the killer sweet [hunhan ft.exo]

-

เขียนโดย iiai

วันที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558 เวลา 23.14 น.

  3 ep.
  1 วิจารณ์
  5,762 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558 23.29 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

2)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

     เวลา  16.00 น.

 

                “เย็นนี้ไปหาอะไรอร่อยๆกินกัน เดี๋ยวฉันเลี้ยงนายเอง”  จางอี้ชิง หรือเลย์ เพื่อนคนสนิทเอ่ยถามลู่หาน

                “เย็นนี้เหรอ?  ได้สิ เรื่องกินขอให้บอก”  พูดจบก็หัวเราะกันอย่างสนุกสนาน  จู่ๆลู่หานก็หยุดเดิน

                “อ่าว  หยุดเดินทำไม  มีไรป่าว”  เลย์หันซ้ายหันขวามองดูถึงความผิดปกติของสิ่งรอบๆตัว แต่ก็ไม่เห็นว่ามีอะไรผิดปกติ

                “เฮ้ย...เย็นนี้   นี่กี่โมงแล้วว่ะ”  ลู่หานถามขึ้นมาด้วยความรีบร้อน

                “ตอนนี้เหรอ สี่โมงกว่าแล้ว  มีไรป่าว”  ถามไปอย่างงงๆ

                “ชิหายแล้ว  ฉันลืมไปว่าฉันมีธุระต้องรีบไปว่ะ  ไว้เจอกันที่ร้านเลยนะ อันนี้ฝากทิ้งด้วย  ขอบใจมากนะเลย์”  พูดจบเท้าสองข้างก็ออกวิ่งไปตามทางเดินไม่รอฟังเสียงที่ตามหลังไป

                “เฮ้ย ลู่เดี๋ยวก่อนดิ  ลู่  จะรีบไปไหนว่ะ  เฮ้ย แล้ว.....เฮ้อออ”  ส่ายหัวเบาๆให้กับท่าทีแบบนั้นของเพื่อนตัวเล็ก เป็นแบบนี้ทุกที  ให้ตายเถอะน๊า   ถอนหายใจกับไอติมสองถ้วยในมือมองดูเพื่อนตัวเล็กวิ่งไปจนลับสายตา ขาสองข้างก็ออกเดิน   แต่ยังไม่ทันก้าวขาออกไปใบหน้าก็ไปชนเข้ากับอกของใครบางคน  ไอติมในมือหกเปื้อนเชิ้ตสีขาวบริสุทธิ์นั้นเต็มไปหมด

                “โอ๊ะ   ขอโทษครับ/ขอโทษครับ”  กล่าวขึ้นพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย

               “ ผมไม่ทันระวังทำเสื้อของคุณเปื้อนไอติมหมดเลย ขอโทษจริงๆครับ”  กล่าวขอโทษทั้งที่ยังไม่มองหน้าคู่กรณี

                “ไม่เป็นไรครับ  ผมเองต่างหากที่มัวแต่กดโทรศัพท์ ไม่ได้มองทางจนมาชนคุณเข้า ขอโทษนะครับ”  จบประโยคทั้งสองคนเหงยหน้าขึ้นมามองคู่กรณีของตน

                “เอ่อ...โทษทีนะ  ขอถามอะไรหน่อย นายพึ่งย้ายมาใหม่เหรอ ทำไมถึง”  คำถามที่ยังไม่จบประโยคกลับถูกแทรกขึ้นมาด้วยคำตอบ

                “อ่อ  ใช่ครับ  ผมพึ่งย้ายมาเรียนที่นี่วันนี้” 

                “อืม...ฉันชื่ออี้ชิง  จาง อี้ชิง  เรียกเลย์ก็ได้ ” คำพูดจริงใจกับใบหน้าเปื้อนยิ้ม

                “ผม โอ เซฮุน ครับ  เรียกเซฮุนเฉยๆก็พอครับ ” รอยยิ้มจางปรากฏขึ้นบนใบหน้า

                “นายอยู่ปีไหนเหรอ  เผื่อมีอะไร ให้ฉันช่วยได้นะ ถือเป็นการไถ่โทษ”

                “ผมอยู่ปีสองครับ  ผมยังไม่ค่อยชินกับที่นี่เท่าไรรบกวนหน่อยนะครับ”

                “งั้นฉันก็เป็นพี่นายนะสิ ฉันอยู่ปีสี่แล้วล่ะ  โอ๊ะ!!  ฉันสายแล้วต้องรีบไปร้านก่อน  ส่วนนี้นามบัตรฉัน  ถ้าไม่รู้ว่าจะไปไหนไปนั่งที่ร้านฉันได้นะ ฉันจะเลี้ยงกาแฟนายเป็นการชดเชยที่ทำเสื้อนายเปื้อน  มีปัญหาอะไรก็โทรมาได้นะ ไว้เจอกัน”  พูดจบคนเป็นพี่ก็รีบออกเดินมุ่งหน้าไปยังจุดหมายของตัวเอง

 

                เซฮุนหยิบนามบัตรที่เพิ่งได้มามองดูพิจารณาอยู่สักพัก ก่อนจะเปรยออกมา

                “จางอี้ชิง  เป็นคนจีนเหรอเนี้ย    ร้านแอล?   เคยได้ยินที่ไหนนะ” 

 

     ย้อนไป  1  ชั่วโมงที่แล้ว

                “เฮ้ย...วันนี้ไปร้านแอลกันไหม”

            “เอ่อ...ดีเหมือนกันว่ะ  กำลังอยากกินเลลลลาเต้  พอดี”

            “มึงอยากกินลาเต้  หรืออยากกินเลย์กันแน่ว่ะ”

            “ก็เจ้าของร้านทั้งใจดีและก็น่ากิน เอ้ย น่ารักขนาดนี้”  พูดจบเสียงหัวเราะก็ดังขึ้นท่ามกลางวงสนทนา

 

                “เฮ้ย มึงอ่ะ ไปด้วยกันป่าว  ร้านนี้ขึ้นชื่อเลยนะเว้ย”   เพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มนั้นหันหน้ามาถามเซฮุนที่นั่งอยู่ไม่ไกลนัก

            “ไม่เป็นไร พอดีมีธุระ ไว้วันหลังล่ะกัน”  บอกปัดไปทั้งที่ยังไม่คิดอะไร เพราะเห็นว่ามันไร้สาระและไม่น่าสนใจ

            “ตามใจ จะหาว่าพวกกูไม่ชวน” 

            “เฮ้ย....ไปเว้ยย”

 

     ร้านแอลที่ว่านี้ ร้านเดียวกันหรือป่าวนะ   คิดได้แบบนั้นมือเรียวๆก็กดปุ่มโทรออกไปยังคนขับรถที่บ้าน

           “ฮัลโล  วันนี้ไม่ต้องมารับนะ”  ปลายสายยังไม่ทันได้เอื้อนเอ่ยอะไร สายก็ถูกตัดไปซะแล้ว  ไปดูสักหน่อยก็ไม่เสียหาย  จากนั้นสองขายาวๆก็ก้าวไปตามทางเดินตามที่อยู่ที่เพิ่งได้มา

 

 

 -----------     KILLER     -----------

 

 

          “ฮัลโล  ผมมาถึงแล้วคุณอยู่ไหน”  ลู่หานหันมองซ้ายมองขวาไม่เห็นมีใครจึงโทรไปยังคนนัดหมาย

          “มาถึงแล้วเหรอ ตรงเวลาดี นายรอตรงนั้นแหล่ะ เดี๋ยวให้คนลงไปรับ”  เจ้าของนัดหมายกล่าวพร้อมกับหันไปบอกลูกน้องคนสนิทให้ลงไปรับลู่หาน

          “คุณลู่หานใช่ไหมครับ”  ชายในชุดสูทสีดำ สวมแว่นตาดำ ใส่รองเท้าหนังสีดำเอ่ยทักเขา

          “ใช่ครับ  ผมเอง”  ลู่หานยืนเต็มความสูงพร้อมกับพยักหน้าเป็นการยืนยันตัวตน

          “งั้นตามผมมาทางนี้ครับ” ชายชุดดำเดินพาลู่หานมายังห้องรับรองที่ถูกจัดเตรียมไว้    เมื่อมาถึงในห้องก็พบว่ามีใครคนหนึ่งนั่งรอเขาอยู่แล้ว  คงจะเป็นคนที่ต้องการคุยกับเขาเป็นแน่  ดูท่าทางไม่ค่อยน่าไว้ใจแหะ ที่สำคัญลูกน้องจะเยอะไปไหน  เป็นมาเฟียหรือไงกันนะ

          “นั่งลงสิ  มีอะไรสงสัยถามฉันได้นะ  อีกอย่างไม่ต้องกลัว ฉันไม่ทำอะไรนายหรอก”  พูดจบเขาก็พยักหน้ากับลูกน้องเป็นอันเข้าใจตรงกันว่าให้ออกไปก่อน  ตอนนี้ทั้งห้องมีแค่สามคนเท่านั้น  คือเขา  ลู่หาน และคนสนิทของเขา   ลู่หานเห็นเช่นนั้นจึงเลื่อนเก้าอี้ออกแล้วนั่งลงตรงข้ามกับเขาคนนั้น

          “ไง  จะไม่ทักทายกันหน่อยเหรอ ฉันกำลังจะเป็นนายจ้าง หรือจะเรียกว่าเจ้านายคนใหม่ของนายดี”

          “ครับ  ผมชื่อ ลู่หานครับ” ตอบไปเพียงเท่านั้น

          “ลู่หานจริงๆสินะ   อ่อ  ชื่อของฉัน อู๋ อี้ ฝาน ........เรียกคริสก็แล้วกัน”  คริสจงใจเน้นคำหน้าชื่อของเขา

          “ครับ”

          “มาเข้าเรื่องเลยดีกว่า   ฉันอยากให้นายมาทำงานกับฉัน  โดยฉันจะให้นายเป็นบอดี้การ์ดให้กับฉัน  สนใจไหม”

          “ขอโทษนะครับ  แต่ผมแค่รับจ้างเท่านั้นไม่ได้ต้องการไปเป็นลูกน้องหรือบอดี้การ์ดใคร  อีกอย่างผมยังเรียนไม่จบ ผมคงรับข้อเสนอคุณไม่ได้”

          “ทำไมรีบปฏิเสธแท้ล่ะ  ฉันจะให้ค่าตอบแทนนายมากกว่าที่นายรับจ้างเป็นสองเท่าเลยนะ”

          “ที่ผมทำ...ผมแค่ต้องการเงินไปเป็นค่าใช้จ่ายเท่านั้น  ไม่ได้ทำเพื่อหวังที่จะรวย หรือทำเป็นอาชีพหรอกนะครับ”

          “น่าเสียดายนะฝีมืออย่างนายเนี้ย  เป็นมือขวาฉันได้สบายๆ ”

          “..........”

          “ฉันถามจริงๆ  นายไม่รู้เหรอว่าฉันเป็นใคร  แล้วทำไมฉันถึงอยากให้นายมาร่วมงานกับฉัน”

          “ผม...ผม มะ  ไม่” ลู่หานมองหน้าของคนตรงข้าม จนทำให้นึกย้อนไปถึงเหตุการณ์ในวันนั้น

 

 

     เมื่อสามปีที่แล้ว  ในวันที่ฝนกำลังตกหนักเพราะพายุกำลังเข้า มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งอายุราวๆ 20  ปีกับพ่อของเขากำลังวิ่งหนีจากการถูกตามล่าจากกลุ่มคนกลุ่มหนึ่ง

          “เร็วๆ  ไปตามตัวมันมา  จับมันมาให้ได้”  ชายชุดดำคนหนึ่งพูดกับลูกน้องของตัวเอง

          “มันไปทางโน้นแล้ว เร็วเข้า” 

          “คริส  ไม่ว่ายังไงแกก็ต้องรอดออกไปให้ได้  พ่อจะล่อพวกมันไป แล้วแกรีบวิ่งไปทางนั้น  เข้าใจไหม”  ชายผู้เป็นพ่อบอกกับลูกชาย

          “ไม่ เราต้องไปด้วยกันสิครับพ่อ ฮืออ  พ่ออย่าทิ้งผมไป”  เด็กหนุ่มร้องไห้ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก

          “พ่อสัญญาว่าพ่อจะกลับไปหาแก เพราะฉะนั้นทำตามที่พ่อบอกเข้าใจไหม”  หนุ่มชายยังคงส่ายหัวและไม่หยุดร้องไห้ง่ายๆ  พ่อของเขาวิ่งออกไปอีกทาง แต่กลับถูกเด็กหนุ่มคนหนึ่งดักไว้เสียก่อน

          “ฉันขอร้องล่ะนะ  ปล่อยลูกชายฉันไปเถอะ อย่าทำอะไรเขาเลย เขาไม่เกี่ยว ถ้าจะจับจับฉันไปคนเดียวเถอะนะ ได้ โปรด” ประโยคขอร้องที่ถูกเอ่ยออกมาจากปากคนเป็นพ่อ เพื่อขอให้เด็กหนุ่มคนนั้นปล่อยลูกของเขาไปและช่วยลูกของเขา

          “แต่....ก็ได้  แค่ลูกของคุณเท่านั้นนะ เรื่องอื่นผมไม่รู้”

          “ได้ๆ ขอบใจนะ”  ชายคนนั้นที่ใบหน้าเปื้อนไปด้วยน้ำตา แต่เขายังคงยิ้มได้ในเวลาแบบนี้เป็นภาพที่ติดตาลู่หานมาจนถึงทุกวันนี้

          “เจอตัวแล้วครับ ทางนี้” ลู่หานบอกกับคนเป็นนาย  พร้อมกับหันหน้าไปมองสายตาที่จ้องมองเขาทั้งน้ำตาอย่างเคืองแค้น

          “แล้วอีกคนล่ะ ไปหาให้เจอ”  เมื่อมองหาไม่เห็นเด็กหนุ่มอีกคนเขาจึงบอกให้ลู่หานออกไปตามหาอีกครั้ง

          “ครับ”  ลู่หานเดินมาตามตรอกที่เขาเพิ่งจับตัวคนเป็นพ่อไป  แต่แล้วเขาก็ไม่พบกับเด็กหนุ่มคนนั้นที่อายุน่าไล่เลี่ยกับเขาเสียแล้ว  ดวงตาคู่นั้นที่บ่งบอกถึงความคับแค้น และเกรี่ยวกราดเขาไม่มีวันลืมมันได้เลย....

 

          “หรือว่า คนคนนั้น  คุณคือเด็กคนนั้น.....”  ลู่หานตกใจมาก เขาไม่คิดว่าจะได้เจอกับเจ้าของสายตาคู่นั้นได้

          “ไม่ต้องตกใจขนาดนั้นก็ได้....ใช่ ฉันคือเด็กผู้ชายคนนั้น  คนที่พ่ออ้อนวอนขอไว้ชีวิตให้จากใครบางคนที่พาเขาไปสู่ความตายไง  จำได้หรือยังล่ะ”  คริสโมโหมาก เขาตะหวาดใส่ลู่หานพร้อมสายตาที่คับแค้นนั้น

          “ตะ  ตกลงคุณต้องการอะไรกันแน่” ลู่หานกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก เขาไม่ชอบสายตาแบบนี้เลยให้ตายเถอะ

          “ไม่ต้องกลัวฉันไม่ฆ่านายทิ้งหรอก  ฝีมืออย่างนายตายไปคงเสียดายแย่   ในเมื่อนายไม่อยากมาเป็นบอดี้การ์ดให้ฉัน งั้นฉันจะให้นายทำงานอย่างที่นายถนัดก็แล้วกัน  แล้วก็ ไม่ต้องคิดหนีหรือเล่นสกปรกกับฉันนะ เพราะไม่ว่ายังไงนายก็หนีฉันไม่พ้น”

          “เรื่องของพ่อนาย ฉันทำไปตามหน้าที่ ไม่ได้...”  ยังไม่ทันจะพูดจบก็มีเสียงแทรกขึ้นมา

          “ฉันไม่สน  เอาเป็นว่าตกลงตามนี้  นายต้องทำงานให้ฉัน”

          “.........”

          “วันนี้หมดธุระของนายแล้ว กลับไปได้  จื่อเทาไปส่งคุณลู่หานด้วย”  หันไปบอกกับลูกน้องคนสนิท

          “ครับ”  จื่อเทาพยักหน้าตอบรับเพียงเท่านั้น

          “จะให้ฉันเริ่มงานเมื่อไร” เป็นลู่หานที่ถามขึ้นมาก่อนจะลุกจากโต๊ะ

          “ทันทีที่ได้รับข้อความจากฉัน”  พูดจบคริสก็ลุกออกจากโต๊ะไป

          “คุณลู่หานครับ เชิญทางนี้ครับ”  จื่อเทาหันไปบอกลู่หานที่ยืนมองตามหลังคริสไป

          “คุณส่งผมแค่ชั้นล่างก็พอครับ  ผมกลับเองได้”

 

     หลังจากแยกย้ายกันแล้วลู่หานก็กลับมาที่ร้านแอลตามที่นัดกับเลย์เอาไว้  ตลอดทางที่เขาเดินมาเขายังคงคิดถึงแต่เรื่องของคริส เขารู้สึกตกใจและแปลกใจมากที่ได้พบกับคนคนนั้น  แม้ในใจของเขาจะรู้สึกผิดที่ทำให้พ่อของคริสต้องตาย แต่เขาก็ทำไปตามหน้าที่ในตอนนั้นตัวเขาเองก็ยังเด็กไม่รู้เรื่องอะไรแค่ทำไปตามที่เจ้านายสั่งเท่านั้น ลู่หานเอาแต่คิดถึงเรื่องนี้จนมาถึงร้านแอล เขาเดินเข้าไปนั่งตรงที่เดิมที่เคยนั่งประจำ

          “อ่าว  กลับมาแล้วเหรอ  วันนี้มาซะร้านปิดเลยนะ งานเยอะเลยดิ”  เลย์เอ่ยทักขณะที่ยังเก็บร้านอยู่

          “อืม  นิดหน่อย”  ตอบไปเพียงเท่านั้น  เลย์เห็นอาการไม่ดีจึงถามกลับไป

          “มีอะไรหรือป่าว  บอกฉันได้นะ”  แต่ก็ได้เพียงการส่ายหน้าตอบกลับมาเท่านั้น  “ดูเหมือนนายเหนื่อยๆนะ งั้นรอแป๊บนึงนะ” แล้วเลย์ก็ลุกออกไป  และกลับมาที่โต๊ะพร้อมกับโกโก้ร้อน

          “อ๊ะ  ดื่มสิจะได้รู้สึกดีขึ้น ”  เลย์พยักหน้าให้กับลู่หาน

          “ขอบใจนะ”  แล้วลู่หานก็ดื่มมัน มันเป็นรสชาติที่ทำให้รู้สึกดีขึ้นทุกครั้งที่ดื่ม  “อร่อยเหมือนเดิมเลยนะ”  ดื่มไปชมไปพลาง

          “ก็มันเป็นสูตรลับเฉพาะของเราไม่ใช่เหรอ  ฮ่าๆๆๆ   ฉันไปเก็บร้านต่อดีกว่า”  เลย์ลุกออกไปจากโต๊ะเพื่อไปเก็บร้าน ทิ้งให้เพื่อนตัวเล็กได้ปลดปล่อยความคิด ความคิดที่ไม่สามารถหยั่งถึงและไม่มีวันเข้าถึงได้ยังไงก็ไม่มีวัน   ลู่หานนั่งมองดูโกโก้ในแก้วนั้นอยู่เนิ่นนาน  จนมีเสียงข้อความดังขึ้นฉุดให้เขาได้รู้สึกตัว เขากดเข้าไปหน้าจอ และเปิดข้อความอ่านทันที

 

          You have a new massage

 

 

เว็บขีดเขียน

 

                                                                           “เริ่มงานได้”

คริส

 

   -----------     KILLER     -----------

 

 

 

 

จบแล้วนะตอนนี้  ขออธิบายเพิ่มเติมนะ

-คริสหลังจากที่พ่อเสียชีวิต เขาก็ขึ้นมาบริหารงานแทนและฟื้นฟูสถานะภาพของครอบครัวได้ภายในสามปี ด้วยความร่วมมือจากกลุ่มเครือค่ายภายในบริษัท

-ขอขอบคุณนักแสดงรับเชิญจาก A Gentleman dignity  คุณอีจองรก ด้วยนะค่ะ

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา