Overnight คืนนี้กับ 4 หัวใจของยัยวายร้าย

9.6

เขียนโดย LazyGirl

วันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 00.34 น.

  32 บท
  189 วิจารณ์
  42.56K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 10.48 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

17) คืนสองกับคนไม่แมน

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

บทที่ 17

คืนสองกับคนไม่แมน

 

                “โอ๊ย!!” ฉันกัดลิ้นของเขาอีกเป็นครั้งที่สองจนหมอนั่นถึงกับต้องถอยหลังแล้วยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเอง เขาก็เคยโดนฉันกัดมาแล้วครั้งหนึ่งนี่ น่าจะคิดให้ดีก่อนจะทำอะไรบ้าๆแบบนี้นะ

                แอ๊ด!

                ฉันรีบเปิดประตูออกในช่วงที่หมอนั่นกำลังได้รับความเจ็บปวด

                “จะไปไหน!!” เท้ายังไม่ทันแตะพื้นข้างนอก ไอโอดีนก็กระชากแขนฉันกลับไปที่เดิม

                “หุบปาก!!!”

                “...” ฉันตะโกนลั่นพลางจ้องหน้าชายตรงหน้าอย่างเอาเรื่องจนหมอนั่นชะงักไป ฉันปัดมือสกปรกของเขาออกจากแขนขาวๆของฉัน นี่มันเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วที่ฉันเจอเรื่องแบบนี้ ไม่ต้องการ ไม่อยากทำ ทำไมต้องบังคับจิตใจด้วย ฉันเกลียดการกระทำที่ไม่สมกับการเป็นลูกผู้ชายแบบนี้ ดูถูกผู้หญิง คิดว่าฉันเป็นของเล่นที่จะทำอะไรก็ได้ตามใจชอบอย่างนั้นเหรอ ฉันหันหลังให้เขาอีกครั้งแล้วเดินออกจากห้องน้ำนรกนั่น

                “ทิงเจอร์!”

                “อย่ายุ่งกับฉันอีก” ฉันพูดเสียงเรียบแล้วเดินตรงไปที่ประตูทันที อยากออกจากห้องนี่เต็มทนแล้ว!

                “จะรีบไปไหน เธอยังไม่ได้รับผิดชอบในสิ่งที่ทำไว้เลยนะ” ไอโอดีนกระชากแขนฉันให้หันหลังกลับไปประจันหน้าเขา

                “บอกว่าอย่ายุงไง!!” ฉันผลักอกหมอนั่นเต็มแรงจนชายหัวแดงตรงหน้าตัวเซถอยหลังไปหนึ่งก้าว ที่รีบเดินเพราะไม่อยากให้ไอ้คนที่ฉันเกลียดมากที่สุดเห็นใบหน้านี้... อยากจะหนีไปให้พ้น เพราะไม่อยากให้หมอนี่เห็นดวงตาที่แดงก่ำคู่นี้!

                “เธอ...”

                “…”

                “อ..อะไรเล่า! แค่นี้ทำไมต้องทำหน้าแบบนั้นด้วย”

                ปัง!

                ฉันปิดประตูใส่หน้าเขาแล้ววิ่งออกมาจากห้องนรกอเวจีนั่น สิ่งที่เขาทำมันทำให้ฉันนึกถึงชายคนนั้นที่ทำร้ายฉันด้วยวิธีแบบนี้ มันเป็นจูบที่ไม่เต็มใจเลยสักนิด ทำไมเขาถึงทำกับฉันแบบนั้นทั้งๆที่ไม่ได้คิดอะไร เห็นฉันเป็นตัวอะไรกันแน่

                “ยัยทิงเจอร์นี่เอง มายืนทำอะไรอยู่แถวนี่ล่ะ” สาวเสียงแหลมผมทองทักฉันที่เดินก้มหน้าก้มตาอย่างคนหมดอาลัยตายอยาก นี่ฉันเดินมาถึงหน้าห้องยัยกล่องแก้วตั้งแต่เมื่อไหร่

                “กำลังจะกลับห้องน่ะ เธอล่ะ?”

                “จะลงไปหาอะไรกินน่ะ เอ๊ะ ทำไมตาเธอแดงอย่างนั้นล่ะ ไปทำอะไรมา” หน้าฉันยังไม่หายแดงอีกเหรอ ตายล่ะ สภาพแบบนี้คนสวยให้ใครรู้ไม่ได้เด็ดขาดว่าเสียใจมา หาข้ออ้างก่อนนะ จะอ้างว่าอะไรดี -O-

                “หาววว วันนี้เหนื่อยมากเลย ร่างกายมันอ่อนเพลียก็เลยหาวบ่อย น้ำตาไหลเลยเนี่ย” ฉันยกมือขึ้นปิดปากพลางปาดน้ำตาเม็ดน้อยออก นี่เป็นแถสดที่เพิ่งคิดออกเมื่อกี้นี้เลยนะ

                “งั้นเหรอ แล้วไป -_-”

                “โอ๊ย! ยัยบ้านี่ที่บ้านไม่ได้สอนหรือไงว่าเวลาออกห้องให้ปิดประตู ยุงมันเข้าห้องเว้ย! ฉันไม่อยากเป็นไข้เลือดออกตายนะ!” ชายหน้าโหดเสียงหื่นที่เป็นเพื่อนร่วมห้องยัยกล่องแก้วเอะอะโวยวายดังลั่นแล้วเดินตรงดิ่งมาหาตัวต้นเหตุ ฉันควรจะออกไปจากตรงนี้นะ ระเบิดลูกใหญ่กำลังจะลงแล้ว เผ่นดีกว่า -O-

                “ที่ยุงมันกัดเพราะนายเปิดประตูระเบียงทิ้งไว้น่ะสิ อย่ามาโทษฉันนะ!”

                “ก็เธ..” ร็อคที่สวมเสื้อยืดสีดำกับกางเกงบ็อกเซอร์ขาสั้นกำลังจะเถียงกับยัยกล่องแก้วแต่ก็ต้องชะงัก เขาเงียบไปแล้วมองมาทางฉัน มองทำไม? ฉันสวยใช่มั้ยล่ะ เอ๊ะ หรือว่าเขาเห็นคราบน้ำตาบนหน้านะ ไม่หรอกมั้ง ฉันไม่ได้ร้องไห้ฟูมฟายเหมือนยัยดินสอนั่นสักหน่อย

                “หึ เงียบแบบนี้ยอมรับแล้วใช่มั้ยว่านายเชิญยุงเข้าห้อง งั้นก็ไปปิดซะ!”

                “หนวกหูน่า! ยืนอยู่แค่นี้ทำไมต้องตะโกนด้วย”

                “เรื่องของฉัน! ยัยนี่ก็ยืนบังอยู่ได้ หลีกทางหน่อย ฉันหิว!” ยัยบ้ากล่องแก้วตะโกนใส่หูแล้วผลักฉันเฉยเลย หิวแล้วทำไมต้องพาลใส่ด้วยเล่า โตเป็นผู้ใหญ่แล้วหัดระงับอารมณ์บ้างสิ เพราะความหิวมันทำให้คนอารมณ์เสียได้ขนาดนี้เลยเรอะ ยัยบ้านี่ใช่ลูกคุณหนูไฮโซจริงปะเนี่ย เอ๊ะ แต่ฉันยืนอยู่ตรงนี้นานไม่ได้นี่นา ที่ตรงนี้มันอันตรายเกินไป รังสีอัมหิตแผ่ออกมาจากร่างของอีตาหน้าโหดนี่จนฉันจะช็อคตายอยู่แล้ว ทำไมต้องจ้องหน้าขนาดนั้นด้วย อีหมอนี่คิดจะฆ่าฉันเรอะ แค่เดินผ่านห้องเฉยๆไม่ได้มาวางระเบิดหน้าห้องสักหน่อย กลัวแล้ว ฉันกลับห้องแล้วก็ได้ TOT 

                ปัง!

                ในที่สุดก็ปลอดภัย ฉันจัดการยัดตัวเองเข้าห้องและล็อคประตูเพื่อความปลดภัยเรียบ คนบ้าอะไรก็ไม่รู้น่ากลัวเป็นบ้า

                “มาแล้วเหรอ” กัปตันเดินออกมจากห้องน้ำพร้อมกับผมที่เปียกโชกและเสื้อยืดลายอุลตร้าแมนสีขาว เกือบลืมไปเลยว่าอีหมอนี่ก็อยู่ห้องนี้ด้วย เขาเพิ่งอาบน้ำเสร็จสินะ กลิ่นสบู่หอมๆลอยออกมาจากห้องน้ำเลยอ่ะ อา...ฉันอยากอาบน้ำจัง

                “อื้ม”

                “ไปขอโทษดินสอมาใช่มั้ย” กัปตันทิ้งตัวนั่งลงบนเตียงพลางใช้ผ้าขนหนูสีขาวเช็ดผมของตัวเอง นั่นมันที่นอนของฉันนะ ถ้าผ้าห่มมันเปียกขึ้นมาจะทำยังไง หามาเปลี่ยนใหม่ให้ฉันเดี๋ยวนี้เลยนะ

                “มองหน้าฉันทำไม หวงเตียงเหรอ?”

                “เปล่า ไม่ใช่สักหน่อย” ทำไมเขาถึงรู้ล่ะ เอ๊ะ หรือว่าฉันแสดงออกทางสีหน้ามากเกินไป ฉันเป็นคนที่ความคิดออกทางหน้าเหมือนอย่างที่ร็อปเป้ว่าจริงๆเหรอ -O-

                “ไม่ต้องหวงหรอก ยังไงคืนนี้เราก็ต้องนอนด้วยกันอยู่แล้ว ^^”

                “ไม่! ฉันไม่นอนกับนาย!”

                “แล้วจะนอนตรงไหน? ที่โซฟานั่นเหรอ?” กัปตันชี้ไปที่โซฟาเล็กๆหน้าโต๊ะกระจกใส เหมือนจะนอนไม่สบายเลยแฮะ ก็พื้นที่โซฟานั่นมันมันเล็กเกินไปสำหรับคนสวยอย่างฉัน แต่ถ้าคืนนี้อีตาเจ้าเล่ห์นั่นไม่ยอมสละเตียงให้จริงๆ คนสวยก็คงต้องนอนบนนั้นแหละ อะไรกัน ทำไมฉันต้องมานอนบนโซฟาเล็กๆแบบนั้นด้วย!

                “ช...ใช่!”

                “พุดตะกุกตะกักคำตอบไม่ชัดเจนเลยนะ จะนอนก็นอนด้วยกันนี่แหละ ฉันไม่ทำอะไรเธอหรอก”

                เชื่อได้ที่ไหนกัน -_-+

                “ไม่เอาหรอก ฉันไม่ไว้ใจนาย”

                “อ้อ เธอเป็นพวกไว้ใจคนยากสินะ แต่ฉันไม่ใช่คนฉวยโอกาสผู้หญิงเหมือนไอโอดีน ไว้ใจได้ ดินสอเขาก็บอกเธอแล้วนี่”

                “นายแอบฟังที่ฉันคุยกันเหรอ” ต้องเป็นตอนนั้นแน่ๆ ตอนที่ฉันอยู่ในบ้านของดินสอแล้วคุยกันเรื่องหมอนี่ อายจัง เขาได้ยินที่ฉันนินทาเขาทั้งหมดเลยสินะ -O-

                “บ้านเงียบจนได้ยินเสียงมดเดิน พวกเธอพูดกันฉันได้ยินหมดนั่นแหละ” น่าอายจัง (_ _)

                “ก็ฉัน...”

                “ช่างเถอะ จะนอนกันยังไงเดี๋ยวก็ได้รู้ ว่าแต่เรื่องของเธอเถอะ ไปขอโทษดินสอมาหรือยัง”

                “นายเป็นห่วงดินสอเหรอ?” อะไรก็พูดถึงแต่ยัยนั่น แอบชอบยัยติ๊งต๊องปัญญาอ่อนนั่นล่ะสิ แหม ผู้ชายคนนี้ดูไม่ยากเลยจริงๆว่าคิดอะไรอยู่

                “ใช่ ยัยนั่นไร้เดียงสาอ่อนแอจะตายไป หรือเธอไม่ห่วงเพื่อนตัวเอง” ตอบคำถามด้วยสีหน้านิ่งๆและพูดแบบตรงๆไม่อ้อมค้อมแบบนี้สรุปชอบยัยนั่นหรือไม่ชอบกันแน่ ผู้ชายคนนี้เดาทางยากจริงๆ แต่เขาทำตัวเหมือนผู้ใหญ่ที่กำลังสั่งสอนเด็กน้อยหน้าตาดีแต่นิสัยเสียอย่างนั้นแหละ

                “เป็นห่วงสิ นายไม่ต้องคิดมากหรอก ดีกันตั้งนานแล้ว -_-”

                “เหรอ...งั้นก็ดี เอ้า รางวัล ^^” กัปตันหยิบเซ็ทดูแลผิวพรรณที่บรรจุอยู่ในถุงใสๆสวยงามบนเตียงยื่นให้ฉัน เอะ หมายความว่าว่าไง เขาจะให้ฉันจริงๆเหรอ

                “ฉันไม่ได้ไปขอโทษดินสอเพราะต้องการของๆนาย เพราะฉะนั้นนายเก็บไว้ใช้เองเถอะ”

                “ฮะๆ ถึงเธอไม่คืนดีกับดินสอยังไงฉันก็ให้เธออยู่ดี ผลิตภัณฑ์นี่เป็นแบรนด์ของพี่สาวฉัน ที่บ้านมีเยอะแล้วล่ะ” เขามีของแบบนี้เต็มบ้านเลยเหรอ ก็ว่าทำไมหน้าถึงได้ใสวิ้งอย่างกับเด็กแรกแย้ม ที่แท้ก็ใช้ครีมของพี่สาวตัวเองนี่เอง น่าอิจฉาจัง

                “เอาไปสิ”

                “ให้ฉันจริงนะ ไม่ได้มีแผนใช่มั้ย” ผู้ชายคนนี้อาจจะวางแผนอะไรอยู่ก็เป็นได้ อยากได้แต่ไม่กล้ารับอ่ะ

                “ไม่มีแผนอะไรทั้งนั้น บอกแล้วว่าฉันไม่เหมือนกับไอโอดีน”

                “นั่นสิ นายดีกว่าหมอนั่นตั้งเยอะ” ฉันรับเซ็ทดูแลผิวพรรณนั่นจากมือของกัปตัน ก็ของมันดีแถมยังฟรีอีกต่างหาก คนที่รักสวยรักงามอย่างฉันไม่สนใจข้อเสนอแบบนี้ก็แปลกแล้ว นายกัปตันดูๆแล้วก็ไม่มีพิษมีภัยนะ ถึงหน้าตาหมอนี่อาจจะดูเจ้าเล่ห์ แต่ก็คงไม่เลวร้ายเหมือนกับนายไอโอดีนนั่นหรอก

                จ๊อก...

                เอ๊ะ เสียงอะไร มันมาจากไหน แล้วทำไมท้องฉันมันสั่นล่ะ -O-

                “ฮ่าๆ เธอคงหิวสินะ”

                “คงจะอย่างนั้น ฉันยังไม่ได้กินอะไรมาเลยนี่” ตั้งแต่ภารกิจเขาวงกตนั่นจบลงก็กินไปนิดเดียวเอง แล้วยังต้องแบกกระเป๋าสี่ห้าใบจากบ้านกลางป่ามาบ้านโอเวอร์ไนท์หลังนี้อีก เหนื่อยโคตร! พลังงานฉันเหลือน้อยเต็มทนแล้ว หิว หาอะไรให้ฉันกินที! TOT

                “ฉันก็หิวเหมือนกัน งั้นลงไปหาอะไรกินด้วยกันมั้ย?”

                “ก็ดีเหมือนกัน”  ฉันวางเซ็ทความสวยลงบนโต๊ะใสแล้วเดินตามกัปตันออกจากห้อง รู้สึกดีจังที่ได้เช็ทนั่นมาครอบครอง รู้สึกจะสวยขึ้นในอีกไม่นาน >_< แต่พอได้อยู่กับนายกัปตันนี่แล้วก็รู้สึกได้ว่าเขาเป็นคนที่ดีมาก นึกๆดูเขาก็คอยสั่งสอนฉัน บอกให้ฉันไปขอคืนดียัยดินสอ พูดเตือนสติเตือนใจ นี่มันพ่อพระชัดๆ อา...ถึงหน้าเขาจะเจ้าเล่ห์และชอบทำตัวเงียบ แต่เขาก็ไม่ได้เลวร้ายนี่นา

 

                ห้องรับประทานอาหารโอเวอร์ไนท์หมายเลข 4

                “อ้าวทิงเจอร์ พี่กัปตัน ลงมาหาอะไรกินเหมือนกันเหรอคะ” เสียงสดใสเหมือนกับเด็กน้อยทักทายฉันกับกัปตันที่เพิ่งเข้ามาในห้องอาหาร ยัยดินสอก็อยู่นี่นา ร็อปเป้ด้วย           

                “อื้ม ยัยนี่ท้องร้องน่ะ ก็เลยพาลงมา”

                “ช่างท้องฉันเถอะน่า ว่าแต่เธอเถอะ เมื่อกี้ก็เพิ่งกินขนมปังปิ้งไปไม่ใช่เหรอ” ฉันถามดินสอพลางนั่งลงบนเก้าอี้ตัวข้างๆยัยนั่น ทำไมยัยนี่ถึงได้กินเยอะขนาดนี้นะ เมื่อกี้ตอนอยู่บนห้องพี่ร็อปเป้ก็เอาขนมปังมาให้ ตอนนี้ยังนั่งโซ้ยสปาเก็ตตี้อีก ฉันก็อยากกินเหมือนกันนะ

                “ไม่อิ่มน่ะ แหะๆ >_<” ยัยดินสอทำท่าแอ๊บแบ๊วแล้วยกมือขึ้นเกาหัวตัวเองเบาๆ ฮึ่ย หมั่นเขี้ยวยัยหน้าแมวนี่ชะมัด!

                “กินอะไรดีล่ะ พวกเราต้องทำมันเองเหรอ?” กัปตันโพล่งขึ้นบ้าง

                “นั่นสิ ฉันทำอาหารไม่เป็นนะ =_=” ใครได้กินอาหารฝีมือฉันนี่ได้สิ้นชีพแน่

                “ฉันทำให้ก็ได้ ^^” โอ๊ะ พ่อครัวในดวงใจฉันเสนอตัวจะทำอาหารให้ล่ะ พี่ร็อปเป้เป็นผู้ชายในฝันของผู้หญิงหลายๆคนเลยนะ 1 ในผู้หญิงพวกนั้นก็มีฉันด้วย >_<

                “ไม่ต้องพูดว่าจะทำเลยพี่ร็อปเป้ ที่นี่เค้ามีอาหารสำเร็จรูปให้นะ แค่เอาไปอุ่นในไมโครเวฟก็ได้กินแล้ว” ดินสอพูดขึ้นบ้าง งั้นไอ้สปาเก็ตตี้ที่เธอกินอยู่นี่ก็คืออาหารสำเร็จรูปที่เอาเข้าเวฟก็รับประทานได้เหรอ ผัดขี้เมาที่อยู่ตรงหน้าร็อปเป้ก็เป็นอาหารสำเร็จรูปใช่มั้ย ทำไมมันน่ากินแบบนี้ล่ะ โอ๊ย จะสำลักน้ำลายตัวเองตายแล้ว TOT

                “ฮ่าๆ เธอใช้ไมโครเวฟเป็นมั้ยล่ะ?” ร็อปเป้ถามฉัน อา...ยังไงดีล่ะ จะว่าใช้มันก็ใช้เป็นนะ แต่ตอนเอาออกมามันร้อนเกินไปน่ะสิ กลัวจะทำจานตกแตก

                “แค่ไมโครเวฟนะ ฉันใช้เป็นอยู่แล้ว”

                “งั้นก็ฝากด้วยแล้วกัน ฉันเอาเหมือนเธอ ^^” กัปตันที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามฉันส่งยิ้มให้ แบบนี้มันใช้งานกันชัดๆ อยากกินก็ไปทำเองเซ่ -O-

                “อ้าว อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาเลยนะ”

                “อะไร นายก็หิวเหมือนกันเหรอไอโอดีน” ชื่อของชายคนนั้นเป็นเหมือนคำสาป เพียงแค่ได้ยินชื่อนั้น ฉันถึงกับนิ่งสนิท ตาบ้านี่ ทำไมต้องอยู่ที่นี่ด้วย!

                “มารอกินฝีมือบัทเทอร์น่ะ ^^”

                “ไอโอดีนมานั่งตรงนี้สิคะ ฉันทำเสร็จแล้ว” ยัยบัทเทอร์ส่งเสียงเจี้ยวจ้าวเรียกนายหัวแดงให้ไปหา ฉันนั่งเงียบไม่พูดไม่จาและไม่หันไปมองคู่นั้นเลยแม้แต่น้อย

                “เสียงเธอนี่น่ารำคาญชะมัด -_-” กล่องแก้วที่กำลังกดน้ำร้อนพูดขึ้น โดนใจเจ๊มาก ฉันก็รำคาญเสียงดี๊ด๊าบ้าผู้ชายของยัยนี่เหมือนกัน ถ้าฉันเป็นแม่ยัยบัทเทอร์ฉันจะพานางไปหาหมอให้หมอผ่าเอาความบ้าผู้ชายออกจากตัวนาง ชีวิตนางคงจะดีขึ้นไม่น้อย

                “ไม่อยากได้ยินก็ปิดหูสิยะ!”

                “กล่องแก้ว! เมื่อไหร่จะทำเสร็จ ฉันหิวแล้วนะ!” ในที่สุดสมาชิกโอเวอร์ไนท์ก็มากันครบ นายร็อคหน้าโหดเดินเข้ามาในห้องอาหารพร้อมกับเสียงโวยวายที่เป็นเอกลักษณ์ นี่มันห้องอาหารนะไม่ใช่ร้านก๋วยเตี๋ยวหน้าปากซอย ตะคอกเสียงดังอย่างกับคุณลุงที่นั่งรอก๋วยเตี๋ยวมา2ชั่วโมงแต่ก็ไม่ได้กินสักที ฉันเริ่มจะหงุดหงิดกับเสียงกวนประสาทพวกนี้แล้วนะ

                “อยากกินก็ทำเองสิ”

                “ฉันทำไม่เป็น!!” โอ๊ย ไปทะเลาะกันที่อื่นเซ่ ฉันหนวกหู TOT

                “ทะเลาะกันอย่างกับพี่น้องแย่งของเล่น ไร้สาระเหมือนเธอเลยเนอะ” ไอโอดีนเดินมาหยุดอยู่ข้างๆพลางยกมือขึ้นมาวางบนบ่าฉันเบาๆ

                พั่บ!

                ฉันปัดมือของหมอนั่นออกแล้วลุกขึ้นพรวดจนทำให้ดินสอเงยหน้ามาฉันอย่างตกใจ                 “ฉันไม่หิวแล้ว นายอยากกินก็ทำเองแล้วกัน ฉันขึ้นห้องล่ะ” ฉันพูดกับกัปตันและเดินผ่านไอโอดีนที่ยืนนิ่งเป็นรูปปั้นออกไปจากห้องอาหารนี้ทันที ทำไมหมอนี่ต้องมาอยู่ที่นี่ แล้วทำไมถึงได้ทำตัวปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น  หึ หมอนั่นมันไม่คิดอะไรหรอก แน่นอนอยู่แล้ว เขาคงจะสนุกที่เห็นฉันหลบหน้าหลบตาแบบนี้

 

                โอเวอร์ไนท์หมายเลข 4 ห้องหมายเลข 401 ทิงเจอร์ & กัปตัน

                ฟุ่บ!

                ฉันทิ้งตัวลงนอนบนเตียงสีขาวพลางมองไปที่เซ็ทความงามที่นายกัปตันยกให้ เพียงแค่มองมันก็ทำให้หัวใจฉันเสียววูบวาบ รู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก ก็ฉันจะได้ใช้มันแล้วนี่! แบรนด์นี้มีชื่อเสียงโด่งดังและมีคุณภาพมากถึงมากที่สุด ยอดขายก็พุ่งทะลุหลายร้อยล้านจัดว่าเป็นสินค้าที่ใครไม่ได้ใช้ถือว่าเชยมาก แค่คิดว่าจะได้ใช้มันหลังอาบน้ำเสร็จก็แฮปปี้แล้ว มีความสุขจนลืมไปว่าเมื่อกี้หงุดหงิดเรื่องของนายหัวแดงนั่น ก็ดีแล้วนี่ เรื่องของอีตานั่นอย่าให้มันมาทำให้คนสวยอย่างฉันหงุดหงิดเลย หมอนั่นไม่มีค่าให้ฉันต้องมาเดือดร้อนใจหรอก รกสมองจะตายไป คิดบวกได้แบบนี้แล้วก็แล้วก็ไปอาบน้ำดีกว่า อยากจะใช้ไอ้โลชั่นเซ็ทนั่นจะตายอยู่แล้ว >O<

                ซ่า!!

                ฉันเปิดก๊อกฝักบัวล้างฟองสบู่น้ำนมข้าวออก สมแล้วที่เป็นของจากแบรนด์ดัง กลิ่นหอมไม่พอสบู่ยังมีขนาดเล็กอีก ของมันดีทำไมไม่ทำให้มันใหญ่กว่านี้หน่อยเล่า คุณผู้หญิงเขาใช้เปลืองนะยะ! -_- แต่มันก็ให้ความชุ่มชื้นดีมาก ผิวที่แห้งกร้านของฉันกลับมามีชีวิตชีวาเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ฟินมาก >_<

                พึ่บ!!

                “เฮ้ย!! O_O” ท..ทำไมไฟถึงดับ หลอดไฟเสียเรอะ? บ้าน่า นี่มันบ้านพักหลังใหญ่จากรายการโอเวอร์ไนท์ที่โด่งดังเลยนะ ไม่น่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ได้ ทีมงานเขาไม่ได้เช็คมาก่อนเรอะ!

                แอด...

                นั่นมันเสียงคนเปิดประตูนี่! นายกัปตันมาแล้วเหรอ? แต่ทำไมเสียงเปิดประตูมันถึงลากยาวอย่างกับหนังผีอย่างนั้นล่ะ เอ๊ะ! หรือว่าจะเป็นผีจริงๆ!

                ฉันรีบคว้าเสื้อผ้ามาใส่อย่างเร็ว มันหลอนจนไม่ยอมเช็ดตัวก่อนใส่เสื้อเลยล่ะ ก็มันน่ากลัวนี่! อยู่ดีๆไฟก็ดับแล้วยังมีเสียงประหลาดๆอีก มันหมายความว่ายังไงกัน ฉันไม่ได้โดนผีอำอยู่ใช่มั้ย TOT

                แอด...

                ฉันค่อยๆเปิดประตูห้องน้ำแล้วโผล่หัวออกมาพลางมองไปรอบๆ ทั้งห้องมืดสนิท มีเพียงแค่แสงจันทร์ลอดผ่านหน้าต่างมาเท่านั้น  ไม่เห็นจะมีคนเลยนี่ แล้วเสียงแอดเมื่อกี้มันคืออะไร เสียงเปิดประตูจากข้างห้องเรอะ เอ๊ะ แต่มันก็แปลกนะ ถ้าไฟมันดับจริงๆทำไมคนที่อยู่ข้างล่างไม่กรี๊ดล่ะ ปกติถ้าไฟดับแบบนี้พวกผู้หญิงจะตกใจและส่งเสียงกันไม่ใช่เหรอ หรือว่าพวกนางไม่ตกใจกัน -_- ที่น่าแปลกไปกว่านั้นคือข้างนอกยังสว่าง! ฉันยังเห็นแสงไฟที่ลอดผ่านใต้ประตูห้องอยู่เลย ไฟมันไม่ได้ดับจริงๆสักหน่อย ใครเล่นตลกอะไรกับฉันอีกเนี่ย

                ฉันก้าวเท้าออกมาจากห้องน้ำหลังจากที่หลบซ่อนอยู่นาน ไม่รู้ว่าจะซ่อนตัวทำไม มันไม่ได้มีอะไรสักหน่อย เอ๊ะ เมื่อกี้ตาไม่ได้ฝาดใช่มั้ย เหมือนหางตาสวยๆของฉันจะเหลือบไปเห็นเงาดำๆอะไรบางอย่างบนเตียง คงจะไม่ใช่...

                ตึกๆๆ

                พึ่บ!!

                ฉันวิ่งไปเปิดสวิตซ์ไฟข้างประตูทันที เป็นไปอย่างที่คาด ไฟยังใช้งานได้ตามปกติ มันไม่ได้ดับสักหน่อย ใครกันที่กล้าแกล้งฉันแบบนี้ เกือบหลุดกรี๊ดตกใจกลัวจริงๆแล้วมั้ยล่ะ! ใคร ใครที่แกล้งฉันแบบนี้ ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น ต้องเป็นเงาปริศนาที่ฉันเห็นเมื่อกี้นี้แน่ๆ!

                “กัปตัน!!”

                “ฮ่าๆ เธอนี่ตลกชะมัด วิ่งจนหัวจะทิ่มพื้นอยู่แล้ว ฮ่าๆ” หนอย! ที่แท้ก็เป็นอีตาเจ้าเล่ห์นี่เองที่เป็นเจ้าของเงาปริศนานั่น แล้วยังมีหน้ามาหัวเราะเยาะคนอื่นอีก แล้วฉันก็ไม่ได้วิ่งเร็วจนหัวจะทิ่มพื้นด้วย อย่ามากล่าวหานะ >_<

                “นายเล่นบ้าอะไรเนี่ย! ถ้าฉันช็อคตายขึ้นมาจะทำยังไง”

                “เธอไม่ตายง่ายๆหรอกน่า”  กัปตันยิ้มมุมปากแล้วนั่งกอดอกบนเตียงนุ่มๆ นั่นมันเตียงนะไม่ใช่โซฟา ถ้าอยากจะนั่งก็ลงมานั่งที่โซฟาสิ -_-

                “แกล้งฉันทำไม ไม่ตลกนะจะบอกให้”

                “ฉันนั่งรอเธอตั้งนานก็ไม่ออกมาสักที ก็เลยแกล้งให้ตกใจจะได้รีบออกมาไวๆ เห็นมั้ย ได้ผลด้วย ^^”

                เคาะประตูยังง่ายกว่าอีก =_=

                “นายมันเพี้ยนชะมัด มีอะไร ทำไมต้องรอฉันด้วย” ฉันคุยกับนายกัปตันพลางใช้ผ้าขนหนูขยี้หัวตัวเองหน้ากระจกโต๊ะเครื่องแป้ง หมอนี่มีเรื่องอะไรจะคุยกับฉันหรือเปล่านะ ทำไมต้องนั่งรอฉันที่อาบน้ำนานยิ่งกว่าหอยทากเดินด้วย

                “ดูจานบนโต๊ะนี่ก่อนสิ ฉันเอามาให้เธอ”

                “หืม?” ฉันหันไปมองจานบนโต๊ะกระจกใสหน้าโซฟาตัวน้อย อ๊ะ นั่นมันไข่เจียวนี่ เขาเอามาให้ฉันเหรอ?

                “หิวอยู่ไม่ใช่หรือไง กินซะสิ”

                “-O-” อึ้ง! นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับสมองของเขา ทำไมเขาต้องเอาไข่เจียวมาให้ฉันด้วย มันต้องมีแผนอะไรอยู่แน่ๆ

                “ทำไมต้องทำหน้าตกใจอย่างนั้นด้วย คิดว่าฉันจะเจียวไข่ไม่เป็นหรือไง -_-”

                “หา! นายทำเอง? -O-” ท่าทางหมอนี่ดูเหมือนคนทำอาหารไม่เป็นนะ ขนาดภารกิจที่ให้ทำอาหาร คู่ของนายกัปตันกับดินสอยังทำได้แค่ซุปน้ำเปล่าเลย ไข่เจียวนี่มันเกินความสามารถของเขาเลยนะ

                “ใช่ จะกินหรือไม่กิน?”

                “กินสิ!” จะไม่กินได้ยังไง น้องพยาธิมันประท้วงรุนแรงจนแสบไส้ไปหมดแล้ว TOT

                “ดูท่าเธอจะเกลียดไอโอดีนขั้นรุนแรงเลยนะ ถึงกับยอมทิ้งข้าวเพื่อไปให้พ้นๆนายนั่น” เขาสังเกตเห็นด้วยเหรอ? โอ๊ย ใครไม่รู้ก็บ้าแล้ว ฉันแสดงท่าทางออกมาอย่างชัดเจนซะขนาดนั้น ก็หมอนั่นมันน่ารังเกียจจริงๆนี่

                “อืม เกลียดมากจริงๆ”

“...” จู่ๆกัปตันก็เงียบไป เงียบแบบนี้มันรู้สึกแปลกๆนะ -_- ฉันเดินไปนั่งที่พรมหน้าโซฟาแล้วจัดการกับไข่เจียวฝีมือคุณกัปตัน อื้อหือ…เย็นมาก! หมอนี่นั่งรอฉันอาบน้ำจนไข่เย็นเลยเหรอเนี่ยฉันต้องอาบน้ำนานมากแน่ๆ -O-

                “ยังไงก็รีบๆกินซะ จะได้นอนไวๆ ^^” พูดจบ อีตานั่นก็กระโดดขึ้นเตียงแล้วกลิ้งไปมาอย่างกับเด็กสามขวบ

                “นั่นมันเตียงฉันนะ เตียงนายอยู่ตรงนี้!” ฉันชี้ไปที่โซฟาสีขาวตัวน้อยที่ตั้งอยู่ด้านหลังของฉัน เตียงนุ่มๆนั่นต้องเป็นของฉันเพียงผู้เดียว มนุษย์ตนอื่นอย่าแตะ!!

                “โซฟาเขามีไว้นั่งไม่ได้มีไว้นอนนะ เอ๊ะ หรือบ้านเธอใช้โซฟานอน? งั้นเธอก็นอนบนนั้นไปคนเดียวแล้วกัน เตียงนี่ของฉันคนเดียว ^^”

                “นายเป็นผู้ชายนะ ผู้ชายที่ดีต้องเสียสละให้ผู้หญิงน่ารักๆอย่างฉันเซ่ ลงมาจากเตียงของฉันเดี๋ยวนี้!” ฉันลุกขึ้นใช้มือข้างหนึ่งชี้หน้าตาบ้านั่น อีกข้างก็ถือจานข้าวไว้ในมือ แถมไข่ก็เต็มปากอีก ภาพพจน์ที่สวยงามที่สั่งสมมาตั้งแต่กำเนิดมันหายไปหมดแล้ว แต่ฉันไม่แคร์! ฉันยอมไม่ได้ที่จะให้หมอนั่นเป็นเจ้าของเตียงราชินี ไม่ยอมเด็ดขาด!>O<

                “ไม่ใช่เตียงของเธอสักหน่อย เตียงของเราต่างหาก”

                “กรี๊ด!! นายอย่ามาพูดอะไรทะลึ่งแบบนั้นนะ! >O<”

                “เอ้า ก็มันจริงนี่ เตียงนี้สร้างมาสำหรับสองคน ซึ่งก็คือเธอกับฉัน มันจะเป็นของใครคนใดคนหนึ่งได้ยังไง อีกอย่าง ฉันไม่ยอมนอนบนโซฟานั่นหรอก แคบจะตายไป” ทำไมอีหมอนี่ถึงได้ดื้อด้านแบบนี้นะ แค่เสียสละให้ฉันคืนเดียวมันจะเป็นอะไรไป แต่โซฟามันก็น้อยไปจริงๆ ฉันยังนอนไม่ได้เลยอ่ะ แล้วคืนนี้ฉันจะนอนที่ไหนเล่า จะให้คนสวยนอนบนพรมหรือไง ไม่โหดร้ายไปเหรอ? TOT

                “อย่าเรื่องมากเลยน่า เตียงมันไม่ได้แคบถึงขนาดที่เราต้องนอนชิดกันนี่” แล้วถ้านอนดิ้นไปดิ้นมาตื่นเช้ามาหน้าเกือบชนกันเหมือนในซีรีย์เกาหลีจะทำยังไง ผู้ชมทางบ้านเขาเห็นหมดเลยนะยะ และฉันก็ไม่อยากเห็นตัวเองในสภาพแบบนั้นด้วย

                “ก็รู้น่า แต่ฉัน...”

                “ฉันไว้ใจได้”

                “คือ...”

                “งั้นก็นอนที่แคบๆนั่นไปคนเดียวแล้วกัน ราตรีสวัสดิ์” กัปตันโบกมือลาอย่างนางงามโลกแล้วล้มลงไปตามแรงโน้มถ่วง ม่ายยยยยย!! เขาจะนอนบนนั้นไม่ได้ นั่นมันบัลลังก์ของราชินีนะ! ฉันตรงดิ่งไปที่เตียงนั่นแล้วคว้าผ้าห่มผืนโตนั่นมาไว้ในมือ (ใช้สองมือไม่ได้ อีกข้างถือจานข้าวอยู่ -_-)

                “อย่าปลุกฉัน ฉันจะหงุดหงิดมากถ้ามีใครมารบกวนเวลานอน ฉันพูดจริง”

                เฮือก! O_O

                เขาพูดเสียงแข็งจนทำให้ฉันวางผ้าห่มไว้อย่างเดิม บางทีอีตาหมอนี่ก็น่ากลัวเหมือนกันแฮะ ไม่ยุ่งแล้วก็ได้ T^T สรุปยังไงอ่ะ ฉันต้องนอนบนพรมจริงๆเหรอ ทำร้ายกันมากเกินไปแล้วนะ! แต่เรื่องนั้นเอาไว้ก่อนเถอะ กินข้าวไข่เจียวเย็นนี่ให้หมดก่อนแล้วค่อยว่ากันอีกที ฉันไม่อยากนอนบนโซฟาจริงๆนะ TOT

                หลังจากฉันกินเสร็จก็ลงไปล้างจาน ด้านล่างของบ้านเงียบมาก กี่โมงแล้วก็ไม่รู้แต่คงจะดึกมาก ก็ไม่มีสิ่งมีชีวิตคนอื่นอยู่เลย พี่เอพี่อีฟก็ไม่อยู่ คุณพี่ทีมงานก็ไม่เห็น พวกพี่ๆทีมงานเขานอนที่บ้านอีกหลังหรือเปล่านะ บ้านสำหรับทีมงานโดยเฉพาะอะไรทำนองนี้หรือเปล่า? หลังจากล้างจานและเดินสำรวจบ้านยามค่ำคืนเสร็จก็ขึ้นบันไดไปชั้นที่ 4 เพื่อแปรงฟันและเข้านอน จะเข้านอนได้ยังไงล่ะ! เตียงฉันมันถูกนายกัปตันครอบครองไปแล้ว ฉันไม่มีที่นอนอีกต่อไปแล้ว TOT

                ฉันยืนมองดูชายผมดำที่นอนอยู่ใต้ผ้าห่มสีขาวหันหน้าเข้ากำแพงอย่างนิ่งสนิทไม่กระดุกกระดิกแม้แต่น้อย เขานอนท่านี้มาตั้งนานแล้วนะ ไม่เมื่อยบ้างหรือไงยะ เป็นฉันนอนดิ้นเปลี่ยนไปสามสิบท่าแล้ว ทนนอนได้ยังไงเนี่ย -_- แต่ดูอีหมอนี่ก็นอนประหยัดที่ดีเหมือนกันนะ เหลือที่ว่างเยอะมาก นอนกันสามคนยังได้เลย นี่เขาเหลือที่ไว้สร้างบ้านหรือไงยะ เอ๊ะ หรือเหลือไว้ให้ฉัน? หวังดีประสงค์ร้ายหรือเปล่า กะจะหลอกให้ฉันนอนบนเตียงแล้วแอบกอดฉันตอนเผลอล่ะสิ ไว้ใจไม่ได้เลยจริงๆ

                คลิก!

                “นอนตรงนี้แล้วกัน!” ฉันพึมพำกับตัวเองเบาๆพลางปิดไฟดวงสุดท้าย ตอนนี้ห้องทั้งห้องมืดสนิท คงอยากรู้แล้วล่ะสิว่าฉันจะนอนยังไง หึ! และที่นอนของคนสวยก็คือ โซฟา! ก็มันไม่มีที่ให้นอนแล้วนี่ บนเตียงก็ไม่ปลอดภัย จะให้นอนกับชายแปลกหน้าได้ยังไง แค่คิดว่าจะได้นอนใต้ผ้าห่มผืนเดียวกันก็ขนลุกแล้ว อี๊! ขนลุกเลย! แม่ส่งฉันมารายการบ้านี่ทำเนี่ย ไม่เห็นจะมีประโยชน์อะไรต่อตัวฉันเลย มีแต่เสียหายและเสียเปรียบ แม่ต้องการอะไรจากลูกสาวคนนี้ คุณแม่รู้ไหมว่าคุณลูกสุดที่รักต้องทรมานแค่ไหน ต้องทนขมขื่นทุกค่ำคืน ทิงเจอร์อยากกลับบ้าน TOT

                ฮือ ฮือ ฉันต้องนอนบนโซฟาบ้านี่จริงๆใช่มั้ย TOT ฉันค่อยๆเอนตัวลงนอนช้าๆ อา...มันเป็นสัมผัสที่นิ่มนวลมาก แต่...มันเล็กเกินไป! แค่พลิกตัวเปลี่ยนท่านอนก็จะตกลงมาแล้ว มันไม่สะดวกสบายเหมือนโซฟาขนเฟอร์ที่บ้านเลย ยิ่งอยู่ในรายการนี้นานเท่าไหร่ก็ยิ่งคิดถึงบ้านมากเท่านั้น คิดถึงอาหารฝีมือป้ามด คิดถึงรถโฟล์คสีเหลือง คิดถึงเตียงราชินีที่บ้าน พูดแล้วก็แค้นหมอนั่น ไม่มีความเสียสละเอาซะเลย!

                ฮึ่ย! โมโห! ชีวิตของฉันมาคู่กับความสะดวกสบายมาตลอด ฉันไม่ยอมนอนบนโซฟาแคบๆนี่หรอก ฉันต้องได้นอนบนเตียงนี้!

                ฟุ่บ!

                ฉันจะไม่สนใจอะไรแล้ว! ฉันตัดสินใจยัดตัวเองเข้าไปใต้ผ้าห่มสีขาว นี่แหละ ความสบายของจริง! ทางรายการอุตส่าห์จัดเตียงสวยๆสำหรับคนสวยอย่างฉันเชียวนะ จะปฏิเสธน้ำใจดีๆของพี่ทีมงานได้ยังไง ถ้าพี่ทีมงานให้ฉันนอนเตียงเดียวกับนายกัปตัน ฉันก็ต้องทำ! พี่เขาอุตส่าห์จัดเตียงราชินีนี้มาให้ คนสวยต้องสนองสิคะ (ข้ออ้าง TOT) เอาจริงๆฉันก็ไม่อยากนอนกับตาบ้านี่หรอก แต่มันจำเป็นจริงๆ โซฟาก็แคบไป จะให้นอนบนพรมก็ยังไงอยู่ ฉันไม่ใช่หมานะยะที่จะนอนบนพรม มันก็เหลือเพียงเตียงนี่แหละที่เป็นทางเลือกสุดท้าย แต่ยังไงฉันก็นอนห่างจากนายกัปตันเกือบสุดขอบเตียง แต่มันก็ยังสบายกว่าโซฟาแหละน่า ฉันจะเชื่อใจนายก็ได้ ลองดูสักครั้งก็ไม่เสียหาย ถ้านายเป็นคนดีอย่างที่ดินสอว่าจริงๆ นายคงเป็นผู้ชายที่ปลอดภัย

 

               

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.6 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา