เพราะรัก..color of love fic exo chansoo

-

เขียนโดย onni

วันที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 เวลา 22.19 น.

  5 ตอน
  0 วิจารณ์
  12.30K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 29 กันยายน พ.ศ. 2557 19.58 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

4) เพราะรัก...3 100%

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ปาร์ค ชานยอลไม่เคยมีความจำเป็นต้องเข้าบริษัทเช้าถึงขนาดนี้ แต่เพราะเหตุผลบางอย่างทำให้เช้าวันนี้พนักงานทุกคนในบริษัท ปาร์คกรุ๊ป ได้พบกับใบหน้าที่แสนหล่อเหลาของทายาทคนเล็กของตระกูลปาร์คที่นานๆทีจะเข้าบริษัท

"มีคนบอกว่าวันนี้น้องชายพี่เข้ามาที่บริษัทก่อนพนักงานซะอีก"เสียงใสของ ปาร์ค นารี พี่สาวคนสวยของคนตัวสูงที่นั่งหมุนเก้าอี้อยู่ภายในห้องทำงาน

"ยุ่งน่าพี่ ผมอยากเข้ามาผมก็เข้าไม่อยากเข้าผมก็ไม่เข้าแล้วนี่อะไร ประธานบริษัทมาทำงานสายกว่าลูกน้องซะอีก"เหน็บพี่สาวตามประสาลูกคนเล็กที่มีคนตามใจอยู่ตลอดเวลา ทำเอาพี่สาวที่เปิดประตูเข้ามานั่งที่โชฟาอดไม่ได้ที่จะอมยิ้มด้วยความเอ็นดู ดูก็รู้ว่าชานยอลกำลังปิดบังอะไรบ้างอย่างเด็กคนนี้เป็นอย่างนี้ประจำเวลาที่สนใจอะไรแล้วไม่อยากให้ใครรู้

"เด็กบ้า พี่ไม่ได้ตัวคนเดียวแบบเธอนิ อิลซันงอแงน่ะร้องจะตามมาให้ได้นี่ก็ให้พ่อเค้าพาด้วยเดี๋ยวคงจะตามมาเพราะพี่ต้องเข้าประชุมบอร์ดผู้บริหารน่ะ"สายตาคนเป็นพี่ดูอ่อนโยนลงอีกโข เมื่อผู้ถึงลูกชายวัย 3 ขวบที่อยู่ในวัยช่างพูดอย่างนู๋น้อย ปาร์ค อิลซัน หลานชายคนแรกของตระกูล ปาร์ค

"ว่าแต่เราเถอะเข้าบริษัทมาแต่เช้ามีอะไรรึเปล่า หรือสนใจเข้าประชุมแทนพี่"เพียงแค่พี่สาวคนสวยพูดจบ ชานยอลก็ได้แต่เบ้หน้าก่อนจะส่ายหัวเป็นเชิงปฎิเสธ

"เข้าไปให้ตาแก่พวกนั้นรุมทึ้งผมน่ะหรอ ไม่เอาด้วยหรอก ผมรอพี่ลู่หานอยู่น่ะ"เมื่อนึกถึงสิ่งที่อยู่ในมือของคนที่กำลังเดินทางมา คนที่เข้าบริษัทแต่เช้าก็อดไม่ได้ที่จะยกยิ้มที่มุมปากอย่างคนเฝ้าหวังอะไรบางอย่าง บางอย่างที่ทำให้นึกไปถึงคนตัวเล็กที่มีดวงตากลมโตแต่ก็แฝงไปด้วยความเศร้าแบบที่ ปาร์ค ชานยอลคนนี้อยากเข้าไป ปกป้อง ไม่ให้ตากลมโตคู่นั้นไม่ต้องเศร้าไปกว่านี้

"แหนะๆ พี่ว่ามันต้องมีอะไรซักอย่างแน่นอน เพราะไม่งั้นเธอไม่รอลูลู่แต่เช้าแบบนี้หรอก ว่าแต่ทำใมไม่นัดไปเจอกันที่บ้านละ"ทันทีที่พูดจบนารีก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาเบาๆไม่ได้ นี่เธอลืมได้อย่างไร ว่าทุกในทุกเช้าคุณหนูตระกลู โด คู่หมั้นของน้องชายจะต้องมาร่วมรับประทานอาหารเช้ากับที่บ้านของเธอเป็นประจำ แต่เมื่อเหลือบไปเห็นสีหน้าไรอารมณ์ของน้องชายคนเป็นพี่ต้องรีบเก็บอาการทันที

"รู้แล้วน่า รู้แล้ว พี่ไม่แกล้งเธอแล้วก็ได้ พี่ต้องไปแล้วชานยอล ว่างๆก็แวะไปที่บ้านบ้างสิ อิลซันบ่นถึงประจำเลย คุณจงชินก็เหมือนกันบ่นตลอดว่าช่วงนี้น้องชายคนสำคัญของเขาพักนี้ไม่ค่อยเข้าไปหาที่บ้านบ้างเลย"บอกน้องชายพร้อมกับพาร่างสมส่วนที่ไม่บอกก็ไม่มีใครรู้ได้ว่านี่คือคุณแม่ลูกหนึ่ง เดินไปที่ประตูก่อนจะหยุดฟังน้องชายตัวสูง

"ครับพี่แล้วผมจะแวะเข้าไป ฝากบอกพี่จงชินกับอิลซันด้วยนะครับ"บอกพี่สาวคนสวยเสร็จชานยอลก็หันกลับไปให้ความสนใจกับมือถือในมืออีกครั้งหนึ่ง อย่างคนที่พี่สาวอดไม่ได้ที่จะส่ายหัวน้อยๆ ก่อนจะเปิดประตูออกไปจากห้องทำงานน้องชาย

ความเป็นจริงแล้วถ้านับความสนิทที่สุดในบ้านรองลงมาจากพ่อแล้วคนที่ชานยอลรักและสนิทไม่แพ้กันคงจะเป็น ปาร์ค นารี พี่สาวคนเดียวของเขา ที่ตอนนี้แต่งงานกับ จาง จงชิน คุณชายของบ้านจางเจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เจ้าใหญ่อีกหนึ่งรายที่แม่ขอเขาจัดหามาให้พี่สาวดูตัว ก่อนจะจัดการให้ทั้งสองคนแต่งงานกันทันทีหลังจากที่ได้เจอกันเพียง 5เดือน เหตุผลง่ายๆทางธุรกิจเพื่อเสริมความแข็งแกร่งของตัวเอง สองตระกูลที่จับธุรกิจประเภทเดียวกัน หากไม่เป็นศัตรูกันไปซะก็คงจะต้องเป็นเหมือนพี่นารี เกื้อกูลกันด้วยคำว่าครอบครัวเดียวกัน ตลกสิ้นดีสำหรับปาร์ค ชานยอล ยอมรับว่าครั้งแรกที่รู้ข่าวเป็นเค้าที่โกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง ยืนยันให้ตายยังไงก็ไม่มีวันให้พี่สาวแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รักแน่นอน แต่แล้ว จาง จงชิน กลับเดินเข้ามาหาเค้าเอง คุณชายตระกูล จาง คนนั้นพาเค้าและพี่สาวไปทานอาหารค่ำท่ามกลางบรรยากาศโรแมนติก ก่อนจะป้อนคำถามที่ในตอนนั้นเค้ามองว่ามันไรสาระสิ้นดี

'ชานยอล นายรู้จักรักแรกพบใหม ฉันเองเมื่อก่อนก็ไม่รู้จักหรอกนะ แต่ครั้งหนึ่งฉันต้องเข้าไปดูตัวกับผู้หญิงคนหนึ่งที่แม่แนะนำให้ ในระหว่างที่กำลังขับรถ ชานยอลนายรู้ใหมฉันเห็นอะไร ฉันเห็นผู้หญิงคนหนึ่งกระโดดมาขวางหน้ารถฉัน ตอนนั้นฉันเบรกตัวโก่งเลยละ แต่พอเธอเงยหน้าขึ้นมาฉันก็รู้ได้ทันทีเลยว่า คนนี้เหละที่จะเข้ามาเติมเต็มบางอย่างในชีวิตให้ฉัน หน้าตลกใหมละชานยอล ในตอนนั้นแทนที่ฉันต้องโกรธ แต่ฉันกลับไม่มีคำพูดอยู่ในสมองแม้แต่คำเดียว ก่อนจะพบว่าผู้หญิงคนนั้นคือพี่สาวนาย นั่นเหละคือรักแรกพบละชานยอล' ในตอนนั้น ชานยอลจำได้ดีว่าตัวเองได้แต่ขึ้นเสียงใส่จมูก ก่อนจะมองว่ามันไร้สาระสิ้นดี แต่พอได้มองไปที่สายตาของพี่สาวกลับพบประกายบางอย่างที่ไม่สามารถทำให้เค้าพูดได้อย่างใจคิดนอกจากคำว่า

'ถ้าพี่นารี ต้องเสียใจเพราะคุณผมไม่เอาคุณไว้แน่'แทนทีฝ่ายตรงข้ามจะโมโหกับความไร้มารยาทของเค้าฝ่ายนั้นกลับตอบกลับมาด้วยรอยยิ้ม

'ด้วยชีวิตของฉัน ชานยอล'ไร้สาระสิ้นดี นั่นคือความคิดของผมในตอนนั้น ผมยืนยันความคิดของตัวเองมาโดยตลอดจนกระทั่งเมื่อวาน ตอนที่เค้าได้เจอกับคนตัวเล็กคนนั่นมันทำให้เค้าได้รู้ว่าอาการแบบที่พี่เขยเขาเป็นตอนเจอพี่นารีนั้นเป็นแบบไหน เมื่อคิดถึงตรงนี้ริมฝีปากหนาก็ยกยิ้มขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ เมื่อวานเขาอยากจะดึงร่างเล็กเข้ามาแนบอกเพื่อปลอบประโลมมากแค่ไหนไม่มีใครรู้เท่า ปาร์ค ชานยอลคนนี้หรอก

ส่วนคุณนาย ปาร์ค ซูยอง แม่ของเค้า อาจจะดูโหดร้ายและหยาบคายแต่สำหรับชานยอลแล้ว ระหว่างเค้ากับแม่เมื่อมีระยะห่างอะไรบางอย่างที่คอยกั้นอยู่ ระยะห่างที่เค้าไม่คิดที่จะขยับเข้าไปและแม่ก็ไม่คิดจะขยับเข้ามา จนระยะห่างนั้นมีมากเพิ่มขึ้นเมื่อแม่หาผู้หญิงที่เป็นคู่หมั้นมาให้ อย่างคุณหนู โด ชินอา คู่หมั้นที่เค้าไม่เคยต้องการซักนิดเดียว เพราะทุกครั้งแม่มักจะบังคับให้เขาทำตามใจคุณหนูตระกลูโดไปซะทุกอย่าง นั่นเหละที่มันทำให้เขาเบื่อ

ก๊อกๆๆๆ.....

"คุณชานยอลค่ะ คุณลู่หานมาแล้วค่ะ ให้เชิญด้านในเลยใหมค่ะ"เสียงเคาะประตูดังขึ้นก่อนจะตามตัวเสียงของเลขาสาวที่นานๆครั้งจะได้ทำหน้าที่เพราะน้อยหนที่เจ้านายจะเข้าบริษัทที่เปิดประตูมาเอ่ยกับเจ้านายที่นั่งอยู่ภายในห้อง

"ให้เข้ามาได้เลย"สิ้นคำสั่งไม่นานนักพี่ชายสนิทก็เดินเข้ามาพร้อมซองเอกสารในมือที่ทำเอาคนมองแทบเก็บอาการไว้ไม่อยู่

"ไม่ยักรู้ว่าเดี๋ยวนี้จะเจอนายต้องให้เลขาเข้ามาบอกก่อน"ลู่หานเอ่ยแซวคนเป็นน้องเสียงกลั้วหัวเราะเมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าไม่ได้สนใจการมาถึงของเขาซักเท่าไร นอกจากดวงตาโตๆคู่นั้นกลับไปอยู่ที่ซองเอกสารในมือ

"คนของแม่น่ะ จุ้นจ้านตายชักถึงไม่ค่อยเข้าบริษัทไง แล้วนี่ทำใมพี่ถึงได้มาช้านัก"ถามทั้งๆที่สายตายังไม่สามารถละออกจากซองเอกสารได้ อย่างที่คนเป็นพี่ชายได้แต่ส่ายหัวน้อยๆอย่างเอ็นดู ท่าทางประวัติคนในซองจะน่าสนใจจริงเพราะตั้งแต่เค้าเข้ามายังไม่เห็นน้องชายตัวสูงจะละสายตาไปที่อื่น

"ใจร้อนน่า ชานยอล อ่ะนี่ประวัติของเด็กผู้ชายคนนั้น"พูดพร้อมกับยื่นซองสีน้ำตาลในมือให้กับน้องชายก่อนจะพาตัวเองไปนั่งที่โซฟาพร้อมเปิดซองที่อยู่ในมือของตน

"นี่มันอะไรกัน อะไรของพี่เนีย ซี ลู่หาน ล้อผมเล่นรึไง"ยังไม่ทันที่คนเป็นพี่จะได้เปิดซองของตนกลับต้องเงยหน้ามามองน้องชายที่ร้องเรียกเสียก่อน

"อะไรของนาย"เอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ เมื่อน้องชายไม่ยอมตอบคำถามเพียงแค่ยื่นกระดาษที่ในมือมาให้เค้าแทน แผ่นเดียว คิ้วเรียวได้รูปขมวดเมื่อเห็นกระดาษแผ่นน้อยในมือ เป็นไปได้ยังไงถึงแม้จะเป็นแค่คนธรรมดาทั่วไปประวัติไม่น่าจะน้อยได้แค่กระดาษ A4 เพียงแค่แผ่นเดียว หรือคนของเค้าทำงานพลาด คนเป็นพี่คิดพลางเอื้อมมือไปหยิบซองสีน้ำตาลของตนขึ้นมาพร้อมดึงของในซองออกมา ไม่ต่างกัน กระดาษ A4 เพียงแค่แผ่นเดียวที่มีประวัติของคนแก้มป่องอยู่ น้อยเกินไปสำหรับการพิมพ์ประวัติของใครซักคน

"ซิ่่วหมิน อายุ26 มีน้องชาย 1 คน ชื่อ ดีโอ อะไรกันเนีย"ลู่หานพึมพำกับตัวเองก่อนจะคว้าโทรศัพท์หาคนสนิททันที

"เซฮุน ขึ้นมาหาฉันที่ห้องทำงานชานยอลเดี๋ยวนี้"ทันทีที่วางสายมือเรียวก็วางซองเอกสารลงกับโต๊ะเพื่อรอคนสนิทขึ้นมาอธิบายกับเหตุการณ์ทั้งหมด มองหน้าน้องชายที่นั่งทำหน้าบึ้งอยู่ก็อดไม่ได้ที่จะเขวะขึ้นมา

"ไม่เอาน่าชานยอล เซฮุนน่าจะมีคำอธิบายดีๆให้เราเองละน่า อย่างน้อยในประวัติของนายก็รู้นี่ว่า น้องเรียนดนตรีอยู่ที่ไหน อย่างน้อยประวัติของนายก็ยังมีมากกว่าของฉันอีก ที่รู้แค่ชื่อ อายุ อ่อแล้วรู้อีกอย่างว่ามีน้องชายอีหนึ่งคน" คำพูดติดตลกที่ไม่ได้ทำให้สีหน้าน้องชายดีขึ้นซักนิด อีกทั้งยังทำให้ใบหน้าหล่อเหลานั่นบึ้งลงไปหนักกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำ รอได้ไม่นานนักคนที่ถูกเรียกตัวก็ยื่นหน้านิ่งสงบอยู่กลางห้องทำงานของ ปาร์ค ชานยอล โอ เซฮุน บอดี้การ์ดที่ตามพี่ชายมาจากเมืองจีน ที่เค้ารับรู้มาจาก ลู่หานอีกทีว่าเป็นลูกน้องเก่าของเพื่อนสนิทของพี่ชาย แต่เจ้านายเก่าเกิดเสียชีวิตไปพี่ชายเค้าจึงให้มารับหน้าที่เป็ดบอดี้การ์ดของพี่ชายเค้าเอง

"เซฮุน ประวัติของคนที่ฉันให้นายสืบมีอะไรผิดพลาดรึป่าว ทำใมมันถึงได้ดูไม่มีอะไรนอกจาก ชื่อ อายุ แล้วก็ครอบครัวนิดหน่อย" ลูห่านเอ่ยถามบอดี้การ์ดที่ยืนนิ่งก่อนจะยื่นกระดาษแผ่นบางทั้งสองแผ่นให้คนตรงหน้าก่อนที่ร่างสูงจะรับเอกสารแล้วเปิดออกดู นี่เป็นครั้งแรกของตลอดเวลาที่ โอ เซฮุน คนนี้ทำงานบอดีการ์ดมาการทำงานที่เรียกไม่ได้เลยว่านี่คือการสืบหาประวัติของสุดยอดอดีตบอดี้การ์ด บอกได้คำเดียวว่าแม่มโคตรชุ่ย คงจะไม่มีเหตุผลอื่นอีกแล้วที่ไอ้เพื่อนสนิทตัวดีของเค้าทำแบบนี้นอกจากต้องการกวนประสาท

"เอ่อ..ผมว่าเรื่องนี้น่าจะมีความผิดพลาดอะไรบางอย่างแน่นอนครับผมขอเวลาอีกหน่อยได้ใหมครับ แล้วผมรับรองว่า ประวัติแบบระเอียดของทั้งสองคนจะต้องถึงมือของคุณชายทั้งสองแน่นอนครับ"แม้จะไม่ถูกใจเจ้านายทั้งสองมากนักแต่ โอ เซฮุน ก็โล่งใจได้หน่อย ที่เจ้านายอย่างคุณลูห่านพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาติก่อนจะบอกให้เค้าไปทำตามคำสั่ง แม้จะมีเสียงบ่นด้วยความไม่พอใจของน้องชายเค้าบ้างละ อ่า....จริงถ้าเรื่องนี้จะต้องมีใครซักคนที่ต้องรับผิดชอบระก็ต้องเป็นหมอนั่นคนเดียว แค่เมคประวัติคนสองคนขึ้นมาก็ทำให้เค้าต้องปวดหัวซะแล้ว สงสัยคงต้องคุยกันซะหน่อยนะ "ไคจัง"

"ไล่ออกไปเลยดีกว่าถ้าทำงานแบบนี้ ผมแนะนำ ปกติคนของพี่ไม่เป็นแบบนี้นี่นา" เสียงคนอายุน้อยกว่าแต่ตัวสูงนั้นบ่นพร้อมกับสาวเท้าออกมาจากโต๊ะทำงานตรงดิ่งไปที่ประตูจนลูห่านได้แต่เดินตาม

"ไม่เอาน่าชานยอล เซฮุนก็บอกแล้วไงเค้าจะหาให้ใหม่น่า ใจเย็นสิ แล้วนี่นายจะไปไหนน่ะ"บอกเหตุผลน้องชายพร้อมเอ่ยตามเมื่อเห็นคนตัวสูงมุ่งหน้าไปยังลานจอดรถ ชานยอลชะงักก่อนจะหันหน้ามามองพี่ชาย ริมฝีปากหนายกยิมชวนมองก่อนจะหันหลังกลับเข้าไปในบริษัทอีกครั้ง พร้อมกับประโยคที่ ซี ลูห่านได้แต่หัวเราะชอบใจ

"ก็โรงเรียนสอนเปียโนนั่น เลิกสอนตอนเที่ยงไม่ใช่หรอ ระหว่างนี้ผมว่าจะพาอิลซันไปหาอะไรกินก่อน แล้วค่อยพาไปกินอาหารกลางวันที่ร้านอาหารอิตาเลี่ยนแถวนั้นซะหน่อย ว่าแต่พี่เถอะจะไปด้วยกันกับผมรึป่าว"ถ้าปฏิเสธตอนนี้แล้วปล่อยให้น้องชายรุกเดินหน้าทำคะแนนกับคนน้องของคนตาโตนั่นคนเดียวละก็ อย่ามาเรียกเค้า ว่า ซี ลูห่าน เชียวนะ

---------------------------------------------------------------------------------------------

เย้!!!!ครบ100%แล้วไม่ทิ้งแน่นอนค่ะสัญญาเลย onniไม่มีต้นฉบับด้นสดเลยอาจจะช้าบางแล้วก็ดูแปลกๆแต่ไม่ทิ้งแน่นอนค่ะ เป็นกำลังใจให้ด้วยนะคร้าบ เม้นส์เล็ก onniแสนดีใจไม่เม้นส์ไม่เป็นไรของแค่มีคนอาจก็พอ แต่ถ้าเม้นส์บอกเลยว่ารักโคตรอ่ะ><

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา