Overnight คืนนี้กับ 4 หัวใจของยัยวายร้าย

9.6

เขียนโดย LazyGirl

วันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 00.34 น.

  32 บท
  189 วิจารณ์
  42.58K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 10.48 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

25) คืนสามกับคนแปลก(?)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

คืนสามกับคนแปลก(?)

 

                “นายจะทำอะไร!!!” ฉันตะโกนลั่นทันทีที่ดวงตากลมโตของตื่นเต็มสองตาและเห็นหน้าชายตรงหน้าอย่างชัดเจน สติทั้งหมดกลับมาอีกครั้งทำให้มือลอยขึ้นมาผลักอกเขาเต็มแรงอย่างอัตโนมัติ

                “ฉันเพิ่งจะพาเธอขึ้นมาบนเตียง ยังไม่ได้ทำอะไรเลยสักหน่อย เธอนี่ตื่นง่ายไม่เปลี่ยนเลยนะ” หมอนั่นไม่ขยับตัวไปไหนทั้งที่ฉันผลักเขาออกไปแล้ว เรี่ยวแรงขิงฉันมันหายไปไหนกัน!

                “แล้วนายอยู่บนตัวฉันในสภาพแบบนั้นได้ยังไงถ้าไม่ได้ทำอะไร นายก็รู้ว่าฉันไม่ชอบ!!” ฉันออกแรงผลักเขาอีกครั้ง และครั้งนี้เขาก็ยอมลุกออกไปแต่โดยดี หมอนี่รู้จักนิสัยของฉันดียิ่งกว่าใคร ทั้งที่รู้ว่าฉันไม่ชอบยังจะทำแบบนี้อีก!

                “ฉันเพิ่งอาบน้ำเสร็จสภาพมันก็เป็นแบบนี้ไง เธอก็รู้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ”

                “นายไม่ควรพาฉันขึ้นมาแบบนี้นะร็อค!” ใช่ ก็อย่างที่เดา ชายที่อยู่ตรงหน้าของฉันคือชายคนนั้น คนที่ฉันไม่อยากเอ่ยถึงมากที่สุด คนที่ไม่อยากพูดถึง คนที่ไม่อยากเจอหน้า ไม่อยากสบตา ร็อค...อดีตแฟนเก่า

                “เราเป็นรูมเมทกันนะ ถ้าฉันปล่อยให้เธอนอนข้างนอกแบบนั้นก็แย่สิ อีกอย่าง ถ้าไม่นอนห้องเดียวกันจะเรียกว่ารายการโอเวอร์ไนท์ได้ยังไง” หมอนั่นนั่งลงบนเตียงข้างฉันพลางใช้ผ้าจนหนูเช็ดผมของตัวเอง

                “ฉันไม่อยากนอนห้องเดียวกับนาย!” สิ้นคำนั้นฉันก็ลุกขึ้นทันที

                “เดี๋ยว!”

                ตุบ!!

                ฉันถูกแรงกระชากจากผู้ชายคนนั้นแล้วล้มลงไปนอนอีกครั้ง

                “ปล่อย!! ฉันไม่นอนที่นี่!”

                “เลิกงี่เง่าสักทีเถอะ ถ้าไม่นอนที่นี่แล้วจะไปนอนที่ไหน!!” ร็อคจับข้อมือฉันแน่นจนมันปวดไปหมด เลิกใช้กำลังกับฉันสักที!

                “นายนั่นแหละที่งี่เง่า ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้!!”

                “เมื่อไหร่เธอจะเลิกทำตัวแบบนี้สักที” หมอนั่นจับข้อมือฉันแน่นยิ่งกว่าเดิม ข้อมือเล็กๆที่ฉันมีอยู่มันกำลังจะแหลกคาฝ่ามือหนาของหมอนั่น

                “เมื่อนายตายนั่นแหละ!!” ฉันสะบัดมือออกจากหมอนั่นอย่างง่ายดายก่อนจะลุกขึ้นยืนอีกครั้ง ฉันไม่ยอมให้คนอย่างหมอนี่แตะเนื้อต้องตัวฉันอีกเป็นอันขาด!

                “ไม่ต้องตามฉันมาอีกนะ” ฉันตะคอกเสียงใส่หมอนั่นแล้วเดินไปทางประตู

                “ไปอาบน้ำซะก่อนสิ ตัวเธอเหม็นหมดแล้วนะ” อะไรนะ? หมอนี่หาว่าตัวฉันเหม็นงั้นเหรอ! -O- “ฉันขนกระเป๋าเธอมาหมดแล้ว วางอยู่ตรงนั้น” หมอนั่นชี้นิ้วไปทางกระเป๋าสวยๆของฉัน5ใบที่กองรวมกันหน้าตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่

                “บอกแล้วไงว่าอย่ายุ่งของๆฉัน ฉันไม่ได้ขอร้องให้นายแบกมันขึ้นมาสักนิด” ฉันตรงไปยังกระเป๋าพวกนั้นแล้วหิ้วมันไปทางประตู ฉันไม่ให้ของๆฉันอยู่ในห้องของที่หมอนี่อยู่เป็นอันขาด

                “ฉันไม่ให้เธอไปไหนทั้งนั้น!!” หมอนั่นกระโจนเข้ามาคว้ากระเป๋าในมือฉันทิ้งลงพื้นแล้วกระชากมือทั้งสองข้างของฉันให้เข้าหาตัวเขา จะไม่ยอมให้ฉันไปไหนเลยหรือไง!!

                “โอ๊ย!!! ปล่อยฉันนะ ก็บอกแล้วไงว่าฉันไม่ต้องการจะอยู่ที่นี่กับนาย!”

                “ลดทิฐิบ้าบอของเธอลงบ้างเถอะ เรื่องนั้นมันนานมาแล้วนะ ยังไม่ลืมมันอีกหรือไง!!”

                “ไม่ลืม!!” ฉันตะโกนลั่นห้องอย่างเหลืออด ผู้ชายคนนี้มันทำกับฉันมากเกินกว่าที่จะลืมมันลงได้ คิดว่าการกระทำเลวๆของเขาเพียงคืนเดียวจะทำให้ฉันลืมมันได้งั้นเหรอ ไม่มีวันซะหรอก!

                “เธอมันงี่เง่า”

                “อย่างน้อยก็ดีกว่าคนอย่างนายก็แล้วกัน” ฉันพยายามสะบัดมือออกอีกครั้งแต่มันไม่เป็นผล หมอนี่มือเหนียวพอๆกับนายหัวแดงนั่นเลย ฉันไม่เคยเอาตัวรอดจากผู้ชายสองคนนี้ได้เลย เกลียด...เกลียดที่ตัวเองอ่อนแอแบบนี้!

                “คนอย่างฉันมันแบบไหน?”

                “ก็เห็นแก่ได้ยังไงล่ะ” ฉันกระแทกเสียงแล้วจ้องตาหมอนั่นอย่างไม่เกรงกลัว

                “เห็นแก่ได้? งั้นมานี่!!!” จู่ๆหมอนั่นก็เพิ่มแรงบีบให้มากขึ้นพลางฉุดกระชากฉันไป

                “น...นายจะพาฉันไปไหน!!” ฉันพยายามลากตัวเองกลับแต่สู้แรงมหาศาลของเขาไม่ได้เลย ยิ่งแกะมือสกปรกของหมอนั่นออกมันยิ่งบีบแรงมากขึ้นจนปวดไปทั้งแขน ไม่มีใครเห็นเลยหรือไงว่าฉันกำลังทรมานอยู่ ในห้องนี้ไม่มีกล้องเลยหรือไง หลับกันหมดแล้วเหรอ!!!

                ปัง!!

                แกร๊ก!!

                “เท่านี้ก็ไม่มีใครเห็นแล้ว” หมอนั่นกดล็อคประตูห้องน้ำแล้วจ้องมาทางฉันอย่างเอาเรื่อง เขาใช้วิธีเดียวกับหมอนั่น วิธีเดียวกันกับโอดีน เขาจะทำอะไรฉันกันแน่ ปล่อยฉันออกไปเดี๋ยวนี้!!

                “พาฉันเข้ามาในนี้ทำไม ต้องการอะไร”

                “ฉันจะคุยกับเธอ”

                “ไปคุยกันข้างนอกก็ได้ ทำไมต้องคุยในที่ลับตาคนแบบนี้!” หนีไปไหนไม่รอดแล้ว มันหมดหนทางแล้ว หมอนั่นทั้งตัวใหญ่และสูงยืนบังประตูไม่ให้ฉันมีโอกาสได้เปิดมันเลย เขาจะทำอะไรฉันอีก

                “เดี๋ยวเธอก็หาทางหนีอีก เธอมันเจ้าเล่ห์จะตาย”

                “ไม่เท่านายหรอก”

                “นี่...เมื่อวานฉันเห็นเธอร้องไห้ เป็นอะไร?” หมอนั่นถามด้วยสีหน้าที่เรียบเฉยแต่แววตาเปี่ยมไปด้วยความเป็นห่วง ฉันไม่ต้องการสิ่งนั้นจากนาย อย่ามาใจดีกับฉัน ฉันไม่เห็นคุณค่าของมันหรอก!

                “ไม่เป็นอะไรทั้งนั้น จะคุยแค่นี้ใช่ไหม? งั้นก็ปล่อยฉันไปแล้ว” ฉันเอื้อมมือไปทางประตูแต่ถูกมือนั่นจับมือฉันไว้ก่อน

                ”อย่าโกหก ฉันเห็นหางตาข้างขวาของเธอมันแดงมากกว่าจุดอื่น”  ร็อคเจายังรำรายละเอียดเกี่ยวกับฉันได้ จริงอย่างที่เขาพูด เวลาฉันร้องไห้ไม่ว่าจะเยอะหรือน้อย ถ้าร้องไห้ล่ะก็ ตรงหางตาข้างขวาของฉันมันจะแดงกว่าทุกที ไม่ดีใจหรอกนะที่เขาจำเรื่องของฉันได้ มันยิ่งทำให้ฉันหงุดหงิดมากกว่าเดิมซะอีก

                “ไม่เกี่ยวอะไรกับนาย เลิกยุ่งเรื่องของฉันสักที”

                “ฉันเป็นห่วงเธอจริงๆนะ” หมอนั่นจับไหล่ทั้งสองข้างอย่างเบามือ สัมผัสนั้นมันอ่อนโยนกว่าทุกที

                “มันเป็นคนทำใช่ไหม...ไอโอดีนน่ะ” เขาก้มหน้ามองฉันอย่างอยากรู้ความจริง ที่เขาพูดมันถูกแล้ว เมื่อวานนี้...ไอโอดีนเขาลากฉันเข้าห้องน้ำแล้วทำ...มันก็เหมือนกับที่นายกำลังจะทำฉันต่อจากนี้นั่นแหละ นายกับหมอนั่นมันก็ไม่ต่างกันหรอก!

                “เลิกแกล้งทำเป็นห่วงสักทีเถอะ ฉันไม่เชื่อคำพูดจอมปลอมของนายหรอก” ฉันปัดมือหมอนั่นออก

                “ฉันเป็นห่วงเธอจริงๆนะ สรุปแล้วหมอนั่นมันทำร้ายเธอจริงๆใช่ไหม!”

                “ไม่มีใครทำอะไรฉันทั้งนั้นแหละ ถอยไป ฉันจะออกไปจากที่นี่!” ฉันผลักหมอนั่นให้ออกห่างจากประตูแล้วเอื้อมมือไปเปิดประตู

                หมับ!!

                “เรายังคุยกันไม่จบเลยนะ!” หมอนั่นกระชากแขนฉันกลับแล้วดันร่างบางๆให้ติดกับประตู มันเป็นวิธีเดียวกับไอโอดีนที่ใช้กับฉันเมื่อครั้งก่อน ทำไมชีวิตฉันต้องเจอแต่คนพวกนี้นะ!!

                “แต่ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับนายแล้ว ปล่อย!”

                “ทำไมเธอถึงได้ดื้อแบบนี้ เลิกทำตัวแบบนี้สักเถอะ!”

                “ถ้ารำคาญก็ปล่อยฉันไปสักทีสิ คิดว่าฉันอยากเป็นแบบนี้มากหรือไง? ที่เป็นแบบนี้มันก็เพราะนายนั่นแหละ!!” ใช่...ที่ฉันทำตัวน่ารำคาญแบบนี้ก็เป็นเพราะเขาคนเดียวเท่านั้น

                “ไม่ใช่ฉันซะทีเดียวหรอก ใจเธอรู้ดีว่าที่เธอเป็นแบบนี้มันเพราะใครกันแน่!!”

                “ทั้งที่นายก็รู้ว่ามันเป็นเพราะอะไรแต่ก็ยังทำ เพราะแบบนี้ฉันถึงได้เกลียดนายยังไงล่ะ!!” หมอนี่รู้ความจริงหมดทุกอย่าง รู้ว่าทำไมฉันถึงเป็นคนที่รักใครยากและเกลียดการกระทำที่บังคับข่มเหง  ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจแต่ก็ยังทำสิ่งที่น่ารังเกียจ

                “แต่ฉันรักเธอ!!”

                “เรื่องของเรามันจบไปแล้ว ไปจากชีวิตฉันสักทีเถอะ!!” ฉันใช้ทั้งขาและแขนกันเขาให้ออกห่างแต่มันไร้ประโยชน์ มันไม่ได้ช่วยอะไรเลย ขอร้องล่ะ ปล่อยฉันไปเถอะ ฉันอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้ได้อีกไม่นานแน่ๆ

                “ฉันไม่ไปไหนทั้งนั้น ฉันรักเธอมากจริงๆนะทิงเจอร์!” หมอนั่นบีบไหล่ฉันแน่นจนแขนมันขยับไปไหนไม่ได้อีกแล้ว “ฉันพยายามที่จะไม่คุยกับเธอเหมือนอย่างที่เธอไม่คุยกับฉัน  พยายามออกห่างมากเท่าไหร่มันยิ่งทรมาน ยิ่งเห็นหน้าเธอเท่าไหร่ ความรู้สึกเก่าๆมันก็เข้าเล่นงานฉันมากเท่านั้น ฉันลืมเธอไม่ได้จริงๆ...”

                “อย่ามาแสร้งทำหน้ารู้สึกผิดนะ ฉันไม่มีความเมตตาให้กับนายหรอก ความรักของนายมันคืออะไร คือการครอบครองร่างกายของฉันงั้นเหรอ? ไอ้คนเห็นแก่ได้!!” ฉันผลักตัวหมอนั่นออกด้วยความโมโหแต่กลับถูกเขาจับมือทั้งสองข้างไว้ โอ๊ย!! นี่ฉันทำอะไรไม่ได้หรือไง!!

                “ก็แล้วยังไง? เพราะสมองเธอมีแต่เรื่องพวกนั้นอยู่ในหัว เลิกฝังใจแล้วลืมมันไปสักทีเถอะ”

                “นายไม่เข้าใจหรือไงว่าฉันเกลียด…ภาพพวกนั้นมันยังติดตาและตราอยู่ในใจของฉัน ตราบใดที่ฉันยังไม่ลืม ยังไงฉันก็ไม่ยอมให้ใครหน้าไหนทำกับฉันแบบนั้นเด็ดขาด!!” ภาพพวกนั้นที่ฉันเคยเห็น ถึงมันจะผ่านมานานแต่มันยังคงชัดเจนและฉายซ้ำอยู่ในหัวเสมอเมื่อเจอคนอย่างหมอนี่ มันยิ่งตอกย้ำให้ฉันเกลียด

                “ฉันจะทำให้เธอลืมเรื่องพวกนั้นเอง!!” สิ้นประโยคนั้นเขาก็ทาบริมฝีปากที่คุ้นเคยลงมาทันที เขาบดขยี้ริมฝีปากอย่างดุดันและรวดเร็ว ฉันพยายามใช้แรงที่เหลือผลักเขาออก แต่ด้วยแรงอันน้อยนิดของฉันมันไม่สามารถต่อกรเขาได้เลย ทำอะไรไม่ได้ ป้องกันตัวเองก็ไม่ได้ เขาจับมือทั้งสองข้างของฉันไว้แน่นแล้วกดร่างกายอันสูงใหญ่ของเขาทับร่างบางของฉัน มันเบียดจนไม่มีแรงจะเคลื่อนไหว หายใจก็ไม่ออก เขาทำรุนแรงเกินไปแล้ว

                “อ..อื้อ!!” เขาไม่เปิดโอกาสให้ฉันได้กัดริมฝีปากของเขาเลย เขาเคลื่อนไหวอย่างชำนาญและรวดเร็วจนตัวฉันอ่อนไปหมด เขาดูดเม้มริมีปากของฉันจนมันช้ำเลือดไปหมด เกลียดที่อ่อนแอแบบนี้ คนอย่างฉันมันทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากปล่อยให้ชายตรงหน้าทำอะไรได้ตามที่ใจต้องการ ทำไมฉันถึงตานเขาไม่ได้ เพราะฉันมันอ่อนแอเกินไปใช่ไหม!!

                มือของเขาลูบคลำร่างกายฉันไปทั่ว ฉันพยายามต่อต้านการรุกรานของเขาแต่ทำอะไรไม่ได้เลย ปากของเขายังคงอยู่ที่ริมฝีปากของฉัน เขายังเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและเร่าร้อน ได้โปรด ปล่อยฉันไปเถอะ ฉันจะไม่ไหวแล้ว...มันทรมาน ความรู้สึกไม่ต่างจากคนที่ถูกข่มขืนเลย มันไม่มีความสุขและไม่มีวันลืม คิดว่าทำแบบนี้แล้วจะทำให้ฉันลืมเรื่องสมัยก่อนได้หรือไง ยิ่งทำ...มันก็ยิ่งทำให้ฉันเจ็บปวด ปล่อยฉันไปสักทีเถอะ...

                มือของเขายังยังไม่หยุดการเคลื่อนไหว คลำสะเปะสะปะไปทั่ว ฉันได้แต่ร้องครางออกมาด้วยความทรมานเท่านั้น น้ำตาค่อยๆไหลออกมาอย่างห้ามไม่ได้ มันทนไม่ไหวแล้วจริงๆ ฉันช่วยตัวเองไม่ได้เลย ต้องปล่อยให้มันเป็นแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหนกัน... หมอนั่นค่อยๆปล่อยมือที่รั้งแขนฉันไว้ออกแล้วเลื่อนขึ้นมาดึงสายเอี๊ยม เขาล้วงมือเข้าไปในเสื้อขณะที่ริมฝีปากของเขาเคลื่อนไหวอย่าเร้าร้อนราวกลับโหยหาสิ่งนี้มานาน น้ำตาแห่งความเจ็บปวดมันไหลออกมาอย่างไม่ขาดสาย

                “อ...อื้อ!!!” ฉันใช้เล็บจิกที่แขนของเขาที่พยายามรุกล้ำร่างกาย มันจะมาเกินไปแล้ว ทำไมสมองของนายถึงคิดได้แค่นี้ คิดว่าการกระทำของนายมันถูกแล้วเหรอ คิดว่ามันจะลบสิ่งเลวร้ายที่ฉันเคยเจอมาได้อย่างนั้นเหรอ! ที่น่าสมเพชก็คือฉันเอง ฉันช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ไม่สามารถพาตัวเองให้ออกมาจากสถานการณ์แย่ๆแบบนี้ได้เลย มืออันน่าขยะแขยงของเขาเลื่อนขึ้นมาเรื่อย ฉันต้านกำลังของเขาไม่ได้เลย!!

                ผวะ!!!

                “...ท..ทิงเจอร์!!!”

                ตุบ!!!

                “นี่!!”

                เพี๊ยะ!!!

                “ฉันให้อภัยตัวเองไม่ได้!!” ฉันยกมือขึ้นพร้อมที่จะฟาดหน้าตัวเองอีกครั้งแต่ถูกเขาจับไว้เสียก่อน

                “ปล่อย! ไปให้พ้น!!!” ฉันผลักหมอนั่นเต็มแรงด้วยความโมโหจนเขาเซไปชนกับอ่างล้างหน้า ใบหน้าของฉันเต็มไปด้วยน้ำตาที่ไหลรินออกมาอย่างไม่ขาดสาย หมอนั่นจ้องหน้าฉันอย่างตกใจก่อนจะค่อยๆเดินมาทางฉันอย่างช้าๆ ถ้าฉันไม่ทำร้ายตัวเองแบบนี้มันต้องเป็นเหมือนเมื่อครั้งก่อนแน่ๆ ครั้งนั้นฉันเกือบเสียสิ่งที่สำคัญไป...เพราะความต้องการผิดๆของเขาและความอ่อนแอของฉันทำให้เขาครอบครองร่างกายท่อนบนของฉันได้อย่างง่ายดาย

                “เธอทำแบบนี้ทำไม...”

                “เพราะนายนั่นแหละ เพราะนายมันเห็นแก่ได้ ความสุขของนายมันทำให้ฉันทรมาน!!”

                “ฉันไม่เข้าใจเธอจริงๆ เธอจะเกลียดเรื่องพวกนี้ไปได้อีกนานแค่ไหน ทันเป็นเรื่องของธรรมชาติ อีกไม่นานเธอก็ต้องโดนแบบนี้ คิดจะอยู่อย่างนี้ไปจนตายหรือไง!!” ในที่สุดธาตุของความเป็นคนเห็นตัวของหมอนี่ก็เผยออกมาให้เห็น คำว่ารักของหมอมันแค่ต้องการครอบครองร่างกายของฝ่ายตรงข้ามเท่านั้น ถ้าต้องการแบบนั้นทำไมไม่ทำกับคนอื่น ทำไมต้องเป็นฉัน!!

                “ถ้าคนทั้งโลกเป็นแบบนายกันหมดฉันก็จะอยู่อย่างนี้ไปจนตายนั่นแหละ!!” ฉันตะโกนกลับใส่หมอนั่นด้วยน้ำตา หัวใจของฉันมันรับไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว ถึงคราวที่ต้องระบายมันออกมา หยดน้ำสีแดงมุมปากที่เกิดจากมือของฉันมันไหลเข้าปากจนได้กลิ่นคาวของเลือด...มันทั้งปวด ทั้งแสบ แต่ฉันจะแสดงความเจ็บปวดต่อหน้าชายคนนี้ไม่ได้เด็ดขาด

                “เพราะนายที่เห็นแต่ความสุขของตัวเองเป็นใหญ่ถึงทำให้ฉันเป็นแบบนี้!”

                “มันเป็นเพราะพ่อแม่ของเธอต่างหาก!!”

                …

คำพูดของเขาทำให้ฉันชะงักไป สิ่งที่เขาพูดมันก็ถูก เรื่องทั้งหมดมันเกิดจาดครอบครัวของฉันเอง ความรู้สึกของฉันที่เป็นอยู่ตอนนี้จนแทบจะเรียกว่าเป็นโรคจิตมันเป็นผลมาจากครอบครัวของฉัน มันไม่ได้เกิดจากหมอนั่นร้อยเปอร์เซ็นต์...แต่จะให้ฉันทำยังไง จะจัดการกับความรู้สึกนี้ยังไง...

                “ความรู้สึกเหล่านั้นมันกลับมาอีกครั้งเพราะนาย เพราะความเลวของนายมันทำให้ฉันรู้สึกแบบนี้...”

                “เลิกพูดแบบนั้นสักทีเถอะทิงเจอร์!!” หมอนั่นตะโกนออกมาอย่างอารมณ์เสียสุดๆ จะอะไรกับฉันนักหนา ถ้าฉันมันได้ยากขนาดนั้นก็ปล่อยไปซะสิ

                “อย่าเข้ามา ฉันไม่ยอมนายอีกเป็นครั้งที่สองแน่!”

                “เธอจะทำอะไร? กรีดร้องเหรอ? หรือจะทำร้ายตัวเองอีก?” ร็อคกระตุกยิ้มก่อนจะก้าวมาหาฉันเรื่อยๆ

                ผวะ!!!

                อุก!!

                ฉันถีบท้องของหมอนั่นสุดแรงเท่าที่มีอยู่ในตอนนี้ ถ้าฆ่าหมอนี่ได้ก็จะฆ่าซะ หมอนี่มันน่ารังเกียจเกินกว่าจะอยู่ร่วมโลกกับฉัน ต่อหน้าคนอื่นอาจจะเป็นคนเลวที่ยังพอคบได้ แต่สำหรับฉัน เขาคนนี้คบไม่ได้เลยสักนิด เป็นมนุษย์ที่รังเกียจ น่าขยะแขยง อย่าได้เจอกันอีกเลย...

                แกร๊ก...

                “ท..ทิงเจอร์” ทันทีที่ฉันเปิดประตู หมอนั่นก็เอื้อมมือมาบีบไหล่ฉันไว้แน่น ยังไม่ยอมอีกเหรอ!

                เคล้ง!!!

                “แค่นี้มันยังน้อยไปด้วยซ้ำ!!” ฉันยกกระถางต้นไม้ขนาดเล็กที่วางประดับอยู่หน้ากระจกขึ้นมาขว้างใส่หัวหมอนั่นอย่างจัง โชคดีที่เขายังเจ็บท้องอยู่จึงหลบไม่ทัน ไม่อย่างนั้นฉันพลาดโอกาสดีแน่ๆ น้ำสีแดงไหลออกมาจากหัวของหมอนั่น ร่างกายของเขาเซไปพิงกับอ่างล้างหน้า ความเจ็บปวดนั้นมันไม่เท่ากับสิ่งที่ฉันได้รับเลย

                “เธอกล้าทำ..แบบนี้งั้นเหรอ...”

                “ถ้านายยังทำแบบนี้กับฉันอีก ฉันฆ่านายแน่...”

                ปัง!!

                ฉันปิดประตูใส่หมอนั่นก่อนจะวิ่งไปขนกระเป๋าที่วางอยู่หน้าตู้เสื้อผ้าออกมาจากห้อง ต้องขนมันออกไปก่อนที่หมอนั่นจะออกมา ความทรงจำนี้มันทรมานและยากที่จะลืม อยากจะทำร้ายตัวเองอีกเป็นพันครั้ง ฉันมันอ่อนแอเกินไป เมื่อไหร่จะแข่งแกร่งสักที! น้ำตามันไหลออกมาอีกครั้งด้วยความเจ็บใจและเจ็บปวด เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วที่ฉันทำอะไรไม่ได้ ถ้าในห้องน้ำไม่มีกระถางต้นไม้จะทำยังไง ถ้าฉันออกมาไม่ได้จะเป็นยังไง ถ้าหมอนั่นไม่ยอมปล่อยมือออกจากมือฉันล่ะ...ฉันต้องเป็นของหมอนั่นงั้นเหรอ...

                แอด...

                ฉันเปิดประตูออกแล้วลากกระเป็นทั้งห้าใบออกมาทั้งน้ำตา สภาพฉันตอนนี้ไม่ต่างจากเด็กข้างถนนที่มีแต่รอยแผล ร้องไห้สะอึกสะอื้นเหมือนกับเด็กสามขวบ ทำยังไงดี...ใครก็ได้ช่วยฉันด้วย ฉันรู้จะทำยังไงแล้ว...

                ”ท..ทิงเจอร์!!” ชายคนหนึ่งเอ่ยขึ้นด้วยความตกใจ เขามองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างอึ้งสุดๆ “ไปทำอะไรมาเนี่ย!!”

                “...ช่วยฉันลากกระเป๋าหน่อยสิ” ฉันพยายามเลี่ยงที่จะตอบคำถามและบังคับไม่ให้เสียงสั่นมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่มันคงสายไปแล้ว เขาคงจะเห็นน้ำตาที่อาบเต็มสองแก้มของฉันแล้วล่ะ

                ตุบ!

                ไอโอดีนช่วยขนกระเป๋าสัมภาระทั้งหมดมาวางไว้ที่ลานโล่งที่เดิมก่อนจะเดินมานั่งลงบนโซฟาข้างฉันอย่างเงียบๆ ฉันเงยหน้ามองประตูห้องของร็อค เขาไม่โผล่หน้าออกมาเลย ดีแล้วล่ะ เลิกตามฉันสักที

                “นี่ เธอจะบอกฉั...”

                “นายออกมาทำไมซะดึกดื่น ออกมาหาอะไรกินหรือไง?” ฉันถามเบี่ยงประเด็นพลางเช็ดน้ำตาที่เลอะใบหน้าออก ฉันไม่อยากเล่าเรื่องอะไรให้เขาฟังทั้งนั้น

                “...ก็ประมาณนั้น มันหิวน่ะ”

                “งั้นเหรอ...นี่ นายนอนเตียงเดียวกับดินสอหรือเปล่า? นายได้ทำอะไรยัยนั่นหรือเปล่า” ฉันหันขวับไปถามหมอนั่นทันทีที่คิดได้ คนอย่างหมอนี่มันก็ไม่ต่างจากร็อคเท่าไหร่ เขาอาจจะทำอะไรยัยดินสอก็ได้

                “ยัยนั่นหลับไปแล้ว ฉันไม่ทำอะไรเพื่อนเธอหรอก ห่วงตัวเองก่อนดีกว่าไหม? -_-”

                “ฉันไม่เป็นอะไร” ฉันยกมือขึ้นลูบแก้มก่อนแล้วหันหน้ากลับมาทันที

                “ยัยเตี้ย...ฉันขอโทษนะ”

                “หา?” ประโยคนั้นทำให้ฉันหันกลับไปจ้องเขาอีกครั้ง ถึงลานโล่งในตอนนี้มันจะมืดแต่ก็ไม่ได้ทำให้การมองเห็นของฉันดรอปลงเลย ฉันยังเห็นใบหน้าของเขาชัดเจน เขาขอโทษฉันเรื่องอะไร?

                “ไม่ต้องมาตกใจเลย ถ้าฉันไม่รู้สึกผิดฉันก็ไม่ขอโทษหรอกนะ”

                “อะไรของนาย แล้วผิดอะไรมาขอโทษฉันล่ะ -_-” แปลกชะมัด ต้องวางแผนแกล้งฉันอยู่แน่ๆ

                “เรื่องเมื่อวานน่ะ ฉันต้องขอโทษด้วยที่ทำอะไรแบบนั้นลงไป” หมอนั่นก้มหน้ารู้สึกผิดสารภาพอย่างแผ่วเบา

                “ทำไมนายถึงขอโทษล่ะ จริงๆนายก็ไม่คิดว่าตัวเองผิดหรอกใช่มั้ย?”

                “ใช่ ก็เธอมันน่ารำคาญนี่ ต้องสั่งสอนให้เข็ดหลาบซะบ้าง -_-” อ้าวเฮ้ย ดวงตาที่รู้สึกผิดเมื่อกี้มันหายไปไหนแล้วล่ะ “แต่ฉันเพิ่งจะคิดได้ว่าการทำเธออย่างนั้นมันผิด ฉันคงทำให้เธอโกรธมากสินะ...”

                “ป..เป็นบ้าอะไร ผีเข้าเหรอ หรือว่าไม่สบาย? =_=”

                “เฮ้ย! นี่ฉันจริงจังนะเนี่ย!” นายหัวแดงตะโกนออกมาอย่างเดือดร้อน ฮ่ะๆ ตลกชะมัด “ทั้งที่รู้ว่าเธอไม่ชอบให้ใครมาแตะเนื้อต้องตัวแบบนั้นฉันก็ยังจะทำ ไม่แปลกที่เธอจะเกลียดฉัน ขอโทษที่ล่วงเกิน ฉันมันสุภาพบุรุษไม่พอ” เรียกว่าไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษเลยจะดีกว่า -_-

                “ยอมรับผิดแล้วก็ช่างมันเถอะ”

                “ฉันเพิ่งรู้มาจากดินสอว่าเธอเจออะไรมาบ้างกับแฟนเก่า...ฉันขอโทษจริงๆนะ ฉันไม่รู้ว่าเธอจะมีอดีตแบบนั้น” ดินสอเล่าเรื่องพวกนั้นให้หมอนี่ฟังงั้นเหรอ มิน่าล่ะ...

                “ดินสอบอกอะไร?”

                “ฉันถามยัยนั่นเอง ฉันแค่อยากรู้ว่าทำไมเธอถึงไม่ชอบให้ผู้ชายทำแบบนั้นกับเธอทั้งที่ก็ไปเที่ยวอยู่บ่อยๆแถมยังแต่งตัวล่อแหลมอีก นึกว่าเรียกความสนใจซะอีก -_-”

                “พูดแบบนี้อยากตายเรอะ? =_=” บทจะพูดดีก็ดีจนน่าขนลุก พอจะพูดจาแย่ๆก็แย่สุดขีดจนขาฉันมันกระตุก

                “ใจเย็นๆสิ -_-” อีตานั่นยกมือขึ้นห้าม “ก็คิดว่าที่เธอทำแบบนั้นมันเรียกร้องความสนใจ คิดว่าที่จริงแล้วเธอก็ชอบให้ผู้ชายเข้าหา ก็ได้ข่าวมาว่าผู้ชายที่โรงเรียนติดเธอแจเลยนี่ แต่พอรู้ความมันกลับไม่ใช่อย่างที่คิด...เธอก็มีเหตุผลของเธอที่เป็นแบบนั้น ยิ่งรู้เบื้องหลังว่าว่าเธอเป็นยังไงมาก่อนมันยิ่งทำให้ฉันรู้สึกผิดที่ทำแบบนั้นกับเธอ เธอคงจะทรมานมากสินะ...ขอโทษจริงๆ”

                ม...หมอนี่...ขอโทษฉันจริงๆงั้นเหรอ...เขารู้สึกผิดจริงๆเหรอ มันจะเชื่อได้สักแค่ไหนเชียว

                “ฉันไม่เชื่อนายร้อยเปอร์เซ็นต์หรอกนะ”

                “ก็คิดอย่างนั้นอยู่แล้ว เธอมันเชื่อใจใครยากนี่” หมอนั่นยกแขนขึ้นก่ายโซฟาแล้วเอนตัวพิงอย่างสบาย

                “รู้ด้วยเหรอ?”

                “ดินสอบอกมา” หมอนี่มันจะรู้เรื่องของฉันมากไปแล้วนะ ยัยดินสอก็อีกคน จะขายเพื่อนหรือไง -_-

                “นี่ แผลพวกนั้นน่ะ ทำร้ายตัวเองเหรอ?”

                “อืม” ฉันตามตามตรง หมอนั่นก็เคยเห็นแบบนี้มากับตาแล้วนี่ เหตุการณ์เพิ่งจะเกิดขึ้นเมื่อตอนเย็นนี้เอง

                “แล้วน้ำตาพวกนั้นล่ะ จากหมอนั่นงั้นเหรอ” ไอโอดีนชี้นิ้วไปที่ประตูห้องของร็อคพลางพ่นลมหายใจออกมาอย่างเซ็งๆ

                “นายรู้?”

                “ดินสอบอกมาแบบนี้ ก็บอกแล้วไงว่ายัยนั่นเล่าให้ฟังทุกอย่างแล้ว” เป็นแบบนั้นสินะ ฉันก็ไม่อยากจะอธิบายอะไรให้มากความ ถ้าเข้าใจแล้วก็ดี

                “เฮ้อ...คิดสภาพเธอแล้วนึกถึงตัวเองชะมัด” หมอนั่นถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วหันหน้ากลับมามองฉัน

                “ทำไม?”

                “ก็เรื่องที่ฉันทำกับเธอเมื่อวานไง เธอต้องทรมานมากแน่ๆ” ขอบคุณที่เข้าใจฉันนะ

                “วันหลังก็อย่าทำอีกล่ะ”

                “เออ ไม่ทำหรอก เดี๋ยวก็ร้องไห้ขี้มูกโป่งอีก อ่อนแอชะมัด” อีตานั่นยักไหล่กวนประสาทแล้วลุกขึ้นบิดขึ้เกียจ

                “ฉันไม่ได้อ่อนแ..โอ๊ย!!” การอ้าปากกว้างๆมันไม่ใช่เรื่องดีเลยแฮะ แสบชะมัด T^T

                “เธอไม่ควรจะเผชิญกับปัญหาด้วยตัวเองนะ คนเรามันต้องยืมมือคนอื่นบ้าง ^^” หมอนั่นยื่นมือส่งให้ฉัน เขาดูเป็นคนดีขึ้นแฮะ เอ๊ะ! หรือนี่มันเป็นการแสดง เขาตั้งใจหลอกให้ฉันตายใจแล้วจะแกล้งฉันทีหลังใช่ไหม? -O-

แต่คงไม่หรอก...รอยยิ้มของเขาดูจริงใจ มันดูน่าเชื่อถือกว่าทุกครั้ง

ฉันเอื้อมมือไปจับมือของเขา ฝ่ามือของไอโอดีนอบอุ่นต่างจากทุกครั้งที่เคยสัมผัส ครั้งที่ผ่านมามันเต็มไปด้วยความเกรี้ยวโกรธ หวังว่าฉันจะเชื่อใจนายได้นะ

                “เธอยังไม่ได้กินอะไรเลยสินะ”

                “รู้ได้ยังไง?”

                “ยัยบัทเทอร์บอกมา” หมอนี่เป็นนักสืบหรือไงเนี่ย =_=

                “นายก็จะไปหาอะไรกินอยู่ไม่ใช่เหรอ งั้นก็ไปด้วยกันเลยสิ”

                “เธอไปอาบน้ำก่อนเถอะ สภาพแบบ...” หมอนั่นสแกนฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า สภาพฉันมันทำไม หา?

                “แต่ฉันอยากกินก่อนนี่”

                “ไม่ต้องมาทำหน้าตาน่าสงสารเลย ฉันไม่สงสารหรอก -_-”

                “ใจร้ายไม่เปลี่ยนเลยแฮะ -_-” นึกว่าจิตใจจะดีขึ้นกว่าเดิมซะอีก

                “ไปอาบน้ำแล้วค่อยมาทานข้าว แล้สฉันจะทำแผลให้”

                หา! ฉันหูฝาดไปหรือเปล่าเนี่ย -O-

                “นายจะทำแผลให้ฉัน?”

                “เออ แถมทำอาหารให้เธอกินด้วยอ่ะ”

                “ขนลุกอ่ะ นายทำแบบนี้ทำไม =_=” ขนแขนสแตนอัพจริงๆไม่ได้โม้

                “แทนคำขอโทษก็แล้วกัน เลิกพูดมากแล้วไปได้แล้ว!” หมอนั่นผลักฉันไปทางห้องน้ำชั้นล่างแล้วโบกมือไล่อย่างกับว่าฉันเป็นหมา

                แต่ก็ดีเหมือนกัน.. ^^

               

                โชคดีที่ฉันหิ้วกระเป๋าเสื้อผ้าลงมาด้วยก็เลยมีเสื้อผ้าเปลี่ยน หลังจากที่อาบน้ำขัดตัวเสร็จ ข้าวผัดฝีมือของหมอนั่นก็วางอยู่บนโต๊ะรอฉันไปรับประทาน ไม่อยากจะเชื่อว่าคนอย่างหมอนี่ก็ทำอาหารเป็น เอ๊ะ...จะว่าไปฉันก็เคยเห็นฝีมือการทำอาหารของหมอนี่แล้วนี่นา สงสัยจะทำเป็นแค่ข้าวผัด ก็ภารกิจที่แล้วหมอนี่ก็ทำข้าวผัดนี่ เป็นข้าวผัดไข่นกกระทาด้วย =_=

                “โอ๊ย! เบาๆหน่อยสิ!” ฉันร้องออกมาด้วยความเจ็บ “ให้ฉันทำเองเถอะ มือนายมันหนักเกินไปแล้ว -_-” ฉันเอมมือไปเอาสำลีในมือของหมอนั่นแต่เขากลับดึงกลับ

                “เธอนั่นแหละสำออย ฉันมือเบาที่สุดในโลกแล้วนะเว้ย ขนาดไอ้เฮอริเคนที่มีเรื่องบ่อยๆยังให้ฉันช่วยทำแผลให้เลย”             

                “หน้าพี่เฮอริเคนคงจะหนาหว่าฉันน่ะสิถึงได้ไม่เจ็บ -_-” พี่เขาเป็นผู้ชายนี่ ไม่แปลกที่จะมความอดทนสูง อีกอย่างฉันก็ไม่ได้มีพลังชีวิตอึดทนทานเหมือนยัยโนเกียนี่

                เอ๊ะ...พูดถึงยัยนั่น...

                “ป่านนี้โนเกียจะเป็นยังไงบ้างนะ...” จู่ๆฉันก็นึกถึงยัยนั่นขึ้นมา จะเป็นอะไรหรือเปล่านะ อยู่กับคนอันตรายอย่างพี่เฮอริเคน...

                “เพิ่งจะเป็นห่วงเพื่อนหรือไง?”

                “โอ๊ย!! เบาๆเซ่!” หมอนั่นกดสำลีที่มุมปากซะเต็มแรงจนฉันต้องปัดมือหมอนั่นออก เป็นบ้าอะไรเนี่ย!

                “แค่นี้มันยังเจ็บน้อยกว่าที่เพื่อนเธอเจ็บอีกนะ”

                “เลิกตอกย้ำสักทีเถอะน่า ฉันก็ไม่อยากให้เป็นแบบนั้นสักหน่อย”

                “ฉันคิดว่าไม่น่าจะมีอะไรแล้วนะ ไอ้เฮอริเคนมันเป็นคนมีเหตุผลพอ เธอก็ไปเล่าความจริงให้หมอนั่นฟังแล้วนี่ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร” ไอโอดีนโพล่งขึ้นพลางเก็บของใส่กล่องพยาบาล ถ้าเป้นอย่างหมอนั่นพูดก็คงจะดี หวังว่ายัยนั่นจะไม่เป็นอะไรนะ

                “นี่ ตอนนี้มันตี4แล้วนะ ไม่ง่วงเหรอ?” หมอนั่นยกมือขึ้นมาดูนาฬิกา ทำไมเวลามันผ่านไปเร็วขนาดนี้นะ

                “คิดๆดูก็ง่วงเหมือนกันแฮะ หาวว -O-” ฉันยกือขึ้นปิดปากทันทีความง่วงเข้าครอบงำ ถ้าไม่บอกว่าตอนนี้เวลาตี4ฉันก็ไม่ง่วงหรอกนะเนี่ย -O-

                ”งั้นก็นอนซะ”

                “จะให้ฉันนอนที่ไหนล่ะ? ห้องนายหรือไง -_-”

                “ที่โซฟานั่นแหละ เธอกลับห้องไม่ได้นี่” หมอนั่นเอากล่องพยาบาลไปเก็บแล้วปิดไฟเดินออกจากห้องอาหารทันทีทั้งที่ฉันยังนั่งหาวหวอดๆอยู่ เฮ้ย สะกดคำว่า”มารยาท”เป็นไหม? -_-

                “ไม่นอนหรอก เดี๋ยวตื่นมาอีกทีก็อยู่ที่ห้องหมอนั่นอีก น่ากลัวจะตายไป” มันน่ากลัวยิ่งกว่าถูกผีหลอกซะอีก แบบนี้ไม่ได้หลับแน่ๆ!

                “ฉันจะนั่งเฝ้าเธอเอง”

                “หา? นายก็กลับห้องของนายไปสิ จะมานั่งเฝ้าฉันทำไม?” หนีออกมานอนข้างนอกก็ผิดกฎของรายการแล้ว คิดจะก่อกบฏกันสองคนหรือไง เดี๋ยวก็ถูกรายการแบนทั้งคู่หรอก กลับไปนอนกับดินสอเลยไป๊ -_-

                “เธออยากถูกหมอนั่นลากเข้าห้องอีกหรือไง?”

                “(- - )( - -)” คำตอบคือไม่ ใครจะอยากโดนแบบนั้นอีกล่ะ บอกแล้วว่ามันน่ากลัวยิ่งกว่าผีซะอีก TOT

                “งั้นก็นอนซะ” หมอนั่นชี้ไปที่ไปที่โซฟาที่ตั้งเป็นครึ่งวงกลมอยู่กลางลานโล่ง ฉันเดินไปนั่งประจำที่ที่ฉันนั่งอยู่บ่อยๆ หมอนั่นก็ตามมานั่งข้างๆ ก็รู้สึกดีอยู่หรอกที่หมอนี่มาทำดีด้วย แต่การแหกกฎแบบนี้มันจะดีเหรอ

                “นายกลับไปนอนเถอะ ฉันไม่เป็นอะไร”

                “อ๋อ อยากถูกหมอนั่นจับปล้ำสินะ? -_-”

                “ไม่ใช่อย่างนั้น คือมันผิดกฎนะ...นายกลับเข้าห้องไปเถอะ”

                “ช่างมันเถอะ เลิกพูดมากแล้วหลับตาลงซะยัยเตี้ย!” หมอนั่นผลักหัวให้ฉันนอนลงบนตักของเขาก่อนจะเงียบไม่ยอมพูดอะไรต่อ เขาทำดีเกินไปแล้วนะ...ทั้งทำแผล ทำอาหาร พูดจาดีๆ ฉันไม่อยากติดหนี้บุญคุณคนอย่างนายนะ...

                เขาทำดีกับฉันทำไม เพราะต้องการจะลบความผิดใช่ไหม?

                เพราะต้องการจะขอโทษถึงได้ทำแบบนี้

                แต่มันก็ให้ความรู้สึกแปลกๆ...ทั้งอบอุ่น ทั้งมีความสุข

ขอบคุณที่ให้ยืมตักนะ

                “ราตรีสวัสดิ์”

 

สวัสดีรีดเดอร์ วันนี้ก็มาอัพตอนใหม่อย่างรวดเร็ว

อาจจะมีคำที่เขียนบ้างเล็กน้อยถึงปานกลาง หรืออาจจะมากมายมาหาศาล =_=

และอาจจะเขียนตัดตอนไปอย่างรวดเร็ว

ก็ต้องอภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

เพราะไรเตอร์เขียนภายในวันเดียว และไม่ได้ตรวจทานก่อนจะเอาลง

ถ้าขัดใจตรงไหนก็ขออภัยด้วยนะคะ >_<

และสุดท้ายขอขอบคุณทุกท่านที่แวะเข้ามาอ่านและคอมเมนต์นะคะ >O<

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.6 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา