Project Love รุ่นพี่ครับ รับรักผมหน่อย

-

เขียนโดย Thehungry

วันที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2558 เวลา 16.39 น.

  10 chapter
  0 วิจารณ์
  12.07K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 7 มกราคม พ.ศ. 2558 17.07 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

8) รักหรือหลอก

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

        งื่อ.....

 

               ความเย็นจากเครื่องแอร์ปรับอากาศส่งผลให้ร่างบางที่กำลังหลับใหลส่งเสียงประท้วงออกมา ไหนจะแสงแดดที่สาดส่องเข้ามากระเปลือกตาให้คนตัวเล็กลืมตาขึ้นมอง พลางพลิกตัวลุกขึ้้นที่จะเดินไปปิดแอร์ แต่เพียงแค่ผ้าห่มผืนหนาร่นลงมาถึงช่วงเอว และความปวดร้าวบริเวณสะโพกเสียดเข้ามา ส่งผลให้ร่างบางล้มตัวนอนอีกครั้ง

 

 

 

              เรื่องเมื่อคืนไม่ใช่ฝัน วาเป็นของพี่คินแล้ว!

 

 

 

   .         เพียงแค่นึกถึงฉากร่วมรักที่พึ่งผ่านพ้นไปเมื่อไม่กี่ชั่วโม่งที่ผ่านมา ริ้วหน้าแดงปรากฏขึ้นอย่างเด่นชัด แต่เมื่อสายตากวาดมองหาคนที่ขึ้นชื่ิอว่าแฟนหมาดๆ ไหนตะพ่วงตำแหน่งสามีมาด้วยกลับว่างเปล่า สายตาเล็กมองยังประตูห้องน้ำก็เงียบจนรับรู้ได้ว่าไม่มีอีกคนอยู่ในนั้น

 

 

 

 .            หายไปไหนของเค้านะ แทนที่ตื่นมาจะได้เจอกับอีกคน แต่กลับมีเพียงห้องว่างเปล่า 

 

 

 

 

 

              "พี่คิน อยู่ไหน" ไม่ต้องรอให้อีกฝ่ายกลับมา เมื่ิอคิดได้เช่นนั้น ร่างบางกัดฟันลุกขึ้นหยิบเสื้อผ้าข้างเตียงมาส่วมใส่ทันที หันไปมองที่หัวเตียงก็ยังพบมือถือของอีกคนวางอยู่ แล้วเจ้าตัวละหายไปไหน ความอยากรู้สงผลให้ร่างบางคว้าเสื้ิอคลุมมาปิดทับ เพราะถึงจะกล้าขนาดไหน แต่ก็ไม่ชอบทีาใคนจะมองรอยรักที่อีกคนทำเอาไว้

 

 

 

 

 

               ผมไม่รู้จะไปตามหาพี่คินที่ไหน แถวนี้ก็ไม่เคยเดินผ่านคนเดียว มองซ้ายก็เแ็นถนนตัดผ่านไปยังริมโขงข้างหน้า สงสัยพี่คินคงออกมาสูดอากาศละมั้ง แต่ทำไมใจมันหวิวๆยังไงชอบกล ไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้เลย พี่คินหายไปไหนของเค้านะ

 

 

 

 

 

               "ไปไหนแต่เช้าครับคุณ" ผมหันขวับไปตามเสียงเรียกของคุณลุงเจ้าของที่พักที่กำลังขุดจอบปลูกต้นอะไรสักอย่าง พร้อมกับก้าวเดินเข้าไปหา 

 

 

 

 

 

               "คุณลุงทำไรครับ อะ..เอ่อ เห็นพี่คินไหมครับ วาตื่นมาพี่คินก็หายไปไหนไม่รู้ " น้ำเสียงน่ารักเอ่ยถามให้คนแก่มองดูอย่างเอ็นดู 

 

 

 

 

 

               "ลุงเห็นเดินไปแถวริมโขงเมื่อสักพัก วาแต่เรากินไรยัง ปานนี้เมียลุงทำกับข้าวเสร็ตแล้ว ไปกินด้วยกันไหม เดี๋ยวลุงไปตามพ่อหนุ่มให้เอง 

 

 

 

 

 

              "คุณลุงใจดีจังครับ เดี๋ยววาไปตามเองดีกว่า วายังเป็นวัยรุ่นนิฮะ ยังแข็งแรง วิ่งไล่ตามหมาทันแน่นอน ดูกล้ามแขนกำลังขึ้นเลย " 

 

 

 

 

 

              "หน้าตนแบบนี้มีกล้ามไม่เหมือน หน้าหนูออกจะสวยกว่าผู้หญิงซะอีก ถ้ายังไงเดินไปทางนั้นนะ แล้วชวนพ่อหนุ่มคนนั้นมาทานข้าวที่บ้านลุง เดี๋ยวลุงให้ป้าทำเมนูพิเศษไว้รอ" ฝ่ามือหนาลูบศรีษะร่างบางแผ่วเบาด้วยความรักใคร่

 

 

 

 

 

               "ครับผม...คุณลุงพักที่ไหนครับ" เสียงใสถามขึ้น เมื่อคืนตนก็ไม่ได้ถามที่พักของเจ้าของที่นี้ รอยยิ้มกว้างเผยออกอย่างดีใจที่จะได้ไปทานมื้ิอเช้ากับคุณลุง

 

 

 

 

 

               "ถัดจากที่พักไปสามหลัง ซ้ายมือเรา หลังคาแดง หน้าบ้านปลูกกุหลาบสีขาวเป็นทางยาว หาไม่ถูกลุงคิดค่าอาหารมื้อเช้าแน่นอน" 

 

 

 

 

 

               "ฮะ...คุณลุงไม่ได้คิดแน่นอน ขอบคุณครับ" 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

             .

 

 

 

             .

 

 

 

             .

 

 

 

               ที่เชียงคานบรรยากาศดีมากเลย ขอวาสูดอากาศบริสุทธิ์แบบนี้เต็มๆสักที ไม่เคยคิดว่าจะได้มาไกลถึงภาคอีสาน ผู้คนที่นี้ยังยึดถือรูปแบบประเพณีดั้งเดิมตามที่เคยดูผ่านทีวี แถมคนที่นี้จิตใจดีสุดๆ แค่เดินออกมาจากที่พัก คุณลุงยังใจดีขนาดนี้ เดินไปอีกซอยเจอกับกลุ่มวัยรุ่นชาย หน้าตาดีทั้งกลุ่มเลยละ นี่ถ้าไม่ติดพี่คิน วาคงจะเข้าไปทักทายสักหน่อย แต่ไงได้ถ้าพีาคินมาเห็น คงเป็นเรื่องไม่ดีแน่ จึงทำได้แค่สงยิ้มหวานๆกลับไปให้ตามประสานักท่องเที่ยวด้วยกัน อีกฝ่ายดันยิ้มมาก่อนขนาดนี้

 

 

 

 

 

                "โทษนะครับ น่ารักขนาดนี้ เราขอเบอร์หน่อยได้ไหม" เห็นน่ารักหน่อยไม่ได้เลยจริงๆ นี่ถ้าไม่ติดว่าหล่อคงจะด่าไปแล้ว น่ารักก็มีแฟนแล้วเว้ย

 

 

 

 

 

               "เรามีแฟนแล้ว ขอโทษนะ ขอตัวก่อนละ" 

 

 

 

 

 

 

 

               หมับ

 

 

 

 

 

             "เราพูดไม่เข้าใจรึไง หน้าเราบอกว่าเล่นด้วยหรอ ปล่อยข้อมือเรานะ" มาที่นี้ไม่ได้คิดจะมาสร้างเรื่อง แต่เจอแบบนี้เข้าไม่ไหวเลยเหมือนกัน 

 

 

 

 

 

            "พอดีไม่อยากเข้าใจ สเปคมึงเลยว่ะฟรอสต์ สนป่ะว่ะ ดื้อๆแบบนี้ กูไม้ไหว แต่ถ้าเป็นมึงน่าจะโอกว่า" ปากหมาเลยสัส พวกมันเห็นผมเป็นคนแบบไหน ใจอยากจะตะโกนให้คนช่วย แต่ผิดเองที่เลิกมาเดินซอยเงียบๆ พี่คินครับ ช่วยวาหน่อย

 

 

 

 

 

             " เออ...กูชอบบ แรง ยั่ว ดื้อ พยศแบบนี้น่าลอง" เพื่อนอีกคนที่จับมือผมพูดขึ้น อะไีจะซวยขนาดนี้ 

 

 

 

 

 

           " ถ้ากูพูดไม่ผิด มึงโง่หรือไม่มีสมอง ก็บอกไม่เอาเว้ย มีแฟนแล้วเข้าใจป่ะ หรือวันๆคิดแต่เรื่องใต้สะดือจนมองไม่ออกว่าไม่เล่นด้วย แล้วก็ช่วยปล่อยด้วย อต่ถ้าิยากมากนัก เชิญไปเอากับหมาแถวอื่น.....อุ๊บ" 

 

 

 

 

 

          เพียงแค่ผมด่ากราดไปแค่นั้น สิงที่ผมได้รับคือคนที่ได้ชื่ิ่อว่าฟรอสต์เดินมากระชากผมให้ลอยไปประทะกับร่างกายอีกคน แล้วกดจูบลงมา ลิ้นของมันกำลังกวาดชิมไปตามไรฟันอย่างมัวเมา ผมพยายามจะผลักมันออกด้วยแรงที่มี แต่ยิ่งดิ้นมันยิ่งใช้มืออีกข้างกดล็อกหน้าเอาไว้ ทำไมพวกมันทำแบบนี้ คิดว่าคนอย่างวาจะยอมรึไง ฝันไปเหอะ

 

 

 

 

 

         อ้อมกอดที่อบอุ่นหายไปไหน ทำไมไม่เข้ามาช่วยจากพวกนี้ ผมป่าวน้อยใจพี่คิน แต่บางทีก็อยากให้เป็นเหมือนในละคร ทุกครั้งที่นางเอกต้องเจอกับเรื่องแย่ๆ พระเอกจะมาช่วยทันที แต่ผมไม่ใช่นางเอก แถมยังเป็นผู้ชาย แล้วมันใช่เวลามาคิดเรื่องแบบนี้เมื่อไรกัน

 

 

 

 

 

          พลัก

 

 

 

 

 

        ผมตัดสินใจกระทืบเท้าเต็มแรงที่มี พร้อมกับผลักมันให้ออกห่างจากตัว แต่มันกลับยิ่งรัดแน่นมากกว่าเดิม เศษสวะจริงพวกมัน อย่าให้รอดไปนะ  จะลากเข้าตารางแมร่งทุกคนเลย ไอ้เชี่ยฟรอสต์ไม่ยอมปล่อยให้ผมดิ้นมาก พยายามไซร์ลงมาตามซอกคอ ขนาดกลางวันมันยังไม่สนใจ มันจับมือผมไขว้หลังเอาไว้ พร้อมกับกดจูบจาบจวงเข้ามา รสชาติมันเทียบไม่ได้กับพี่คินเลยสักนิด 

 

 

 

 

 

           "อื้อ...ปล่อยกูนะเว้ย" ยิ่งดิ้นยิ่งเหนียวแน่น พวกเพื่อนมันก็ไม่มีสำนึก ปล่อยให้เพื่อนมันทำแบบนี้ได้ไง จะเลวทั้งกลุ่มเลยรึไง นี่จะไม่มีใครช่วยผมเลยรึไง

 

 

 

 

 

          ผมปล่อยให้มันจูบเพราะหมดแรงจะดิ้น หมดแรงที่จะต่อต้าน ไหนจะช่องทางรักทีเกิดจากการร่วมรักมาเจ็บปวดไม่หาย เรี่ยวแรงที่มีก็น้อย ข้าวก็ยังไม่ตกถึงท้องสักเม็ด หวังเพียงแค่จะมีใครผ่านมาแล้วช่วยเอามันออกไปจากผมที ตอนนี้ได้แค่ปล่อยให้มันกอบโกยความหวานจากปากไปเท่านั้น

 

 

 

 

 

         "จะหวานกันอีกนานไหมว่ะ กูพึ่งรู้มึงชอบแบบนี้ หึ สมใจอยากมึงสินะ " เสียงพี่คินตะโกนดังมา ผมหันหน้าไปมอง รวบรวมแรงที่มีผลักมันออกไป คราวนี้มันปล่อยผมง่ายขึ้น ผมเดินเข้าไปหาพี่คิน สีหน้าที่นิ่ง นัยตาคมดุไม่ยอมสบตาผม ไหนจะผู้หญิงที่ยืนขนาบข้างมา

 

 

 

 

 

         " พี่คิน วา..ไม่ได้เป็นแบบนั้น พี่คินฟังวาก่อน มันไม่ใช่ความจริง อึก..ฮื้้้อ" ผมได้แต่ตะโกนบอกเสียงดัง แต่พบเพียงแค่แผ่นหลังที่เดินจากไปกับผู้หญิงอีกคน แล้วคำพูดที่ให้ไว้เมื่อวานหายไปไหน ทำไมไม่ฟังผมอธิบาย 

 

 

 

 

 

         " ขอโทษนะ พวกเราจำเป็นต้องทำ ขอให้นายคืนดีกับคนรักเร็วๆ" เพื่อนอีกคนของฟรอสต์เข้ามาพยุงผมขึ้น คำขอโทษที่ฟังแล้วสับสน นี่มันอะไรกัน สายตาของผู้หญิงคนนั้นที่กำลังแสยะยิ้มมาให้ นี่มันอะไรกัน คิดว่าคนอย่างวาจะยอมแพ้เพราะเรื่ิองแค่นี้รึไง คนนี้ของวา บอกแล้วไง ยังไงก็ของวา 

 

 

 

 

 

        ผมเช็ดน้ำตาที่หล่นลง มองตามคนสองคนที่เดินโอบกอดกันไป ทำไมพี่คินไม่ฟังผม พี่คินทำแบบนี้เองนะ หรือเพียงต้องการแค่ร่างกายวาเท่านั้น แล้วผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร ทำไมพี่คินให้ความสำคัญมากขนาดนั้น นั่นอ้อมกอดที่ควรเป็นของผม แต่กลับโดนแย่งไป    ทำไมรู้สึกเหนื่อยขนาดนี้ ทำไมกัน

 

 

 

 

 

            วูบ

 

 

 

 

 

          "เฮ้ย!! มึงทำไรน้องเขาฟรอสต์ จูบจนเป็นลม มาช่วยกูพาน้องเขาไปพักเลยมึง ทำไรไม่คิด" 

 

 

 

 

 

           

 

            ....................................................ต่อ .............................................................

 

 

 

 

 

              "มึงว่าเราทำเกินไปไหมว่ะ"อาร์มเอ่ยถามเพื่อนทันที

 

 

 

 

 

             "กูก็ว่างั้น...อึก..เชี่ยฟรอสต์ ถีบกูทำพ่อง" 

 

 

 

 

 

            " ป่าว เท้ากูมันไปเอง" ฟรอสต์ยักคิ้วท้าทายกลับไปด้วยความมั่นไส้เพื่อนสนิท เวลาทำไม่คิดแต่เวลาทำไปแล้วเสือกมาสำนึกผิด

 

 

 

 

 

           "พ่อพระแบบมันถึงไม่มึใครเอามาจนทุกวันนี้" นิกเพื่อนอีกคนพูดท้วงขึ้น เพราะติดใจกับนิสัยเพื่อนตัวเองมานาน นิสัยแปลก จนสาวหลายคนที่เข้ามาแสดงความหวาดกลัวออกมา

 

            

 

 

 

             เสียงคุยดังเข้ามากระทบโสตประสาทของร่างบางหลังจากที่นอนพักอยู่โซฟาในห้องพักของพวกเขาเอง ต้องปรือตนขึ้นมามองด้วยสับสน ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้ ภาพของกลุ่มผู้ชายที่หาเรื่องตนกำลังถกเถียงกันเสียงดัง โดยไม่รับรู้เลยว่ามีใครอีกคนนั่งมองพวกเขาติดจะรำคาญ 

 

 

 

 

 

           "จะนั่งฟังอีกนานไหม จะกินไหมข้าว ทำตัวแบบนี้ผู้ชายก็หนีไปหรอก" 

 

 

 

 

 

         "นั่นปากมึงหรอฟรอสต์ หาเรื่องน้องเขาอีก มามะให้พี่กอดปลอบใจ" อาร์มพูดดุเพื่อนเสียงดัง พร้อมกับลุกขึ้นมาหาร่างบางทำทีจะโอบกอด 

 

 

 

 

 

            ป๊าบ

 

 

 

 

 

           "มือไม่ต้อง เมื่อกี้กูออกไปซื้อของ กูเจอแฟนน้องเค้าที่ชื่อคินเดินตามหาอยู่ ถ้ามึงไม่อยากเป็นวิญญาณเฝ้าที่นี้ กูไม่ห้ามเว้ยอาร์ม เชิญมึงตามสบาย" ดินเพื่อนในกลุ่มเดินเข้ามาตบหัวอาร์ม ก่อนจะเอ่ยอย่างเคร่งเครียด แต่เพียงแค่ชื่อคนที่รักถูกพูดออกมา ทำให้ร่างบางที่นั่งนิ่ง ลุกขึ้นยืนทันที สองเท้ากำลังก้าวเดินออกไป ใจอยากจะอธิบายว่าตนไม่ได้ทำผิดอะไรทั้งนั้น

 

 

 

 

 

           "อย่าพึ่งไป กินข้าวก่ิอน ตัวแค่นี้จะเอาแรงที่ไหนไปสู้ผู้หญิงคนนั้น" ฟรอสต์จับเข้าที่ข้อมือร่าบาง น้ำเสียงจริงจังบวกกับสายตาคมดุ มองสบตาร่างบางอย่างจริงใจ ใช่ว่าคนอย่างเขาอยากทำแบบนี้ ถ้ารู้ว่าตนเป็นมือที่ยืนเข้ามาให้คนอื่นเลิกกันคงไม่ทำ แต่เมื่อแพ้พนันไปแล้ว คนอย่างเขาพูดคำไหนคำนั้น 

 

 

 

 

 

           "แต่พี่คิน"น้ำเสียงสั่นๆเอ่ยออกมา สายตาที่คลอไปด้วยหยาดน้ำตากำลังทำให้คนอย่างฟรอสต์หวั่นไหว เขาเคยเจอคนแบบนี้บ่อย แต่ร่างบางตรงหน้ามีเสน่ห์มากกว่าที่คิด ยิ่งเวลาที่อีกคนกำลังอ่อนไหว ใจอยากจะดึเข้ามากอดรัด จะบอกว่านี่สเปคเขาก็ได้ ถึงอยากจะทำแค่ไหน แต่อีกคนขึ้นชื่อว่ามีแฟนแล้ว ถ้าโสด....คนอย่างฟรอสต์ต้องคนนี้ละ

 

 

 

          

 

          " หรือจะให้ทำอย่างอื่นแทนกินข้าวดีละ" เสียงยั่วยุของฟรอสต์ ทำให้ร่างบางยอมเดินกลับมาเพื่อนกินข้าว พร้อมกับลูกตากลมโตหรี่ลงอย่างไม่พอใจ

 

           

 

 

 

         " สั่งอย่างกับพ่อ ไหนละข้าวเอามาสิ " 

 

 

 

 

 

           อาหารทุกอย่างถูกนำมาเรียงวางไว้บนโต๊ะอาหารอีกฟากหนึ่งของบ้านพัก ฟังไม่ผิดหรอก พวกเข้ามากันสี่คน ถ้าจะแยกห้องกันอยู่ก็ไม่สนุก มาเที่ยวทั้งที นารีอย่าให้ขาด บ้านพักสองชั้นตดแต่งสไตล์น่ารัก สีไม้เก่าแก่แฝงด้วยความเรียบง่าย    อีกฝ่กเป็นระเบียงยื่นออกมาตกแต่งด้วยโมบายเปลือกหอย ส่วนที่พวกเรานั่งอยู่คือห้องอาหาร แล้วผมจะมาพรรณาทำไมว่ะเนี้ย ( ฟรอสต์เป็นพวกชอบธรรมชาติ ....ตรงไหน) 

 

 

 

 

 

              ร่างบางตักอาหารเข้าปากด้วยความหิว ไม่สนใจเสียงพูดคุยของหนุ่มๆที่นั่งล้อมรอบ ตอนนี้หิวจนไส้จะขาด อาหารหน้าตาน่าทานหลายอย่างตรงหน้า ทำให้ร่างบางลืมสนใจเพื่อนร่วมโต๊ะไปทันที

 

 

 

              ทุกอย่างถูกจัดการอย่างรวดเร็วภายในเวลาอันสั้น ร่างบางช่วยพวกเขาเก็บจานชาม แต่ท่าทีที่นิ่งเงียบทำให้หนุ่มๆ   ได้แต่มองอย่างสงสาร

 

 

 

 

 

              "เดี๋ยววาไปเอง ไม่ต้องไปส่ง ขอบคุณนะกับข้าวมื้อนี้ ขอโทษด้วยที่พูดไม่เพราะ อ่อ..ลืมไปอย่าง ยังไงผู้หญิงคนนั้นก็เอาพี่คินไปจากวาไม่ได้หรอก" รอยยิ้มถูกแทนที่คำขอบคุณทันที ฟรอสต์ตะลึงกับสิ่งที่ได้รับ ภายในใจกำลังสั่นไหวกับรอยยิ้มหวานๆที่อีกคนส่งมาให้ โดยไม่สังเกตเลยว่าริกกำลังมองเพื่อนอย่างคนจับผิด

 

        

 

 

 

           หมับ

 

 

 

 

 

          "บางที กูก็ว่ามึงเป็นคนมองยาก แต่เวลานี้มึงกำลังแสดงอกมาชัดเจนเกินไป" นิกที่สนิทกับฟรอสต์ที่สุดในกลุ่ม ใช่ว่าเพื่อนเขาคนนี้จะถูกใจใครง่ายๆ จริงอยู่ที่ร่างบางแรงๆ ดื้อ พยศ แต่ถ้าลองมองดีๆ ร่างบางเป็นคนที่น่ารักเหี้ยๆเลยละาำหรับเขา แต่สำหรับฟรอสต์สคงหลงเข้าเต็มเปาไปแล้ว

 

 

 

     

 

          "นิกขา อาร์มไม่เข้าใจ อธิบายที..คนไม่หล่ออย่างฟรอสต์มันเป็นอะไรที่คุนมึงพูดเมื่อกี้"

 

 

 

 

 

         "อย่างมึงเขาเรียกสอดรู้ป่าวว่ะ   เฮ้ย! สัสอาร์ม " เพราะนิสัยบ้าบอของอาร์ม อันที่จริงอาร์มไม่ได้ติดใจในสิ่งที่นิกพูด แต่อยากจะแกล้งเพื่อนตัวดีที่ดันมาตบหัวเขา โดยการยื่นหน้าเข้าไปหอมแก้มนิก จนเห็นริ้วแดงที่ใบหูอย่างเด่นชัด แล้วผละออกวิ่งหลบหนีเพื่อนตัวดีที่สาวเท้าเข้ามาหาอย่างหงุดหงิด

 

   . 

 

 

 

          ฟรอสต์มองตามร่างบางจนสุดสายตา รอยยิ้มบางยกขึ้นมุมปาก นิกพูดถูก เขาแสดงออกว่าสนใจวร่างบางมากเกินไป 

 

 

 

 

 

        บางที นี่อาจจะเป็นสิ่งที่ทำให้เรารู้จักกัน วา

 

 

 

 

 

      "บางที มึงก็น่าจะทำใจล่วงหน้านะเว้ย ถ้ามองไม่ผิดสายตาของวา แน่วแน่มาก..หรือมึงสัมผัสไม่ได้" จินวู เพื่อนลูกครึ่งที่ไม่ชอบยุ่งเรื่องใคนเอ่ยขึ้น เป็นการเตือนสติเขาให้คิดดีๆ ก่อนจะทำอะไร

 

 

 

 

 

        "แต่ถ้าวาเลิกกับมัน กูก็มีสิทธิ์ไม่ใช่หรอว่ะ" ฟรอสต์ตอบกลับอย่างแน่วแน่ 

 

 

 

 

 

       "แล้วมึงแน่ใจแค่ไหนกับความรู้สึกของมึงตอนนี้" จินวูมันชอบคิดอะไรอย่างเป็นระบบ อย่างว่าผมยังไม่เข้าใจความรู้สึกตัวเองมากเท่าไร

 

 

 

 

 

       " กูไม่ขัด ถ้ามึงมั่นใจว่ารักวามากกว่าแฟนมัน แต่ถ้ามึงทำไม่ได้ ก็หยุด ไม่งั้นกูจัดการมึงแน่" คำพูดนิ่งๆของจินวู ทำให้สายตาของฟรอสต์หันมามอง ใช่ว่าเขาไม่เข้าใจในสิ่งที่เพื่อนพูด 

 

 

 

 

 

       "งั้นกูก็อยากจะลองพิสูจน์ความรู้สึกตัวเอง มันคงไม่ผิดหากกูจะลองเรียนรู้อีกครั้ง หากครั้งนี้กูแพ้ มึงค่อยว่ากันอีกที " พูดจบฟรอสต์เดินออกมาจากบ้านพัก พร้อมกับก้าวเดินไปตามทางที่ไปที่พักของร่างบาง ไม่ใช่จะไปทำอะไรผิด แต่เขารู้สึกเป็นห่วงร่างบางที่เดินกลับที่พัก ไม่รู้จะทางกลับถูกไหม

 

 

 

 

 

       กูว่าคราวนี้ มึงก็ไม่มีทางชนะ มึงโง่จริงหรือแกล้งโง่ว่ะ

 

 

 

 

 

       ฟังไม่ผิดหรอก ผมจินวูเอง ใช่ว่าผมไม่เข้าใจความรู้สึกฟรอสต์มัน แต่สายตาของวาผมก็มองไม่ผิด แต่ในเมื่อมันอยากลองก็ต้องปล่อยไป ถ้าหากมันไม่ทำตามที่พูดเมื่อไร มันคงจะโดนผมกระทืบเอง

 

 

 

 

 

         "อ๊าก! เจ็บสัส ตูดกูยิ่งบอบบางเหมือนหน้ามึง เตะมาได้ ช่วยกูหน่อยสิจินวู " เพื่อนตัวดีวิ่งมาเกาะแขนเขา ใบหน้าคมซบลงไหล่จินวูอย่างออดอ้อน ฝ่ามือก็ลูบไปตามช่วงแขนของอีกฝ่าย พูดขอร้องให้อีกคนช่วยตนเอง

 

 

 

 

 

       "ถ้ามึงช่วยมัน กูไม่ให้นอนด้วย" นิกตอบกลับแทนจินวูเสียงดัง เดินอ้อมดักหน้าอาร์ม ยกยิ้มเจ้าเล่ห์อย่างพอใจ

 

 

 

 

 

       "แน่นอน ไว้มึงให้กูเอา ค่อยมาต่อรองอีกที" จินวูดึงอาร์มหลบไปด้านหลัง ปากแสยะยิ้มสะใจให้กับนิกที่กำลังกัดฟันกรอดให้กับตน

 

 

 

 

 

        "ถ้ากูยอมให้มึงเอา มึงก็ช่วยจับมันไว้ให้กูเลยสัส" 

 

 

 

 

 

       "เฮ้ย!! นิกมึงเป็น อ๊าก! พ่องกูจุก" อาร์มถูกจินวูดึงมาให้นิกโต๊ะเข้ากลางเป้า ไม่จุกให้มันรู้ไป สงผลให้อาร์มร้องเสียงหลง ถึงนิกจะไม่ได้เตะแรงมาก แต่น้องชายของอาร์มก็อ่อนไหวต่อโลก อาร์มได้แต่หันไปส่งสายตาขุ่นให้กับจินวูแทน

 

 

 

 

 

        "สรุป มึงจะเอากูจริงหรอว่ะจินวู" นิกเอ่ยถามทันทีเตะอาร์มได้ แต่สิ่งที่ได้รับกลับทำให้ต้องถอยห่างจากจินวูทันทีทันใด

 

 

 

 

 

       "ลองดูก็ไม่ผิด" เสี่ยงนิ่งตอบกลับ ปากยกยิ้มกว้างที่สะใจได้แกล้งเพื่อนตัวเอง

 

 

 

 

 

       "สัส... ถ้ากูเอาจริง มึงจะติดใจรูกู" นิกล่อเลียนกลับไป แต่คนอย่างจินวู ไม่ชอบแบบนิกแน่

 

 

 

 

 

       " กูจะรู้ได้ไงว่าไม่ชอบ ถ้าไม่ได้ลอง แต่อย่างอาร์มมันกฌน่าลองเหมือนกัน" สิ้นเสียงของจินวู อาร์มวิ่งออกจากบ้านทันที 

 

 

 

 

 

       "กูจะไปเดินริมโขง บายครับเพื่อน" อาร์มบอกนิกและจินวู สองเท้าวิ่งออกจากบ้านทันที ไหนจะเรื่องที่เพื่อนสองคนคุยกัน ไหนจะสายตาของจินวู หากมันเอาจริงขึ้นมา เขาก็ไม่ไหวที่จะเป็นเมียมัน แค่คิดยังขนลุกซู่

 

 

 

 

 

      เสียงหัวเราะดังขึ้นหลังจากอาร์มออกจากบ้านพักไป สองหนุ่มนั่งยิ้มกับแผนแกล้งเพื่อนได้ ใช่ว่าทั้งสองจะเอากันเองศะที่ไหน เพียงแค่อยากแกล้งเพื่อนตัวดี ชอบเล่นอะไรไม่เป็นเวลา 

 

 

 

 

 

       "ฟรอสต์มันไปไหนว่ะ" นิกถามขึ้้น เมื่อมองไม่เห็นเพื่อนอีกคนอยู่ในบ้าน

 

 

 

 

 

     "เรื่องบางเรืองมึงก็ดูยาก แต่บางทีมึงก็ดูง่าย อย่างตอนนี้กูดูออกว่ามึงเสือก กูง่วงจะนอน" จินวูเดินขึ้นห้องไป โดยไม่สนใจนิกที่กำลังอ้าปากเหวอที่โดนตนด่า 

 

 

 

 

 

      "บางทีมึงก็โง่มากกว่าอาร์มมันอีกว่ะ" นิกได้แต่พูดออกมาเบาๆ ความลับที่เขารู้ ความลับของอาร์มที่ต้องเก็บไว้ ใช่...เพราะ พวกเขาเป็นเพื่อนกัน 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา