แอบรัก

9.5

เขียนโดย Omoji

วันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 17.27 น.

  74 ตอน
  990 วิจารณ์
  103.26K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2558 15.51 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

5) แอบรัก ตอนที่5

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ตอนที่5

เว็บขีดเขียน

“เห้ยฟาง! ไปไหนน่ะ!”  ฉันได้ยินเสียงแก้วตามไล่หลังฉันแล้วเงียบไป และแน่นอนว่าสิ่งที่ฉันกำลังทำคือสิ่งที่ดีที่สุด ฉันไม่ยอมให้พี่ป๊อปต้องเจ็บตัวฟรีๆแน่

 

............................ต่อ..........................

“อ้า”  ผมรู้สึกเจ็บจริงๆแต่ผมเจ็บใจมากกว่า ไม่ใช่ผมไม่รู้หรอกนะว่าไอหมอนั่นที่ชื่อมินเป็นคนเตะหน้าแข้งผมตอนช่วงผมกระโดด และผมก็ล้มลงอย่างที่มันคิดไว้

 

    มันคงรู้ว่าลูกนั้นผมคงต้องชนะมัน มันถึงได้คิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ผมนอนเจ็บข้อเท้าและขาตัวเองที่ดูเหมือนกระดูกจะหักรึเปล่าผมก็ไม่แน่ใจ แต่ผมเจ็บมาก

 

“พี่ป๊อป แป๊ปเดียวนะ เดี๋ยวจินนี่เรียกรถพยาบาลให้นะ" จินนี่ดูเป็นห่วงผมมากซึ่งผมก็ดูออก ผมแอบยิ้มให้กับนิสัยของเด็กคนนี้ที่ใจร้อนทุกครั้ง

 

“ยืนบื้ออะไรอยู่เล่า! ใครจะโทรก็โทรสิย่ะ!”  และนั่นก็เป็นอีกนิสัยของเธอคือการเห็นแก่ตัว ผมถึงได้หุบยิ้มฉับ จินนี่ไม่ใช่ผู้หญิงที่ผมคิดว่าผมจะเลือกเป็นแฟนแน่นอน

 

“ไอป๊อป มึงไหวรึเปล่า” ไอเขื่อนเข้ามาช่วยพยุงผมให้ค่อยๆลุกขึ้นผมพยักหน้าตอบ

 

“นี่ไอป๊อป มึงรู้ใช่มั๊ยว่ามันไม่ใช่อุบัติเหตุ” ไอโทโมะเดินเข้ามากระซิบผม ซึ่งผมก็กระซิบมันตอบเช่นกัน

 

“อือ กูรู้แต่กูจะปล่อยๆมันไป” ผมไม่อยากจะอาฆาตกับใครความจริงถึงผมแพ้ผมก็ไม่นึกเสียใจหรอกแต่คงเจ็บใจนิดหน่อย ก็ตามประสาลูกผู้ชาย

 

    ผมก้มลงมองแผลที่หัวเข่า ขาของผมที่เหมือนจะพลิกและข้อเท้าแพลง เจ็บไม่ใช่เล่นเลยจริงๆ แต่หมอนั่นไปไหนแล้ววะ

 

    หลังจากที่ผมมองหาไอมินผมก็ไม่เจอมันเลย สงสัยคงหนีล่ะมั้ง หึ รู้ตัวว่าทำผิดแต่ก็คงไม่ยอมรับหรอก เรื่องที่เกิดขึ้นคงไม่มีใครเห็นว่ามันไม่ใช่อุบัติเหตุผมคิดอย่างนั้น

 

“เอ้าแก้ว มีอะไรหรอ” จู่ๆว่าที่แฟนของไอโทโมะก็วิ่งหน้าตาแหวกผู้คนเข้ามาพวกผม

 

“แฮ่กๆ ฟาง..ยัยฟาง..แฮ่กๆ”  ผมได้ยินที่แก้วพูดชัดเจนก็คือพูดถึงผู้หญิงคนนั้น ผมจึงละสายตาไปสนใจอย่างอื่นไม่สนใจเรื่องที่แก้วกำลังจะพูด

 

ใจเย็นๆนะ”

 

“ฟางยัยฟางวิ่งตามพี่มินไป”

……………ต่อ………….

    หลังจากที่พี่ป๊อปล้มลงฉันก็เห็นพีมินเดินออกมาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นฉันยอมให้พี่ป๊อปเจ็บฟรีๆไม่ได้หรอกนะ 

 

“หยุดนะพี่มิน!” ฉันตะโกนออกไปเพื่อยั้งฝีเท้าของพี่มินซึ่งมันก็ได้ผลเพราะพี่มินหยุดเดินแล้วหันกลับมามองหน้าฉัน

“เธอเป็นใคร”

 

“ฉันจะเป็นใครก็ไม่เกี่ยวกับพี่หรอก”

 

    พี่มินมองหน้าฉันแล้วทำคิ้วขมวด มันหน้าสงสัยตรงไหน!


“เอ้า แล้วเธอตามฉันมาเพื่อ
?

 

“ก็ก็..ก็ฉันรู้ว่าที่พี่ป๊อปล้มแบบนั้นน่ะมันไม่ใช่อุบัติเหตุ” 

 

“หึ แล้วยังไง”

 

    ทำไมพี่มินต้องทำหน้ากวนตีนด้วย! ฉันไม่ชอบนะเฟ้ย!

 

“ก็พี่เป็นคนเตะหน้าแข้งพี่ป๊อปเพื่อไม่ให้พี่ป๊อปชนะใช่มั๊ยล่ะ!

 

“ใช่”

 

   ทำไมตอบง่ายจังง่ะ ทำไมถึงยอมรับง่ายอย่างนี้เนี่ยยยย


“แล้วพี่หนีมาทำไมเล่า
! เป็นคนทำผิดก็ต้องยอมรับผิดสิ ฉันไม่ยอมให้พี่ป๊อปต้องมาเจ็บตัวฟรีๆ”

 

    ใช่ ฉันจะไม่ยอมให้พี่ป๊อปต้องมาเจ็บตัวโดยที่คนผิดทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น หึ ฉันไม่ยอม

 

“เธอเป็นแฟนไอป๊อปมันหรอ”

 

    เอาแล้วไง -_- ฉันจะตอบยังไงดีล่ะเนี่ย แฟนงั้นหรอ? ฉันว่าฉันคงไม่ได้รับโอกาสนั้นแหง่ๆ แต่ถ้าฉันบอกว่าเป็นล่ะก็ฉันคงใช้ฐานะนี้เพื่อปกป้องพี่ป๊อปได้  อ่ายังพอมีข้อดีอยู่แฮะ^^

 

“ชะใช่”  แล้วฉันก็พูดมันไป แต่ประโยคต่อมาที่พี่มินพูดมันกลับทำให้ฉันรู้สึกเจ็บ..

 

“ไอป๊อปไม่ใช่แฟนน้องจินนี่หรอกหรอ”

 

    นั่นน่ะสินะพี่ป๊อปเป็นแฟนของจินนี่ไม่ใช่หรอ….ใครๆต่างก็ชื่นชมพี่ป๊อปกับจินนี่กันทั้งนั้นToT


“ฉัน
ฉัน

“เอาเถอะๆ เธอชอบไอป๊อปมันใช่มั๊ยล่า”

 

    ฉันเงยหน้ามองพี่มินแล้วขมวดคิ้ว นี่เขารู้ได้ยังไง..ฉันแสดงออกขนาดนั้นเลยหรอ -_-

    แต่เดี๋ยวนะ
! นี่ฉันกำลังทำอะไรอยู่ ฉันต้องการมาจับคนร้ายไม่ใช่หรอแล้วไหงกลายเป็นแบบนี้ล่ะ!

 

“ฉันจะชอบใครมันก็ไม่ใช่เรื่องของพี่สักหน่อย! แต่พี่ต้องไปรับผิดนะ!

 

“รับผิด? ฉันต้องไปหรอ”

 

“อื้อ”  ฉันพยักหน้าเป็นคำตอบ ทำไมจู่ๆฉันถึงรู้สึกเขินสายตาของพี่มินขึ้นมานะเนี่ย

 

“ฮ่าฮ่า ก็ได้ๆ แต่ถ้าฉันยอมรับผิดเธอต้องเลี้ยงข้าวฉันนะ” 

 

    พี่เขาพูดบ้าอะไรของเขา


“ทำไมฉันต้องเลี้ยงด้วย”

“งั้นให้ฉันเลี้ยงก็ได้”

 

    ฉันไม่ได้หมายความอย่างนั้นสักหน่อย --*


“ฉันหมายความว่า ทำไมพี่ต้องให้ฉันพาพี่ไปเลี้ยงข้าว” ฉันขยายความให้เข้าใจมากขึ้น

“ก็ถ้าฉันยอมรับผิดไงล่ะ แต่ถ้าเธอปฏิเสธก็ปล่อยให้ไอป๊อปเจ็บฟรีๆนั่นแหละ”

 

    ไม่ได้นะ! ฉันยอมให้พี่ป๊อปเจ็บตัวฟรีๆไม่ได้ ฉันจึงพยักหน้าเป็นคำตอบให้กับพี่เขาไป


“แก
!”  เสียงหนึ่งเรียกฉันจากข้างหลังพร้อมกับร่างของเควิน ยัยแก้ว พี่เขื่อน พี่โทโมะ และ..พี่ป๊อป เขามองฉันด้วยสายตาแบบนั้นอีกแล้ว TT

 

“โหย! ไอ้นี่!” เควินวิ่งเข้ากระชากคอเสื้อของพี่มินจนฉันตกใจจึงรีบเข้าไปยับยั้งเควินเอาไว้ได้

 

“แกปล่อย” ฉันบอกเควินเพื่อให้เขาคลายคอเสื้อของพี่มินที่ถูกกระชาก ซึ่งเควินก็ยอมอ่อนลง

แล้วเขาก็หันกลับมาสนใจที่ฉันแทน

 

“แกเป็นอะไรรึเปล่า”

 

“ปะ..เปล่า ฉันไม่ได้เป็นอะไร” ฉันมองเห็นสายตาของเควินที่บ่งบอกว่าเป็นห่วงฉันมากแต่ฉันกลับรู้สึกแปลกๆ

 

“กลับกันเถอะ” เควินเดินลากข้อมือฉันเพื่อเดินไป

 

    ฉันเผลอสบสายตาเข้ากับของพี่ป๊อปแต่พี่ป๊อปก็เป็นคนหลบสายตาฉันก่อน ทำไมเขาต้องทำเหมือนไม่รู้จักฉันด้วย ฉันแค่ชอบเขามันทำให้พี่เขาโกรธขนาดนั้นเลยงั้นหรอ แย่ชะมัดTT

 

“เดี๋ยวสิ!”  ฉันหันหลังกลับไปตามเสียงเรียกของพี่มินแล้วฉันก็ต้องตัวแข็งทื่อกับประโยคนั้น..


“เธอเป็นแฟนไอป๊อปมันไม่ใช่หรอ” 

 

    อึก!...ตายแน่ ฉันต้องตายแน่ๆ พี่ป๊อปหันมามองฉันพร้อมกับสายตาที่แสนจะน่ากลัว สายตาที่เรียบนิ่งเย็นชาและทำเหมือนต้องการให้ฉันจมดินให้ได้


“มึงพูดอะไรของมึงวะ ไอ้หมอนี่นี่
!” เควินจะพุ่งเข้าหาพี่มินอีกครั้งแต่ฉันก็รั้งเอาไว้ก่อน

 

“เอ้า ก็เธอเป็นคนบอกฉันหนิ” 

 

    บอกฉันทีว่าพี่มินกำลังแกล้งฉันอยู่ใช่มั๊ยพี่มินต้องการอะไรจากฉันนักหนา


“จริงหรอฟาง แกบอกไอ้หน้าม่ออย่างนั้นหรอ”  เควินถามฉันแต่ฉันทำได้เพียงก้มหน้าแล้วเดินแยกทุกคนออกไปเพียงลำพัง ทำไมฉันกลับรู้สึกเหมือนทุกคนมองฉันแบบเหมือนเป็นตัวประหลาด

 

    ฉันเดินไปยังอัศจรรย์ที่พึ่งนั่งตอนช่วงเชียร์บาสพี่ป๊อป ซึ่งสถานที่ตอนนี้กลับโล่งไม่มีใครอยู่เลยสักคนเดียว ฉันเดินไปเก็บกระเป๋าของฉันที่ตั้งอยู่ใบเดียวบนนั้น ก่อนจะเดินลงมาเงียบๆ


“ทำบ้าอะไรของเธอฮะ”  เสียงที่คุ้นเคยอย่างดีขัดห้วงประสาทฉันแล้วหันไปมองต้นเสียงคือพี่ป๊อป

 

….” ฉันได้แต่ยืนก้มหน้ามองพื้นเหมือนไม่กล้าแม้แต่จะสบตากับพี่ป๊อป

 

“คิดว่าตัวเองเก่งมาจากไหน”

 

    ฉันไม่ได้ฟังสิ่งที่พี่ป๊อปพูดเท่าไหร่เพราะฉันดันไปเห็นแผลที่เข่าแล้วท่อนขาที่ถูกพันด้วยผ้าก๊อตพันรอบขา พี่ป๊อปเจ็บหนักขนาดนี้เลยหรอ..


“คิดว่าตัวเองเป็นนางเอ

 

“พี่ป๊อป..เจ็บมากมั๊ยค่ะ”  ฉันนั่งยองๆแตะที่แผลของพี่ป๊อปเบาๆ ฉันรู้สึกเจ็บยิ่งกว่า

 

“ไม่ต้องมายุ่งกับฉันน่า!” พี่ป๊อปสะบัดใช้มือผลักฉันที่กำลังนั่งยอมแตะแผลพี่ป๊อปเบาๆอยู่จนฉันเซล้มไปนั่งกับพื้น

 

“เลิกทำตัวงี่เง่าสักทีจะได้ไหม! เธอหยุดเสแสร้งได้แล้ว! ฉันรำคาญ!” พี่ป๊อปตะหวาดใส่ฉันอีกแล้ว

 

    ฉันสะดุ้งตัวโยงทำไมพี่ป๊อปโกรธฉันขนาดนี้..


“ฉัน
..ขอโทษค่ะ พี่ป๊อปโกรธอะไร..

 

“ฉันไม่ได้โกรธแต่ฉันเกลียดต่างหาก”

 

    ฮึกเกลียด? ฉันเงยหน้ามองพี่ป๊อปแล้วพยุงตัวเองให้ยืนขึ้น ฉันยืนเผชิญหน้ากับพี่ป๊อปโดยไม่กลัวอะไรทั้งนั้น 


“ทำไมพี่ต้องเกลียดฉัน” ฉันกัดฟันพูดแล้วยืนมองหน้าพี่ป๊อป

 

“ทำไมน่ะหรอหึ ผู้หญิงร่านๆแบบเธอฉันไม่เอาหรอก”

 

    ผู้หญิงร่านอีกแล้วงั้นหรอนี่เขาด่าฉันเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วนะพี่เขาต้องการจะทำลายหัวใจฉันให้พังไปเลยใช่มั๊ย


….”   ฉันก้มหน้าลงอีกครั้งไม่อยากให้พี่เขาเห็นน้ำตาที่แสนจะเจ็บปวด ฉันพูดอะไรไปพี่ป๊อปก็ไม่เชื่อฉันสักครั้งหนึ่งเลย

 

“เลิกซะเถอะนะ การบีบน้ำตาน่ะ รู้ตัวรึเปล่าว่ามันน่าสมเพช! ผู้หญิงทุกคนที่ชอบฉันก็เป็นแบบนี้กันหมด ทุกคนแสร้งบีบน้ำตาแล้วพอหันหลังกลับไปก็ยิ้มร่าแล้วจากนั้นก็ไปอ่อยผู้ชายคนอื่น ผู้หญิง..ก็เป็นแบบนี้”

 

    ฉันกำมือตัวเองแน่นทำไมพี่ป๊อปถึงต้องอคติกับผู้หญิงมากมายขนาดนี้ด้วยถึงแม้จะเจ็บแต่ความรู้สึกฉันกลับรู้สึกเหมือนพี่ป๊อปตัวจริงต้องไม่ใช่คนแบบนี้ ฉันจึงค่อยๆคลายมือตัวเองลงเมื่อมองไปตรงแผลที่เข่า


“พี่ป๊อปเจ็บมากรึเปล่า”  ฉันไม่ได้สนใจในคำที่พี่ป๊อปพุดแต่กลับสนใจแผลที่เกิดจากการแข่งขันแทน

 

“เธอนี่มันดื้อด้านชะมัด” พี่ป๊อปพูดกับฉัน ถามว่ามันเจ็บมั๊ยเจ็บ แต่ฉันทนได้

 

“ที่หัวเข่าเลือดออกนิค่ะ ขอฉันดูได้มั๊ย” ฉันเงยหน้าขึ้นสบตากับพี่ป๊อปใจสั่นอีกแล้ว

 

“ไม่ต้อง ฉันบอกเธอแล้วไงว่าไม่ต้องมายุ่งกับฉันน่ะฮะ”

 

“แต่ฉันเป็นห่วงพี่นี่นา”  ฉันพยายามพูดให้ใจเย็นที่สุด ฉันเดินเข้าไปใกล้แล้วนั่งคุกเข่าแตะที่แผลของพี่ป๊อปที่ตอนนี้ดูเหมือนจะเลือดออกอีกครั้ง

 

“โอ้ย!”  ฉันหยุดการแตะที่แผลของพี่ป๊อปแล้วเงยหน้าขึ้นมา  ฉันเห็นพี่ป๊อปทำหน้าเหยเกเชิงเจ็บปวดแล้วนึกขำ และสุดท้ายฉันก็ยิ้มออกมา

 

“ยิ้มอะไรของเธอ”

 

“นั่งก่อนนะค่ะ”  ฉันส่ายหน้าและไม่ตอบพี่เขาก่อนที่ฉันจะเดินพยุงพี่ป๊อปให้เดินมานั่งลงบนอัศจรรย์แต่เขาก็พยายามสะบัดมือฉันออก

 

“เธอจะไปไหนก็ไปเถอะน่า! คนอื่นเขารอเธออยู่ชอบทำตัวเป็นตัวถ่วงมากใช่ม่ะ”

 

    ฉันไม่ตอบแค่ยิ้มบางๆออกมา ทำไมฉันหน้าด้านจัง555 แต่ก็เอาเถอะ ถึงทุกคนจะรออยู่แต่พี่ป๊อปก็สำคัญไม่แพ้คนอื่นเหมือนกัน


“นั่งนิ่งๆสิค่ะ เดี๋ยวฉันทำแผลให้ใหม่” ฉันบอกส่วนพี่ป๊อปก็ได้แค่อยู่เฉยๆ ก็คงเจ็บอ่ะนะถึงได้นั่งนิ่งๆ

 

    ฉันลุกขึ้นแล้วเอื้อมไปหยิบผ้าก๊อตและเบตาดีนในกระเป๋า ปกติฉันก็มักจะพบอุปกรณ์ทำแผลไว้กับตัวอยู่แล้วเพราะเราก็ไม่รู้ว่ามันจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่

 

    ฉันหยิบมันออกมาแล้วตั้งเอาไว้ก่อนที่ฉันจะค่อยๆแกะผ้าก๊อตที่แปะติดแผลพี่ป๊อปอยู่ออกอย่างเบามือที่สุด

 

“อ้ะ เบาๆสิ”  ฉันแอบลอบยิ้มกับตัวเอง ตอนนี้ฉันเริ่มรู้แล้วล่ะว่าการที่ได้คุยกับพี่ป๊อปฉันต้องเป็นคนใจเย็นและต้องไม่สนคำด่าต่างๆของเขา


“นั่งนิ่งๆนะ”

 

“เธอเห็นฉันขยับสักนิดแล้วยัง? ยัยบื้อ”  นั่นไงฉันโดนด่าอีกแล้วค่ะ --* แต่ฉันก็ไม่ได้นึกโกรธอะไรเลยสักนิด ถึงยังไงก็ดีกว่าการที่พี่ป๊อปด่าฉันว่าร่านก็แล้วกัน


“ค่ะๆ ฉันผิดเอง ฉันผิดคนเดียว
^^” ฉันส่งยิ้มให้กับพี่ป๊อปเป็นเชิงขอโทษแต่สีหน้าที่ตอบกลับมากลับนิ่งเรียบไม่แสดงอาการใดๆทั้งสิ้น

 

     เฮ้อ!    ฉันหยิบผ้าก๊อตกับเบตาดีนก่อนจะทำการทำความสะอาดแผลให้กับพี่ป๊อปอย่างเบาๆฉันยอมรับเลยว่านี่เป็นครั้งแรกที่ฉันทำแผลให้กับคนอื่น  พี่ป๊อปเป็นคนแรก


“เจ็บมั๊ย” ฉันถามพี่ป๊อป

 

    พี่ป๊อปส่ายหน้าให้ฉันเหมือนเด็กๆ เอ๊ะ บางทีพี่ป๊อปก็เหมือนเด็กน้อยเลยนะเนี่ย

 

“เสร็จแล้วค่ะ” ฉันพันผ้าให้พี่ป๊อปจนเรียบร้อยก่อนจะเก็บผ้าก๊อตและเบตาดีนใส่กระเป๋าของตัวเอง แล้วลุกขึ้นยืน

 

    ฉันอยากจะเข้าไปช่วยพี่ป๊อปลุกแต่พี่ป๊อปผลักมือฉันออกแล้วยังผลักฉันให้หลีกทางเดินอีก แต่ฉันก็ทำตามแต่โดยดี ตอนนี้ฉันกลับรู้สึกเจ็บ

 

    เหมือนกำลังถูกผลักไสเลย


“เลิกแอ๊คติ้งซะเถอะ ฉันบอกไว้ก่อนเลยนะ ว่าสิ่งที่เธอทำน่ะมันไม่ได้ทำให้ฉันใจเต้นเหมือนในละครเลยสักนิด”

 

….

 

“พอใจเธอแล้วใช่มั๊ยงั้นต่อจากนี้ก็เลิกชอบฉันซะ เอ้อจริงสิ การที่เธอไปโมเมว่าฉํนเป็นแฟนเธอน่ะ...หึ มันก็เป็นได้แค่การคิดไปเองเท่านั้น...เธอไม่มีวันได้หัวใจฉันไปหรอก...ไม่มีวัน”  พี่ป๊อปพูดจบก็เดินจากไปทิ้งไว้แค่ฉันที่ยิ้มสมเพชตัวเอง

 

 

    ทำอะไรไปก็ไม่เคยอยู่ในสายตาพี่ป๊อปเลยสักครั้งสินะฉันแสยะยิ้มแต่น้ำตากลับไหลออกมาอย่างไม่สามารถห้ามไว้ได้ ฉันหยิบกระเป๋าตัวเองมาสะพายไว้ ก่อนจะเดินตามพี่ป๊อปออกไป แม้ในใจฉันตอนนี้จะถูกบีบรัดมากก็ตาม

  ……………..ต่อ……………

 

“แหม่ หาของเจอมั๊ยเพื่อน”    ไอเขื่อนเดินมากอดคอผมแล้วถามเรื่องของ  ความจริงผมลืมของเอาไว้ที่สนามผมจึงต้องเดินไปเอาแต่ดันเจอยัยนั่นซะก่อน ผมตั้งใจด่าให้ฟางเลิกชอบผมเพราะผมไม่มีวันชอบเธอลงอยู่แล้ว


“ไม่เจอว่ะ”  ผมตอบไอ้เขื่อนแต่ทว่าสายตาของมันเหมือนผมจะพอเดาออกว่ามันกำลังคิดทุเรศอะไรบางอย่าง

 

“มึงไม่ต้องมองกูด้วยสายตาอุบาทแบบนั้นเลยนะ กูไม่ได้ทำอะไรอย่างที่มึงคิด” ผมบอกพลางหยิบกระเป๋าที่ผมฝากไว้ที่ไอเขื่อนมาสะพาย

“อ้อหรอ มึงคิดว่ากูคิดอะไร”

 

“กวนตีน--* มึงไม่ต้องมาย้อนถามกู” ผมบอกปัดๆ ไม่อยากนึกถึงเรื่องของผู้หญิงคนนั้นคนที่ผมไม่คิดจะสนใจ

 

“โห่ว ไม่หนุกเลย” 

 

“แกเป็นไงบ้างวะ” ผมมองไปที่ฟางที่ตอนนี้ถูกเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อจับแขนทั้งสองข้างแล้วทำเหมือนสำรวจบางอย่างรอบตัวยัยนั่น

 

“อะไรของแก ฉันไม่ได้เป็นอะไร” ผมบอกแล้วไงว่าผู้หญิงพอก็อยู่กับผู้ชายไปทั่วไม่จริงจังเลยสักนิด

“นี่แกร้องไห้หรอ”

 

    เมื่อผมได้ยินประโยคนั้นผมก็แหงนหน้าไปมองทางอื่น ยัยนั่นจะร้องไห้อะไรกันนักหนา ไม่ละอายใจบ้างเลยรึไง 

 

เปล่าหรอก..”  ยัยนั่นพูดครับ แล้วยังเสมองมาทางผมอีกต่างหาก แน่นอนว่าผมไม่สนใจเธอ..

 

ไอป๊อป..แผลมึงไปทำใหม่มาหรอวะ”  ไอเขื่อนหันมาถามผมแล้วมองดูที่หัวเข่าผม..

 

    นึกถึงตอนที่ผมมองหน้ายัยนั่นทำแผลก็นึกสมเพช..ผมไม่ได้ขอให้เธอทำให้ผม..แต่เธอก็ยังหน้าด้านมาทำให้ผมอีก..เธอก็ชอบแสดงละครอยู่วันยังค่ำ..

 

ฟางทำให้หรอวะ..”   คราวนี้เป็นไอโทโมะมันหันมาย้อนถามผม นี่ถ้าไม่ติดว่าผมขาหักนะ ผมจะถีบมันสักสองสามที

 

อือ แต่กูไม่ได้ขอนะเว้ย” ผมพูดปัดๆ

 

“กูก็รู้อยู่หรอก ถึงมึงไม่ขอเขาก็ทำให้มึงอยู่ดี” ผมหันไปมองไอโทโมะด้วยหางตา มันจะรู้มากไปแล้วมั้ง

 

“อย่างนั้นเขาเรียกว่าหน้าด้าน” ผมบอกไป พลางสายตาก็หันไปมองที่ยัยนั่น

 

    ส่งยิ้มให้ผู้ชายคนอื่นแบบนั้นเขาเรียกว่าอ่อยชัดๆ

 

   เปี๊ยะ!

 

“ไอเชี่ยโมะ! มึงตบหัวกูทำห่าไรวะ สัด!” ผมด่ามันไปครับ

 

“ปากหมานะมึง ผู้หญิงเขาอุตส่าห์ช่วยเขาเรียกว่ามีน้ำใจ ไม่ใช่หน้าด้งหน้าด้านอะไรของมึง”

 

    ผมลูบหัวตัวเองตรงที่ไอโทโมะตบ ผมเจ็บนิดหน่อยแต่ก็เริ่มชินเพราะถูกตบบ่อย-_- แต่ยังไงสิ่งที่ไอโทโมะพูดผมก็ไม่เชื่ออยู่ดี

“เหอะ ผู้หญิงเที่ยวผับ แถมยังเสียตัวให้เพื่อนสนิทแบบนั้นเขาไม่เรียกว่าเป็นคนดีหรอกเว้ย”

 

“ มึงนี่สุดยอดเลย นั่นปากหรอฮะ ห่าเอ๊ย”

 

    ผมไม่ได้สนใจคำพูดของเพื่อนอย่างไอโมะเลยสักนิด ถึงยังความคิดของผมก็ถูกต้องเสมอ


    ผมนั่งรถกลับมาที่บ้านอย่างเช่นทุกวัน
วันนี้ผมคงต้องอยู่บ้านคนเดียว เพราะอะไรน่ะหรอครับ..พ่อผมคงไม่อยู่บ้านหรอกครับ ท่านคงไปทำงานมืดค่ำ แน่นอนว่าผมไม่ได้สนใจเขาเท่าไหร่ ก็ในเมื่อเขาก็ไม่เคยสนใจผม..ตั้งแต่มีผู้หญิงคนนั้นเข้ามา เขาก็เปลี่ยนไป..

 

ป้าครับ วันนี้ผมไม่กินข้าวนะ”  ผมเดินเข้ามาก่อนจะเจอป้าแม่ครัว หล่อนคอยเลี้ยงดูผมมาแน่นอนว่ามีเพียงแค่ป้านิ่มที่ผมพูดดีด้วย

 

ตายแล้ว..คุณหนูไปโดนอะไรมาคะเนี่ย..ทำไมเป็นแบบนี้คะ”  ป้านิ่มรีบเข้ามาดูผม ผมรู้สึกอุ่นใจมาตลอดเมื่อมีป้านิ่มเข้ามา..ป้าเขาดีกับผมมากเลยล่ะครับ

 

ผมไม่เป็นไรครับป้า..ผมขอขึ้นห้องก่อนนะครับ

 

ไม่เป็นไรจริงๆนะคะคุณหนู..ป้าเป็นห่วง

 

ครับ..ผมไม่เป็นไรจริงๆ”   ผมพูดจบก็เดินขึ้นไปบนห้อง..ที่ผมไม่กินข้าวเพราะผมเบื่อ ผมต้องกินข้าวทุกวัน..คนเดียว

เฮ้อ”  ผมเอนตัวนอนลงไปบนเตียง..ก่อนที่สายตาของผมจะไปหยุดอยู่ตรงที่แผลของผม

 

“เธอจะไปไหนก็ไปเถอะน่า! คนอื่นเขารอเธออยู่ชอบทำตัวเป็นตัวถ่วงมากใช่ม่ะ”
“นั่งนิ่งๆสิค่ะ เดี๋ยวฉันทำแผลให้ใหม่”

 “อ้ะ เบาๆสิ”
“นั่งนิ่งๆนะ”

“เธอเห็นฉันขยับสักนิดแล้วยัง? ยัยบื้อ” 
“ค่ะๆ ฉันผิดเอง ฉันผิดคนเดียว
^^
“เจ็บมั๊ย”

 

ผมส่ายหน้าเป็นคำตอบ

 

   ผมนึกถึงเรื่องราวของผู้หญิงคนนั้นตอนทำแผลให้ผม..

“ยัยบื้อเอ๊ยย” ผมได้แต่สบถออกมา ผู้หญิงอะไรทำตัวพิลึกจริงๆ เดี๋ยวก็ร้องไห้เดี๋ยวก็ยิ้มแบบนี่เขาเรียกว่าสร้างภาพรึเปล่า

 

    เดี๋ยวนะ! แล้วผมจะไปนึกถึงยัยนั่นทำไมกัน ผมต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ อ่าสงสัยผมคงเกลียดยัยนั่นจนฝังลึกไปซะแล้ว ผมว่าต้องใช่แน่ๆ

 

ฮู้วๆๆๆๆๆๆ ฮัลโหลๆ ขอเสียงคนเม้นหน่อยยยย 555 ฝากติดตามตอนต่อไป ดูท่าทางฟางจะเสน่ห์แรงไปนิสนิง อิอิ ขอบคุณที่เข้ามาเม้นและอ่านจ้่า จุ้ป!

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.2 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา