RAUSANNE แทนใจรักในใจเธอ

9.3

เขียนโดย signorina

วันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2556 เวลา 09.37 น.

  25 ตอน
  0 วิจารณ์
  25.15K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 26 มีนาคม พ.ศ. 2556 12.54 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) วันที่ยากลำบาก

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

3

~ วันที่ยากลำบาก ~

 

            บ้านวิลเลอรี่

 

            ที่โต๊ะอาหาร โคลกำลังสนทนากับแคทธรินอย่างออกรส ขณะที่แอลลิเซ่นกำลังช่วยแม่ของเธอเตรียมอาหารในครัว และเตรียมยกออกมาตั้งโต๊ะ

            “อื้มม แอลลี่ ลุงว่าคราวนี้คงต้องรบกวนหนูกับแม่ ช่วยอบรมยัยแคทเรื่องในครัวบ้างแล้วหละ” เขาพูดแล้วหันไปใช้สายตาประเมินลูกสาว แล้วพยักหน้าเห็นด้วยกับตัวเอง

            “โถ่... พ่อคะ”  แคทธรินค้อนใส่เขาทีหนึ่ง

            แอลลิเซ่นยิ้มให้แคทธริน แล้วหันกลับมาทางโคล

            “ความจริงแล้วหนูเองก็เป็นผู้ช่วยแม่ครัวนะคะคุณลุง ทำเองทีไรห้องครัวเละทุกที แต่ถ้าแคทเข้าครัวจริงๆ ละก็ ต้องทำได้ดีแน่ๆ ค่ะ” เธอกวาดตามอง แคทธรินยังยิ้มอยู่

            แล้วก็มีเสียงมาจากข้างหลังแว่วๆ ว่า

            “จริงๆ นะ ยัยแคทเก่งไปเสียทุกอย่าง ผลการเรียนเป็นที่หนึ่งของโรงเรียน เป็นประธานนักเรียน ไหนจะเป็นหัวหน้าทีมเชียร์ลีดเดอร์ของโรงเรียนด้วย เอ้ะ… ยังมีอะไรที่ฉันไม่ได้พูดถึงอีกคะโคล”

            แอนนาว่า แล้วหันไปทางสามี

            “พอแล้วๆ เดี๋ยวยัยแคทก็อิ่มอกอิ่มใจ จนไม่ทานอาหารกันพอดี เอ้า ทุกคนมานั่งประจำที่ มื้อค่ำเริ่มต้นแล้ว” จบบทสนทนาชั่วคราว !

 

            ขณะที่กำลังทานอาหารอยู่นี้ แอลลิเซ่นมองโคลแล้วก็หวนคิดถึงพ่อของเธอ… ริช  ซอว์เยอร์ ผู้ซึ่งเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุในระหว่างปฏิบัติหน้าที่เป็นวิศวกรเครื่องกล เมื่อประมาณ 5 ปีที่แล้ว พ่อของเธอเป็นผู้ชายที่ใจดี ทำงานหนักและรักครอบครัว เขามักจะหาเรื่องเล่าตลกๆ มาเล่าให้เธอฟัง ในระหว่างที่รออาหารจากครัวของแม่ พ่อลูกจะหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน…

 

            เมื่อทานอาหารค่ำเสร็จแล้ว ทุกคนก็มานั่งดูโทรทัศน์กันที่ห้องนั่งเล่น โคลก็พูดขึ้น

            “อ้อ แอลลี่ ลุงไปจัดการเรื่องโรงเรียนให้หนูแล้วนะ โรงเรียนมัธยมเซนต์ฮาโมนี่ อยู่ไม่ไกลจากเฮกซ์เตอร์ไฮสคูลเท่าไหร่ หนูจะได้นั่งรถไปเรียนพร้อมแคทได้… ใช่มั้ยลูก”

            โคลพูดพร้อมหันไปถามแคทธริน

            “อ๋อ ใช่ๆ เราออกไปเรียนพร้อมกันได้นี่ ฉันแวะส่งเธอที่เซนต์ฮาโมนี่ก่อน สบายมาก !” แคทธรินยิ้มให้เธอแบบนั้นอีกแล้ว… เธอขนลุกเกรียว แต่ก็รีบสลัดความคิดนั้นออกไป เธออาจจะคิดมากไปเองก็ได้

            “ค่ะ ยังไงก็ได้” เธอตอบ

           

            หลังจากบทสนทนาของครอบครัวจบลง ทุกคนก็แยกย้ายกันกลับห้องของตัวเอง แอลลิเซ่นปิดประตูห้อง หย่อนกายลงนั่งที่โต๊ะเขียนหนังสือ เปิดโคมไฟ แล้วหยิบสมุดขึ้นมาเล่มหนึ่ง เธอบรรจงเขียนชื่อของตัวเองลงที่มุมล่างขวาของสมุดเล่มนั้น พร้อมวาดรอยยิ้มหลังชื่อ

            ALLICENNE : )

            แล้วเธอก็คิดอะไรเรื่อยเปื่อย

 

            บรรยากาศในครอบครัวใหม่เป็นไปด้วยดี แอลลิเซ่นรู้สึกดีที่เห็นแม่ของเธอมีความสุข และเธอเองก็รู้สึกอุ่นใจที่ได้มาอยู่ร่วมกับครอบครัวดีๆ แบบนี้ เธอกับแคทธรินเข้ากันได้ดี แคทธรินก็สนิทสนมกับแม่ของเธอดี ส่วนโคลเองก็เอ็นดูเธอเหมือนลูกสาวอีกคนหนึ่ง ไม่มีอะไรที่วิเศษไปกว่านี้อีกแล้ว เธอคิด !

 

            แต่… พรุ่งนี้แล้วสินะ พรุ่งนี้และวันต่อๆ ไป จะเป็นวันที่ยากลำบากสำหรับเธอ แอลลิเซ่นเกลียดการเปลี่ยนแปลงในชีวิต การเปลี่ยนวิถีชีวิตใหม่ ในสถานที่ใหม่ สังคมใหม่ มันหมายถึงการที่เธอต้องคอยปรับตัวให้เข้ากับสิ่งใหม่ๆ เหล่านั้น และพรุ่งนี้จะเป็นวันที่เธอต้องรับมือกับคนแปลกหน้าอีกมาก โอ้ย... ให้ตายสิ ฉันนี่มันเป็นคนที่พูดไม่เก่งเอาเสียเลย แล้วยังเข้ากับคนวัยเดียวกันไม่ค่อยดีนัก พรุ่งนี้คงไม่มีใครอยากเข้าใกล้ฉันเป็นแน่ เธอคิด !!

 

            เช้าวันใหม่มาถึงแล้ว

            เช้านี้อากาศหนาวกำลังดี แคทธรินอารมณ์ดีเป็นพิเศษเพราะต่อจากนี้เธอจะมีเพื่อนร่วมเดินทางไปเรียนด้วยกัน เธอแต่งตัวเสร็จแล้วเดินมาเคาะประตูห้องแอลลิเซ่น

            ก๊อก ก๊อก ก๊อก…

            “แม่เหรอคะ เข้ามาเลย หนูใกล้จะเสร็จแล้ว” แอลลิเซ่นว่า

            ประตูเปิดแล้ว แต่เบื้องหลังยังคงเงียบ แอลลิเซ่นจึงมองผ่านกระจก

            แคทธริน นั่นเอง

 

            เธอกระแอมเสียงเบาก่อนพูดว่า “สวัสดียามเช้า ฉันเองจ้านักเรียนคนใหม่ ลงไปทานอาหารเช้ากันได้แล้ว เดี๋ยวสายนะ” แคทธรินยิ้มมุมปาก ถึงจะรู้สึกขนลุกแต่ดูยังไงก็น่ารักชะมัด แอลลิเซ่นคิด

 

            และก่อนที่สาวผมบลอนด์จะปิดประตูและลงไปข้างล่าง แอลลิเซ่นหันมายิ้มตอบแวบหนึ่ง แล้วเธอก็ต้องอึ้งเมื่อพบว่า… วันนี้แคทธรินม้วนผมสีบลอนด์ของเธอเป็นลอนใหญ่แล้วรวบทั้งหมดไว้อย่างหลวมๆ ติดกิ๊บผมตัวเล็กเป็นเพชรรูปตัวอักษร C11 เธอสวมเสื้อยืดแขนยาวสีฟ้าอ่อนเข้ากันพอดีกับสีตาของเธอ ผูกผ้าพันคอสีขาวสะอาดตาและเสื้อโค้ตตัวนอกสีครีมยาวถึงเข่า แอลลิเซ่นแอบอิจฉาเธอนิดๆ แล้วรีบสลัดความคิดนี้ออกไป

            วันนี้... วันแรกแห่งการเริ่มต้น คงจะเป็นการเริ่มต้นที่ไม่ดีแน่ ถ้าหากว่าใครซักคนในที่นี้  ไปเรียนสาย !

            แคทธรินขับรถปอร์เช่สีแดงสดเปิดประทุน !

 

            เธอเป็นคนที่ขับรถเร็วมาก แต่ราบเรียบไม่มีสะดุด ตลอดทางที่อยู่บนรถทั้งสองคนคุยกันอย่างออกรส มีช่วงหนึ่งที่รถจอดหยุดไฟแดงแอลลิเซ่นถือโอกาสถามแคทธรินถึงกิ๊บติดผมของเธอ เธอเล่าว่าเป็นของขวัญวันเกิดที่แม่เธอซื้อให้ตอนที่เธออายุ 11 ปี เลยเป็นที่มาของตัวย่อ C11… เนื้อหาสนทนาส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องทั่วไปที่สาวๆ คุยกัน เช่น เสื้อผ้า แฟชั่น กีฬา และเพื่อนชาย

            แอลลิเซ่นรู้สึกขายหน้ามากๆ ที่ต้องสารภาพว่าเธอไม่เคยคบเพื่อนชาย เอ่อ... แฟน มาก่อน แต่เธอรู้สึกได้ว่าแคทธรินจะต้องเป็นอะไรที่ตรงข้ามกับเธอโดยสิ้นเชิงแน่นอน อืม... ต้องเป็นอย่างนั้นแน่ๆ

            แล้วก็เป็นอย่างที่เธอคิดจริงๆ เมื่อตอนที่แคทธรินขับรถเข้าไปถึงลานกว้างหน้าโรงเรียนมัธยมเซนต์ฮาโมนี่

            แอลลิเซ่น เห็นแล้ว... ตอนนี้สายตาทุกคู่กำลังมองตรงมาแถวๆ นี้แต่เธอก็แน่ใจทันทีว่า คนเหล่านั้น ไม่ได้มองมาที่เธอ หากแต่เป็นสาวผมบลอนด์ตาสีฟ้าคนที่นั่งข้างเธอ

            แคทธริน นั่นเอง

            เสียงกระซิบดังอื้ออึงอยู่ในอากาศรอบๆ บริเวณนั้น

            “..เอ๊ะ นั่น แคทธริน วิลเลอรี่ ใช่มั้ย ดูสิ เธอมากับใครนะ..”

            “..ยัยบลอนด์ แคทธริน เนี่ยนะ มาที่นี่ โอ้วตาย ข่าวใหญ่แน่..”

            “..เฮ้ย พวก ดูนั่นเด่ะ วิลเลอรี่คนสวยของพวกเรา ดูใกล้ๆ สวยเป็นบ้าเลยหว่ะ..”  ชายคนนี้ดวงตาเบิกโพลงเมื่อเห็นแคทธริน

            “..เออ ไหนเข้าไปดูใกล้ๆ อีกหน่อยสิวะ..”

            แอลลิเซ่นกำลังก้าวเท้าลงจากรถ ขณะที่มีเด็กผู้หญิงสามคนเดินตรงมา หนึ่งในนั้นสายตามองที่เธอแวบหนึ่งจากนั้นก็หันไปหาแคทธรินแล้วยิ้ม      

            “ อ้าว พี่แคท เป็นไงคะ ไม่เจอกันตั้งนาน แล้ววันนี้ลมอะไรพัดพี่มาที่นี่ได้คะเนี่ย”

            “อ้าว เอมีลี่เองหรอ พี่มาส่งเพื่อนที่เรียนที่นี่จ้ะ แล้วนี่เธอย้ายมาเรียนที่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่กันจ้ะ พี่ไม่เห็นรู้เรื่องเลย”

            “อ๋อค่ะ ก็ย้ายมาซักพักแล้วละค่ะ เอ่อ ตอนนี้ฉันสายแล้วละค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ” เด็กสาวทำสีหน้าลุกลี้ลุกลน แล้วก้มมองนาฬิกา

            แคทธรินว่า “จ้า ไว้เจอกันใหม่”

            “เฮ้ แอลลี่ ขอให้สนุกกับวันนี้นะ ไปละ”

            แอลลิเซ่นหันไปยิ้มและพยักหน้าให้เธอเป็นการบอกลา

 

            เธอเดินมาตามทางเดินที่นักเรียนส่วนใหญ่กำลังมุ่งหน้าเดินไป เธอเป็นคนหนึ่งที่ไม่ถนัดเรื่องการสำรวจพื้นที่หรือจดจำเส้นทางเอาเสียเลย เช้านี้เธอต้องไปพบมิสซิสเบนเน็ตที่ฝ่ายกิจการนักศึกษา เพื่อรายงานตัวและรับตารางเรียนพร้อมเอกสารการเรียนและอื่นๆ

            เธอเดินมาเรื่อยๆ แล้วเห็นป้ายขนาดใหญ่… ฝ่ายกิจการนักศึกษา จึงหยุดเดิน แล้วทันใดนั้น ก็มีใครบางคนเดินมาชนเธอจากทางด้านหลัง

            พรึบบ !!

            “อุ้ย ขอโทษค่ะ ฉันไม่ทันมอง” หญิงสาวคนนั้นพึมพำ แล้วก้มลงเก็บหนังสือที่ทำตกพื้น        

            แอลลิเซ่นหันมาแล้วก้มลงช่วยเก็บของ เธอพิจารณาหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้า ผู้หญิงคนนี้เป็นชาวตะวันตกที่น่าจะมีเชื้อสายเอเชีย เป็นคนผิวขาว ผมดำยาวสลวยและดูท่าทางเป็นมิตร

            แอลลิเซ่น ยิ้มมุมปากให้ตอนที่ยื่นหนังสือคืนให้เธอ

            ทั้งสองลุกขึ้นยืน เธอคนนั้นหรี่ตาเล็กน้อย แล้วมองหน้าแอลลิเซ่นอย่างพิจารณาเช่นกัน จากนั้นก็ขมวดคิ้วแล้วถามว่า

            “อ้อ นักเรียนใหม่ที่เพิ่งย้ายมาใช่มั้ย ฉันชื่อ มี นะ..” เธอหยุดก้มดูนาฬิกาแล้วพูดต่อ

            “ตอนสิบโมง เธอ  เอ่อ... ไม่ใช่สิ เรามีเรียนวิชาภาษาอังกฤษกับมิสเตอร์เกลนนะ อ้อ นี่มารับเอกสารกับตารางเรียนใช่มั้ย งั้น... ไว้เจอกันตอนชั่วโมงภาษาอังกฤษนะ อย่าสายล่ะ มิสเตอร์เกลนเป็นคนที่กัดไม่ปล่อยนะ บาย” ผู้หญิงคนนี้ เอ่อ… มี พูดจบประโยคเดียวรวด ขยิบตาขวาให้เธอหนึ่งทีแล้วยิ้มให้ ก่อนจากไป

            เป็นรอยยิ้มที่น่ารักซุกซน

            แอลลิเซ่นยักไหล่ ถอนหายใจ และยิ้มกับตัวเองแบบขำๆ พลางคิดว่า อืม… วันนี้ก็เริ่มต้นได้ไม่เลว !

 

 

            เก้านาฬิกาสี่สิบห้านาที แอลลิเซ่นดูนาฬิกา หยิบตารางเรียนออกมาดู            อืม... ใช่ ชั่วโมงเรียนภาษาอังกฤษ เธอเดินไปเรื่อยๆ ถามทางคนนั้นคนนี้ แล้วก็มาหยุดอยู่หน้าห้องเรียน

            ทันทีที่เธอเดินเข้าไปในห้อง ทุกสายตาก็หันมามองเธอ แล้วก็ค่อยๆ หันกลับไปช้าๆ แน่นนอนว่าเด็กนักเรียนใหม่ย่อมเป็นหัวข้อซุบซิบประจำปีไปแล้วอย่างมิต้องสงสัย เธอกวาดตามองหา... มี แต่ก็ไม่พบเลยเดินเข้าไปหาที่นั่งที่ว่างอยู่

            อืม... มีที่นั่งว่างหลายที่ แต่เธอเลือกที่นั่งข้างในสุด ริมหน้าต่างและที่นั่งข้างหน้าเธอก็ว่างด้วย เป็นไปตามที่คิด

            เมื่อชั่วโมงเรียนเริ่มต้น มิสเตอร์เกลนก็เดินเข้ามา เขาเป็นคนรูปร่างเตี้ย ค่อนข้างอ้วนและมีพุง แต่ใบหน้าของเขา ดูเป็นคนใจดี เวลาที่เขายิ้ม แอลลิเซ่นไม่แน่ใจว่าเขาจะมองเห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้าได้ชัดเจนหรือเปล่า 

            เขาให้เธอออกมาแนะนำตัวเล็กน้อยตามระเบียบ ทันทีที่เธอเอ่ยชื่อตัวเองออกมา มิสเตอร์เกลนก็ตั้งข้อสังเกต ซึ่งเป็นข้อสังเกตที่ใครๆ มักจะสงสัยกันเสมอ ว่า

            “อาา... คุณซอว์เยอร์ ชื่อของคุณสะกดว่าอย่างไรหรือ ฟังดูเหมือนคุณจะออกเสียงว่า แอล - ลิ – เซ่น  เป็นคำภาษาอะไร หรือมีที่มาจากไหนพอจะบอกเราหน่อยได้มั้ย” เขาทำท่าครุ่นคิด

            เธอแอบถอนหายใจเบาๆ ก่อนตอบ “ค่ะ ชื่อหนูเขียนว่า A L L I C E N N E ที่ผันมาจากคำว่า  ALISON เป็นคำจากภาษาเยอรมันแบบเก่าค่ะ คือคุณพ่อหนูเป็นคนคิดชื่อนี้ขึ้นมาค่ะ ท่านนำชื่อคุณยาย  A L I C E และชื่อคุณแม่ A N N A มารวมกันนะค่ะ ”

            “อื้มม อย่างนี้นี่เอง โอเค ขอบคุณมาก” เขาผายมือให้เธอกลับเข้าไปนั่งที่ตามเดิม

            เธอยิ้ม แต่เป็นรอยยิ้มที่แสดงออกว่า เอือมระอาเต็มที

            เท่าที่จำความได้ เธอต้องคอยตอบคำถามเรื่องที่มาของชื่อๆ นี้มานับครั้งไม่ถ้วน

            แล้ววันนี้ วันที่น่าเบื่อก็สิ้นสุดลง

 

            แอลลิเซ่นเดินออกมายังลานจอดรถฝั่งประตูข้างโรงเรียน เมื่อตอนบ่ายช่วงพักทานของว่าง เธอโทรหาแคทธริน แต่แคทธรินไม่รับสาย เธอต้องการนัดให้แคทธรินมารับเธอที่ประตูฝั่งนี้ เหตุผลคือเธอไม่อยากตกเป็นเป้าสายตานับร้อยนับพันคู่อีกต่อไปแล้ว เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้เธอรู้สึกขนลุกอย่างบอกไม่ถูก

            เวลาผ่านไปสิบนาที ในระหว่างที่เธอกำลังดูกลุ่มนักเรียนที่ทยอยกันเดินออกมายังลานจอดรถ ก็มีสายเรียกเข้าจากแคทธริน เธอกดรับสายทันที

            “ฮัลโหล แคท ฉันเลิกเรียนแล้ว เธอล่ะอยู่ไหน”

            “เฮ้ แอลลี่ เธอรออีกซักสิบนาทีนะ ฉันกำลังประชุมสภานักเรียนจ้ะ แต่ก็ใกล้เสร็จแล้วละ เสร็จแล้วจะรีบไปด้วยความเร็วแสงเลย”

            “โอเค อ้อ... แคท ฉันจะรอแถวๆ ประตูด้านข้างโรงเรียนนะ ฝั่งที่มีป้ายรถประจำทางอยู่นะ”

            “โอเค ตามนั้นเลย”

            แล้วทั้งคู่ก็วางสาย

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา