Destiny ด้ายแดงสื่อรักแห่งพรหมลิขิต

8.7

เขียนโดย ChiaraCastiglione

วันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2558 เวลา 20.10 น.

  11 ตอน
  25 วิจารณ์
  16.26K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2558 13.41 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

8) แอบชอบ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

          “ค่ะ ฝากด้วยนะคะ พี่ส้ม” ฟางวางสายจากเลขาของคุณภูผา

 

 

 

          “ฟางเป็นไงบ้างได้ไหม” โทโมะถามฟางหลังจากที่วางสาย

 

 

 

          “ได้สิ ระดับนี้แล้ว”วันนี้โทโมะกับฟางลางาน 1 วัน เพราะเมื่อวานโทโมะได้สัญญากับเธอเอาไว้

 

 

 

          “ป่ะ งั้นเราเข้าไปกันเลยไหม” ทั้งสองคนจูงมือพากันเข้าไปที่สวนสนุก

ด้านป๊อปปี้

 

 

 

          “คุณสุภาพร คุณธนันต์ธรญ์มาทำงานหรือยัง” ป๊อปปี้ที่เข้ามาทำงานก็ถามถึงฟางทันที

 

 

 

          “วันนี้คุณธนันต์ธรญ์ลางาน1 วันค่ะ”

 

 

 

          “เธอไปไหน เธอได้บอกคุณไว้ไหม” ป๊อปปี้ยังคงถามต่อ

 

 

 

          “เห็นบอกว่ามีธุระสำคัญค่ะ”

 

 

 

          “เธอลาแค่คนเดียวเหรอ”

 

 

 

          “ป่าวค่ะ คุณวิศวะก็ขอลาด้วยค่ะ”

 

 

 

 

          ป๊อปปี้ขมวดคิ้วด้วยความสงสัย “คุณวิศวะก็ลาอย่างงั้นเหรอ” ป๊อปปี้บ่นออกมาเบาๆ “ขอบคุณมากนะครับคุณสุภาพร” พอพูดจบป๊อปปี้ก็เดินออกไปจากออฟฟิศ แล้วไปนั่งที่ร้านกาแฟข้างๆออฟฟิศ

 

 

 

 

          “คนอะไรกันบอกว่าจะสอนงานเรา แต่กลับไม่มา แบบนี้ต้องโทรไปว่าหน่อยซะแหละ” ป๊อปปี้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาฟาง แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาคือความว่างเปล่า ฟางไม่รับโทรศัพท์ของเขาเลย

 

 

 

 

 

 ด้านฟาง

 

          “สนุกมากเลยโทโมะ กรี๊ดจนคอแหบแล้ว” ฟางพูดแล้วจับคอของตัวเอง

 

 

 

          “งั้นเดียวเราไปซื้อน้ำมาให้นะ ฟางนั่งรอตรงนี้ก่อน” โทโมะบอกกับฟางแล้วรีบวิ่งไปซื้อน้ำให้หญิงสาว

 

 

 

 

          ฟางที่นั่งรอโทโมะก็มองไปรอบๆสายตาเธอไปสะดุดกับเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่ถือตุ๊กตาหมีพู ทำให้เธอนึกถึงหน้าของป๊อปปี้ “อ่ะ ซื้อไปให้สักตัวดีกว่า เป็นการไถ่โทษที่ไม่ได้บอกเขาว่าจะลางาน” ฟางเดินไปยังร้านขายตุ๊กตาเธอซื้อตุ๊กตาหมีพูแล้วกลับไปรอโทโมะที่เดิม

 

 

 

 

          “ฟางหายไปไหนมา เราก็นึกว่ามีคนเอาขนมมาล่อแล้วลักพาตัวไปแล้วซะอีก”โทโมะพูดแซวฟาง ฟางเลยเดินไปตีแขนโทโมะ

 

 

 

 

          “เราโตแล้วนะ ไม่ใช่เด็กซะหน่อยจะได้เชื่อคนง่ายขนาดนั้น” ฟางทำหน้างอนโทโมะ

 

 

 

 

          “ฮ่าๆ เราล้อเล่นน๊า อ่ะน้ำ” โทโมะส่งน้ำมาให้ฟางแล้วฟางก็รับไปดื่ม

 

 

 

 

          “แล้วเราจะไปไหนกันต่อ” ฟางที่ดื่มน้ำเสร็จก็ถามขึ้น

 

 

 

 

          “ฟางหิวยัง เราไปหาอะไรทานกันดีไหม”

 

 

 

 

          ฟางพยักหน้าแล้วยิ้มให้กับโทโมะ “ฟางกำลังหิวพอดีเลย แล้วเราจะไปทานร้านไหนดีล่ะ”

 

 

 

 

          โทโมะทำท่าคิดสักพัก “อ๋อ..ร้านประจำไหม ไม่ได้ไปทานนานแล้ว ตั้งแต่แก้วไปญี่ปุ่น” พอโทโมะคิดถึงแก้วก็ทำหน้าเศร้า

 

 

 

 

          “ก็ดีนะ จะได้ทานเผื่อแก้วด้วย” ฟางพูดจบก็ดึงแขนโทโมะให้เดินตามมาทันที

 

 

 

 

 

 

 

ด้านป๊อปปี้

          หลังจากที่เขาดื่มกาแฟเสร็จก็ออกไปหาอะไรกินข้างนอก ระหว่างทางสายตาก็สะดุดเข้าผู้หญิงคนหนึ่ง เขาเลยจอดรถหน้าร้านอาหารนั้นทันที  เขาเดินเข้าไปในร้านแล้วไปนั่งข้างโต๊ะของหญิงสาวคนนั้น

 

 

 

 

 

          “อร่อยไหมฟาง” โทโมะที่เห็นฟางทานจนปากเลอะก็หยิบทิชชูเช็ดปากให้ “ทานเป็นเด็กไปได้นะเรา”ฟางไม่ได้ตอบอะไรแต่ยิ้มเขินๆแทน

 

 

 

 

 

          “นี่เหรอธุระสำคัญ” ป๊อปปี้ที่เดินมานั่งโต๊ะข้างก็พูดขึ้น ฟางที่ได้ยินเสียงแล้วจำได้ก็หันควับไปทางป๊อปปี้ทันที

 

 

 

 

          “คุณภาณุ!!”ฟางอุทานออกมาอย่างตกใจ

 

 

 

 

          “ทำไมต้องตกใจขนาดนั้น” ป๊อปปี้แสยะยิ้มแล้วลุกจากโต๊ะเดินมายังโต๊ะฟาง “ไหนๆก็ขอนั่งด้วยคนนะครับคุณวิศวะ” ป๊อปปี้นั่งลุกเก้าอี้อีกตัวที่อยู่ข้างฟางโดยที่โทโมะยังได้ทันได้ตอบตกลง “น้องสั่งอาหารหน่อย ถ้าอยากสั่งอะไรเพิ่มก็ตามสบายเลยนะครับ มื้อนี้ผมเลี้ยงเอง” ป๊อปปี้เรียกเด็กเสิร์ฟ แล้วหันไปพูดกับฟางและโทโมะสักพักอาหารก็มาเสิร์ฟี่โต๊ะ

 

 

 

 

 

          “ฟาง ทานเยอะๆนะ” โทโมะตักอาหารใส่จานฟาง

 

 

 

 

 

          “ขอบคุณนะโทโมะ” แล้วฟางก็ตักอาหารกลับให้โทโมะเช่นกัน

 

 

 

 

 

          “คุณสองคนหวานกันจังเลยนะครับ พวกคุณเป็นแฟนกันเหรอครับ” ป๊อปปี้ที่เห็นสองคนดูแลกันก็ถามขึ้น

 

 

 

 

 

          “ป่าวนะคะ” ฟางที่ได้ยิ้มเขินก็เลยรีบปฏิเสธ

 

 

 

 

          “คือเราเป็นเพื่อนกันนะครับ”

 

 

 

 

          “แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่เพื่อนธรรมดาเลยนะครับ” ป๊อปปี้ยังคงพูดต่อ

 

 

 

 

          “เรารู้จักกันตั้งแต่เด็กเลยสนิทกันมากเป็นพิเศษ” โทโมะยังคงแก้ต่าง

 

 

 

 

 

          “อ๋อ..แล้วคุณวิศวะชอบผู้หญิงแบบไหนเหรอครับ” ป๊อปปี้ยังคงถามต่อไปเพราะรู้ว่าฟางชอบโทโมะ

 

 

 

 

          “สาวออกหวานหน่อย” โทโมะพูดแล้วทำท่าคิด ฟางที่ได้ยินแบบนั้นเธอหน้าแดงแล้วยิ้มออกมาแบบไม่รู้ตัว “แล้วก็มีความมุ่งมั่นกล้าคิดกล้าตัดสินใจ” แต่พอฟางได้ยินประโยคหลังเธอก็เริ่มไม่แน่ใจ

 

 

 

 

          “แล้วคุณวิศวะมีสาวที่ชอบหรือยังครับ” ป๊อปปี้มองหน้าฟางและก็ยังถามโทโมะต่อ

 

 

 

 

          “ครับ แต่ผมไม่แน่ใจว่าเธอจะชอบผมหรือป่าว” โทโมะพูดแล้วหน้าแดง ฟางจ้องมองโทโมะอย่างลุ้น

 

 

 

 

          “เธอชื่ออะไรเหรอครับ”ป๊อปปี้ยังคงถามต่อ

 

 

 

 

          “เออ..”

 

 

 

 

          “ฉันของตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ” ฟางพูดขัดโทโมะก่อนจะลุกจากเก้าอี้แล้วเดินไป

 

 

 

 

          “ว่าไงครับ...เธอชื่ออะไร”

 

 

 

 

          “เธอชื่อแก้วครับ ผมกับเธอเราเป็นเพื่อนกันตั้งแต่เด็ก เราสนิทกันเธอเป็นคนกล้าคิดกล้าทำมีความคิดเป็นของตัวเอง ผมเลยชอบเธอ” ฟางที่แอบฟังอยู่ก็รีบเดินไปเข้าห้องน้ำ เธอทรุดลงนั่งกับพิ้นด้วยความผิดหวัง คนที่เธอชอบกลับเป็นคนที่ชอบญาติของเธอ ฟางปาดน้ำตาแล้วทำเป็นเหมือนปกติแล้วไปยังโต๊ะตามเดิม

 

 

 

 

 

          “ฟางอิ่มแล้วอ่ะ ฟางของตัวกลับก่อนนะ” โทโมะที่เห็นท่าว่าฟางจะกลับก็พูดขึ้น

 

 

 

 

          “งั้นเดี๋ยวเราไปส่ง”

 

 

 

 

 

          “ไม่เป็นไร เดี๋ยวเราจะไปที่อื่นต่อโทโมะกลับก่อนเลยนะ”

 

 

 

 

 

          “งั้นเดี๋ยวผมไปด้วย ผมมีเรื่องงานจะปรึกษาคุณ” ป๊อปปี้พูดขึ้นแล้วเรียกเด็กเสิร์ฟ “เช็คบิลด้วยครับ”

 

 

 

 

 

          “งั้นผมฝากฟางด้วยนะครับ”  โทโมะพูดก่อนจะเดินออกจากร้านแล้วขับรถออกไป ป๊อปปี้มองหน้าฟางแล้วถาม

 

 

 

 

 

          “คุณจะไปไหนเดี๋ยวผมพาไป” ฟางยื่นนิ่งแล้วตอบ

 

 

 

 

 

          “ฉันจะกลับบ้าน”

 

 

 

 

 

          ป๊อปปี้มองหน้าอย่างงง ก่อนจะเดินไปเปิดประตูให้หญิงสาว “เชิญครับ” ฟางเดินขึ้นรถโดยไม่พูด ระหว่างทางป๊อปปี้กับฟางต่างคนต่างเงียบ ป๊อปปี้เลยชวนคุย “คุณวันนี้ไปไหนมาบ้างล่ะ”

 

 

 

 

 

 

          “ทำไมคุณต้องชอบมายุ่งวุ่นวายกับฉันด้วย” ฟางหันหน้าไปต่อว่าป๊อปปี้

 

 

 

 

 

 

 

          “วุ่นวายเรื่องอะไร” ป๊อปปี้สงสัยเลยถาม

 

 

 

 

 

 

 

          “ก็เรื่องที่คุณคุยกับโทโมะไง”

 

 

 

 

 

 

 

          “อ๋อ คุณวิศวะเหรอ ก็ผมอยากรู้นิเลยถาม”

 

 

 

 

 

 

 

          “คุณอยากจะแกล้งฉันใช่ไหม” ฟางพูดเสียงนิ่ง เป็นช่วงที่รถของป๊อปปี้มาจอดที่หน้าบ้านฟางพอดี ฟางเลยลงจากรถโดยที่ป๊อปปี้ยังมองตามอยู่ เขาเลยลงจากรถเพื่อไปคุยกับฟาง

 

 

 

 

 

 

 

 

          “ผมไม่ได้แกล้ง แต่ผมอยากจะช่วยคุณต่างหาก” ฟางที่ได้ยินก็หันควับมาเผชิญหน้ากับป๊อปปี้

 

 

 

 

 

 

 

          “ช่วย...ช่วยให้มันแย่ลงมากกว่าเดิมนะสิ  ฉันรู้นะว่าคุณรู้ว่าฉันแอบชอบโทโมะ คุณเลยแกล้งฉันแบบนี้”

 

 

 

 

 

 

 

          “แต่คุณก็รู้แล้วนิว่าคุณวิศวะไม่ได้ชอบคุณ คุณก็ควรจะตัดใจจากเขา”

 

 

 

 

 

 

 

          “คุณไม่ต้องมายุ่ง ฉันไม่คิดเลยนะว่าคุณจะเป็นคนแบบนี้” ฟางพูดก็หยิบตุ๊กตาหมีพูออกมาจากถุง “ฉันกะว่าจะซื้อมาให้คุณเป็นการไถ่โทษที่ลางานแล้วไม่บอกคุณก่อน แต่แล้วตุ๊กตานี่ ก็ไม่จำเป็นแล้วสินะ” ฟางพูดจบก็โยนตุ๊กตาหมีใส่หน้าของป๊อปปี้แล้วเดินเข้าบ้านของตัวเองโดยไม่สนใจป๊อปปี้เลย

 

 

 

 

 

 

 

          ป๊อปปี้หยิบตุ๊กตาหมีพูขึ้นมาดูแล้วรู้สึกผิดที่ทำให้ฟางต้องเสียใจ ถ้ารู้แบบนี้เขาจะไม่ทำซะดีกว่า “แล้วทำไมเราต้องแคร์ความรู้สึกเขาด้วยเนี้ย” ป๊อปปี้บ่นกลับตัวเองก่อนจะถือตุ๊กตาตัวนั้นขึ้นรถไปด้วย

 

 

 

 

 

 

โปรดติมตามตอนต่อไป......

 

 

 

มาอัพแล้วไม่รู้ว่าจะสนุกไหม แต่ยังไงก็เม้นแล้วโหวตให้เค้าด้วยนะ ขอบคุณค่ะ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา