เงารัก...อธิษฐาน[อ่านต่อจากตอนที่ 25 นะเออ]

9.8

เขียนโดย บุหงา

วันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2556 เวลา 22.04 น.

  29 ตอน
  6 วิจารณ์
  30.49K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 21 มกราคม พ.ศ. 2557 12.50 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

15) ตอนที่ 15-100%

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

~15~

อย่าหนีอีกเลย...

 

                ‘ฉันปลอมตัวมาทำงาน อ่าฉันเป็นพี่มีน ฉันคือพี่มีน’ 

หลังจากที่ฉันปลุกปลอบตัวเองเสร็จก็ก้าวเดินเข้าบริษัทของคุณปู่ด้วยจังหวะการก้าวเดินที่มั่นคง

                “อ้าวน้องมีน! มาได้ไงค่ะวันนี้”

                แล้วก็เป็นอย่างที่คิดพี่เบลคิดว่าฉันเป็นพี่มีน เพราะการแต่งตัว ก็พี่มีนมักจะสวมกางเกงยีนรัดรูป ร้องเท้าส้นสูง และก็เสื้อยืด ถ้าพี่เบลทักแบบนี้ถือว่าผ่านแล้ว

                “สวัสดีค่ะ มีนมาหาปู่คะ”

                ฉันกล่าวพร้อมกับยิ้มน้อย ๆที่มุมปาก มันเป็นลักษณะเฉพาะตัวของพี่มีน แล้วฉันก็เหลือบไปเห็นใครคนหนึ่งที่อยู่ข้างหลังพี่เบล และดูเขามีความสุขดี

                “อ้าวยัยมีน”

                เสียงของคุณปู่ทักขึ้นหน้าประตูห้องทำงานของท่าน ฉันจึงหันไปมองพร้อมกับได้เห็นคุณปู่ทำหน้าสงสัยอะไรบ้างอย่าง...

                “ทำอะไรไม่แนบเนียนเอาซะเลยหลานปู่เนี่ย”

                “เอ่อ...”

                ฉันพูดออกไปได้เท่านั้นก็ก้มหน้าลง นึกแล้วเชียวยังไงก็รอดพ้นสายตาของคุณปู่ไปไม่ได้จริง ๆ

                “ปู่มองแวบเดียวก็รู้แล้วเป็นใคร เอาละ เข้าไปในห้องก่อนสิ ก่อนที่ปู่จะออกไปข้างนอก ปู่มีเรื่องจะคุยด้วย ”

                คุณปู่กล่าวจบก็หันไปพลั่กประตูก้าวเข้าห้องทำงานของท่าน เข้าไปก่อน

                “มีนขอตัวนะค่ะ พี่เบล”

                “จ้ะ ตามสบายเลย”

 

“คุณปู่ค่ะ”

                ฉันพูดขึ้นพร้อมก้มหน้าลง เพราะรู้ความผิดของตัวเองดี

                “มาแล้วเหรอ แล้วกลับมาเมื่อไร พ่อเราละไม่ว่าเอารึไง”

                คุณปู่ถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ จึงทำให้ใจชื้น เพราะปู่พูดด้วยน้ำเสียงแบบนี้แสดงว่าไม่ได้โกรธฉันสักเท่าไร

                “มาได้อาทิตย์หนึ่งแล้วค่ะ ส่วนคุณพ่อไม่ทราบว่าดาวกลับมาแล้ว ”

                “ นั่นสิถ้ารู้ป่านนี้คงชักดิ้นชักงอแล้วละ เอ้า!มาใกล้ ๆ ปู่สิจะยืนอยู่ตรงนั้นทำไม”

                “ค่ะ”

                ฉันเดินไปทรุดตัวลงนั่งใกล้ ๆ ปู่ ตามคำสั่งอย่างว่าง่าย แต่ถ้าหากเป็นพี่มีนละก็จะดื้อเพ่ง และยืนจนขาแข็งเพื่อประชดปู่นั่นแหละ แล้วนี่ก็คือสิ่งที่ฉันแตกต่างจากพี่มีน

                “สุขภาพเป็นไงดีขึ้นแล้วใช่ไหม แล้วดูแต่งตัวเข้า ปู่ไม่ชอบเลย ไม่อยากมีหลานคล้ายผู้ชายอีกคน แค่ยัยมีนปู่ก็เครียดพอแล้ว”

                พูดจบปู่ก็ส่ายหัวไปมา เพราะรับไม่ได้กับการที่ฉันแต่งตัวแบบนี้

                “ดาวขอโทษค่ะ สุขภาพของดาวเองก็เรียบร้อยดีค่ะ”

                “ดาวจะหนีไปอีกเท่าไร ปู่ว่าหมดเวลาที่ดาวจะต้องหนีแล้วละ”

                “คะ?”

                ฉันไม่เข้าใจคำถามของปู่เลย ท่านกำลังจะบอกอะไรกับฉันกันแน่

                “ ที่แต่งตัวแบบนี้หลบใครบางคนใช่ไหมละ ทำไมไม่พุ่งเข้าชนเลย นายซันน่ะ ชอบเขาอยู่ไม่ใช่เหรอ ปู่จะเป็นกำลังใจให้”

                ฉันเบิกตากว้างด้วยความตกใจ คุณปู่รู้หรอกเหรอ แล้วรู้ตั้งแต่เมื่อไร?

                “คะ... คุณปู่ทราบ”

                “อ่าขอโทษที่เสียมารยาทที่เคยแอบฟังหลานสองคนคุยกัน แล้วคิดเหรอว่าปู่จะรับผู้ชายหน้าไหนมาทำงานกับหลานจริงๆ ถ้าไม่ใช่เพราะหลานของปู่รู้สึกอะไรกับเขาคนนั้น มันหมดเวลาที่จะต้องหนีแล้วละหลานดาวของปู่

ถึงเวลาที่ต้องลุกขึ้นสู้ในสิ่งที่เป็นของเราตั้งแต่แรก จะมัวอ่อนแอ และหวังเพิ่งสิ่งอื่นอยู่แบบนี้แล้วเมื่อไรจะลุกขึ้นมาเดินด้วยขาของตัวเองได้ โดนเขาแย่งไปก็แย่งกลับมาซะก็สิ้นเรื่อง แย่งเขากลับมาเลย เอาละปู่ไปก่อนนะ”

                ปู่กล่าวจบก็เดินจากไปเงียบๆ แย่งเขากลับมาเหรอ! ฉันมีสิทธิ์นั้นเหรอ ไม่ใช่! มันไม่ใช่มีสิทธิ์หรือไม่มีสิทธิ์หรอกมันอยู่ที่ความรู้สึกของฉันต่างหาก แต่ฉันจะทำได้เหรอคนขี้ขลาดอย่างฉันทำได้จริงๆเหรอ ฉันกลัว กลัวที่จะต้องเสียใจแบบนั้นอีก

               

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“พี่เบลค่ะ เข้ามาในห้องด้วยค่ะ”

                ฉันกดโทรศัพท์เรียกพี่เบลที่อยู่หน้าห้องให้เข้ามาหา

                “มาแล้วค่ะ น้องมีนมีอะไรค่ะ”

                สักพักเสียงของพี่เบลก็ดังขึ้นมาก่อนที่เจ้าตัวจะปรากฏตัวซะอีก

                “แฮะๆ เอ่อขอโทษนะคะ คือ ดาวค่ะไม่ใช่พี่มีน”

                ฉันบอกออกไปเพื่อให้พี่เบลเข้าใจใหม่ แต่พี่เขาก็ทำท่าแย้งอยู่ดี

                “อุยตายแล้ว! พี่ไม่เชื่อค่ะ ว่านี่จะเป็นน้องดาวของพี่เบล ถึงแม้เราจะไม่เคยได้พบหน้ากันก็เหอะ ดูแต่งตัวเข้าสิค่ะ อย่าแกล้งพี่เบลค่ะน้องมีน”

                “ไม่ได้แกล้งค่ะ ดาวเอง ดาวกลับมาแล้ว เราคุยกันแต่ในโทรศัพท์ทางไกล เพิ่งจะพบหน้ากันจริงๆ งั้นยินดีที่ได้รู้จักพี่เบลอย่างเป็นทางการค่ะ”

                “เอ๊ะ น้องดาวจริงๆเหรอค่ะ”

                พี่เบลถามขึ้นอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ

                “จริงๆค่ะ”

                ฉันกล่าวตอบเสียงหนักแน่น เพื่อให้พี่เบลแน่ใจว่าฉันคือดาวจริงๆ

                “ตายแล้วกลับมาตั้งแต่เมื่อไรไม่เห็นจะบอกกันบ้างเลย งอนนะค่ะท่านประธานคนสวย”

                พี่เบลกล่าวขึ้นพร้อมทำท่ากระเง้ากระงอด ค้อนฉันประหลับประเหลือกทันที

                “ต้องขอโทษจริงๆค่ะ”

                “ช่างเถอะค่ะ ว่าแต่เรียกพี่เข้ามาเนี่ยมีอะไรเหรอค่ะ”

                “อยากทราบเรื่องโครงการที่พี่เบลเคยบอกค่ะ ว่าไปถึงไหนแล้ว”

                “กำลังติดต่อซื้อสัญญากับนายทุนต่างชาติค่ะ อยู่ในช่วงที่เขาจะยอมรับขอเสนอของเราหรือไม่เท่านั้นค่ะท่านประธาน”

                “ค่ะ แต่เรียกดาวก็ได้นะคะ ไม่ต้องเรียกท่านประธานหรอกค่ะ ดาวอายุ23 ห่างกันกับพี่เบล แค่ปีเดียวเอง พี่เบลเรียกแบบนี้รู้สึกเขินยังไงก็ไม่รู้ค่ะ”

                “อ่าค่ะ อยู่กันสองคนก็พอได้ค่ะน้องดาว แต่หากเหล่าผู้บริหารระดับสูง และคนอื่นๆอยู่ด้วยเห็นทีจะไม่ได้ค่ะ”

                “ดาวก็ว่างั้นคงต้องทำตัวให้ชินแล้วสินะคะ”

                “อ่าสู้ ๆ ค่ะ ไม่มีอะไรแล้วงั้นพี่ขอตัวไปทำงานนะคะ”

                “ได้ค่ะเชิญตามสบายคะ”

                หลังจากนั้นฉันก็ค้นเอกสารในตู้ใกล้ๆโต๊ะทำงาน มานั่งอ่านเพื่อศึกษางาน ผ่านไปสองชั่วโมงฉันก็ลุกขึ้น และบอกกับตัวเองว่า...ฉันจะไม่หนี ฉันจะต้องไม่หนี

               

“คะ...คุณซันค่ะ”

                เมื่อเรียกไปแล้วทั้งเสียง และหัวใจของฉันมันสั่นไหว ความคิดลึก ๆ สั่งให้ฉันเดินหนีเขาไป แต่ฉันก็รั้งเท้าตัวเองไว้ด้วยคำว่า ฉันจะไม่หนี

                “มีอะไรเหรอครับคุณมีน?”

                เขาเงยหน้าขึ้นจากโต๊ะทำงานพร้อมเลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัย

                “เราจะมีการโฆษณาสิ้นค้าในฐานะที่คุณเป็นนักกีฬาชื่อดัง ฉันอยากจะได้คุณเป็นฟรีเซนเตอร์ให้กับทางโฆษณา ถ้าคุณตอบตกลง ฉันจะได้ยื่นเสนอกับผู้ที่ถือหุ่นของบริษัทในที่ประชุม และแน่นอนเรามีค่าตอบแทนให้อย่างเหมาะสม คุณจะตกลงไหมค่ะ”

                “ผม..”

                เขาพูดแค่นั้นก็เงียบไป

                “ดาว..”

                “ค่ะ ฉันรอฟังคำตอบของคุณอยู่”

                ฉันตอบรับ และหลังจากนั้นก็ได้คำตอบที่น่าพอใจ

                “ตกลงครับ”

                “ค่ะแล้วฉันจะบอกรายละเอียด และนัดกับคุณอีกทีนะ ถ้าผลการประชุมออกมาแล้ว ขอตัวค่ะ”

                ฉันกล่าวขึ้นและกำลังจะเดินออกไป แต่ก็ต้องหยุดนิ่งฟังว่าเขาจะพูดอะไร เพราะเขาดูอึดอัดเหมือนอยากพูดอะไร กับฉันบางอย่าง

                “ดาว”

                “คะ?”

                “ดาว”

                “คุณจะเอายังไงกับฉันกันแน่เรียกชื่อฉันอยู่ได้ มีอะไรรึเปล่าคะ?”

                ฉันพูดขึ้นพลางถอนหายใจเบา ๆ ก็รู้อยู่หรอกว่าเขาเรียกฉันทำไม

                “คุณจะบอกผมว่าคุณคือดาว”

                ฉันไม่ตอบคำถาม ได้แต่ยิ้มให้เขา และเดินจากมา ฉันทำได้ คนขี้ขลาดอย่างฉันทำได้ ฉันขอ ขอแค่มองเขา มองแต่เขาอยู่แบบนี้ถึงแม้ว่าเขาจะไม่มองฉันเลยก็ตาม ฉันตัดสินใจแล้ว มันควรเป็นอย่างที่คุณปู่พูด ฉันอย่าคอยแต่พึ่งคนอื่นเพื่อให้เขาปกป้องฉันอีกเลย ฉันควรจะลุกขึ้นสู้ด้วยขาของตัวเองได้แล้ว

                ใช่ถึงแม้ว่ามันจะเจ็บช้ำที่ต้องเห็นข้างกายเขาเป็นคนอื่นไม่ใช่ตัวเอง ก็ขอแค่ฉันยังมองเห็นเขา ยังพูดคุยกับเขาแบบไม่รู้สึกอะไรเลยเหมือนเมื่อสักครู่ก็ยังดี

               

                “พี่มีน!”

                หลังจากฉันพูดคุยธุระกับซันเสร็จฉันก็ตรงมาที่นี้ทันที TG Sport club คลับคนรักสุขภาพ และตอนนี้ก็มายืนตรงหน้าพี่สาวฝาแฝดของตัวเองเรียบร้อยแล้ว พี่มีนทำหน้าตกใจอ้าปากค้าง

                “ดาว!”

                พี่มีนอุทานด้วยความตกใจ จากนั้นก็กระโดดกอดคอฉันพลางเผยรอยยิ้มกว้าง

                “ไหนเดินให้พี่ดูสิ! เร็วเข้า”

                พี่มีนกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ตาเป็นประกายสดใส ฉันจึงเดินไปข้างหน้าห้าก้าวหลังจากถูกพี่มีนปล่อยให้เป็นอิสระจากอ้อมกอด

                “เดินได้แล้วค่ะ”

                ฉันพูดขึ้นพลางเดินกลับมาหาพี่สาว จากนั้นก็ยกแขนไปกอดรอบเอวพี่สาวเอาไว้แน่น

                “เห็นไหมเชื่อพี่หรือยังละ ว่าดาวทำได้ ไม่ต้องร้องไห้อีกนะ น้องพี่เก่งที่สุด”

                พี่มีนพูดขึ้นแล้วลูบหัวฉันเบาๆ

                “อ้าว ดาวกลับมาแล้วเหรอ”

                เสียงหนึ่งดังขึ้นฉันจึงหันไปมอง เนปจูนน่ะ ฉันกับพี่มีนเจอเขาโดยบังเอิญที่อเมริกา และเนปจูนกับพี่มีนก็กลับมาที่นี้ก่อนพร้อมกัน อ้อ แล้วฉันก็ได้รับคำขอโทษจากเนปจูนด้วย เขาบอกเรื่องที่เกิดขึ้นว่าเขาเองก็มีส่วนเหมือนกัน แต่ฉันก็ไม่โกรธเขาหรอก มันไม่ได้แย่ขนาดนั่นนี่ ใช่ไหมละ? ก็เหมือนกับที่ฉันรักซันแล้วเขาไม่มอง และฉันเลือกที่จะยอมแพ้อย่างคนขี้ขลาด แต่ไม่ใช่สำหรับเนปจูน มันก็เท่านั้น

                “กลับมาแล้วจ๊ะ”

                ฉันยิ้มและตอบเขาไป เขาเองก็ยิ้มให้ฉันเช่นกัน แล้วก็เห็นว่าพี่มีนไม่ทำตาขวางใส่เนปจูนแล้วละ แถมยังรู้สึกว่าพี่มีนกำลังเขินอยู่ด้วยละอ่า คู่นี้ชักจะ ยังไงๆแล้วนะ ก็หวังว่าจะสมหวัง อย่าได้ให้เหมือนกับความรักของฉันที่มันไม่มีโอกาสจะสมหวัง...

                “งั้นไปฉลองกันดีกว่าเหนาะว่าไหมครับมีน?”

                “อืมไปสิเนปจูน เที่ยงแล้วนี่นา”

                น้ำเสียงของพี่มีนฟังดูกระตือรือร้น และคำที่ใช้เรียกขานกันก็เปลี่ยนไปด้วย ก้าวหน้ากว่าที่คิดแฮะ ฉันยิ้มหน้าบานและพยักหน้าเป็นเชิงเห็นด้วย

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา