ปัญหาป่วน ก๊วนไม่ธรรมดา! ภาค สัญญาแห่งเลือด อ่านต

-

เขียนโดย SilverFox

วันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2554 เวลา 17.28 น.

  2 บท
  1 วิจารณ์
  6,791 อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) Gate -2- ความทรงจำที่ลางเลือน

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

“เฟสคุง เราจะไปเที่ยวไหนกันดีล่ะ” เฟสทำหน้าคิดเล็กน้อย ระหว่างเดินเข้าเมือง ก็ได้ยินเสียงหนึ่งไล่หลังขึ้น

 

            “เฮ้! มาโดกะ” มาโดกะสะดุ้ง หน้าซีดเผือดจนเฟสสังเกตได้ จึงหันไปมองเสียงต้นเหตุ

 

            “มีอะไรเหรอฮะ คาโต้คุง?” คาโต้ที่มาโดกะพูดถึงคือเพื่อนร่วมชั้นชายตาสีฟ้า ผมสีทองตัวอ้วนและสูงกว่ามาโดกะเท่าตัวได้

 

            “นายจะไปไหนล่ะ ถ้ายังไม่รู้จะไปไหนไปเที่ยวกับชั้นก็ได้นะ” มาโดกะทำท่าคิดก่อนจะหันไปถามเฟสที่ยืนเอามือล้วงกระเป๋ามองคาโต้อยู่ข้างๆ

 

            “เฟสคุงเอาไงล่ะ?” เฟสหันหน้าไปมองมาโดกะ ก่อนจะหันหน้าไปมองคาโต้อีกครั้งด้วยสายตาหาเรื่องในสายตาของคาโต้

 

            “อะ อะไรเล่ามองด้วยสายตาอย่างนั้นน่ะ มาโดกะเจ้านี่เป็นใคร” มาโดกะทำท่ากระอักกระอ่วนหันไปมองเฟสสลับกับคาโต้ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงดูหวาดๆ

 

            “คะ คาโต้คุง นี่เฟสคุงเพื่อนผมฮะ” คาโต้หันไปมองเฟสแล้วจ้องไปที่สายตาที่เฟสส่งมาแล้วแสยะยิ้มให้เฟส พร้อมกับหัวเราะในลำคอ

 

            “….”

 

            “มีอะไรก็พูดออกมาตรงๆเลยสิเฟ้ย ไม่ต้องมาจ้องด้วยสายตาหรอก ฉันไม่กลัวหรอกนะ ฮึๆ” คา โต้ทำหน้าดูถูกเฟสจนในที่สุดมาโดกะก็ทนไม่ไหวต้องเข้าแทรกกลางระหว่างทั้ง สองแล้วจ้องคาโต้ตอบอย่างคนที่ไม่เกรงกลัว แต่ถ้าสังเกตดีๆจะรู้ว่ากำลังสั่นอยู่ โดยการกระทำนี้ก็ไม่พ้นสายตาของทั้งสองฝ่ายที่โดนแทรกกลาง

 

            “อะไร มาโดกะนายคิดจะมีเรื่องกับฉันรึไง” มาโดกะยังคงจ้องหน้าอีกฝ่ายตอบไม่พูดอะไรออกมา ‘ตอนนี้เฟสคุงพึ่งหายป่วย ไม่ควรจะมีเรื่องกันเพราะงั้นทางที่ดีที่สุด’ มา โดกะหันหน้าไปหาเฟสแล้วดึงมือของเฟส ไปด้านหน้าทำเป็นไม่สนใจอีกฝ่ายเพื่อจะหลีกหนีให้เร็วที่ แต่ดูเหมือนจะยิ่งส่งผลให้อีกฝ่ายโมโหยิ่งขึ้น จนทำให้อีกฝ่ายตรงเข้าไปกระชากคอเสื้อของเฟส

 

            “หน็อยแน่ะแก” คาโต้ทำท่าจะชกเฟสทำให้มาโดกะต้องรีบหน้าตาตื่นเข้ามาห้าม

 

            “อย่านะ! คาโต้คุง เฟสคุงเค้าเพิ่ง..”    

 

            “หุบปาก! แกไม่ต้องมายุ่งถอยไป” คา โต้ที่กำลังโมโหสุดขีดผลักมาโดกะที่เกาะตนแน่นหมายจะให้หลุดออกไป แต่เพราะพละกำลังต่างกันเกินไปทำให้ มาโดกะกระเด็นไปไกลจนหัวกระแทกเข้ากับเสาไฟฟ้าอย่างแรง!

 

            ตุบ! โอ๊ย!

 

            “มาโดกะ!” เฟสที่โดนกระชากคอเสื้ออยู่ร้องขึ้นอย่างตกใจกับเหตุการณ์ตรงหน้า

 

            “อึก! ผะ ผมไม่เป็นไรหรอกเฟสคุง” มา โดกะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่บอกว่าเจ็บจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้เฟสถึงกับตาแววโรจณ์ ด้วยความโกรธ และจ้องไปยังผู้กระทำเหมือนต้องการให้อีกฝ่ายขอโทษและปล่อยเขาสักที

 

            “ฮ่า ฮ่า สมน้ำหน้ามัน อยากมาขวางดีนักเป็นแค่มาโดกะแท้ๆ ทีนี้ก็ตาแกมั่งล่ะ ให้มันรู้ซะมั่งว่าแถวนี้ถิ่นใคร” คา โต้หัวเราะชอบใจกับการกระทำจนในที่สุดเฟสก็จับแขนที่คอเสื้อแล้วบีบแน่น แล้วเหวี่ยงอีกฝ่ายหลังพูดอะไรบางอย่างด้วยแววตาที่ไม่เหมือนมนุษย์เลยในสาย ตาของคาโต้ ก่อนที่จะสลบไปกับเสาไฟฟ้าอีกเสาที่อยู่ข้างๆมาโดกะด้วยพละกำลังที่มากกว่า หลายเท่าตัว

 

            “มาโดกะ ไม่เป็นไรใช่ไหม” เฟส รีบวิ่งมาหามาโดกะ แล้วพยายามประคองเพื่อนด้วยแววตาที่แสดงถึงความห่วงใยได้อย่างชัดเจน มาโดกะยิ้มให้เฟสเมื่อเห็นแววตาที่ส่งมา แล้วต้องรีบจับหัวตัวเอง เมื่อรู้สึกปวดแปล๊บจากการที่ศรีษะกระแทกเสาอย่างแรง

 

            “อึก!”

 

            “มาโดกะเป็นอะไร...” เฟส พยุงมาโดกะที่จับหัวตัวเอง เห็นเลือดที่ไหลออกมาจากหัว ไหลไปตามมือข้างที่จับของมาโดกะ ก่อนจะไหลไปโดนมือของเฟสที่เอามือไปดูแผลว่าหนักแค่ไหน แล้วก็ต้องถอนหายใจเมื่อเห็นว่าบาดแผลของเพื่อนไม่ใหญ่มากนัก

 

            “กลับไหมมาโดกะ” เฟสถามเมื่อเห็นมาโดกะเริ่มจะทรงตัวไม่อยู่ มาโดกะหันมาพยักหน้าให้เฟส เฟสจึงพยุงมาโดกะเพื่อจะไปโรงพยาบาล

 

            “ขอโทษนะฮะ ที่ผมทำให้..ไม่ได้ไปเที่ยว” เฟสหันไปมองมาโดกะที่ทำหน้าสำนึกผิดก็ยิ้มออกมาแล้วเปลี่ยนป็นโกรธอย่างรวดเร็ว

 

            “ก็นะ ใครใช้ให้นายมาขวางเล่า ฉันไม่แพ้ไอ้เจ้าใหญ่แต่ตัวอย่างนั้นหรอก...เอาไว้มาใหม่ก็ได้คราวนี้นึกที่ๆจะพาเที่ยวด้วยล่ะ” มาโดกะยิ้มให้เฟสก่อนที่จะล้มลงไปนั่งกับพื้นเมื่อมีอาการปวดหัวอย่างแรง

 

            “โอ๊ย! เสียง..อะไร..” สิ้นเสียงมาโดกะก็สลบล้มลงไปอยู่ในอ้อมกอดของเฟสทันที

 

            ‘แล้วเรา..มาเล่นด้วยกันอีกนะ’ เสียงบางอย่างดังแผ่วเบาอยู่ในความคิดของมาโดกะ โลกสีขาวโพลนที่มาโดกะเห็น

 

            ‘สัญญานะ’

 

            “นั่นเสียงใครกัน” มาโดกะตะโกนถามในโลกสีขาวนั้น ด้วยเสียงที่ดังก้อง

 

            ‘ต้องนึกออกแน่ๆ’ เสียงแผ่วเบายังคงดังต่อไปราวกับไม่ได้ยินเสียงของมาโดกะ

 

            “นึก? นึกอะไรออก” มาโดกะยังคงถามในโลกที่ว่างเปล่านั้น หวังว่าจะได้คำตอบ

 

            ‘ถ้าได้เล่นด้วยกันมากกว่านี้ก็คงดีนะ เราสองคน’ เสียงแผ่วเบาอันแสนคุ้นเคยทำให้มาโดกะนิ่วหน้าและถามด้วยเสียงแผ่วเบาจนเหมือนกับพูดกับตัวเองมากกว่า

 

            “เสียงเฟสคุงอย่างนั้นเหรอ?”

 

            ‘ถึงจะลืม แต่จะนึกให้ออกให้ได้ ต้องนึกออกแน่ๆ..’ เสียงแผ่วเบานั้นเริ่มเบาลงเรื่อยๆ โลกสีขาวโพลนเริ่มจางหายไป

 

            “เดี๋ยวสิ! อย่าเพิ่งไป นึกอะไรออกอย่างนั้นเหรอ คอยก่อน” มาโดกะวิ่งตรงไปเรื่อยๆในโลกสีขาโพลนที่เริ่มจางหาย มือขวายกขึ้น เหมือนต้องการจะคว้าอะไรบางอย่างเอาไว้ แต่ก็ไม่สามารถจับต้องได้

 

            “มาโดกะ! มาโดกะ!” เสียงอันแสนคุ้นเคยดังขึ้นทำให้ผู้ที่หลงไปอยู่ในโลกสีขาวโพลนต้องลืมตาตื่นด้วยความตกใจในเสียงที่เรียก

 

            เฮือก! มาโดกะตกใจสะดุ้งตื่นจากความฝัน ลมหายใจที่หายใจออกอย่างติดขัด หัวใจที่เต้นระรัว เหงื่อที่ไหลโซมไปทั้งตัวเหมือนคนที่เพิ่งออกกำลังกาย มาโดกะมองตัวเองที่นอนอย่บนเตียงห้องพยาบาลพลางจับหัวที่ยังเจ็บอยู่นิดๆ ซึ่งเมื่อสัมผัสจึงรู้ว่ามีผ้าพันแผลพันอยู่ที่หัวเขา ก่อนจะหันไปทางเสียงเรียก แล้วยิ้มเป็นเชิงปฏิเสธคำถามของอีกฝ่าย

 

            “มาโดกะ เป็นอะไรมากหรือเปล่า เจ็บตรงไหนเหรอ”

 

            “ไม่เป็นไรฮะ นี่กี่โมงแล้วฮะ” เมื่อ มาโดกะสังเกตดีๆ จึงพบว่านอกจากเพื่อนของตนแล้วยังมีใครอีกคนอยู่ข้างๆ คนๆนั้นคือคุณแม่ของเธอ ที่เมื่อเห็นลูกของตนฟื้นก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก

 

            “สามทุ่มครึ่งแล้วจ๊ะ ลูกหลับไปนานมากเลย แต่ดีแล้วล่ะที่ไม่เป็นไร เมื่อกี๊ลูกละเมอเสียงดังลั่นเลยรู้รึเปล่า? เฟสคุงเขาก็เลยตะโกนเรียกลูกไง” มาโดกะทำหน้าไม่เข้าใจคำพูดของแม่ตนจึงพูดด้วยน้ำเสียงไม่เข้าใจ

 

            “ละเมอ? ว่าอะไรฮะ”

 

            “ก็ประมาณว่า ‘เดี๋ยวสิ! อย่าเพิ่งไป นึกอะไรออกอย่างนั้นเหรอ คอยก่อน’ ประมาณนี้น่ะจะ” มาโดกะพยักหน้ารับอย่างเข้าใจก่อนจะได้ยินเสียงจากระเบียงดังขึ้น

 

            “คุณซึคุโยะ ผมจัดการให้แล้วนะครับ อ้าวรู้สึกตัวแล้วเหรอ มาโดกะคุง” ชาย ผมสีน้ำตาล ผมซอยสั้น นัยน์ตาสีน้ำตาล สวมแว่น ใส่เสื้อกาวน์ หน้าออกจะดุ ในสายตาของมาโดกะ แต่แววตาของเขากับบ่งบอกว่าเป็นที่อ่อนโยนอย่างเห็นได้ชัด มาโดกะสังเกตเห็นว่า พอคุณหมอคนนี้เรียกชื่อก็หน้าขึ้นสีระเรื่อในทันที มาโดกะอยากรู้ว่าหมอคนนี้ชื่ออะไร แล้วเขาก็ได้คำตอบเมื่อแม่ของตนเรียกชื่อ

 

 

            “ขอบคุณมากค่ะ คุณหมออาราอิ” พูดไปหน้าก็แดงขึ้นเรื่อยๆ

 

            “มา โดกะคุงนอนพักอีกสักหน่อยนะจะได้ดีขึ้น สมองได้รับการกระทบกระเทือนนิดหน่อยแต่ไม่เป็นอันตรายอะไรมาก พักสักหน่อยก็หายแล้วล่ะ คุณซึคุโยะไปกันเถอะครับ” แม่ ของมาโดกพยักหน้ารับพลางยิ้มให้มาโดกะเหมือนต้องการจะสื่ออะไร ซึ่งมาโดกะก็รับรู้ได้จาดสีหน้าและรอยยิ้มนั้น จึงหันไปพูดกับเพื่อนที่รอยยิ้มไม่ต่างจากคนเป็นแม่

 

            “ท่าทางอีกไม่นาน ผมคงจะมีพ่อใหม่แล้วล่ะ ดูเป็นคนดีมากเลย ดีใจจังแม่จะได้มีความสุขซะที” เฟสที่เห็นรอยยิ้มที่บอกว่าดีใจมากๆ มองอย่างนึกเอ็นดู แล้วนั่งลงที่โซฟาในห้อง

 

            “นั่นสินะนอนพักเถอะ ฉันเองก็ชักจะง่วงแล้วล่ะ ราตรีสวัสดิ์นะ”

 

            “อืม ราตรีสวัสดิ์ฮะ” มาโดกะยิ้มพลางมองเฟสที่มีหมอนที่โซฟา แต่กับใช้แขนตัวเองเป็นหมอนอย่างนึกตลก ก่อนที่ตัวเองจะหลับตาแล้วนอนหลับไป.....

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา