พ่อบ้านปีศาจ ภาคชิเอลเป็นปีศาจ บท3 YAOI 18+

9.8

เขียนโดย sebbynoi

วันที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2557 เวลา 09.51 น.

  31 บท 3 ตอน พ่อบ้านผู้นั้นกับการแข่งขัน
  11 วิจารณ์
  53.09K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2557 09.55 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

4) ตอนที่ 4

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ชิเอลยืนหันหลังหลับตาลงกำมือทั้งสองข้างแน่นบีบกำแหวนเย็นๆแข็งๆและรูปครอบครัวที่ยับยู่ หยาดน้ำใสไหลลงอาบแก้ม ด้วยความอาลัยบ้านหลังนี้ แต่เขาก็ต้องทำใจให้เข้มแข็งเข้าไว้ในเมื่อเขาตัดสินใจแล้วว่าจะทำลายมันให้สิ้นซากด้วยตัวเอง 

เซบาสเตียนเดินกลับมาสมทบพร้อมกับคว้าตัวชิเอลมาอุ้มโอบกอดปลอบโยน เด็กหนุ่มร้องสะอื้นหลับตาลงซุกซบอกกว้างของพ่อบ้านหนุ่ม มือที่บอบบางเล็กๆนั้นยังคงกำของสองสิ่งเอาไว้ เขาจะไม่ลืมความแค้นที่ปีศาจร่างใหญ่นั้นทำกับบ้านของเขาแน่ สักวันเขาจะต้องชำระแค้นกับปีศาจตนนั้นให้ได้รวมทั้งผู้บงการรายใหญ่ด้วย

"นายน้อย..."เซบาสเตียนเรียกอย่างห่วงใย เอามือลูบหัวลูบหลังเด็กของเขาเบาๆด้วยความสงสารเห็นใจ

"สิ่งที่พวกปีศาจนั่นมันทำกับบ้านของฉัน ฉันจะไม่มีวันอภัยให้มันเด็ดขาด!!พวกมันต้องชดใช้..ฉันจะเผามันทั้งเป็นให้สาสมกับการที่มันมาทำบ้านของฉันพังพินาศไปแบบนี้ ฟังฉันนะเซบาสเตียน ถ้าเจอตัวการที่ทำลายบ้านฉันเมื่อไหร่ นายก็เผามันให้ตายไปเลยเข้าใจมัย"ชิเอลพูดด้วยความเคียดแค้นชิงชัง แววตาสีแดงดุจเลือดดุดันน่ากลัว

"ขอรับ นายน้อย"เซบาสเตียนตอบรับพรางอุ้มชิเอลพาเดินออกไปจากตรงนั้นก่อนที่ใครจะมาเห็นเข้าเดี่ยวจะเป็นเรื่องใหญ่ไปซะเปล่าๆ

ชิเอลเหลียวหันไปมองซากบ้านที่ถูกไฟนรกแผดเผาจนลุกท่วมทั้งหลัง ด้วยความแค้น เพราะปีศาจพวกนั้นทำให้เขาต้องตัดสินใจทำลายบ้านตนเองแบบนี้ เพราะมัน!!

พอเซบาสเตียนเห็นว่าชิเอลเงียบไปเลยลองถามความเห็นดูว่าเด็กคนนี้จะทำยังไงต่อไป

"เอ่อ..แล้วนี่คุณจะทำยังไงต่อไปขอรับ บ้านก็เผาทิ้งไปแล้ว นายน้อยจะสร้างแฟนท่อมไฮด์ขึ้นมาใหม่ยังไง ให้ผมเสกขึ้นมาใหม่หรือเปล่า หรือว่า..."เซบาสเตียนก้มลงถามพรางจับอุ้มชิเอลให้กระชับแล้วพาเดินมาหลบๆสเก็ตไฟจากการใช้ไฟนรกเผาซากบ้านไปให้ห่างๆ แอบหลบซ่อนตัวตามต้นไม้ใหญ่ๆเผื่อว่าจะมีใครผ่านมาเห็นเข้าจะยิ่งแย่ไปใหญ่

"ไม่ ฉันจะสร้างแฟนท่อมไฮด์ขึ้นมาด้วยมือของฉันเอง ฉันจะทำให้มันเจริญรุ่งเรืองให้มากกว่าผู้นำรุ่นก่อนๆ แต่ว่า.."ชิเอลพูดอย่างมุ่งมั่นแต่แล้วเขาก็พูดทิ้งค้างไว้เมื่อนึกอะไรขึ้นมาได้

"แต่ว่าอะไรขอรับ"เซบาสเตียนมองชิเอลตาปริบๆถามอย่างสงสัย

"แต่ว่าตอนนี้ฉันทำไม่เป็น..ไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มจากตรงไหนก่อนดีอ่ะ นายทำให้ฉันแทนแล้วกันนะ เซบาสเตียนนะ นะ"ชิเอลหลับตาพูดอย่างอายๆหน้าแดงกล่ำมุดหน้าหนีซุกซบอกเซบาสเตียนออดอ้อนออเซาะ

"อ้าว..-*- แล้วดันเผาบ้านไปหมดแล้วเนี่ยอ่ะนะ"เซบาสเตียนถึงกลับร้องอุทานขมวดคิ้วมุ่นมองดูเด็กที่เขาอุ้มอย่างกลัดกลุ้ม ถึงเขาจะเผลอชื่นชมเอาไว้ในใจว่าเด็กคนนี้จะต้องทำได้ แต่พอมาเจอคำพุดของเจ้าตัวแบบนี้ทำให้เขาต้องเก็บคำชมเอาไว้ไปเสียแล้วสิ 

**ให้ตายสิ มาโบ้ยงานให้เราทำอีกและ จะไปรอดมัยเนี่ยเฮ้อ..**เซบาสเตียนคิดอย่างกลัดลุ้มในใจ ถึงนายน้อยจะมีความคิดที่จะทำแต่ทว่าเด็กยังไงก็คือเด็กวันยังค่ำแหละน้า จะทำอะไรเองเป็นกันล่ะ

"คุณนี่เหลือเกินจริงๆยังไม่ได้วางแผนอะไรเอาไว้กลับตัดสินใจเผาบ้านแล้วทีนี้จะสร้างขึ้นมาด้วยตัวคุณเองยังไงล่ะครับ ผมเป็นปีศาจจะรู้มัยว่าพวกมนุษย์เค้าต้องทำอะไรบ้างในการสร้างบ้านใหม่น่ะ"เซบาสเตียนโวยกลับอย่างกลัดกลุ้ม

"นายก็คิดสิ นายฉลาดมากไม่ใช่หรือไง"ชิเอลโต้กลับ

"แล้วใครกันที่บอกอย่างมั่นอกมั่นใจนักหนาว่าจะสร้างบ้านขึ้นมาใหม่น่ะ ใคร"เซบาสเตียนพูดอย่างไม่สบอารมณ์จ้องหน้าเด็กจอมยุ่งไม่ลดละ

"ก็แค่คิดเอาไว้เฉยๆ แต่ไม่รู้จะเริ่มยังไง เริ่มตรงไหนนี่นา"ชิเอลเถียงคำไม่ตกฟาก

"เฮ้อ.."เซบาสเตียนก้มลงมาจ้องหน้าเด็กตัวยุ่งแล้วถอนใจอย่างเหนื่อยใจ 

"นะเซบาสเตียน ช่วยคิดหน่อยว่าจะเริ่มยังไง"ชิเอลร้องขอให้เซบาสเตียนช่วยอีกตามเคย

"ก่อนอื่นคงต้องรอให้ไฟนรกดับไปก่อนแล้วจากนั้นค่อยว่ากัน ระหว่างนี้เราไปช๊อปปิ้งซื้อของกันก่อนดีกว่าขอรับ ส่วนเรื่องสร้างบ้านเอาไว้ไปถามผู้รู้ให้เข้าใจขั้นตอนวิธีการต่างๆก่อน เราค่อยมาคิดกันอีกทีว่าจะเอายังไง"เซบาสเตียนลองเสนอความเห็นดู

"อืม..ไปซื้อของในเมืองก่อนก็ได้ แล้วไฟนรกนี่เมื่อไหร่มันจะดับล่ะ ถ้าปล่อยเอาไว้มันจะลุกลามไปบ้านคนอื่นหรือเปล่า ฉันเกรงว่าจะทำคนอื่นเดือดร้อนน่ะสิ"ชิเอลพยักหน้าเห็นด้วยกับข้อเสนอของเซบาสเตียน แต่ก็ยังอดกังวลเรื่องไฟนรกไม่ได้กลัวมันจะไปติดบ้านคนอื่นเข้าน่ะสิ

"ไม่ต้องห่วงขอรับหากไม่มีตัวจุดฉนวนอย่างระเบิด น้ำมัน หรือพวกต้นหญ้า ไม่เกินครึ่งวันไฟจะดับไปเองขอรับ เรารีบไปจากแถวนี้กันก่อนดีกว่าเดี่ยวมีใครมาเห็นกองไฟแบบนี้จะแตกตื่นพากันมาดูกันหมดแล้วพวกเราจะซวย โดนจับข้อหาวางเพลิงบ้านตัวเองแน่ๆขอรับ"เซบาสเตียนพูดอย่างรีบเร่งพรางพาชิเอลชิ่งหนีออกไปจากอาณาบริเวณบ้านแฟนท่อมไฮด์โดยการหายตัวแว๊บไปทันที

แว๊บบบบบบบบ

เปรี้ยงงง แล้วเซบาสเตียนก็มาปรากฏตัวพร้อมชิเอลที่หน้าปากทางเข้าเมืองลอนดอน ทำเอาเด็กหนุ่มที่ยังไม่ชินกับการหายตัวถึงกลับมึน...

"โอย..หัวหมุนติ้วเลย จะหายตัวทำไมไม่ยอมบอกก่อน ฉันยังไม่ทันเตรียมใจเลย แฮ่กๆ"ชิเอลบ่นเอามือกุมขมับหลับตานิ่งๆเพื่อให้หายจากอาการมึน ไม่ว่าเมื่อไหร่เขาก็ยังไม่ชินกับการหายตัวไปพร้อมกับเซบาสเตียนสักที

"หึหึหึ"เซบาสเตียนหัวเราะเยาะ 

"ไม่ต้องมาหัวเราะเยาะเลย ชิ"ชิเอลจิปากเชิดใส่เขาไม่ชอบให้ใครมาหัวเราะเยาะ

"โถๆเดี่ยวก็ชินไปเองแหละครับ อีกหน่อยผมจะสอนนายน้อยหายตัวด้วยนะ ไว้ว่างๆก่อน"เซบาสเตียนปลอบพรางเอามือมาลูบหัวชิเอลเบาๆอย่างเห็นใจ

"ชิ"ชิเอลหลับตาเชิดหน้าใส่เอามือมาปัดมือของเซบาสเตียนที่มาลูบหัวทำเหมือนเขาเป็นเด็กๆออกอย่างไม่สบอารมณ์

"หึ ไปหาซื้อเสื้อผ้ากันดีกว่าขอรับ แล้วค่อยแวะไปขอยาสีชมพูจากสัปเหร่อเพิ่ม"เซบาสเตียนพูดยิ้มๆตัดบทเปลี่ยนเรื่อง ขืนมามัวพุดเรื่องหายตัวเดี๋ยวนายน้อยจะงอนตุ๊บป่องไม่ยอมพูดเดี่ยวงานเข้า

จากนั้นเซบาสเตียนก็อุ้มพาชิเอลตรงไปยังทางเข้าสู่ตลาดที่เต็มไปด้วยสินค้ามากมายหลากหลาย นี่ใกล้จะถึงเทศกาลฟอสแฟร์แล้ว บรรดาพ่อค้าแม่ค้าก็เตรียมจัดตกแต่งร้านค้ากันอย่างตื่นเต้น ที่นานทีปีหนจะได้มาจัดงานออกร้านที่ลานน้ำแข็งแบบนี้

"ใกล้จะถึงงานฟอสแฟร์แล้วสินะ เวลามันผ่านไปเร็วจริงๆ ฉันจะอายุสิบสี่แล้วเหรอเนี่ย"ชิเอลหลับตาพูดระลึกถึงงานฟอสแฟร์เมื่อปีที่แล้วที่จบลงด้วยโศกนาฎกรรมของพ่อบ้านหุ่นฟาง ตอนนี้เขายังคงถูกพ่อบ้านอุ้มพาเดินเที่ยวไม่เหมือนปีที่แล้วที่เดินไปเอง

"หึ ถึงเวลาจะผ่านไปอีกกี่ปีนายน้อยก็ไม่โตขึ้นหรอกครับ อย่าลืมสิ อีกห้าสิบปีเชียวนะกว่านายน้อยจะอายุสิบสี่ ถ้ายังอยู่ที่นี่พวกคนที่คุณรู้จักคงแก่หง่อมกันหมดแล้วล่ะครับ รวมทั้งคุณหนูอลิซาเบตว่าที่คู่หมั้นของนายน้อยก็คงจะกลายเป็นคุณยายของคุณไปแล้วล่ะ หึหึหึ"เซบาสเตียนยิ้วแซวยิ้มๆพรางอุ้มพาเดินผ่านร้านค้าต่างไปเรื่อยๆเพื่อมองหาร้านขายเสื้อผ้าเด็กวัยรุ่นไปตลอดทาง

"หนอย เจ้าบ้า..จะพูดทำไมเนี่ย ก็ฉันอยากโตเร็วๆ มาแขวะฉันอยู่ได้ ปล่อยเลย ฉันจะเดินไปเอง คนมองกันใหญ่แล้วฉันอาย 0///0"ชิเอลพูดอย่างไม่พอใจเอามือทุบไหล่เซบาสเตียนแรงๆไปหนึ่งทีจ้องหน้าเขม็งที่บังอาจมาดับความหวังที่จะเติบโตของเขาไปเสียได้

"โอยยา แล้วมาทุบผมทำไมเล่า ผมอุตส่าห์พูดความจริง คุณนั้นแหละหัดยอมรับความจริงซะบ้างสิขอรับ อ่ะลงไปเลย"เซบาสเตียนโต้กลับพรางปล่อยตัวชิเอลลงมายืนที่พื้นน้ำแข็งข้างๆตน

"ชิ"ชิเอลหันมาจิปากเชิดใส่ก่อนจะเดินสะบัดก้นหนีพ่อบ้านไปอย่างไม่สบอารมณ์หายเข้าไปในฝูงชนที่พากันเดินซื้อของกันคับคั่ง

"อ้าว นายน้อยหายไปไหนแล้วล่ะ นายน้อยรอผมด้วยสิ"เซบาสเตียนร้องเรียกอย่างตกใจที่เด็กของเขาหายไปเสียแล้ว
แต่ไม่ว่าชิเอลจะหายไปไหนเขาก็ตามหาเจอโดยไม่ยากเย็นอะไรเลย 

หมับ!!

"อ๊ะ"ชิเอลหันมามองอย่างตกใจที่แขนของเขาถูกพ่อบ้านจอมจุ้นคว้าเอาไว้ได้อย่างรวดเร็ว

"นี่แน่ะจับได้แล้ว คิดจะเล่นซ่อนหากับผมงั้นหรือขอรับ จุ๊บๆ "เซบาสเตียนพูดยิ้มๆ พรางคว้าตัวชิเอลขึ้นมาอุ้มจับมาฟัดหอมแก้มซะเลยอยากหนีเขาดีนัก

"อ๊าาา อย่านะ เดี่ยวใครมาเห็นเข้า >/////< อึ้ย"ชิเอลร้องห้ามหน้าแดงซ่านพยายามเบี่ยงหน้าหนี เรื่องอะไรจะยอมให้เจ้าอีกาจอมหื่นนี่มาจับฟัดกันล่ะ 

"หึหึหึ แถวนี้เปลี่ยวซะด้วยสิ จับนายน้อยกินตรงนี้ดีมัยขอรับ"เซบาสเตียนแกล้งพูดด้วยท่าทางหื่นกระหายแสยะเขี้ยวเลียลิ้นที่มุมปาก 

"ไม่ดี๊..."คนกำลังจะถูกกินส่ายหน้ารัวๆปฎิเสธเสียงสูงหน้าแดงกล่ำด้วยความเขินอาย รีบผละถอยหลังจนหลังแนบติดกำแพงเย็นๆของร้านอาหารร้านหนึ่ง (มาแอบพลอดรักกันหลังร้านอาหารนี่เอง)

"มามะ มาเล่นจ้ำจี้นอกสถานที่กันดีกว่า เล่นแต่บนเตียงมาหลายครั้งแล้ว ถ้าเปลี่ยนบรรยากาศมาเล่นตรงซอกหลืบบ้างคงได้อารมณ์ดีนะขอรับ"เซบาสเตียนพูดด้วยท่าทีจริงจัง เอามือยันผนังเอาไว้ข้างหนึ่ง ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ทำท่าจะจูบปากเด็กหนุ่มที่กำลังยืนเบิกตาโตแนบติดกำแพงหน้าแดงกล่ำ เหงื่อตกด้วยความคาดไม่ถึงว่า เจ้าอีกานี่จะมาเล่นจ้ำจี้กันนอกสถานที่แบบนี้ไม่อายฟ้าอายดินเลยหรือยังไง

"ไม่เอา เชิญนายเล่นกับกำแพงไปเหอะ ฉันขอปฎิเสธ"ชิเอลหลับตาพูดพรางทรุดตัวลงแล้วมุดลอดใต้วงแขนของพ่อบ้านหนุ่มหนีไปทันที

"โถ่นายน้อย ทำแบบนี้ไม่ดีหรือขอรับ เผื่อคุณจะชอบไง มาเหอะน่า มาเล่นจ้ำจี้กันนะ นะ"เซบาสเตียนหันมาชักชวนชิเอลทำกิจกรรมนอกสถานที่กันสักหน่อย เขาแค่อยากจะลองทำอะไรแปลกๆดูบ้างก็แค่นั้นเอง

"บ้า..นายมันบ้า..ใครจะไปชอบแบบนี้กันเล่า ทำอะไรประเจิดประเจ้อกลางวันแสกๆ ไม่อายชาวบ้านแถวนี้หรือไง ไว้กลับบ้านก่อนสิค่อย...0///0 เอ่อ..ไปซื้อเสื้อผ้าดีกว่านะ.. ฟิ้วววว"ชิเอลหันมาโต้แย้งหน้าแดงซ่านก่อนจะหนีเซบาสเตียนวิ่งตรงไปยังร้านค้าขายเสื้อผ้าที่อยุ่ไม่ไกลจากที่นี่มากนัก ท่าทางเริ่มจะมีเรี่ยวแรงขึ้นมาบ้างแล้ว 

"ดูสิๆเขินหน้าแดงเผ่นหนีไปนู่นซะแล้ว นายน้อยนี่ละก็ ปิดความรู้สึกตนเองไม่เคยมิดเลย น่ารักชะมัดเด็กอะไรไม่รู้..หึหึหึ"เซบาสเตียนพึมพำกับตนเองยิ้มๆด้วยความขบขันกับท่าทีของชิเอลเมื่อครู่นี้ก่อนจะเดินตามเด็กขี้อายไป 

และเพียงไม่นานเซบาสเตียนก็วิ่งตามชิเอลมาทัน ซึ่งตอนนี้เด็กหนุ่มขี้อายกำลังเดินเลือกดูเสื้อผ้าอยู่ พยายามทำใจให้สงบไม่ให้ฟุ้งซ่านเรื่องเมื่อกี๊ที่เจ้านั่นชวนเล่นจ้ำจี้ตรงหลังร้านอาหาร จะบ้าตายนับวันเจ้าอีกานั่นเริ่มลุกหนักขึ้นทุกที ชวนแม้กระทั่งเล่นจ้ำจี้นอกสถานที่ไม่อายฟ้าอายดินบ้างเลยให้ตายสิ

"นายน้อย..อยู่ที่นี่เองหรือขอรับ หึหึหึ"เซบาสเตียนร้องเรียกยิ้มๆพรางเอามือมาแตะไหล่เด็กหนุ่มที่กำลังยืนเหม่อคิดอะไรอยู่ มือยังคงถือจับเสื้อผ้าที่เขาเลือกได้แล้วเอาไว้สองสามชุด

"เฮือก"ชิเอลถึงกกลับสะดุ้งตกใจ เขากำลังเผลอคิดอะไรเพลินๆอยู่ มีคนมาสะกิดก็ย่อมต้องตกใจทั้งนั้นนั่นแหละและยิ่งเป็นอีกาจอมหื่นด้วยล่ะก็

"หึหึหึ"เซบาสเตียนหัวเราะเยาะอย่างขบขัน

"หัวเราะอะไรนักหนา ฉันไม่ใช่ตัวตลกนะ..นี่.. เอาไปจ่ายตัง ฉันเลือกเสร็จแล้ว เดี่ยวจะไปดูร้านอื่นต่อ.."ชิเอลโวยใส่ ปาเสื้อผ้าชุดใหม่ที่ตนเลือกเอาไว้ใส่หน้าพ่อบ้านกวนประสาทเข้าให้อย่างจัง 

"โอยยา"เซบาสเตียนร้องอุทาน พรางรับเสื้อเอามาพิจารณา เผื่อว่านายน้อยเลือกมาไม่เหมาะสมกับวัยจะได้เปลี่ยนได้
และพอเซบาสเตียนเอาเสื้อผ้ามาพิจารณาถึงกลับนิ่งอึ้งไปคาดไม่ถึงว่านายน้อยของเขาจะมีรสนิยมแบบนี้

"โอว *0*"เซบาสเตียนถึงกลับเบิกตาโตหันมามองหน้าชิเอลตาเป็นประกายวิบวับ

"อะไรเล่า มองหน้าฉันทำไม เอาไปจ่ายตังสิ เร็วๆ"ชิเอลหันมาเขม่นใส่อย่างไม่พอใจ พูดเร่งให้เอาเสื้อผ้าไปให้แม่ค้าใส่กล่องและจ่ายตังให้เรียบร้อย

"หึ..ไม่ยักกะรู้ว่านายน้อยของผมจะมีรสนิยมในการแต่งชุดสตรีนะขอรับ สีชมพูซะด้วย เอ หรือเมื่อวานติดใจชุดกระโปรงสีชมพูที่ผมซื้อมาให้เลยอยากจะใส่อีกใช่มัยล่ะครับ หึหึหึ"เซบาสเตียนแซวยิ้มๆอย่างขบขัน นี่แสดงว่าเด็กคนนี้มัวแต่ใจลอยคิดอะไรฟุ้งซ่านจนเลือกเสื้อผ้ามาไม่ดูตาม้าตาเรือเลยสินะ น่าขำจริงๆ

"เฮือก!! 0[]0!! มะไม่ ไม่ใช่นะ คะคือว่า คะคือ.."ชิเอลหน้าแดงกล่ำอ้าปากพะงาบๆเดินมากระชากเสื้อผ้าสตรีสีชมพูหวานมาจากมือเซบาสเตียนไปเก็บที่ราวทันทีด้วยท่าทีรนราน อึกอักพูดอะไรไม่ออกเพราะตอนนี้เขาอายจนแทบแทรกแผ่นดินหนีแล้ว 

"อ้าวทำไมเอาไปเก็บซะล่ะครับ ชุดเมื่อกี้ก็สวยดีไม่ใช่เหรอ เหมาะกับนายน้อยดีนะ ผมชอบนะชมพูหวานเชียว นี่ถ้านายน้อยใส่แล้วมาถ่ายรูปอีกนะ คงจะ.."เซบาสเตียนยังคงแซวไม่เลิก

"หุบปาก..ฉันไม่เอาแล้ว ไปร้านอื่นกันเถอะเซบาสเตียน ไปๆ"ชิเอลปฎิเสธเสียงแข็งหน้าแดงซ่านไม่หาย รีบคว้าแขนพ่อบ้านของเขาลากออกไปจากร้านเสื้อผ้าทันทีด้วยความอับอาย นี่เขาดันเผลอมาเข้าร้านเสื้อผ้าสตรีได้ยังไงกันเนี่ย ไม่น่าเลย 

และชิเอลก็ลากพาเซบาสเตียนหนีออกมาจากร้านขายเสื้อผ้าสตรีไปอย่างรวดเร็ว พ่อบ้านหนุ่มก็เอาแต่หัวเราะเยาะมาตลอดทางเลย ก็มันอดขำไม่ได้นี่ นายน้อยของเขานี่มีอะไรที่ทำให้เขาแปลกใจได้ตลอดจริงๆ 

"ชุดสีชมพู ชุดสตรีสีชมพู ฮ่า ฮ่า ฮ่า โอยขำ "เซบาสเตียนล้อเลียนชิเอลมาตลอดทางเลย 

"นี่เซบาสเตียน ถ้านายไม่หุบปากฉันจะใช้ตาขวาสั่งให้ห้ามไม่ให้นายพูดหนึ่งอาทิตย์เลยคอยดู"ชิเอลหันมาข่มขู่หน้าแดงกล่ำก่อนจะหลบหน้าด้วยความอับอาย

[งั้นชูป้ายล้อก็ได้ขอรับ ชุดสตรีสีชมพู นายน้อยชอบใส่ชุดสตรีสีชมพู ก๊ากๆๆ]เซบาสเตียนเสกป้ายไฟข้อความเอามาล้อเลียนชิเอลต่อ เรื่องอะไรจะพลาดเรื่องสนุกๆกันล่ะ นานๆจะมีโอกาสแกล้งนายน้อยทั้งที

"หยุดเดี๋ยวนี้นะ!! ฉันชักจะ..อึ้ย เจ็บใจนัก.."ชิเอลตวาดใส่หน้าแดงซ่านอย่างโมโหและเขินอายเอามือมาปัดป้ายข้อความที่เซบาสเตียนชูให้อ่านระหว่างทางเดินไปหาร้านเสื้อผ้าเด็กวัยรุ่นชายไปคอยรังควานไปตลอดทางเลย

[ ชุดสตรีสีชมพู นายน้อยของผมชอบใส่ชุดสตรีสีชมพู โอ้ลันล่า] เซบาสเตียนยังคงถือป้ายล้อเลียนคอยรังควานชิเอลไม่เลิก 

ชิเอลทำเป็นหลับตาเดินหนี คิ้วกระตุก ขึ้นลงด้วยความไม่สบอารมณ์ และตอนนี้เขากำลังพยายามทำใจให้สงบไม่คลุ้มคลั่งจับพ่อบ้านฆ่าหมกถังขยะไปซะก่อน

[ ชุดสตรีสีชมพู ชุดสตรีสีชมพู ลันลา ลันลา]เซบาสเตียนถือป้ายหยอกล้อไม่หยุด ท่าทางกำลังสนุกสนานทีเดียวที่ได้แกล้งเด็กตัวยุ่งให้เขินได้ตลอดทาง

"บอกให้หยุดยังไงเล่า ฉันชักรำคาญแล้วนะ มาล้อกันอยู่ได้ พอสักทีได้มัย แค่ก แค่ก!!"ชิเอลหมดความอดทนหันมาโวยใส่เสียงดังหน้าแดงกล่ำจนเริ่มเจ็บคออาการไอกลับมาอีกแล้ว 

"อ้าว นายน้อย ถึงกลับไอเลยหรือขอรับ เจ็บคอเหรอ งั้น..เดี่ยวแวะไปร้านขายยาก่อนแล้วกัน อยู่ไม่ไกลจากแถวนี้เท่าไหร่ มาผมอุ้มขอรับ"เซบาสเตียนหยุดล้อ สลายป้ายข้อความไปทันทีแล้ว ก้มลงมาดูอาการของชิเอลอย่างห่วงใย เขายั่วโมโหนายน้อยมากไปหน่อยเลยทำให้เด็กของเขาถึงกลับต้องตะเบงเสียงด้วยความโกรธจนคอเจ็บ โอโขลกๆไปแบบนี้ น่าสงสารจริงๆ

"อ๋า..ไม่ต้อง ปล่อยนะ ฉันเดินเองได้ แค่ก แค่ก ปล่อย.."ชิเอลร้องลั่นพยายามจะดิ้นรนไม่ยอมให้เซบาสเตียนอุ้มเพราะยังงอนอยู่ที่มาล้อเรื่องชุดสีชมพูนั้น

"ไม่ปล่อยขอรับ โอว..ตัวร้อนขึ้นมาอีกแล้วสิ งั้นไปโรงพยาบาลเลยดีกว่า ไปฉีดยาที่ก้นสักเข็มแล้วกันนะขอรับ นายน้อย หึหึหึ"เซบาสเตียนพูดยิ้มๆพรางจับชิเอลอุ้มพาดบ่าพาเดินตรงไปยังโรงพยาบาลในตัวเมืองอย่างสบายอารมณ์

"อ่า ไม่นะ ไม่เอา ไม่ฉีดยา!ม่ายยย!ปล่อยฉันนะ ปล่อย ไม่ไปโรงพยาบาล ไม่ปายย"ชิเอลร้องลั่นหน้าแดงปนซีดเหงื่อตกดิ้นพลาดๆส่ายหน้ารัวๆด้วยความกลัวเข็มฉีดยา ไม่เอานะเขาไม่อยากโดนจับฉีดยาอีกแล้ว ไม่เอา

แต่เซบาสเตียนไม่สนใจการโวยวายของชิเอลเพราะเขาเดินมาจนใกล้จะถึงคลีนิคอยู่แล้ว อีกไม่กี่สิบเมตรเท่านั้นเอง

"ไม่ไป ปล่อยฉันเดี่ยวนี้นะเซบาสเตียน"ชิเอลร้องโวยมาตลอดทาง

"เลือกเอาว่าจะให้ผมฉีดยาหรือให้หมอฉีดยา"เซบาสเตียนยื่นข้อเสนอให้อย่างมีเมตตา พรางพาเดินไปเรื่อยๆอย่างรวดเร็ว

"ไม่เอาใครทั้งนั้น ฉันจะไปซื้อเสื้อผ้า ปล่อยนะฉันจะลง แค่ก แค่ก "ชิเอลส่ายหน้าปฎิเสธเสียงแหบพร่า ไอโขลกๆเนื่องจากฝืนตะเบงเสียงจนคอเจ็บ เขาเลยแทบไม่มีเสียงจะร้องห้ามเซบาสเตียนแล้ว

"เห็นทีคงจะทำอย่างงั้นไม่ได้แล้วขอรับ นั่นคลีนิคอยุ่ข้างหน้านั่นแล้ว"เซบาสเตียนบอกยิ้มๆเอามือจับตัวชิเอลเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อยเด็ดขาด ถึงจะกินยาของสัปเหร่อไปแล้วก็ตามแต่มันก็รักษาไม่หายขาด ต้องใช้ยาหมอช่วยอีกแรงถึงจะหายป่วยไวๆ

"ไม่เอา ฉันไม่ได้จะมาลอนดอนเพื่อมาหาหมอนะ ฉันจะไปซื้อเสื้อผ้า"ชิเอลร้องประท้วงเอามือทุบหลับเซบาสเตียนแรงๆ

"โอยยาอย่าทุบหลังผมสิ เจ็บนะขอรับ เดี๋ยวตีก้นเลยนี่ เกเรจริงๆเลยคุณนี่"เซบาสเตียนร้องโวย 

"ปล่อยฉันลงเดี่ยวนี้นะ นี่คือคำสั่ง "ชิเอลออกคำสั่งเสียงแผ่วหยุดทุบหลังคนอุ้มชั่วคราวตอนนี้ไข้เริ่มขึ้นอีกแล้วหน้าแดงซ่านทั้งอายและโกรธ ดิ้นพลาดๆไม่ยอมให้พาไปหาหมอง่ายๆ

"ไม่ปล่อย นายน้อยชอบป่วยบ่อยเป็นๆหายๆอยู่แบบนี้ไม่หายขาดสักที ดาร์กชิลเลยแทบจะทำอะไรไม่ค่อยได้ ยังไงวันนี้ก็ต้องมาให้หมอตรวจร่างกายให้ได้ขอรับ "เซบาสเตียนพูดด้วยท่าทีจริงจังพรางตัดสินใจเดินดุ่มๆอุ้มชิเอลเข้าไปในคลี่นิคในทันที

พอเข้ามาข้างในชิเอลและเซบาสเตียนก็ได้กลิ่นยาคละคลุ้งไปในบรรยากาศแทบจะชวนให้มึนได้เหมือนกัน ชายหนุ่มร่างสูงเดินตรงมาจุดประชาสัมพันธืและบริการลูค้า เพื่อติดต่อหมอ

"คนไข้ชื่ออะไรคะ"เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ถามด้วยรอยยิ้มตามมารยาท

"ชิเอล แฟนท่อมไฮด์ครับ "เซบาสเตียนตอบ

"ค่า ไม่ทราบว่าเคยทำบัตรคนไข้มาก่อนหรือเปล่าคะ"เจ้าหน้าสาวหน้าสวยเงยหน้ามาถามต่อเพื่อขอรายละเอียดประวัติการตรวจรักษาตามทำเนียมของคลีนิค

"ไม่เคยครับ"เซบาสเตียนตอบอีก

"คุณเป็นอะไรกับคนไข้คะ"เจ้าหน้าที่สาวถามต่อพรางมองดูชายหนุ่มที่กำลังอุ้มเด็กหนุ่มพาดบ่ามาอย่างแปลกใจ

"พ่อบ้านครับ"เซบาสเตียนตอบไปตามตรง

"งั้นเด็กที่ถูกอุ้ม เป็นเจ้านายของคุณสินะคะ"เจ้าหน้าที่ถามเพื่อความแน่ใจอีกที

"ครับ คนไข้เป็นนายน้อยของผม"เซบาสเตียนตอบรับอย่างสุภาพ

"งั้นให้คนไข้เขียนประวัติลงในเอกสารนี้เลยนะคะ เขียนเสร็จแล้วไปยื่นให้เจ้าหน้าที่คนนั้นนะคะ"เจ้าหน้าที่สาวให้คำแนะนำ

"ครับ คนสวย"เซบาสเตียนตอบรับยิ้มๆแล้วรับเอกสารมา กะว่าจะให้นายน้อยเขียนที่ม้านั่งตัวยาวของคลี่นิคให้เรียบร้อย ส่วนแม่สาวประชาสัมพันธ์ พอถูกชายหนุ่มหล่อชมว่าสวยคุณเธอก็หน้าแดงขึ้นมาทันทีสายตามองตาหลังพ่อบ้านรูปหล่อนั้นไปจนเขาเดินไปไกลลิบจนลับสายตาไปเลยทีเดียวด้วยความลุ่มหลง

อากับกิริยาของเจ้าหน้าที่สาวทำให้เด็กหนุ่มที่มองดูอยู่ถึงกลับไม่พอใจขึ้นมาเอาเสียดื้อๆ และอดคิดไปว่าเจ้าอีกานี่เอาอีกแล้ว 
พอเซบาสเตียนเดินจากจุดประชาสัมพันธ์มาที่บริเวณที่นั่งรอตรวจ ชิเอลจึงดันตัวขึ้นมาท่าอุ้มจึงเปลี่ยนมาเป็นอุ้มช้อนก้นพรางเอามือบอบบางมาดึงหูชายที่ส่งยิ้มให้สาวประชาสัมพันธ์แรงๆด้วยความไม่พอใจ

"อะไรเล่านายน้อย จู่ๆก็มาดึงหู ผมเจ็บนะขอรับ"เซบาสเตียนหันมาโวยใส่เด็กที่เขากำลังอุ้มช้อนก้นอยู่ พรางเอามือมาลูบๆหูตนเองป้อยๆหน้านิ่ว

"ขนาดอยู่ต่อหน้าฉันนายยังยิ้มให้สาวๆอีกเหรอ ดูซิยัยนั่นหลงนายจนหัวปักหัวปัมแล้ว"ชิเอลต่อว่าถลึงตาใส่อย่างไม่พอใจ 

"โถ่..ก็แค่ยิ้มนิดหน่อยตามมารยาท ไม่ได้จะโปรยเสน่ห์สักหน่อย อย่าคิดมากสิขอรับ"เซบาสเตียนพยายามแก้ต่าง คอยเอามือข้างเดียวมาจับยึดมือชิเอลที่ท่ำท่าจะมาดึงหูเขาอีก

"ไม่ว่าจะยังไงนายก็ห้ามยิ้มให้สาวอื่น ไม่งั้นฉันจะบิดให้หูขาดเลย จำไว้นะ"ชิเอลสั่งทำท่าจะบิดหูปีศาจเจ้าชู้อีกที

"ขอรับ ไม่ยิ้มก็ได้ขอรับ"เซบาสเตียนเลยต้องยอมตามใจ ทำตามที่ชิเอลสั่งอย่างช่วยไม่ได้ 

พอตกลงกันเรียบร้อยแล้วว่าจะไม่นอกใจอีก เซบาสเตียนก็เอาเอกสารส่งให้ชิเอลเขียนกรอกประวัติเพื่อทำบัตรคนไข้ เผื่อว่านายน้อยของเขาป่วยอีกจะได้พามารักษาที่นี่โดยไม่ต้องมาเสียเวลาทำบัตรใหม่อีกรอบ

"อ่ะเขียนซะนายน้อย"เซบาสเตียนบอกพร้อมส่งเอกสารพร้อมปากกายื่นส่งให้

"ไม่เอา..จะทำบัตรไปทำไม ฉันไม่คิดจะมาเหยียบโรงพยาบาลบ่อยๆหรอกนะ"ชิเอลหลับตาตอบปฎิเสธนั่งไขว่ห้ามกอดอกหันหน้าหนีไม่ยอมรับเอกสารกับปากกาจากเซบาสเตียน

"เอ้าเผื่อคุณป่วยอีกผมจะได้พามารักษาที่นี่ไง"เซบาสเตียนพยายามเกลี่ยกล่อม

"ไม่.."ชิเอลยังคงปฎิเสธเสียงแข็ง

"ได้งั้นเดี่ยวผมเขียนให้แล้วกัน"เซบาสเตียนจึงตัดสินใจทำให้ชิเอลเองเลย 

"อะไรกันนายไม่ต้องมาจุ้นจ้านเรื่องของฉันจะได้มัย "ชิเอลโวยใส่จ้องหน้าเซบาสเตียนเขม็ง

"งั้นนายน้อยก็เขียนเองสิครับ อ่ะ"เซบาสเตียนลองให้โอกาสยื่นปากกาและเอกสารให้ชิเอลอีกครั้ง
แต่แทนที่ชิเอลจะเอามาเขียนเพื่อทำบัตรคนไข้ เขากลับ

แควกกกกกก ฉีกทิ้งจนเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

"นายน้อย!!"เซบาสเตียนร้องอย่างตกใจ รีบเอามือมาจับยื้อยุดไม่ให้ชิเอลฉีดเอกสารทำบัตรคนไข้ได้อีก

"แค่นี้..ก็ไม่ต้องทำบัตรให้เสียเวลาแล้ว"ชิเอลพูดยิ้มเจ้าเล่ห์ 

"เฮ้อ...เอาแต่ใจจริงๆเล้ย..นี่ผมจะทำยังไงกับคุณดีเนี่ย"เซบาสเตียนพูดอย่างเหนื่อยใจ พรางปล่อยข้อมือชิเอลลงแล้วเอาปากกาของตนมาใส่ปลอดเก็บใส่กระเป๋าเสื้อพ่อบ้านให้เรียบร้อย

"ก็ไม่ต้องทำยังไง ทำตามที่ฉันสั่งก็พอแล้วนี่"ชิเอลหลับตาพูดยิ้มเยาะ เรื่องอะไรเขาจะยอมให้หมอมาตรวจกันล่ะ 
เซบาสเตียนขมวดคิ้วมุ่นจ้องมองหน้าชิเอลอย่างไม่สบอารมณ์ พรางคิดหาทางทำให้ชิเอลได้รับการตรวจรักษาอาการป่วยให้จงได้ 

"ถ้าไม่มีอะไรจะทำแถวนี้แล้ว เราไปซื้อเสื้อผ้ากันต่อเถอะเซบาสเตียน"ชิเอลพูดตัดบทลุกขึ้นยืนทำท่าจะเดินหนีออกไปจากคลีนิคให้ได้

"เดี๋ยว..จะหนีไปไหนขอรับ"เซบาสเตียนรีบคว้าแขนชิเอลเอาไว้ไม่ให้หนีไปไหนได้อีกจนกว่าจะให้หมอตรวจเสร็จเรียบร้อยแล้ว

"จะไปซื้อเสื้อผ้าไงเล่า"ชิเอลหันมาตอบอย่างหงุดหงิด

"ยังไปไม่ได้ขอรับ ต้องให้หมอตรวจก่อน"เซบาสเตียนพูดเสียงเรียบ ยังไงก็ไม่ให้นายน้อยของเขาไปไหนเด็ดขาดอุตส่าห์เดินทางมาถึงคลีนิคแล้วทั้งที

"ก็ไม่ได้ทำบัตรจะตรวจได้ยังไง"ชิเอลโต้แย้งยิ้มเจ้าเล่ห์อย่างท้าทาย

"ไม่ทำบัตรก็ตรวจได้ขอรับ"เซบาสเตียนไม่ยอมแพ้เช่นกัน

"แล้วจะตรวจยังไงไม่ทราบ"ชิเอลพูดด้วยท่าทีเยาะหยัน

"ผมมีวิธีแล้วกันน่ะ"เซบาสเตียนบอกด้วยท่าทีจริงจัง
ชิเอลเงยหน้าขึ้นมาสบตากับเซบาสเตียนอย่างสงสัยว่าเจ้าอีกานี่จะทำอะไรกันแน่ แต่แล้วเขาก็ต้องตกใจเบิกตากว้างเมื่อได้ยินคำพูดที่ไม่ใช่ภาษาของมนุษย์ ใช่แล้วมันคือภาษารูนของปีศาจนั่นเอง และฉับพลันนั้น เด้กหนุ่มถึงกลับตาเหลือกลานก่อนจะแน่นิ่งหมดสติไปในทันที

"ดาร์กชิล ดาร์กชิล ตื่นหรือยัง"เซบาสเตียนถามพรางเอามือมาจับไหล่ชิเอลเขย่าเบาๆ 
เด็กหนุ่มผมสีความารีนค่อยๆลืมตาขึ้นมา กระพริบตาเงยหน้ามองดูชายร่างสูงผู้ปลุกเขาให้ตื่นขึ้นมาอย่างเคารพนบนอบ

"ตื่นแล้วขอรับ"ดาร์กชิลในร่างชิเอลตอบรับเสียงแผ่ว ท่าทางคงจะเพลียไม่น้อยเลยทีเดียวเพราะพยายามใช้พลังในการรักษาร่างให้กับผู้เป็นเจ้าของร่างไปมากมายจนแทบไม่มีแรงจะยืนด้วยซ้ำ

"สีหน้าเจ้าไม่สู้ดีเลย ทำไมถึงไม่พักผ่อนบ้าง น่าจะปล่อยให้นายน้อยดูแลร่างตนเองไปสิ"เซบาสเตียนพูดอย่างไม่พอใจที่ปีสาจน้อยตนนี้ฝืนร่างกายทำเกินตัวมามากเกินไปแล้ว

"หากทิ้งร่างปล่อยให้ชิเอลดูแลร่างเอง ป่านนี้เด็กคนนี้คงจะยืนไม่ได้ด้วยซ้ำ ข้า..พยายาม..เต็มที่แล้วที่จะ..รัก..ษา..ระ"ดาร์กชิลพูดเสียงแผ่วหายใจขาดห้วงก่อนที่จะ หมดสติไปด้วยความหมดแรง

"ดาร์กชิล ดาร์กชิล เป็นอะไรไปน่ะ ดาร์กชิล ดาร์กชิล"เซบาสเตียนร้องเรียกปีศาจน้อยอย่างตกใจที่จู่ๆเด็กคนนี้ก็หมดสติแน่นิ่งไป คอตกแทบจะแนบชิดอก ตัวร้อนจี๋ ท่าทางจะอาการหนักทีเดียว คงต้องรีบรักษาร่างกายชิเอลโดยด่วนซะแล้วก่อนที่ปีศาจน้อยจะอาการหนักไปมากกว่านี้

"ทำยังไงดี ทั้งนายน้อย ทั้งดาร์กชิล อาการหนักพอกันเลย ตัวร้อนจี๋ ท่าทางไข้จะขึ้นสินะ "เซบาสเตียนมีท่าทีตระหนก ชักรนรานทำอะไรไม่ถูก ตัดสินใจรวบตัวเด็กหนุ่มที่กำลังป่วยหนักขึ้นมาอุ้มไว้ในอ้อมแขนพาตรงไปหาหมอทันทีโดยไม่สนใจจะทำบัตรอะไรทั้งนั้น

"หมอครับ ช่วยเด็กคนนี้ที เขาตัวร้อนมาก พอดีลืมเอาบัตรมา รักษาไปก่อนได้มัยครับ"เซบาสเตียนร้องขอให้หมอช่วยนายน้อยของเขาอย่างร้อนรนกระวนกระวายใจ

"อ่าเชิญครับ เชิญๆ"หมอจึงรีบตกปากรับคำด้วยความสงสารเห็นใจ ยอมตรวจรักษาให้ชิเอลในทันที

แล้วหมอหนุ่มผมสีบอร์นท่าทางใจดีก็เชื้อเชิญให้ชายร่างสูงอุ้มคนไข้เข้าไปในห้องตรวจและให้วางร่างที่หมดสติของเด็กหนุ่มผมสีอความารีนลงบนเตียงคนไข้ในทันที แล้วจากนั้นหมอหนุ่มจึงทำการเอาปรอทมาวัดไข้ที่ใต้รักแร้ตรวจวัดอุณหภูมิ ซึ่งอุณหภูมิของร่างเด็กคนนี้ขึ้นมาหลายองศาทีเดียวแต่ยังอยุ่ในเกณฑ์ของอุณภูมิมนุษย์ธรรมดาไม่เหมือนคราวก่อนที่ตัวชิเอลร้อนจัดยังกับเตาเผา 

"คนป่วยมีไข้สูงพอสมควรนะครับ คออักเสบ ชีพจรปกติ เอ่อ..จะให้หมอจัดยาลดไข้เป็นยากินหรือยาฉีดดีล่ะ "หมอหันมาถามหลังจากที่ตรวจวัดไข้และเอาหูฟังวัดชีพจรที่อกของคนไข้ตัวน้อยไปเรียบร้อยแล้วพร้อมทั้งตรวจดูลำคอซึ่งแดงกล่ำ ท่าทางคอแดงอักเสบไม่น้อยเลยทีเดียว

"ฉีดยาก็ได้ครับ เคยให้ทานยาหลายขนานแล้วไม่หายขาดสักที เป็นๆหายๆแบบนี้มาเกือบสองวันแล้ว ฉีดยาเลยหมอ "เซบาสเตียนบอกหมอพรางมองดูเด็กของเขาด้วยความเป็นห่วงเป็นใย เอามือมาลูบหัวเบาๆ

"ครับ "หมอตอบรับพรางเดินตรงไปยังโต๊ะทำงานที่มีขวดยาและอุปกรณ์การแพทย์ต่างๆวางเอาไว้มากมายอย่างเป็นระเบียบ แต่หมอหนุ่มกลับหยิบมาแค่ไม่กี่อย่างเท่านั้น เซบาสเตียนคอยมองดูวิธีการรักษาของหมอแอบศึกษาไปในตัว เผื่อกลับไปบ้านจะได้ฉีดยาให้นายน้อยได้อย่างมืออาชีพ

พอหมอหนุ่มเตรียมอุปกรณ์พร้อมแล้วเขาก็ถืออุปกรณ์สำหรับฉีดยาตรงมาที่เตียง ซึ่งมีร่างของเด็กตัวร้อนกำลังนอนหลับอยู่ หมอหนุ่มเอาถาดใส่อุปกณ์ฉีดยาไว้ข้างเตียงแล้วทำการจับพลิกตัวคนไข้ให้นอนคะแคงคว่ำหันหลังให้หมอ แล้วค่อยๆปลดตะขอและรูดซิบกางเกงขาสั้นสีดำออก แล้วถลกเอวกางเกงลงมาเปิดพอให้เห็นสะโพกกลมมนเพียงเล็กน้อยแล้วเอาสำลีที่ชุบแอลกอฮอลมาถูเบาๆมาร์กตำแหน่งการลงฝีเข็มเอาไว้ ก่อนจะค่อยๆแทงเข็มอย่างเบามือนุ่มนวลอย่างมืออาชีพ แผ่วเบาและอ่อนโยนมากจนแม้แต่คนที่กำลังโดนฉีดยาที่ก้นแทบไม่รู้สึกเจ็บอะไรเลย 

"อ่า.."เซบาสเตียนมองดูอย่างทึ่งๆที่เห็นการฉีดยาระดับมืออาชีพเพราะมือของหมอหนุ่มนั้นนิ่งมากจนเขาอดชื่นชมไม่ได้จริงๆ นี่ถ้าเขามือนิ่งแบบนั้นนายน้อยคงไม่กลัวการฉีดยาของเขาอีกแน่ๆเลย

ซึ่งเด็กที่กำลังนอนแน่นิ่งหินหลังให้หมอจับฉีดยาในตอนนี้ คือดาร์กชิล ไม่ใช่ชิเอล และเด็กหนุ่มเริ่มรู้สึกตัวค่อยๆลืมตาสีแดงขึ้นมาอย่างอ่อนแรง

"นายน้อยหรือขอรับ"เซบาสเตียนถามเสียงแผ่วมองดูอย่างห่วงใย

"เปล่า...ข้าคือดาร์กชิลขอรับ..อา!!อะไรกันทำไมข้าถึงได้..!!"ดาร์กชิลตอบเสียงแผ่ว พรางเอามือมาลูบก้นเบาๆรู้สึกปวดตุ้บๆยังไงไม่รู้สิ และพอคลำมาโดนแผลที่พึ่งถูกฉีดยาไปเมื่อครู่นี้เขาถึงกลับสะดุ้งอย่างตกใจ รีบผุดลุกขึ้นนั่ง หลับตาปี๋ด้วยความเจ็บปวดที่ก้นอย่างไม่รู้สาเหตุ พยายามดึงกางเกงขึ้นมาคลุมปิดทันทีสีหน้าแดงกล่ำด้วยความเขินอาย ที่พอตื่นมาก็พบว่าตนนอนเปิดบั้นท้ายให้ใครก็ไม่รู้มามองดูและแตะต้องไปแบบนี้ได้ยังไงกัน 

"หึ พึ่งโดนฉีดยาไปน่ะ เดี๋ยวก็หาย มาป๋าใส่กางเกงให้"เซบาสเตียนพูดยิ้มๆพรางมาช่วยเด็กตัวร้อนจับใส่กางเกงให้เรียบร้อยและก็คอยมองดูดาร์กชิลในร่างชิเอลอย่างขบขันท่าทางจะตกใจน่าดูทีเดียว

"ทำไมมาจับข้าฉีดยาอ่า ปะป๋า ข้าไม่ได้ป่วยสักหน่อยนะ คนที่ป่วยคือชิเอลต่างหาก ไม่ใช่ข้า.."ดาร์กชิลพอรู้สาเหตุที่ตนรู้สึกเจ็บก้นเลยร้องประท้วงใส่ปะป๋าของเขาทันทีหน้าแดงซ่านด้วยความเขินอาย ที่ตนถูกหมอจับเปิดก้นฉีดยาแทนเจ้าของร่างไปเสียได้

"ไม่ป่วยอะไรตัวร้อนจี๋ แถมสลบไปอีก ดีแล้วโดนฉีดยาซะบ้างจะได้หายป่วยสักที มา..อุ้ม เดี่ยวป่าจะพาไปซื้อขนม"เซบาสเตียนพูดยิ้มๆเอื้อมมือมาแตะที่หน้าผากดูว่าไข้ลดลงไปบ้างหรือยัง ก่อนจะรวบตัวเด็กหนุ่มมาอุ้มไว้ในอ้อนแขนรอหมอเขียนใบสั่งยา

"เฮ้อ..ขอรับ ปะป๋า"ดาร์กชิลเป็นเด็กที่เข้มแข็งและสุขุมเยือกเย็นกว่าชิเอลมากเขาเพียงแค่บ่นเล็กน้อยพอเป็นพิธี จากนั้นก็นิ่งเงียบไม่พูดอะไรเลยสักคำ หากให้นายน้อยออกมารับการฉีดยาป่านนี้คงจะโวยวายโรงพยาบาลแทบแตกไปแล้วแน่ๆ

" อ่ะนี่ครับใบสั่งยา ให้เด็กคนนี้ทานยาตามที่หมอเขียนเอาไว้ที่ฉลากนะครับ กินติดต่อกันวันสองวันก็อาการดีขึ้นแล้วล่ะ ช่วงนี้คอยังเจ็บอยู่พยายามอย่าใช้เสียงมากนัก ให้ดื่มน้ำอุ่นๆหรือน้ำมะนาวเปรี้ยวๆก็ได้จะช่วยให้ชุ่มคอดีครับ และอย่าออกไปตากลมนานๆจะทำให้ไข้ขึ้นอีกระวังด้วย"นายแพทย์หนุ่มยื่นใบสั่งยาส่งให้เซบาสเตียนพร้อมทั้งให้คำแนะนำกับญาติของคนไข้ด้วย

"ครับ ขอบคุณมาก ป่ะ ดาร์กชิล เดี่ยวป๋าพาไปซื้อขนม"เซบาสเตียนตอบรับกับหมอก่อนจะก้มลงมาบอกกับเด็กหนุ่มที่เขากำลังอุ้มช้อนก้นอยู่ตั้งใจว่าจะพาไปซื้อขนมปลอบใจที่ต้องมาเจ็บตัวแทนนายน้อยของเขาสักหน่อย

"ข้าอยากทานขนมฝีมือปะป๋ามากกว่าขอรับ"ดาร์กชิลบอกยิ้มๆเขาไม่ค่อยปวดบริเวณที่ถูกฉีดยาสักเท่าไหร่แล้ว อาจเพราะพลังปีศาจของเขาเริ่มฟื้นฟูขึ้นมาบ้างแล้วก็เป็นได้

"อยากกินขนมฝีมือป่าเหรอ ได้ๆไว้กลับบ้านป่าจะทำให้ทานนะ"เซบาสเตียนพูดอย่างตามใจ พรางอุ้มออกมาจากห้องตรวจเดินไปเอาใบสั่งยาไปยื่นให้กับเจ้าหน้าที่ห้องจ่ายยา แล้วยืนรอรับยาพร้อมจ่ายค่ารักษาให้เรียบร้อยก่อนจะพาดาร์กชิลออกไปจากคลีนิคพร้อมถุงยา

"เดี๋ยวดาร์กชิลกลับเข้าไปพักผ่อนก่อนนะ ไว้กลับถึงบ้านป๋าจะเรียกออกมาอีกที อ้อไม่ต้องใช้พลังรักษาร่างแล้วนะ เจ้าต้องพักฟื้นฟูพลังไปจนกว่าจะแข็งแรงขึ้น"เซบาสเตียนบอกยิ้มๆในขณะที่กำลังผ่านหน้าคลีนิค

"แต่ว่าถ้าข้าไม่รักษาร่างเอาไว้ชิเอลจะเดินไม่ได้นะขอรับ ปะป๋าก็เห็นแล้วนี่ว่าร่างกายนี้อ่อนแอขนาดไหน แม้แต่ตัวข้าเองยังต้านทานความเจ็บป่วยนี้ไม่ไหวเลย"ดาร์กชิลโต้แย้งอย่างมีเหตุผล หากเขาไม่ช่วยพยุงร่างชิเอลเอาไว้เด็กคนนี้คงจะเดินไปไหนไม่ได้แน่ๆ

"ไม่ไหวก็ไม่เป็นไร ต้องให้นายน้อยยืนหยัดด้วยกำลังตนเองบ้าง ไม่ใช่จะหวังพึ่งพาพลังของเจ้าแล้วไม่รู้จักประมาณตนฝืนสังขาลปล่อยให้เจ้าช่วยจนเคยตัว กลับไปพักซะอย่าดื้อกับป๋าเข้าใจมัย"เซบาสเตียนสั่งเสียงเรียบมองดูปีศาจน้อยอย่างห่วงใย

"เข้าใจแล้วขอรับ ข้าขอตัวก่อน"ดาร์กชิลตอบรับแล้วจากนั้นเขาก็โน้มตัวลงซุกซบอกเซบาสเตียนแล้วหลับตาลง กลับเข้าไปอยู่ภายในจิตส่วนลึกของก้นบึ่งหัวใจคืนร่างกายให้ชิเอลไป ส่วนตนก็กลับไปพักผ่อนตามคำสั่งของบิดา หยุดทำหน้าที่รักษาร่างไปชั่วคราว

และจากนั้นไม่นานชิเอลก็ลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยดวงตาสีท้องฟ้า 

"ตื่นแล้วหรือขอรับนายน้อย"เซบาสเตียนทักทายยิ้มๆมองดูชิเอลอย่างเอ็นดู

"อืม..โอย...ทำไม..ปะปวดก้นจัง..นี่นายทำอะไรฉันเนี่ย"ชิเอลพอตื่นขึ้นมาก็โวยใส่ทันทีพรางเอามือมาลูบคลึงที่บั้นท้ายตนเองป้อยๆหลับตาปี๋พยายามข่มกลั่นความปวดตึ้บๆตรงบริเวณนั้นเหมือนกับตนพึ่งถูกเข็มแหลมๆทิ่มเอาอย่างไงอย่างงั้นเลย

"ไม่มีไรมากก็แค่ให้หมอฉีดยาให้คุณไปหนึ่งเข็มเอง คุณจะได้หายป่วยไวๆไง แล้วตอนนี้นายน้อยเป็นยังไงบ้างขอรับ ปวดหัวมัย มีไข้รึเปล่า"เซบาสเตียนถามอย่างห่วงใยเอามือมาแตะที่หน้าผากตรวจดูอุณหภูมิของร่างกายดูไปพรางๆ

"ไม่ค่อย..แต่..เมื่อกี้นายว่าอะไรนะ..ฉีดยางั้นเหรอ..มิน่าทำไมถึงตื่นมาปวดก้นตึบๆนายนี่มัน อึ้ย..มัดมือชกชัดๆเลย เล่นส่งตัวฉันให้หมอฉีดยาตอนไม่รู้ตัวแบบนี้ร้ายกาจที่สุด"ชิเอลโวยใส่จ้องหน้าคนพาไปฉีดยาเขม็ง

"หึ..อย่าบ่นไปเลยน่า ผมอุตส่าห์เรียกให้ดาร์กชิลมารับเข็มแทนคุณแล้วนะ ถ้าผมไม่ทำแบบนี้ ผมจะพาร่างของคุณไปให้หมอรักษาง่ายๆได้ยังไงกันล่ะ ว่าแต่จะซื้อเสื้อผ้าหรือเปล่า หรือว่าจะกลับไปพักที่บ้านตากอากาศกันก่อน นี่มันก็เย็นมากแล้ว หากเดินทางกลับเกาะปีศาจนายน้อยอาจไข้กลับและอาจจะต้องเสี่ยงกับการเจอแวมไพร์รังควาญอีกก็ได้นะ ผมว่าวันนี้เรากลับไปนอนพักผ่อนที่บ้านพักตากอากาศกันก่อนดีกว่านะขอรับ"เซบาสเตียนยื่นข้อเสนอด้วยความใส่ใจในสุขภาพของชิเอลเป็นสำคัญ

"ชิ..ฉันเดินไม่ไหวหรอก ดาร์กชิลไม่ได้รักษาร่าง กลับไปพักที่บ้านก่อนแล้วกัน ไว้พรุ่งนี้ค่อยซื้อเสื้อผ้าก่อนเดินทางกลับเกาะ"ชิเอลตัดสินใจยกเลิกการเที่ยวซื้อเสื้อผ้า เพราะตอนนี้เขารู้สึกว่าสังขาลไม่อำนวยกับการเดินเที่ยวเสียเลย เพราะดาร์กชิลไม่ช่วยรักษาร่างแล้ว เขากลับรู้สึกว่าสภาพร่างกายของตนตอนนี้มันแย่สุดๆเลย 

"เอางั้นก็ได้ขอรับ นั่งรถม้าไปนะ หมอบอกว่านายน้อยไม่ควรโดนลมเย็นนานๆจะทำให้ไข้กลับ"เซบาสเตียนเห็นด้วยที่จะกลับไปพักที่บ้านพักตากอากาศที่หมู่บ้านฮ่วสเวิร์ดกันก่อน

"อืม"ชิเอลตอบรับในลำคอแล้วซุกหน้าหาไออุ่นจากตัวคนอุ้มแล้วหลับตาลงยอมให้เซบาสเตียนอุ้มพาเขาไปหารถม้าโดยสารกลับบ้านอย่างว่าง่าย พอไม่มีดาร์กชิลรักษาร่างดูเหมือนเด็กหนุ่มจะหายซ่าไปเยอะ เพราะสำเนียกตนได้ว่า ฝืนร่างกายต่อไปไม่ไหวแล้ว

เซบาสเตียนเอามือลูบหัวลูบหลังชิเอลเบาๆก่อนจะพาตรงไปหารถม้าซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่เขายืนสักเท่าไหร่ เดินไปเรื่อยๆจนได้ยินเสียงล้อเกวียนเทียมรถม้าดังใกล้เข้ามา ใช่แล้ว เขากำลังจะไปถึงจุดให้บริการรถม้าแล้วในอีกไม่ช้า 

จนกระทั่งเซบาสเตียนเดินมาถึงที่หมาย เขาก็เห็นรถม้ามาจอดรอรับผู้โดยสารหลายคันเลยทีเดียว ชายหนุ่มเลือกคันที่อยู่ใกล้ตัวเขาที่สุด

"ไปไหนครับ"คนขับรถม้าที่ดูไม่แก่เท่าไหร่ สวมหมวกแก๊บเอ่ยถามขึ้น

"บ้านพักตากอากาศ ของหมู่บ้านฮาวด์เวิร์ด บ้านเลขที่สิบสอง บล๊อกห้า"เซบาสเตียนบอกสถานที่จุดหมายปลายทางให้คนขับรับทราบ

"อ้อ ได้ครับเชิญครับ"ชายคนขับตอบรับยิ้มๆแล้วเดินมาให้บริการเปิดประตูตู้รถม้าให้ ชายร่างสูงผมดำที่กำลังอุ้มเด็กหนุ่มวัยรุ่นให้ขึ้นรถเข้าไปในตู้รถม้า แล้วคอยปิดประตูตามหลังให้ตามมารยาทของการให้บริการตามปกติแล้วพอส่งผู้โดยสารขึ้นรถเรียบร้อยแล้ว ก้าวแบๆอย่างเร็วจี๋กลับไปที่นั่งคนขับแล้วทำการบังคับรถม้าให้แล่นออกไปจากจุดบริการในทันทีอย่างคล่องแคล้วว่องไว

ผู้โดยสารที่นั่งอยู่ในตอนนี้ก็ค่อยๆเอาร่างเล็กๆที่กำลังกึงหลับกึ่งตื่นมานอนหนุนตักตนเองแล้วมองดูวิวทิวทัศน์ไปเรื่อยๆ จากนั้นไม่นานก็นั่งหลับตาจนเผลองีบหลับไปตลอดทาง

จนกระทั่งหลายนาทีต่อมา เสียงม้าร้องแล้วรถม้าค่อยชะลอความเร็วลง บ่งบอกว่าในตอนนี้พวกเขากำลังจะมาถึงจุดหมายแล้ว และ
เอียดดดด รถม้าก็จอดนิ่งสนิทตรงหน้าประตูรั้วเหล็กสีขาว ที่ป้ายเลขที่บ้านถูกหิมะปกคลุมจนแทบมองไม่เห็นหมายเลข คนขับจึงกระโดดลงไปจากรถเพื่อตรวจสอบดูให้แน่ใจว่ามาถึงที่แล้วใช่หรือไม่ พอเอามือปัดปุยหิมะออกก็พบกับตัวเลขห้าจางๆจึงมั่นใจได้เลยว่ามาส่งผู้โดยสารได้ถูกที่เขาจึงเดินกลับมาที่ตู้รถม้าแล้วเปิดประตูออก

"ถึงแล้วครับ"คนขับชะโงกหน้าเข้ามาบอกผู้โดยสาร เซบาสเตียนที่กำลังหลับไปเพลินพลันสะดุ้งตื่น แล้วเอามือมาเขย่าๆสะกิดตัวชิเอลให้รู้สึกตัว

"นายน้อยขอรับ ถึงบ้านแล้ว"เซบาสเตียนเรียกพรางเขย่าตัวเด็กที่กำลังนอนหนุนตักเขาอยู่แรงๆปลุกให้ตื่น

"อืม"ชิเอลครางเบาๆตาสีท้องฟ้าค่อยๆลืมขึ้นมาช้าๆแล้วกระพริบตาปริบๆถี่ๆเพื่อปรับโฟกัดการมองเห็นให้เด่นชัดขึ้น แล้วดันตัวขึ้นมาจากตักคนปลุก แล้วหันไปมองดูรอบๆตัวด้วยท่าทีมึนงงเล็กน้อย

"หึ ถึงบ้านแล้วขอรับ"เซบาสเตียนพูดซ้ำอีกครั้งเผื่อว่าชิเอลจะยังมึนงงจับต้นชนปลายไม่ถูกว่าพวกอยู่ที่ไหน

"อืม"ชิเอลพยักหน้ารับ ก่อนจะค่อยลุกขึ้นจากเบาะที่นั่งของรถม้า โดยมีพ่อบ้านหนุ่มคอยพยุงตัวเอาไว้ไม่ให้ซวนเซล้ม ขาที่ไร้เรี่ยวแรงค่อยๆก้าวลงบันไดโดยมีคนคอยพยุงตัวอยู่ตลอดทั้งการให้บริการจากคนขับและจากมือพ่อบ้านของเขาเอง ที่ลงมาทีหลัง 

และพอชิเอลสามารถลงมาจากรถมายืนที่พื้นหิมะอย่างปลอดภัยไม่ได้ล้มหัวทิ่มลงมาเสียก่อน เขาก็หยุดยืนรอพ่อบ้านของเขาที่กำลังตามลงมาในอีกไม่กี่อึดใจนี้ สายตามองหาคนรับใช้ซึ่งตอนนี้น่าจะพากันออกมาต้อนรับเขาด้วยซ้ำ แต่กลับไม่เห็นใครเลย ทำไมกันนะ หรือว่าจะเกิดเรื่องกับคนพวกนั้นอีกหรือเปล่า

"ทำไมพวกนั้นไม่ออกมาล่ะเซบาสเตียน"ชิเอลเกิดสงสัยหันมาถามเซบาสเตียนซึ่งตอนนี้พ่อบ้านหนุ่มกำลังจ่ายค่าโดยสารให้คนขับก่อนจะเดินมาสมทบกับนายน้อยของเขา

"อาจจะไปซื้อของล่ะมั้งขอรับ"เซบาสเตียนตอบอย่างมองโลกในแง่ดี เขาไม่อยากจะคิดหรอกว่าอาจเกิดเรื่องไม่ดีกับคนพวกนั้นขึ้นมาอีกหรือไม่ก็ได้ พรางเดินมาสมทบคว้าแขนชิเอลมาจูงพยุงตัวไว้อย่างห่วงใย หลังจากที่จ่ายค่าโดยสารให้คนขับไปเรียบร้อยแล้ว และตอนนี้คนขับก็กลับไปประจำที่บังคับรถม้าค่อยๆแล่นออกไปกลับไปยังหาผู้โดยสารรายอื่นๆหาเลี้ยงชีพต่อ

"นายแน่ใจเหรอ ว่าพวกนั้นจะไม่เกิดเรื่องหรือถูกปีศาจตนไหนจับตัวไปอีกน่ะ"ชิเอลเงยหน้ามาถามด้วยท่าทีกังวลใจ

"ผมคิดว่าไม่มีขอรับ เพราะเท่าที่ลองตรวจจับพลังปีศาจแถวนี้ก็มีแค่เราสองคนเท่านั้น ไม่มีปีศาจที่ไหนเลยขอรับ"เซบาสเตียนให้คำยืนยันพรางรวบตัวชิเอลขึ้นมาอุ้มช้อนก้นพาเข้ามาในบริเวณบ้าน 

"ซื้อของ..แล้วพวกนั้นมีเงินเหรอ นายไปทำเรื่องเปิดบัญชี้ให้พวกนั้นหรือยัง"ชิเอลถามต่ออีกเมื่อนึกขึ้นได้

"เอ้อ..จริงสิ..ผมยังไม่ได้เข้าไปเปิดบัญชีให้คนพวกนั้นเลย มัวแต่ยุ่งๆเรื่องนั้นอยู่"เซบาสเตียนร้องออกมาอย่างตกใจที่ตนดันลืมเรื่องเปิดบัญชีธนาคารโอนเงินเดือนให้คนใช้ทั้งสี่เลย 

"อะไรนะ นี่นายยังไม่ได้โอนเงินให้เจ้าพวกนั้นอีกเหรอ แล้วคนพวกนั้นจะเอาเงินที่ไหนไปซื้ออาหารกิน ป่านนี้ไม่อดตายไปก่อนเหรอ ทำไมนายถึงได้สับเพร่าแบบนี้นะ เกิดคนพวกนั้นอดตายไปจะทำยังไง"ชิเอลต่อว่าพ่อบ้านของเขาอย่างไม่พอใจ 

"ขออภัยขอรับ พอดีผมมัวแต่ยุ่งเรื่องนั้นเลยลืมไปเลยขอรับ"เซบาสเตียนกล่าวขอขมาด้วยความรู้สึกผิดที่เลินเล่อ ไม่ทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้เสร็จๆไป

"เรื่องนั้น เรื่องอะไร"ชิเอลขมวดคิ้วถาม

"เอ่อ..เอาไว้เราค่อยเข้าไปคุยกันในบ้านดีกว่าขอรับ มายืนคุยตรงนี้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่"เซบาสเตียนเกิดระแวงขึ้นมา มองซ้ายมองขวาดูว่ามีใครแอบฟังอยู่หรือเปล่า เพราะตอนนี้พวกเขากำลังตกอยู่ในอันตราย หากพวกคนร้ายที่ถูกช่วยออกมาจ้องจะเล่นงานกลับล่ะก็ 

"ก็ได้"ชิเอลพยักหน้าเห็นด้วย 

เซบาสเตียนจึงรีบพาชิเอลกลับเข้าไปข้างในบ้านแล้วปิดประตูล๊อกกลอนทันทีแล้วมองสำรวจรอบๆบ้านอย่างระแวดระวัง พอเห็นว่าไม่มีใครบุกรุกเข้ามาแอบซ่อนในบ้านเขาจึงวางชิเอลลงนั่งที่โซฟาแล้วจุดไฟในเตาผิงให้สว่างและอุ่นขึ้น

"ว่าไง..ตกลงเรื่องมันเป็นยังไง"ชิเอลถามทันทีเมื่อตนถูกปล่อยให้นั่งลงบนโซฟาตรงหน้าเตาผิงแล้ว

"พวกคนร้ายที่จับเด็กไปตอนนี้ถูกปล่อยตัวออกมาหมดแล้วขอรับ นายน้อยระวังตัวเอาไว้นะ พวกมันต้องหาทางมาเล่นงานพวกเราอีกแน่ๆ"เซบาสเตียนหันมาเตือนเดินเข้าไปในครัวไปหาน้ำมารินใส่แก้วแล้วถือมามอบให้ชิเอลดื่มแก้กระหาย สายตาคอยมองสอดส่องไปรอบๆห้อง เพื่อตรวจจับความผิดปกติไปด้วย

"อะไรนะ ไม่จริงน่า พวกคนร้ายมันถูกปล่อยตัวออกมาได้ยังไง ใครช่วยพวกมัน"ชิเอลร้องอย่างตื่นตระหนก ยิ่งมารู้ข่าวการแหกคุกหมู่ของกลุ่มคนร้ายลักพาตัวเด็กเข้ายิ่งทำให้เขารู้สึกหวาดระแวงขึ้นมาทันที ใช่พวกมันรู้จักบ้านของเขา และมันคงจะมาจัดการกับเขาในอีกไม่ช้านี้แน่ๆ

"หัวหน้าคนร้ายที่มีโคดเนมว่า ซีโร่ นายน้อยรอผมอยู่ตรงนี้ก่อนนะ ผมจะขึ้นไปดูข้างบนหน่อย จำไว้นะหากเกิดอะไรขึ้นเรียกหาผมทันทีเลยนะ"เซบาสเตียนหันมาตอบพรางเอามือล้วงไปในเสื้อหยิบกริกเงินออกมาถือเตรียมเอาไว้ สายตาคอยมองสอดส่องไปรอบๆบ้านอย่างระแวดระวังภัย เขาทำท่าจะเดินขึ้นไปสำรวจชั้นบนสักหน่อยเผื่อว่าคนร้ายดักซุ่มอยู่ภายในบ้าน แต่ก่อนจะไปเขาก้หันมาบอกชิเอลก่อน

"อืม"ชิเอลพยักหน้าตอบรับด้วยท่าทีจริงจัง ตอนนี้เขาไม่มีพลังปีศาจเป็นเพียงเด็กหนุ่มธรรมดาที่ไร้พิษสงและกำลังป่วยอยู่ด้วย แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นเขาก็มั่นใจว่าหากเขาเกิดอะไรขึ้นเซบาสเตียนต้องมาช่วยเขาทันแน่ๆ จึงยอมที่จะนั่งรออยู่ที่นี่อย่างใจเย็น

ส่วนเซบาสเตียนก็เดินขึ้นบันไดไปสำรวจที่ชั้นสองปล่อยให้ชิเอลนั่งเล่นอยู่ที่โซฟาตามลำพัง 

"เฮ้อ..ทำไมบ้านเงียบแบบนี้นะ เจ้าสี่คนนั้นหายไปไหน คงไม่ได้เกิดเรื่องกับคนพวกนั้นขึ้นมาจริงๆหรอกนะ อย่าให้เกิดเรื่องไม่ดีเลย"ชิเอลนั่งเอามือกุมไว้ที่อกภาวนาขออย่าให้พวกคนใช้แฟนท่อมไอด์เป็นอะไรเลย เขารู้สึกว่าบรรยากาศของบ้านมันวังเวงเงียบเชียบยังไงชอบกล ชักเริ่มกลัวขึ้นมาหน่อยๆแล้วสิ ที่ต้องอยู่ตรงนี้เพียงลำพัง แต่เขาก็ต้องทำใจให้เข้มแข็งเข้าไว้ พยายามบอกกับตนเองว่าไม่มีอะไร อย่าไปสนใจ
และไม่นานเซบาสเตียนก็ลงมา

"ข้างบนดูเหมือนไม่มีคนร้าย แต่ว่าสภาพห้องเละเทะมาก เหมือนกับว่าเกิดการต่อสู้ขึ้นน่ะครับ"เซบาสเตียนรายงานตามสิ่งที่เขาพึ่งไปสำรวจมาให้ชิเอลฟัง

"อะไรนะ 0_0!! การต่อสู้!!"ชิเอลถึงกลับร้องอย่างตกใจตาเบิกโพลง ผุดลุกขึ้นอย่างกระทันหันจน เกิดอาการมึน เด็กหนุ่มถึงกลับเอามือมากุมขมับด้วยความปวดหัวตุบๆเหมือนมีใครเอาค้อนมาทุบก็ไม่ปานและมึนงง ตาพร่าลายจากการลุกเร็วเกินไปร่างกายเลยเสียศูนย์ปรับตัวไม่ทัน

"นายน้อยอย่าลุกเร็วๆสิครับ มาๆนั่งลงก่อนนะ คุณนี่จริงๆเล้ย รู้ว่าป่วยยังจะลุกขึ้นมากระทันหันไม่ระวังอีก"เซบาสเตียนต่อว่าพรางเอาแขนมาโอบไหล่ประคองให้ค่อยๆกลับลงไปนั่งที่โซฟาด้วยความห่วงใย

"ฉะฉันไม่เป็นอะไร แค่เวียนหัวนิดหน่อย"ชิเอลหลับตาพูดดันแขนพ่อบ้านหนุ่มที่โอบประคองออกจากไหล่ แล้วกระเถิบตัวหนีเอามือบีบคลึงๆที่ขมับที่ปวดรวดร้าวแทบจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ

"นิดหน่อยอะไรกันดูคุณทำท่าเหมือนปวดหัวแทบระเบิดเลยไม่ใช่หรือขอรับ บอกแล้วไงว่าอย่าฝืน พึ่งจะโดนฉีดยาไปเองแท้ๆเดี่ยวไข้ขึ้นมาอีกคราวนี้ผมจะจับฉีดยาเองเลยนะ"เซบาสเตียนพูดเสียงดุ คอยเตือนไม่ให้ชิเอลฝืนร่างกายไปมากกว่านี้

"ฉันก็แค่ลุกเร็วไปหน่อย ไม่ได้ฝืนร่างกายเลยนะ อย่ามาดุฉันได้มัย "ชิเอลเงยหน้ามาประท้วงอย่างไม่พอใจที่โดนเจ้าอีกานี่ดุเอาอีกแล้ว

"เฮ้อ...ครับไม่ดุก็ได้ มา..เดี่ยวผมจะพาคุณไปนอน"เซบาสเตียนถอนใจแต่ก็ยอมทำตามที่ชิเอลขอ เลิกดุว่าเด็กของเขา สองมือจับรวบตัวเด็กหนุ่มอุ้มขึ้นช้อนก้นพากลับขึ้นไปนอนที่ห้องที่ชั้นสอง ที่จนบัดนี้ประตูยังไม่ได้ซ่อมซักที

ชิเอลไม่พูดอะไรยอมให้เซบาสเตียนอุ้มพากลับไปนอนที่ห้องแต่โดยดี ในตอนนี้ยังไม่อาจสรุปได้ว่าพวกคนใช้หายตัวไปเพราะฝีมือคนร้าย แต่มันก้น่าสงสัยอยู่ดีว่าคนพวกนั้นหายไปไหนกันหมดทั้งสี่คนเลย ตามปกติแล้วน่าจะมีใครสักคนที่ต้องอยู่เฝ้าบ้านสิ 

"เดี่ยวเซบาสเตียน"จู่ชิเอลเกิดนึกอะไรขึ้นมาได้

"ว่าไงขอรับ"เซบาสเตียนหงุดเดินก้มหน้ามาสบตาถาม

"ถ้าหากไม่เกิดอะไรขึ้น หากพวกนั้นแค่ออกไปข้างนอกกัน ป่านนี้คุณทานากะน่าจะอยู่เฝ้าบ้านสิ แล้วตอนนี้เขาหายไปไหนล่ะ นายหาจนทั่วแล้วเหรอบางทีเขาอาจจะแอบงีบหลับอยู่ที่ไหนตามซอกหลืบก็ได้นะ "ชิเอลเอ่ยถึงจุดที่น่าสงสัยขึ้นมา

"จริงด้วยสิ ผมยังไม่ได้ไปหาที่ห้องพักของพวกเขาเลย บางทีอาจจะอยู่ที่นั้นก็ได้มั้งขอรับ"เซบาสเตียนพยักหน้าเห็นด้วย

"อืม งั้นเราลองไปหาที่ห้องพักของพวกนั้นกันเถอะ"ชิเอลจึงชักชวนให้เซบาสเตียนพาไปหาตัวพ่อบ้านชราทานากะที่ห้องพักเผื่อว่าใครคนหนึ่งจะยังอยู่ที่ห้องก็เป็นได้

"เยสมายลอร์ด"เซบาสเตียนตอบรับแล้วอุ้มชิเอลตรงไปยังห้องพักของเหล่าคนใช้ในทันที 
และพอมาถึง

ก๊อกๆ 

"คุณทานากะ อยู่ในห้องหรือเปล่าครับ คุณทานากะเปิดประตูหน่อยครับ"เซบาสเตียนเคาะประตูเรียกเสียงดังด้วยมือข้างเดียวส่วนอีกข้างอุ้มนายน้อยของเขาเอาไว้

ก๊อกๆ

"คุณทานากะ คุณทานากะ"เซบาสเตียนพยายามเคาะประตูเรียกอยู่หลายครั้ง แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าใครจะเปิดประตูออกมา พ่อบ้านหนุ่มหันมามองหน้านายน้อยเพื่อขอความเห็น

"เปิดเข้าไปดูให้รู้ดำรู้แดงไปเลย เซบาสเตียน"ชิเอลสั่งเสียงเรียบ

"ขอรับ"เซบาสเตียนตอบรับก่อนจะทำการใช้เท้าถีบพังประตูเข้าไปเพราะว่าประตูถูกล๊อกจากภายใน หากไม่มีกุญแจสำรองจะเข้าไปได้ต้องพังประตูไปเท่านั้น

พลั่ก ตึ้ง!!

แล้วบานประตูก็พังเปิดอ้าออก เซบาสเตียนรีบเดินเข้าไปข้างในสายตามองดูอย่างระแวดระวัง และเขาก็ได้ยินเสียงอู้อี้ของใครสักคนหนึ่งเหมือนกับว่าคนๆนั้นกำลังถูกปิดปากอยู่จนพูดไม่ได้อย่างไงอย่างงั้น

"เซบาสเตียนนั่น ตรงนั้น"ชิเอลที่ช่างสังเกตชี้มือบอกตำแหน่งที่น่าสงสัยให้เซบาสเตียนรีบเดินไปดู

"อื้อ อื้อ"เสียงอู้อี้ดังใกล้เข้ามาเมื่อชายหนุ่มอุ้มเด็กหนุ่มเดินตรงมาที่ข้างเตียงและก็พบกับเจ้าของเสียงซึ่งเขากำลังถูกใครสักคนมัดเอาไว้ด้วยเชือกและมีผ้าปิดปากเอาไว้ 

"คุณทานากะ!!นี่มันเกิดอะไรขึ้นครับ"เซบาสเตียนร้องทักอย่างตกใจตาเบิกกว้าง รีบวางชิเอลลงยืน ส่วนตนก็ทรุดลงนั่งคุกเข่าแกะผ้าปิดปากออกและแก้มัดเชือกออกจากตัวจนชายชราร่างเล็กสามารถดันตัวลุกขึ้นมานั่งได้

"พวกคนร้าย!!ลักพาตัวเด็ก จับฟินนี่ เมย์ลินและบันโดไป!พวกมันมากันเป็นกลุ่มและหนึ่งในนั้นมีปีศาจตาสีแดง น่ากลัวมาก!แถมพวกมันยังบอกกับผมอีกว่าหากต้องการช่วยคนของเราให้เอาตัวลูกขุนนางไปแลก!โดยไว้ชีวิตผมให้มาส่งข่าวถึงพวกคุณไงล่ะ"พ่อบ้านชราทานากะแปลงกายมาเป็นพ่อบ้านชราร่างสูงเพื่อบอกข่าวให้เซบาสเตียนกับชิเอลรับรู้ ทั้งสองคนถึงกลับเบิกตาโผลงมองกันและกันด้วยความตื่นตลึง

"นึกแล้วเชียวว่าต้องเกิดเรื่องขึ้นมาอีกจนได้ ชีวิตนี้คงจะหาความสงบสุขแบบคนอื่นๆบ้างไม่ได้สินะ"ชิเอลหรี่ตาพูดอย่างกลัดกลุ้ม นี่ชีวิตพวกเขาจะมีวันสงบสุขกับเขาบ้างมัยนะ มีแต่เรื่องให้ต้องปวดหัวกันอยู่ตลอดเลย 

"ให้ตายสิ...งานเข้าอีกจนได้ กะไม่ให้พวกเราได้พักหายใจหายคอกันมั่งเลยใช่มัย "เซบาสเตียนเองก็กลุ้มใจไม่แพ้กัน อุตส่ห์ช่วยให้รอดตายออกมาจากหุบเขาดิ้วอี้แล้วแท้ๆยังจะถูกปีศาจตนอื่นจับไปอีกเหรอเนี่ย

"นั่นสินะ..เราจะทำยังไงกันดีเซบาสเตียน ตอนนี้พวกคนร้ายจับตัวคนพวกนั้นไปไว้ที่ไหนเรายังไม่รู้เลย"ชิเอลหันมาถามด้วยท่าทีปวดหัวตุ้บๆ

"ผมว่าเราแจ้งตำรวจดีกว่ามัยนายน้อย"พ่อบ้านชราร่างสูงเสนอขึ้นมา เขายังคงสภาพเป็นพ่อบ้านตัวจริงได้อีกไม่นานนัก 

"อย่า..พวกตำรวจมนุษย์ธรรมดาสู้ปีศาจไม่ได้หรอก เรื่องนี้ปล่อยเป็นหน้าที่ของผมเอง นายน้อยคุณต้องไปอยู่ที่อื่นแล้วล่ะ ที่นี่ไม่ปลอดภัย "เซบาสเตียนหันมาบอกชิเอลด้วยท่าทีกังวลใจ

"ไม่..ฉันจะไปช่วยพวกฟินนี่ เมย์ลินและบันโดกับนาย"ชิเอลยืนกรานจะขอตามเซบาสเตียนไปด้วย

"ไม่ได้ครับ นายน้อยยังป่วยอยู่ เกิดคุณถูกจับตัวไปอีกผมคงช่วยลำบาก และคนที่ถูกหมายหัวคือคุณ ที่พวกคนร้ายจับตัวพวกบันโด ฟินนี่ เมย์ลินไปเพื่อเป็นตัวล่อให้พวกเราไปเจอกับมัน และตอนนี้สภาพร่างกายคุณไม่พร้อมที่จะสู้ ผมสั่งให้ดาร์กชิลพักอยุ่ คุณไม่มีพลังปีศาจรักษาร่างชั่วคราวถ้าพาไปด้วยผมคงทำอะไรไม่สะดวก"เซบาสเตียนพยายามเกลี่ยนกล่อมห้ามไม่ให้ชิเอลติดตามเขาไปช่วยพวกคนใช้แฟนท่อมไฮด์

"ทำไม หรือนายกลัวว่าฉันจะไปเป็นตัวถ่วงหรือไง ฉันเอาตัวรอดได้ ให้ฉันไปด้วย"ชิเอลไม่ยอมถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวอีกแล้ว ไม่ว่ายังไงเขาก็จะขอตามเซบาสเตียนไปช่วยคนพวกนั้นด้วย

"ไม่ได้!! ผมจะต้องพาคุณไปหาที่ปลอดภัยหลบซ่อนตัว พวกมันต้องการตัวคุณนะครับอย่าลืมสินายน้อย"เซบาสเตียนยืนกรานจะไม่พาชิเอลไปด้วยท่าทีจริงจัง

"หึ สำหรับคนที่ถูกศัตรูหมายหัวตามล่าอย่างฉัน ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็อันตรายทั้งนั้นแหละ หัวหน้าพวกมันก็คงเป็นแค่ปีศาจปลายแถว ลูกน้องส่วนใหญ่ก็คงเป็นแค่มนุษย์ธรรมดา ถึงยังไงฉันก็ไม่มีทางที่จะตายได้อยู่ดี มนุษย์พวกนั้นคงฆ่าฉันไม่ได้หรอกเซบาสเตียน"ชิเอลพูดแก้ต่างให้ตนเอง

"ใครบอกว่าเป็นปีศาจธรรมดาหัวหน้าของมัน เจ้าซีโร่น่ะเป็นเอสคราส ปีศาจอ่อนหัดป่วยกระเซาะกระแซะแบบนี้ หากไปก็ต้องตกเป็นเหยื่อของมันแน่ๆ ยังไงซะผมไม่มีทางให้นายน้อยไปกับผมเด็ดขาด คุณต้องไปซ่อนตัว!!"เซบาสเตียนเตือนด้วยท่าทีจริงจังมองชิเอลอย่างห่วงใย เขาไม่มีวันปล่อยให้เด็กของเขาถูกปีศาจจับตัวไปอีกเป็นอันขาดยัไงก็ต้องปกป้อง

"แล้วนายคิดว่าจะซ่อนฉันได้งั้นเหรอ ฉันเป็นปีศาจ หากตัวซีโร่เป็นปีศาจเอสคราสเหมือนนาย หมอนั่นคงจะตรวจจับพลังปีศาจหาตัวฉันเจออยู่ดีนั่นแหละ นายคิดว่าจะหาที่ซ่อนปลอดภัยได้อย่างงั้นเหรอ ไม่มีที่ไหนปลอดภัยหรอกนอกจากบ้านของนาย"ชิเอลโต้แย้ง เขารู้ว่าเซบาสเตียนไม่มีทางทิ้งเขาให้อยู่บ้านคนเดียวแน่ๆ ยังไงก็คงต้องพาไปอยู่ดีแหละก็ไม่มีที่ไหนจะปลอดภัยเท่าบ้านของซาตานหนุ่มอีกแล้วนี่นา

"ไม่ครับ ถ้าจะให้ซ่อนใบไม้จะต้องซ่อนเอาไว้ในป่า ดังนั้นสถานที่ปลอดภัยที่ผมจะให้นายน้อยไปหลบภัย คือ บ้านของลุงแลนกาบต่างหาก ผมไม่มีทางทิ้งให้เด็กที่กำลังป่วยอยู่บ้านตามลำพังโดยไม่รู้ชะตากรรมไปแบบนั้นไม่ได้หรอก หากผมฝากไว้กับปีศาจที่ไว้ใจได้อย่างแลนกาบและสามารถติดต่อหากันได้ตลอดที่นั่นเหมาะสมที่สุดแล้วที่จะซ่อนตัวคุณไว้ ในดงที่เต็มไปด้วยปีศาจแบบนี้ไม่มีทางที่ซีโร่จะหาตัวคุณเจอแน่ๆ"เซบาสเตียนเสนอความคิดอย่างชาญฉลาด เขาจะเอาชิเอลไปฝากกับปีศาจผมแดงสักระยะ จนกว่าจะช่วยพวกคนใช้แฟนท่อมไฮด์ได้สำเร้จเรียบร้อยแล้ว

"บ้านลุงแลนกาบเหรอ เอ่อ..ก็ได้..แต่นายต้องมารับฉันเร็วๆนะ"ในเมื่อข้อเสนอของเซบาสเตียนเข้าท่าชิเอลจึงยอมรับในการตัดสินใจของพ่อบ้านของตนยอมไปอยู่กับแลนกาบรอจนกว่าเซบาสเตียนจะพาพวกคนใช้แฟนท่อมไอด์กลับมาอย่างปลอดภัยและมารับเขา

"ขอรับ ส่วนคุณทานากะ ผมจะพาไปอยู่กับเพื่อนของผมซึ่งคนนี้ต้องช่วยคุณได้แน่นอน"เซบาสเตียนพูดอย่างมั่นใจ

"ใครหรือครับ"พ่อบ้านชราร่างสูงหันมาถาม ตอนนี้เขาเริ่มจะร้อนแล้ว เหงื่ออกเต็มหน้าเลย

"คุณอัคนีและเจ้าชายโซมา"เซบาสเตียนหลับตาตอบยิ้มๆ 

"เจ้าชายบ๊องๆนั่นน่ะนะ เหอะๆ"ชิเอลเกิดนึกถึงเจ้าชายโซมาขึ้นมาทำให้เขาอดขำไม่ได้ เจ้าชายนั้นจะทำหน้ายังไงนะถ้ารู้ว่าเขายังไม่ตายและจะพาพ่อบ้านชราทานากะไปฝากไว้หลบภัยชั่วคราวน่ะ

"ขอรับ นายน้อยคิดถึงคนพวกนั้นใช่ม้า"เซบาสเตียนหันมาถามยิ้มๆเมื่อเห็นท่าทีดีใจอยู่ในน้ำเสียงหัวเราะของเด็กหนุ่ม

"ชิ ใครจะไปคิดถึงเจ้าพวกนั้นกัน มีแต่คนบ้าๆบอๆ ฉันก็แค่นึกขันเวลานึกถึงสีหน้าของคนพวกนั้นต่างหาก หึ ป่านนี้คงหลงเข้าใจผิดคิดว่าฉันตายไปแล้วแน่ๆ และถ้าหากมาเจอฉันอีกพวกนั้นคงตกใจน่าดูเลยล่ะ หึหึหึ"ชิเอลพูดพรางยิ้มเจ้าเล่ห์ เกิดตื่นเต้นขึ้นมาเล็กน้อยที่จะได้เจอมิตรเก่าอีกครั้งหลังจากที่หายหน้าหายตาไปเกือบอาทิตย์พร้อมการ์ดงานศพและกล่องของขวัญผูกโบว์สีดำคลิบขาว พวกนั้นจะทำหน้ายังไงกันนะเขาอยากจะเห็นเร็วๆจังเลย

"งั้นเราไปกันเลยนะครับ"เซบาสเตียนไม่รอช้าค้วาแขนชิเอลดึงตัวมาอุ้มช้อนก้นทันที ส่วนพ่อบ้านชราทานากะพยักหน้าให้แล้วเดินตามพวกชิเอลออกไปจากห้องและทันทีที่ออกมาอยู่แถวเตาผิง

ปุ่ง!!!!

"คร่อกๆ"พ่อบ้านชราทานากะก็กลายสภาพตัวหดไปทันที แล้วล้มหงายหลังสลบคาที่

"อ้าว -*-"เซบาสเตียนกับชิเอลหันมามองก็พบกับสภาพหลับไหลของพ่อบ้านชราไปซะแล้วต่างคนต่างมองหน้ากันและขมวดคิ้วใส่กันอย่างกลัดกลุ้ม

"เฮ้อ.. ตาแก่เอ๊ย มาหลับทำไมตอนนี้เนี่ย"ชิเอลสบทอย่างเหนื่อยใจส่ายหน้าไปมา 

"นั่นสิครับ งั้นคงต้องหิ้วไปแล้วล่ะ นายน้อย"เซบาสเตียนบอกพรางดึงคอเสื้อหิ้วกระเตงร่างพ่อบ้านชราตัวเล็กๆติดมือไปด้วย 

"อืม"ชิเอลพยักหน้า 

แล้วจากนั้นพวกเซบาสเตียนก็พากันออกจากบ้านกันทันที เซบาสเตียนต้องการไปให้ถึงที่หมายเร็วๆเพราะนี่มันเย็นใกล้จะค่ำแล้ว เขาจึงตัดสินใจพาบินขึ้นฟ้า แต่ก่อนจะบินขึ้นไปชายนุ่มต้องจัดท่าจัดทางการอุ้มให้พ่อบ้านชราให้กระชับรัดกุมมากกว่านี้ก่อนเดี๋ยวเกิดบินไประหว่างทางเสื้อผ้าเกิดขาดตกลงมาตายจะไม่ดีแน่ๆ เขาจึงปล่อยชายชราลงบนพื้นชั่วคราว จับเปลี่ยนท่าอุ้มชิเอลเป็นพาดบ่าแล้วคว้ารวบเอวพ่อบ้านชรามาหิ้วไว้ให้กระชับ ลีอกตัวเอาไว้อย่างแน่นหนาไม่มีทางหลุดตกลงมาแน่นอนจากนั้นเขาก็กางปีกสีดำสวยนั้นแล้วกระพือบินขึ้นฟ้าไปอย่างรวดเร็ว ชิเอลหลับตาปี๋ด้วยความหวาดเสียวภาวนาให้ไปถึงที่หมายเร็วๆ เพราะตอนนี้อีกาหนุ่มพาบินขึ้นมาสูงเหนือก้อนเมฆเพื่ออำพรางตัวไม่ให้ผู้คนแตกตื่น
ระหว่างทางพ่อบ้านชราเกิดรู้สึกตัวลืมตาตื่นขึ้นก็ตกใจแทบช๊อก

"โอ้ว...ววว"พ่อบ้านชราร้องอุทานอ้าปากค้างมองดูเบื้องล่างอย่างตื่นตระหนก

"ไม่ต้องกลัวผมไม่ทำคุณตกลงไปหรอกไว้ใจผมนะ คุณทานากะ"เซบาสเตียนพูดปลอบโยนเขากลัวคนแก่จะหัวใจวายตายไปซะก่อนจะถึงที่หมายน่ะสิ

"โฮะ โฮะ โฮะ..."พ่อบ้านชราพยายามส่งเสียงตอบรับก่อนจะ หมดสติไปอีกรอบ

"อ้าวสลบไปอีกแล้ว ช่างเหอะแค่สลบยังดีกว่าหัวใจวายตายละกัน อีกไม่ไกลก็ถึงโรงแรมที่พักของเจ้าชายโซมาแล้ว"เซบาสเตียนพูดพึมพำเบาๆ พรางบินพุ่งฉิวไปบนฟากฟ้าเร็วจี๋ 

"นายน้อยยังอยู่ดีเปล่าครับ"เซบาสเตียนถามด้วยความห่วงใย

"อือ"ชิเอลตอบรับในลำคอหลับตามุดหน้าลงกับแผ่นหลังและปีกนุ่มลื่นดุจใยไหม ตอนนี้เขากำลังเอามือหยอกล้อเล่นกับอาร่าปีกของอีกาหนุ่มอย่างเพลินมือ เพราะพอจะจับขนปีกกลับทะลุผ่านมือของเขาไปจับต้องไม่ได้แต่ให้สำผัสที่นุ่มลื่นดุจใยไหมเล่นแล้วสนุกดี

"หึหึหึ"เซบาสเตียนอดหัวเราะไม่ได้ กับการเล่นซุกซนของนายน้อยที่พยายามจะจับขนปีกของเขาให้ได้

"หัวเราะอะไร"ชิเอลดันตัวมาถามท่าอุ้มจึงเป็นช้อนก้นไปตัวเขาเริ่มร้อนขึ้นมาเล็กน้อยแต่ก็ยังพอไหวอยู่

"ชอบเล่นปีกของผมหรือครับ"เซบาสเตียนถามยิ้มๆ

"เปล๊า แค่ทำอะไรแก้เบื่อ ปีกนายนุ่มดีนะ"ชิเอลรีบปฏิเสธเสียงสูงเลย

"หึ จะจับเล่นก็ได้นะผมไม่ว่าอะไรหรอก "เซบาสเตียนบอกอย่างขบขันเอ็นดู

"อืม"ชิเอลตอบรับในลำคอพรางพยายามจะจับปีกเซบาสเตียนเล่นอีก 

"รู้สึกยังไงบ้างครับ ยังปวดหัวอยู่มัย"เซบาสเตียนถามด้วยความห่วงใย

"ปวดหัวนิดหน่อย แต่พอทนไหว"ชิเอลหลับตาตอบซุกหน้าลงกับอกอุ่นๆของเซบาสเตียนหลบกระแสลมเย็นๆที่มาประทะหน้าตลอดเวลา

"อดทนอีกนิดใกล้จะถึงแล้วครับ"เซบาสเตียนพูดให้กำลังใจ

"อืม"ชิเอลตอบรับในลำคออีก เขาไม่ควรพูดมากเกินไปเดี่ยวคอจะเจ็บอีก

แล้วจากนั้นพวกเขาก็เดินทางกันอย่างเงียบๆเพราะชิเอลหลับปุยไปแล้วจนมาถึงที่หมาย เซบาสเตียนพาล้อนลงมาที่สวนของโรงแรมรับรองแขกต่างชาติ แล้วพาตรงเข้าไปติดต่อหาแขกที่มาพักในโรงแรมในตัวเมืองลอนดอน

"เอ่อไม่ทราบว่าที่นี่มีคนมาเช่าห้องที่ชื่อคุณโซมากับคุณอัคนี้มัยครับ"เซบาสเตียนถามกับพนักงานเคาเตอร์เซอร์วิชของโรงแรม

"อ้อ..มีครับ"พนักงานเคาเอตร์ตอบ

"งั้นช่วยบอกหน่อยว่าพักอยู่ห้องไหน"เซบาสเตียนถามต่อ

"เอ่อ..ไม่ทราบว่าพวกคุณต้องการพบท่านโซมาทำไมเหรอ"จู่ๆก็มีเสียงชายคนหนึ่งถามขึ้นมา เซบาสเตียนจึงหันไปมองก็พบกับมิตรเก่าที่เขารู้จักแล้วยิ้มให้ก่อนจะร้องทัก

"คุณอัคนี้!!"เซบาสเตียนร้องทักพรางเดินตรงไปหาทันทีด้วยความดีใจที่ได้เจอเพื่อนที่ไว้ใจได้เข้าพอดี

"อ้าวคุณเซบาสเตียน เป็นไงมาไงถึงมาที่นี่ได้ล่ะ แล้วคุณทานากะก็ด้วย"ชายที่สวมชุดอินเดียสีเขียวมีผ้าโพกหัวสีขาวผมสีแทนถาม สายตามองสำรวจสหายเก่าอย่างแปลกใจและมองผ่านเลยไปถึงเด็กหนุ่มที่กำลังหลับอยู่บนบ่า และพ่อบ้านชราที่แสนคุ้นตา

"โฮะ โฮะ โฮะ อ๋อย..+ _+"พ่อบ้านชราทานากะตอบรับอย่างเหนื่อยอ่อนสีหน้าซีดเซียวท่าทางจะยังไม่หายช๊อกกับการบินขึ้นไปบนฟ้าสูงลิบลิ้วของเซบาสเตียนสักเท่าไหร่

"เอ่อ..แล้วนั่น..ใครเหรอ..คนที่คุณกำลังอุ้มอยู่น่ะ"อัคนี้ถามต่ออีกมองดูร่างเล็กๆที่กำลังหลับอยู่บนบ่าของเซบาสเตียนอย่างสงสัย เขาไม่คิดหรอกว่าคือชิเอล แฟนท่อมไฮด์เพราะได้ข่าวว่าตายไปแล้วเมื่อหลายอาทิตย์ก่อน

"อ้าว นี่คุณจำนายน้อยของผมไม่ได้เหรอ คุณอัคนี"เซบาสเตียนพูดสียงเยาะๆ

"หา..ท่านผู้นี้คือ ท่านชิเอลงั้นเหรอ ปะเป็นไปไม่ได้ ก็ไหนมีคนมาบอกว่าตายแล้วนี่นา แถมคุณยังส่งกล่องของขวัญมาพร้อมกับการ์ดงานศพอีก ผมคิดว่าท่านชิเอลจากไปแล้วจริงๆเสียอีก"อัคนีร้องอย่างตกใจตาเบิกโผลง คาดไม่ถึงว่าชิเอลยังมีชีวิตอยู่ ดวงตาปริ่มๆจะมีหยาดน้ำใสไหลออกมาด้วยความดีใจที่ชิเอลยังมีชีวิตอยู่

"เอ่อ.. นั่นเป็นแผนของนายน้อยน่ะ เขาไม่อยากให้พวกคุณมาคอยห่วงเลยส่งการ์ดพวกนั้นมาให้คนรู้จักของนายน้อยทุกคนต้องขออภัยด้วยนะที่ต้องโกหกไปแบบนั้น"เซบาสเตียนพูดอย่างรู้สึกผิดที่ต้องทำแบบนั้นตามคำสั่งของชิเอล 

"โถ่ โฮๆไม่น่ามาอำกันแบบนี้เลย คุณรู้มัยว่าเจ้าชายทรงเสียพระทัยมากขนาดไหน ถึงกลับนั่งอมทุกข์วันๆเอาแต่ร้องไห้คิดถึงท่านชิเอลจนไม่ยอมกินไม่ยอมนอน จนตอนนี้สภาพแทบจะเป็นผีดิบอยู่แล้ว ผมสงสารเจ้าชายเหลือเกินท่านซูบผอมลงไปมากตั้งแต่วันที่รู้ข่าวว่าท่านชิเอลเสียชีวิต ฮือๆ คุณไม่น่ามาทำแบบนี้กับพวกเราเลย คุณเซบาสเตียน โฮๆๆๆ"อัคนี้ถึงกลับหลั่งน้ำตาออกมาอย่างสุดจะกลั้นทั้งโกรธทั้งดีใจที่ได้รู้ความจริงว่าชิเอลยังมีชีวิตอยู่ 

เซบาสเตียนถึงกลับนิ่งอึ้งกระพริบตาปริบๆพูดอะไรไม่ออกได้แต่มองดูพ่อบ้านหนุ่มอินเดียหลั่งน้ำตาลูกผู้ชายร้องไห้โฮๆไม่หยุดราวกับเด็กๆก็ไม่ปานแบบนี้

"ขออภัยจริงๆนะคุณอัคนี"เซบาเตียนพยายามขอขมาอีกครั้งด้วยท่าทีรู้สึกผิด มือคอยลูบหลังชิเอลที่กำลังหลับปุยเพราะยาฉีดเริ่มออกฤทธิ์เต็มที่แล้ว

"ฮือๆไปขอโทษเจ้าชายดีกว่า ท่านเอาแต่นั่งอมทุกข์อยู่แต่ในห้องมาหลายวันแล้ว คอยบ่นคิดถึงท่านชิเอลอยู่ตลอดเลย แล้วนี่ทำไมท่านชิเอลถึงหลับไปแบบนั้นล่ะ ไม่สบายหรือเปล่าครับ"อัคนี้ถามไปร้องไห้ไปด้วยความอัดอั้นตันใจ

"นายน้อยป่วยน่ะครับ พึ่งพาไปหาหมอมา ฤทธิ์ของยาฉีดคงทำให้ง่วงนอนน่ะ เดี่ยวสักพักคงจะตื่นเองแหละครับ คุณอัคนี"เซบาสเตียนบอกยิ้มๆพรางจับตัวชิอลอุ้มให้กระชับ เพราะเขาปล่อยตัวพ่อบ้านชราทนากะลงไปแล้ว จึงอุ้มนายน้อยของเขาได้สะดวกขึ้นเล็กน้อย

"แล้วนี่มาหาพวกเรามีธุระอะไรหรือเปล่า ทำไมมากันแค่นี้ล่ะ"อัคนีถามต่อไปอีกมองดูเซบาสเตียนอย่างสงสัยที่พาพ่อบ้านชรามาคนเดียวแล้วพวกคนใช้อีกสามคนหายไปไหนกันล่ะ

"เกิดเรื่องยุ่งๆนิดหน่อยน่ะครับ เอาไว้ว่างๆผมจะเล่าให้ฟัง ตอนนี้ผมไม่มีเวลามากนักจะต้องไปจัดการธุระที่อื่นต่ออีก ยังไงก็ฝากคุณทานากะไว้ที่นี่หน่อยได้มัย คุณอัคนี"เซบาสเตียนเริ่มเข้าประเด็นเพราะตนเสียเวลาไปมากแล้ว ป่านนี้พวกฟินนี่ บันโดเมย์ลินจะเป็นยังไงบ้างไม่รู้

"อ่า เอ่อ..อะไรกัน ไม่คิดที่จะเข้าไปพบเจ้าชายโซมาก่อนเหรอ "อัคนี้หรี่ตาลงอย่างไม่พอใจ อะไรกันมาคุยกันแป๊บเดียวก็จะไปแล้วไม่คิดที่จะพบเจ้าชายโซมาก่อนหรือไง

"ไม่มีเวลาแล้ว ขออภัยด้วยจริงๆไว้เสร็จธุระแล้วผมจะกลับมาเล่าให้ฟัง ตอนนี้ผมต้องไปแล้วล่ะ เดี๋ยวจะมืดค่ำเสียก่อนจะเดินทางลำบาก ฝากคุณทานากะด้วยนะ บ๊ายบายครับ"เซบาสเตียนพอส่งทานากะไว้กับเพื่อนที่ไว้ใจได้แล้ว เขาก็พาชิเอลหายตัววับไปทันที

"อ้าว เฮ้...คุณเซบาสเตียน ไปไหนแล้ว อย่าพึงไปสิกลับมาคุยกันให้รู้เรื่องก่อนได้มัย อะไรกันเอาคนมาฝากทิ้งไว้แล้วจากไปไม่บอกสักคำว่าไปไหน จะมากไปแล้ว อึ้ย"อัคนี้ร้องเรียกอย่างตกใจ หมุนตัวค้นหาชายร่างสูงกับเด็กหนุ่มรอบๆบริเวณอย่างไม่สบอารมณ์ 

"หนอยเจ้าเซบาสเตียน..มาไวไปไวชะมัด แถมเอาคนมาฝากไว้ไม่เกรงใจกันเลย นี่ถ้าไม่เห็นว่าเป็นเพื่อนล่ะก็ ไม่รับฝากหรอกนะ อึ้ย ถ้ากลับมาไม่อธิบายให้เคลียล่ะก็ข้าจะชกให้คว่ำเลย "อัคนี้พูดอย่างโมโห กำมือแน่น กัดฟันกรอดๆ อย่างเจ็บใจที่เซบาสเตียนมาหาแค่แป๊บเดียวแถมยังทิ้งพ่อบ้านชราเอาไว้ไม่บอกสาเหตุที่มาที่ไปสักคำเดียว ปล่อยให้เขาอยากรู้แล้วจากไป มันน่าเจ็บใจจริงๆ 
พออัคนี้หันไปมากพ่อบ้านชราทานากะ เพื่อจะถามรายละเอียดแต่ทว่า..

"โฮะ โฮะ โอะ"พ่อบ้านชราทานากะก็เอาแต่ส่งเสียงอยุ้แบบนั้น พูดอะไรไปก็คงไม่รู้เรื่องอยู่ดี 

"แถมยังตาแก่นี่ก็.......เฮ้อ...ช่างเหอะ พากลับไปที่ห้องพักก่อนแล้วกัน ตามมาครับ คุณทานากะ"แล้วอัคนีก็ทำได้แค่ถอนใจอย่างเหนื่อยใจ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้มากนัก จึงเดินนำพ่อบ้านชราทานากะไปยังห้องพักของตนกับเจ้าชายโซมาทันที

"โฮะ โฮะ โอะ"พ่อบ้านชราทนากะส่งเสียงแล้วพยักหน้ารับ ก่อนจะเดินตามหนุ่มอินเดียชุดเขียวกลับไปที่ห้องพัก และก็คงจะพักอยู่ที่นั้นจนกว่าเซบาสเตียนจะมารับกลับนั่นแหละ

และตอนนี้เซบาสเตียนก็พาชิเอลหายตัวมาอยู่ที่ริมทะเลสาบ ตอนนี้ฟ้าเริ่มมืดเข้าไปทุกที เขามัวรอช้าไม่ได้ ไม่อย่างงั้นคงจะเสี่ยงกับการเจอพวกแวมไพร์แน่ๆหากไม่รีบพานายน้อยไปส่งบ้านแลนกาบ

"จริงสิ จะพานายน้อยไปฝากลุงแลนกาบทั้งที เราคงต้องส่งข้อความไปบอกก่อน"เซบาสเตียนเกิดนึกขึ้นมาได้ว่าจะต้องส่งข้อความแจ้งให้แลนกาบรู้ก่อนว่าจะไปหาที่บ้านเพื่อขอความช่วยเหลือ ชายหนุ่มจึงทรุดตัวลงนั่งไปบนหญ้าใกล้ชายฝั่งทะเลสาบวางชิเอลลงนั่งตักพิงอกไว้ข้างที่ไม่มีกระเป๋าเสื้อ เอามือล้วงหยิบสมุดบันทึกเล่มเล็กๆกับปากกาที่เขามักพกติดตัวเสมอออกมา แล้วเขียนข้อความลงไปเพื่อแจ้งให้แลนกาบรู้ว่าเขาจะพาชิเอลไปฝากชั่วคราว

"เอาหล่ะเขียนเสร็จและหวังว่าคุณแลนกาบคงจะอนุญาตินะ"เซบาสเตียนพึมพำกับตนเองพรางเอามือล้วงไปในเสื้อหยิบขวดโหลใส่ไฟสื่อสารออกมาแล้วทำการเปิดฝา ก่อนจะหย่อนกระดาษข้อความที่ฉีกออกมาจากสุมดบันทึกลงไปในลูกไฟสีฟ้า ซึ่งบัดนี้แปลเปลี่ยนเป็นสีแดงชั่วขณะก่อนที่จะกลับมาเป็นสีฟ้าตามเดิมที่มีการหายไปของกระดาษข้อความนั่นถือว่าการส่งขอความสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี
Last edited by sri872 on Wed Oct 17, 2012 12:45 am, edited 2 times in total.

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.4 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา