รักไม่ได้

9.7

เขียนโดย Chapond

วันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2557 เวลา 02.39 น.

  66 ตอน
  1012 วิจารณ์
  160.29K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 23.50 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

51) อะไรทำให้เธอเปลี่ยนไป

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“ตายแล้วป๊อป หายไปไหนมา พวกเราตามหาซะทั่ว แล้วนี่ไปฟัดกับใครมาดูสภาพสิ”จินนี่และเขื่อน

ที่เดินตามหาป๊อปปี้ทั่วงานก็รีบเดินปรี่มาหาป๊อปปี้ที่เดินกลับเข้ามาในงาน

 

 

 

 

 

“ไม่ใช่หมาแต่เมีย”ป๊อปปี้ตอบสั้นๆยิ่งทำให้เขื่อนและจินนี่มองหน้ากันอย่างสงสัย

 

 

 

 

“เมีย เมียคนไหนนี่นายแอบมีเมียน้อยหรอ”กวินพูดกวนๆถามป๊อปปี้ทันทีที่ได้ยิน

 

 

 

 

“ชั้นไม่ใช่นายนะกวิน ชั้นมีเมียคนเดียวเท่านั้นล่ะ ชั้นโดนฟางฟัดมา”ป๊อปปปี้ตอบ

 

 

 

 

 

 

“บ้า เป็นไปไม่ได้ นี่นายดื่มไวน์ในงานเยอะรึเปล่า ฟางน่ะตายไปนานแล้วนะ”จินนี่ไม่เชื่อ

 

 

 

 

 

“ถ้าชั้นเมา แล้วรอยกัดนี่ล่ะ”ป๊อปปี้แกะกระดุมเสื้อเชิ้ตออกก่อนจะถอดเสื้อแล้วชี้ให้เห็นรอยกัดที่หัว

ไหล่ตัวเองให้ทุกคนดู ทุกคนเหวอทันทีเมื่อเห็นรอยกัดที่ยังใหม่ๆ

 

 

 

 

 

 

“งั้นเราคงมีเรื่องคุยกันยาวแล้วล่ะครับ”เขื่อนพูดก่อนจะนำจินนี่และกวินที่มาร่วมงานเลี้ยงกลับไปที่

ปราสาท

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“นี่ก็หมายความว่าป๊อปไปเจอกับไทม์ แล้วไทม์ก็เปลี่ยนฟางเป็นแวมไพร์กระหายเลือดเหมือนพวก

นั้น แถมตู่ว่าฟางเป็นเจ้าสาวของไทม์อีกงั้นสิ”จินนี่สรุปเรื่องราวจากป๊อปปี้

 

 

 

 

“ประเด็นคือ แววตาของฟางทำไมเหมือนกับจำชั้นไม่ได้ แถมบอกกับตัวเองว่าตัวเองตลอดว่าชื่อโรส

ไม่ใช่ฟาง”ป๊อปปี้พูดอย่างสงสัย

 

 

 

 

 

“ล้างสมองไงล่ะ พวกแวมไพร์สายมืดน่ะ ร่วมมือกับยัยแจมมีหรอพวกพลังด้านมืดที่เรียกใช้ได้ ไทม์

มันจะไม่เอามาใช้”กวินพูดแล้วเหล่มองจินนี่เป็นระยะๆ

 

 

 

 

 

“เท่ากับว่าตอนนี้ฟางจำวพกเราไม่ได้ ในสมองมีแต่คำสั่งกับคำที่ไทม์ป้อนข้อมูลให้งั้นหรอ”เขื่อน

พูด

 

 

 

 

 

“จะจำได้ไม่ได้ชั้นไม่สนใจ แค่รู้อย่างเดียวว่าฟางไม่ตายแค่นี้ ชั้นก็มีแรงที่จะเอาฟางกลับมาเป็นของ

ชั้นแล้วล่ะ”ป๊อปปี้พูดยิ้มๆพลางเอาทิชชู่ซับเลือดตัวเองที่แผผล ก่อนโบว์และเควินจะเอายามารักษา

 

 

 

 

 

 

“งานนี้ยากหน่อยนะป๊อป ไทม์เล่นเปลี่ยนฟางซะบ้าเลือดถึงขึ้นกัดแบบนี้”จินนี่เหล่มองแผลป๊อปปี้

แล้วพูด

 

 

 

 

 

“เถอะน่า ชั้นซาดิส ชั้นชอบ”ป๊อปปี้พูดแล้วยิ้มกวนๆ จินนี่ส่ายหน้าแล้วเดินกลับออกไป

 

 

 

 

 

 

“วันนี้พระจันทร์เต็มดวงทานยาหน่อยมั้ยครับ”เขื่อนยื่นขวดยาสีฟ้าใสให้ป๊อปปี้

 

 

 

 

 

 

“นี่คิดว่า4เดือนที่ชั้นหายไป ชั้นควบคุมตัวเองไม่ได้รึไง ชั้นคุมตัวเองได้น่า”ป๊อปปี้ดันยากลับแล้ว

เปิดม่านจ้องไปที่พระจันทร์เต็มดวงแล้วหันมายักคิ้วให้เขื่อนดูว่าเขาไม่ได้เป็นอะไรก่อนจะเดินกลับ

ไปที่หอคอย

 

 

 

 

 

 

“แวมไพร์ที่ถูกมนุษย์หมาป่าทำร้ายจนติดเชื้อเนี่ยดีจังเลยนะพี่เขื่อน ที่ยังมีสติควบคุมตัวเองได้ไม่

เหมือนผู้สืบสายเลือดหมาป่าแบบผม”เควินพูดจบก็รีบเก็บยาแล้วลงไปชั้นล่างกับโบว์

 

 

 

 

 

 

“คุมตัวเองได้เมื่อเจอพระจันทร์ แต่จะคุมตัวเองได้รึเปล่าเมื่อโกรธมากๆเนี่ยสิ น่ากลัว”เขื่อนส่าย

หน้า

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“มีอะไรเหรอจ้ะโรสทำไมไม่ยอมนอน นี่ใกล้เช้าแล้วนะ”ไทม์ที่มาส่งฟางที่ห้องใต้ดินแล้วจะปิดฝา

โลงก็แปลกใจที่เห็นฟางเอามือดันขืนไว้ เพราะตั้งแต่กลับมาฟางเองก็นั่งนิ่งครุ่นคิดอะไรบางอย่าง

 

 

 

 

 

“ไทม์ โรสถามอะไรหน่อยสิ ฟางคือใคร”ฟางสบตามองหน้าไทม์เพื่อหาคำตอบ

 

 

 

 

“ฟาง งั้นหรอ ชื่อไม่คุ้นเลยใครหรอจ้ะ”ไทม์รีบโกหก

 

 

 

 

“โรสเองก็ไม่รู้เหมือนกันเห็นนายนั่นที่เป็นศัตรูกับไทม์ทักโรสเมื่อตอนที่สู้กันแล้วหน้ากากหลุด”ฟาง

พูด

 

 

 

 

 

“โธ่ ก็นึกว่าเรื่องอะไร เรื่องนี้นิเอง โรสไม่ต้องไปสนใจหรอก ไอ้ป๊อปปี้น่ะมันบ้า”ไทม์พูด

 

 

 

 

“บ้าเรื่องอะไรกัน ดูท่าก็ปกติดี”ฟางพูด

 

 

 

 

 

“เอ้า ก็เมียมันน่ะชื่อฟาง ตายไปนานแล้วพอมันเห็นใครสวยๆหน่อยนะ ทักเอาเป็นตุเป็นตะว่าคือฟาง

เมียมีน ที่ไทม์ให้โรสสวมหน้ากากเวลาสู้กับมันเพราะไทม์หึงไงล่ะจ้ะ”ไทม์สร้างเรื่องขึ้นมาใหม่ให้

ฟางรับรู้

 

 

 

 

 

“ระดับโรสน่ะ ถ้าหมอนั่นมาทำอะไรนะ โรสจะจัดการหักแขนหักขาเลยดูสิ แต่จะว่าไปแล้วก็สงสาร

เหมือนกันนะที่เมียมาตาย คงะรักเมียมากสินะ”ฟางพูดก่อนจะนิ่งสักพักแล้วพูดต่อ ไทม์ได้ยินยิ่ง

หงุดหงิด

 

 

 

 

 

 

“มันรักเมียไม่เท่าไทม์รักโรสหรอก โรส มันคือศัตรูของไทม์จำไว้ ศัตรูของไทม์ก็คือศตรูของโรส

ด้วยห้ามใจอ่อนให้มันเด็ดขาด”ไทม์สั่งก่อนจะเดินออกไปอย่างหัวเสีย ฟางมองตามอย่างไม่เข้าใจ

 

 

 

 

 

 

“ฟางงั้นหรอ”ฟางพึมพำคิดถึงหน้าป๊อปปี้และตอนที่เขาดึงเธอไปกอด อ้อมกอดนั้นทำให้เธออบอุ่น

อย่างประหลาด อบอุ่นที่หัวใจ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“เฟย์ไปไหนให้แก้วไปด้วยสิน้าๆๆๆ”แก้วที่เห็นเฟย์แต่งตัวเตรียมออกไปข้างนอกก็รีบขอ

 

 

 

 

“โน อยู่ที่นี่ล่ะดีแล้วไม่ซนสิ ไปข้างนอกน่ะมันอันตรายจะตายไป เดี๋ยวเฟย์ซื้อขนมมาฝาก”เฟย์บอก

แก้วก่อนจะเดินออกไปข้างนอกแก้วย่นจมูกนิดนึงก่อนจะเดินไปค้นเอาพวกกองหนังสือมาอ่านแก้

เซ็งก่อนจะหาวหลับไปคากองหนังสือด้วยความเบื่อจนผล็อยหลับไป

 

 

 

 

 

แอ้ด

 

 

 

 

 

โทโมะค่อยๆดันบานกระจกที่เขาสั่งทำพิเศษแล้วย่องเข้ามาในฝั่งห้องแก้วมองดูร่างบางที่นอนหลับ

คากองหนังสือแล้วส่ายหน้าขำ ก่อนจะรูดม่านให้ทุกอย่างในห้องมือลงแล้วจัดการทำความสะอาด

และเก็บหนังสือเข้าชั้นให้เรียบร้อยด้วยสายตาที่มองเห็นชัดในความมืด

 

 

 

 

 

 

“อื้อ เฟย์ลืมอะไรหรอ”แก้วงัวเงียตื่นเพราะได้ยินเสียงกุกักให้ห้องแล้วพยายามมองเงาตะคุ่มๆใน

ห้องที่เหมือนกำลังเก็บหนังสือเข้าชั้นแล้วแปลกใจว่าทำไมเฟย์ถึงปิดม่านมืดแบบนี้เพราะที่นี่เป็น

ค๔หาสน์ทึบไม่แปลกที่ทุกอย่างจะมืดง่ายเพียงแค่รูดม่านปิด

 

 

 

 

 

 

 

“อ๊ะ เฟย์เล่นอะไรเนี่ยแก้วไม่ตลกนะ”ก่อนแก้วจะลุกขึ้นก็เหมือนมีอะไรบางอย่างมาผูกปิดตาเธอ

อย่างรวดเร็ว แก้วพยายามดิ้นไปมาเพื่อแกะผ้าปิดตานั้น

 

 

 

 

 

 

“อื้อออ”โทโมะเห็นแก้วที่ดิ้นไม่หยุดก็ก้มลงจูบแก้ว แก้วเมื่อสัมผัสรสจูบนี้ก็ตกใจและเคลิ้มไปกับ

มัน สัมผัสนี้ที่เธอเคยได้รับ กลิ่นแบบนี้ แก้วค่อยๆเอามือลูบไล้ไปตามแผงอกกว้างก่อนจะโอบรอบ

คอไว้มือเรียวบางอยู่ไม่เป็นสุขทำให้สัมผัสกับบางอย่างที่งอกมาจากหลังคล้ายปีก

 

 

 

 

 

 

หมับ

 

 

 

 

ก่อนแก้วจะคิดอะไร โทโมะก็ดึงมือแก้วออกากปีกตัวเองและถอนจูบออก

 

 

 

 

 

 

 

“แฮ่กๆ โทโมะ โทโมะใช่มั้ย”แก้วที่ถูกโทโมะขึง2มืไปแนบกับเตียงก็ร้องถามเพราะตาถูกชายหนุ่ม

เอาผ้าปิด

 

 

 

 

 

 

“ขอโทษที่ทำแบบนี้ ทั้งที่แก้วไล่ไปแล้วแท้ๆ ทีหลงจะไม่ทำอีกแล้ว ขอโทษนะ”โทโมะกระซิบลง

ข้างหูก่อนจะหอมแก้มแก้วและแช่ไว้อยู่เนิ่นนานไม่อยากจากไป แต่ต้องตัดใจ

 

 

 

 

 

“ไม่นะโทโมะอย่าพึ่งไป”แก้วเมื่อรู้สึกได้ว่าถูกปล่อยเป็นอิสระก็รีบแกะผ้าปิดตาแล้วต้องร้องเก้อเมื่อ

เห็นว่าทุกอย่างในห้องกลับเป็นเหมือนเดิม ม่านที่ปิดก็เปิดไว้ มีเพียงแค่หนังสือถูกเก็บเข้าชั้นอย่าง

ดี

 

 

 

 

 

 

“คนบ้า มาๆไปๆ อะไรเนี่ย”แก้วบ่นเบาๆก่อนจะเอามือแตะที่ปากตัวเองแล้วอมยิ้มก่อนจะล้มตัวนอน

หลับไปเช่นเดียวกับโทโมะที่กลับเข้ามาในโซนห้องตัวเองหลังกระจกก็เอามือตากตัวเองแล้วยิ้มเช่น

กัน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“น่ะไปไหนน่ะโรส”แบงค์ถามเมื่อเห็นโรสเดินขึ้นมาจากชั้นใต้ดินเตรียมตัวออกไปข้างนอก

 

 

 

 

“หิวน่ะ อยากกินเลือดคน”ฟางตอบสั้นๆแล้ววิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว

 

 

 

 

 

“ชิ พอเป็นแวมไพร์ล่ะทำตัวกร่างน่าตบชะมัด”หวายที่นั่งอยู่กับแบงค์ก็เบ้ปากหมั่นไส้

 

 

 

 

“ตบให้ได้นะ ถ้าไม่แพ้ซะก่อน”แบงค์ยักคิ้วกวนๆใส่หวายเพราะรู้ดีว่าหวายก็ดีแค่ปากพอเอาเข้า

จริงๆก็กลัวพลังของฟางพอๆกับแจม

 

 

 

 

 

 

“โอ้ย ตายล่ะ เมืองนี้อะไรเนี่ยแค่4ทุ่มก็นอนหมดแล้วหรออนามัยจัดจริ๊งๆ”ฟางเดินบ่นมาตามทาง

เปลี่ยวก่อนะเลี้ยวเข้าไปในหมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่งแล้วเดินเล่นมาเรื่อยๆพลางดูดาวและพระจันทร์

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“สงสัยตอนก่อนเป็นแวมไพร์ชั้นคงชอบดูดาวละมั้ง”ฟางพูดกับตัวเองแล้วเงยหน้ามองท้องฟ้าแล้ว

สูดอากาศบริสุทธ์ยามค่ำคืนตามลำพัง ความรู้สึกคุ้นเคยเหมือนกับเคยอยู่ที่นี่

 

 

 

 

 

 

 

“อ๊ะ น้ำพุนิ”ฟางยิ้มดีใจรีบวิ่งไปที่น้ำพุกลางหมู่บ้านแล้วเอามือวักน้ำเล่นก่อนจะเผลอยิ้มออกมา

อย่างมีความสุข

 

 

 

 

 

 

“เคยเล่นน้ำพุนี่ แต่เคยเล่นกับใครนะ”ฟางพึมพำกับตัวเองก่อนจะเดินมาตามทางเรื่อยๆแล้วพบว่าตัว

เองมาหยุดที่หน้าบ้านหลังหนึ่ง

 

 

 

 

 

 

 

“ทรัพย์สินของตระกูลจิระคุณ”ฟางอ่านป้ายประกาศหน้าบ้านแล้วยักไหล่ไม่สนใจก่อนจะเดินเข้าไป

ในบริเสณบ้าน บรรยากาศเหมือนเธอเห็นตัวเองกำลงรดน้ำต้นไม้ ตัดดอกกุหลาบที่กระถาง นั่งดื่มชา

ที่ศาลาในมุมของสวนในบ้านนี้ ฟางนิ่วหน้าสักพักก่อนจะค่อยๆเดินย่องเข้ามาในบ้านแล้วมุดหน้าต่าง

เข้ามาในครัว

 

 

 

 

 

 

 

“ตู้อบขนมกับคุณแม่”ฟางเดินมาจับตู้อบขนมที่อยู่ในครัวแล้วพูดออกมา ภาพที่เธอช่วยแม่ทำขนม

แล้วยิ้มอย่างมีความสุขก็สะท้อนเข้ามาให้เห็น ฟางสะบัดหน้าหนีก่อนจะเดินมาเรื่อยๆโดยไม่ได้เปิด

ผ้าคลุมที่คลุมตู้โชว์หรือทุกอย่างในบ้านเพราะกลัวว่าเจ้าของบ้านจะรู้ว่ามีใครแอบเข้ามาในนี้ ฟาง

เดินมาตามทางอย่างคุ้นเคยก่อนจะเปิดประตูห้องนอนที่มีป้ายรูปกระต่ายติดที่หน้าห้อง

 

 

 

 

 

 

 

“ห้องอะไรเนี่ยหยั่งกับห้องเจ้าหญิง”ฟางมองเตียงที่มีมุ้งอยู่ด้านบนก็พูดก่อนจะหย่อนตัวนั่งลงที่

เตียงแล้วเด้งไปมาบนเตียงอย่างคุ้นเคยทำให้ผ้าผลุมเตียงเลิกให้ตุ๊กตาหมีพูห์เด้งออกมาข้างๆเธอ

 

 

 

 

 

 

“พี่หมี พี่หมีจ๋า”ฟางกอดตุ๊กตาหมีพูห์ตัวนั้นแล้วพูดเหมือนกับเธอเคยอยู่ที่นี่ รู้สึกคุ้นเคยอย่าง

ประหลาดฟางกอดตุ๊กตาหมีพูห์แล้วล้มตัวนอนโดยไม่รู้เลยว่ามีใครกำลังไขกุญแจเปิดประตูเข้ามา

 

 

 

 

 

 

ฉับบบบบบบ

 

 

 

เอาให้ลุ้น555555 มาดูซิว่าฟางจะจำได้มั้ย

 

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา