{Fic Naruto} Behind The Scene Konoha Love Story

-

เขียนโดย LadyTyrell

วันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2560 เวลา 00.59 น.

  26 ตอน
  0 วิจารณ์
  21.74K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2560 02.14 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

6) ความหลังในวัยเด็ก2

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

          ขณะที่ใกล้ถึงเวลาการฝึกดาวกระจายและมีดคุไน เด็กทั้งห้องก็ต่างพากันส่งเสียงด้วยความตื่นเต้น ทำให้ครูประจำชั้นรู้สึกเหนื่อยใจไม่น้อย หวังว่าจะไม่มีเรื่องวุ่นวายเกิดขึ้นนะนี่

“อิทาจิคุงจะไปไหนเหรอจ๊ะ?” ยูกิรีบถามขึ้นทันทีหลังจากที่อยู่ ๆ อิทาจิก็ลุกพรวดขึ้นด้วยความรวดเร็ว

“จะไปเข้าห้องน้ำ” เขาตอบเพียงเท่านั้นแล้วก็เดินออกไปทันที

“อะ…อ้าวอายะจังก็ด้วยเหรอ?” เด็กสาวหน้าหวานผมบลอนด์ยังคงอดที่จะแปลกใจไม่ได้ “เอ…หรือว่า!”

“รอฉันด้วยจ๊ะอายะจังฉันไปด้วย” เมื่อนึกขึ้นได้ว่าอายากะกำลังจะวางแผนทำอะไรยูกิจึงรีบวิ่งตามออกไปทันทีหวังว่าคงพอจะห้ามเพื่อนสนิททัน

“อ้าวเจ้าพวกนี้นี่ รีบ ๆ ด้วยล่ะเดี๋ยวก็จะถึงเวลาแล้วนะ…เอ้าเด็ก ๆ ฉันให้เวลาอีก10นาทีแล้วเจอกันที่สนามฝึกเลยนะ” โรคุโระครูประจำชั้นรีบตะโกนบอกพวกเด็ก ๆ ที่นั่งอยู่ในห้องทันที

 

          เด็กหญิงอายากะวิ่งออกมาจากชั้นเรียนแต่กลับไม่ได้หันทิศไปทางห้องน้ำตอนนี้เธอกำลังมุ่งหน้าตรงไปยังประตูหน้าโรงเรียน

“ว่าไงพวกนายของที่ฉันสั่งเอามาครบรึเปล่า?” ถามเด็กชายตัวเล็กทั้งสองด้วยสีหน้าตื่นเต้น

“เรียบร้อยครับลูกเพ่” เด็กชายตัวเล็กผมสีน้ำเงินรีบยื่นถุงบางอย่าง?ให้กับคนที่เขาเรียกว่าลูกพี่แทบจะทันที

“ว่าแต่ลูกพี่ให้พวกผมไปขโมยเครื่องสำอางของท่านอารุมิทำไมเหรอครับ?” เด็กชายผมสีน้ำตาลเข้มที่สวมแว่นสายตาถามขึ้นมาด้วยความอยากรู้ เพราะลูกพี่เป็นคนสั่งให้เขาแอบไปขโมยเครื่องสำอางของท่านอารุมิภรรยาของผู้นำตระกูลอย่างท่านเซอิจิมาให้

“เอาน่ายังไงก็ช่าง พวกนายอย่าเอ็ดไปนะถ้าหากว่าเรื่องนี้รู้ถึงหูท่านพ่อท่านแม่หรือครูล่ะก็พวกนายเจอดีแน่ ฉันไปก่อนล่ะ!” ว่าจบเด็กสาวก็รีบวิ่งตรงดิ่งไปยังห้องน้ำแทบจะทันที

“เด็กพวกนี้นี่นะ คิดจะทำอะไรแผลง ๆ กันอีกล่ะนี่…ไม่ได้อยากจะสอดรู้เท่าไหร่หรอกแต่เราก็พอมีเวลาว่างอยู่นี่นา” เกะนินน้อยผมเงินที่บังเอิญผ่านมาเห็นเหตุการณ์ที่เด็กหญิงผมสีส้มรับเอาของอะไรบางอย่างจากเด็กผู้ชายตัวเล็กสองคนชักจะสนใจเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไป เขาจึงตัดสินใจแอบตามไปดูแทบจะทันที

 

“อายะจังไปไหนมาเหรอจ๊ะ ฉันมารอหน้าห้องน้ำอยู่ตั้งนาน” ยูกิรีบเอ่ยทักทันทีเมื่อเห็นอายากะเดินเข้ามา

“ก็แบบว่านัดเจ้าพวกลูกกระจ๊อกไว้หน้าโรงเรียนน่ะว่าแต่เจ้าอัจฉริยะนั่นออกมาหรือยัง?”

“ยังเลยนะจ๊ะ อิทาจิคุงยังไม่ได้ผ่านมาทางนี้เลยจ้ะ”

“อืม…งั้นเหรอ?” จะทำยังไงดีนะให้เจ้าอัจฉริยะจากอุจิวะนั่นทิ้งกระเป๋าอาวุธไว้สักพัก “อ่ะฮ้า คิดออกแล้ว!” ดวงตากลมโตสีน้ำตาลอ่อนเปล่งประกายขึ้นมาทันทีเมื่อคิดแผนดี ๆ ออก

“เอาล่ะยูกิจัง ยังไงซะตอนนี้เธอก็เป็นเพื่อนสนิทฉัน ถ้าหากว่าเพื่อนต้องการความช่วยเหลือเธอก็อยากจะช่วยเพื่อนใช่ม๊า?”

“เอ่อ…จ้ะ ถ้าเพื่อนต้องการความช่วยเหลือไม่ว่าจะเป็นอะไรฉันก็ยินดีที่จะช่วยจ้ะ” เด็กหญิงยูกิส่งยิ้มอบอุ่นให้กับเด็กหญิงอายากะแทบจะทันที หล่อนยินดีที่จะช่วยเหลือเพื่อนในทุก ๆ เรื่องอยู่แล้ว แต่หล่อนจะรู้ไหมนะว่าเรื่องที่เด็กหญิงแห่งตระกูลฟูจิวาระต้องการให้เธอช่วยนั้นมันออกจะไม่เข้าท่าเลยสักนิด

“ฉันดีใจจริง ๆ ที่มีเพื่อนอย่างเธอ…เอาล่ะคราวนี้เธอก็ทำตามที่ฉันบอกก็พอแล้วก็อย่าโอดครวญ อย่าห้ามและอย่าสงสารและที่สำคัญ! อย่าหยุดทำจนกว่าแผนฉันจะสำเร็จ” แววตาของอายากะเปล่งประกายด้วยความมุ่งมั่น

“เอ่อไม่ใช่เรื่องของอิทาจิคุงใช่มั้ยจ๊ะ?”

“ก็แหม…ไม่เกี่ยวกันหรอก”

 

          เมื่อเด็กทุกคนอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาเตรียมตัวที่จะฝึกปาดาวกระจายและคุไนกันเรียบร้อยแล้ว ครูประจำชั้นจึงให้เข้าแถวโดยแบ่งเป็นสองฝั่ง โดยแบ่งเป็นฝั่งคุไนและดาวกระจาย

          อิทาจิกำลังเดินมาด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย เด็กชายหยุดยืนพร้อมกับชั่งใจว่าจะต่อแถวไหนก่อน ‘ดาวกระจายหรือคุไน?’ เขาคิดในใจแต่เพียงเท่านั้นแล้วสักพักก็ต้องเหลียวไปมองเสียงของใครบางคนที่ร้องโอดโอยด้วยความเจ็บ

“จะ…เจ็บจังเลย” เสียงใสของเด็กหญิงยูกิเอ่ยขึ้นเมื่อเจ้าตัวสะดุดขาตัวเองล้มลงไปกองกับพื้น ทำให้เด็กชายอิทาจิที่อยู่ใกล้ที่สุดต้องเดินเข้าไปช่วยพยุงอย่างช่วยไม่ได้

“เป็นอะไรมากไหม?” น้ำเสียงของเด็กชายยังคงไว้ซึ่งความเย็นชาเหมือนเดิม

“อะ…เอ่อ เจ็บนิดหน่อยน่ะจ้ะ”

“เดี๋ยวฉันช่วย” อิทาจิเอื้อมมือเพื่อที่จะช่วยพยุงยูกิให้ลุกขึ้นแต่ไม่ทันไรเด็กชายก็ต้องล้มลงไปเพราะถูกอะไรบางอย่างพุ่งชนด้วยความรวดเร็ว น่าแปลกจริง ๆ วันนี้มันเป็นวันอะไรกันแน่นะ ทำไมรู้สึกไม่ค่อยจะดีเลยจริง ๆ

“ได้มาเรียบร้อยแล้วคราวนี้ก็!” เด็กหญิงอายากะในร่างของแมวน้อยสีเทาพุ่งขึ้นมาบนต้นไม้ใหญ่ที่ขึ้นอยู่ข้างลานสนามฝึกด้วยความรวดเร็วแต่บนกิ่งไม้ไม่ได้มีแค่เธอแค่คนเดียวกลับมีเกะนินน้อยผมเงินที่ใส่ผ้าคาดปากพร้อมกับแววตาที่แสนจะเบื่อโลกมองเธอด้วยความสงสัย จากนั้นไม่นานคาถาแปลงร่างที่เพิ่งจะเรียนมาก็ทำให้คนที่ใช้เปลี่ยนสภาพกลายเป็นเด็กหญิงอายากะแทบจะทันที

“จ๊ากกกกกกกก!” เสียงใสร้องตะโกนด้วยความตกใจก่อนที่ร่างจะร่วงลงมาใกล้ ๆ กับอิทาจิและยูกิ

‘อย่างน้อยเราก็จัดการใส่ของพวกนั้นไปเรียบร้อยแล้วนี่นะ’ แอบคิดในใจพร้อมกับมองอิทาจิด้วยความสะใจ

“อะไรกันเด็ก ๆ นี่อายากะเธอขึ้นไปอยู่บนต้นไม้ได้ยังไง!” ครูประจำชั้นรีบวิ่งตรงดิ่งมายังเด็กทั้งสามแทบจะทันที

“ก็แบบว่าไม่มีอะไรหรอกค่า ก็แค่อยากจะวอร์มอัพก่อนที่จะถึงเวลาฝึก!” เด็กหญิงตอบไปด้วยสีหน้าระรื่นทำเอาเกะนินน้อยที่แอบดูอยู่บนต้นไม้นึกหมั่นไส้ขึ้นมา อยากจะฟ้องครูจริง ๆ ว่าเด็กพวกนี้น่ะกำลังวางแผนชั่วร้ายกันอยู่

“งั้นก็ดีแล้ว รีบ ๆ ลุกขึ้นเร็ว นี่เราก็เลยเวลามามากแล้วนะ”

 

          เด็กทั้งสามรีบลุกขึ้นมาด้วยความรวดเร็ว อิทาจิรีบก้มลงเก็บกระเป๋าใส่อาวุธมาติดไว้เหมือนเดิม เด็กชายตัดสินใจเดินไปเข้าแถวของกลุ่มที่จะฝึกมีดคุไนเป็นอันดับแรกส่วนอายากะและยูกิเดินไปเข้าแถวของกลุ่มที่จะฝึกใช้ดาวกระจาย

          การฝึกซ้อมของเด็ก ๆ ทุกคนเป็นไปได้ด้วยดีจนกระทั่งถึงคิวของอิทาจิ เด็ก ๆ ทุกคนในห้องต่างพร้อมตาพร้อมใจกันมองมาที่เขาเพียงคนเดียวเพราะอะไรน่ะเหรอ? ก็เพราะว่าเขาเป็นถึงอัจฉริยะของรุ่นยังไงล่ะ (เสียงของเด็กหญิงที่แอบปลื้มอิทาจิคุง)

“อัจฉริยะก็อัจฉริยะเถอะน่า เจอฉันเข้าไปก็ไม่รอดกันทุกรายนั่นแหละ เนอะยูกิจัง” เด็กหญิงอายากะหันไปส่งยิ้มตาหยีให้กับเพื่อนสนิทแทบจะทันที

“จ้ะแต่คราวหน้าไม่ทำแบบนี้อีกแล้วนะอายะจัง ฉันไม่อยากแกล้งอิทาจิคุงเลย” ยูกิตอบกลับมาด้วยความรู้สึกผิด

 

          เด็กชายผมสีดำเปิดกระเป๋าอาวุธด้านหลังด้วยท่าทางคล่องแคล่วพร้อมกับสอดมือเข้าไปหยิบอาวุธออกมา เขารวบรวมสมาธิไว้ด้วยความแน่วแน่พร้อมที่จะเล็งเป้าแต่แล้ว

“นี่มันอะไรกัน!” เด็กชายพึมพำออกมาด้วยความตกใจเมื่อสิ่งที่เขาหยิบขึ้นมามันคือลิปสติกที่ผู้หญิงชอบใช้กัน

“อะ…อิทาจิคุง…” เด็กหญิงในชั้นเรียนต่างพากันตกตะลึงกับสิ่งที่ได้เห็น

“ไม่มีอะไรหรอกเด็ก ๆ สงสัยแม่ของอิทาจิเค้าคงจะลืมไว้น่ะ…เอ้าต่อเลยอิทาจิ” โรคุโระรีบพูดแก้สถานการณ์แทบจะทันทีเมื่อเกิดเสียงฮือฮากันขึ้นในหมู่เด็ก ๆ

เด็กชายพยักหน้ารับพร้อมกับเริ่มตั้งสมาธิอีกครั้ง เขาตั้งใจหยิบอาวุธออกมาอีกครั้งแต่สุดท้ายแล้วมันก็เป็น

“ดินสอเขียนคิ้ว!” เสียงอุทานออกมาจากกลุ่มเด็กหญิง

“แว๊กกกกกกกกกเจ้าอิทาจิ เกิดอะไรขึ้นกันล่ะนี่” โรคุโระรีบวิ่งตรงดิ่งมายังลูกศิษย์แทบจะทันที

“มันไม่ใช่ของผม” เด็กชายพูดออกมาด้วยสีหน้าเรียบเฉยพร้อมกับปลดกระเป๋าอาวุธออกและเทของออกมา

“แหม ๆ ทั้งดินสอเขียนคิ้ว ลิปสติก แป้งพับ ครีมทาหน้า มันจะไม่ใช่ของนายได้ยังไงกันเล่าเจ้าอัจฉริยะ!” เด็กหญิงอายากะเดินออกจากแถวมาแทบจะทันทีเพื่อพูดจายั่วโมโหอีกฝ่ายแต่อิทาจิกลับยังคงปั้นสีหน้านิ่งไร้อารมณ์แบบสุด ๆ ‘ฮึ่ย จะทำยังไงดีนะให้เจ้าอัจฉริยะนี่ปริ๊ดแตกขึ้นมา’

“อย่าบอกนะอิทาจิคุงว่าเธอน่ะ ชอบอะไรแบบนี้” เด็กหญิงคนหนึ่งในชั้นเรียนตะโกนออกมาพร้อมกับเอามือปิดตาด้วยความผิดหวัง

“อะ…เอ่อคือว่า” อิทาจิยังคงหาทางออกไม่ได้ ตอนนี้ในหัวสมองของเด็กชายมึนตึ๊บไปหมดแล้ว ไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง หรือว่าเป็นเพราะตอนนั้นที่เขาถูกอะไรบางอย่างวิ่งชนตอนที่กำลังจะช่วยพยุงยูกิให้ลุกขึ้นมา!

“เธอจะว่ายังไงล่ะอิทาจิ?” โรคุโระจ้องลูกศิษย์ด้วยความสงสัย บางทีเรื่องนี้คงจะหาคำตอบได้

“จะไปยากอะไรล่ะคะครู หลักฐานก็เห็นกันอยู่ทนโท่แบบนี้ หมอนี่น่ะเป็นพวกชอบไม้ป่าเดียวกันฮ่า ๆ” เสียงหัวเราะชอบใจของอายากะดังลั่นไปทั่วลานสนามฝึก

“ฝีมือเธอใช่มั้ย?” อิทาจิถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“นี่นายมากล่าวหาฉันได้ยังไงกัน ไม่สมกับเป็นอัจฉริยะเลยนะจะบอกให้!”

“หึ…ก็ตอนที่เธอหล่นลงมาจากต้นไม้ไง”

“หน็อยตอนนั้นฉันขึ้นไปวอร์มอัพข้างบนตังหากเฟ้ย!” อายากะหน้าแดงด้วยความโกรธ ไม่คิดว่าเจ้าอัจฉริยะนี่จะไล่ต้อนเธอทัน

“แต่ฉันเห็นกับตานะ” ว่าแล้วเสียงผู้มาเยือนคนใหม่ก็ดังขึ้นพร้อมกับร่างที่กระโดดลงมาจากต้นไม้สูง

“ระ…รุ่นพี่นี่นา!” เสียงเด็กชายหลายคนตะโกนด้วยความตื่นเต้นเมื่อเห็นเกะนินน้อยผมเงินกระโดดลงมาจากต้นไม้

“หมายความว่ายังไงกันคาคาชิ?” โรคุโระหันไปถามลูกศิษย์ด้วยความสงสัย

“อันที่จริงก็ไม่ได้อยากยุ่งด้วยหรอกแต่บังเอิญมาเห็นพอดี…เด็กผมส้มนี่น่ะแอบนัดกับเจ้าพวกนี้ให้เอาของบางอย่างและผมก็คิดว่าคงจะเป็นเครื่องสำอางที่อยู่ในกระเป๋าของเด็กอุจิวะแน่ ๆ นี่พวกลูกกระจ๊อกทั้งสองออกมาจากที่ซ่อนได้แล้ว”

“หน็อย! กล้าดียังไงมาใส่ร้ายฉันแบบนี้ หนูไม่ได้ทำนะคะครู เจ้าพวกนี้น่ะนัดกันมา”

“ลูกพี่ครับช่วยพวกเราด้วย!” เด็กชายทั้งสองประสานเสียงกันด้วยความกลัวเพราะถูกคาคาชิขู่เอาไว้ว่าจะโดนปล้นค่าขนม

“ฮึ่ย!” เด็กหญิงหน้ามุ่ยด้วยความไม่สบอารมณ์

“ว่ายังไงล่ะ อายากะ?” โรคุโระจ้องเด็กหญิงผมสีส้มเพื่อรอคำตอบ

“ครูก็ไปถามเจ้าพวกนั้นเองเซ่ เรื่องอะไรหนูจะต้องพูดด้วยเล่า!”

 

          หลังจากจัดการสอบสวนลูกกระจ๊อกทั้งสองของเด็กหญิงอายากะเรียบร้อยแล้วก็ได้ความว่าสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดนั้นเป็นแผนของอายากะที่วางไว้เพื่อจะแกล้งอัจฉริยะของรุ่นอย่างอิทาจิแต่ความก็ดันมาแตกเมื่อเกะนินน้อยที่แอบเห็นเหตุการณ์เข้ามาช่วยกู้หน้าอิทาจิไว้ได้ทันเวลาพอดี จนสุดท้ายเด็กหญิงอายากะก็ต้องถูกทำโทษไปตามระเบียบโทษฐานที่แกล้งเพื่อนร่วมชั้นอีกทั้งยังทำให้การฝึกวันนี้ล่าช้า

“อ๋อย! เอ็บใออิงอิง!” (หน็อย! เจ็บใจจริงจริง) เด็กหญิงอายากะที่ยืนขาเดียวอยู่หน้าต้นไม้ใหญ่พึมพำออกมาด้วยความยากลำบากเพราะโรคุโระสั่งให้เธอคาบดาวกระจายไว้จนกว่าจะถึงเวลากลับบ้านซึ่งแน่นอนว่าคนที่ถูกทำโทษก็ต้องกลับบ้านช้ากว่าเพื่อน ๆ คิดแล้วก็เจ็บใจนัก!

          วงตากลมโตสีน้ำตาลอ่อนมองเพื่อน ๆ ที่กำลังฝึกซ้อมกันที่สนามอย่างเศร้าสร้อยพร้อมกับมองเจ้าอัจฉริยะนั่นแสดงฝีมือด้วยความหมั่นไส้

“เอ๊อะ ออยอูเออะ อั้นอะไอ้ออมอบแอ้อี้แอ้!” (เฮอะ คอยดูเถอะ ฉันจะไม่ยอมจบแค่นี้แน่)

“ไง ยายตัวก่อเรื่อง ขอบใจนะที่วันนี้ทำให้ฉันได้โชว์ความอัจฉริยะมากกว่าวันอื่น ๆ” เมื่อซ้อมเสร็จและเตรียมตัวกลับบ้านอิทาจิจึงเดินแวะเข้ามาเยาะเย้ยตัวต้นเรื่องของวันนี้ ถึงจะไม่อยากพูดคุยอะไรกับใครมากแต่ก็อดที่จะมาเยาะเย้ยยายอายากะนี่ไม่ได้

เด็กสาวสะบัดหน้าไปทางอื่นแทบจะทันที ระวังไว้เถอะเจ้าอัจฉริย๊า!

“โชคดีนะ วันนี้คงมีแค่เธอคนเดียวที่จะได้กลับช้ากว่าเพื่อน” พูดจบเด็กชายก็เดินออกจากตรงนั้นทันที เขายิ้มตรงมุมปากน้อย ๆ ด้วยความสะใจที่เห็นตัวก่อเหตุถูกลงโทษให้กลับช้ากว่าเพื่อน

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา