RabbiT เหยื่อ.รัก.ร้าย

8.7

เขียนโดย nooonaa

วันที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2557 เวลา 18.01 น.

  22 บท
  24 วิจารณ์
  33.54K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 11 มกราคม พ.ศ. 2557 18.12 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

14) Little rabbiT 13 : เกมของเหยื่อ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

by nooonaa

 

 

เว็บขีดเขียน



Little rabbiT 13 : เกมของเหยื่อ

 

 

 

 

+Little rabbiT+

 

 

 

'ไหนมึงบอกว่ากูเป็นของมึงไง แล้วมึงจะทิ้งกูไว้อย่างนี้น่ะหรอ'

 

หึ คงเห็นว่าผมเป็นคนโง่อยู่สินะ

 

แต่ขอโทษทีเถอะ...ผมบอกแล้วไงว่าผมเป็นคนใหม่แล้ว

 

ยอมรับ...ว่าตอนแรกผมอ่อนไหวไปกับคำพูดหว่านล้อมนั่น แต่พอคิดว่าอีกคนยังคงไม่เลือกข้างอย่างที่พี่เฟย์บอก หัวใจผมมันก็เริ่มแข็งกระด้างทันที

 

ผม ไม่ อยาก เจ็บ อีก แล้ว

 

ผมปฏิเสธความรับผิดชอบที่อีกคนบอกว่าเต็มใจ แล้วรีบปลีกตัวให้ออกมาจากที่ตรงนั้นให้เร็วที่สุด โดยที่ผมไม่รู้ว่าพวกเขาทำยังไงกันต่อ พี่ซีนกับพี่เฟย์จะห่วงผมมั้ย หรือว่ารอยยิ้มของความโล่งอกที่ไม่ต้องมารับผิดชอบผมจะปรากฏบนใบหน้าหล่อนั่นรึป่าว แต่ถ้าเอาความจริงคงต้องบอกว่าผมไม่อยากจะรับรู้หรือคิดถึงมันสักนิด เพราะยังไงๆหัวใจมันก็รู้ว่าพี่ฟินย์ต้องดีใจแน่

 

ก็เขาจะได้ไม่มีภาระ และกลับไปดูแลผู้หญิงคนนั้นอีกครั้งไง หึ ก็รักมากซะขนาดนั้น

 

ก๊อกๆ

 

"ซาร์ ตื่นรึยัง ลงมากินข้าวเช้าได้แล้ว"

 

อ่า

 

"ตื่นแล้วครับ" ผมตอบรับเสียงหวานใสของพี่ซีนมักจะปลุกผมทุกเช้าแบบนี้อยู่เรื่อยไป แต่ครั้งนี้จะบอกว่าพี่ซีนมาปลุกก็คงไม่ใช่ เพราะตอนนี้ผมตื่นอยู่ หรือจะบอกแบบความจริงก็คือ...ผมไม่ได้นอนทั้งคืนเลยต่างหาก

 

นอนไม่หลับหรือหลับไม่ได้

 

ก็มันมีแต่เรื่องนี่ มันเอาแต่วิ่งวนอยู่ในหัวไม่ยอมไปไหน พอข่มตาหลับ...ใบหน้าหล่อที่ผมชอบมองก็มักจะวิ่งเข้าตาทันที แล้วแบบนี้ผมจะหลับไปได้ยังไง

 

เห้อ...ทำไมมันทรมานกว่าตอนที่โดนผู้ชายคนนั้นโกหกล่ะ ทำไมกันนะ

 

ช่างมันเถอะ...นายควรจะลืมๆผู้ชายคนนั้นไปซะ แล้วก็ลุกขึ้นมาเป็นเด็กคนใหม่ได้แล้ว อย่าไปใส่ใจกับคนพันธุ์นั้นอีกเลย

 

พอคิดได้ หัวใจมันก็เริ่มมีชีวิตชีวามากขึ้น ผมเลยลุกขึ้นมาอาบน้ำและแต่งตัวให้เรียบร้อยก่อนจะลงไปกินข้าวเช้าฝีมือพี่ซีน แต่พอลงมา...ผมกลับเห็นดวงตากลมโตของพี่สาวตัวเอง เอาแต่จ้องมองเหมือนจับผิดอะไรบาง จนผมเริ่มรู้สึกอึดอัดเลยตัดสินใจที่จะเอ่ยปากถาม

 

"มีอะไรรึป่าวครับ" ผมเดินมานั่งที่ประจำที่มีข้าวต้มหอมกรุ่นวางอยู่ ก่อนที่ร่างบางจะปรี่เข้ามากอดผมจากด้านหลังทันทีที่ผมถาม

 

"พี่ขอโทษนะซาร์ เพราะพี่...ซาร์ถึงต้องเจอเรื่องแบบนั้น" เสียงพี่ซีนสั่นเหมือนรู้สึกผิดมาก พี่เขาคงรู้เรื่องทั้งหมด ตลอดที่ตัวเองไม่อยู่แล้วมั้ง ถึงดูเครียดแบบนี้

 

"ขอโทษทำไมครับ ผมบอกแล้วไง...ว่าผมเต็มใจน่ะ" ผมลูบแขนเล็กที่กอดคอผมอยู่เบาๆ ก่อนจะดันพี่ซีนให้ออกมาอยู่ตรงหน้า

 

"เรื่องนี้มันจบไปแล้วครับ พี่อย่าสนใจเลย เราต่างคนต่างอยู่...อะไรๆคงจะดีขึ้น ไม่ต้องเป็นห่วงผมนะครับ"

 

"แต่ซาร์กับฟินย์..." พี่ซีนลากเสียงยาวแล้วหยุดไว้แค่นั้นเหมือนไม่อยากจะต่อความให้มันยาวยืด คงจะกลัวว่าผมจะเอาไปคิดมาก ผมเลยยิ้มและไม่คิดจะถามเพราะผมอยากจะจบมันไปจริงๆสักที ก่อนจะไล่ร่างบางให้ไปทำงานสักที

 

"มันสายแล้วนะพี่ซีน ไปทำงานได้แล้ว"

 

"ตายแล้ว! สายแล้วๆ พี่ไปก่อนนะซาร์...แล้วเดี๋ยวเย็นนี้พี่โทรหานะ" พี่ซีนรีบกระวีกระวาดคว้ากระเป๋าและแฟ้มเอกสารมากมายจนผมปวดหัวแทน ก่อนจะตรงดิ่งมาหอมแก้มผมเหมือนทุกเช้า แต่ผมลืมบอกกับพี่ซีนเรื่องโทรศัพท์เลยนี่

 

"พี่ซีน...โทรศัพท์ผมหายอะ" ผมไม่รู้ว่าหายไปไหน ไม่ตกอยู่ในรถพี่ฟินย์ก็เป็นที่รีสอร์ทนั่น

 

"อ่าวหรอ งั้นเย็นนี้เราไปซื้อใหม่กันนะ"

 

"ครับ ขับรถดีๆนะพี่" ผมโบกมือลาพี่ซีนอีกครั้งก่อนที่ร่างบางจะวิ่งกลับมาหยิบรองเท้าในตู้แล้ววิ่งกลับออกไป

 

ขี้ลืมจังน้า...พี่สาวผมเนี่ย

 

พอพี่ซีนไป ผมก็กลับมากินข้าวต้มตรงหน้าต่อ แต่มันยังไม่รู้สึกหิวเลยสักนิด ผมเลยตักมันเข้าปากสองสามคำเพื่อไม่ให้คนทำเสียความรู้สึกและค่อยนำมันไปเก็บในตู้เย็น พอจัดการกับตัวเองเสร็จ ผมก็เดินออกจากบ้านเพื่อไปเรียน

 

แต่เพียงแค่ผมเปิดประตูบ้านออกไป ผมก็พบกับผู้ชายร่างสูงที่คุ้นเคยมาก เขากำลังยืนมองผมด้วยสีหน้าบึ้งตึงอยู่นอกประตูรั้ว ผมเองก็อึ้งเล็กน้อยเพราะไม่คิดว่าพี่มันจะมา ก็มันรู้สึกดีใจยังไงก็บอกไม่ถูก แต่ผมไม่ควรจะรู้สึกแบบนั้น เลยต้องทำเป็นใจแข็ง พยายามทำตัวเป็นปกติแล้วเดินผ่านร่างสูงที่อยู่ในชุดนักศึกษาเหมือนกันกับผม...ผ่านไปแบบที่เขาเรียกว่า...ไร้ตัวตน

 

"ซาร์"

 

อยู่ๆพี่ฟินย์ก็เรียกผมไว้เมื่อผมเดินผ่านพี่มันไปโดยไม่มอง แต่ผมก็ทำเป็นไม่ยิน พี่เขาเลยเรียกผมอยู่หลายครั้งก่อนจะพยายามเดินเร็วเพื่อมาดักผมจากด้านหน้าไว้

 

"ซาร์...อย่าเดินหนีกูสิ" มือใหญ่จับไหล่ผมไว้เมื่อผมทำท่าจะเบี่ยงตัวหนี ก่อนที่พี่มันจะเชยคางผมให้เงยขึ้น เหมือนต้องการล็อกตัวผมไว้ แต่ผมก็เอาแต่หลบตาดุนั่น โดยที่อีกฝ่ายก็พูดเหมือนร้องขอให้ผมอย่าทำแบบนี้

 

"ซาร์...อย่าเมินกูสิ"

 

พี่นั่นแหละ! อย่ามาทำเหมือนผมสำคัญได้มั้ย! พอสักทีเถอะ!

 

"...." แต่ผมกลับเงียบไม่พูดอะไร ก่อนจับมือนั่นแล้วสะบัดทิ้งเหมือนไม่ใยดี พี่มันก็มองผมอย่างอึ้งๆ ผมเลยใช้โอกาสนั้นเดินหนีอีกคนไป แต่เพียงแค่ร่างสูงเอี้ยวตัวหวังจะเดินตามผม เสียงโอดโอยก็ร้องดังขึ้นก่อนจะทรุดลงกับพื้นทันที

 

"โอ๊ย!"

 

"พี่ฟินย์!"

 

ณ เวลานั้น หัวใจผมนั้นร่วงหล่นลงพื้นตามร่างสูงทันทีที่ได้ยินเสียงเจ็บปวดนั่น ผมเลยรีบวิ่งไปประคองไว้ด้วยความไวที่มี ส่วนมือใหญ่ก็จับเข้าที่ซี่โครงตัวเองก่อนที่ร่างสูงจะงอเพราะความเจ็บ และนั่นก็ทำให้ผมเพิ่งนึกออก ว่าอีกคนเพิ่งจะซี่โครงหักไปเมื่อคืน เมื่อกี้มันคงจะสะเทือนตอนที่เอี้ยวตัว

 

"จะ เจ็บมากมั้ยครับ" ผมถามพรางตรวจดูอาการอีกคนจนทั่วตัว แต่ก็ไม่ได้ยินเสียงตอบกลับ ผมเลยเงยหน้าขึ้นเพื่อจะถามอีก แต่เพียงแค่ผมเงยหน้าขึ้นไป จมูกของผมก็ชนกับริมฝีปากและปลายจมูกอีกคนที่จงใจก้มลงมาอยู่ก่อน ก่อนที่ทุกอย่างรอบๆตัวผมจะหมุนช้าๆลงและหยุดนิ่งในที่สุด

 

สายตาเย็นตาที่เอาแต่จ้องลึกเข้าไปในดวงตาผมก่อนที่มืออีกข้างจะยกขึ้นมาทาบหน้าผมอย่างเบามือ และหลังจากนั้น...ริมฝีปากนุ่มก็ค่อยๆกดหลังลงมาช้าๆทันที

 

หวาน...หวานที่สุด

 

พี่ฟินย์...พี่กำลังจะหลอกล่อผมอีกครั้งงั้นหรอ

 

นี่เพียงแค่ความไม่ได้ตั้งใจ...ก็เป็นเหตุทำให้หัวใจผมสั่นขวันแขวนอีกครั้ง

 

ไม่!

 

หยุด!

 

ผลั่ก!!

 

"พอ! พอกันที!" ผมผลักร่างสูงออกก่อนจะตวาดใส่หน้าอีกคนด้วยหัวใจที่สั่นเพราะความสับสน แต่สิ่งที่ผมด่าออกไปมันกลับตรงกันข้ามกับที่หัวใจผมเป็นตอนนี้ นี่ผมไม่สามารถหยุดมันได้เลยใช่มั้ย

 

"ซาร์..."

 

"อย่ามาเรียกชื่อผม! พี่จะไปไหนก็ไป อย่ามาเข้า อย่ามาให้ผมเห็นหน้าอีก เข้าใจมั้ย!" นั่นคือสิ่งที่ถูกต้องที่มันควรจะเป็นได้ต้องนานแล้ว ทุกอย่างที่เป็นอยู่มันจะได้ผ่อนคลายลงสักที

 

พอผมลั่นคำใส่ร่างสูงจนพอใจ ก็รีบเดินหนีห่างจากอีกคนทันที แต่พี่ฟินย์เองก็ยังจะรั้นที่รั้งผมไว้ โดยที่ผมเองก็ไม่เข้าใจพี่เขาเลยสักนิดว่าจะทำมันไปเพื่ออะไร ผมเลยต้องพูดคำขาดทั้งๆที่ใจผมไม่ต้องการมันสักนิด

 

"ถ้าขืนว่าพี่ยังมาแตะตัวผมอีก คราวนี้ผมขอสาบาน...ผมจะหายไปแบบที่พี่ไม่มีทางหาเจอแน่ คอยดู!"

 

"ซาร์!" พี่มันร้องเสียงหลงเหมือนตกใจมากที่ได้ยินแบบนั้น แต่ครั้งนี้มันเหมือนกับว่าพี่มันไม่ได้แสร้งทำ เพราะผมเห็นแววตาเย็นชานั่นสั่นไหวจนหัวใจผมต้องสั่นตาม

 

อย่าใจอ่อน!

 

ผมกลั้นหายใจอีกครั้งก่อนจะเดินหนีออกห่าง แต่ครั้งนี้กลับไม่มีแม้แต่เสียงเรียกหรืออะไรทั้งสิ้น มันเหมือนกับว่าอีกคนยอมทำตามคำขาดของผม ซึ่งมันก็ดีแล้วนี่ ผมควรจะโล่งใจได้แล้ว แต่ทำไม...ทำไมมันเจ็บอย่างนี้

 

ผมพยายามพาร่างกายที่อ่อนล้าของตัวเองเดินออกมาจนถึงหน้าหมู่บ้าน ก่อนจะค่อยพาตัวเองไปนั่งพักที่ป้ายรถประจำทางเพื่อคลายความเหนื่อยที่ไร้สาเหตุ พรางมองไกลออกไปเรื่อยเหมือนไม่มีจุดหมาย แต่พอผมสั่งให้หยุดคิดถึงอีกคน สมองผมก็ปวดจี๊ดขึ้นมาทันที ผมเลยค่อยๆตั้งสติและสลัดความคิดพวกนั้นออกก่อนจะรอรถประจำทางอย่างจริงจัง

 

ไม่นานรถสายที่ผมต้องการขึ้นก็มาจอดเทียบท่า ผมเลยรีบวิ่งขึ้นเพราะกลัวจะตกรถ แต่โชคยังดีที่ตอนนี้มันก็สายมากแล้ว เด็กนักเรียนเลยไม่ค่อยมี เลยทำให้ผมยืนอย่างสบายๆตัวไม่ต้องเบียด แต่พอรถเคลื่อนออกไปได้สักพัก ก็มีเสียงโวยวายเหมือนมีใครกำลังทะเลาะกัน ผมเลยหันไปดูทางต้นเสียงเหมือนกับคนอื่นด้านหลังรถ ก่อนจะพบผู้ชายที่ผมคิดว่าชาตินี้คงไม่มีทางก้าวขึ้นรถประจำทางแบบนี้แน่

 

"ก็มีอยู่แบงก์เดียว พี่อย่าเรื่องมากดิ" มือใหญ่ยื่นแบงก์พันให้กระเป๋ารถก่อนจะชักสีหน้าใส่เหมือนเริ่มรู้สึกโมโห แต่พี่กระเป๋ารถกลับไม่ยอมรับ แถมยังสวนกลับด้วยน้ำเสียงโหดอีกต่างหาก

 

"เห้ยน้อง! พี่บอกแล้วไงว่าพี่ไม่มีทอน นี่คิดจะกวนตีนพี่ไง!"

 

แย่แล้วๆ

 

"แล้วใครบอกให้ทอนเล่า เอาๆไปเลยไป เหี้ย! ไมรถมันร้อนงี้ว่ะ" ร่างสูงไม่พูดเปล่า กลับยัดแบงก์นั่นใส่มืออีกคนพร้อมกับเอาแขนเสื้อมาเช็ดหน้าที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อ ผมเองก็เริ่มสงสาร คงเป็นเพราะไม่เคยขึ้นรถอะไรแบบนี้แน่ มันก็น่าจะลำบากอยู่ แต่ผมไม่ได้บังคับให้พี่มันขึ้นนี่ เขาทำตัวเขาเอง แล้วผมจะไปสนใจทำไม

 

"ร้อนมากก็ไปนั่งแท็กซี่ไปปะ" เสียงพี่กระเป๋ารถดูกวนอีกคนมาก แต่พี่ฟินย์ก็ไม่ว่าอะไร กลับควักเงินในกระเป๋าออกมาจนเกือบหมดก่อนจะยื่นให้อีกคน

 

"เอารถไปติดแอร์ดิ๊ ร้อนเหี้ยๆเลยว่ะ!"

 

เห้ย!

 

พี่ฟินย์!! นี่มันรถที่ไม่มีพัดลมด้วยซ้ำ แล้วมันจะติดแอร์ได้มั้ยเล่า!

 

"เห้ยน้อง! กวนตีนพี่เรอะ!"

 

"สัด! หรือมึงจะเอา! กูก็ทนกับมึงและรถร้อนเหี้ยๆของมึงมานานแล้วเถอะ!"

 

อะ!

 

พี่ฟินย์! ทำไมไปสวนเขาแบบนั้น!

 

"เห้ย! ไอ้เด็กนี่วอนซะแล้วมึง!!"

 

เห้ย!

 

"ยะ อย่านะครับ! พี่จอดรด้วยครับ!" พอเห็นพี่กระเป๋ารถทำท่าจะซัดหน้าอีกคน ผมก็รีบวิ่งไปห้ามก่อนจะร้องบอกให้หยุดรถ แต่ดูท่าอีกคนก็พร้อมจะสู้ยิบตา เพราะพี่มันเลิกแขนเสื้อขึ้นพร้อมฟัดเต็มที่ แต่ผมยังไม่อยากตายนะ เลยรีบลากร่างสูงให้ลงจากรถอย่างไวเมื่อรถจอด

 

แฮ่กๆ

 

เกือบตายแล้วมั้ยล่ะ

 

"จะลงมาก่อนทำไมวะ กูยังไม่ได้กระแทกฟันให้มันหลุดเลยมึง!"

 

หือ! ยังจะทำเป็นเก่งอยู่อีก นี่ไม่รู้ตัวเลยรึไงว่าตัวเองทำตัวดูถูกคนอื่นอยู่น่ะ

 

"อย่าหาเรื่องคนอื่นได้มั้ย ผมเหนื่อยนะ!"

 

ให้ตายเถอะ เมื่อกี้เหมือนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำตัวผมจะลาพักร้อน เพราะใจผมสั่นเหมือนจะโดนยำบาทา แต่โชคยังดีที่ท่านกลับมาทัน ผมเลยวิ่งหนีมาได้อย่างรอดและปลอดภัย

 

แต่เป็นแบบนี้บ่อยก็ไม่ไหวนะ

 

พอผมว่าร่างสูงที่ดูไม่ทุกข์ร้อนอะไรเลยเสร็จก็ล้มตัวลงนั่งกับฟุตบาทข้างถนนทันที แต่พอผมนั่ง บางสิ่งบางอย่างที่ผมลืมก็ตึงขึ้นมาถนัด ผมเลยรีบดึงมือตัวเองที่เผลอไปจับกับมือใหญ่นั่นตอนที่พากันวิ่งลงจากรถออกก่อนจะหันหน้าหนีไปอีกทางทันที

 

ฉ่า!

 

ผม ผมกับพี่เขา...จับมือกันด้วย

 

อ่า...หน้าผมร้อนแล้ว!

 

พอคิดว่าตัวเองเริ่มไม่ปกติก็รีบลุกขึ้นแล้วหนีร่างสูงจากตรงนั้นทันที พี่มันก็เดินตามมาติดๆแต่ก็ยังไม่ทันผม อาจจะเป็นเพราะพี่มันยังเจ็บที่ซี่โครงเลยทำให้ร่างสูงนั้นเดินเร็วได้เท่านี้ ผมเลยใช้โอกาสนั้นเพิ่มความเร็วขึ้นและทิ้งความห่างจากอีกคนให้ได้มากที่สุด แต่เหมือนอีกฝ่ายจะรู้ความคิดผม เสียงเย็นเลยตะโกนฝ่าอากาศตรงดิ่งมาหาแทน และนั่นก็ทำให้ขาผมนั้นแข็งอย่างฉับพลัน

 

"กูไม่ผิดสักหน่อย มึงนั่นแหละที่มาจับมือกู แล้วมึงจะเดินหนีกูทำไมซาร์"

 

มันไม่ใช่แค่ผมที่เป็นคนเริ่ม แต่มันเป็นเพราะผมกำลังจะใจอ่อนต่างหาก ผมถึงต้องหนี

 

"มันก็เหมือนกันนั่นแหละ!" ผมเลยหันกลับไปตอบอีกคนด้วยน้ำเสียงที่ดังไม่แพ้กัน แต่เพียงแค่สิ้นเสียงผม...พี่ฟินย์ก็สวนขึ้นทันที

 

"ไม่เหมือน! มึงจับแต่พยายามหนีกู แต่กูโดนจับแต่พยายามตามมึง!"

 

อึก!

 

พี่ พี่พยายามตามผมงั้นหรอ

 

ตึกตักๆ ตึกตักๆ

 

หัวใจผม....จะ ไม่ ไหว แล้ว นะ

 

"นั่นมันก็เรื่องของพี่! ผมไม่ได้บังคับให้พี่ตามผมนี่!" ถ้าไม่อยากตามก็กลับไป กลับไปหาผู้หญิงที่พี่รักเลยไป อย่ามาทำให้ผมรู้สึกอ่อนไหวไปมากกว่านี้

 

 

"ใช่! มึงไม่ได้บังคับ! แต่เป็นเพราะกูเต็มใจที่จะตาม แค่นี้มันจบมั้ย! "

 

เต็มใจ

 

"....."

 

"เหี้ย! ถ้ากูไม่เจ็บ...มึงก็อย่าหวังว่าจะได้เดินหนีกูได้ไกลขนาดนี้เลยมึง!"

 

พอผมได้ยินแบบนั้นก็รีบหันกลับไปมองระยะทางที่พี่มันบอกว่าไกล แต่ผมกลับพบว่าความไกลที่พี่เขาหมายถึงนั้น...มันก็แค่สิบกว่าก้าวเท่านั้นที่เราห่างกัน

 

นี่คือไกลของพี่ใช่มั้ย! บอกมาสิว่าใช่น่ะ เพราะถ้าใช่...มันก็อาจจะหมายถึงว่าพี่เริ่มมีผมอยู่ในหัวใจที่เย็นชานั้นบ้างแล้ว ในแบบที่ชอบ...ไม่ใช่เกลียด

 

ทุกอย่าง...มันเริ่มจะเปลี่ยนเอาตอนที่ผมกำลังจะทำใจเนี่ยนะ มันไม่ใจร้ายกับผมไปหน่อยรึไง

 

"พอเถอะครับ พี่ทำไปมันก็เท่านั้น ตราบใดที่พี่ยังรักพี่วิคอยู่ มันก็สูญเปล่า" เสียงผมเริ่มอ่อนในตอนท้ายก่อนจะก้มหน้านิ่งเหมือนคนที่รู้อยู่เต็มอกว่าที่เขาทำลงไปเพราะเสียดาย...ผม

 

คนที่รองรับอารมณ์เขาได้

 

"ไอ้ซาร์! กูทำขนาดนี้มึงยังจะคิดว่ากูโกหกมึงอีกใช่มั้ย"

 

ก็มันคือความจริงนี่

 

ผมคิดอยู่ในใจโดยที่ตัวเองยังคงเอาแต่ก้มหน้านิ่งไม่โต้ตอบอะไรอีก และนั่นก็ทำให้ผมลืมที่จะป้องกันตัว เพราะขายาวๆของอีกฝ่าย กำลังมาหยุดตรงหน้าพร้อมกับนิ้วเรียวที่ค่อยๆเชยคางผมให้เงยขึ้น จนผมสามารถเห็นดวงตาเย็นชาคู่นั้นได้อย่างชัดเจน

 

"ทำไมมึงไม่มองที่การกระทำของกู ถ้ามึงยังคิดว่าคำพูดของกูมันเชื่อไม่ได้"

 

การกระทำงั้นหรอ

 

"....."

 

มันเชื่อได้งั้นหรอ

 

"งั้นกูจะทำให้มึงเชื่อ"

 

อ่ะ!

 

อยู่ๆมือใหญ่ก็เข้าประกบที่หน้าและต้นคอผมทั้งสองข้าง พร้อมกับกดริมฝีปากสวยของตัวเองลงมาหา ผมเลยพยายามเบี่ยงหน้าหลบแต่ก็ไม่พ้น เพราะพี่มันไวและหนักหน่วงมาก ผมเลยปิดปากตัวเองให้สนิทแทน แต่เพียงแค่ริมฝีปากนิ่มจงใจดูดดึงริมฝีปากผม ทุกอย่างที่พยายามต่อต้าน ก็พังทลายลงกับตาทันที

 

ตอนนี้สมองผมไม่รับรู้อะไรแล้วล่ะ เพราะมันคิดถึงแต่ความวาบหวาม แถมรสบุหรี่ที่อีกฝ่ายสูบมาก่อนหน้านั้นก็กำลังจะสูบพลังผมให้หมดไป เพราะตอนนี้ขาของผมเริ่มสั่นแล้ว แล้วดูท่าว่ามันจะไม่ได้มีความสั่นเพราะความเขินอายที่ถูกจูบกลางถนนที่มีคนผ่านเยอะแยะขนาดนี้ แต่ดูท่ามันจะสั่นเพราะอีกคนเป็นแน่

 

แย่แน่ๆ ผมต้องแย่แน่ๆ

 

จุ๊บ

 

เสียงจุ๊บดังเบาๆทันทีที่อีกฝ่ายถอนริมฝีปากนุ่มของตอนเองออกก่อนที่หน้าผากเนียนจะวางทับชิดกับหน้าผากของผม ผมเองก็เอาแต่ยืนนิ่งเพราะแรงที่ขามันไม่มีแล้วที่จะขยับ และนั่นก็ทำให้ผมได้ยินอะไรบางอย่างที่เต้นแรงไม่แพ้กันเหมือนกับของผม

 

"กูต้องทำยังไง...กูต้องทำอะไรบ้าง บอกกูสิ"

 

ต้องทำอะไรงั้นหรอ

 

"......."

 

ผมไม่รู้ ผมไม่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไรกันแน่ แล้วตัวพี่เองก็เหมือนกัน ผมเองก็ไม่รู้ว่าพี่ต้องการอะไรจากผม

 

มันยากนะ ถ้าจะตอบเรื่องนี้

 

ปรี๊ดๆ

 

อะ!

 

อยู่ๆเสียงแตรรถก็ดังขึ้นก่อนจะมีรถคันหรูสวยมาจอดเทียบท่าอยู่ข้างหน้าพวกเรา แต่พอใบหน้าหล่อเงยตามองตาเสียง มือที่เคยจับหน้าผมไว้เมื่อกี้ก็ปล่อยแกอย่างฉับพลับก่อนที่ขายาวนั่นจะก้าวขึ้นไปข้างหน้าสองสามก้าว เหมือนกับว่า...พี่ฟินย์รู้จักกับเจ้าของรถคันนี้

 

ใครกัน

 

แต่ผมก็สงสัยได้ไม่นาน ประตูรถฝั่งคนขับก็เปิดออกก่อนจะเผยร่างบางที่เป็นเจ้าของรถ เธอดูสวยเฉี่ยวและสง่ามาก ยิ่งทรงผมสั่นสีทองน้ำตาลนั่นก็ยิ่งขับให้เธอสวย เหมือนกับหลุดออกมาจากแมกกาซีนอย่างไงอย่างนั้น เธอมองหน้าผมเล็กน้อยก่อนจะยิ้มให้เหมือนทักทาย ผมก็ยิ้มกลับและไม่ได้เอะใจอะไรมากสักไหร่ แต่พอร่างสูงข้างหน้าผมเรียกชื่ออีกคน มันก็เริ่มทำให้หัวใจผมเริ่มบีบรัดตัวอย่างรุนแรง

 

"ฟินย์"

 

"วะ วิค"

 

วิค!

 

อึ้ง!

 

ได้โประอย่าเพิ่งมาถามคำถามอะไรกับผมตอนนี้ ไม่งั้นคุณจะได้เพียงแค่สีหน้าบอกบุญไม่รับจากผมเท่านั้น

 

ก็ดูสถานการณ์ตรงหน้าผมสิ ผู้ชายที่เป็นถึงเดือนมหาลัย แถมยังรวยโดยไม่ต้องโอ่ กับผู้หญิงที่รวยเสน่ห์ แถมยังเป็นผู้หญิงที่ผู้ชายคนนั้นรักอีก แค่นี้พอจะนึกออกมั้ย...ว่าผมคนนี้คือตัวอะไร

 

หึ เหมือนกับอยู่คนละโลก

 

มันต่างกันจนผมไม่สามารถที่จะทนอยู่ตรงนี้ได้ต่อแม้แต่วินาทีเดียว

 

ผมค่อยเดินถอยหลังออกจากตรงนั้นช้าๆเหมือนขามันพาไปเองโดยที่ไม่ต้องสั่ง แต่เท้าผมกลับเหยียบพลาดเหมือนทุกอย่างไม่เป็นใจให้ผมเลยสักนิด เลยเป็นเหตุให้ตัวผมเสียสมดุลทรุดลงไปกับไหล่ข้างทางทั้งตัว

 

"เห้ย!"

 

"ซาร์!!" ผมร้องเสียหลงก่อนที่พี่ฟินย์จะผวาเข้ามาช่วยผม

 

"อะ..."

 

"เจ็บมั้ย!" เสียงทุ้มดูตกใจเป็นพิเศษก่อนจะช่วยพยุงผมให้ลุกขึ้นพร้อมกับที่มือใหญ่ค่อยปัดเศษฝุ่นให้ผมทั่วตัว

 

พี่เขา...น่ารักจัง

 

"เจ็บ พี่ฟินย์....ผมเจ็บขา" ผมบอกกับพี่ฟินย์เสียงอ่อนพร้อมกับตีสีหน้าเจ็บทั้งๆที่มันแทบไม่รู้สึกอะไร ก่อนที่ผมจะจงใจไปจับแขนหนาที่ประคองเอวผมไว้แน่น

 

ดัดจริต...คำๆนี้มันเหมาะกับผมมาก

 

ก็ไม่รู้ทำไมถึงทำตัวให้น่าสงสารเพื่อให้อีกคนสนใจแบบนี้ เพียงแค่เห็นร่างสูงดูสนใจผู้หญิงคนนั้นมากกว่าก็อยากจะให้เขาสนใจผมมากกว่านั้น

 

"เดินไหวมั้ย" พี่ฟินย์ถามผมอีกครั้งทั้งๆตาเอาแต่จ้องมองขาผมที่ร้องบอกว่าเจ็บ ผมเลยส่ายหน้าเบาๆให้ก่อนจะทำหน้าแหยๆเล็กน้อยเพื่อให้ดูเหมือนว่าผมกำลังจะร้องไห้

 

"เจ็บ...ขา"

 

"จิ๊!" แล้วร่างสูงก็จิ๊ปากเหมือนอารมณ์เสียที่ได้ยินแบบนั้นก่อนที่ใบหน้าหล่อจะเลิกก้มสำรวจรอบตัวมาจ้องตาผม พร้อมกับตบแก้มผมเบาๆเหมือนปลอบกันกลายๆ

 

"ไม่ร้องดิ เดี๋ยวกูอุ้มมึงกลับก็ได้นะ"

 

"อื่อๆ" ผมรีบพยักหน้าแล้วตรงเข้าไปพิงกับอกกว้าง ก่อนที่ผมจะค่อยๆชายตาไปหาอีกคนที่ดูเราอยู่

 

นั่น! สายตาเธอดูโกรธยังไงก็ไม่รู้ แต่ผมไม่สนหรอก ก็ผู้ชายคนนี้เขาเป็นของผม

 

"นี่...น้องของผู้หญิงคนนั้นหรอฟินย์" แล้วเสียงหวานที่ดูเหมือนจะใจดี แต่ผมก็สัมผัสว่าเสียงหวานนั่นมันลอดออกมาจากไรฟันได้ยากเหลือเกิน คงจะเกลียดเหมือนกับที่พี่ฟินย์เป็น แต่มันดูจะมากกว่านั้นหลายต่อหลายเท่า

 

น่ากลัวจัง

 

"อืม แล้วเธอมีอะไรกับฉันรึป่าว" หลังจากที่พี่ฟินย์เงียบไปสักพักก็ตอบเธอกลับ พี่มันคงคิดว่าจะตอบดีมั้ย แต่ไม่ว่าจะตอบยังไง...ความเกลียดก็คงเท่าเดิม หรืออาจจะมากกว่านั้น

 

แต่เมื่อพี่ฟินย์ถามเธอกลับ เธอก็เปลี่ยนสีหน้าที่กำลังเหยียดผมอยู่มาเป็นยิ้มแย้มเพียงแค่เสี้ยววินาทีเดียวก่อนที่เธอจะเอาร่างระหงของตัวเองมาแทรกกลางระหว่างผมกับพี่ฟินย์จนผมนั้นกระเด็นไปอีกฝั่ง แต่โชคยังดีที่ผมเกาะต้นไม้ได้ทัน ไม่งั้นคราวนี้ได้ล้มหน้าฟาดพื้นเจ็บตัวอีกแน่

 

อ๊ะ!

 

"อ่า...วิคเกือบลืมไปเลย วันนี้วิคโชคดีจังที่เจอฟินย์ พอดีวิครู้สึกเหงายังไงไม่รู้อะ ฟินย์ไปดูหนังเป็นเพื่อนวิคนะ นะๆ" เสียงออดอ้อนน่ารักของเธอคนนั้นช่างดูน่าทะนุถนอมดีจัง ผมเชื่อว่าผู้ชายหลายๆคนถ้าเจอแบบนี้ไปก็คงไม่รอด แล้วผู้ชายคนนั้นก็คงไม่พ้นพี่ฟินย์ด้วย

 

 

ผมเองก็เริ่มรู้สึก...เกลียดเธอคนนี้ขึ้นมาบ้างแล้วเหมือนกัน ทั้งๆที่ผมไม่เคยทำตัวทุเรศๆแบบนี้กับใครเลยสักครั้ง แต่เธอกำลังแสดงตัวว่าผู้ชายคนนี้เป็นคนของเธอ และเธอก็จะได้ทุกอย่างที่อยากได้ แม้แต่ให้พี่ฟินย์หักหน้าผม

 

แต่อย่าคิดว่าผมจะตามพี่ไม่ทันนะพี่วิค ยังไงๆของๆผมก็ต้องเป็นของๆผม และผมก็จะไม่มีวันให้พี่ได้ทำร้ายผมอีกแน่

 

"นะๆฟินย์นะ วิคหิวแล้วด้วย"

 

"แต่ว่า....." มือเล็กเขย่าแขนใหญ่นั้นเล็กน้อยเพื่ออ้อนให้อีกคนทำตาม แต่ใบหน้ากลับฉายแววกังวลก่อนจะปรายตามองมาทางผม ผมเลยหันหน้าหนีไปอีกทางเหมือนไม่อยากมอง

 

นี่พี่กำลังจะตัดสินใจอยู่สินะ ว่าจะเลือกใครระหว่างพี่เขากับผม

 

เอาสิ...เอาเรื่องตรงนี้มาช่วยตัดสินอะไรๆให้มันง่ายขึ้นดีกว่า

 

"ไปสิครับ ไม่ต้องเป็นห่วงผมหรอก ผมดูแลตัวเองได้"

 

"ไปนะๆ น้องเขาก็บอกแล้วว่าไปได้ งั้นเราไปกันเถอะนะ" มือเล็กพยายามดึงแขนให้ร่างสูงเดินตามตัวเองไป แต่พี่ฟินย์กลับเอาแต่ยืนนิ่งแล้วเรียกชื่อผมเบาๆ ผมเลยหันหน้ากลับมามองพวกพี่เขาอีกครั้งก่อนจะหยุดที่ดวงตาคมดุสวยนั่น พร้อมกับสั่งคำขาดที่สองของวันให้อีกคนรับมันไว้ในห้วงความคิด

 

 

"แต่ถ้าวันนี้พี่ไป...ก็อย่ากลับมาหาผมอีก"

 

เอาสิครับ...เลือกมาเลย เพราะนั่นคือสิ่งที่ผมต้องการให้พี่ทำ

 

ผม หรือ เธอ

 

 

พี่ จะ เลือก ใคร ใน เกม นี้?

 

 

 

++++++++++++++++++++++++++++++++++++

140310

 

 

เฮลโหลๆ คิดถึงกันปะ เขาโคตรจะคิดถึงอะ ห้าๆ ไปและๆ ไปอ่านสือต่อและจร้า บ๊ายๆ จุบๆ

 

 

ปล.เรื่องพี่กวางที่จำน้องไม่ได้ที่ทุกท่านสงสัยมันไม่มีไรมากหรอกค่ะ ก็แค่ถ้าอยากรู้ก็ต้อง....รออ่าน ห้าๆ รอกันนะๆ แต่ดูท่าตอนหน้าพี่ฟินย์จะเครียดน่าดู แถมมีพี่กวางโผล่มากดดันอีก

 

อึก

 

ตาย

 

หมายถึงไรท์อะตาย5555 (โดนรีดเดอกระทืบฐานทำให้ค้าง)

 

แต่เวลาเห็นรีดเดอร์ค้างแล้วเขามีความสุขนี่555

 

 

 

ปล๒. สะใจฟินย์พอยัง?? ไรท์จะกรี๊ดแล้วนะ!!

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา