Overnight คืนนี้กับ 4 หัวใจของยัยวายร้าย

9.6

เขียนโดย LazyGirl

วันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 00.34 น.

  32 บท
  189 วิจารณ์
  42.56K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 10.48 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

21) อย่าให้หก

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

อย่าให้หก

 

 

                เราทั้งหมดนับสิบกว่าคนรวมคุณลุงตากล้องก็พร้อมใจกันเดินขึ้นไปข้างบนเพื่อขึ้นเครื่องเล่นอันหวาดเสียวนั่น ผู้คนมากมายยืนมองดูจากด้านล่าง บ้างก็ส่งเสียงกรี๊ด บ้างก็ควักโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายรูป ดูชะนีนางนั้นสิยกโทรศัพท์ขึ้นมาอัดโซเชียลแคมแล้วบอกว่า ‘ตอนนี้ฉันอยู่กับสาวสวยและหนุ่มฮอตทั้งแปดคน อุ๊ย พวกเขาดูดีมาด แม่หัวใจจะวาย!’ อะไรทำนองนี้ เฮ้อ เป็นคนสวยนี่มันลำบากจังเลยเยอะ โฮะๆ ^O^ (มโน)

                “ตอนนี้พวกเราขึ้นมาอยู่ข้างบนแล้วนะคะ หลังจากนี้เราจะส่งพวกคุณให้กับเจ้าหน้าที่แล้ว ตั้งใจฟังด้วยนะคะ ^^” พี่อีฟประกาศบอกแก่พวกเราทุกคนแล้วก้าวถอยหลังหายไป พวกเขาจะไม่ขึ้นไปกับพวกเราเรอะ -O-

                “อุ๊ยๆ พิธีกรรายการจะไปไหนกันคะ พวกคุณก็ขึ้นไปเล่นด้วยสิ ^^” เจ้าหน้าที่ดูแลเครื่องเล่นสาวผมน้ำตาลประกายแดงดึงแขนสองพิธีกรให้กลับมาที่เดิม ดูเหมือนคุณพิธีกรหลักจะไม่รอดแล้วสิ ^O^

                “ตอนนี้ฉันรับหน้าที่เป็นพิธีกรชั่วคราวแทนทั้งสองคนนี้นะคะ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ” เธอคนนั้นยิ้มร่าแล้วโบกมือไปให้ทุกคนที่ยืนรออยู่ข้างล่าง ยัยนี่จะมาเป็นพิธีกรชั่วคราวเหรอ นางก็เหมาะดีนะ พูดมากซะจนน่ารำคาญ -_-

                “ยินดีต้อนรับชาว Owc. ทุกท่าน ดิฉันตัวแทนจากเครื่องเล่น Sky Coaster ยินดีต้อนรับทุกท่านสู่ Storm world ดินแดนแห่งความสุขค่ะ ^O^” ยัยนั่นแย่งซีนพี่เอและพี่อีฟเรียกเสียงกรี๊ดจากผู้ชมทางบ้านที่ยืนอยู่ด้านล่าง ยัยนี่มันหาทางดังจากรายการนี้นี่นา แล้วไอ้ประโยคที่หล่อนพูดนั่นพี่พิธีกรของฉันก็พูดไปเรียบร้อยตอนเปิดงานแล้วย่ะ อย่ามาลอกนะ!

                “ทิงเจอร์เป็นอะไร ทำไมทำหน้ามุ่ยอย่างนั้นล่ะ” ดินสอที่ยืนข้างๆบีบมือฉันเบาๆ นี่ฉันแสดงออกทางสีหน้ามากเกินไปอีกแล้วเหรอ -O-

                “เปล่าหรอก ไม่มีอะไร -_-”

                “ทางเรารู้สึกตื่นเต้นมากเลยนะคะที่เป็นเครื่องเล่นแรกในการเปิดฉากความสนุกของทุกท่าน ฮุๆ ^O^” เอายัยพิธีกรดัดจริตนี่ไปหัวเราะไกลๆเท้าฉันไป หมั่นไส้ -_-

                “ตกลงพวกเราจะเล่นกันได้หรือยังครับ?” คนที่ใจร้อนมากที่สุดในรายการยกมือถาม นายร็อคนี่พูดเข้าท่าดีแฮะ ดูยัยนั่นสิ ทำหน้าไม่ถูกเลย ฮ่าๆ ^O^

                “แหม น้องร็อคนี่ใจร้อนจริงๆเลยนะคะ พี่จะปล่อยให้พวกน้องขึ้นเครื่องเล่นตอนนี้เลยก็ได้เพื่อไม่ให้น้องอารมณ์เสีย แต่น้องร็อคคนหล่อของพี่ต้องถ่ายรูปคู่กับพี่หนึ่งรูปหลังจากลงจากเครื่องมาแล้วนะคะ” ยัยนั่นขยิบตาใส่ร็อคที่ยืนหน้าบึ้งเป็นยักษ์ในวรรณคดีไทย จากหน้าแบบนั้นทำให้ฉันรู้ได้เลยว่าหมอนั่นกำลังรำคาญยัยพิธีกรปากมากคนนี้สุดๆ -_-

                “จะอะไรก็ได้ครับ ผมไม่อยากรอแล้ว” ร็อคทำตาดุใส่ยัยนั่นทำเอานางต้องยกมือขึ้นปาดเหงื่อทันที

                “อ..โอเคค่ะ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เรามาจัดที่นั่งกันเลยเถอะ” นางพิธีกรนั่นเดินนำเราไปทางที่มีเครื่องเล่นขนาดใหญ่จอดรออยู่ ดูจากที่นั่งแล้วมันนั่งได้เป็นคู่นี่เนอะ ถ้าเป็นแบบนั้นก็นั่งกับดินสอดีกว่า ^^

                “เธอนั่งกับฉันเถอะ” ฉันพูดกับยัยดินสอที่ยืนสั่นเป็นเจ้าเข้าข้างๆฉัน จะกลัวอะไรขนาดนั้นนะ -_-

                “แบบนั้นก็ดีเหมือนกัน >_<” ยัยนั่นยิ่งบีบมือฉันแน่นยิ่งกว่าเดิม โอ๊ย! กระดูกฉันจะหักมั้ยเนี่ย

                “ก่อนอื่นเราจะให้พิธีกรของเราขึ้นไปก่อนค่ะ” พอยัยนั่นพูดจบก็ผลักพี่เอและพี่อีฟไปทันที “เป็นพิธีกรนี่ทำงานหนักมากเลยนะคะ มาผ่อนคลายโดยการนั่งข้างหน้ากันเถอะ โฮะๆ ^O^” ให้เล่นของเล่นหวาดเสียวแบบนี้มันผ่อนคลายตรงไหน แล้วยังให้นั่งหน้าสุด นี่มันพาไปตายชัดๆ! -O-

                พิธีกรทั้งสองไม่มีทางเลือกจึงฝืนยิ้มแล้วเดินไปนั่งเครื่องเล่นนั่น ยัยเจ้าหน้าที่ที่เป็นพิธีกรชั่วคราวก็ไปจัดการรัดเข็มขัดให้แบบถึงเนื้อถึงตัวแถมยังทำสายตายั่วยวนใส่พี่เออีกต่างหาก ยัยนี่มันร้ายจริงๆ -_-

                “เอาล่ะค่ะ ต่อจากนี้ไปเราจะให้ขึ้นกันแล้วนะคะ ^^”

                “จะอะไรก็ช่างเถอะ มัวแต่พูดมากอยู่ได้น่ารำคาญ” ยัยขานกกระยางบัทเทอร์ยืนม้วนผมตัวเองไปมาแล้วบ่นเสียงดังจนทุกคนหันไปมองนางหมด เก็บความเคืองใส่กระเป่ากางเกงไว้เงียบๆไม่ได้หรือไง ไร้มารยาทสุดๆ -_-

                “ถ้าคุณน้องรีบมากก็เชิญทางนี้เลยค่ะ ^^” ยัยพิธีกรชั่วคราวผายมือยังเครื่องเล่นที่ไร้คนนั่งอีกสิบกว่าคนเชื้อเชิญให้ยัยปากจัดบัทเทอร์ขึ้นไปนั่ง

                “ไปกันเถอะไอโอดีน เราต้องนั่งคู่กันนะ ^^” ยัยนั่นเดินจูงมืออีตาไอโอดีนหัวสีแดงไป เห็นแล้วหมั่นไส้ชะมัด อยากจะเอามีดอีโต้มาตัดแขนพวกแกทั้งสองคนเลย!

                “โอ๊ะๆ ไม่ได้ค่ะ พี่เรียกแค่น้องบัทเทอร์คนเดียว น้องไปนั่งด้านในเลยค่ะ ^^” ยัยพิธีกรนั่นดึงมือของบัทเทอร์ออกจากแขนไอโอดีน

                “หมายความว่ายังไง -O-”

                “หมายความว่าเกมนี้น้องไม่ได้นั่งคู่กับพ่อหนุ่มสุดหล่อคนนี้ยังไงล่ะจ๊ะ ^^” นางพูดแล้วขยิบตาใส่อีหมอนั่นหนึ่งทีก่อนจะลากยัยบัทเทอร์ไปนั่ง

                “เอาล่ะ เพื่อไม่ให้เสียเวลา คนที่พี่เดินไปแตะตัวให้ออกมาด้านหน้านะคะ” พูดจบยัยนั่นก็เดินมาแล้วส่งสายตามายังชายหนุ่มทั้งหลาย ยัยนี่เป็นโรคจิตหรือไง มองผู้ชายอยู่ได้หน้าไม่อาย ขนาดยัยบัทเทอร์บ้าผู้ชายยังไม่มองขนาดนางเลยนะ

                “ทั้งสี่คนที่พี่เลือกไปเมื่อกี้ เดินตามพี่มาเลยค่ะ ^^” พูดจบ ยัยพิธีกรนั่นก็เดินนำไปทางที่นั่งที่อยู่ด้านใน

                “ฉันไปก่อนนะทิงเจอร์ T^T” ยัยดินสอที่ถูกเลือกทำหน้าเหมือนจะร้องไห้แล้วเดินจากไปอย่างกับจะไปลงสนามรบอย่างนั้นล่ะ =_= อ้าว! งั้นก็หมายความว่าฉันไม่ได้นั่งข้างยัยดินสอน่ะสิ! -O- (ความรู้สึกช้า)

                “ทำไมต้องให้พวกเรานั่งเดี่ยวล่ะครับ?” ไอโอดีนที่เพิ่งจะถูกเจ้าหน้าที่คนอื่นๆจัดการล็อคเข็มขัดให้เอ่ยถามขึ้น

                “ทำไมน่ะเหรอ? ก็ไม่รู้สิคะ โฮะๆ ^O^” ยัยนี่มันน่าตบให้คิ้วหลุดชะมัด -_-

                “เอาล่ะ ทีนี้เราก็ได้แล้วนะคะ เริ่มจากคู่ของพิธีกรสาวสวยและหนุ่มหล่อ ถัดลงไปก็เป็น น้องดินสอผู้น่ารัก น้องไอโอดีนสุดหล่อ น้องกล่องแก้วผู้เลอโฉมและคุณนางแบบปากร้าย”

                “นี่เจ๊ว่ายังไงนะ!!” ยัยบัทเทอร์ชะโงกหน้าแว้ดใส่ยัยพี่พิธีกรนั่นทันทีที่ได้ยินประโยคไม่เข้าหู แต่สิ่งที่ยัยพิธีกรนั่นบอกมันก็ถูกแล้วนะ ^O^

                “อุ๊ยขอโทษค่ะ ต้องเรียกว่านางแบบสาวสุดสวยสินะคะ โฮะๆ ^O^” ยัยนั่นยกมือขึ้นปิดปาดหัวเราะก่อนจะหันหน้ากลับมาจ้องหน้าพวกเราที่ไม่ได้ถูกเลือกต่อ

                “ขอโทษที่ทำให้คอยนาน น้องคนหล่อผมสีม่วงคนนี้...” ยัยเจ๊นั่นเอื้อมมือมาจับแขนร็อปเป้ ว้าย1 กล้าแตะเนื้อต้องตัวผู้ชายที่ไม่รู้จักมาก่อนได้ยังไง ไร้ยางอาย! >_<

                “เนื้อแน่นจังเลยนะคะ ^^”

                “ขอบคุณครับ” ร็อปเป้ตอบยัยนั่นด้วยสีหน้านิ่งๆ

                “คุณไปนั่งข้างน้องดินสอนะคะ ^^” อ้าว เอาอีกแล้ว ร็อปเป้ได้คู่กับยัยดินสออีกแล้ว ฉันสิที่ต้องคู่กับดินสอ T^T

                “ส่วนน้องทิงเจอร์นั่งต่อร็อปเป้แล้วตามด้วยกัปตัน และน้องร็อค ตามลำดับนะจ๊ะ ^^” พูดจบนางก็พาเราเดินมาที่เครื่องเล่นนั่นเพื่อจัดหาที่นั่ง เอ่อ...ร้อปเป้นั่งข้างดินสอ แล้วฉันนั่งข้างใครนะ...

                “จะไม่นั่งหรือไง?” เสียงทุ้มต่ำที่ฉันรู้จักเป้นอย่างดีถามขึ้น นั่นทำให้ฉันหันมองเขาทันที

                “ไม่ต้องมายุ่ง” ฉันตอบคำถามหมอนั่นด้วยสีหน้านิ่งๆ เห็นหน้าอีหมอนี่แล้วทำให้นึกถึงเรื่องเมื่อคืน

                “ยังไม่เลิกพูดประโยคนั้นอีกหรือไง?” ไอโอดีนพูดพลางยิ้มเจ้าเล่ห์ ฉันล่ะเกลียดรอยยิ้มนั่นจริง!

                “นั่งที่อื่นได้มั้ยคะ?” ฉันไม่สนคำพูดของหมอนั่นแล้วหันหน้าไปถามยัยพิธีกรชั่วคราวนั่น

                “ไม่ได้แล้วค่ะ” ยัยนั่นตอบพลางผายไปทางทุกคนที่นั่งเรียบร้อย ทำไมถึงได้เร็วขนาดนี้เนี่ย -_-

                “มีปัญหาอะไรเหรอคะคุณน้อง ^^”

                “พี่เคยดูรายการนี้มั้ยคะ?” ฉันถามยัยนั่นเสียงเรียบ

                “เคยสิ พี่เป็นแฟนพันธุ์แท้เลยนะ >_<”

                “พี่ก็รู้ว่าหนูไม่ถูกกับหมอนนี่” ฉันชี้นิ้วไปทางชายผมแดงแล้วจ้องหน้ายัยพิธีกรนั่นอย่างเอาเรื่อง นี่นางตั้งใจแกล้งฉันหรือไง เมื่อวานไม่ได้ดุโทรทัศน์หรือไงว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับฉัน จู่ๆฉันก็โดนลากเข้าไปในห้งอน้ำพร้อมอีหมอนี่แล้วยังจะให้ฉันมานั่งข้างเขาอีกเหรอ คิดว่าฉันอยากนั่งมากหรือไง หา!

                “เอ่อ...ก็เพราะไม่ถูกกันจึงจำเป็นต้องสร้างความสัมพันธ์ที่ดีไม่ใช่เหรอ เอาน่า แค่นั่งแป๊บเดียวเอง ^^” ยัยนั่นส่งยิ้มใจดีให้พลางดันไหล่ให้ฉันนั่งลง ฉันไม่นั่ง!

                “งั้นพี่ก็มานั่งเองสิคะ”

                “ทิงเจอร์” ดินสอที่นั่งข้างหน้าหมอนั่นหันมามองฉันพลางส่ายหัวไม่ให้ฉันทำกิริยาแบบนั้น

                “ขอโทษค่ะ ทิงนั่นตรงนี้ก็ได้”

                “งั้นก็ดีเลยค่ะ คนอื่นๆจะได้เข้ามาได้สักที” ยัยนั่นปาดเหงื่อออกจากหน้าก่อนจะไปเอารั้วที่กั้นไว้ออกให้คนอื่นๆได้เข้ามา หมายความว่าพวกคนที่ยืนรออยู่ข้างนอกก็จะขึ้นมาเล่นด้วยกันเหรอ? -_-

                “เธอนี่เรื่องมากชะมัด ไม่อยากนั่งกับฉันขนาดนั้นเลย?” หมอนั่นถามด้วยสีหน้าทะเล้น

                “ไม่ต้องยุ่ง” ฉันตอบแล้วมองไปทางอื่นอย่างอารมณ์เสียสุดๆ เจ้าหน้าที่ชายที่ช่วยฉันรัดเข็มขัดเห็นหน้าฉันยังต้องหลบ มันน่ากลัวขนาดนั้นเลยหรือไง?

                “สาวๆและหนุ่มๆทั้งหลายที่นั่งเครื่องเล่นเดียวกับพวกคุณเขาจ่ายบัตรแพงกว่าคนอื่นตั้ง3เท่าเชียวนะคะ เพื่อจะได้ใกล้ชิดชาวหน้าตาดี Owc. จึงต้องลงทุนพิเศษขนาดนี้ เพราะฉะนั้นยิ้มเข้าไว้จนกว่าเครื่องละวนกลับมาที่เดิมนะคะ ^^” ก็นั่นมันภารกิจไม่ใช่หรือไง ให้ยิ้มตลอดไม่ว่าจะกลัวแค่ไหนก็ตาม แต่อารมณ์แบบนี้ฉันยิ้มไม่ออกหรอก -_-

                “อย่าลืมนะคะว่ามีกล้องติดอยู่”

                เกือบลืมไปเลยแฮะ -_-

                “เอาล่ะ ทุกคนพร้อมแล้วนะ กรุณาทำใจให้ปลอดโปร่งด้วยนะคะ โฮะๆ ^O^” พอสิ้นเสียงแหลมๆของยัยนั่นเครื่องเล่นนี่ก็กระตุกทันที ทำเอาคนอื่นๆอย่างยัยดินสอกรีดสนั่นลั่น ยัยนั่นจะเป็นอะไรมั้ยนะ

                “ออกไปแตะขอบฟ้าโลดด ^O^” แล้วเครื่องเล่นที่ชื่อสกายโคสเตอร์ก็เคลื่อนตัวออกไปด้านนอกจนเห็นแสงสว่างสีขาว มันค่อยๆเคลื่อนตัวไปข้างหน้าอย่างช้าๆ ภาพตรงหน้าคือผู้คนมากมายยืนดูอยู่ข้างล่างและตึกรูปร่างประหลาดมากมายในสตอร์มเวิล์ล มันสวยงามและเสียงสันหลังสุดๆ ก็มันสูงโคตรๆเลยนี่!! เอ๊ะไม่สิ ตอนนี้ฉันต้องยิ้ม ยิ้มสิยิ้ม ^O^

                “ฮ่าๆ เธอนี่เพี้ยนหรือไง สูงขนาดนี้แล้วยังมีหน้ามายิ้มอีก” ไอ้หัวแดงหันมาตัวเราะใส่ฉันที่ยิ้มยิงฟันใส่อากาศ

                “ฉันทำตามภารกิจเถอะ ถ้าอยากแพ้ก็เชิญทำหน้ากลัวความสูงตามสบาย” ฉันสะบัดเสียงใส่หมอนั่นแล้วยิ้มให้กับสายลม ก้อนเมฆ ท้องฟ้า อากาศ ลั้ลลา ฉันไม่กลัวความสูงหรอก ^O^

                “ฉันไม่แพ้เธอหรอกยัยเตี้ย” อะไรนะ ใครว่าฉันเตี้ย - -+

                “นี่มันสูงเกินไปแล้วนะ TOT!!” ยัยดินสอตะโกนเสียงลั่นทั้งที่มันยังไม่ทันได้เหวี่ยงอะไรลยสักนิด มันกำลังไต่รางขึ้นไปข้างบนอย่างช้าๆด้วยซ้ำ เอ๊ะ ฉันสังเกตเห็นมือยัยดินสอกำลังบีบไหล่ร็อปเป้อยู่นะ ฉันว่าไหล่ร็อปเป้ร้าวชัวร์ -_-

                “อย่าทำหน้าอย่างนั้นสิ เขาบอกว่าให้ยิ้มตลอดไม่ใช่หรือไง” ร็อปเป้พูดเตือนสติยัยดินสอ

                “ยิ้มไม่ไหวหรอกแบบนี้ TTOTT” ยัยดินสอครวญครางอย่างกับเด็กน้อย ยัยนี่จะเป็นบ้าไปแล้ว -O-

                “กรี๊ด!!! จะตกลงไปแล้ว!! >O<” พี่อีฟที่นั่งอยู่ข้างหน้าสุดกรีดร้องออกมา หา! อะไรจะตก?

                ครืดดดดดดดดดด

                กรี๊ดดดดดดดดดดดด

                กรี๊ด!!!! แม่จ๋าช่วยหนูด้วย!! แบบนี้ใครมันจะไปยิ้มออกล่ะโว้ย!! ไอ้บ้านี่มันเหวี่ยงจนขาจะหลุดออกจากตัวอยู่แล้ว จากเมื่อกี้ที่เห็นวิวสวยงามกลับกลายเป็นอะไรก็ไม่รู้มั่วๆไปหมด ผมฉันตอนนี้คงจะเหวี่ยงตามแรงลมจนเป็นชาวไซย่าไปแล้ว โอ๊ย! ภาพลักษณ์ของฉันไม่เหลืออีกต่อไปแล้ว ตอนนี้มันยิ้มไม่ออกแล้วจริงนอกจากจะอ้าปากแล้วตะโกนออกไปดังๆ

                “อ้ากกกกกกก!!!”

                “ช่วยด้วยยยยยย!!!”

                “กระทิงแดงงง!!!”

                นั่นเป็นเสียงกรีดร้องส่วนหนึ่งเท่าที่สมองอันน้อยๆของฉันจะฟังออก แล้วไอ้กระทิงแดงนี่มันเกี่ยวกันตรงไหนเนี่ย! ชายที่นั่งข้างฉันก็ร้องออกมาเหมือนกัน โอ๊ยอยากจะขำแต่มันขำไม่ออก! ฉี่จะราดอยู่แล้ว!!

                “กรี๊ดดดดด!! >O<”

                ในที่สุดฉันก็ตะโกนมันออกไป ไอ้บ้าเอ๊ย! ใครเป็นคนสรรค์สร้างเครื่องเล่นนิดนี้ขึ้นมาเนี่ย มันทำเอาฉันอยากจะเข้าห้องน้ำขึ้นมาทันทีเลย มันทั้งสูง ทั้งเหวี่ยง ถ้ารัดเข็มขัดไม่ดีนี่ปลิวไปนอกโลกแน่! ไม่นะ!! ฉันยังไม่อยากตายยยย TTOTT

                กึก!!

                เครื่องกระตุกแรงจนทำให้ฉันได้สติมาอีกครั้ง เมื่อมองไปรอบตัวก็พบว่าเราอยู่ที่เดิม นี่เราวนมาครบหนึ่งรอบแล้วเหรอ ทำไมมันไวจัง เมื่อกี้มันเกิดอะไรขึ้นทำไมไม่รู้สึกอะไรสักอย่างเลยล่ะ วิญญาณฉันไปเที่ยวมาอย่างนั้นเหรอ -_-

                “ยัยเตี้ย”

                “อะไร -_-” ฉันหันหน้าไปมองชายหัวแดงที่ผมฟูไม่เป็นทรงอย่างกับไปโดนระเบิดมาอย่างนั้นล่ะ หน้าผากใสเชียวนะแก

                “ได้สติแล้วเหรอ”

                “หืม? -_-” ทำไมเขาถามคำถามแปลกๆ

                “เธอไม่รู้เรื่องอะไรเลยหรือไง -_-”

                “อะไรล่ะ -_-”

                “เธอจับมือฉันอยู่ -_-” ว่ายังไงนะ?

                ฉันก้มมองดูมือและพบว่ามือข้างขวาฉันหายไป มันหลุดไปแล้วเหรอ!!! ไม่สิ มือของฉันผสานกับมือของหมอนั่นอยู่ และที่สำคัญฉันจับมันแน่นมาก!

                “นายทำอะไรกับมือฉันเนี่ย!” ฉันตะโกนพลางดึงมือกลับทันที กรี๊ด! ไม่ฉันนะ ฉันไม่ได้จับมือหมอนั่น อี๊! >_<

                “เธอต่างหากมาจับมือฉันทำไม ไม่รู้ตัวหรือไงว่าทำอะไรลงไป -_-” ไอโอดีนจัดทรงผมของตัวเองให้เข้าที่ในขณะที่มีจ้าหน้ามาที่มาช่วยแกะเข็มขัดนิรภัยกันตกลงไปตายให้

                “ฉันก็นั่งเฉยๆของฉัน -_-”

                “เออใช่ เฉยมาก! สงสัยสติเธอจะล่องลอยไปพร้อมกับอากาศ อยู่ดีๆเธอก็เลิกกรี๊ดแล้วเปลี่ยนเป็นอ้าปากค้างแทน แถมยังเอามือมาจับมือฉันแน่นจนเลือดแทบไม่เดินอีก เธอนี่มันเพี้ยนชะมัด อย่าได้มาเล่นเครื่องเล่นนี่อีกล่ะ เดี๋ยวเขาก็หาว่าเธอเป็นบ้ากันพอดี -_-” พูดจบหมอนั่นก็ลุกไปเฉยเลย หมายความว่ายังไง ฉันอ้าปากค้างั้นเหรอ ตั้งแต่ตอนไหน -O-

                “ไม่จริง! นายโกหก!!” ฉันตะโกนไล่ตามหลังหมอนั่นไปติดๆพลางจัดเรียงเส้นผมที่ยุ่งเหยิงให้เข้าที่ รู้งี้มัดผมมาก็ดีหรอก

                “งั้นจบรายการนี้เธอก็นั่งดูรายการนี้ย้อนหลังเองก็แล้วกัน กล้องมันคงจะจับภาพเธอหมดแล้วทุกช็อต ^^” หมอนั่นส่งยิ้มที่ฉันก็ไม่รู้ว่ารอยยิ้มนั่นมันหมายความว่ายังไง เป็นรอยยิ้มที่สะใจหรือเจ้าเล่ห์กันแน่ จะอันไหนมันก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่หรอก!

                “พูดจริงเหรอ ฉันอ้าปากค้างจริงเหรอ -O-” ฉันเดินตามหมอนั่นไปที่ๆทุกคนรวมหมู่กัน ก็มันข้องใจนี่ หมอนั่นอาจโกหกให้ฉันขวัญเสียก็ได้

                “เดินตามผู้ชายมาแบบนี้มันไม่ดีนะ” อีตานั่นวางท่าเหมือนเป็นเซเลปที่มีสาวสวยอย่างฉันคอยเดินตาม ให้มันน้อยๆหน่อย

                “ที่ๆนายไปมันก็เดียวกับฉันนั่นแหละ นี่ อย่าเปลี่ยนเรื่องสิ เรื่องที่อ้าปากค้างนั่นไม่จริงใช่มั้ย”

                “เธอก็พูดประโยคอื่นเป็นเหมือนกันนี่ หายงอนแล้วเหรอ ^^”

                “ไม่ต้องมายุ่ง!!” ฉันลืมไปสนิทเลยว่ากำลังโกรธอีตาบ้านี่อยู่ ดูเขายิ้มสะใจสิ โอ๊ย! ไม่คุยกับนายแล้ว!

                “แหม...เอะอะเสียงดังคึกคักกันดีจังเลยนะคะ โฮะๆ ^O^” ยัยพิธีกรเดินออกมาจากห้องบังคับเครื่องเล่นแล้วเดินตรงมาหาเราที่ยืนเรียงกันพร้อมหน้าพร้อมตา คึกคักตรงไหน ไม่เห็นหรือไงว่าฉันกำลังทะเลาะกับอีตาหัวแดงนี่อยู่ -_-

                “ผมเธอยุ่งหมดแล้วนะ” กัปตันที่จู่ๆก็โผล่หัวมายืนข้างๆฉันโพล่งขึ้น

                “ผมนายก็ไม่ได้ต่างอะไรกับฉันหรอก -_-” ฉันพูดพลางยกมือขึ้นจัดเรียงเส้นผมให้เข้ารูป ผมหมอนั่นตั้งยิ่งกว่าโงกุนซะอีก คนอื่นๆสภาพก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่

                “มากันครบหรือยังคะ?”

                “ยังค่ะ ยังเหลือตรงนั้นอีกสองคน” กล่องแก้วตอบคำถามยัยพิธีกรชั่วคราวโดยการชี้ไปที่เครื่องเล่นที่มีคนสองคนกำเดินมาอย่างทุลักทุเล นั่นมันพี่เอกับพี่อีฟนี่ -O-

                “เชิญคุณทำหน้าที่ได้ตามสบายเลยครับ ผมไม่ไหวแล้ว -O-” พี่เอโพล่งขึ้นแล้วทำท่าเหมือนจะอ้วก ขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย -O-

                “ฉะ..ฉันอยากนั่ง” นั่นเป็นเสียงครวญครางของพี่อีฟ แล้วทั้งสองคนก็ช่วยกันพยุงร่างของกันละกันไปหาที่นั่ง แบบนี้จะรอดมั้ยเนี่ย คุณพิธีกรทั้งสองยังเป็นหนักขนาดนี้ อยากรู้จริงๆว่าใครจะชนะภารกิจนี้ คงไม่มีใครหัวเราะสุดทางตั้งแต่ต้นจนจบหรอกนะ =_=

                “ดูพี่เอกับพี่อีฟสิ แตะเนื้อต้องตัวอย่างกับเป็นแฟนกันอย่างนั้นแหละ อิจฉาพี่เอชะมัดที่ได้สัมผัสหุ่นสวยๆของพี่อีฟ เธอว่างั้นมั้ย ^^” ไอโอดีนส่งยิ้มหื่นมาทางฉัน ขนาดพี่พิธีกรนายยังไม่เว้นเหรอเนี่ย!

                “หุบปากเถอะ” ฉันตอบแล้วเขยิบตัวถอยห่างจากหมอนั่นมาสองก้าว ไอ้หมอนี่นี่มันอันตรายชะมัด =_=

                “โอ๊ะ เชิญนั่งได้ตามสบายเลยค่ะ จะทางนั้นหรือทางนี้ก็นั่งได้ทั้งนั้น ฉันจะทำหน้าที่ต่อจากพวกคุณเองค่ะ โฮะๆ ^O^” ยัยนั่นผายมือไปทางเก้าอี้เล็กๆแล้วหัวเราะอย่างสะใจ  พวกแฟนคลับที่นั่งเครื่องเล่นเดียวกับพวกเราต่างพากันยกมือถือขึ้นมาถ่ายรูปจนแฟลชส่องสว่างไปถ้วนหน้า ถ้าอยากจะถ่ายพี่เอพี่อีฟก็ถ่ายไปสิ อย่าให้แฟลชจากกล้องของพวกเธอมันทำให้คนอื่นเดือดร้อน -O-

                “สรุปผลเป็นไงบ้างคะ” ยัยดินสอที่ยืนกำไหล่ร็อปเป้แน่นโพล่งขึ้น

                “อ้อ เมื่อกี้ฉันไปนั่งดูกล้องแต่ละตัวแทนพิธีกรทั้งสองคนไป หน้าแต่คนฮามากจริงๆค่ะ บัทเทอร์ที่ว่าสวยที่สุดยังดูไม่ได้เลยค่ะ พอลมพัดผมที่ปกปิดใบหน้าของนางออกก็เผยให้เห็นใบหน้าที่แท้จริง อย่างกับหมูแน่ะ โฮะๆ อยากให้ทุกคนเห็นจริงๆเลย ^O^” ยัยนั่นหัวเราะสะใจจนฉันแทบจะหัวเราะออกมาด้วย โอ๊ย สะใจเป็นบ้า >_<

               “ว่ายังไงนะ!” ยัยหมูบัทเทอร์ที่หัวฟูยิ่งกว่ารังนกทำท่าเหมือนจะออกไปกระชากเสื้อยัยพิธีกรนั่น แต่ก็ต้องหยุดการกระทำไว้ก่อนเพราะรอบตัวมีกล้องเต็มไปหมด

               “พี่เขาพูดเรื่องจริงก็ยอมรับซะสิ” กล่องแกล้วยืนกอดอกพูดเสียงเรียบ

               “อะไรนะยัยเสียงแหลม!” พอยัยกล่องแก้วได้ยินแบบนั้นก็หันขวับแสดงความไม่พอใจใส่ยัยบัทเทอร์ทันที ทะเลาะกันอีกแล้ว น่ารำคาญชะมัด หัดดูฉันเป็นตัวอย่างสิ สงบเสงี่ยมเรียบร้อย ^O^

                “สรุปผลที่ว่ามันเป็นยังไงครับ” ร็อปเป้ถามก่อนที่ยัยสองคนนั่นจะกัดกันอีก

                “อ้อ ถามได้ดีมากเลยค่ะน้องร็อปเป้  ^^” ยัยนั่นใช้นิ้มจิ้มคางร็อปเป้เบาๆ อี๊! ทำอะไรของหล่อนเนี่ย ความสกปรกเลอะหน้าพี่ชายของฉันแล้วนะ!

               “พี่ดูกล้องทุกตัวและพบว่ามีแต่คนที่กรีดร้องทั้งนั้น โดยเฉพาะพิธีกรร้องเยอะมากที่สุด ^^” แน่นอนล่ะ ก็ทั้งสองคนนั่นนั่งหน้านี่ เป็นที่นั่งที่ใกล้ความตายมากที่สุด -_-

               “ส่วนน้องดินสอร้องไห้เลยค่ะ ^^” ทุกคนหันไปมองยัยไร้เดียวสาดินสอกันเป็นตาเดียวทำให้ยัยนั่นยืนหลบหลังร็อปเป้ทันที ยัยนี่มันอ่อนแออยู่แล้ว ไม่แปลกที่จะร้องไห้ ฮ่าๆ ^O^ เอ๊ะ แล้วนี่ฉันสะใจอะไรเนี่ย -_-

                “น้องร็อปเป้ที่นั่งกับดินสอเขาพยายามจะยิ้มแต่ดูเหมือนจะยิ้มไม่ออก น่าแปลกจัง ^O^” เพราะเจ็บที่ดินสอบีบไหล่น่ะสิ จบรายการนี้ร็อปเป้ไปพบหมอกระดูกทันทีแน่ -_-

                “พยายามจะยิ้มเหรอ ทำไมถึงยิ้มไม่ออกล่ะ?” ดินสอเงยหน้าถามพี่ชายที่ตัวสูงกว่าอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย

                “กลัวล่ะมั้ง ฮ่ะๆ ^^” อย่างร็อปเป้ไม่น่าจะกลัวอะไรง่ายๆนะ เพราะยัยดินสอนั่นแหละที่ทำให้ร็อปเป้ยิ้มไม่ออก ยังไม่รู้ตัวอีก -_-

               “ส่วนน้องไอโอดีนก็ร้องลั่นจนความแมนหายไปเลยล่ะค่ะ แต่ใบหน้าของเขาก็ยังหล่อไม่เปลี่ยนไปเลย อันนี้พี่ปลื้มมาก >_<”

                “เหอะ หมอนั่นมันก็ขี้เก็กแบบนี้แหละ” กัปตันแขวะอีตาไอโอดีน โอ๊ะ ฉันเพิ่งเคยเห็นคู่นี้ทะเลาะกันเป็นครั้งแรกเลยนะ >_<

                “อะไร นายอิจฉาฉันหรือไง”

                “อย่าอิจฉาเลยนะคะ กัปตันก็หล่อมากเหมือกันขนาดกลัวยังหล่อเลย น่ารักมากจริงๆ นั่งดูนี่เลือดกำเดาแทบไหล >_<” ยัยพิธีกรนั่นชมไอโอดีนกับกัปตันสลับกันไปมาพลางบิดตัวเขินจนจะเป็นเกลียวอยู่แล้ว น่ารำคาญชะมัด ใครก็ได้เอาแม่ฉันมาจัดการกับยัยชะนีนี่ที -O-

               “เปล่าครับ ผมแค่จะบอกว่าหมอนั่นมันขี้เก๊ก” กัปตันจ้องไอโอดีนอย่างเย็นชา ส่วนหมอนั่นก็มองกัปตันอย่างเอาเรื่อง เอ้า! ตีกันเลย!! คนไทยชอบดูมวยสด

                “เอ่อ...เรามาพูดกันต่อเถอะค่ะ ถึงไหนแล้วนะ” ยัยพิธีกรพยายามเข้าประเด็น ยัยดินสอที่ตั้งใจฟังยัยพิธีกรนั่นพูดก็ชี้มาทางฉันทันที 

               “อ้อน้องทิงเจอร์  รู้สึกเหมือนสติของน้องจะหลุดไปนะคะ -_-“ หา หมายความว่ายังไง -O-

               “ยังไงคะ?”

               “น้องอ้าปากค้างค่ะ -_-” ไม่จริง!! มันเป็นความจริงเหรอเนี่ย มินาล่ะ ทำไมปากมันถึงแห้งแปลกๆ -_-

               “ส่วนน้องกล่องแก้วก็ยิ้มได้ดีนะคะ แต่ยิ้มน้อยไปหน่อย มีคนที่ยิ้มมากกว่าน้องอยู่นะคะ”

                “มีคนที่ยิ้มมากกว่าฉันด้วยเหรอ!” ยัยกล่องแก้วเร่งเสียงสูงโวยวายทันที ฉันไม่คิดว่าจะมีคนยิ้มออกด้วยซ้ำ คนๆนั้นนั่นมันใครกันนะ -_-

               หรือว่า...

               “ร็อคค่ะ ใครที่นั่งข้างน้องร็อคก็คงจะรู้ว่าเขาเป็นยังไง โฮะๆ น่ารักมากๆเลยล่ะค่ะ ^O^” ยัยพิธีกรนั่นหัวเราะน้อยๆก่อนที่ทุกคนจะจ้องไปที่อีตาร็อคเป็นตาเดียว ไอ้หมอนั่นเนี่ยนะที่หัวเราะ -O-

                “หมอนั่นมันโรคจิต ฉันกรี๊ดกลัวตายจนหัวใจจะวายอยู่แล้ว มีแค่อีตาบ้าหน้าหื่นโรคจิตคนนี้คนเดียวที่เอาแต่หัวเราะจนท้องจะแตกตาย น่ารำคาญชะมัด” ยัยบัทเทอร์ยืนกอดอกแล้วเหล่ตามองร็อคที่อมลูกอมจูปาจุ๊บอยุ่ หมอนั่นไปเอามาจากไหนเนี่ย -_-

               “อย่าว่าแต่เธอเลย ฉันก็รำคาญเสียงกรีดน่าหนวกหูของเธอเหมือนกัน ฉันว่าเธอมีคู่แข่งแล้วนะ” ร็อคใช้ศอกสะกิดกล่องแก้วที่ยืนข้างๆตัวเอง

               “ฉันไม่อยากเป็นคู่แข่งกับยัยนี่ เสียศักดิ์ศรี” กล่องแกล้วโพล่งขึ้นพลางมองไปทางอื่นไม่สนจยัยบัทเทอร์ โฮะๆ รู้สึกว่าวันนี้ยัยนี่จะโดนแขวะบ่อยไปนะ อุ๊ย สะใจชะมัด ^O^

               “ว่ายังไงนะยัยกล่องเสียงอักเสบ!”

               “โฮะๆ ดูสนิทสนมกันจังเลยนะคะ สรุปผู้ที่ชนะในรอบนี้คือน้องร็อคค่ะ ได้หนึ่งแต้มเต็มๆจากเครื่องเล่นของเรา เชิญคุณพิธีกรทั้งสองพาหนุ่มหล่อและสาวสวยไปยังเครื่องเล่นต่อไปเพื่อเริ่มภารกิจต่อไปได้เลยค่ะ ^O^” ยัยพิธีกรชั่วคราวนั่นลากแขนพี่เอให้เดินมาทางเราทั้งแปดคน ทำไมลากแต่พี่เอมาคนเดียวล่ะ ตายัยนี่มองเห็นแต่ผู้ชายหรือไงยะ -_-

                “เอ่อคือ...ใครชนะนะครับ =_=” พี่เอที่ดูเหมือนจะยืนไม่ไหวเอ่ยถามขึ้น นี่พี่เขาได้ฟังสิ่งที่ยัยพืธีกรชั่วคราวนั่นพูดหรือเปล่าเนี่ย

                “น้องร็อคชนะค่ะพี่เอ -_-” พี่อีฟปัดมือของยัยพิธีกรชั่วคราวนั่นออกจากแขนพี่เอ โอ๊ะ ดูเหมือนจะมีศึกชิงพิธีกรหนุ่มแฮะ ^O^

                “อ่า...อย่างนั้นเหรอ เราต้องไปไหนต่อนะอีฟ -_-”

                “พี่เอตื่นหรือยังคะ -_-” ฉันถามพี่เอทันที เริ่มจะทนไม่ไหวกับพฤติกรรมของเขาแล้วนะ ไม่ไหวก็ไปนั่งพักสิ ไป๊ -O-

                “ดูเหมือนจะยังไม่ตื่นนะคะ ฮ่ะๆ งั้นพี่จะเป็นคนพูดเอง ^^” พี่อีฟที่ดูเหมือนจะกลับมาเป็นปกติแล้วพูดขึ้นอย่างร่าเริง แบบนี้สิที่เรียกว่าพิธีกรมืออาชีพ ^O^

                “รอบนี้ผู้ชนะคือน้องร็อคผู้แข็งแกร่งของเรา ขอเสียงทุกคนให้กำลังใจเขาด้วยค่ะ ^O^”

                เฮ

                กรี๊ดดด!!

                เก่งมากเลยค่ะ ^O^

                กล้องทุกตัวจับมาที่ใบหน้าโหดๆของร็อค พวกแฟนคลับที่ได้ยินเสียงพี่อีฟประกาศดังไปทั่วต่างก็ส่งเสียงกรี๊ดออกมา พวกคนอื่นๆก็กดชัตเตอร์รัวๆเพื่อที่จะได้ถ่ายภาพชายหน้าโหดไว้ได้ทุกช็อต ฉันล่ะหนวกหูกับเสียงชัตเตอร์พวกนี้จริงๆ ฉันก็อยากมีโมเมนต์แฟนคลับถ่ายรูปแบบนี้เหมือนกันนี่ T^T  

                “เอาล่ะค่ะ เราไปที่ภารกิจต่อไปกันเถอะ มาเถอะค่ะพี่เอ ^^” พี่อีฟบากแขนพี่เอให้เดินตาม ดูเหมือนพี่เขาจะไม่ไหวเลยนะ -_-

                “เดี๋ยวสิคะ ดูเหมือนเขาจะไม่ไหว” ยัยพีธีกรชั่วคราวนั่นรั้งพี่เอไว้ นี่นางแย่งพี่เอไปจากพี่อีฟเหรอ -_-

                “ไหวค่ะ ^^” พูดจบ พี่อีฟก็กระชากตัวพี่เอมาทันที แอบโหดเหมือนกันนะเนี่ย -_-

                “ตามพี่มาเลยค่ะ เราจะไปกันแล้ว ^O^” พี่อีฟพูดอย่างเริงร่าแล้วเดินนำเราลงไปข้างล่างทันที ทิ้งให้ยัยพิธีกรชั่คราวทำหน้ามุ่ยอยู่คนเดียว ฮ่าๆ สมน้ำหน้า

                “ภารกิจต่อไปจะเป็นแบบไหนนะ” ดินสอที่เดินจับมือฉันพูดอย่างกังวล ยัยนี่ก็กลัวตลอด

                “จะอะไรก็ช่าง ฉันชนะแน่นอนอยู่แล้ว” ร็อคที่เพิ่งชนะไปเมื่อเกมที่แล้วยิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย ไม่อ่ะ เกมหน้าฉันชนะต่างหาก -_-

                “แบ่งให้คนอื่นชนะบ้างเถอะ” ยัยดินสอหันไปมองนายร็อคที่เดินอย่างมั่นใจ

                “ก็ถ้าเอไม่อ่อนแอก็คงจะชนะไปแล้วล่ะ -_-” ร็อคโพล่งขึ้นแล้วเดินนำไปทันที หมอนี่ร้ายกาจชะมัด ว่าให้น้องดินสอตัวน้อยของฉันได้ยังไง เดี๋ยวก็เรียกแม่ให้มาจัดการซะหรอก -_-

                “หมอนั่นเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า คนที่เข้าใกล้ความชนะคือฉันต่างหาก” กล่องแก้วที่เดินตามพวกเรามาติดๆโพล่งขึ้น

                “น้องกล่องแก้วนี่ฮึดดีจังนะ” กัปตันโผล่มาข้างๆฉันอีกแล้ว หมอนี่เป็นตัวอะไรกันแน่ -_-

                “ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ ^^” พอนายกัปตันทักยัยกล่องเสียงอักเสบปุ๊บ ยัยนั่นก็ทำท่าเขินทันที เปลี่ยนอารมณ์ไวจริงนะหล่อน

                “พวกเธอก็พยายามด้วยล่ะ ^^” หมอนั่นหันมาส่งยิ้มให้ฉันและดินสอ จากนั้นเขสก็เดินไปข้างหน้าทันที อารมณ์ไหนของหมอนี่ล่ะเนี่ย -_-

                “นี่คือสถานที่ที่เราจะทำภารกิจต่อไปค่ะ ^^”

                วู้ววววววว

                เย้!! >O<

                นั่นไม่ใช่เสียงของพวกเราแต่เป็นเสียงของพวกที่เล่นอยู่ข้างบนนั้นต่างหาก

                “ไวกิ้ง...” ฉันพึมพำออกมาเบาๆ นี่มันเป็นเครื่องเล่นที่ฉันเกลียดที่สุด เพราะมันเคยทำให้ฉันเวียนหัวจนอ้วกมาแล้ว!

                “ใช่แล้วครับน้องทิงเจอร์ ตาถึงจริงๆเลย ^O^” ดูเหมือนพี่เอจะกลับมาเป็นปกติแล้วนะ ดูสิยิ้มร่าเชียว

                “ภารกิจคืออะไรเหรอครับ” ไอโอดีนที่ยืนอยู่ด้านหลังถามคำถามที่ทุกคนอยากทราบขึ้น แล้วทำไมต้องมายืนข้างหลังฉันด้วยเนี่ย -_-

                “ภารกิจที่สองของความสนุกก็คือ ‘อย่าทำหก’ ครับ ^^”

                “อย่าทำหก?” พวกเราทั้งหมดแปดคนพร้อมใจกันผสานเสียงสามัคคี แน่นอนสิ ไม่มีใครเข้าใจในสิ่งที่เอพูดหรอก -_-

                “พี่ทีมงานช่วยแจกของด้วยค่ะ” พี่หันไปเรียกทีมงานที่นั่งอยู่ในซุ้มสีฟ้าข้างๆเครื่องเล่น พี่ๆเขาก็ค่อยๆเดินออกมาพร้อมกับแก้วน้ำขนาดพอดีมือที่มีน้ำอยู่เต็มแก้ว

                “ทุกคนได้ครบแล้วใช่มั้ยคะ ^^”

                “ค่ะ/ครับ” พวกเราผสานเสียงกันอีกครั้ง หมายความว่ายังไง แจกน้ำให้เราดื่มเหรอ -_-

                “นี่เป็นภารกิจที่ง่ายมาก แค่อย่าทำให้มันหกก็พอ ^^” พี่เอพูดขึ้นพลางยกแก้วน้ำนั่นดื่มรวดเดียวหมด การกระทำของพี่แกมันเกี่ยวกับภารกิจตรงไหนฟะ -_-

                “หมายความว่าจะให้เราขึ้นไปเล่นข้างบนแล้วคอยแก้วน้ำไม่ให้มันหกเหรอครับ?” ร็อปเป้ผมสะท้อนแสงยกมือขึ้นถามเป็นมารยาทที่สวยงาม

                “ใช่แล้วค่ะ ^^”

                เป็นไปไม่ได้!

                “ไม่ทางหรอก ใครมันจะไปทำได้” ใช่ ยัยบัทเทอร์พูดถูก -_-

                “ถ้ามันจะก็ปล่อยมันหก แต่อย่าให้หกมากไป ใครเหลือมากที่สุด คนนั้นชนะครับ ^^” พี่เออธิบายกติกาอีกครั้งแล้วคว้าแก้วน้ำในมือที่อีฟขึ้นมาดื่มอีก ดูท่าพี่คนนี้จะกระหายมากเลยนะ =_=

                “ฮ่าๆ นี่มันง่ายมาก ฉันฃนะชัวร์เลย!” อีตาที่ยืนอยู่ข้างหลังฉันตะโกนออกมาด้วยความมั่นใจ โอ๊ย! เดี๋ยวน้ำลายมันก็โดนผมฉันหรอก

                “พูดให้มันเบาๆหน่อยสิ หนวกหู -_-”

                “ไม่ต้องมายุ่ง ^^” ไอโอดีนลอกคำพูดของฉันมาใช้ก่อนจะแลบลิ้นกวนประสาทใส่ หนอย!! นายไม่มีทางชนะหรอก คนที่จะชนะคือฉันต่างหาก! เอ๊ะ...แต่ฉันนั่งไอ้นี่แล้วเวียนหัวนี่นา -O-

                “พวกเขาลงมากันแล้ว ต่อไปก็เป็นตาของเราชาว Owc. แล้วครับ ขึ้นไปกันเถอะ ^^” พี่เอเดินนำพวกเราขึ้นเครื่องเล่นนั่นอย่างมีความสุข แต่อีที่ยืนนิ่งอยู่นี่สิไม่กล้าขึ้นไป ถ้าฉันอ้วกขึ้นมาจะทำยังไงเล่า!

                พลั่ก!

                O_O!!!!

                ภาพสโลว์โมชั่นเมื่อกี้ยังคงติดตราตรึงอยู่ในดวงตาของฉัน น้ำจากแก้วน้ำน้อยๆมันกระฉอกออกมาจากปากแก้วแล้วหยดลงสู่พื้นดินอย่างสวยงาม ใครกันที่มันมาเดินชนฉัน น้ำมันเหลือไม่ถึงครึ่งแก้วแล้วนะ!

                “ขอโทษที เธอยืนขวางเอง ^^” เสียงทุ้มเจ้าเล่ห์กล่าวขอโทษอย่างหน้าไม่อาย หมอนั่นแหละตัวการที่ทำให้น้ำในมือฉันหก!

                “ไอโอดีน นายตั้งใจแกล้งฉันใช่มั้ย!”

                “เปล่า ไม่ได้ตั้งใจสักหน่อย ^^”

                ฟึ่บบ!

                ฉันเอื้อมมือไปปัดแก้วน้ำในมือของเขาออก แต่หมอนั่นกลับเดินหลบได้อย่างนุ่มนวลจนน้ำไม่หกเลยสักนิด เป็นไปได้ยังไง! หมอนี่ไปเอาเทคนิควิชาตัวเบามาจากไหน

                “อ่อนหัดชะมัด ^^”

                “ฉันไม่ปล่อยนายไว้แน่!”

                “น้องทิงเจอร์กับไอโอดีนรีบๆขึ้นมาเลือกที่นั่งเถอะค่ะ คนอื่นๆที่ต่อคิวรอจะได้ขึ้นมา” พี่อีฟเรียกเราทั้งสองคนที่ยืนจ้องตาอาฆาตกันให้ขึ้นไปข้างบน หึ! ฉันไม่ยอมให้นายชนะแน่!

 

เรื่องนี้ดองไว้จนเค็มไปหมดละ กว่าจะมาอัพนี่อื้อหือ นานโคตร!

ในที่สุดก็มาอัพแล้วว >O<

ขออภัยสำหรับคนที่รออ่านเรื่องนี้นะคะ จะค่อยๆอัพน้าา

ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงตอนนี้ค่ะ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.6 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา