มาเฟียสุดเฟี้ยวกะยัยเปรี้ยวสุดบ้า

9.8

เขียนโดย Akademi

วันที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2557 เวลา 18.45 น.

  12 ตอน
  5 วิจารณ์
  18.15K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 3 เมษายน พ.ศ. 2557 21.23 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

7) ไปเที่ยวกันแล้ว!! กิ้วๆ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ตอนที่ 7

                ฉันที่กำลังเดินลงไปข้างล่างเพื่อจะไปกินข้าวด้วยการเดินที่สง่างามดั่งเจ้าหญิงมาเกิด ก็ต้องพบกับจุดจบอันน่าเวทนา

โครม!!

“โอ๊ย ~ เจ็บอ่ะ” หึ่ย! ดันมาล้มตอนสุดท้ายเนี่ยน่ะ น่าอายชะมัด คนที่อยู่ตรงนี้ก็ได้เห็นการแสดงของฉันเต็มสองตาเลยล่ะ -///-

“เป็นอะไรหรือเปล่าเจมิน” แหม ~ พี่คิงคองก็เป็นห่วงฉันเหมือนกันเหรอเนี่ย ปลื้มใจชะมัด ^^

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ แค่เจ็บนิดหน่อย ^^;; ”

“หึ! บ๊องไม่พอยังจะซุ่มซ่ามอีก”

       ขวับ!!

                ฉันรีบหันไปทางต้นเสียงที่บังอาจมาว่าฉัน จะเป็นใครได้หรอกจากนายขี้เก๊ก ชิ! อย่าคิดว่าฉันจะคุยกับนายเลยน่ะ ฉันโกรธแล้วโกรธนานน่ะย่ะ ฉันได้แต่เงียบ เพราะยังไงซะฉันไม่ยอมปริปากพูดกับนายนั่นหรอก

“……”

“เจมิน รีบลุกขึ้นมาแล้วไปนั่งกินข้าวกับคุณชายสิ” ชิ! -3- พี่คิงคองไม่มีน้ำใจที่จะมาช่วยพยุงฉันเลยเหรอ แล้งน้ำใจชะมัด

“พี่แจ๋วฉันขอไปกินข้าวที่ครัวด้วยสิจ๊ะ” เรื่องอะไรฉันจะต้องมานั่งกินข้าวกับนายนี่ด้วยล่ะ ไปกินกับพี่แจ๋วดีกว่า

“เอ่อ..พี่กินแล้วน่ะจ๊ะ ^^;; ” แงะๆ ทำไมจะต้องมากินก่อนฉันวันนี้ด้วยเนี่ย อย่างนี้ฉันก็ต้องนั่งกินกับนายนี่น่ะสิ

“งั้น ไม่เป็นไรค่ะ วันนี้เจมินไม่ค่อยหิวนะคะ”

โครก ~ คราก ~

“รู้สึกว่ากระเพาะของเธอมันไม่เห็นด้วยกับเธอน่ะ”

“เอ่อ...” ทำไมแกจะต้องมาร้องตอนนี้ด้วยน่ะ รู้มั้ยว่าฉันอาย -////-

“จะกินก็มานั่งสิ เดี๋ยวก็เป็นโรคกระเพาะหรอก” ชิ! -3- ไม่ต้องทำเหมือนเป็นห่วงฉันหรอกย่ะ เพราะยังไงฉันก็ไม่สน คราวนี้ฉันจะยอมนั่งกินข้าวด้วยกับนาย เพราะว่ากระเพาะของฉันมันเรียกร้องใหญ่แล้ว

                ฉันรีบยัดข้าวเข้าปากให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะฉันไม่อยากโดนจ้องหน้าอีกต่อไปแล้ว ฉันไม่ชอบให้คนมาจ้องหน้าฉันตอนกินข้าวน่ะ มันเสียสมาธิหมด -3-

“แค่กๆ ...”

“ค่อยๆ กินก็ได้ เดี๋ยวข้าวก็ติดคอหรอก” โอ๊ย ~ ฉันทำเรื่องน่าอายอีกแล้ว ดันสำลักข้าวซะได้

“…..”

“พรุ่งนี้เราจะต้องออกจากที่นี้ตอน 6.00 น. น่ะ”

“…..” ฉันไม่ตอบแต่แค่เงยหน้าขึ้นมามองนายขี้เก๊ก และก็ก้มกินข้าวต่อไป ชิๆ -3- บอกแล้วไงว่าฉันจะไม่ปริปากพูดกับนายขี้เก๊กเลยแม้แต่คำเดียว

“นี่! ฉันบอกไม่ได้ยินเหรอไง” ฉันตะหวัดสายตาไปทางนายขี้เก๊ก (----_-) พร้อมกับลุกขึ้นยืน อย่าเพิ่งคิดว่าฉันจะเข้าไปซัดหน้านายขี้เก๊กล่ะ ที่จริงแล้ว.....ฉัน

“พี่แจ๋ว เจมินอิ่มแล้วนะค่ะ” ก็ตามนี้ล่ะ แหะๆ ^^;; (ไอ้เราก็นึกว่าจะแน่ = คนแต่ง)

“เอ่อ..เจมิน”

“เดี๋ยวเจมินขอตัวไปช่วยลุงหวังรดน้ำต้นไม้ก่อนนะค่ะ” พี่แจ๋วมองหน้าฉันด้วยอาการที่แบบว่า กล้าทำได้ไงอ่ะ ก็คนมันแน่อ่ะน่ะพี่แจ๋ว แค่ไม่ตอบคำถามนายขี้เก๊กไม่เห็นจะยากตรงไหนเลย อิๆ ^^ ฉันเดินออกมา ทิ้งไว้แค่หน้าอันโหดของนายชี้เก๊ก โหะๆ ^0^ สะใจชะมัด หลังจากที่ฉันได้ทำให้นายขี้เก๊กโมโห ตลอดทั้งวันฉันก็โดนนายขี้เก๊กเรียกใช้ตลอดเลยอ่ะ เหนื่อยชะมัด พรุ่งนี้จะไปเที่ยวทั้งทีทำไมวันนี้ฉันถึงต้องมาเหนื่อยแบบนี้ด้วยเนี่ย แถมจะต้องตื่นแต่เช้าอีก เฮ้อ ~ รีบเข้านอนดีกว่า พรุ่งนี้จะได้ไปเที่ยวแล้ว  ^0^ ยู้ฮู้ ~

                5.00 น.

       กริ๊ง กริ๊ง ~

“หาว ~ ขี้เกียจตื่นจังเลย -0- ” ไปอาบน้ำแล้วรีบแต่งตัวดีกว่า เดี๋ยวจะไม่ทัน 6.00 น. ฉันเข้าไปอาบน้ำโดยใช้เวลาครึ่งชั่วโมงและก็รีบจัดการแต่งตัวให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะพี่แจ๋วเข้ามาตามให้ไปกินข้าวเช้าตอน 5.45 น. อ่ะดิ นายขี้เก๊กก็แปลกคน ให้มานั่งกินข้าวตอนนี้เนี่ยน่ะ ไปถึงภูเก็ตก่อนแล้วค่อยกินก็ได้นี่น่า แต่ช่างเหอะเรารีบลงไปดีกว่า

                ~คนบ้านเดียวกัน แค่มองตากันก็เข้าใจอยู่~ รู้ว่าเหนื่อยแค่ไหนว่าหนักแค่ไหนบนหนทางสู้~

“นี่! พี่คิงคอง ขอเพลงสตริงหน่อยดิ ฟังแต่เพลงลูกทุ่งน่าเบื่อจะตาย -_-‘ ”

“โฮ้~ เจมิน เพลงลูกทุ่งก็ออกจะไพเราะดีน่ะ” แหม ~ ช่างสรรหาคำพูดมาน่ะ ไพเราะ แต่ฉันเบื่อแล้ว ตั้งแต่ออกจากบ้านมา ฉันที่นั่งข้างคนขับก็คือพี่คิงคองต้องทนฟังพี่แกเปิดเพลงลูกทุ่งฟัง จนฉันจะร้องตามได้อยู่แล้วน่ะ ส่วน

นายขี้เก๊กก็เอาแต่นั่งเหม่อมองออกไปนอกรถ เฮ้อ~ มันเป็นการเดินทางที่น่าเบื่อมากเลย สำหรับฉันน่ะ

“เปลี่ยนให้เร็วเลย พี่คิงคอง!”

“จ้าๆ ^_-” ชิ! ยังจะมาทำตาขยิบใส่ฉันอีก

                ในที่สุดก็ผ่านพ้นช่วงเวลาอันแสนจะน่าเบื่อสักที ถึงสนามบินแล้วน่ะสิ ต้องรีบหายัยเพื่อนสองคนนั้นก่อนจะได้รีบขึ้นเครื่องซะที ใกล้เวลาที่เครื่องจะออกแล้ว

“เจมิน! / ยู้ฮู้~” พูดถึงก็มาเชียว

“ว่าไง พวกแกมานานยัง”

“เพิ่งมาถึงเมื่อกี้เหมือนกัน อุ๊ย! คุณฮาเดสก็มาด้วยดีใจจังเลยนะค่ะ ^^” แหม~ ยัยท๊อฟฟี่ นี่แกรีบพูดประจบประแจงเลยเหรอเนี่ย

“ครับ ^^”

“อ๊ายยย ^////^ ยิ้มแล้วน่ารักจังเลย”

“นี่ๆ ให้มันน้อยๆ หน่อย ฉันว่ารีบไปขึ้นเครื่องดีกว่า ใกล้เวลาแล้วน่ะ”

“อื่อๆ ใช่ เราจะได้รีบไปที่รีสอร์ทฉันสักที” ฉันเห็นด้วยกับยัยแคนดี้ที่สุด ฉันอยากจะไปแหวกว่ายอยู่ในน้ำทะเลแล้วน่ะ

                09.30 น.

“ว้าว *0* ทะเลที่นี่สวยจังเลย”

“ใช่ๆ / ใช่ๆ ” พวกเรามาถึงภูเก็ตประมาณ 09.30 น. อากาศที่นี่สดชื่นชะมัด ผู้คนที่เดินเล่นกันเป็นคู่บ้าง เป็นครอบครัวบ้างดูมีความสุขจังเลยน่ะ แต่กว่าจะได้มาเห็นภาพแบบนี้ก็ทำเอาฉันเกือบคอเคล็ดตาย ก็บนเครื่องบินน่ะสิ ฉันต้องนั่งข้างนายขี้เก๊กอ่ะ ก็ยัยสองคนนั้นมันยัดเหยียดให้ฉันน่ะสิ ส่วนนายขี้เก๊กก็เอาแต่มองหน้าฉันจนฉันทำอะไรไม่ถูก ฉันเลยตัดสินใจแกล้งหลับตั้งแต่เครื่องออกจนถึงภูเก็ตก็ราวๆ 2 ชั่วโมงเองที่ต้องทนแกล้งหลับคอนี่แทบเคล็ดเลยทีเดียว จนตอนนี้นายขี้เก๊กก็คอยลอบมองหน้าฉันตลอดเลย อยากจะรู้จริงๆ ว่าหน้าฉันเหมือน ซอฮยอน วง girls generation หรือไงถึงได้เอาแต่มองอยู่ได้

“อ้าว ~ เจมินบังเอิญจังเลยน่ะ ที่เรามาเที่ยวที่เดียวกันอ่ะ” เฮ้ย! นี่นายแบล็คมาไม่ให้สุ้มให้เสียงเลยน่ะ และไม่ต้องมาสาระแนจังเลยน่ะว่าบังเอิญว่านายมาเที่ยวที่เดียวกับฉัน ทั้งๆ ที่สถานที่ท่องเที่ยวมีตั้งมากมาย ฉันรู้หรอกย่ะว่านายตามฉันมา

“บังเอิญจังเลยน่ะ นายแบล็ค!”

“อิๆ ^^”

“พี่ฮาเดส ดีใจจังเลยนะค่ะที่พรหมลิขิตทำให้เราได้เจอกันอีกครั้ง”

“แพรว 0_0” เสียงใครเนี่ย กระแนะกระแหนเสียจริง เมื่อฉันหันไปก็เจอกับใบหน้าที่ดูน่ารักและที่สำคัญหน้าตาคล้ายฉันน่ะสิ นี่สิน่ะ แพรว! แฟนเก่านายขี้เก๊ก แต่น่าเสียดายที่ยัยแพรวสวยน้อยกว่าฉัน เพราะยังไงซะฉันก็ต้องสวยอยู่แล้ว โหะๆ ^0^ (ฉันตัดสินใจถูกมั้ยเนี่ยที่เลือกเธอมาเป็นนางเอกอ่ะ นี่มันนางมารร้ายชัดๆ = คนแต่ง)

“นี่นายแบล็ค นายมากับยัยแพรวใช่มั้ยล่ะ”

“ฉันก็อยากให้แพรวกับฮาเดสกลับมาเป็นเหมือนเดิมน่ะ” ฉึก! เหมือนมีอะไรมาทิ่มที่หัวใจ นี่เราเป็นอะไรกันน่ะ เขาจะกลับมาคืนดีกันแล้วทำไมฉันจะต้องเจ็บขนาดนี้ด้วย เราเป็นอะไรกันน่ะ!!

“….”

“นี่ยัยเจมิน นายคนนี้เป็นใคร แล้วยัยคราบหินปูนที่หน้าตาคล้ายแกเป็นใครอ่ะ”

“ไม่มีอะไรหรอก ไว้ฉันจะเล่าให้พวกแกฟังทีหลังแล้วกันน่ะ ตอนนี้ฉันว่าเราไปที่ห้องพักดีกว่าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าออกมาเล่นน้ำกันดีกว่าน่ะ ^^’ ” ฉันต้องทนฝืนยิ้มให้กับยัยพวกนั้น เพื่อที่จะได้ไม่มีพิรุธแต่มันรู้สึกแปลกจังเลยน่ะ ที่ฉันคนนี้ต้องมาปวดใจให้กับเรื่องขี้ปะติ๋วของนายขี้เก๊กเนี่ยน่ะ มันไม่สมกับเป็นฉันเลย

“ก็ดีเหมือนกัน แกอยากเห็นมั้ยล่ะ ^^”

“เห็นอะไรเหรอ 0_o”

“ก็ชุดบิกินีที่แกฝากฉันซื้อน่ะ แกไม่เคยใส่มาก่อนเลยใช่มั้ยล่ะ”

“ก็ใช่ จะว่าไปให้ฉันใส่ชุดบิกินีก็คงแปลกๆ น่ะ ฉันกลัวว่าตัวเองจะเขินซะก่อนน่ะสิ”

“ฮ่าๆ ^0^ ฉันเลยเลือกชุดที่เซ็กซี่ที่สุดในร้านมาให้แกเลยน่ะ”

“หา!! แกว่าไงน่ะ”

“สีแดงอันร้อนแรงกับสีดำอันมีเสน่ห์ เป็นไงล่ะ ฉันเลือกสีถูกใจแกใช่มั้ยล่ะ ^^”

“นี่แก!! ทำไมถึงทำกับฉันอย่างนี้!!!!”

“ว๊ายยย อย่าทำอะไรฉันน่ะ!!” ฉันวิ่งไล่ขับยัยท๊อฟฟี่ที่มันทำให้ฉันโกรธมากถึงมากที่สุด ฉันไม่กล้าใส่หรอกน่ะ ชุดบิกินีแบบนั้นน่ะ ฉันเพิ่งอยู่มัธยมปลายเองนะย่ะ

“แกจะไม่ใส่ชุดบิกินีที่ฉันซื้อมาจริงๆน่ะเหรอ” ชิ! ใครจะกล้าใส่กันย่ะ พอฉันเห็นชุดบิกินีที่ยัยท๊อฟฟี่ซื้อมาฉันก็แทบช็อคแน่ะ มันเซ็กซี่เกินกว่าที่ฉันจะใส่ได้น่ะสิ และที่ยัยท๊อฟฟี่สามารถพูดกับฉันอยู่ได้ตอนนี้ห้องพักก็แทบพังแน่ะ เพราะอะไรน่ะเหรอ ก็เพราะว่าฉันทั้งเอาหมอนขว้างบ้าง กระโดดถีบบ้าง จนยัยแคนดี้ต้องห้ามโดยวิธีนี้เลยค่ะท่านผู้ชม

 ‘ถ้าพวกแกยังไม่หยุด ฉันคิดว่าเราคงจะไม่ได้เล่นน้ำซะแล้วล่ะ’ เห็นมั้ยล่ะท่านผู้ชมว่ามันเป็นคำขู่ที่น่ากลัวมากกกกก

(ตรงไหนกันย่ะ = คนแต่ง) ฉันกับยัยท๊อฟฟี่เลยต้องหยุดทะเลาะกันน่ะสิ ไม่งั้นเดี๋ยวไม่ทันเล่นน้ำ

“ไม่อ่ะ เดี๋ยวฉันใส่ของฉันเอง -_-”

“แต่แกมีแค่ชุดเดียวไม่ใช่เหรอ” โหะๆ ^0^ ใครว่าฉันมีแค่ชุดเดียวที่จริงฉันมีสามชุดเลยแหละ ก็ชุดที่นายขี้เก๊กซื้อมาให้กับของนายแบล็คน่ะสิ แต่ฉันไม่ยอมใส่ของนายขี้เก๊กหรอกน่ะ เพราะว่าฉันจะไม่ยุ่งกับนายนั่นอีกต่อไป ปีนี้เป็นปีแรกเลยน่ะเนี่ยที่ฉันอยากให้โรงเรียนเปิดเร็วๆ เพราะฉันไม่อยากทนทำงานอยู่ที่บ้านนายขี้เก๊กน่ะสิ มันอึดอัดเข้าใจบ่?

“เอ่อ..เดี๋ยวฉันยืมของยัยแคนดี้ก็ได้ ฉันรู้ว่ายัยนี่ต้องเอามาเยอะแน่ๆ” ฉันหันหน้าไปหายัยแคนดี้และก็ต้องเจอกับหน้าที่แบบว่า’แล้วตรูเกี่ยวอะไรด้วยเนี่ย’ แต่ฉันก็ได้ส่งสายตาปิ๊งๆ ไปให้ แต่ได้คำตอบที่กลับมาว่า.....

“เสียใจด้วยเพื่อน ฉันเอามาแค่สามชุด” ฮือๆ T^T ทำไงดี เพราะสามวันที่เราจะเที่ยวเล่นอยู่ที่ภูเก็ต ได้มีโปรแกรมที่จำเป็นจะต้องใส่ชุดให้เหมาะกับกิจกรรมที่ได้จัดเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว และยัยพวกนั้นก็ลงความเห็นแล้วว่าจะต้องใส่ชุดบิกินีเท่านั้น เพราะใส่ชุดอื่นแล้วมันไม่เหมาะอย่างยิ่ง แงะๆ -____-;;; ทำไมมันจะต้องเป็นแบบนี้ด้วยน่ะ

“เอ่อ...”

“ฮ่าๆ ^o^ ฉันว่าแกคงจะต้องใส่ชุดที่ฉันซื้อมาแล้วล่ะ”

“ชิ! เดี๋ยวฉันหาซื้อแถวนี้ก็ได้ย่ะ”

“นั้นมันเรื่องของเธอ ไปซื้อเหอะย่ะ แต่ฉันขอเตือนเธอไว้ก่อนน่ะ”

“อะไร -_-”

“ร้านชุดบิกินีอาจจะไม่เปิดขายก็ได้น่ะ”

“จะบ้าเหรอ! ร้านขายชุดบิกินีมีตั้งหลายร้านคงไม่ปิดพร้อมกันหรอกน่า”

“มันก็ไม่แน่หรอก เหอะๆ (+v+)” เอ่อ... นี่แกพูดอย่างนี้ฉันเริ่มไม่มั่นใจแล้วล่ะ

“เออๆ ช่างเรื่องนี้ก่อนเถอะ ฉันอยากเล่นน้ำแล้ว”

“เธอมีชุดบิกินีเหรอ”

“มี นี่ไง!” ฉันหยิบชุดบิกินีลายดอกลิลลี่ที่นายแบล็คซื้อมาออกมาให้ยัยพวกนี้ดู

“สวยอ่ะ แก”

“เออใช่ ใครซื้อมาให้เหรอ”

“แบล็คน่ะ”

“ใคร / ใคร”

“ก็ผู้ชายที่เข้ามาทักฉันตอนที่พวกเรามาถึงไง” และฉันก็เล่าเรื่องนายแบล็คกับยัยแพรวให้ยัยพวกนี้ฟัง

“อ๋อ! ฉันเห็นหน้าครั้งแรกก็เกิดอาการหมั่นไส้ขึ้นมาทันทีเลยแหละ”

“นี่ยัยท๊อฟฟี่! ฉันเห็นว่าแกก็หมั่นไส้หน้าทุกคนแหละ”

“แต่นายแบล็คอะไรเนี่ย มันยิ่งกว่าคนอื่นๆอีกน่ะ”

“แต่ฉันว่าคนที่เกลียดขี้หน้ากันมักจะลงเอยกันอ่ะ” ฉันเห็นด้วยกับแกเลยยัยแคนดี้ ฉันเห็นทุกราย ทะเลาะกันทั้งวี่ทั้งวัน พอนานๆ เข้าดันรักกันจนตายแทนกันได้เลยน่ะ เรื่องนี้ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ล่ะ

“ไม่มีทางซะหรอก!!”

“จริง? / จริง?”

“ก็จริงน่ะสิ!”

“เหรอ งั้นเรารีบไปเล่นน้ำดีกว่าน่ะ เพราะฉันทนไม่ไหวแล้วฉันอยากเล่นน้ำ”

“อื่อๆ / อื่อๆ” พวกเราได้เตรียมการออกรบ เอ๊ย! ออกไปเล่นน้ำ ด้วยการมาครีมกันแดด SPF 500 ส่งตรงมาจากเกาหลี แต่มันไม่ใช่ของฉันหรอกน่ะ ของยัยแคนดี้ต่างหาก และพวกเราก็เตรียมผ้าคลุมเอาไว้คลุมกันความเขินคนละหนึ่งผืน และหมวกปีกใหญ่อีกคนละหนึ่งอัน และตอนนี้พวกเราก็พร้อมแล้ว ยู้ฮู้~

แอ๊ด~

“0_0” => ฉัน

“0_0” => นายขี้เก๊ก

“อ้าว~ คุณฮาเดส มาอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไรค่ะ”

“นั่นสิ หรือว่ามารอยัยเจมินค่ะ”

“อ่อ..เปล่าครับ ผมแค่เดินผ่านมาน่ะ” เปิดประตูแล้วเจอนายยืนอยู่เนี่ยน่ะ เรียกว่าเดินผ่าน รู้สึกว่านายขี้เก๊กจะอึ้งเมื่อเห็นฉันมากไปหน่อยน่ะ เพราะตอนนี้ยังไม่เลิกมองฉันสักที

“อ่อ..ค่ะ” ฉันที่กำลังเดินออกจากห้องก็โดนคนที่ยืนอยู่หน้าประตูรั้งแขนเอาไว้

“ทำไมเธอถึงใส่ชุดของไอ้แบล็ค”

“…” ฉันได้แต่มองหน้านายขี้เก๊กเท่านั้น เพราะฉันปฏิญาณกับตัวเองแล้วว่าจะไม่พูดกับนายขี้เก๊กเป็นอันขาด และฉันก็รู้สึกว่าการที่ฉันไม่ยอมตอบมันทำให้นายขี้เก๊กโมโหซะแล้วสิ

“ฉันถามทำไมเธอไม่ยอมตอบ!!”

                                พลั่ก!

                ฉันสะบัดมือออกจากการถูกรั้งไว้ โดยไม่แยแสกับนายขี้เก๊กแม้แต่น้อย ฉันไม่มีวันปริปากพูดกับนายแม้แต่คำเดียว จำเอาไว้ด้วย!!

“พวกเธอฉันไปรอที่ชายหาดน่ะ” ฉันบอกยัยพวกนั้นเสร็จก็รีบเดินจากมาทันที ฉันไม่อยากทนกับความกดดันแบบนี้อีกต่อไปแล้ว

“เอ่อ.. ขอโทษแทนยัยเจมินด้วยนะค่ะ”

“….”

                หึ่ม! บอกว่าฉันไม่ใช่คนสำคัญแล้วทำไมจะต้องมายุ่งกับฉันด้วย นายต้องการจะทำอะไรกันแน่ คิดจะเล่นกับความรู้สึกของคนอื่นเหรอ ฉันเดินมาที่ชายหาดโดยมียัยพวกนั้นเดินตามมาทีหลังพร้อมกับบทเทศนายาวเป็นหางว่าวเลย  แถมยังอยากจะรู้ด้วยว่าฉันมีเรื่องอะไรกับนายขี้เก๊ก แต่ฉันก็เลี่ยงที่จะไม่ตอบโดยรีบเดินหนียัยพวกนั้นน่ะสิ ฉันที่รีบเดินหนียัยพวกนั้นก็เจอกับนายแบล็คที่กำลังนอนอาบแดดอย่างสบายใจเฉิบ เมื่อนายแบล็คเห็นฉันก็รีบลุกพร้อมกับทำสายตาอึ้งบวกกับเจ้าเล่ห์ นี่นายคิดอะไรมิดีมิร้ายกับฉันหรือเปล่าเนี่ย

“ว้าว *0* เจมินเธอใส่ชุดที่ฉันซื้อให้ด้วยเหรอ”

“ก็นายซื้อให้ฉันก็ต้องใส่สิ ^^”

“ใส่แล้วเซ็กซี่จังเลยน่ะ~” นายแบล็คเดินเข้ามาใกล้ฉัน และเอามือมาลูบไล้ผมฉันลงมาเรื่อยๆ จนถึงไหล่ และก็กำลังถึง......

                ผั๊วะ!!

“โอ๊ย~”=>นายแบล็ค

“เฮ้ย!” => ฉัน

“ว๊ายยย!” => ยัยแคนดี้

“แกอย่ามาแต๊ะอั๋งเพื่อนฉันน่ะ” => ยัยท๊อฟฟี่ จู่ๆ ยัยท๊อฟฟี่ก็เข้ามาต่อยหน้า ย้ำน่ะ! ว่าต่อย เพราะยัยท๊อฟฟี่น่ะเป็นนักมวยประจำห้องเรียนของเราเลยน่ะ ที่มันไม่มีแฟนก็เพราะว่าไม่มีผู้ชายคนไหนกล้าเข้าใกล้ยัยนี่แม้แต่คนเดียวนี่ล่ะ

“เธอกล้าดียังไงถึงมาต่อยหน้าฉัน ยัยถึก!!” ตอนนี้นายแบล็คกำลังควบคุมความโมโหพร้อมกับเอามือจับแผลที่มุมปากที่เกิดจากหมัดพิฆาตของยัยท๊อฟฟี่

“อ๊ายยยย!! นี่นายกล้าดียังไงมาเรียกฉันว่า ยัยถึก!”

“ผู้หญิงที่ไหนเขาต่อยกันเล่า!”

“ก็นายอยากมาแต๊ะอั๋งเพื่อนฉันก่อนทำไมเล่า!!”

“ทำไม! หรือว่าเธออิจฉาที่เธอไม่เซ็กซี่เท่าเจมิน ทั้งๆที่ก็ใส่ชุดบิกินีเหมือนกัน!”

“อ๊ายยยย!!>< นายยยยย.....” ฉันรีบเข้าไปอุดปากยัยท๊อฟฟี่ โดยมียัยแคนดี้ช่วยอีกแรงหนึ่ง ที่ฉันเข้าไปห้ามไม่ใช่เพราะฉันห่วงยัยท๊อฟฟี่หรอกน่ะ แต่ฉันห่วงนายแบล็คมากกว่า ถ้ายังขืนทะเลาะกับยัยท๊อฟฟี่ต่อไปไม่มีทางที่นายแบล็คจะชนะได้เลย เพราะที่ผ่านมายัยนี่ทะเลาะแล้วไม่เคยแพ้ใครแม้แต่คนเดียว!

“อ้วก แอ อำ อะ อั้ย เอี่ย ><” (พวกแกทำอะไรเนี่ย) ฉันรีบลากยัยท๊อฟฟี่ลงทะเลให้เร็วที่สุด เพราะน้ำเป็นสิ่งเดียวที่จะหยุดความโมโหของยัยนี่ได้ (เหมือนตัวอะไรก็ไม่รู้เนอะ ที่ไม่ใช่คนอ่ะ) แต่กว่าจะลากลงมาได้นี่ เอาฉันกับยัยแคนดี้หอบกินเลยน่ะเนี่ย แต่ในที่สุดความโมโหของยัยท๊อฟฟี่ที่มีต่อนายแบล็คก็ลดลงมานิดหน่อย นิดหน่อยจริงๆ น่ะ เพราะตอนนี้มันกำลังอาละวาดกับฉันโทษฐานที่ยอมยืนนิ่งให้นายแบล็คมันแต๊ะอั๋งเอาอ่ะ แล้วทำไมจะต้องเป็นความผิดของฉันด้วย และในที่สุดสงครามฉันกับยัยท๊อฟฟี่ก็จบลงโดยเปลี่ยนจากสงครามมาเป็นการกวักน้ำใส่กันอย่างสนุกสนาน (พวกแกอารมณ์เปลี่ยนกันเร็วจริงน่ะ = คนแต่ง)

“ฮ่าๆ ^0^”

“ฮ่าๆ ^0^ ยัยเจมินวันหลังก็อย่ายอมให้นายนั่นแต๊ะอั๋งอีกน่ะ”

“จ้าๆ ^^ ฉันรู้ว่าแกเป็นห่วง”

“อืม ยัยแคนดี้!”

“หะ!”

“เราว่ายน้ำหนียัยเจมินกัน”

“อืม ดีเหมือนกัน” นี่พวกแกคิดจะหนีฉันเหรอ ง่ายไปหน่อยมั้ง

“นี่! อย่าคิดว่าจะหนีรอดน่ะ!” ฉันที่กำลังจะว่ายน้ำตามยัยพวกนั้นก็เห็นนายขี้เก๊กกำลังเดินมากับยัยแพรวที่ตอนนี้เกาะแขนอย่างกับปลิง แถมเป็นปลิงที่ใส่ชุดบิกินีสีแดงซะด้วย ไหนพี่แจ๋วบอกว่ายัยแพรวเป็นคนที่เรียบร้อยไง ทำไมคนเรียบร้อยถึงกล้าใส่ชุดบิกินีสีแดงอย่างนี้อ่ะ เพราะฉันเองยังไม่กล้าใส่เลย โอ๊ย! เอาอีกแล้วอาการเจ็บจี๊ดที่หัวใจ ทำไมจะต้องเกิดอาการแบบนี้ตอนเห็นนายขี้เก๊กอยู่กับยัยแพรวด้วยเนี่ย หรือว่าฉันจะกลัวว่าสองคนนั้นจะกลับมาคืนดีกัน ไม่ๆ ฉันสะบัดไล่ความคิดพวกนี้ออกไป จนแสดงอาการชัดเจน เพราะว่ายัยพวกนั้นเห็นถึงความกังวลใจของฉัน

“เจมินเธอเป็นอะไรเหรอ”

“นั่นน่ะสิ” ฉันมองไปทางนายขี้เก๊กที่ตอนนี้กำลังกุ๊กกิ๊กอยู่กับยัยแพรว และกำลังจะหันไปตอบยัยพวกนั้นแต่ยัยแคนดี้ก็พูดแทรกเข้ามาซะก่อน

“แกน่ะ ชอบคุณฮาเดสใช่มั้ยล่ะ”

“ปะ....เปล่าซะหน่อย คนอย่างฉันเนี่ยน่ะจะชอบคนอย่างนายขี้เก๊ก ไม่มีทางซะหรอก!”

“แล้วทำไมแกจะต้องทำหน้าเศร้าเวลาเห็นสองคนนั้นอยู่ด้วยกันล่ะ” และนี่ก็คือคำพูดของยัยท๊อฟฟี่ ทำไมพวกแกจะต้องมาสามัคคีกันถามฉันตอนนี้ด้วยเนี่ย

“เอ่อ...”

“แกตอบไม่ได้ แสดงว่าแกน่ะชอบเขาใช่มั้ยล่ะ”

“ไม่จริง!”

“แกนี่มันดื้อจริงๆ ไม่ยอมรับแม้กระทั่งความรู้สึกตัวเอง (-_-)”

“ก็ฉัน....” ทำไมฉันไม่ตอบยัยพวกนั้นไปล่ะว่าไม่ได้ชอบนายขี้เก๊กอ่ะ ทำไมฉันถึงไม่ยอมตอบน่ะ น่าโมโหตัวเองชะมัด!

“เฮ้อ~ พวกฉันจะไม่คาดคั้นแกแล้วกัน ฉันจะปล่อยให้แกคิดได้เอง”

“(_-_)” ไม่จริงๆ! คนอย่างฉันไม่ได้ชอบนายขี้เก๊กซะหน่อย นายนั่นน่ะทั้งเย็นชาแถมยังขี้เก๊กอีกต่างหาก ฉันไม่มีวันชอบลงหรอก ยัยพวกนั้นก็เลยชวนฉันไปซื้อของดีกว่า เพื่อจะได้ไม่ต้องทนเห็นภาพบาดใจ พวกฉันเข้าไปห้องน้ำเพื่อล้างทรายออกจากตัวก่อนที่จะไปซื้อของก็ได้เจอกับยัยแพรวหน้าประตูห้องน้ำพอดี ทำไมนายขี้เก๊กถึงปล่อยให้ยัยนี่หนีรอดมาได้เนี่ย แต่ฉันกลับรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก เมื่อรู้ว่าตอนนี้นายขี้เก๊กไม่ได้อยู่ใกล้กับยัยแพรวแล้ว ตกลงฉันเป็นอะไรของฉันกันแน่เนี่ย

“เธอเองเหรอ ที่ชื่อเจมินน่ะ” ‘จะถามทำไมย่ะ’ ฉันอยากจะตอบอย่างนี้จริงๆ แต่เพื่อเป็นการไม่เสียมารยาท ฉันควรจะเลี่ยงดีกว่า

“ใช่” ยัยแพรวมองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า และก็ลงท้ายด้วยการมองหน้าอย่างหยามกันมาก นี่เธออยากจะมีเรื่องกับฉันใช่มั้ย ฉันไม่ชอบให้ใครมามองหน้าแล้วทำสายตาหยามกันแบบนี้น่ะ!!

“ถึงเธอจะหน้าตาคล้ายฉัน แต่ฉันขอบอกไว้ก่อนเลยน่ะว่าเธอน่ะเป็นได้แค่ตัวแทนของฉัน”

“อะไรของเธอ ใครเป็นตัวแทนใคร!”

“ก็เธอไง อย่าคิดว่าพี่ฮาเดสเขาจะชอบเธอน่ะ เพราะว่าเขายังรักฉันอยู่และฉันกับเขากำลังจะกลับมาคืนดีกันอีกครั้ง” หึ! ฉันเนี่ยน่ะเป็นตัวแทนของเธอ คิดว่าฉันยอมเป็นง่ายๆ เหรอ คนอย่างฉันไม่ชอบเป็นตัวแทนหรือตัวสำรองของใครทั้งนั้น และที่เธอจะคืนดีกับนายขี้เก๊กเธอไม่จำเป็นต้องบอกฉันหรอก เพราะฉันไม่อยากรู้เรื่องของเธอให้มันปวดสมองหรอกย่ะ

“มีเรื่องอะไรกันเหรอเจมิน” ยัยท๊อฟฟี่กับยัยแคนดี้ออกมาพอดีเลย มาช่วยกำจัดยัยนี่ออกไปทีสิ ฉันรำคาญจะแย่อยู่แล้ว (เหมือนเป็นปลวกเลยน่ะ)

“ก็ไม่มีอะไรหรอก ก็แค่คนอยากอวดของ ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้คืนมา”

“นี่เธอว่าไงน่ะ!!”

“ถ้าเธอจะมาพูดเรื่องแค่นี้ ก็ขอเชิญกลับไปเถอะ”

“นี่เธอกล้าไล่ฉันเหรอ”

“ทำไมฉันจะไม่กล้าล่ะ หึ! เสียดายคำชมที่พี่แจ๋วชมไว้ว่าเธอเป็นคนพูดน้อย เรียบร้อย อ่อนหวาน แต่ที่จริงแล้วก็นางมารร้ายในคราบนางฟ้าดีๆ นี่เอง!!”

“อ๊ายยยย ><”

“พูดได้เยี่ยมมากยัยเจมิน”

“ใช่! หน้าตาสวยสู้เพื่อนฉันก็ไม่ได้ ขนาดใส่ชุดบิกินีสีแดงยังไม่เซ็กซี่เท่าเพื่อนฉันเลย”

“อ๊ายยย >< พวกเธอ...”

“ทำไม! เธอจะพูดว่าอะไรก็รีบๆ พูดมาซะ เพราะฉันไม่มีเวลาว่างมาพูดเล่นกับเธอมากหรอกน่ะ”

“หึ่ม! ฝากไว้ก่อนเถอะ!” แล้วยัยแพรวก็เดินหนีไป ฮ่าๆ ^0^ สะใจชะมัด สมน้ำหน้าที่บังอาจมาพูดจาหยาบคายกับฉัน ก็ต้องเจอแบบนี้แหละ ฉันกับยัยสองหน่อเดินตามหาร้านขายชุดบิกินีตั้งแต่ต้นทางจนสุดปลายทางก็ยังหาซื้อไม่ได้สักที เพราะเจอร้านไหนก็ปิดหมด ทำไมจะต้องมาปิดพร้อมกันวันนี้ด้วยน่ะ ถ้าเกิดลูกค้าคนอื่นเขาต้องการที่จะซื้อชุดบิกินี แล้วจะไปซื้อที่ไหนเนี่ย และระหว่างการเดินซื้อของยัยสองคนที่อยู่ข้างหลังก็เอาแต่หัวเราะจนฉันแทบทนไม่ได้ มันมีเรื่องอะไรน่าหัวเราะขนาดนั้นน่ะ

“ฮ่าๆ ^0^ / ฮ่าๆ ^0^”

“นี่พวกเธอจะหัวเราะอะไรกันนักหนา!”

“ก็หัวเราะคนที่หาซื้อชุดบิกินีไม่ได้สักทีน่ะสิ ฮ่าๆ ^0^” ยังไม่เลิกหัวเราะกันอีก! นี่พวกแกตั้งใจทำให้ฉันหาซื้อชุดบิกินีใช่มั้ย พวกแกทำใช่มั้ย!!!

“ยอมใส่ของฉันซะเถอะ! โหะๆ ^0^”

“ไม่มีทาง! พวกแกสองคนใช่มั้ยที่ทำให้ร้านขายชุดบิกินีไม่เปิดน่ะ!!”

“แล้วเธอคิดว่าไงล่ะ 0_o ฮ่าๆ ^0^” อ๊ายยย >< พวกแกทำจริงๆ ด้วย

“นี่พวกแกทำงั้นเหรอ!”

“แล้วแกคิดว่าใช่ป่ะล่ะ”

“ก็ต้องใช่สิ! ฉันรู้จักพวกแกดี”

“ก็ตามนั้น”

“ฮือๆ T^T แล้วฉันจะเอาชุดบิกินีที่ไหนใส่ล่ะ”

“ก็ที่ฉันซื้อให้ไง”

“ไม่เอา ฮือๆ T^T แล้วพวกแกทำได้ไงอ่ะ”

“ทำอะไรเหรอ 0_o / ทำอะไรเหรอ 0_o”

“ก็ทำให้ร้านมันปิดหมดเลยอ่ะ ฮือๆ T^T” ฉันถามไปร้องไห้ไป ก็แหม~ คนมันกำลังเฮิร์ท ยัยท๊อฟฟี่ชี้ไปทางยัยแคนดี้ตัวต้นเหตุที่ทำให้ร้านปิดทั้งหมด ฉันไม่ได้ถามว่ามันทำไง เพราะฉันรู้แก่ใจว่าถ้าเป็นยัยแคนดี้มันสามารถสั่งให้ร้านค้าทั้งแถบนี้ปิดได้ในเวลาพริบตา ก็เพราะมันเป็นหลานเจ้าของเกาะน่ะสิ ฮือๆ T^T (เฮิร์ทยิ่งกว่าเดิม)

“ฮือๆ T^T”

“อย่าร้องไห้สิเพื่อน บ้านเรายังมีข้าวกินน่ะ” บ้านแกน่ะสิ! ฉันกำลังเครียดอยู่น่ะ ยัยแคนดี้!

“แกก็ใส่ชุดที่ฉันซื้อมาสิ”

“จะบ้าเหรอ!”

“เอาน่า! ใส่ๆไปเหอะ แกหุ่นดีใส่ชุดไหนก็ดูดีไปหมดแหละ”

“ฮือๆ T^T” นี่แกจะให้ฉันใส่จริงๆน่ะเหรอ ใจร้ายไปรึเปล่า

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา