นแบบนี้ต้นเหตุทั้งหมดมันมาจากผม”ป๊อปปี้พูดอย่างเศร้าๆ

 

 

 

 

 

 

 

 

ขอโทษน้าที่มาอัพช้า เพราะว่าวันนี้เราลองเข้าดูละมันเข้าไม่ได้อ่ะเลยแอบอารมณ์เสียเลยหนีไปดูซีรี่ย์เลยพึ่งกลับมาอัพ

 

 

อยากรู้เรื่องต่อก็เม้นกับโหวตต่อนะจ้ะ

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา