พ่อบ้านปีศาจ ภาคชิเอลเป็นปีศาจ บท3 YAOI 18+

9.8

เขียนโดย sebbynoi

วันที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2557 เวลา 09.51 น.

  31 บท 3 ตอน พ่อบ้านผู้นั้นกับการแข่งขัน
  11 วิจารณ์
  53.08K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2557 09.55 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

2) ตอนที่ 2

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

แล้วในตอนนี้เซบาสเตียนเดินขึ้นบันไดไปที่ชั้นสามเพื่อไปหาที่ระบายความเครียดที่ห้องเปียโน เวลาเขาเบื่อๆเซ็งๆขึ้นมาก็มักมาเล่นเปียโนคนเดียวเสมอก่อนที่นายน้อยจะมาอาศัยอยู่ที่นี่ด้วยซ้ำ
ตึ่ง ตึ้งๆๆๆๆๆ เสียงการดีดเปียโนเพลง เพลงหนึ่งที่แสนไพเราะฟังแล้วรื่นหูเป็นเพลงที่เขาเคยเล่นประจำตอนอยู่ที่นี่ 
"เอ๊ะ เสียงเปียโนนี่ เจ้านั่นเล่นเปียโนงั้นเหรอ อืม อยากไปฟังใกล้ๆจังๆ "ชิเอลที่กำลังนอนเล่นอยู่ค่อยๆตะเกียกตะกายลุกขึ้นมานั่งแล้วหลับตาฟังเสียงเพลงอย่างเพลิดเพลิน เป็นเพลิงที่ไพเราะจริงๆ เพราะจนอยากจะเดินไปฟังใกล้ๆ
และด้วยความที่อยากฟังเพลงที่แสนไพเราะนั้นใกล้ๆชิเอลหลับตาลงดูเหมือนว่าร่างกายจะลืมความเหนื่อยล้าไปค่อยๆลุกขึ้นมายืน แล้วขาเรียวเล็กไร้เรี่ยวแรงทั้งสองก็ค่อยๆขยับก้าวเดินตรงไปยังประตูตายังคงหลับสนิทราวกับร่างกายถุกเสียงเปียโนนั้นควบคุมให้ทำงานของมันเอง
ชิเอหลับตาเดินออกมาจากห้อง แล้วค่อยๆเดินขึ้นบันไดไป ทีละก้าว ทีละก้าว จนมาถึงทางที่จะไปห้องเปียโน เท้าของเขาก้าวเดินตรงไปเรื่อยๆ ใกล้เข้ามาเรื่อยๆแล้ว อีกไม่นานก็จะถึงห้องเปียโน
จนกระทั่งเท้าของชิเอลนำพามาหยุดอยู่ที่หน้าประตูห้องเปียโน แล้วเขาก็ค่อยๆลืมตาขึ้นเมื่อการบรรเลงเพลงของเซบาสเตียนนั้นจบลงพอดี
"หึ ไม่นึกว่าขนาดปีศาจอย่างนายน้อยยังหลงเสน่ห์ของเสียงเพลงนี้จนถึงกลับฝืนสังขาลตัวเองเดินมาฟังถึงที่นี่เลยหรือขอรับ"เซบาสเตียนหันมายิ้มเยาะทักทาย
"อ๊ะ นะนี่ฉันทำไมถึงได้..เดินมาได้ล่ะ ก็ร่างกายของฉันมันล้าจนแทบจะลุกไม่ขึ้นเลยไม่ใช่เหรอ"ชิเอลร้องถามอย่างตกใจที่ตนเองสามารถเดินขึ้นมาถึงห้องเปียโนได้ เป็นไปได้ยังไงกันก็เขาแทบลุกไม่ขึ้นเลยนี่นา
"จิตเป็นนาย ร่างกายเป็นบ่าว หากจิตบอกว่าล้าเดินไม่ไหว ร่างกายก็จะล้าตามไปด้วย ยิ่งจิตเริ่มอ่อนแอ ร่างกายก็จะยิ่งอ่อนแอตามไปด้วย และนี่ก็คือข้อพิสูจน์ว่า จิตของคุณสามารถสั่งร่างกายได้ยังไงล่ะขอรับ "เซบาสเตียนพูดขึ้นมาเหมือนจะสั่งสอนแต่ออกไปทางให้คำแนะนำมากกว่า
"แล้วทำไมฉันถึงได้มาหานายถึงที่นี่ได้ หรือว่าเสียงเปียโนนั้นมันสะกดจิตฉัน"ชิเอลถามมองดูเปียโนนั่นอย่างไม่ไว้ใจ
"ไม่ใช่ขอรับ จิตของนายน้อยเองต่างหากที่บอกว่าอยากฟังเสียงเพลงนี้ใกล้ๆร่างกายก็เลยเกิดแรงฮึดเพื่อให้ทำความปรารถนาจนสามารถเดินมาฟังได้ด้วยตัวเองยังไงล่ะและอีกอย่างหนึ่ง ดาร์กชิลก็กำลังพยายามช่วยคุณอยู่นะ ผมอดชื่นชมเขาไม่ได้จริงๆที่สามารถทำให้คุณลุกขึ้นมาจากเตียงเดินมาหาผมที่นี่ได้ ดังนั้นผมคิดว่า หากเด็กคนนั้นมีความพยายามมากขนาดนี้ นายน้อยเองก็น่าที่จะพยายามด้วยสิขอรับ ถ้าคุณถอดใจไม่ฮึดสู้ เด็กคนนั้นก็คงแย่"เซบาสเตียนพูดด้วยท่าทีจริงจัง
"เฮ้อ.....ในเมื่อดาร์กชิลพยายามขนาดนี้ อุตส่าห์ทำให้ฉันสามารถเดินมาได้นี่ ฉันคงต้องพยายามด้วยตัวเองบ้างแล้วล่ะ เรื่องอะไรจะพึ่งพาเจ้าปีศาจน้อยนั้นเพียงอย่างเดียวกันล่ะ ตกลงเซบาสเตียน ฉันจะลองสู้ดูสักครั้ง"ชิเอลถอนใจก่อนจะตัดสินเงยหน้าขึ้นมาพูดด้วยท่าทีมุ่งมั่น เขาจะต้องไม่เป็นตัวถ่วงดาร์กชิลเป็นอันขาด เขาจะต้องพัฒนาตัวเองห้แข็งแกร่งขึ้นให้ได้เลย
"ฮ้า...จริงเหรอนายน้อย "เซบาสเตียนเบิกตาโตร้องถามอย่างดีใจ
"อืม"ชิเอลพยักหน้าแล้วยิ้มให้อย่างมุ่งมั่นเข็มแข็ง
"ยอดไปเลย งั้นตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป ผมจะเป็นครูฝึกให้คุณเอง รับรองเลยว่าคุณจะต้องแข็งแกร่งขึ้นและพร้อมก่อนที่จะถึงวันแข่งแน่นอน"เซบาสเตียนพูดอย่างตื่นเต้นดีใจ และเริ่มมีความหวังขึ้นมาแล้ว
"หึ แล้ววันแข่งวันไหนกันล่ะ ฉันอ่านในใบปลิวนั่นไม่ออกหรอกนะ ภาษาอะไรก็ไม่รู้ "ชิเอลหลับตาพูดยืนกอดอก
"วันที่สามของเดือนนี้ขอรับ"เซบาสเตียนบอกยิ้มๆ
"วันที่สาม!!อีกแค่สามวันเองงั้นเหรอ"ชิเอลร้องอย่างตกใจ มีเวลาแค่สามวันเนี่ยนะแล้วแบบนี้จะฝึกทันได้ยังไง ไม่มีทางเป็นไปได้เลย
"สามวันโลกปีศาจต่างหากเล่า ถ้าเทียบกับที่โลกมนุษย์นี่น่าจะหลายเดือนอยู่นา เอ...เดี่ยวไปหาปฎิทินโลกปีศาจก่อน ผมเอาไปเก็บไว้ไหนน้า"เซบาสเตียนรีบแก้ไขความเข้าใจผิดให้ พรางลุกขึ้นจากเปียโน เดินออกไปจากห้องเพื่อไปค้นหาปฎิทินโลกปีศาจที่เขาเคยเก็บเอาไว้ตอนมาอยู่ที่เมืองมนุษย์เมื่อหลายปีก่อน
"เดี่ยวๆปฎิทินโลกปีศาจนี่มันคืออะไรอ่ะ เอามาใช้กับโลกมนุษย์ได้ด้วยเหรอ ก็ไหนนายบอกว่าเวลามันต่างกันมากเลยนี่นา"ชิเอลเดินตามถามเวบาสเตียนไปตลอดทางที่เจ้านั่นกำลังเดินเข้าห้องนั้นออกห้องนี้ เอาแต่ก้มหน้าก้มตาลื้อค้นข้าวของตามโต๊ะตามตู้ตามลิ้นชักไปเพื่อค้นหาของสำคัญที่จะต้องใช้ในตอนนี้ให้เจอให้ได้
"ใช่เวลามันต่างกันมากดังนั้นปฎิทินนั้นจึงสำคัญเอามากๆหากหาไม่เจอล่ะก็จะไม่มีทางรู้เลยว่าตอนนี้โลกปีศาจผ่านไปกี่วันแล้ว"เซบาสเตียนพูดในขณะที่กำลังค้นหาของไปด้วย
ชิเอลยืนดูอยู่ใกล้ๆอย่างสนใจและคอยลุ้นว่าพ่อบ้านของเขาจะหาปฎิทินอะไรนั่นเจอมัย
"และถ้าหากหาไม่เจอนายจะทำยังไงล่ะ"ชิเอลลองถามหยั่งเชิงดู
"ก็คงต้องกลับไปหาซื้อที่โลกปีศาจ แต่กว่าจะมาที่นี่ก็ผ่านไปหลายวันแล้วล่ะ เอ..ทำไมถึงหาไม่เจอน้า จำไม่ได้แล้วด้วยสิว่าเอาไปเก็บไว้ไหน"เซบาสเตียนพึมพำอย่างกลัดกลุ้มขมวดคิ้วมุ่นลองนึกดูว่าเขาเอาไปเก็บไว้ไหน เพราะตอนที่มาที่นี่ใหม่ๆเขาไม่ได้จะใส่ใจกับปฎิทินนี่เลยวางส่งๆไปสะเปะสะปะ เพราะตอนนั้นคิดว่าไม่จำเป้นต้องใช้ของสิ่งนั้นแล้ว
"แล้วของสำคัญแบบนี้ทำไมนายไม่เก็บให้มันดีๆเล่า สัพเพร่าจริงเลยนายนี่"ชิเอลด่าเข้าให้
"ก็ตอนนั้นมันไม่สำคัญนี่ขอรับ ผมเลยไม่ได้ใส่ใจจะจดจำว่าเก็บไว้ไหน"เซบาสเตียนหันมาแก้ต่างอย่างไม่สบอารมณ์ 
และในระหว่างที่เซบาสเตียนกำลังค้นหาผีลืมหลุมก็ตามมาทวงหนี้ เอ้ยทวงของเซ่นไหว้ทันที
"อ้าวเซบบี้กับมาแล้วเหรอ ไหนอ่าของเซ่นไหวของเจ๊ เห็นเจ้าบอกว่ากลับมาจากธุระแล้วจะมาทำของเซ่นไหวชุดใหญ่ให้เจีไม่ใช่เหรอตัวเอง"เจ้าผีลืมหลุ่มลอยละล่องมาทวงอาหารยิกๆ
"เอาไว้ก่อนและกันเจ๊ ผมกำลังยุ่ง"เซบาสเตียนบอกพรางก้มหน้าก้มตาค้นหาของต่ออย่างร้อนรน
"นั่นเจ้ากำลังหาอะไรอยู่เหรอ เซบบี้"ผีลืมหลุดถามอย่างสงสัย
"ปฎิทินโลกปีศาจน่ะครับ ผมจำไม่ได้ว่าเอาไปเก็บไว้ไหน บ้านก็มีแค่นี้ทำไมถึงหาไม่เจอกันน้า"เซบาสเตียนหันมาบอกก่อนจะ บ่นไปค้นหาของไป ชิเอลก็ยืนดูเฉยไม่ช่วยหาเลย
"ปฎิทินงั้นเหรอ หน้าตามันเป็นยังไงล่ะ"เจ้าผีลืมหลุมถามอย่างสนใจ เผื่อเขาจะช่วยหาอีกแรง เซบี้ของเขาจะได้มีเวลาทำเครื่องเซ่นไหว้ให้ซะที
"ก็มีตัวเลข มีตาราง เหมือนปฎิทินที่โลกมนุษย์น่ะแหละแต่มันทำมาจากหนังมนุษย์"เซบาสเตียนบอกอย่างกังวล เอามือปาดเช็ดเหงื่อที่ผุดขึ้นบนใบหน้า เขาเริ่มร้อนขึ้นมาจากการค้นหาของ
"หนังมนุษย์ 0_0!! อุ๊บ"ชิเอลถึงกลับนิ่งอึ้งไปเอามือมาปิดปากทำท่าเหมือนกับจะอาเจียนขึ้นมา เขาชักจะไม่อยากเห็นไอ้ปฎิทินโลกปีศาจขึ้นมาซะแล้วสิ ก้เล่นจับมนุษย์มาถลกหนังเอามาทำปฎิทินแบบนี้ มันน่ากลัว น่าสยดสยองสุดๆเลยนี่นา
"ต๊ายไอ้แผ่นนั้นมันทำมาจากหนังมนุษย์หรอกเหรอ อี๋ๆ น่าสยอดสยองจริงๆ เจ๊ไม่น่าเอาไปเล่นเลย กรี๊ดๆอกอีแป้นจะแตก กรี๊ดดด"เจ้าผีลืมหลุมเกิดนึกขึ้นมาได้ในทันทีว่าตนเคยแอบหยิบแผ่นหนังนั่นไปเล่นตอนที่เซบาสเตียนพึ่งมาอยู่ใหม่ๆและดูท่าเขาจะไม่สนใจเหมือนจะทิ้งของสิ่งนั้นไปแล้ว
"อะไรนะ!!"ทั้งชิเอลและเซบาสเตียนต่างหันมาถามเจ๊ผีนั้นอย่างตกใจ ที่แท้ตัวการที่เอาไปก็คือเจ๊ผีนี่เอง
"นี่เจ๊แอบเอาของๆผมไปงั้นเหรอ เอาคืนมานะ เจ๊ทำแบบนี้ได้ยังไง นั่นมันของๆผมนะ"เซบาสเตียนหันมาพูดด้วยท่าทีเอาเรื่อง
"แหม ใจเย็นๆสิ ก็เจ๊คิดว่าเซบบี้ทิ้งแล้วนี่นา เห็นมาถึงบ้านก็โยนแผ่นนั้นทิ้งแมะอยู่บนโต๊ะ เจ๊เคยถามเจ้าว่าของสิ่งนั้นเจ้าใช้หรือเปล่า เจ้าก็บอกว่าไม่ใช้ เจ๊ก็เลยคิดว่าเจ้าจะทิ้ง เจ๊เห็นว่ามันแปลกดีเลยหยิบเอามาดูเล่น ตอนแรกเจ๊ตั้งใจจะคืนแต่เซบบี้ก็ไม่เห็นจะสนใจเลยสักนิด กลับมาบ้านไม่ทันไรก็หนีเที่ยวแทบทุกวันบ้านช่องก็ไม่ค่อยจะกลับ เจ๊ก็เลยเก็บเอาไว้กลายเป็นสมบัติของเจ๊ไปน่ะสิ"เจ้าผีลืมหลุมรีบแก้ต่างในทันที แถมกล่าวโทษว่าเป็นความผิดของเซบาสเตียนอีกต่างหาก
ชิเอลหันมามองหน้าเซบาสเตียน เจ้าอีกานี่ทำตัวเสเพลมาตั้งนานแล้วเหรอ
"แหม..ก็ตอนนั้นมันไม่ใช้จริงๆนี่ แต่ตอนนี้ต้องใช้แล้ว เจ๊เอามาคืนผมเถอะนะผมจำเป็นต้องใช้จริงๆ"เซบาสเตียนพูดอย่างอายๆ ไม่กล้าหันไปมองดูนายน้อย ก็มันจริงนี่เขาไม่ได้ใช้เลยไม่สนใจ ดีแล้วล่ะที่เจ๊ฮอบบี้เก็บเอาไว้ไม่งั้นป่านนี้มันคงหายไปแล้วล่ะ
"ก็ได้แต่เซบบี้ต้องขอโทษเจ๊มาก่อนที่มาว่าเจ๊เมื่อกี๊ เจ๊อุตส่าห์เก็บเอาไว้อย่างดี นี่ถ้าไม่ได้เจ๊นะป่านนี้หายไปแล้วล่ะ เจ้านี่มันน่าตีจริงๆเลยเซบบี้ ตัวเองพูดเองแท้ๆมาทำเป็นลืม ด่าว่าเจ๊ซะยกใหญ่ เด๊ยะ เจ๊จับฟัดหอมแก้มทำโทษซะเลยนี่"เจ้าผีลืมหลุมได้ทีต่อว่าเซบาสเตียนใหญ่เลยแถมยังข่มขู่จะจูมพิตนรกเป็นการลงโทษอีก
"อึ้ย ไม่เอา!! นะเจ๊ บรึ๋ย ขะขนลุก -*-บางทีก็มีการลืมบ้างอะไรบ้างสิ เอ่อ..ขออภัยนะขอรับที่ว่าเจ๊ไปเมื่อกี๊ และก็ขอบคุณที่เก็บเอาไว้ให้นะครับ "เซบาสเตียนผละหนีส่ายหน้ารัวๆอย่างหวาดผวา เอามือลูบแขนด้วยท่าทางขนลุก รีบพูดขอขมาทันทีอย่างกล้าๆกลัวๆ 
ชิเอลเองก็ขวัญผวาเหมือนกันเกิดเซบาสเตียนโดนเจ๊ผีหอมแก้มขึ้นมาเขาคงช๊อกตาตั้งไปก่อนเจ้าตัวแน่ๆ
"หึหึหึ เอาหล่ะ รอเดี่ยวนะ เดี่ยวเจ้ไปหยิบมาให้ "เจ้าผีลืมหลุดพูดยิ้มๆก่อนหายตัววับไป ทิ้งให้เซบาสเตียนยืนลูบแขนตนเองไปมาหน้าซีดเหงื่อตก เขาอดหวาดผวาไม่ได้ที่จะโดนเจ๊ผีหอมแก้มเอา ยังดีที่รอดตายมาหวุดหวิด
"เจ๊ฮอบบี้นี่น่ากลัวเนอะ เซบาสเตียน ฉันยังขนลุกไม่หายเลยที่เจ๊นั้นทำท่าจะจูบนาย บรึ๋ย "ชิเอลหันมาบอกความรู้สึกของตนให้เซบาสเตียนฟัง พรางเอามือลูบเนื้อตัวอย่างหวาดผวา
"ขอรับ ผมเองก็ขนลุก นึกว่าจะโดนจูมพิตนรกซะแล้ว บรึ๋ย "เซบาสเตียนพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของชิเอลเป็นอย่างยิ่ง พรางเอามือลูบแขนตนเองไปมาให้มันหายลุกตั้งชัน
"ฉันว่าเราหยุดพูดเรื่องนี้เหอะ ยิ่งคิดฉันยิ่งขนลุก "ชิเอลบอกชวนให้เซบาสเตียนสนทนาเรื่องอื่นๆ
"ผมก็ว่างั้นแหละครับ"เซบาสเตียนตอบรับ
แล้วจากนั้นทั้งสองก็ยืนคอยเจ๊ผีกันเงียบๆเพราะไม่รู้จะพูดอะไรดี ขนยังลุกไม่หายเลย
และไม่นานเจ๊ผีลืมหลุมก็ลอยละลองเข้ามาพร้อมกับถือของมาด้วย 
"มาและจ้า ปฎิทินหนังมนุษย์ ยี๊ นี่ถ้าเจ๊ไม่ตายซะก่อนนะเจ๊คงไม่กล้ามาแตะของพรรณนี้หรอก อ่ะรับไปสิเซบบี้"เจ้าผีลืมหลุมพูดพรางยื่นส่งปฎิทินโลกปีศาจส่งให้เซบาสเตียน
"ขอบคุณครับที่เก็บเอาไว้ให้ อ่ะนายน้อยเอาไปดูสิ "เซบาสเตียนรับมาจากมือของผีลืมหลุมแล้วส่งต่อให้ชิเอลอีกที
"อี๋ไม่เอาอ่ะ น่าขยะแขยง นายถือไปเถอะ กลิ่นมัน อุ๊บ..อุ"ชิเอลรีบปฎิเสธทำหน้าสะอิดสะเอียดเอามือมาปิดปากก่อนที่ตนจะทนกลิ่นเหม็นร้ายกาจนี่ไม่ไหวจนอาจอาเจียนออกมาอีกก็ได้
แล้วไม่นานชิเอลก็ทนไมไหววิ่งหนีออกไปจากห้องแล้วก็ 
อ้วกกกกกกกกกกก อาเจียนออกมารดใส่พรมตามทางเดินในทันทีอย่างสุดจะกลั้น
"นายน้อย!!เป็นยังไงบ้างขอรับ"เซบาสเตียนรีบเดินออกมาดูพร้อมกับเอาปฎิทินติดมือมาด้วย ยิ่งทำให้ชิเอล
อ้วกกกกก อาเจียนใส่พ่อบ้านของตนในทันที จนของเก่าที่กินไปเมื่อคืนเปอะเลอะเสื้อผ้าชุดพ่อบ้านของเซบาสเตียนหมดกันเลยคราวนี้
"เฮ้อ...ให้ตายสิ..-*- เสื้อผ้าผมเลอะหมดเลยนะเนี่ย "เซบาสเตียนถอนใจทำหน้าบอกบุญไม่รับ มองดูสารรูปของตัวเองที่ดูไม่จืดเลยทีเดียว
"แฮ่กๆ ก็นายอยากเอาไอ้แผ่นเหม็นๆนี่มาใกล้ฉันทำไมกันเล่า แฮ่กๆ เอามันออกไปห่างๆฉันนะ อุ อุบ"ชิเอลร้องโวยหายใจหอบ รีบเดินหนีเซบาสเตียนและแผนหนังเหม็นๆร้ายกาจนี่ไปทันที พรางเอามือปิดปากเอาไว้ก่อนที่ตนจะอาเจียนออกมารอบที่สาม
เซบาสเตียนหรี่ตาลงในเมื่อเหม็นจนแทบอ้วกแบบนี้ยังไม่ชินล่ะก็ เขาจะทำให้ชินไปเองหนามยอกต้องเอาหนามบ่ง
"หึหึหึ อยากทำเสื้อผ้าเลอะดีนักต้องเอาคืนกันหน่อย เหม็นนักใช่มัย ได้ จะให้ดมจนกว่าจะชินเลย * _*"เซบาสเตียนพูดด้วยท่าทีน่าสะพรึงกลัว
แล้วเซบาสเตียนก็หายตัววับไปแล้วมาดักหน้าชิเอล
"จ๊ะเอ๋ จะหนีไปไหนขอรับ นายน้อย แผนหนังนี่มันบอกว่าอยากเจอคุณนะ"เซบาสเตียนพุดด้วยท่าทียิ้มหวานปานน้ำผึ้ง 
"เฮือก อุ อุบ เอามันออกไป อุบ"ชิเอลถึงกลับสะดุ้งเบิกตากว้างมองเซบาสเตียนอย่างหวาดผวา ท่าทีของเจ้าอีกานี่น่ากลัวสุดๆ
"อ่ะ ผมให้"เซบาสเตียนพูดพรางเอาแผ่นหนังปฎิทินนี่ยัดเยี่ยดใส่มือชิเอลอีกข้าง 
"เหวอ ไม่นะ ไม่เอา อุ อุบ"ชิเอลร้องลั่น รีบปล่อยมือทิ้งแผ่นหนังนี่ลงพื้นในทันที พรางรีบเอามืออีกข้างที่ไม่ได้แตะต้องแผ่นหนังมาปิดปาก ปิดจมุก 
"จะเอามือมาปิดปากทำไมล่ะ อ่ะเอาไปดูสิขอรับ ตอนนี้ที่โลกปีศาจนี่วันอะไรแล้ว"เซบาสเตียนพูดพรางก้มลงไปหยิบแผ่นหนังมนุษย์นั่นขึ้นมาจ่อหน้าจ่อตาชิเอลงานนี้เด็กหนุ่มคงโดนแกล้งสารพัดเลยล่ะ
"อุบ อุบ "ชิเอลเอามือปิดปากแน่นหลับตาปี๋ส่ายหน้ารัวๆ หน้าซีดเผือด เขาพยายามจะอุดปากเอาไว้ไม่ให้อาเจียนออกมา
"หึหึหึ กลิ่นแผ่นหนังนี่หอมดีนะขอรับ นายน้อยลองดมดูสิ" เซบาสเตียนพูดยิ้มๆค่อยๆแกะมือชิเอลออกจากปากของแล้วเอาแผ่นหนังนั้นมาจ่อที่จมูก 
และพอชิเอลเผลอไปสูดกลิ่นแผ่นหนังในระยะประชิดเข้าเท่านั้นแหละ
"เฮือก...แหงก + _+"แล้วชิเอลก็สลบคาที ชักแหงกๆนอนตายที่พื้นอย่างสงบ 
"อ้าว....สลบคาทีเลย ต้องเอาไปไว้ที่หัวนอนใกล้ๆหมอนนายน้อยซะและ หึหึหึ จะได้ชิน "เซบาสเตียนพูดยิ้มๆพรางเอามือมาหยิบแผ่นหนังยัดใส่กระเป๋ากางเกงแล้วรวบตัวชิเอลขึ้นมาอุ้มพาไปล้างตัวในห้องน้ำข้างบนในทันทีโดยเขาใช้ไฟนรกต้มน้ำในอ่างจนอุ่นได้ที่ เขาขี้เกียจลงไปต้มน้ำแล้วมันชักช้าไม่ทันใจ ใช้ไฟนรกสะดวกกว่าเป็นไหนๆ
แล้วเซบาสเตียนถือโอกาสอาบน้ำให้ตัวเองไปด้วยเลยเพราะไม่ได้อาบมาตั้งแต่เช้าแล้ว รวมทั้งเอาแผ่นหนังมาล้างทำความสะอาดด้วย มันจะได้ไม่ค่อยเหม็นเท่าไหร่
และพอจับชิเอลถอดเสื้อผ้าจะจับอาบน้ำล้างตัวจู่ๆเด็กหนุ่มก็สะดุ้งตื่นขึ้นมา
"อ๊ะ"ชิเอลลืมตาตื่นขึ้นมาก็หันมามองรอบๆอย่างตกใจนี่เขาถูกพามาอาบน้ำในอ่างงั้นเหรอ และพอหันมาสบตาเข้ากับดวงตาสีทับทิมที่กำลังจับจ้องมองเขาอยู่ในสภาพเปลือยทั้งคู่ เด็กหนุ่มก็รู้สึกโกรธขึ้นมาทันที
เพียะ และชิเอลก็ตบหน้าชายเจ้าของดวงตาสีทับทิมคู่สวยนั้นเข้าให้หนึ่งฉาดใหญ่ด้วยความโมโห
"กล้าดียังไงมาทำกับฉันแบบนี้ เซบาสเตียน"ชิเอลร้องโวยใส่อย่างโมโห ทำท่าจะตบตีเซบาสเตียนอีกแต่ชายหนุ่มกลับเอามือมาจับยึดข้อมือเอาไว้ไม่ยอมให้ตบอีก
"ก็นายน้อยอยากทำตัวน่าหมั่นไส้ทำไมล่ะขอรับ เหม็นนิดเหม็นหน่อยมาทำเป็นอ้วกใส่ แค่นี้ยังทนไม่ได้ แล้วแบบนี้จะไปอยู่โลกปีศาจได้ยังไงกัน กลิ่นที่นั่นรุนแรงกว่าเจ้าสิ่งนี้อีกนะ "เซบาสเตียนพูดต่อว่าพรางเอาปฎิทินปีศาจเอาขึ้นมาจ่อที่หน้าชิเอล
"อุบ"ชิเอลรีบเอามือมาปิดปากทันทีเขากำลังจะอาเจียนอีกแล้ว
"ถ้าแค่นี้ยังมารังเกียจ ขยะแขยงคลื่นไส้อาเจียนล่ะก็อย่าหวังเลยว่าผมจะพาคุณไปที่โลกปีศาจ เพราะถ้าขืนพาคุณไปคุณต้องอาเจียนไปจนขาดใจตายแน่ๆ"เซบาสเตียนพูดด้วยท่าทีจริงจัง
"ตะแต่ว่าฉัน อุ อุบ"ชิเอลพูดพรางทำท่าจะอาเจียนออกมาให้ได้ 
"ถ้ายังคิดที่จะไปอยู่กับผมที่นั่นก็หัดทำตัวให้ชินกับกลิ่นพวกนี้ซะ เอ้าเอาไปดู นี่คือเวลาที่เราจะต้องหมั่นดูอยู่เสมอ ตอนนี้ยังไม่ถึงวันที่หนึ่งของโลกปีศาจเลย ดังนั้นเรายังมีเวลาที่จะเตรียมตัวสำหรับการแข่งอีกมากโขทีเดียว"เซบาสเตียนพูดเสียงดุ ยัดเยียดแผ่นหนังนี่ใส่มือชิเอลอีก
ชิเอลไม่ยอมรับของสิ่งนั้นส่ายหน้างุดๆ เขามีท่าทีรังเกียจแผ่นหนังมนุษย์นี่ แต่เซบาสเตียนก็ยังยัดเยียดใส่มือให้เขาอีก
"เอาไปดูซะ และคุณจะเห็นว่าแผ่นหนังนี่ไม่ใช่แค่แผ่นเหม็นๆที่ไม่มีประโยชน์ มันจะบอกวันเวลากับเราทุกอย่างที่โลกปีศาจ เห็นจุดสีแดงนี่มัย ตรงนี้คือดวงจันทร์สีเลือด บ่งบอกว่าในตอนนี้ที่โลกปีศาจเป็นตอนกลางคืน และอักขระเหนือตัวเลขโรมัน คือชื่อของเดือน ที่โลกปีศาจเราไม่ได้เรียกชื่อตามเดือนของพวกมนุษย์หรอกนะ แต่เราใช้ชื่อของปีศาจสิบสองนางสนมเป็นชื่อเดือน"เซบาสเตียนอธิบายการใช้ปฎิทินโลกปีศาจให้ชิเอลฟัง
ชิเอลจึงยอมก้มลงมองดูแผ่นหนังนั้นด้วยความสนใจ เขาชอบเรียนรู้สิ่งแปลกๆใหม่ๆ
"สิบสองนางสนมของเจ้าแห่งความมืดงั้นเหรอ"ชิเอลหันมาถามอย่างสนใจ
"ใช่แล้วขอรับ"เซบาสเตียนบอกด้วยท่าทีจริงจัง
"แล้วสิบสองเดือนมีอะไรบ้างล่ะ"ชิเอลถามต่ออย่างสนใจพรางก้มลงมองดูอักขระเหนือตัวเลขโรมันไปด้วย ตอนนี้เขาเลิกอ้วกแล้วคงเริ่มจะชินแล้วเพราะเซบาสเตียนเอามาจ่อจมูกแบบนี้กับคำพูดดูแคลนทำให้เขาพยายามปรับตัวให้ชินกลับกลิ่นพวกนี้ซะ
"เอาไว้นายน้อยได้เรียนอักขระเมื่อไหร่ผมจะสอนให้ถ่องเดือนของปีศาจก็แล้วกันนะขอรับ การท่องเดือนสมัยที่ผมเด็กๆอาจารย์ปีศาจสอนให้ท่องเป็นเพลงจนจำขึ้นใจเลยล่ะ"เซบาสเตียนพูดพรางนึกถึงอาจารย์ที่สอนเขาที่โลกปีศาจขึ้นมาทันที
"หึ น่าสนุกดีนี่ แล้วเมื่อไหร่นายจะสอนฉันเรียนอักขระภาษารูนของปีศาจสักทีล่ะ"ชิเอลถามอย่างนึกสนุก เขาอยากภาษาปีศาจจะแย่แล้ว
"ไว้นายน้อยสามารถติดหนึ่งในสามของการแข่งขันเมื่อไหร่ผมจะสอนให้ขอรับ"เซบาสเตียนพูดต่อรองยิ้มๆ
"โห แล้วถ้าฉันตกรอบก็อดเรียนอักขระน่ะสิ "ชิเอลพูดอย่างกังวลเขาไม่มันใจเลยสักนิดว่าจะติดหนึ่งในสามของการแข่งขันหรือเปล่า เขากลัวว่าจะตกรอบแรกด้วยซ้ำ
"ถ้าหากนายน้อยตกรอบนายน้อยก็ต้องสอบกับผมให้ผ่าน"เซบาสเตียนพูดเงื่อนไข ถึงยังไงก็ให้โอกาสแก้ตัวอีกอยู่ดี ก็ถ้านายน้อยพยายามเต็มที่แล้วตกรอบมันก็ช่วยไม่ได้นี่นา เด็กปีศาจพวกนั้นอาจจะเก่งกว่าก็ได้
"อืม.อยางน้อย นายก็ยังให้โอกาสฉันน่ะนะ ค่อยมีกำลังใจขึ้นมาหน่อย"ชิเอลพูดอย่างโล่งอกไปเปราะหนึ่ง ถึงแพ้ตกรอบเขาก็ยังมีโอกาสสินะ
"ดังนั้นนายน้อยต้องพยายายามทำให้เต็มที่เลยนะขอรับ"เซบาสเตียนพูดพรางเอาสบู่มาถูเนื้อถูตัวให้ชิเอลไปพรางๆ
"ได้ฉันจะพยายาม อ่ะเอาไอ้แผ่นบ้าๆนี่คืนไปได้แล้ว เหม็นจะตาย"ชิเอลรับปากว่าจะพยายามทำให้เต็มความสามารถเลย พรางเอาแผ่นปฎิทินส่งคืนให้เซบาสเตียน เขาไม่อยากถือเอาไว้นานๆมันเหม็น
"ขอรับ เดี่ยวผมจะเอามันมาล้างทำความสะอาดสักหน่อย จะได้ลดกลิ่นลงไป "เซบาสเตียนตอบแล้วยื่นมือมารับเอามาวางเอาไว้ข้างๆอ่าง แล้วทำการจับชิเอลอาบน้ำต่อให้เสร็จๆไป รวมถึงการอาบให้ตัวเองไปด้วย
"อืม"ชิเอลหยักหน้ารับ แล้วนั่งหลับตาลงยอมให้เซบาสเตียนจับอาบน้ำแต่โดยดี 
จนกระทั่ง ไม่นานเซบาสเตียนก็อาบน้ำสระผมให้ชิเอลเสร็จเขาก็เดินไปที่ตู้เก็บผ้าเช็ดตัวเอามาสองผืน ผืนหนึ่งของตนเองอีกผืนของนายน้อย เอามาเช็ดๆตัวเช็ดหัวให้แห้งแล้วเอามาห่อพันเอวทั้งตนเองและเด็กของเขา ก่อนจะพากันออกไปจากห้องน้ำ
เซบาสเตียนพาชิเอลอุ้มมาวางนั่งลงบนเตียงแล้วเขาก็เดินไปที่ตู้หยิบชุดนอนตัวใหม่มาสวมใส่ให้ แต่ชิเอลตอบปฎิเสธ
"เซบาสเตียน ฉันไม่อยากใส่ชุดนอนแล้วล่ะ เอาชุดลำลองมาให้ให้ดีกว่านะ นี่พึ่งจะบ่ายเองไม่ใช่หรือไง"ชิเอลบอกเสียงเรียบ
"อ้อ ตามใจขอรับ"เซบาสเตียนพูดยิ้มๆตามใจนายน้อยของเขาเต็มที่ ไม่อยากใส่ชุดนอนก็จะใส่ชุดลำลองให้แล้วกัน
และเซบาสเตียนก็ค้นหาชุดลำลองมาให้ชิเอลทันที ซึ่งมีแต่ชุดสีดำ สีเทา ไม่ค่อยมีรูปแบบสักเท่าไหร่ ทำไมพวกปีสาจชอบใส่สีดำกันนักนะ
"ไม่มีสีอื่นบ้างเหรอ ฉันเบื่อสีดำ สีเทา สีขาวจะแย่อยู่แล้ว พาไปซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่หน่อยสิ"ชิเอลบ่นอย่างเซ็งๆ
"ขอรับ ว่าแต่อยากไปไหนล่ะ"เซบาสเตียนหันมาถามเสียงเรียบ
"กลับลอนดอน ฉันอยากกลับไปดูที่แฟนท่อมไฮด์สักหน่อย ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้ แต่ว่าขากลับอย่าลืมพาฉันไปหาซื้อชุดใหม่ด้วยละกัน ฉันเบื่อสีทึมๆจะแย่อยู่แล้ว"ชิเอลบอกกำหนดการของตนเอง
"ขอรับงั้นเราออกเดินทางกันเลยนะ"เซบาสเตียนพูดในขณะที่แต่งตัวให้ชิเอลอยู่ซึ่งตอนนี้กำลังสวมใส่ถุงเท้าสีเทาให้อยู่
"อืม...พาฉันไปเลือกดาบเอาไว้สำหรับแข่งด้วย "ชิเอลพยักหน้าแล้วสั่งต่อ
"ดาบมีแล้วขอรับ ใช้ดาบของผมไง"เซบาสเตียนพูดพรางหยิบรองเท้ามาสวมให้ทั้งสองข้าง
"ไม่เอา ฉันอยากได้ดาบที่เป็นของฉันเอง ดาบของนายท่าจะเก่าเก็บ ป่านนี้สนิมคงขึ้นหมดแล้วล่ะมั้ง"ชิเอลปฎิเสธพรางหยิบตุ๊กตาหมามากอดเล่นระหว่างรอเซบาสเตียนใส่รองเท้าให้ตนเสร็จ
"หึ ดาบของผมเป็นดาบพระราชทานเชียวนะ ไม่อยากลองใช้ดูหน่อยเหรอ"เซบาสเตียนพูดยิ้มๆ
"ดาบพระราชทาน!!"ชิเอลถึงกลับเบิกตาโตร้องอย่างตกตลึง
"ไงล่ะ เริ่มสนแล้วใช่มะ"เซบาสเตียนยิ้มแซวพรางหยิบหวีมาหวีผมให้ชิเอลไปพรางๆ
"ชิ"ชิเอลทำเป็นหลับตาเชิดใส่
"ไม่ปฎิเสธแสดงว่าอยากลองใช้ดูใช่มัยล่ะ"เซบาสเตียนพูดยั้วยุ
"หึ..มันก็..งั้นๆแหละ แต่..ลองใช้ดูก็ไม่เสียหายอะไรนี่"ชิเอลพูดอ้อมแอ้มกลบเกลื่อน ใจจริงน่ะตื่นเต้นน่าดูเลยได้ลองใช้ดาบพระราชทานด้วย
"หึหึหึ เอาหล่ะรอผมแป๊บนะขอเวลาไปแต่งตัวก่อน" เซบาสเตียนพูดกลั้วหัวเราะอย่างขบขันกับท่าทีของนายน้อย ปากก็บอกว่าไม่สนใจแต่ใจจริงน่ะคงตื่นเต้นน่าดูเลยล่ะ
ชิเอลไม่พูดอะไรเขาเอาตุ๊กตาหมามากอดเล่นรอให้เซบาสเตียนแต่งตัวไปพรางๆ ตอนนี้ดูเหมือนไข้จะลดลงแล้วเพราะยาบำรุงร่างกายสีชมพูนั้น มันค่อยๆสร้างภูมิค้นกันโรคภัยไข้เจ็บไปทีละนิดหากหมั่นกินยาตามเวลาเขาก็คงจะหายป่วยได้ในเร็ววันน่ะแหละ
และจากนั้นไม่นานเซบาสเตียนก็แต่งตัวเสร็จ เขาเดินมาหาชิเอลที่เตียงแล้วยื่นแขนออกมาส่งมือให้จับ
"ส่งมือมาขอรับ"เซบาสเตียนพูดพรางยื่นแขนขวาที่สวมถุงมือสีขาวเรียบร้อยส่งให้ชิเอลจับ
"ไม่ต้องฉันเดินเองได้ "ชิเอลหลับตาพูดอย่างหยิ่งทะนง เขาอยากเดินด้วยตัวเองมากกว่าจะมีคนคอยจูงแบบนี้ 
"งั้นก็..เชิญขอรับ"เซบาสเตียนจึงตามใจทำท่าผายมือเชื้อเชิญแทนการจูงมือ ปล่อยให้ชิเอลลุกขึ้นเดินด้วยตัวเอง
"อืม"ชิเอลพยักหน้าก่อนจะค่อยๆก้าวขาลงมาจากเตียงแล้วพยายามยืนทรงตัวและเดินนำพ่อบ้านออกไปจากห้องด้วยตัวเองโดยไม่มีใครคอยจูง
พอชิเอลเดินออกไปจากห้องแล้ว เซบาสเตียนก็เดินตามออกไปพร้อมกับปิดประตูห้องตามหลังแล้วใช้กุญแจล๊อกห้องตัวเองเอาไว้ ก่อนจะเดินตามนายน้อยลงบันไดไปข้างล่าง
ซึ่งตอนนี้ชิเอลเดินมายืนรอเซบาสเตียนที่หน้าประตูทางออกจากบ้านแล้วและก็ทำท่าจะเอามือไปหมุนลูกบิดประตูให้เปิดออก 
"มาผมเปิดให้ขอรับ"เซบาสเตียนบอกอาสาจะเปิดประตูให้ ชิเอลพยักหน้าแล้วหลีกทางให้พ่อบ้านของเขามาเปิดประตูตามหน้าที่ แล้วพอประตูเปิดเด็กหนุ่มก็เดินนำพ่อบ้านหนุ่มออกไปจากบ้าน มาหยุดยืนรอที่หน้ารูปปั้นน้ำพุ
และชิเอลก็หันไปมองเห็นแปลงดอกไม้ เขาเกิดนึกขึ้นมาได้ว่าตนกับเซบาสเตียนร่วมกับปลูกกุหลาบเอาไว้ ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้างนะไม่ได้มาดูแลรดน้ำตั้งหลายวันจะตายหรือเปล่าเขาจึงตัดสินใจรีบไปดูที่แปลงดอกไม้ทันที
"เห...นายน้อยจะทำอะไรหรือขอรับ"เซบาสเตียนที่กำลังเอากุญแจมาล๊อกประตูบ้านหันมาเห็นชิเอลกำลังเดินไปที่แปลงดอกไม้พอดีเลยถามอย่างสงสัย 
"กุหลาบสีขาวมันเริ่มเหี่ยวแล้วเซบาสเตียน สงสัยจะขาดน้ำ"ชิเอลหันมาบอกอย่างตกใจรีบเดินไปหยิบขันมาตักน้ำมาราดรดใส่ดอกไม้ทันที
"อา...นั่นสิ ผมลืมไปเลย ตั้งแต่กลับมาก้ไม่ได้รดน้ำดอกไม้มาหลายวันแล้วสิ แย่แล้วมันจะตายหรือเปล่านะเนี่ย"เซบาสเตียนเองก็พึ่งนึกขึ้นได้ว่าตนลืมรดน้ำมาหลายวันแล้ว
"ไม่นะ ดอกไม้พวกนี้ฉันกับนายอุตส่าห์ช่วยกันปลูกขึ้นมาแท้ๆ มันยังไม่ทันผลิดอกเลยก็จะแห้งตายแล้วเหรอ ทำอะไรสักอย่างนึงสิ เซบาสเตียนอย่าปล่อยให้มันตายนะ"ชิเอลหันมาร้องขอให้เซบาสเตียนช่วยทำให้ดอกไม้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง พรางพยายามเอาน้ำมาราดรดใส่มันจนแปลงดินเปียกชุ่ม
"เอาไว้เราค่อยหามาปลูกใหม่ก็ได้นะนายน้อย "เซบาสเตียนพยายามพูดปลอบใจ
"ไม่เซบาเตียนนี่คือคำสั่ง ชุบชีวิตดอกไม้พวกนี้ให้มันกลับมามีชีวิตเดี่ยวนี้"ชิเอลไม่ยอมที่จะปลูกใหม่หรอกเขาชอบดอกไม้แปลงนี้มาก มันเป็นดอกไม้แห่งความทรงจำที่มีค่าสำหรับเขา เขาไม่ยอมสูญเสียมันไปอีกเด็ดขาด
"แต่ว่า.."เซบาสเตียนยังอิดออด
"นี่คือคำสั่ง"ชิเอลสั่งอย่างมุ่งมั่น
"ขอรับ"เซบาสเตียนตอบรับ ก่อนจะทำการชุบชีวิตแปลงดอกกุหลาบนี้ให้กลับมามีชีวิตเหมือนเดิม
"อา.."ชิเอลเบิกตาโตด้วยความดีใจที่ดอกไม้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งไม่แห้งเหี่ยวเหมือนเมื่อครู่นี้อีกแล้ว
"จะให้ผมเร่งให้มันผลิดอกเลยมัยขอรับ"เซบาสเตียนอาสาจะเร่งให้ดอกไม้โต
"ไม่ต้อง ต่อไปฉันจะดูแลมันเอง ฉันจะคอยรดน้ำมันทุกวัน และคอยดูมันเติบโตผลิดอกด้วยตัวเอง "ชิเอลหันมาพูดกับเซบาสเตียนด้วยท่าทีจริงจังแล้วทรุดตัวลงนั่งยองมองดูต้นอ่อนของดอกไม้นั้นอย่างภาคภูมิใจที่ตอนนี้มันกลับมามีชีวิตชีวารอการเจริญเติบโตไปตามกาลเวลา
"หึ ไม่น่าเชื่อว่าเด็กอย่างคุณจะมีจิตใจละเอียดอ่อนเป็นกับเค้าเหมือนกันนะขอรับ"เซบาสเตียนเอ่ยปากชมยิ้ม
"พูดมากน่าเซบาสเตียน นี่นายจะชมหรือด่าฉันกันแน่ ทำไม..คนอย่างฉันจะดูแลดอกไม้เองบ้างไม่ได้หรือยังไง อย่ามาดูถูกกันนะ"ชิเอลหันมาต่อว่าอย่างไม่พอใจที่เซบาสเตียนพุดกึ่งด่ากึ่งชมเขาแบบนี้
"อ้าวผมชื่นชมคุณนะไม่ได้จะดูถูกสักหน่อย อย่าคิดมากสิครับ เอาล่ะผมเชื่อใจคุณว่าคุณต้องดูแลดอกไม้แปลงนี้ได้ดีแน่ๆ เรามาคอยดูดอกไม้พวกนี้ผลิดอกบานด้วยกันนะขอรับ"เซบาสเตียนพูดแก้ต่าง แล้วชักชวนให้มาดูดอกไม้บานด้วยกัน
"อืม.."ชิเอลหันมาตอบรับคำชวนแล้วยิ้มให้ ก่อนจะก้มลงมองดูต้นอ่อนพวกนั้นอย่างเพลิดเพลิน

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.4 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา