THE WAY OF LOVE.หลงทางรัก

9.9

เขียนโดย OUM_PF

วันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2557 เวลา 16.46 น.

  24 ตอน
  245 วิจารณ์
  37.12K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2557 18.24 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

16)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

THE WAY OF LOVE.หลงทางรัก

ตอนที่๑๖

 

 

 

 

               คิ้วเรียวสวยขมวดมุ่น เมื่อเธอถูกจับจูงขึ้นมายยังขึ้นดาดฟ้าของคฤหาสน์หลังงาม

สวนหย่อมที่ถูกจัดตกแต่งอย่างสวยงามตรงหน้าและดวงไฟระยิบระยับทำให้เธอตื่นตะลึงในความ

สวยงามของมัน แต่มันก็คงน้อยกว่าความมึนงงสงสัย เพราะอะไรเขาถึงพาเธอมาที่นี่ แม้จะรู้ว่าถูก

เขาหลอกเข้าให้แล้วตั้งแต่ลากเธอขึ้นลิฟต์ในบ้านมาที่ชั้นดาดฟ้า แต่เธอก็ตามมาเพราะอยากรู้ว่า

เขาคิดจะทำอะไร

 

 

               “สวยรึเปล่า”

 

 

               “สวยค่ะ แต่ว่ายายพิมอยู่ไหนคะ”เขาหันขวับมามองเธอ เธอรู้ว่ามันไม่ควรถาม แต่จะ

ให้เธอมาจู๋จี๋กับเขาทั้งๆที่น้องสาวของตัวเองหายไปนี่นะ เธอทำไม่ได้หรอก

 

 

               “เธอนี่มันจริงๆเลยนะ”เขาสบถเสียงเข้ม ก่อนจะกึ่งลากกึ่งจูงไปเธอไปกำแพงกั้น เขา

ชี้ไปยังบริเวณน้ำตกจำลองที่อยู่ห่างออกไปจากบริเวณสระน้ำเล็กน้อย เธอเห็นพิมประภากำลังนั่ง

อยู่บนโต๊ะกับปริญ นิษฐา และภัทรกร

 

 

               “แล้วพาฉันขึ้นมาบนนี้ทำไมคะ”เธอหันตัวกลับไปเผชิญหน้ากับภาณุ เขายิ้มกรุ้มกริ่ม

ร่างสูงใหญ่ที่เคยยืนห่างออกไปกลับก้าวเข้ามาประชิดร่างของเธอ และในที่สุดเขาก็กักร่างของเธอ

ไว้ภายในอ้อมแขนแกร่งของเขา

 

 

               “ห้ามหื่น!”เธอดันใบหน้าหล่อคมที่เคลื่อนเข้ามาใกล้เรื่อยๆของเขาออก ทั้งๆที่หัวใจ

ของเธอเต้นโครมคามราวกับจะหลุดออกมาเสียให้ได้ ทำไมเขาถึงขยันทำให้เธอหวั่นไหวแบบนี้นะ

 

 

               “เธอคิดว่าจะห้ามฉันได้หรือไง”ว่าแล้วเขาก็ล็อกตัวเธออย่างแน่นหนา ปลายจมูกโด่ง

กดซ้ำๆทั่วใบหน้าของเธอ เธอรู้สึกว่าเหตุการณ์ช่างชุลมุน เมื่อเขาเอาเปรียบเธอไปเสียดื้อๆแบบนี้

ให้ตาย!

 

 

               “พอแล้ว มันเจ็บนะ”เธอบ่นอย่างไม่เต็มเสียง เขาเห็นเอเป็นอะไรถึงได้ฟัดได้ฟัดเอาแบบนี้

 

 

               “ก็เธอมันน่าหมั่นไส้”เขาเอ่ยพร้อมรอยยิ้มที่หาดูได้ยาก ดวงตาคู่คมคู่นั้น...มองเธอ

ด้วยความรู้สึกที่เปิดเผย

 

 

               “ตรงไหน ฉันปกป้องตัวเองมันผิดตรงไหน คุณทำอย่างนี้ฉันก็เสียราคาแย่สิ”

 

 

               “พูดอย่างกับว่าเธอจะมีโอกาสไปมีใครคนไหนอีก...บอกไว้เลยว่าผู้หญิงของฉันก็คือ

ของฉัน ไม่มีทางเป็นของคนอื่นอีก”เธอเบ้ปากอย่างไม่ชอบใจ เขาพูดเอาแต่ได้นี่

 

 

               “เห็นแก่ตัวที่สุด คุณจะขังฉันไว้กับคุณแบบนี้ตลอดไปหรือไง”

 

 

               “ไม่...เพราะฉันก็จะไม่มีทางทนอยู่กับคนที่ฉันไม่ได้รักเหมือนกัน”เธอได้แต่อึ้ง เขา

กำลังพูดอะไรออกมา วันนี้เขาทำให้เธอสติหลุดลอยไปแล้วกี่ครั้ง...

 

 

               “คุณ...”

 

 

               ภาณุมองใบหน้าแสนหวานที่ขึ้นสีระเรื่ออย่างเอ็นดู ดวงตากลมโตลอยคว้าง

ริมฝีปากอิ่มเม้มเข้าหากันอย่างครุ่นคิด เขาไม่ได้สนใจหรอกว่าเธอจะมองเขาเป็นคนยังไง เขาสน

แค่ว่าอะไรก็ได้ที่เขาพูดแล้วมันจะทำให้เธอเชื่อในตัวเขา เชื่อใจเขา เชื่อว่าเขาจริงจังกับเธอจริงๆ

 

 

               เขาปลดสร้อยคอที่ร้อยจี้ทองคำขาวสลักตราประจำตระกูลออกจากคอของตัวเอง เขา

สวมมันให้คนตัวเล็กที่ยังคงนิ่งและเงียบ ก่อนจะเอ่ยขึ้น

 

 

               “มันติดตัวฉันมาแต่เกิด ฉันให้เธอ...ไม่ใช่เพราะต้องการผูกมัดเธอ แต่ฉันให้ เพราะ

ฉันอยากอยู่กับเธอตลอดเวลา ถ้าวันไหนที่เธอไม่ต้องการมัน อย่าคืนมันให้ฉัน เอามันไปทิ้งที่ไหน

จะทำอะไรกับมันก็ได้ เพราะฉันให้แล้วให้เลย...”

 

 

               “ถ้ามันคือหัวใจของคุณ ฉันจะเก็บรักษามันอย่างดี...”เขารับร่างเล็กที่โผเข้ากอดเขา

ก่อนจะใช้มือลูบผมนุ่มสลวย ร่างบอบบางสั่นสะท้านด้วยแรงสะอื้นไห้ หากเธอจะร้องไห้ เขาหวัง

เพียงได้เห็นน้ำตาของความยินดี ไม่ใช่ความเจ็บปวดของเธอ ผู้หญิงที่เขาจะรักคือเธอ เพราะเธอ

เป็นคนเดียวที่เคียงข้างเขา แม้ในช่วงเวลาที่กำลังจะก้าวสู่ความตาย เธอก็ไม่ทิ้งเขา อ้อมแขน

เล็กๆที่โอบกอดเขาไว้นั้นมันทำให้เขาอบอุ่นหัวใจอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เมื่อวันนี้เขาได้ครอบ

ครองแล้ว เขาจะไม่มีวันปล่อยให้เธอไปโอบกอดใครอีก

 

 

               “นี่ เธอร้องไห้เยอะไปแล้วนะ”เขาเอ่ยยิ้มๆ ก่อนคนตัวเล็กจะผละตัวออกห่างเล็กน้อย

มือเล็กดันเขาออกห่างจากตัว ก่อนจะยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาปอยๆอย่างเด็กน้อยขี้งอแง

 

 

               “เพราะคุณกอดฉันแน่นไปต่างหาก”

 

 

 

               พาขวัญหงุดหงิดจนแทบบ้า วันนี้เธออุตส่าห์ถอยชุดใหม่ที่มีราคาเหยียบแสนมางาน

วันเกิดของนักธุรกิจหนุ่มหล่อที่เธอยอมรับว่าสนใจในในตัวเขามาก แต่ตั้งแต่ก้าวเข้ามาในงาน

เหมือนกับว่าเขาจะไม่สนใจเลยด้วยซ้ำว่ามีเธออยู่ในงานนี้ ทั้งๆที่เธอนั้นได้สบสายตากับเขาก็

หลายครั้ง แต่ชายหนุ่มนั้นเลือกที่จะไม่ใส่เธอแม้แต่น้อย

 

 

               หญิงสาวเดินกระแทกรองเท้าส้นสูงไปตามทางเดินในสวนหย่อมอย่างขัดใจ

เธอร้องกรี๊ด เมื่อมีบุคคลปริศนาที่โผล่มาจากไหนไม่รู้ แต่ที่รู้แน่ๆคือผู้หญิงซุ่มซ่ามตรงหน้าทำชุด

ของเธอเปื้อนไปหมด

 

 

               “ขอโทษค่ะ ขอโทษจริงๆ”

 

 

               “ขอโทษแล้วคิดว่ามันจะหายหรอ! เธอทำอะไรของเธอ!”เธอเดินไปกระชากแขน

ของผู้หญิงตรงหน้าอย่างโมโหสุดขีด ด้วยเพราะก่อนหน้านี้อารมณ์เสียอยู่แล้ว

 

 

               “โอ้ย!”

 

 

               พิมประภาร้อง เมื่อถูกผลักลงบนพื้นอย่างแรง เธอเจ็บจนน้ำตาเล็ด ดวงตากลมโต

มองผู้หญิงสวยแต่นิสัยเสียตรงหน้าอย่างไม่ยอมความ เธอเปล่งเสียงร้องดังกว่าเดิม

 

 

               “โอ้ย!!!!!!!”ไม่นานปริญ และนิษฐาก็กึ่งเดินกึ่งวิ่งมาหาเธออย่างแตกตื่น

เธอรีบกล่าวหาคู่กรณีทันที

 

 

               “ทำไมคุณต้องผลักฉัน ทั้งๆที่คุณเองนั่นแหละเป็นคนเดินมาชนฉัน ทำขนาดนี้มันไม่

เกินไปหน่อยหรือไง”

 

 

               “เธอต่างหากที่เป็นคนเดินมาชนฉัน แค่นี้มันยังน้อยไป”เธอเริ่มมีน้ำโห เมื่อคู่กรณีพูด

เอาแต่ได้บ้าง

 

 

               “แล้วคุณคิดว่าคุณเป็นใคร วิเศษวิโสมาจากไหนถึงได้คิดจะทำอะไรใครก็ได้ บ้าหรือ

เปล่าฮะ!”เธอพยุงตัวลุกขึ้นโดยมีปริญและนิษฐาคอยช่วย

 

 

               “ฉันไม่ได้บ้า ฉันไม่มีเวลามาเถียงกับเธอหรอกนะ”ดวงตาคู่สวยของผู้หญิงตรงหน้า

มองเธอเพียงหางตา ก่อนจะเดินกรีดกายกลับไป

 

 

               “ฉันไม่ขอโทษหรอกนะ เพราะเธอมันก็แค่เศษธุลีในชีวิตของฉัน”เธอไม่เข้าใจนัก

หรอกว่าสิ่งที่ผู้หญิงคนนี้กำลังพูดแปลว่าอะไร แต่เธอไม่ชอบให้ใครมาดูถูก!

 

 

               มือเล็กถอดรองเท้าคู่งามออกจากเท้าเรียวของตัวเอง เธอเล็งไปที่เป้าหมายก่อนจะ

ขว้างไปสุดแรง ร่างระหงที่ก้าวเดินไปอย่างสง่างามมีอันต้องล้มลงบ้าง และสิ่งที่เธอทำนั้นเหนือ

ความคาดหมายของสองพี่น้องยิ่งนัก

 

 

               “คุณพิม!”เธอไม่ได้สนใจนัก นึกหัวเราะเยาะกับเสียงกรีดร้องของผู้ถูกเอาคืน

 

 

               “ฉันไม่ขอโทษละกันนะ เพราะเธอมันก็แค่คนไร้สามัญสำนึกคนหนึ่ง!”

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 


แฮ่ มาแล้ววว ขอโทษ ขอโทษ ขอโทษ คือเค้าปั่นไม่ทัน+เค้าไม่มีเวลา อย่าโกรธเลยนะ

โอ๋เอ๋ๆ คือจะรีบๆปั่นไว้นะ ใกล้ช่วงกีฬาสีแล้วเราวุ่นวายมากเลย ขอโทษจริงๆ

 

                    คิดว่าน้องกับพี่ใครแสบกว่ากัน ฮ่าๆ แล้วสร้อยจะอยู่กับฟางตลอดรึเปล่า ตอนนี้

คือรีบบอกให้เก็บเกี่ยว เพราะหลักจากนี้ไป แซ่บกว่าเดิม ไม่มีแล้วหวานๆ ดราม่าน้ำตาเล็ดนะท้าย

เรื่องขอบอก นี่ยังไม่ได้เขียน แต่คิดไว้แล้ว ฮ่าๆ

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา