The Heart เพราะหัวใจรักใครไม่เป็น...

8.8

เขียนโดย พายุลมหนาว

วันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2558 เวลา 07.14 น.

  12 chapter
  83 วิจารณ์
  16.30K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 14 กันยายน พ.ศ. 2558 00.03 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

1) [1] กลับบ้าน

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

 

 

 

 

The Heartเพราะหัวใจรักใครไม่เป็น...

 

Chapter (1)

 

            เพราะไม่เคยรักใคร ถึงไม่มีหัวใจ เพราะไม่เคยใส่ใจถึงไม่เคยเข้าใจว่าความรักจริงๆสักที แล้วเขาก็เข้ามาพร้อมกับสิ่งที่ เรียกว่า “หัวใจ”

 

 

 

            ครืดๆๆ ครืด

 

            เสียงโทรศัพท์สั่นเรียกเจ้าของที่กำลังแต่งเติมใบหน้าผละมือมากดรับไอโฟนเครื่องขาว

 

 

 

            “ฮาโลว่” ฉันพูดพร้อมกับเก็บเครื่องสำอางแสนแพงสุดรักเข้ากระเป๋าใบสวย

 

 

 

            “แก้วนี้แม่นะลูก” แม่โทรมาหาฉันด้วยเบอร์พี่กิ่ง ฉันก็นึกว่าพี่โทรมามีอะไรซะอีก

 

 

 

            “ม๊า โทรมามีอะไรรึป่าวค่ะ” ฉันถามแม่กลับขณะเอารถเข็นกระเป๋าใบใหญ่ที่ฝากไว้กับเจ้าหน้าที่ก่อนจะโค้งของคุณตามมารยาทสาวไทย อนาคตสาวไทยแน่นอนจังหวะนี้

 

 

 

            “โทรหาลูกจำเป็นต้องมีธุระด้วยรึจ้ะ” น้ำเสียงดูเหมือนงอนฉัน แย่แล้วอีแก้ว

 

 

 

            “แห่มม๊าก็ แก้วยังไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อยอ่ะ” ง่อว แม่จ้าอย่าพึ่งงอนแก้วน้าหนูขอโทษ

 

 

 

            “อ่ะๆ ว่าแต่เมื่อไหร่ลูกจะกลับบ้านเราบ้าง แม่คิดถึง พ่อเราก็บ่นๆอยู่รู้มั้ย” บ้าน เอ่อ ฉันไม่ได้กลับบ้านตั้งนานแล้วนิ ไม่แปลกหรอกที่พวกท่านจะคิดถึงอย่าว่าแต่แม่เลย ฉันก็คิดถึงแม่ใจจะขาด T^T

 

 

 

            “แก้วก็อยากกกลับถ้าไม่ติดเคสผ่าตัดคนไข้ แก้วยังต้องดูแลเขาอีกเดือน แก้วสัญญาว่าจะรีบเคลียร์งานให้เร็วที่สุด คิดถึงแม่นะค่ะ” ฉันพยายามอธิบายให้แม่เข้าใจ

 

 

 

            “จ้ะๆ อย่ามัวแต่เที่ยวนะเรา แม่เห็นนะรูปขึ้น IG เต็มไปหมด” วร้าย แม่ก็ต้องมีกันบ้างอุส่าได้อยู่ถึงเมืองผู้ดี ประเทศอังกฤษเลยนะจะไม่ให้เที่ยวได้ไง

 

 

 

            “ค่ะ พี่กิ่งล่ะค่ะ” ฉันรีบถามหาพี่สาวทันทีก่อนจะโดนแม่ขุดคุ้ยเรื่องมาบ่น

 

 

 

            “อยู่นี้จ้ะ กิ่งมารับโทรศัพท์น้องหน่อยสิลูก” แม่เรียกพี่สาวฉัน ฮั่นแน่ยัยพี่สาวฉันวันนี้แปลก ไม่ยักไปเที่ยวนอกบ้านเพราะเท่าที่ฉันจำได้พี่สาวฉันมักจะไม่ค่อยอยู่บ้านเท่าไหร่เวลาฉันโทรไปหา

 

 

 

            “ฮัลโลว่ ยัยแก้ว” พี่กิ่ง I Miz U > <!!

 

 

 

            “พี่กิ่งวันนี้ไม่ไปเที่ยวกับแฟนที่ไหนรึจ้ะ เดียวพี่โอ๊ตก็แอบไปมีกิ๊กหรอก” ฉันแซะพี่สาวอย่างรู้ทัน อันที่จริงพี่โอ๊ตคือว่าที่กิ๊กไม่ใช่แฟนพี่สาวฉันหรอก

 

 

 

            “บ้า ไม่มีวันย่ะถึงวันนั้นฉันเนี่ยจะทิ้งเขาก่อนได้มีกิ๊ก ว่าแต่แกอยู่ไหนแล้วลงเครื่องยัง” พี่ฉันพูดก่อนจะกระซิบเบาในประโยคช่วงท้าย

 

 

 

            “ยังไม่ลงพี่จะได้คุยกับแก้วแบบนี้เรอะ” ใช่ถ้าฉันยังอยู่บนเครื่องฉันคงรับโทรศัพท์ได้หรอก มีหวังทั้งลำได้มองฉันเป็นตาเดียวนะสิค่ะ

 

 

 

            “เอ่อๆ แล้วนี้แกจะถึงบ้านเมื่อไหร่ฉันจะได้แอบจัดห้องให้แก” ถึงเมื่อไหร่ O_+ เรื่องนั้นฉันยังไม่ได้คิดด้วยซ้ำ รถราไปยังไงยังไม่รู้เล้ย เฮ้อ

 

 

 

            “ไม่รู้ดิ คงพรุ่งนี้ไม่เช้าก็บ่ายเผลอๆเย็นพลบค่ำ” เอ๊ะ? ทำไมเวลามันเลื่อนลงเรื่อยๆ

 

 

 

            “โห้ย ยัยแก้วเอาสักเวลาเถอะ” ก็แก้วไม่รู้อ่ะ

 

 

 

            “เอาเป็นว่าถ้าแก้วถึงแก้วจะโทรหาพี่กิ่ง ok นะ อย่าลืมเรื่องที่เราสัญญากันไว้ล่ะพี่กิ่ง” ฉันรีบปัดลวกๆไปก่อนจะย้ำสัญญาที่เราสองคนพูดกันไว้

 

 

 

            “รูดซิบปากเงียบ ป๊าม๊าไม่รู้แน่นอน อิๆ” พี่กิ่งกระซิบกระซาบฉันอีกครั้ง ฉันเดาเลยแม่ต้องอยู่แถวนั้นแน่ๆ อ่ะ งงล่ะสิฉันพูดเรื่องอะไรกับพี่กิ่ง ใช่ฉันอยู่เมืองไทยแล้วตอนนี้ พึ่งลงเครื่องที่สุวรรณภูมิมาดๆเลยและฉันก็ตอแหลแม่ว่าติดเคสคนไข้ทั้งที่จริงฉันกลับมาถึงไทยตั้งนานแหละเพราะฉันวางแผนกับพี่กิ่งกะเซอร์ไพรส์พ่อกับแม่สักหน่อยไม่ได้เจอกันเกือบ 7 ปี เจอเมื่อไหร่จะกอดหอมให้หายคิดถึงเลยคอยดู

 

 

 

            “แค่นี้นะพี่กิ่งแล้วแก้วจะโทรไปทีหลัง เพื่อนรอแก้วอยู่” ฉันรีบกดวางสายหลังนึกได้ว่าฉันไม่ได้มาคนเดียว ฉันดันทิ้งเพื่อนตัวเล็กของฉันไว้นี้สิ O[]O! ป่านนี้คงเตรียมบทเทศน์ฉันยาวเป็นกิโลแล้วมั่ง ตายๆๆ โอ๊ะ นั่นไงยืนอยู่ไง อย่าพึ่งเทศน์แก้วใจนะ เค้าขอโทษ T[]T!!

 

 

 

            “ฟาง ขอโทษที่ทำให้รอนาน พอดีแก้วเกิดท้องเสียอ่ะ” ฉันรีบแก้ตัวขุ่นๆก่อนที่สาวน้อยตัวเล็กจะอ้าปากบ่นฉัน เธอมีท่าทีตกใจก่อนจะวางมือลงแล้วย้ายมือเล็กมาแปะหน้าผากฉันแทน หู้ว ยังดีที่ทันการเป็นตามที่ฉันคาดไว้เด๊ะ เดียวนะแตะหน้าผากฉันทำไมเนี่ย - - ?

 

 

 

            “แล้วนี้เป็นอะไรมากมั้ยยังปวดท้องอยู่รึป่าว แล้วทำไมถึงปวดท้องล่ะ ไข้ก็ไม่มีนี้” ตัวเล็กถามฉัน ฉันแอบปลื้มเบาๆในท่าทางเป็นห่วงของยัยเพื่อนตัวน้อยของฉัน น่ารักซะไม่มีล่ะ

 

 

 

            “โอย สบายมากแก้วหายแล้วไม่ต้องห่วงนะ” ฉันยิ้มเขินที่อยู่ๆเธอก็กอดฉันแน่น อ้ายยย มากอดตรงนี้เดียวคนก็เข้าใจผิดคิดว่าฉันเป็นเลสหรอก อุส่าหนีทอมมาได้นี้ฉันต้องเป็นเลสอีกแล้วเรอะเนี่ย ไม่อาววว

 

 

 

            “ฟะ ฟางมีอะไรรึป่าว” ฉันรีบถามพลางมองคนรอบข้างที่เดินผ่านเราสองคนแล้วแอบอมยิ้ม เวรล่ะตู

 

 

 

            “ป่าวก็เดียวฟางก็จะไม่ได้เจอแก้วแล้วเลยอยากกอดก่อนจากกัน” ฟางเงยหน้าแนบอกฉันทั้งที่ยังกอดอยู่ สายตาเธอเหมือนแมวน้อยที่กำลังร้องไห้ โอยไม่เอาอย่าทำหน้าตาแบบนั้นสิ แก้วก็ไม่อยากจากฟางไปเหมือนกัน

 

 

 

            “แก้วไม่ได้หายไปไหนสักหน่อย เราก็ยังไลน์หากันได้อยู่นะอย่าลืมสิ โอ้ๆไม่งอแงนะฟาง แก้วสัญญาว่าแก้วจะโทรหาเช้าสายบ่ายเย็นไม่ขาดเลยอ่ะ สบายใจยัง” เธอยิ้มทันทีก่อนจะดึงหน้าฉันมาหอมแก้มซ้ายทีขวาทีสลับกัน อ้ายยยเขินนนนน แก้มแก้วจะช้ำแล้วฟาง

 

 

 

            “พอๆๆ อายเขา” ฉันยิ้มพลางลูบหน้าตัวเอง เล่นหอมซะขนาดนี้รับฉันเป็นสามีในอนาคตเลยไหมค่ะ คุณเพื่อนค่า

 

 

 

            “จะอายอะไรทำออกจะบ่อย แล้วนี้แก้วจะกลับบ้านยังไง” ฟางถามฉัน เอ่อว่าไปลืมเรื่องนั้นไปเสียสนิท O0O;; เอ๋ ฉันว่าฉันได้ยินเสียงริงโทนนะ ฟางหยิบเอาไอโฟนสีเดียวกับฉันขึ้นมารับสายแล้วพูดค่ะๆๆ อย่างเดียว ก่อนจะหันมายิ้มเศร้าให้ฉัน แสดงว่ารถมารับแล้วสินะ ไม่อาวว แล้วแก้วจะอยู่กับใครล่ะฟาง T_T

 

 

 

            “ฟางต้องไปแล้ว รถรออยู่ “ ฉันมาส่งฟางถึงรถเบนส์คันสีดำป้ายแดง โห้ว มันจะไฮโซเกินไปไหม แม่เจ้าโว้ย เมื่อไหร่อีแก้วจะมีบุญวาสนาได้มีแบบนี้มั่ง ฉันช่วยฟางยกเก็บกระเป๋าเสร็จก็มาเปิดประตูรถให้เพื่อนตัวน้อยก่อนลาด้วยรอยยิ้ม เศร้าอ่ะบอกตรงๆ อยากร้องไห้เพื่อนคนเดียวของฉัน

 

 

 

            “แก้ว” เธอเรียกชื่อฉันแล้วเข้ามากอดฉันอีกครั้งฉันก็กอดตอบอยู่นานก่อนจะคลายกอด ฟางยื่นแก้มแล้วบอกฉันเป็นนัยๆ ฉันยิ้มเขิน แต่เอาว่ะเดียวก็คงไม่ได้ทำอย่างนี้แล้วยอมหอมแก้มลาเพื่อนตัวเล็กทีหนึ่งแล้วยีหัวเธอด้วยความหมั่นไส้ในความน่ารักเบาๆ คนที่ผ่านมาแถวนั้นร่วมทั้งโชเฟอร์แอบเขินกับความน่ารักของเราทั้งสอง ฉันโบกมือลารถเพื่อนสาวจนลับตาก่อนจะปล่อยลมหายใจเฮือกใหญ่

 

 

 

            “แล้วฉันจะกลับไงดีว่ะ” ฉันเกาหัวใช้ความคิด ปัญหารองผ่านไปปัญหาใหญ่ผ่านมาถ้าลองเหมาแท็กซี่มันจะเอาฉันเท่าไหร่กันนะ ต้องแพงหูฉีกแน่ๆเลย บ้านฉันยิ่งบ้านนอกคอกนาอยู่ด้วย แล้วมันก็เป็นจริง มันเก็บฉันเป็นพันเลยค่า ฉันนี้อยากจะร้อง “คนบ้านเดียวกัน แค่มองตากันก็เข้าใจอยู่” ไผ่พงศธรมาเอง คิดว่าฉันเป็นฝรั่งรึไงหัวดำซะขนาดเนี่ยห๊ะ!! จะแพงไปไหน

 

 

 

            “น้องไปทำอะไรแถวนั้น” ลุงขับแท็กซี่ถามฉันหลังเรานั่งออกมาสนามบินได้สักพัก

 

 

 

            “บ้านเกิดฉันเองค่ะ พอดีไม่ได้กลับนาน” ลุงช่วยหันหน้าไปก่อนได้ไหมบอกตรงๆฉันกลัวลุงแกนิดๆเพราะแท็กซี่สมัยนี้มันไว้ใจไม่ได้ฉันกลัวลุงเอาฉันไปข่มขืนจริงๆ ระวังตัวไว้ก่อนเป็นยอดคน ขอยึดหลักนี้แปป

 

 

 

            “อืม แต่แถวนั้นก็เปลี่ยนไปเยอะเหมือนกัน ถนนก็ตัดใหม่มีนักท่องเที่ยวไปเยอะพอตัว” ลุงพล่ามอะไรอ่ะ ฉันไม่ได้ฟังเพราะสวมหูฟังฟังเพลงแทนด้วยความเบื่อแต่ก็แอบยิ้มพยักหน้าว่าฉันเข้าใจที่ลุงพูดจนกระทั่งเราขับรถมาหลายชั่วโมง อยู่ๆลุงแกก็คุยโทรศัพท์กับใครไม่รู้ด้วยท่าทีตกใจสุดๆ

 

 

 

            เอี้ยดดดดด

 

            รถเบรกกะทันหันแบบไม่ทันตั้งตัวหัวฉันนิกระแทกเบาะคนนั่งเต็มๆ โอยเจ็บโว้ยยยย

 

 

 

            “ลุงเบรกรถทำไมเนี่ย” ฉันโวยวายลุงทันที

 

 

 

            “บ้านลุงไฟไหม้ ลุงต้องรีบกลับบ้าน” ห้ะไฟไหม้แม่เจ้า ไฟไหม้ หลังจากนั้นฉันก็ถูกทิ้งไว้กลางทางพร้อมกระเป๋าสัมภาระฉัน สิ่งที่หายไปคือลุงกับเงินค่าแท็กซี่ ส่งฉันไม่ถึงที่แล้วยังจะมีหน้าเอาเงินฉันไปอีกไอ้ลุงบ้า >[]< กลับมาน้า เอาอีแก้วทิ้งไว้ไหนเนี่ย!!

 

 

 

            “จะบ้าตาย หิวก็หิวง่วงก็ง่วง” เวลานี้น่าจะย่ำรุ่งเกือบตี 5 ได้มั่ง ฉันยังไม่ได้นอนเลยสักนิดเพราะด้วยความกลัวลุงแท็กซี่ลากไปข่มขืนแต่สุดท้ายก็ถูกทิ้งไว้ จนฉันต้องมานั่งคิดหาทางกลับบ้านตัวเองใหม่อีกรอบ ยังดีเจอป้าร้านขายผักลองถามแกดูเผื่อแกรู้

 

 

 

            “ป้าคะพอมีรถไปใกล้ๆที่นี้บ้างไหม” ฉันชี้แผนที่บนกูเกิลแม็ปเปิดให้ป้าแกดู แกทำหน้าเหมือนกำลังครุ่นคิดแล้วเดินไปเรียกลุง เดาว่าน่าจะเป็นสามีแก

 

 

 

            “มาเดียวลุงพาไปส่งก็ได้ เพราะลุงต้องไปแถวนั้นพอดี” อ้ากกกก ร๊ากกกลุงกับป้าที่สุด ขอบคุณค่ะ แก้วจะได้นอนแล้วจ้าทุกคนนนน ฉันนั่งรถมากับลุงขายผักจนถึงทางเข้าป่าซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางที่ฉันต้องการมานั้นเอง

 

 

 

            “ขอบคุณค่ะคุณลุง” ฉันยิ้มแป้นโบกมือบายๆลุง ก่อนจะลากสัมภาระตัวเองเดินด้วยความเร่งรีบ หนักก็หนักแต่ง่วงคะแนนสูงกว่า สู้ตายคะเพื่อเตียงนอนแสนนุ่มที่บ้านฝืนสังขารตัวเองจนมาถึงบ้านสวนแบบไทยประยุกต์แสนสวยของฉัน เอยไม่ใช่ที่นี้เป็นของคุณย่าฉันเอง ท่านเสียไปก่อนที่ฉันจะไปเรียนมหาลัยเสียอีก ที่นี้ไม่มีใครอยู่แต่ก็จะส่งคนคอยมาปัดกวาดทำความสะอาดอาทิตย์ล่ะครั้งข้างในจึงไม่สกปรกเพราะย่าฉันเป็นคนรักสะอาดมาก แล้วบ้านคุณย่าก็อยู่ห่างจากบ้านเกิดฉันไม่ไกลนัก แต่ที่ฉันเลือกที่จะมานี้เพราะขืนกลับบ้านแทนที่จะกระโดดกอดแม่ฉันคงสลบเหมือด

 

 

 

            “ล็อค แสดงว่าไม่มีใครอยู่” ฉันยิ้มแก้มปริก่อนจะมองกระถางต้นไม้ข้างๆ ยกด้วยแรงอันน้อยนิดก็พบกับกุญแจบ้าน หึๆฉันรู้ดีว่าผ่านไปสักกี่ปีกุญแจสำรองนี้ก็ไม่เคยมีใครรู้นอกจากฉันกับคุณย่า ช่วยแก้วไว้จริงๆ

 

 

 

            “เตียงแสนร้ากกก แก้วมาแล้วคร่อก” ฉันไม่รอช้าหลังเข้าบ้านล็อกเรียบร้อยก็พุ่งตรงมาที่ห้องนอนคุณย่าแล้วสลบคาเตียงหนานุ่มหลับลงไปทันทีด้วยความเหนื่อยบวกง่วงฟินเป็นบ้า คร่อกฟี้ คร่อกกกก ฟี้

 

 

 

            ครืดๆๆ ครืด

 

            ง่ำๆ ฉันเหมือนได้ยินอะไรสั่นๆข้างหู ใครโทรมากวนแก้วตอนนอนกัน คนจะหลับจะนอน

 

 

 

            “ฮาโย้ว” น้ำเสียงงัวเงียสุดๆ ก็ฉันพึ่งตื่น ว่าแต่เรานอนนานกว่าที่คิด ข้างนอกเริ่มมืดแล้วแฮะ เอ่อว่าไปใครโทรมาว่ะขอสวนสักที

 

 

 

            “ แก้ว นี้ฟางเองนะ” O_O! ยัยตัวเล็กของฉัน ขอถอนคำพูดเมื่อกี้ด่วน ถุ้ยๆ

 

 

 

            “ว่าไงฟางถึงบ้านแล้วเหรอ” ฉันพูดไปพลางเปิดหน้าต่างแล้วสูดอากาศเรียกความสดชื่นให้ร่างกาย

 

 

 

            “ถึงแล้วจ้ะ แก้วล่ะ” ฟางถามฉันกลับ ว่าไงดีไอ้ถึงมันก็ถึงอยู่หรอกแต่ไม่ถึงที่สุดนี้สิ

 

 

 

            “อืม ถึงแล้วแก้วหลับอยู่เลยรับสายช้า” กลับบ้านเลยดีไหมนะ พึ่งบอกพี่กิ่งไปหยกว่าถึงวันนี้แต่จะยังไงรถก็ไม่มีซะด้วย

 

 

 

            “ฟางกวนแก้วหลับรึป่าว แก้วไปนอนต่อก็ได้ฟางไม่กวนละ” เดียวๆๆๆ อย่าพึ่งสิฟาง

 

 

 

            “ป่าวๆ ไม่เลยแก้วตื่นแหละล่ะ หืม” ฉันว่าฉันเห็นอะไรข้างต้นไม้ ไม่นะผู้บุกรุกเรอะ O_o

 

 

 

            “ฟางแค่นี้ก่อนนะ” ฉันรีบลงบันไดไปอย่างเร็วมาถึงจุดที่ฉันเห็นบางอย่างแต่ไม่ยักมีแฮะ สงสัยฉันจะตาฟาดไปเอง เอ๊ะ อะไรแซกๆตรงพุ่มรึว่าจะเป็นโจรแอบซุ่ม ฉันรีบกำมีดปังตอแน่นรับมือเตรียมฟาด ย้ากกกก

 

 

 

            “ห้ะ กระรอก” กระรอกน้อยวิ่งออกมาจากพุ่ม ฉันจึงปล่อยมือลงแล้วเดินตามเจ้ากระรอกที่วิ่งเข้าพุ่มเดิมด้วยความตกใจ ฉันแวกพุ่มออกก็รู้สึกแปลกๆที่มือเหมือนมีอะไรเปื้อนเลยยกขึ้นมาดู เฮ้ย เลือดดดดดดด แล้วไม่พอที่พื้นกับต้นไม้ก็มีเลือดเป็นทางยาว อย่าบอกนะมีการฆาตกรรมเกิดขึ้นแถวบ้านช้านนนนน ฉันไม่รอรีบตามรอยเลือดไปจนมาหยุดอยู่ที่ร่างของใครคนหนึ่งนั่งพิงต้นไม้ด้วยสภาพเลือดโชกเต็มตัว

 

 

 

            “คุณ!?”

 

 

 

 

            ตอนแรกฝากเม้นด้วยนะทุกคน เรามือใหม่พึ่งเคยแต่งฟิคครั้งแรกของเราเลยนะเนี่ยเรื่องราวจะแบบไหนรอลุ้นกัน ถ้าอยากให้เขียนก็ช่วยติดตามกันเยอะนะ ^ ^

           

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.3 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา