I'm not your playmate : กูไม่ใช่เพื่อนเล่นมึงครับ!

8.4

เขียนโดย Master

วันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2555 เวลา 14.16 น.

  25 บท
  18 วิจารณ์
  55.04K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

23) 19 - Status (3)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

19

Status… สถานะ (3)

 

[Non’s]

 

~Rrrr~

 

เสียงโทรศัพท์ของไอ้เตี้ยดังขึ้นมา ในตอนที่มันเดินกลับเข้าไปด้านใน ผมหันไปมองอย่างอยากรู้ แล้วก็ได้เห็นว่าเก้าไม่ยอมรับโทรศัพท์พร้อมทำท่ากังวลอยู่แบบนั้น ถ้าให้ทาย ผมว่าคงเป็นไอ้คิงแหง ทำไมผมจะไม่รู้ว่าวันนี้คิงไปเที่ยวกับมิ้นท์ ไม่อย่างนั้น ผมคงไม่มีหน้าเสนอมาที่นี่อย่างแน่นอน

 

ผมเคยบอกมันแล้ว ว่าอย่าทำให้เก้าร้องไห้ แต่มันก็ทำตามสัญญาไม่ได้.... ถ้ามันอยากเห็นด้านร้ายๆของผมมากนัก ก็ได้! ผมจะจัดให้!

 

ผมแย่งเก้ากลับมาจากมันแน่ ถึงแม้ผมจะรู้ดีว่า ถึงทำแบบนั้นได้ เก้าที่อยู่กับก็มีแค่ตัว... เพราะหัวใจมัน ไม่เคยมีผม...

 

แต่ผมก็จะทำ...

 

“เก้า!”

 

“หะ?” มันหันตะโกนตอบผม แล้วก้มลงมองโทรศัพท์ด้วยความชั่งใจอีกครั้ง จะลังเลอะไรนักหนาว่ะ ไม่อยากรับก็กดวางแม่งไปสิ!

 

“คราวหน้า... ไปดูดาวกันนะ”

 

“เออดิ”

 

คำพูดสั้นๆที่ทำให้มันหันมายิ้มให้ผม และวางโทรศัพท์คืนไว้ที่เดิม... แค่นั้นก็มากพอแล้วที่จะทำให้ผมยิ้มออกมาได้

 

“สัญญาแล้วอย่าคืนคำนะมึง”

 

“เคยเห็นกูผิดสัญญา?”

 

“บ่อยไปสัด! ฮ่าๆๆๆ” ผมหัวเราะเพื่อที่จะให้อีกฝ่ายหัวเราะตาม แล้วมันก็ไม่ผิดหวัง เมื่อเก้าขำตามผมจริงๆซะด้วย มันเนี่ย เส้นตื้นชะมัด

 

“ว่าแต่คุณว่าที่หมอหมาครับ”

 

“มีแค่หมา ไม่มีหมอ เฮ้ย! มีแค่หมอ ไม่มีหมาเว้ย!!” ผมแกล้งแป้กใส่มัน แต่มันก็ยังขำอยู่ “พูดผิดมากๆ กูจะไปเป็นจริงรักษาพวกมึงนะสัด”

 

“เออน่า นิดๆหน่อยๆแอ๊งงง อ่อ ใช่ๆ ว่าแต่มึงจะค้างที่นี่จริง?”

 

“ถ้าหาก... อะนะ?”

 

“ถ้าหากอะไรวะ?”

 

...ก็ถ้าหากไอ้คิงไม่ตามมากระชากคอต่อยหน้ากูอ่ะนะ กูก็จะอยู่หรอก... คำพูดที่ผมคิดเอาไว้ แต่ไม่ได้บอกออกไป ผมทำแค่ส่ายหัวไปมาเท่านั้น

 

“โหย แค่นี้ก็ไม่บอก เวร” เก้าแอบบ่นนิดๆ

 

เก้ายืนหันหน้าออกระเบียง ผมแอบสังเกตเขาอยู่ด้านข้าง ไม่แปลกที่คนอื่นๆชอบมองว่ามันเป็นผู้หญิง หรือน่ารักก็ดูมันสิ ตัวก็เล็ก ผิวไม่ขาวไม่คล้ำ แต่ดูแข็งแรงอย่างกับคนสุขภาพดี (ทั้งๆที่มันก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่) รอยยิ้มที่มองเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อ ผมสีดำตัดสั้นเกรียนก็ไม่ทำให้หน้ามันจืดสักเท่าไหร่ ปากก็เล็กชมพู ตอนนี้มันใส่เสื้อยืดแขนกุดอีก เสื้อโปร่งทำให้มันดูตัวบางกว่าผู้หญิงซะอีก เห็นมั้ยละครับว่ามันน่ารักนาดไหน...

 

อืม... ว่าแต่ผมมายืนมองมันทำไมเนี่ย (นนท์แอบหื่นค่ะ : ไรท์)

 

“นนท์! นนท์!!”

 

“อะไร? ว่า?” ผมขยับแว่นเล็กน้อยแล้วมองมัน

 

“ท่าขยับแว่นแม่งเท่แสรดดด” เก้าอมลมแก้มป่อง “หล่อขึ้นเยอะแสรด กูอิจฉา”

 

“อารมณ์เปลี่ยนไวจริงมึง”

 

“ฮิ้ววว~ กู’รมณ์ดีไง ว่าแต่ อาทิตย์หน้าซ้อมกีฬาสีใช่ป่ะ?” เก้าเสยผมที่แทบจะไม่มีของมันไปด้านหลัง (แม่งมีอะไรให้เสยว่ะ?)

 

“อ่าฮะ” ปกติผมก็ไม่ค่อยจะมีเรื่องพูดอะไรกับใครอยู่แล้ว แถมมาอยู่กับมันสองคนผมแทบไม่มีเรื่องอะไรจะพูดมากกว่าเดิมอีก พอผมเงียบ เก้าก็เงียบ ไม่รู้จะตอ่ประโยคอะไรต่อไปดี

 

อุณหภูมิภายนอกเย็นกาย แต่ผมน่ะร้อนใจ... ผมเบือนหน้าหนี ไม่มองเก้าที่กำลังยิ้มรับลม พอเห็นมันมีความสุขผมก็ดีใจ แต่ไม่นานผมก็ลากมันเข้ามาในห้องอีกครั้ง

 

“’ไรอ่า ขอยืนอีกแปบเด้” มันประท้วง

 

“เปิดแอร์ดิสัด” ผมโยกหัวมันเล่น “อยู่ด้านนอกน้ำค้างลงเดี๋ยวไม่สบาย”

 

“มันเปลืองค่าไฟ”

 

“ทำอย่างกับมึงไม่อยากเปิด”

 

“เปิดสิ!” มันรีบเถืองแล้วเปิดทันที

 

อย่าถามนะครับว่าแล้วตลอดมาที่ปิดห้องอยู่นี่ไม่เปิดแอร์?

 

แหม~ พวกผมก็แค่เด็กมัธยมตัวเล็กกว่าควายนิดเดียวเองครับ จะผลาญเงินของพ่อแม่มากก็กระไรอยู่ เปิดพัดลม หรือเครื่องปรับอากาศตัวเล็กไปพลางๆก็ไม่ได้อะไรมากแล้วล่ะครับ ให้เปิดแอร์ตัวใหญ่ทั้งวันทั้งคืนก็กระไรอยู่ ใช่ไหมละ?

 

ก็ขนาดตอนผมอยู่บ้านผมยังแทบไม่เปิดแอร์เลยครับ ถ้าไม่ร้อนสุดๆผมก็แทบจะไม่เปิด บางคืน ถ้าอากาศเย็นหน่อย ผมก็เปิดหน้าต่างรับลมกับเปิดพัดลมแทน เพราะนอกจากแอร์มันจะทำให้โลกร้อนแล้ว ยังเปลืองตังค์ค่าไฟอีก ถึงพ่อผมจะรวยขนาดไหน แต่ผมเป็นคนดีที่รักโลกครับ! นี่ถ้าไม่มีผม โลกร้อนไปแล้วนะ (เกี่ยวเหอะ?)

 

ออกไปไกลกันมาเกินไปล่ะ ผมจะมานั่งเล่าเรื่องของตัวเองไปเพื่ออะไรกันน่ะ? แต่ผมคิดอย่างนั้นจริงๆนะ คนเราสมัยนี่ เอะอะก็เปิดแอร์ๆ แหม ทีพวกที่อยู่ในทะเลทราย หรือถิ่นทุรกันดารยังไม่ค่อยเปิดเลยเหอะ เขาก็อยู่กันได้ แล้วพวกคุณน่ะยังดีกว่าพวกเขาตั้งเยอะ! (ไหนบอกว่าพอไง? เหออออ...)

 

“นนท์” โอเค... ผมเหม่อออกทะเลไปหน่อย เลยไม่ได้ยินเสียงไอ้เก้าครับ

 

“อะไรเหรอ?”

 

“กูอาบน้ำได้ยัง?” มันถาม

 

“ยัง ห้ามเลยๆๆ เดี๋ยวกูอาบน้ำแล้วเช็ดตัวมึงให้”

 

“งั้นมึงไปอาบน้ำได้แล้วไป”

 

“เออ ได้ๆ” ผมพยักหน้า แล้วผมก็นึกออก คือในกระเป๋าเป้ผมไม่มีชุดนะครับ ไม่ได้ตั้งใจจะมาค้าง มีแค่หนังสือ แล้วผมตัวใหญ่กว่ามันตั้งเยอะ จะให้ผมไปหาชุดมาจากไหนล่ะ?

 

เปิดประตูตู้เสื้อผ้ามัน เผื่อมันจะมีชุดตัวใหญ่ๆบ้าง แต่ผมก็ต้องยืนนิ่งอีกครั้ง ชุดนอนตัวใหญ่อย่างนี้ไม่ใช่ของใครแน่ ของคิงแหงๆ

 

หืม? ทำไม ผมถึงรู้นะเหรอ ก็ถ้าเทียบกัน เก้าตัวเล็กสุดในกลุ่ม แล้วก็ค่อยเป็นฟอร์ด หนังกับกายตัวพอๆกัน จีนกับนะก็แทบจะตัวไม่ต่างจากผม ผมอาจตัว... เล็ก(?)กว่านิดนึง แล้วก็คิงที่สูงชะลูด แม่มสูงเป็นเสาไฟไปไหน?

 

พอผมเห็นชุดมันแล้วก็เกิดหงุดหงิด ตกลงว่า... เอาชุดไอ้คิงใส่แม่ม!

 

“เก้า! กูใช้ชุดไอ้คิงนะเว้ย”

 

“ใช้ๆแม่งไปเถอะ ซื้อคืนแม่งด้วยล่ะกัน ฮ่าๆๆๆ”

 

ปกติคิงมันถือตัว ของมันก็คือของมัน ไม่ชอบความสกปรกครับ ข้าวของมันพอมีใครใช้ร่วมแม่งมักจะอารมณ์เสียอยู่เสมอ... แต่ใครจะสนล่ะ จริงมั้ย?

 

 

ก๊อกๆๆ!

 

สงสัยคงไม่มีโอกาสให้ผมได้ซื้อเสื้อผ้าชดใช้มันแล้วแหละ เชื่อเถอะว่าคนที่กล้ามาพังประตูรบกวนชาวบ้านมีแค่ไอ้คิงคนเดียวเท่านั้นแหละ

 

“ไปเปิดดิ”

 

“แต่...” เก้ามีสีหน้าลำบากใจ

 

“ไม่เป็นไรหรอกน่า คนที่มาก็...คิง ไม่ใช่เหรอ?” ผมยิ้มให้มัน

 

กล้ามเนื้อบนใบหน้าผมมันกระตุกเกร็งๆ เพราะผมยิ้มให้มันเสมอ ตอนนี้ผมเลยต้องยิ้มให้มันอีกครั้ง แม้ว่ามันจะฝืนใจแค่ไหนก็ตาม...

 

ถ้าตัวจริงมา ตัวสำรองอย่างผมก็คงต้องไป... สินะ?

 

“อืม”

 

เก้าที่มีเริ่มมีแรงกลับมาเป็นปกติก็เดินไปเปิดเอง ผมก็ปิดประตูตู้แล้วเก็บของลงเป้ที่ไม่รู้จะเอามาทำไมเหมือนกัน ผมอยากจะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นประโยคสนทนาของพวกมันที่ดังตรงห้องนั่งเล่น แต่เพราะประตูที่เปิดอ้าเอาไว้ ไม่ว่ายังไงผมก็คงต้องได้ยินอยู่ดี ตาไม่ดู หูรับฟัง หัวใจก็เจ็บปวดตาม... ผมอยากเป็นพระเอกของมันบ้าง แต่ท่าทางว่าผมคงมาช้าไปในทุกเรื่องซะแล้วจริงๆ...

 

“มึงอยู่กับนนท์ใช่ไหม?”


“ก็เอออ่ะดิ ทำไม? แล้วมึงรู้ได้ไง?”

 

“เฟซมึงบอกชัดแจ้งอยู่นั่น ทำไมกูจะไม่รู้” เออ แสดงว่าแม่งไม่โง่ครับ ผมก็พยายามเก็บนู่น ทำนี่ พับผ้าห่ม เก็บของห้องมันต่อไปเรื่อยๆ

 

“แล้วแม่งอยู่ไหน?”

 

“ในห้อง” ซื่อฉิบ ไปบอกเขาทำไมล่ะมึง

 

เสียงเดินดังใกล้เข้ามาทำให้ผมรู้ว่าแม่งมาอยู่ที่ด้านหน้าผมแล้ว แต่หูผมดีครับ ไม่มีทางที่มันจะเข้ามาใกล้โดยที่ผมไม่รู้ตัวแล้วแอบต่อยผมได้หรอก ผมสู้คนเป็นนะเว้ย

 

“เชี่ยนนท์ ไหนว่ามึงกับกูสัญญากันแล้ว”

 

“ก็มึง...เป็นคนที่ไม่รักษาสัญญาก่อนไม่ใช่เหรอ” ผมตอบมันกลับ จ้องตามัน เก้าที่ยืนอยู่ด้านหลังก็ดูงงงวย

 

“...” มันเงียบ มันเองก็รู้ตัวดีว่าตัวเองผิด มันผิดที่ไปมีมิ้นท์ก่อน แล้วผมยังต้องเป็นพระรองที่ดีอีกหรือไง?

 

“หรือมึงอยากได้โอกาสอีกสักครั้ง?” ผมยิ้มเย้ย “ถ้ามึงอยากได้โอกาสแบบนั้น แล้วมึงเคยรู้เหี้ยอะไรบ้าง หา มึงเคยรู้เชี่ยอะไรบ้าง?!”

 

“...” มันมองผม ผมก็จ้องมัน

 

“มึงมีมิ้นท์ แล้วมึงเคยมองคนรอบข้างบ้างป่ะ?!” ใช่... มึงมีมิ้นท์ มีเก้า แล้วกูเคยมีใครบ้างมั้ย? กูก็แค่อยากมีใครสักคนบ้าง! ทั้งอย่างนั้น คนที่มีคนมากมายอยู่ด้านข้างน่ะ เคยให้ความสำคัญกับคนพวกนั้นบ้างมั้ย! เชี่ยเอ๊ย!

 

“มึง...”

 

“มึงเคยรู้จักบ้างมั้ย... การทำเพื่อใครสักคนน่ะ...”

 

ผมจ้องมัน อยากจะรู้ว่าตามันจะสื่ออะไรออกมาบ้าง เพราะเคยมีคนบอกต่อๆกันไว้ ว่าดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ คิดอะไรก็มักจะออกมาทางแววตา ผมอยากรู้... ว่าตอนนี้มันคิดยังไง

 

“...” คิงก้มหน้านิ่ง สาบานเถอะว่าผมไม่ได้พูดแรงเกินไป

 

“วันนี้เก้าไม่สบาย... ไม่สบายมาก ไม่มีแรงลุกขึ้น ไม่มีแรงรับโทรศัพท์ และแม่งคงจะตายอยู่ในห้อง ถ้าไม่มีอะไรดลใจให้กูมาหามัน ไข้ขึ้นสูงจนถ้ามาดูแลไม่ทัน แม่งอาจจะช็อคตาย แล้วมึงล่ะ? มึงไปเที่ยวเล่นอยู่ที่ไหน? ไปกับมิ้นท์ ไปเที่ยวกับแฟน แล้วมึงเคยสนใจคนที่มึงหวงอยู่ตอนนี้บ้างมั้ย!” ผมตวาดใส่มัน “มึงก็แค่หมาหวงก้างเท่านั้นแหละ สัด!!”

 

ผลั่ก!!

 

ไม่ว่าเปล่า ผมเดินเข้าไปชกมันหนึ่งมัด เลือดแม่งกลบปากเลย คิงไม่ตอบโต้อะไร มันยืนอยู่ที่เดิม ก้มหน้านิ่ง ไม่พูดไม่จา ผมคิดว่ามันคงจะสำนึกได้เรื่องที่ผมพูดออกไป แล้วก็ที่ใส่อารมณ์กับเก้าไปก่อนเจอผม ส่วนตัวเก้านั้นดูจะตกใจเล็กๆที่ผมระเบิดอารมณ์ออกไป

 

“ขอโทษ...” คำพูดนี่ ไม่ใช่แค่กับคิง สายตาผมจ้องมองไปที่คนด้านหลังด้วย

 

กูขอโทษ... เก้า

 

“กูกลับล่ะ...”

 

“เดี๋ยว...” คิงมันเรียกผมไว้ และ...

 

ผลั่ก!!

 

มันต่อยจนผมเซไปข้างหนึ่ง ดีนะที่ไม่มีเลือด ท่าทางมันจะออมมือเอาไว้กลัวผมเจ็บ ผมเงยหน้าขึ้นมามองกัน คิงที่กำลังกดเลือดที่มุมปากเอาไว้ กับเก้าที่สะดุ้งตกใจ ทำหน้าอย่างกับว่า ‘ต่อไปห้องมันจะเป็นสมรภูมิรบในอีกสองนาทีข้างหน้าหรือเปล่า?’

 

“ขอบคุณ”

 

“เออ”

 

ผู้ชายก็อย่างนี้แหละครับ แลกกันต่อยคนละหมัดก็เข้าใจกันได้ เขาเรียกว่าสื่อสารกันทางหมัดแบบลูกผู้ชายน่ะครับ พวกผมไม่ต้องพูดอะไรกันมากมายก็เข้าใจกันได้แล้ว

 

ผมหวังว่าเก้ากับคิงก็จะปรับความเข้าใจดีๆกันได้แล้ว แม้จะแลกมากับการเจ็บตัวของมือที่สามอย่างผมก็ตาม... ผมสะพานเป้ด้วยไหล่ข้างเดียว แล้วเดินผ่านออกไป

 

ถ้าผมไม่ทำแบบนี้ ตอนคิงเข้ามาอารมณ์เดือดๆ ผมเชื่อว่าเก้าก็คงโดนมันด่า เป็นที่รองรับอารมณ์มันอยู่ดี ผมทำแบบนี้น่ะดีแล้ว... ผมคิดและฝืนยิ้มอยู่ในใจ

 

สุดท้ายผมก็เป็นแค่พระรองสินะ...

 

... คิดแล้วสมเพชตัวเองจริงๆ

 

 

 

:: Talk ::

 

จบบทนี้แว้ววว! โคตรเหนื่อยคะ ><

ตอนนี้มายเฟลหลายเรื่องมาก ถ้ามันออกมาแปลกๆ หรือไม่พอใจใครตรงไหนก็ขอโทษนะคะ

มายยังแต่งไม่ค่อยดีเท่าไหร่ T^T ส่วนฉากเซอร์วิสอะไรแบบนั้น มายก็ยังเด็กเน๊าะ หายากนิดนึงแหะๆ

คู่ไหนที่ขอมาก็รอเร็วๆนี้เน้อ เดี๋ยวมีให้แน่นอน =w= มีให้คิดคู่ให้นนท์ไว้บ้าง (ฮา) บอกไรท์ได้นะ แต่ไรท์มีคู่ให้นนท์แล้ววววว 55555

ฝากขอโทษไว้ตรงนี้เลยก็แล้วกัน //กราบ //ตอนนี้ดราม่าเฟลๆไปก่อน ฮืออออ~

เจอกันตอนหน้า ฝากเม้นท์ด้วยค่าาา~

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.3 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา