Decisive wars สู่จุดเริ่มต้นของทุกสิ่ง

7.2

เขียนโดย CyCloEclipse

วันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2556 เวลา 11.46 น.

  44 ตอน
  5 วิจารณ์
  42.94K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 22 กันยายน พ.ศ. 2556 20.52 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

26) ดวงตาที่มองเห็นแต่ความสิ้นหวัง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

แนวทางที่จำเป็นต้องดำเนินไปเพื่อจุดมุ่งหมายสูงสุดที่ว่าด้วยการปกป้องทุกสรรพชีวิตบนโลกได้ถูกหยิบยื่นให้กับseiriผู้มีพลังแข็งแกร่งเพียงพอที่จะสามารถเปลี่ยนแปลงได้แม้กระทั่งกระแสการดำเนินไปของห้วงเวลาโดยไม่มีผู้ใดสามารถขัดขืนได้ไปแล้ว


และในขณะนี้เองที่แองเจลอยด์ผู้มีพลังสามารถชี้เป็นชี้ตายทุกชีวิตได้เริ่มขั้นตอนปฏิบัติการในระดับที่สามไปแล้ว...



"คำสั่ง AOP5609... เริ่มขั้นตอนชำระล้างได้"


เสียงเรียบๆของนางฟ้าผู้มีรูปร่างคล้ายสาวน้อยมัธยมปลายถูกส่งเข้าไปในไมโครโฟนขนาดเล็กที่ต่อพ่วงกับหูฟังแบบครอบหูซึ่งมีสายพลาสติกสีเขียวต่อเชื่อมไปยังอุปกรณ์ถอดรหัสสีเทาที่ส่งแสงกระพริบสีฟ้าเป็นจังหวะพร้อมกับเสียงบอกว่าอุปกรณ์เริ่มทำงานในแบบที่มันถูกออกแบบมาให้ทำ คำสั่งเสียงของฮานามิที่บรรจุเข้าไปในอุปกรณ์ชิ้นนั้นได้ถูกแปรเป็นสัญญาณไฟฟ้าส่งออกไปยังหัวรับข้อมูลที่ถูกฝังเข้าไปยังเส้นประสาทใต้ผิวหนังของสัตว์ประหลาดในทันที

ซึ่งโซลเนลนั้นก็แผดเสียงร้องออกมาราวกับกำลังพูดว่า "รับทราบ" หลังจากได้รับสัญญาณวิทยุที่ฮานามิส่งเข้ามายังสมองของมันโดยตรงราวกับเป้นสิ่งมีชีวิตที่มีพัฒนาการด้านสมองสูงกว่าสัตว์ทั่วไปโดยสิ้นเชิง...



ฮื่อ....



"เอาเลย โซลเนล... มาเริ่มบรรเลงบทเพลงแห่งความสิ้นหวังให้พวกมนุษย์กันเลย!"


แองเจลอยด์ผู้ถือสิทธิ์เป็นเจ้าของโดยไม่ชอบธรรมของสัตว์ประหลาดกระดองเต่าที่ปรากฏตัวออกมาจากหุบเขาที่ถูกทำลายลงไปนั้นยิ้มกริ่มอย่างสุขใจเมื่อได้รู้ว่าสิ่งที่เธอสร้างขึ้นมาเพื่อควบคุมสิ่งมีชีวิตที่ไม่สามารถทำให้เชื่องได้โดยง่ายเพื่อทำการฝึกเมื่อก่อนหน้านี้นั้นจะสามารถนำมาใช้เพื่อการปกป้องเหล่าสรรพสิ่งบนโลกนี้จากเงื้อมือของผู้รุกรานที่ไม่ทราบที่มาในอนาคตได้


และจุดประสงค์ในการนำสิ่งประดิษฐ์ต้องห้ามนี้มาใช้งานนั้นก็ไม่ใช่เหตุผลอื่นเลย... ถ้าไม่ใช่เพราะการกำจัดตัวต้นกำเนิดของเนื้อร้ายที่ไม่ตอบสนองต่อการบำบัดไม่ว่าจะทางใดก็ตามให้หมดสิ้นไปจากโลกที่เปรียบเสมือนร่างกายที่บริสุทธิ์นี้เท่านั้น




แต่ในระหว่างที่seiriที่กำลังภาคภูมิใจในชัยชนะที่มีต่อเชื้อโรคที่แสนดื้อยานี้แผดเสียงหัวเราะออกมาอย่างสะใจในวิธีการที่จะทำให้เธอไม่จำเป็นที่จะต้องลงมือกวาดล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์ด้วยตัวเองอยู่นั้น เสียงเล็กๆของใครคนหนึ่งก็ดังขึ้นมาแทรกระหว่างเสียงหัวเราะร่าของเธอได้อย่างพอเหมาะพอเจาะ...


และต้นกำเนิดเสียงนั้นก็อยู่ไม่ได้ไกลจากตัวเธอนั่นเอง!!




"เธอคิดว่านี่คือเส้นทางที่ถูกต้องแล้วอย่างนั้นเหรอ..!?"


ด้วยเสียงที่ดังขึ้นมาท่ามกลางเทือกเขาหิมะที่ไม่มีทางที่มนุษย์คนใดจะกล้าย่างกรายเข้ามายังที่แห่งนี้นั้นเอง... ได้ทำให้ดวงตาที่เชิดขึ้นไปยังกลุ่มเมฆเหนือศีรษะของฮานามิถูกชักกลับมายังตำแหน่งเดิมอย่างรวดเร็ว


"ฉันถามเธอว่า...การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์มันเป็นวิธีสุดท้ายที่จะปกป้องโลกนี้แล้วอย่างนั้นเหรอ!? ฮานามิ"

"อะไร... เธอคิดจะจับฉันเทศนาหรือไง พ่อมนุษย์ตัวน้อย... ฮิซาชิคุง!?"



ทั้งสองคนเหลือบสายตาเข้าหากันเป็นจังหวะเดียวกับที่อีกฝ่ายชายตามองเข้ามา ในตอนนี้ถือเป็นครั้งแรกที่จะมีมนุษย์คนไหนที่จะกล้ามองแองเจลอยด์ที่แข็งแกร่งพอที่จะฆ่าพวกเขาได้เพียงแค่การกระดิกนิ้วแค่นิดเดียวด้วยวิธีชายสายตาดู ก่อนที่จะหันสายตากลับไปยังสัตว์ประหลาดที่กำลังส่งเสียงคำรามดังกึกก้องไปทั่วบริเวณที่ขณะนี้กำลังคลานออกจากยอดเขาที่โล่งเตียนมุ่งหน้าไปยังหมู่บ้านลับแลโทรมๆที่ถึงแม้จะไม่มีปรากฏอยู่บนแผนที่ท้องถิ่นก็ไม่ใช่เรื่องแปลก


ซึ่งแม้แต่ฮิซาชินั้นก็ไม่มีทีท่าว่าจะขยับเข้าไปขัดขวางการเดินของโซลเนลเลยแม้แต่นิดเดียว... เพราะในร่างกายของเด็กนี้ไม่สามารถที่จะขัดขืนได้ไม่ว่าจะเป็นฮานามิหรือโซลเนล และฮิซาชิก็ไม่ได้คิดที่จะเข้าไปห้ามอยู่แล้วด้วย!!



"คอยดูเอาไว้ก็แล้วกัน พ่อหนูน้อย... คอยจับตาดูชั่ววินาทีที่จะถูกจดบันทึกเข้าไปในหน้าประวัติศาสตร์ถึงจุดเริ่มต้นของสันติภาพที่จะกำเนิดขึ้นเป็นครั้งที่สองนับตั้งแต่มนุษย์ถือกำเนิดขึ้นมาบนโลก"

สาวน้อยผู้ที่ควรจะเป็นผู้ที่ต่อสู้เพื่อที่จะปกป้องเหล่ามนุษย์ในขณะนี้กลับใช้พลังและความสามารถในการย้อนกลับมาทำร้ายมนุษย์อย่างหน้าตาเฉย เธอทยอยป้อนคำสั่งที่เป็นรหัสตัวอักษรและตัวเลขต่างๆกันที่ไม่สามารถระบุมั่วๆเข้าไปได้อย่างคล่องแคล่วราวกับผ่านการทดสอบภาคสนามมาเป็นอย่างดี



"เธอคงจะกังวลสินะว่าเธอจะต้องพบกับอะไร... เอาเถอะ! ฉันรับประกันเลยว่าฉันจะยกเว้นชีวิตของเธอและseiriทุกคนเอาไว้เป็นของขวัญที่เธอทำให้ฉันมีความสุขได้ก็แล้วกัน แน่นอนว่าเธอไม่จำเป็นต้องขอบคุณฉันหรอกนะ..."


สาวน้อยผมประกายน้ำเงินหันมาพูดปลอบใจเด็กชายที่ทำสีหน้าเคร่งเครียดอย่างรุนแรงให้พอสงบลงบ้าง ฮานามิเห็นฮิซาชิมีแววตาที่น่ากลัวมากถ้าหากลองมองเข้าไปตรงๆ ทั้งนี้เพราะฮานามิไม่ได้คิดที่จะดึงเอาseiriทุกคนเข้ามาเกี่ยวข้องอยู่แล้ว... และเพราะว่าฮิซาชินั้นได้ไปพูดแทงเข้าไปยังจิตใจของเธออย่างไม่เกรงกลัวอะไรนั่นเอง!

ซึ่งสายตาที่จับจ้องไปยังทางข้างหน้าของเด็กชายจนถึงเมื่อสักครู่นี้ได้เปลี่ยนเป้ามายังสาวน้อยที่อยู่ข้างๆแทนด้วยความรู้สึกที่ไม่ได้เปลี่ยนไปเลยสักนิด...



"ฉันก็ไม่ได้คิดอยู่แล้วว่าเธอจะฆ่าฉันได้ลงคอ... เพราะสำหรับเธอแล้วฉันมีความสำคัญต่อจิตใจมากยังไงล่ะ!"

"หมายความว่ายังไง..!?"

"เดี๋ยวเธอก็รู้เองนั่นแหละ... ถ้าในวันนั้นเธอไม่ตายไปซะก่อนนะ"




              เฟี้ย....ววววว!



ฝูงเครื่องบินรบนับสิบพุ่งทะยานเข้ามาจากกลีบเมฆเพื่อเดินทางมายังจุดที่โซลเนลปรากฏตัวขึ้นมาอย่างฉับไวหลังจากที่ทำการรวมพลเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา เครื่องบินแต่ละลำทำการบินโฉบไปมาพร้อมทำการจู่โจมใส่เป้าหมายที่ถูกลักษณะภูมิประเทศส่วนที่เป็นผืนป่าปกคลุมเอาไว้จนมองไม่เห็นร่างกายของมันแม้แต่ตารางนิ้วเดียว


'ทุกลำจัดการหยอดลูกชิ้นให้มันเคี้ยวเล่นหน่อยเป็นไร! จัดการเลย!!'


ลูกเหล็กจำนวนมหาศาลได้ถูกปล่อยออกมาจากช่องบรรทุกใต้เครื่องบินแต่ละลำลอยลงสู่พื้นที่สีเขียวที่ถูกพรมสีขาวปกคลุมเอาไว้อีกชั้นจนบังเกิดเป็นเปลวเพลิงขนาดมโหฬารเข้าแผดเผาทำลายพื้นที่สีเขียวของโลกที่เพิ่มขึ้นจากจุดวิกฤติเมื่อร้อยปีก่อนจนครอบคลุมพื้นที่ผืนดิน70%ของโลกจนกลายเป็นขนมเปียกปูนเละๆกรังๆในบริเวญกว้าง

และเพราะความเสียสละของเหล่าชีวิตจำนวนมากนั้นเองที่ทำให้ฝูงบินรบสามารถทำการระบุตำแหน่งเป้าหมายที่เรืองแสงเป็นสีเหลืองท่ามกลางพื้นที่สีเทาได้อย่างชัดเจน!!


"เอ้า! โซลเนลกำลังเดือดร้อนนะ เธอจะเลือกทางไหนเหรอ...ระหว่างช่วยเหลือสัตว์ประหลาดที่เป็นตัวอันตรายของมนุษย์!? กับ ปกป้องพวกมนุษย์จากการตอบโต้กลับของสัตว์ที่ถูกทำร้ายก่อน!?"


และเมื่อไม่ได้รับคำตอบจากช่องปากของเด็กชายที่อมพะนำเอาไว้เป็นเวลาหนึ่งแล้ว ฮานามิก็จัดการตอบสนองความต้องการของโซลเนลในแบบที่มันสมควรจะได้ทำในตอนนี้เลย...โดยคิ้วไม่กระดิก


"คำสั่ง A9E 062C... จัดการเป้าหมายที่อยู่ตรงหน้าให้หมด!"


ด้วยคำสั่งที่ไม่สามารถขัดขืนได้ที่ถูกส่งเข้าไปยังตัวรับสัญญาณที่ติดอยู่กับซอกคอของโซลเนลซึ่งเชื่อมต่อกับเส้นประสาทขนาดใหญ่ตรงไปยังสมองสั่งการนั้น ได้ทำให้ผู้ที่ถูกชี้นำตอบรับในสิ่งที่มันอยากจะทำอยู่พอดีนั้นอย่างรุนแรง และยิ่งนำมาประกอบกับอารมณ์โกรธสุดขีดที่ยากจะยับยั้งของมันด้วยแล้ว...ยิ่งทำให้ตัวอุปกรณ์นั้นแทบจะไม่จำเป็นที่จะต้องบังคับอะไรมันเลยแม้แต่นิดเดียว



"สิ่งที่เธอกำลังทำอยู่นี่มันดีแล้วงั้นเหรอ..! ถ้ายัยมิรันมาเห็นเธอทำแบบนี้เข้าละก็..."

"ละก็..."


"ถ้าฉันบังเอิญมาเห็นเหาฉลามที่หันกลับมากินเนื้อของผู้ที่ให้แหล่งที่พักพิงทำแบบนี้แล้ว... ฉันจะทำอะไรยัยนี่งั้นเหรอ..."


ในระหว่างที่ฮิซาชิกำลังพยายามใช้คำพูดโน้มน้าวจิตใจของแองเจลอยด์ที่ดูยังไงๆก็ไม่มีทางที่จะคล้อยตามได้ง่ายๆอย่างสุดความสามารถแล้ว ด้วยแนวคิดในการปกป้องทุกสรรพสิ่งบนโลกที่มีวิธีการปฏิบัติที่ต่างกันของฮานามิที่แข็งมากจนไม่สามารถดัดกลับมาสู่เส้นทางที่seiriอย่างเธอควรจะทำได้โดยง่ายนั้น พลันมีเสียงของผู้หญิงอีกคนหนึ่งดังแทรกเสียงแหลมใสๆของเด็กชายที่พยายามพูดเกลี้ยกล่อมเป็นทำนองให้เขาหยุดการกระทำทั้งหมดลง

ซึ่งเจ้าของเสียงคนนั้นกำลังก้มมองลงมายังทั้งสองคนจากเบื้องบนห่างออกไปเพียงไม่กี่เมตร ก่อนที่เธอคนนั้นจะค่อยๆลดระดับลงมายังพื้นดินที่อยู่เบื้องล่างอย่างช้าๆพร้อมกับแววตาที่ต่างออกไปจากที่เคยมีราวกับเป็นคนละคน...



"มิ..มิรัน!!"

"ถอยออกมาให้ห่างๆยัยนั่นซะ! ฮิซาชิคุง..!"


ผู้ที่เข้ามาแทรกระหว่างการเจรจาสันติภาพระหว่างมนุษย์ผู้ใจกว้างขนาดที่สามารถให้อภัยได้แม้กระทั่งผู้ที่เคยพยายามที่จะฆ่าเขา กับ นางฟ้าผู้ถือทิฐิแรงกล้าซึ่งไม่ยอมรามือง่ายๆจนกว่าสิ่งที่เธอทำอยู่นั้นจะสำเร็จที่มีโอกาสที่ริบหรี่เหลือเกินที่จะสามารถยุติความขัดแย้งที่ทั้งสองคนมีนั้นก็คือ... แองเจลอยด์อีกคนหนึ่งที่ใครๆต่างก็คิดว่าเธอมีชีวิตอยู่ไปวันๆโดยไม่สนใจทุกสิ่งรอบตัวแม้แต่ความตายของตัวเอง


ในตอนนั้นเองที่ฮิซาชิเห็นมิรันทำท่าประกบแขนในแนวขนานกับพื้นซึ่งแสดงถึงสัญญาณเตือนครั้งสุดท้ายของเธอ...



"เดี๋ยวก่อนสิ...มิรัน!! เรื่องนี้พวกเราคุยกันได้ไม่ใช่เหรอ!!"

"ฉันจะไม่พูดซ้ำสองนะ... อีกอย่างฉันไม่มีอะไรจะคุยกับพยาธิลำไส้ที่เป็นตัวบงการสัตว์ประหลาดที่ปรากฏตัวขึ้นมาทำลายล้างทุกสิ่งตลอดมาอย่างยัยนั่นด้วย! รีบๆถอยออกไปได้แล้ว...ฮิซาชิ!!"


และภายในสิ่งที่มิรันพูดออกมานั้น...ก็ได้มีอยู่สิ่งหนึ่งที่รบกวนระบบประมวลผลภายในสมองของฮิซาชิเหลือเกิน คำๆนั้นแหละ!



"เดี๋ยวก่อนสิ... เรื่องที่เธอพูดออกมานั่นหมายความว่ายังไง!? ที่ว่าฮานามิ..."

"อย่างที่ฉันพูดไปนั่นแหละ... เพราะนอกจากค๊อฟกับอาร์พาทีแล้ว... อัลเกีย...รวมทั้งสัตว์ประหลาดที่ปรากฏตัวขึ้นตลอดมาในรอบหนึ่งปีที่แล้วเป็นฝีมือของยัยนั่นทั้งนั้น!! ถ้านายไม่อยากจะเชื่อละก็...ลองไปถามเจ้าตัวหน่อยเป็นไร!!"



ในรอบหนึ่งปีที่ผ่านมา... หมายความว่าก่อนที่เราจะมาถึงที่นี่...มีสัตว์ประหลาดปรากฏตัวขึ้นต่อสู้กับพวกseiriตลอดมาเลยงั้นสิ!? ถ้าอย่างนั้นแล้ว...ทำไมที่ผ่านมามิรัน...ถึงได้เอาแต่มองฮานามิด้วยสายตาจงเกลียดจงชังขนาดนั้นด้วย!!


"ทันทีที่ฉันออกมาจากสถานที่ให้กำเนิดตัวฉันได้...ทันทีที่ยัยนั่นหายตัวไป...จู่ๆสิ่งมีชีวิตประหลาดที่ระบุสายพันธุ์ไม่ได้ที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าseiriอย่างฉันก็ปรากฏตัวขึ้นมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย เจ้าพวกนั้น...ฆ่าคนสำคัญของฉันจนไม่มีเหลือ!!!"


"ทั้งเพื่อนของฉันทั้งหมด...คนที่ยอมรับฉันในฐานะเพื่อนคนหนึ่งโดยไม่สนว่าชาติกำเนิดของฉันจะเป็นใคร...รวมทั้งรุ่นพี่ที่เป็นseiriที่ฉันรัก... ทุกคนถูกเจ้าสัตว์ประหลาดพวกนั้นฆ่าตายทั้งหมด!! เป็นเพราะแนวคิดที่จะสร้างสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าพวกเราของยัยนั่นคนเดียว!! เพราะยัยนั่นคนเดียว..."


ทุกๆคนที่...มิรันรัก! ถูกสิ่งที่ฮานามิสร้างขึ้นมาสังหารทั้งหมด? หรือว่าสิ่งที่ตกผลึกจากความคิดที่จะสร้างสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งยิ่งกว่า"โครงการseiri"ที่มิรันพูดถึงเมื่อกี้นั่น...แท้จริงแล้วก็คือ!?




                                                               'ตัวเราเอง'...




มิรันหลั่งน้ำตาออกมาอย่างรุนแรงก่อนจะทรุดลงไปกับพื้น ในขณะนั้นเองที่ฮิซาชิก้มลงมองร่างกายของตัวเองอย่างเจ็บปวด ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นกับร่างกายของเด็กชายที่มีพลังแข็งแกร่งเหนือกว่านักมวยปล้ำนั้นไม่ใช่เพราะฝ่ามือที่บีบหัวไหล่ทั้งสองข้างของมิรันที่ใส่แรงเข้ามาเต็มที่...หรือกำปั้นที่ทุบเข้าที่หน้าอกของฮิซาชิอย่างไม่ยั้งแรงด้วยความเจ็บปวดในครั้งอดีตของเธอแต่อย่างใด...




"อีกแล้วเหรอ... นี่เราช่วยยัยพวกนั้นจากความเจ็บปวดไม่ได้อีกแล้วเหรอ... เมื่อ7ปีก่อนเราเป็นยังไง...ตอนนี้เราก็ยังเป็นเหมือนเดิม เรานี่มัน..."


ฮิซาชิเงยหน้าขึ้นมามองท้องฟ้าที่ถูกย้อมด้วยอณูสีจนกลายเป็นสีแดงส้มจากเปลวเพลิงที่ลุกโชนจากการโจมตีโต้ตอบของโซลเนลตามคำสั่งที่ได้รับจากฮานามิอย่างต่อเนื่อง ในตอนนั้นเองที่ฮิซาชิหลับตาลงแน่นเพื่อไม่ให้สิ่งที่อาจจะแสดงออกมาถัดจากนี้นั้นถูกเปิดเผยออกมาเด่นชัดนัก... แต่ดูเหมือนว่ายิ่งฮิซาชิพยายามกลบเกลื่อนเท่าไหร่ ทุกสิ่งที่เขาแสดงนั้นกลับจะยิ่งชัดเจนขึ้นเท่านั้น!!



"นอกจากเราจะช่วยพวกseiriให้หลุดพ้นจากการต่อสู้ที่ขมขื่นไม่ได้แล้ว... ตัวเราเองเหรอที่เป็นต้นกำเนิดของความสูญเสียทั้งหมดของมิรัน ทั้งหมดเป็นเพราะเราเองเหรอ..."


"เพราะอย่างนี้สินะ..! มิรันถึงได้เลือกที่จะฝากมิคาสะกับยูนะให้เราดูแล ทั้งหมดก็เพื่อที่จะสังเกตดูพฤติกรรมของเราโดยใช้สองคนนั้นเป็นตัวทดสอบสินะ ถึงจะรับไม่ได้ที่ใช้สองคนนั่นเป็นหนูทดลองก็เถอะ...แต่เราก็สอบตกในความปรารถนาของยัยนั่นอยู่ดี"



"งั้นเองเหรอ..! เรานี่มัน...น่าสมเพชสิ้นดี!!"



"เราใช้ชีวิตที่ได้รับมาจากยัยพวกนั้นเสียเปล่าซะแล้วสินะ... ตามจริงในตอนที่สู้กับพวกไกอา คนที่น่าจะมีชีวิตอยู่ต่อน่าจะเป็นยัยพวกนั้นซะมากกว่า! เราทำให้ทั้งมิคาสะ..โยโซระ..ฮิโรมิ..ชิบุกิ..อาคาริ...รวมทั้งฮิคาริต้องตายไปอย่างไร้ค่า เรามันก็แด่เศษขยะรกสังคมที่ต้องอาศัยความตายของผู้อื่นมาหล่อเลี้ยงเพื่อที่จะมีชีวิตอยู่ต่อเท่านั้นไม่ใช่หรือไง..!?"


ดวงตาที่เปื้อนคราบน้ำตาของเด็กชายที่หมดกำลังใจที่จะต่อสู้ได้กลับมามีประกายในชั่วพริบตา หากแต่ไม่ใช่ประกายที่เปี่ยมไปด้วยความปรารถนาที่จะมีชีวิตอยู่ต่อหรอก...เป็นแววตาที่สะท้อนประกายแห่งความสิ้นหวังต่างหาก!



ถ้าหากว่าเป็นฮิซาชิในตอนนี้... เขาสามารถเดินออกไปข้างหน้าเพื่ออ้าแขนรอรับความตายที่จะถูกประเคนให้โดยสิ่งมีชีวิตปริศนาที่ถูกควบคุมเอาไว้โดยนางฟ้าที่เบื่อที่จะเห็นใบหน้าที่แสนโสมมของเขาได้โดยไม่ต้องคิดอะไรมาก ซึ่งฮานามิในตอนนี้สามารถที่จะสั่งการโซลเนลให้ปล่อยลูกเพลิงใส่หรือไม่ก็ลงมือปลิดชีวิตทั้งมิรันและฮิซาชิด้วยตัวเองอย่างสะดวกยิ่งกว่าเมื่อครั้งที่เธอต่อสู้กับสัตว์ประหลาดร่างยักษ์เสียอีก


ก็แล้วแต่ความปรารถนาดีที่เธอจะมอบให้กับทั้งสองคนเท่านั้นเอง...







แต่ในตอนนั้นเอง...แววตาของทั้งฮิซาชิและมิรันที่อาบไปด้วยรอยน้ำตาซึ่งยากที่จะหยุดมันเอาไว้ให้ไหลอยู่ภายในก็สะท้อนแสงตะวันบนน่านฟ้าอย่างสดใสอย่างประหลาด แม้ว่าทั้งสองคนนั้นจะไม่มีเรี่ยวแรงที่จะลุกขึ้นยืนอีกต่อไปแล้วก็ตาม...


ทั้งหมดนี้ก็เพราะเสียงตะโกนจากใครคนหนึ่งที่สังเกตการณ์มาตั้งแต่ต้นนั่นเอง!!

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
6.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
6.8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา