Journey of gust

10.0

เขียนโดย Nutiwinwin

วันที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2557 เวลา 07.11 น.

  5 ตอน
  0 วิจารณ์
  7,410 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 30 เมษายน พ.ศ. 2557 11.43 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

5) บรรยากาศแห่งความอบอุ่น

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ณ กรุงเทพ

 

กรุงเทพนั้น เต็มไปความอุดมสมบูรณ์ เหล่าแมกไม้ ผลิบานเป็นสีเขียวชอุ่ม ดินชุ่มชื้นมองดูแล้วคล้ายกับสวรรค์แห่งความอุดมสมบูรณ์บนดินเลยก็ว่าได้

“ที่นี่นะเหรอ กรุงเทพผิดกับที่คิดว่าเลยนะ ตอนแรกนึกว่าจะมีแต่ตึกร้างบ้านช่องแต่ทำไมมีแต่ป่าแบบนี้ หล่ะ” กัสต์พูด จากนั้นก็มีชายคนหนึ่งเดินมาหากัสต์

“ก็เพราะว่าเมื่อก่อนกรุงเทพเคยเป็นเมืองที่มีรถติดมากยังไงหล่ะ”

“อ๋อแบบนี้นี่เองว่าแต่คุณคือใครครับ??”

“ชั้นชื่อว่า ธานี นายชื่อกัสต์สินะ มีคนขอให้ชั้นมาพบนาย”

“ใครเหรอครับ ที่มาขอให้ผมพบกับคุณ”

“เบิร์นไง”

“อ๋อ คุณเบิร์นนะเหรอครับ ที่ว่าจะต้องเจอเรื่องสนุกๆคือแบบนี้สินะ”

“555 อย่างงั้นเหรอ งั้นตามมาสิ ไปที่บ้านชั้นกัน”

“ครับ” จากนั้นกัสต์ก็ตามธานีไปยังบ้านของเขา

 

ณ บ้านของธานี

บ้านของธานีนั้นเป็นบ้านบนต้นไม้ ต้นไม้ที่ธานีอาศัยอยู่เป็นต้นไม้ที่มีขนาดใหญ่มากอายุราวๆ 100 ปีเลยก็ว่าได้

“เข้ามาสิ”

“ครับ” จากนั้นทั้งคู่ก็เข้าไปในบ้านของธานี

“บ้านสวยจังเลยนะครับ เฟอร์นิเจอร์พวกนี้สวยมากเลยนะครับ ทำไมถึงใช้พลาสติกหล่ะครับ”

“อ๋อ พวกนี้นะเหรอ ทำมาจาก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์หน่ะ”

“สุดยอดเลยนะครับเนี่ย”

“ใช่ไหมหล่ะ”

“กัสต์ นายเชื่อไหมว่าเมื่อก่อนกรุงเทพเป็นเมืองที่ติดอันดับรถติดต้นๆของโลกเลยนะ”

“เอ๋ จริงเหรอครับเนี่ย??”

“ใช่ เมื่อก่อนนะกรุงเทพร้อนมากเลยต้นไม้นี่ก็หายาก”

“แล้วทำไมตอนนี้ถึงมีแต่ต้นไม้หล่ะครับ??”

“อ๋อ ทุกคนในเมืองนี้เริ่มให้ความสำคัญกับต้นไม้มากขึ้น ทุกคนก็เลยหาซื้อ หรือไม่ก็ขอพวกนักวิทยาศาสตร์ช่วยเพาะพันธุ์หน่ะ”

“ว้าว สุดยอดไปเลยนะครับ”

“ใช่ไหมหล่ะ เมื่อก่อนที่กรุงเทพมีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เยอะมาก แต่ตอนนี้กลายเป็นเมืองที่มีออกซิเจนมาก จนถูกขนานนามว่า ปอดแห่งที่สองของโลกเลยหล่ะ”

“สุดยอดมากเลยครับ แล้วทำไมคุณเบิร์นถึงส่งผมมาหาคุณหล่ะครับ??”

“ออ เรื่องนั้นหน่ะเหรอ ที่จริงแล้วเรารู้สาเหตุแล้วหล่ะที่ทำให้ เบรซดราก้อนอาละวาด”

“สาเหตุคืออะไรครับ??”

“มีสิ่งที่เรียกว่า ดาร์คชิพฝังอยู่ในหัวของเบรซดราก้อนนะสิ”

“แล้วดาร์คชิพ คืออะไรครับ”

“มันคือสิ่งที่จะทำเพทนั้นมีพลังมากขึ้น แต่ว่าจะคุมสติได้ไม่อยู่หน่ะสิ”

“โห ใครกันนะที่ทำเรื่องแบบนี้”

“องค์กร X เป็นคนทำนะสิ”

“องค์กร X!!!”

“ใช่แล้วหล่ะ”

“เลวร้ายที่สุด ทำไมถึงต้องทำแบบนี้กันนะ”

“เพื่อยึดครองโลกยังไงหล่ะ ที่เบิร์นส่งมาก็เพื่อให้นายมาหาชั้นเพื่อให้ชั้นเป็นคนฝึกสอนนายให้นายแข็งแกร่งยิ่งขึ้น”

“ออ ครับ ว่าแต่ทำไมพวกคุณไม่ทำกันเองหล่ะครับ ทั้งๆที่พวกคุณนั้นมีประสบการณ์ในเรื่องนี้มากกว่าผม”

 “กัสต์มาทางนี้หน่อยสิ”

“ครับ” ธานีพากัสต์มาชมวิวนอกหน้าต่าง ซึ่งนอกหน้าต่างนั้นมีเด็กกำลังเล่นกันอย่างสนุกสนาน เล่นไล่จับบ้าง ชักว่าวจุฬาบ้าง บางคนเอามาทั้งครอบครัวเลยก็มี

“กัสต์นายเห็นบรรยากาศแบบนี้แล้วรู้สึกแบบไหนบ้างหล่ะ”

“ผมรู้สึกว่าอบอุ่นที่ได้เห็นครับ”

“ใช่ นายอยากปกป้องบรรยากาศแบบนี้ไหมหล่ะ”

“ครับ”

“ถ้างั้นนายต้องแข็งแกร่งขึ้น เพื่อที่จะปกป้องบรรยากาศแบบนี้ยังไงหล่ะนี่คือเหตุผลที่นายต้องสู้”

“ครับ”

“งั้นเราออกไปข้างนอกไปสูดอากาศกันดีกว่านะ”

“ครับ” จากนั้นทั้งคู่ก็ออกไปข้างนอกเพื่อสูดอากาศที่บริสุทธิ์ เมื่อถึงเนินเนินหนึ่งพวกเขาก็นั่งลง

 

ณ ลานกว้างหน้าบ้านของธานี

 

“กัสต์ นายหน่ะทำไมถึงอยากได้ Master piece หล่ะ”

“ผมต้องการที่จะเจอคุณพ่อที่หายสาบสูญระหว่างที่กำลังสำรวจเกาะ อาบีลเชียสหน่ะครับ”

“คุณพ่อของนายจะต้องดีใจมากแน่ๆเลยที่มีลูกชายแบบนี้ เอาเป็นว่าเรามาฝึกกันดีกว่านะ”

“ครับ” จากนั้นธานีกับกัสต์ก็ลุกขึ้นยืน

“เอาละกัสต์ ไหนลองใช้อาวุธที่เบิร์นให้มาดูสิ”

“ครับ” จากนั้นกัสต์ก็หยิบสครัชเบลดขึ้นมา แล้วเริ่มใช้งาน

“อืม นายเป็นพวกธาตุน้ำสินะ กัสต์ลองตะหวัดดาบดูสิ”

“ครับ” กัสต์ตะหวัดดาบของเขา ดาบของเขายาวขึ้น จนธานีถึงขั้นต้องหลบดาบของเขาเลยทีเดียว

“โอเคชั้นรู้ละ กัสต์เก็บดาบก่อน”

“ครับ” จากนั้นกัสต์ก็เก็บสครัชเบลดของเขา

“กัสต์ ธาตุของนายคือธาตุน้ำ คุณสมบัติพิเศษของสครัชเบลดเมื่อผู้ใช้คือธาตุน้ำคือ จะยาวได้ตามกระแสความคิด นายคิดว่าจะให้ยาวเท่าไหร่มันก็จะยาวเท่านั้น โอเคนะ”

“ครับ”

“กัสต์ ชั้นจะให้นายฝึกตะหวัดดาบไปก่อน ให้ใช้ความคิดนะ เดี๋ยวชั้นมา”

“ครับ” ธานีได้เดินกลับบ้านของเขาเขาและปล่อยให้กัสต์ฝึกตามลำพัง เมื่อถึงบ้านธานีได้หยิบโทรศัพท์ของเขาขึ้นมาแล้วโทรไปหาเบิร์น

“ไง ธานีกัสต์ไปถึงแล้วใช่มะ”

“อื้อ มาถึงแล้วเป็นเด็กที่สุดยอดมาก พลังเยอะจริงๆ”

“เบิร์นชั้นขอสั่งของให้กัสต์หน่อยสิ”

“ทำไมเหรอ”

“ตอนนี้พลังเขามากก็จริงแต่มันยังไม่สมบูรณ์ ชั้นดับเบิ้ลกันชิพหน่อยนะ”

“หือ ดับเบิ้ลกันชิพเหรอ ไม่เห็นจำเป็นเลยนี่”

“ก็อย่างน้อยหมอนนั่นก็จะมีอาวุธอยู่ 2 อย่างนะ”

“ก็ได้ๆ เดี๋ยวชั้นจะเอาไปส่งให้แต่มีข้อแม้ชั้นขอไปส่งเองนะ”

“ทำไมหล่ะ??”

“ชั้นจะไปหามาลี”

“ยังจะจูจี๋กันอีกเหรอ!!!”

“ไม่เห็นเป็นอะไรเลย คนเค้ารักกัน”

“พอเลยๆๆ ชั้นไม่รบกวนละ”

“โอเค ขอบคุณที่ใช้บริการนะ แต่เรื่องค่าจ่ายหน่ะ ขอเป็นมาลีแทนได่ปะ”

“จ่ายเป็นเงินยังดีกว่าอีก!!!”

“โอเคๆๆๆงั้นชั้นไปก่อนนะต้องขายของก่อน”

“อืมๆ บาย” ธานีได้วางสายโทรศัพท์แล้วเดินไปหากัสต์ที่ด้านนอกบ้าน

ณ ลานกว้างหน้าบ้านของธานี

 

“กัสต์คืนนี้ค้างที่บ้านชั้นซักคืนนะ”

“อ่าว ทำไมเหรอครับ”

“มีของจะให้แต่กว่าจะถึงก็พรุ่งนี้”

“ออ ครับ”

“กัสต์ เรื่องชั้นจะสอนต่อไปนี้เป็นเรื่องที่ทำได้ยากแต่ถ้าทำได้จะสุดยอดมาก”

“จะสอนอะไรครับ”

“การฝึก สำหรับการสังหาร เดทมูพวี่งยังไงหล่ะ”

“เดทมูพวี่ง??”

“ใช่เดทมูพวิ่ง”

“การฝึกในตำนานสำหรับการสังหารศัตรูนั่นหน่ะเหรอครับ ได้ยินว่าน้อยครั้งที่จะสังหารเป้าหมายพลาด”

“ใช่แล้วหล่ะ”

“อยากเรียนไหมหล่ะ??”

“ครับ!!!”

“ไว้จะสอนวันพรุ่งนี้นะ เพราะว่ามันต้องใช้พร้อมกับของที่ชั้นสั่งมาหน่ะ”

“ครับ”

“เอาละ ไปพักผ่อนเต็มที่เพื่อรอวันพรุ่งนี้ดีกว่านะ”

“ครับ” จากนั้นทั้งคู่ก็เดินกลับเข้าบ้าน

 

ณ บ้านของธานี

 

เมื่อทั้งคู่ถึงบ้านธานีได้พากัสต์มายังห้องนอนของเขา

“กัสต์นี่ห้องของนายนะ”

“ว้าวสุดยอด!!!” ห้องของกัสต์นั้นทำมาจากไม้ ทั้งห้อง ของทุกอย่างถูกจัดอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยคล้ายกับห้องในโรงแรมเลยทีเดียว

“งั้นพักผ่อนให้เต็มที่นะ”

“ครับ” จากนั้นกัสต์ก็เข้าไปในห้องของเขา กัสต์นั่งเล่นบนเตียง จากนั้นธานีก็จากไป กัสต์หยิบครอสไลฟ์ของเขาขึ้นมาแล้วคุยกับเอมเพอร์เรอร์ดอลฟิน

“ห้องนี้สะอาดเนอะว่าไหม”

“อ่า ชั้นก็ว่าแบบนั้น”

“กัสต์ นายคิดว่าธานีคนนั้นสั่งของอะไรมาหล่ะ”

“ชั้นก็ไม่รู้นะ รอวันพรุ่งนี้ดีกว่านะ”

“อืม โอเค”  หลังจากพูดจบกัสต์ก็มองออกไปข้างนอกหน้าต่าง พระอาทิตย์กำลังจะลับของฟ้า ท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนสีกลายเป็นสีดำ เหล่าดาวเริ่มโผล่ออกมา  กัสต์หยิบสมุดของเขาขึ้นมาแล้วลงมือแต่งกลอน

“   ยามสุริยากำลังลับขอบฟ้า    หมู่ดาราที่กบดาลก็โผล่มา

 ท้องนภาเปลี่ยนสีดูเพลินตา     เปรมปรีย์ดาท้องนภายามสายันต์”

“ทำไมถึงแต่งกลอนหล่ะ”

“ความฝันของชั้นคือการเดินทางและก็แต่งกลอนหน่ะ”

“งั้นเหรอ”

“มืดละชั้นขอนอนก่อนนะ” กัสต์ล้มตัวนอนลงบนเตียงและเริ่มหลับตาลงแล้วเขาก็หลับไป

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา