Love Plus [ The Predestination Love ]

3.8

เขียนโดย Ejichiki

วันที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2554 เวลา 05.27 น.

  9 session
  3 วิจารณ์
  13.48K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

9) ละครหุ่น

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ลำนำแห่งฤดูใบไม้ร่วง ตอนที่  9  ละครหุ่น

 

 

เสียงปรบมือที่ดังอยู่เมื่อครู่พลันหายไป   เมื่อดวงตาของหญิงสาวที่ยืนอยู่บนเวทีเบิกกว้างขึ้นมา   รอยยิ้มสดใสของหญิงสาวค่อยๆเผยออกมาบนใบหน้าอวบอิ่ม  พร้อมๆกับร่างอันบอบบางที่โค้งลงให้กับผู้ชม  ในลักษณะก้าวเท้าซ้ายออกมาข้างหน้า  แล้วใช้มือขวาแนบอกของตนเอาไว้ 

 

" เอ๋ !  นั่นมัน !? "  เรนะอุทานขึ้นมาเบาๆ  เพราะเธอจำหญิงสาวคนนี้ได้  เธอเคยเจอหญิงสาวคนนี้มาแล้วเมื่อวานนี้ตอนออกไปเลือกซื้อเครื่องดนตรีกับทานข้าวเย็น

 

เมื่อทำความเคารพผู้ชมอันเป็นประเพณีศักดิ์สิทธิ์ก่อนการแสดงแล้ว  หญิงสาวก็ดึงร่างของตนเองกลับมายืนตรงอีกครั้ง  เรือนผมสีดำที่ถูกมัดไว้อย่างดีในทรงหางม้าพริ้วลู่ไปด้านหลัง  ดวงตาสีนิลจับจ้องไปทางผู้ชมที่นั่งรอชมการแสดงอยู่โดยไม่แบ่งแยกว่าจะเป็น  ชาย  หญิง  เด็กหรือผู้ใหญ่   พร้อมๆกับมือทั้งสองข้างที่กางเหยียดไปจนสุดมือ

 

หญิงสาวหลับตาพรึมและสงบนิ่ง   ไม่มีเสียงใดเล็ดลอดออกมาจากหญิงสาวหรือเหล่าผู้รับชม  จะมีก็แค่เพียงเสียงของสายลมอันแผ่วเบาพัดผ่านเท่านั้น  หญิงสาวยืนนิ่งอยู่อย่างนั้นกระทั่งเวลาล่วงเลยไปครู่ใหญ่  และแล้ว  ดวงตาของหญิงสาวกลับเบิกกว้างขึ้นอีกครั้งพร้อมกับเสียงดนตรีที่ดังก้องขึ้นมาในจังหวะเดียวกัน  แล้วกล่องสี่เหลี่ยมผืนผ้าตรงหน้าหญิงสาวก็เปิดออก  เผยให้เห็นตุ๊กตาตัวหนึ่งที่นั่งอยู่ด้านใน

 

" สวัสดีทุกท่าน !! " ตุ๊กตาตัวดังกล่าวทักทายผู้ชมรอบๆเวที

 

" นามของข้าคือนักเดินทางพเนจร มาเรค นัวร์ เลฟิว   แต่ข้าว่ามันยาวไปหน่อย  ขอให้พวกเจ้าเรียกข้าว่านัวร์ก็แล้วกัน  วันนี้ข้าจะมาเล่นนิทานให้พวกเจ้าฟัง  ข้าคิดว่าหลายๆคนน่าจะชอบนิทานที่ข้ากำลังจะเล่า " 

 

ตุ๊กตาที่ใช้ชื่อว่า " นัวร์ " แนะนำตัวเองให้ผู้ชมได้รู้จักท่ามกลางเสียงปรบมือของคนดูหลายๆคนที่กำลังรับชม  รูปร่างของนัวร์นั้นมีลักษณะเป็นตุ๊กตาผ้าธรรมดาๆ  สูงพอๆกับเด็กมัธยมต้น  ใช้รูปร่างเด็กผู้ชายเป็นพื้นฐาน  ทั้งร่างสวมชุดคลุมคล้ายๆที่พวกนักดนตรีพเนจรของเม็กซิโกใส่กัน  สวมหมวกปีกกว้างแบบเม็กซิโกสีน้ำตาลอ่อน  แล้วมีผ้าปิดปากสีแดงเข้มปิดปากเอาไว้อีกที  จึงไม่สามารถรู้ได้ว่า  ตุ๊กตาตัวนี้ขยับปากพูดได้จริงๆรึปล่าว

 

" อย่างที่บอกไว้แล้ว  ข้าเป็นนักพเนจร  ข้ามีนิทานมากมายเท่าภูเขาเลากาที่จะเล่าให้พวกเจ้าฟัง  แต่ก็นั่นแหละนะ  เพราะมันเยอะเกินไปข้าคงจะเล่าให้หมดในครั้งเดียวไม่ได้แน่ แล้วข้าก็ไม่สามารถที่จะเดินไปไหนมาไหนได้…  ฉะนั้น !!   ข้าจะขอเชิญหนึ่งในผู้ชมมาเป็นผู้ช่วยสักหน่อยก็แล้วกัน "

 

เมื่อนัวร์พูดจบ  ใบหน้าของนัวร์ก็ขยับไปซ้ายทีขวาทีเพื่อเฟ้นหาผู้โชคดีจากผู้ชมมากมายที่ยกมือขึ้นมาเสนอตัวเป็นผู้ช่วยของนัวร์  ไม่เพียงแค่นัวร์เท่านั้น  หญิงสาวที่ยืนอยู่ด้านหลังก็สอดส่ายสายตาไปรอบๆเวทีเช่นกัน  จนกระทั่ง  สายตาของเธอสบตาเข้ากับเด็กสาวอีกคนเข้าอย่างจัง  หญิงสาวยิ้มให้กับเด็กสาว  แต่เด็กสาวกลับรู้สึกเหมือนกับความซวยกำลังจะมาเยือนเธอในวินาทีถัดไป  ซึ่งมันไม่ได้ผิดจากที่เธอคิดเอาไว้เลย

 

 

เจ้า !!

 

" ข้าอยากให้เจ้ามาเป็นผู้ช่วยของข้า  "   นัวร์ชี้นิ้วไปหาเด็กสาวคนหนึ่งที่นั่งอยู่ท่ามกลางกลุ่มคนดู  มันทำให้สายตาของเหล่าผู้คนหันมองหญิงสาวเป็นตาเดียว

 

" ชะ..  ชั้นเหรอ? "  เด็กสาวพูดตะกุกตะกัก พลางชี้นิ้วใส่ตัวเอง

 

" แม่น !!   เจ้านั่นแหละสึคิยามะ  เรนะ    ข้าขอเชิญเจ้ามาเป็นผู้ช่วยของข้า  เจ้ามีสิทธิ์ตอบได้สองคำคือ " ตกลง " กับ " ได้เลย " เท่านั้น  นอกเหนือจากสองคำนี้  ข้าไม่รับฟัง "

 

เรนะอึ้งไปชั่วขณะ  นี่เธอกำลังถูกตุ๊กตาบังคับขู่เข็นรึนี่  ครั้นเรนะจะปฏิเสธก็กระไรอยู่  เพราะสายตาผู้ชมทั้งเวทีจับจ้องมาที่เธอเพียงแค่คนเดียวราวกับต้องการจะฟังคำตอบจากปากของเรนะเพียงผู้เดียวเท่านั้น

 

" โชคดีจังเลย  เรนะจัง  "  ยูกิยิ้มให้พลางใช้มือของตนดันหลังเรนะให้ขึ้นไปบนเวที

 

" ดะ – เดี๋ยวสิยูกิ  ใจคอเธอจะไม่สงสารคนที่เพิ่งย้ายมาอยู่โรงเรียนนี้แบบชั้นมั่งเหรอ ? "

 

" แหมๆ  ไม่เห็นเป็นไรเลยเรนะจัง "

 

" ใช่ !  ไม่เป็นไรหรอกผมรับรองได้ อีกอย่าง  ไม่บ่อยหรอกนะที่เธอคนนั้นจะขอผู้ช่วย  นี่แสดงว่ามายุคงจะถูกใจเรนะมากถึงได้ขอให้เธอขึ้นไปช่วยเธอ " ฮิโยช่วยพูดเสริม  แต่คำพูดของเขาไม่ได้ช่วยให้เรนะมีความกล้ามากขึ้นเลยสักนิด

 

ท้ายที่สุด  เรนะก็ต้องจำใจขึ้นไปบนเวทีจนได้  สายตาของผู้ชมรอบๆเลื่อนไล่ตามร่างของเรนะตั้งแต่เธอเริ่มลุกขึ้นยืน  จนเดินไปถึงบนเวทีกันเลยทีเดียว  เรนะแทบไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมามองตาผู้ชมด้วยซ้ำเพราะว่ากันตามตรง  เธอไม่เคยตกเป็นเป้าสายตาคนเยอะๆแบบนี้มาก่อน  โดยเฉพาะบนเวทีแบบนี้

 

" สะ..  สวัสดีค่ะ   เรนะค่ะ "

 

เสียงปรบมือดังขึ้นประปรายทันทีที่เรนะแนะนำตัวเสร็จ  มันคงดีกว่านี้ถ้าเธอจะเงยหน้าขึ้นมามองผู้ชมด้านหน้า

 

" แนะนำตัวกันเสร็จก็ถึงคิวของข้าแล้วสิ  เอาล่ะแม่หนู  ช่วยอุ้มข้าเอาไว้ที "

 

" หือ?  แล้วทำไมชั้นต้องอุ้มนายเอาไว้ด้วยล่ะ "  เรนะถามนัวร์ด้วยความสงสัย

 

" เอ๋า  ที่ข้าเรียกเจ้าออกมาก็เพื่อช่วยงาน  แล้วข้าก็บอกเจ้าไปตั้งแต่แรกแล้วว่าข้าเดินไม่ได้  เจ้าคิดว่าข้าเรียกเจ้ามายืนบนเวทีเพื่ออวดเรือนร่างของเจ้ารึไงล่ะ  อีกอย่าง  เรือนร่างของเจ้าก็ไม่ได้มีอะไรน่าอวดขนาดนั้นด้วย  จริงไหมสาวน้อย? "

 

เรนะหน้าแดงเป็นลูกตำลึงเมื่อถูกนัวร์พูดกระทบจิตใจอย่างแรง  จริงอยู่ที่รูปร่างของเรนะไม่ได้ดีเลิศอย่างที่นัวร์ว่า  แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องจะเอามาพูดต่อหน้าประชาชนซะหน่อย  เรนะรีบเอื้อมมือคว้าร่างของนัวร์มาอุ้มไว้ในท่ากอดตุ๊กตาโดยใช้มือทั้งสองโอบนัวร์ไว้หน้าอกในทันที  แล้วพยายามทำใจให้สงบเรียกสติสตังกลับมา

 

" เอ่อ..  ข้าก็ดีใจนะที่เจ้ากอดข้าซะแนบแน่นแบบนี้  แต่ถ้าจะให้ดี  ขอให้อุ้มอีกแบบเถอะ  หน้าอกเจ้ามันชนหลังข้ารู้ไหม? "

 

เรนะอ้าปากค้างกับคำพูดของนัวร์  หน้าเรนะแดงเรืองๆขึ้นอีกครั้ง  มันไม่บ่อยนักที่จะมีคนทำให้หน้าเธอแดงขึ้นทีสองทีหรือทำให้เธออาย  แต่นี่มันเป็นครั้งแรกในชีวิตที่เธอรู้สึกเหมือนตุ๊กตากลั่นแกล้งเอาด้วยซ้ำ  แถมเธอไม่เคยเล่นตุ๊กตาเลยตั้งแต่เกิดมา  แล้วเธอจะไปรู้จักวิธีอุ้มแบบที่ว่าได้ยังไง

 

" เอาแขนซ้ายรองเอาไว้  แล้วให้นัวร์นั่งตรงแขนจ้า "

 

มีเสียงกระซิบของหญิงสาวคนหนึ่งดังแว่วมาจากด้านหลัง  เรนะรีบหันกลับไปมองด้วยความสงสัยก็พบเข้ากับรอยยิ้มของหญิงสาวผู้มีชื่อว่ามายุที่ยืนอยู่ด้านหลังเธอไปอีกจนเกือบสุดเวที  ซึ่งเรนะก็ยอมทำตามคำแนะนำของเธอแต่โดยดี 

 

" ฮ่า   ใช่ๆ  แบบนี้แหละๆ  แขนใหญ่ๆของเจ้านี่นั่งสบายจัง "

 

ท่าทางนัวร์จะพออกพอใจมากเมื่อดูจากท่าทางและคำพูด  สำหรับเรนะถือเป็นเรื่องดีขึ้นมาสักหน่อย  เผื่อจะลดความปากเสียไร้มารยาทของเจ้าหุ่นตัวนี้ที่มีต่อเธอได้บ้าง  แล้วเมื่อนัวร์ได้ที่นั่งที่พอใจเรียบร้อยแล้ว  เขาก็ใช้เรนะไปหยิบเอาหนังสือเล่มหนึ่งมาให้กับเขา

 

" หนังสือเล่มนี้เป็นบันทึกของข้า  ข้าใช้มันบันทึกสิ่งต่างๆที่เคยประสบพบเจอเอาไว้  สำหรับพวกเจ้าทั้งหลายคงจะเรียกมันว่าไดอารี่ล่ะมั้ง "

 

" แล้ววันนี้   ข้าจะใช้หนังสือเล่มนี้ล่ะ  เล่าเรื่องราวให้พวกเจ้าฟัง  ผ่านปากของผู้ช่วยของข้า "

 

นัวร์กระแอมออกมาเบาๆหนึ่งครั้งเป็นสัญญาณ  ก่อนที่เสียงดนตรีบรรเลงจะดังขึ้นเพื่อเปิดม่านการแสดงที่แท้จริง เรนะเดินถอยร่นออกไปด้านข้างเพื่อไม่ให้ตัวเองกีดขวางทางเดิน  หนังสือในหน้าแรกเปิดออกตามคำสั่งของนัวร์   แล้วเธอก็เริ่มเล่าเรื่องราวที่ถูกเขียนอยู่ในสมุดบันทึกเล่มนั้นช้าๆ

 

" กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว   เมื่อครั้งเหล่าทวยเทพยังคงคงอาศัยอยู่ในโลกหล้านั้น ยังคงมีดินแดนแห่งหนึ่งที่เหล่าทวยเทพเอื้อมมือไปไม่ถึง "

 

ฉากหลังที่ถูกวาดลวกๆบนแผ่นไม้กระดานหลายชิ้น  ค่อยๆเลื่อนลงมาจากด้านบนซึ่งมีม่านบนเวทีช่วยบดบังสายตาผู้ชมเอาไว้อีกที  มันเป็นฉากของวังเล็กๆ  และที่ฉากอันนั้นเรนะสังเกตเห็นตุ๊กตาอีกตัวหนึ่งที่มีขนาดเล็กกว่านัวร์โข   ความสูงราวๆหนึ่งฟุตนอนหงายอยู่ข้างบน  แต่ผู้ชมคงไม่เห็นมันหรอกเพราะมีฉากอันอื่นๆบังเอาไว้อยู่

 

" ที่ซึ่งกษัตริย์เปี่ยมไปด้วยทศพิศราชธรรม  กษัตริย์ผู้ปกครองเหล่าผู้คนใต้อาณัติอย่างเป็นธรรม   "

 

เมื่อเล่าถึงตรงนี้  ตุ๊กตาตัวนั้นที่นอนอยู่ในตอนแรกกลับลุกขึ้นยืนแล้วโบกมือให้กับผู้ชมที่อยู่บนเวที  สร้างความตกใจให้กับเรนะเป็นอันมาก  เท่าที่เธอเห็น  เธอรับรองว่าไม่มีใครกำลังขยับตุ๊กตาหรือใช้ไม้เชิดเอาไว้แน่ๆ  แต่ในขณะที่เธอกำลังตกใจ  นัวร์ก็สะกิดเรนะให้หายแตกตื่น  เรนะจึงเริ่มเล่าเรื่องต่อไปทั้งๆที่ความสงสัยยังคงค้างอยู่ในใจ

 

" ประชาชนทั่วทั้งอาณาจักรต่างศรัทธาและสรรเสริญกษัตริย์ของพวกเขาราวกับเป็นเทพเจ้ากลับชาติมาเกิด  เหล่าเทพทั้งหลายต่างไม่พอใจในคำสรรเสริญนั้น  พวกเขาจึงช่วยกันวางแผนโค่นล้มกษัตริย์องค์นั้น  ด้วยการส่งมังกรตัวใหญ่ถึงสามตัวเข้ามาก่อกวนอาณาจักร "

 

ตุ๊กตามังกรสีแดง  ดำ  เขียว  บินว่อนลงมาจากอีกด้านของฉากอย่างช้าๆ  มันบินลงมาถึงพื้นด้านล่างแล้วทำท่าขยับไปมาเหมือนกำลังก่อกวนบ้านเมืองอยู่จริงๆ   ตุ๊กตาตัวอื่นๆที่เหมือนจะได้รับบทให้เป็นประชาชนต่างก็หนีบ้างสู้บ้างราวกับมีชีวิต

 

เหมือนกับว่า…  มันเคลื่อนไหวด้วยความต้องการของตัวมันเอง !!

 

เรื่องเล่าของนัวร์ยังคงดำเนินต่อเนื่องไปเรื่อยๆผ่านปากของเรนะ  แต่ทุกครั้งที่เรนะเล่าแล้วมองภาพตรงหน้า  เธอต้องรู้สึกทึ่งในสิ่งที่เกิดขึ้นไปตลอดเรื่อง  แม้จะมีการสอดแทรกสิ่งที่ทำให้ผู้ชมได้หัวเราะบ้างจากคำพูดของนัวร์  แต่เนื้อแท้ของละครบทนี้มันคือการแสดงของหุ่นไร้ชีวิตที่อยู่ตรงหน้าของเธอ   ที่สามารถเคลื่อนไหวราวกับกำลังอยู่ในเรื่องราวนั้นจริงๆ

 

ไม่เพียงแค่เรนะเท่านั้นที่รู้สึกทึ่งกับการแสดงตรงหน้า  ผู้ชมทั่วไปต่างก็ชอบใจและรู้สึกเหมือนกับเธอ  การแสดงของเหล่านักแสดงตัวน้อยยังคงดำเนินไปเรื่อยๆจนกระทั่งสิ้นสุดการแสดง  เหล่าผู้ชมทั้งเวทีต่างปรบมือให้กับพวกเขาไม่ขาดสาย  เช่นเดียวกับเหล่าตุ๊กตาที่น้อมรับเสียงปรบมือและคำชมด้วยการยืนเรียงแถวหน้ากระดานแล้วโค้งรับ

 

 

หึ! หึ! หึ !

 

" เป็นยังไงบ้าง  เรื่องเล่าของข้า  พวกเจ้าชอบกันบ้างรึปล่าว "  นัวร์ร้องถามผู้ชม  ซึ่งเสียงตอบรับนั้นดีมาก

 

" งั้นไว้คราวหน้า  ข้าจะมาเล่าเรื่องราวที่ข้าได้ประสบพบเจอมาให้พวกเจ้าได้ฟังอีกครั้ง  สำหรับครั้งนี้  ข้ากับหนูน้อยคนนี้คงต้องขอตัวลาเพียงเท่านี้   "

 

ในที่สุด  การแสดงอันน่ามหัศจรรย์ก็ปิดม่านลง  พร้อมๆกับเหล่าตุ๊กตาทั้งหลายที่พากันเดินเรียงแถวเป็นระเบียบเรียบร้อยก่อนที่พวกมันจะลงไปนอนแอ้งแม้งอยู่ในกล่องของตัวเองทีละตัวๆจนหมด  รวมถึงนัวร์ที่กระโดดลงจากแขนของเรนะเพื่อกลับไปนอนในกล่องของตัวเองบ้าง

 

" เก่งมากจ้า  ขอบคุณมาเลยนะจ้าเรนะจังที่ยอมมาช่วย "  หญิงสาวที่ยืนอยู่ด้านหลังกล่าวคำชมเชยให้เรนะ ที่จริงถ้าเป็นไปได้เธอก็อยากจะปรบมือให้เป็นของแถมเหมือนกัน

 

" ไม่เห็นต้องชมเลยค่ะคุณมายุ  ยังไงชั้นก็ไม่ได้ทำอะไรอยู่แล้ว  นอกจากเล่านิทานที่เขียนไว้ในหนังสือ "

 

" แหมๆถ่อมตัวจังเลยนะจ้า  "

 

แม้มายุจะบอกว่าเรนะถ่อมตัว  แต่ตัวเรนะนั้นย่อมรู้ดีกว่าใครๆอยู่แล้ว  ว่าที่เธอพูดมาไม่ใช่คำโกหก  ความจริงละครครั้งนี้ไม่จำเป็นต้องให้เธอขึ้นไปมายืนเล่าเรื่องบนเวทีก็ได้  ยังไงหุ่นทุกตัวก็ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวเป็นเรื่องราวที่เข้าใจง่ายอยู่แล้ว  เพียงแต่ยังคงมีบางอย่างที่เรนะยังสงสัยอยู่  แล้วมันก็ค้างอยู่ในใจเธอมาตั้งแต่เริ่มแสดงด้วย

 

เมื่อตอนนี้เวทีปิดม่านไปแล้ว  แล้วอีกอย่างตอนนี้เรนะก็ไม่ได้ทำอะไรนอกจากยืนเฉยๆ  เธอจึงพยายามส่งสายตาเมียงมองดูเหล่าตุ๊กตาทั้งหลายที่นอนอยู่ในกล่อง  เรนะพยายามเอื้อมมือไปหยิบตุ๊กตาตัวหนึ่งขึ้นมาดูให้แน่ใน  แต่...

 

 

เดี๋ยว !!?  อย่าจับมันนะ!!

 

เรนะสะดุ้งเพราะเสียงตะคอกของฮิโยที่เพิ่งเข้ามาหลังเวที  เธอรีบชักมือกลับด้วยความตกใจพลางหันหน้ามองฮิโยอาจารย์ที่ปรึกษาด้วยความสงสัย

 

" ...ทำไม.. เหรอค่ะ? "  เรนะถาม

 

" ออกมายืนตรงนี้ก่อน  "

 

" !? "

 

แม้จะสงสัยในคำพูดของฮิโย  แต่เรนะก็ยอมเดินออกมายืนห่างๆแต่โดยดี  ยูกิกอดแขนเรนะเอาไว้แน่นพลางส่งยิ้มให้เรนะเหมือนปกติที่เคยเป็น

 

" ทำไมต้องออกมาตรงนี้ด้วยล่ะ ? "  เรนะหันไปถามยูกิที่กอดแขนเธออยู่  เพราะดูท่าทางเธอคงไม่ได้คำตอบจากฮิโยเป็นแน่

 

" เพราะการแสดงยังไม่จบน่ะ  เรนะจัง "

 

" ยังไม่จบ ? "

 

" เดี๋ยวเรนะจังก็เข้าใจเองล่ะ  ตอนนี้เรนะจังดูคุณมายุเอาไว้อย่ากระพริบตานะ "

 

ยูกิบอกกับเรนะ  ก่อนที่ภาพที่จะเกิดขึ้นตรงหน้าในนาทีถัดไปจะทำให้เรนะต้องตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้นอีกครั้ง

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
3.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
3.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
4.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา