RED STONE WAR

9.0

เขียนโดย nemon

วันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 เวลา 21.50 น.

  86 ตอน
  9 วิจารณ์
  63.37K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 23.26 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

21) เรียกค่าไถ่

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

“ไคช่วยข้าด้วย ข้าโดนหลอกจับตัวมามันจะเอาเงินค่าไถ่หนึ่งล้านห้าแสนที่เราขายสร้อยได้ไคช่วยข้าด้วยข้ายังไม่อยากตาย”พัชร้องไห้และตะโกนใส่ในโทรศัพท์อย่างสุดเสียง ไคตกใจกับเสียงที่ได้ยินมากแต่เค้าพยายามรวบรวมสติเอาไว้แล้วจึงถามพัช

“ตอนนี้นายอยู่ที่ไหน พัช”ไคถามกลับไป พัชนิ่งเงียบไปครู่หนึ่งจึงมีคนตอบกลับมา

“พวกแกได้ยินแล้วสินะ ห้ามแจ้งตำรวจเด็ดขาดไม่งั้นเพื่อนแกตายถ้าไม่อยากให้เพื่อนแกตายให้เอาเงินมาไถ่ตัวเพื่อนแกซะ อย่าคิดตุกติกล่ะ ไม่งั้นเพื่อนแกไปยมโลกสถานเดียว เข้าใจที่พูดใช่มั้ย”คราวนี้เป็นเสียงผู้ชายที่ดูเคร่งขรึมเป็นเสียงต่ำต่ำเหมือนอยู่ในลำคอพูดขึ้น

“ใจเย็นเย็นก่อนนะเราสัญญาว่าจะไม่แจ้งความ แล้วจะให้พวกเราเอาเงินไปไถ่ตัวเพื่อนเราที่ไหนล่ะ”ไคถามกลับ

“มาที่สวนหนองบวกหาด แกคงรู้จักสถานที่กันนะที่หนองบวกหาดใกล้ใกล้ที่นั้นมีโกดังเก่าอยู่หลังคาสีแดงด้านหน้ามีประตูลวดหนาม ให้พวกแกมารอตรงประตูลวดหนามพร้อมกับเงินค่าไถ่เดี๋ยวพวกข้าจะส่งคนไปรับ”เสียงในโทรศัทพ์พูดขึ้นแล้วก็วางสายไป

              ไคหันไปมองจัมพ์เพื่อจะปรึกษากันว่าจะทำอย่างไรต่อไปดีแต่จัมพ์ไม่เห็นด้วยเพราะเค้าคิดว่า นี่อาจจะเป็นแผนการของเจ้าพัชเพื่อจะหุบเงินไว้คนเดียวก็เป็นไปได้แต่ไคกับเห็นว่า ถ้าหากเป็นเรื่องจริงก็เป็นความผิดของทั้งไคและจัมพ์ที่พาพัชเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อทั้งสองคนครุ่นคิดกันอยู่ซักพักจึงตัดสินใจออกไปช่วยเหลือพัช จากนั้นทั้งคู่จึงออกจากที่พักพร้อมกับเงินสดที่จะนำไปไถ่ตัวพัช ทันทีที่ไคเปิดประตูห้องพักเจ้าสุนัขตัวน้อยโจเซฟก็กระโจนออกจากห้องพักทันทีมันออกมากระโดดไปมา กระดิกหางและเห่าร้องเรียกเหมือนว่าขอให้พามันไปด้วย ทั้งสองคนต่างก็แปลกใจกับอาการของมันจากนั้นเจ้าโจเซฟก็รีบวิ่งไปที่รถมาสด้าสีขาวที่จอดอยู่ทันที มันไปหยุดรอไคและจัมพ์บริเวณประตูรถด้านหลังคนขับพร้อมทั้งกระดิกหางไปมา พอไคเดินมาถึงรถและเปิดประตูด้านหลังคนขับมันจึงกระโดดขึ้นรถไปทันที

“หนอยแน่ะ เจ้าหมาน้อยทำตัวเป็นเจ้านายเลยนะแกต้องนั่งเบาะหลังซะด้วยดูมันสิไค”จัมพ์หันไปพูดกับไคเมื่อเห็นเจ้าโจเซฟขึ้นไปนั่งบนเบาะหลังอย่างชำนาญ

“เจ้าโจเซฟมันรู้ได้ยังไง ว่ารถคันนี้เป็นรถของเราว่ามั้ยจัมพ์”ไคพูดขึ้นทำให้จัมพ์สังเกตเห็นได้ว่าเจ้าลูกสุนัขโจเซฟนี้มันแสนรู้เหมือกัน หลังจากนั้นทั้งสองคนกับหนึ่งตัวก็ออกเดินทางไปที่หนองบวกหาดทันที

“หนองบวกหาดมันคือที่ไหนเหรอจัมพ์”ไคถาม

“อ่อ มันคือสวนสาธารณะประจำจังหวัดไงล่ะ”จัมพ์ตอบ

“สวนสาธารณะงั้นเหรอ ถ้าอย่างนั้นผมมีแผน”ไคเอ่ย

“แผนอะไรเหรอไค”จัมพ์

“ขั้นแรกยังไงเราต้องช่วยพัชออกมาให้ได้ก่อน อีกอย่างหลังจากที่ผมได้วิเคราะห์ดูแล้ว พวกโจรที่จับพัชไปนั้นน่าจะเป็นโจรธรรมดา ดูจากการใช้ภาษาท้องถิ่นน่าจะดูวัยรุ่นพอสมควรและการนัดพบเจอก็ดูไม่รัดกุมเท่าที่ควร มีการประเมินทางฝ่ายเราค่อยข้างต่ำผมคิดว่าทางฝ่ายนั้นไม่รู้ถึงความสามารถของจัมพ์แน่นอนซึ่งก็หมายความว่าพัชกับโจรกลุ่มนั้นไม่ใช่พวกเดียวกันแน่แน่ เพราะถ้าเป็นแผนการของพัชโจรพวกนั้นต้องรู้ถึงความสามารถของจัมพ์และคงไม่กล้าเสี่ยงเรียกให้ไปนัดเจอในสถานที่ ที่มีการป้องกันค่อนข้างอ่อนแบบนี้แน่แน่ โกดังข้างสวนสาธารณะมันดูง่ายเกินไป ไคจึงอธิบายแผนการทั้งหมดให้จัมพ์ฟัง เมื่อจัมพ์ได้ฟังแผนการแล้วก็เห็นด้วยเอาความปลอดภัยของพัชไว้ก่อน

                จากนั้นไคและจัมพ์ได้ขับรถไปจอดบริเวณใกล้ใกล้ที่สวนสาธารณะ หนองบวกหาดแล้วทั้งสองคนจึงลงจากรถพร้อมกระเป๋าสีดำใบใหญ่หนึ่งใบ ทิ้งเจ้าลูกสุนัขโจเซฟเอาไว้ในรถ ห่างจากที่ทั้งสองคนจอดรถเอาไว้ไม่มากนักก็ถึงสวนสาธารณะ หนองบวกหาด ทั้งสองคนจึงเดินอ้อมไปทางด้านข้างของสวนไม่นานนัก ก็มองเห็นโกดังหลังคาสีแดงโดยสังเกตไม่ยาก ไคและจัมพ์ยืนรออยู่หน้าประตูทางเข้าที่เป็นเหล็กดัดลวดหนามขึงไว้กับป้ายที่เขียนว่าห้ามเข้าตัวใหญ่ ไม่นานนักก็มีชายวัยรุ่นสองคนอายุไม่น่าจะเกินยี่สิบปี่เดินมาทางเค้าทั้งคู่

                 วัยรุ่นทั้งสองยืนจ้องมองดูไคกับจัมพ์ตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วจึงบอกให้ทั้งสองคนเดินตามเข้าไปในโกดังร้างแห่งนั้น ไคเดินเข้าไปจนถึงหน้าโรงงานตรงทางเข้าโรงงานเค้ามองเห็นมีรถตู้เก่าเก่าสีขาวจอดอยู่ พร้อมด้วยรถจักรยานยนต์จอดอยู่ประมาณสี่ถึงห้าคัน ไคและจัมพ์มองหน้ากันอย่างเงียบเงียบโดยไม่พูดอะไร แล้วพอไปถึงประตูโกดังที่เป็นประตูเหล็กบานใหญ่ที่เต็มไปด้วยสนิมทั้งบาน ชายวัยรุ่นทั้งสองคนจึงเคาะประตูเหมือนเป็นการให้สัญญาณ

                หลังจากนั้นประตูบานใหญ่ก็ค่อยค่อยเปิดออก พอประตูเปิดออกจนเต็มบานไคและจัมพ์มองเข้าไปในโกดังเก่าเก่า ภายในโกดังมืดสนิทมองเข้าไปด้านในเห็นมีแสงไฟจากแสงสปอร์ตไลท์สีเหลืองอยู่ไกลไกล ชายวันรุ่นสองคนก็ชี้ทางให้ไคและจัมพ์เดินไปยังจุดที่มีแสงไฟนั้นทันที พอไคและจัมพ์เดินไปเรื่อยเรื่อยสิ่งที่ทั้งสองคนเห็นนั้นก็คือ พัชที่ถูกมัดมือและเท้านอนอยู่ที่พื้นโกดังแข็งแข็งมีเศษฟางติดตามตัวและรอยอาการบาดเจ็บเหมือนถูกรุมทำร้ายไปทั่วทั้งตัว ที่หัวของพัชก็มีรอยบาดแผลเหมือนว่าพัชหัวจะแตกมีเลือดไหลและที่จมูกของเขาด้วยก็มีเลือดกำเดาไหล เลยถัดไปจากตัวของพัชที่นอนนิ่งถูกมัดมือมัดเท้าอยู่นั้น

                มีชายหนุ่มอยู่ในชุดหนังสีดำน่าจะมีอายุประมาณยี่สิบห้าปี ผมสีดำเจาะทั้งหูและจมูกมีรอยสักที่คางทำเหมือนกับว่ามีเคราก็ไม่ปานไอ้หมอนั้นสวมแหวนรูปหัวกระโหลกไว้ที่นิ้วกลางด้วยที่มือของมันถือบุรี่ที่จุดแล้วไว้หนึ่งมวน มองเห็นรอยสักที่เลยออกมาจากเสื้อแขนยาวหนังสีดำของมันพอดี คล้ายกับรอยเปลวไฟกับหัวกระโหลกสีขาวดำ มันหันมามองทางไคและจัมพ์อย่างช้าช้า บริเวณทางด้านหลังของชายคนนั้นก็มีชายวัยรุ่นอีกหลายคนยืนอยู่และแต่ละคนก็มีรอยสักแบบเดียวกันหมด บางคนก็สักทั้งตัวดูน่าเกรงขามเป็นอย่างยิ่ง ไคเริ่มมองดูรอบรอบเกิดรู้สึกขึ้นมาภายในใจ ว่าอาจจะมีบางคนที่มีรอยอักระที่มีพลังแบบเดียวกับจัมพ์อาจอยู่ในกลุ่มคนพวกนี้ก็เป็นได้ ไคจึงสะกิดบอกจัมพ์ให้ระวังตัวเอาไว้ก่อน แต่พอจัมพ์มองเห็นสภาพของพัชก็เก็บอารมณ์โกรธไว้ไม่อยู่เค้าตะโกนออกมาทันที

“พัช พัช พัช ไอ้พวกบ้าแกทำอะไรกับเพื่อนข้าวะ ปล่อยเพื่อนข้าเดี๋ยวนี้นะไม่งั้นอย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจนะโว้ย”จัมพ์ตะโกนขึ้นด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว แต่ไคก็สะกิดให้จัมพ์สงบใจไว้ก่อนอย่าทำให้แผนที่เตรียมมาล้มเหลวไปซะก่อน

“แกจะทำอะไรพวกข้างั้นเหรอ ถ้าข้าอยากจะฆ่ามันเมื่อไหร่ข้าก็จะทำ ลูกไก่ในกำมือจะบีบก็ตายจะคลายก็รอด ระวังคำพูดคำจาของแกหน่อยบางทีถ้าข้าตกใจเสียงหมาเห่าหมาหอนขึ้นมาอาจจะพลั้งมือเหนี่ยวไกโดนหัวเพื่อนแกเอานะ”ชายที่อยู่เบื้องหน้าของพัชยืนขึ้นพร้อมหยิบปืนรูปร่างประหลาด คล้ายปืนที่ประดิษฐ์ขึ้นมาเองกระบอกโต จ่อหัวของพัชที่นอนแน่นิ่งอยู่พอพัชได้ยินเสียงของจัมพ์เค้าก็เริ่มขยับตัวลืมตาตื่นขึ้นมามองหน้าไคและจัมพ์แล้วก็ยิ้มมองเห็นฟันสีขาว บนใบหน้าที่อาบไปด้วยเลือด

“ไม่น่าเชื่อว่าพวกแกจะมาช่วยข้าด้วย ขอบใจนะที่เป็นห่วงข้า”พัชพูดไปด้วยและดวงตาของเขาเริ่มมีน้ำตาค่อยค่อยซึมออกมาจนร้องไห้โห เพราะความตื้นตันใจเพราะก่อนหน้านี้เค้าคิดว่าตนเองคงไม่รอดแน่แน่

               แต่พอพัชพูดจบชายเสื้อหนังสีดำก็เตะเข้าที่ท้องของพัชอย่างจัง จนพัชล้มกลิ้งงอตัวด้วยความเจ็บปวด จัมพ์เห็นดังนั้นก็จะกระโจนเข้าโจมตีชายคนนั้นทันที แต่ก่อนที่จัมพ์จะขยับตัวจัมพ์ต้องหยุดชะงักทันทีเพราะว่ามีปากกระบอกปืนอีกกระบอกหนึ่งมาจ่อที่หัวของเค้า จัมพ์กัดฟันแน่นเตรียมจะเรียกดาบสีดำเล่มใหญ่ซึ่งเป็นอาวุธคู่ใจออกมาฟาดฟันพวกที่ทำร้ายพัชด้วยความโกรธเกรี้ยว แต่มีมือข้างหนึ่งมาแตะที่บ่าของเค้า มือนั้นก็คือมือของไคนั่นเอง จัมพ์หันไปมองสบตากับไค เค้าก็สงบนิ่งลงทันทีเพราะนึกถึงความปลอดภัยของจัมพ์เป็นอันดับแรกเค้าจะต้องอดทนมากกว่านี้เสียก่อน

“หยุดทำร้ายคนของเราเสียที อยากได้อะไรอีกล่ะอยากได้เงินไม่ใช่เหรอถ้าหากทำอะไรเพื่อนของเราอีก ล่ะก็อย่าหวังเลยว่าจะได้ แม้แต่บาทเดียวก็ไม่เห็น”ไคเอ่ยขึ้นกับไอ้คนที่ทำร้ายพัชซึ่งไคประเมินดูแล้วว่าท่าทางมันจะเป็นหัวหน้าของคนกลุ่มนี้เป็นแน่

“ก็ได้ อย่าคิดมีลูกไม้กับข้าเชียว ไม่งั้นไอ้หมอนี่ตายคนแรก”เจ้าคนร้ายทำท่า ชี้ปากกระบอกปืนไปทางพัชเพื่อข่มขู่

“ใจเย็นก่อนเราแค่ต้องการช่วยเพื่อนของเราเท่านั้น ไม่ได้คิดจะมีลูกไม้อะไรทั้งนั้น”ไคพูดขึ้น

“พวกแกจับเพื่อนข้ามาเพื่อเรียกค่าไถ่แล้วทำไมต้องทำร้ายเค้าด้วย พวกแกต้องการอะไรกันแน่”จัมพ์ถาม

“ก็เพื่อนแกมันเป็นพวกปากแข็งข้าถามดีดีกลับทำท่ายึกยักก็เลยต้องให้ยากันบ้างซักทีสองทีไม่ถึงตายหรอกน่า พวกแกมาก็ดีละพวกแกคงจะตอบข้าได้สินะว่า สร้อยผลึกแดงที่พวกแกเอาไปที่งานประมูลนั่นนะ พวกแกเอามาจากไหน บอกข้ามาซะดีดีหรือว่าอยากจะมีสภาพเดียวกับไอ้หัวฟูนี่”เจ้าโจรเรียกค่าไถ่พูดเสร็จจึงหันมามองทางไคและจัมพ์แต่ไคไม่สนใจแววตาที่มองมาทางเค้าเลย ไคกลับสนใจอาการของจัมพ์มากกว่าเพราะสิ่งที่เค้าเห็นนั่น คือแววตาอันเกรี้ยวกราดของจัมพ์ซึ่งไคกลัวว่าจัมพ์อาจจะควบคุมอารมณ์ไม่อยู่หากจัมพ์อาละวาดขึ้นมาอาจจะต้องมีคนตายและอาจจะเกิดอันตรายต่อตัวประกันได้และไคก็รู้อีกอย่างหนึ่งว่าเจ้าโจรพวกนี้ไม่มีใครรู้เรื่องของผลึกสีแดงนั่นจริงจริงโจรพวกนี้ก็คงเป็นแค่โจรเรียกค่าไถ่ธรรมดาแน่นอน

“มันเป็นสมบัติเก่าน่ะ เป็นมรดกยายของผมให้มาน่ะ”ไคเอ่ยขึ้นทันที

“โกหก แกคิดว่าพวกข้าโง่รึไงมรดกงั้นรึ ถุยใครเชื่อก็โง่แล้ว อยากตายใช่มั้ย”เจ้าหัวหน้ากลุ่มโจรทำท่าทางฉุนเฉียวใส่ไคทันทีที่ได้ยินคำตอบ

“ขอโทษครับ ผมไม่โกหกแล้วก็ได้ อย่าทำอะไรผมเลยนะครับคุณนี่ฉลาดจริงจริงสมเป็นหัวหน้าเลยนะครับผมบอกก็ได้จริงจริงแล้วพวกเราขโมยสร้อยเส้นนั้นมาครับสร้อยเส้นนั้นเป็นของพ่อของเจ้าหัวฟูนั่นพวกเราขโมยมาเรื่องจริงนะครับ คุณคิดดูสภาพพวกเราทุกคนจะมีปัญญาหาผลึกแพงแพงแบบนี้ได้ยังไงกัน พวกเราแค่อยากหาเงินเที่ยวเท่านั้นเองกะว่าจะเอามาขายแต่ไม่คิดว่ามันจะแพงถึงขนาดนี้”ไคเล่าไปและทำท่าทางหวาดกลัวเจ้าตัวหัวหน้าเพื่อหลอกให้มันตายใจ จัมพ์จึงตั้งสติได้อีกครั้งเพราะเค้ารับรู้ได้ถึงแผนการของไคได้ทันที

“ป้อไอ้หัวฟูนี่มันคือไผวะ”เจ้าหัวหน้าโจรพูดขึ้น แล้วก็มีลูกน้องมันอีกคนหนึ่งเดินออกมากระซิบที่ข้างหูของหัวหน้าพวกมัน ไคจำได้ทันทีว่าไอ้คนที่มากระซิบข้างหูนั่นคือพนักงานที่อยู่ในห้องเดียวกันกับพวกเค้าในงานประมูลนั่นเอง แต่จัมพ์คงจำไม่ได้เพราะจัมพ์เอาแต่หลับซะเป็นส่วนใหญ่ไคจึงปะติดปะต่อเรื่องราวได้คร่าวคร่าว

“พ่อไอ้หัวฟูนี่เป็นตำรวจงั้นรึ คงจะโกงกินมาเยอะล่ะสิพวกข้าเกลียดพวกตำรวจเลวเลวอย่างพวกแกจริงจริง”เจ้าหัวหน้าโจรเอ่ยขึ้น

“พวกแกซิเลว เอาแต่ว่าคนอื่นเลวไม่ดูตัวเองเลย พวกแกก็ไม่ต่างกันหรอกดูสิ่งที่พวกแกทำสิแกมันก็ชั่วเหมือนกันแหล่ะวะ” พัชกัดฟันพูดแทรกขึ้นมา พอเจ้าหัวหน้าโจรได้ยินก็หันกระบอกปืนไปจ่อที่หัวเจ้าพัชแล้วเขยิบใบหน้าเข้าไปใกล้ใกล้พัช เหมือนจะกระซิบอะไรบางอย่าง สิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกินขึ้นพัชได้ทำสิ่งที่เหนือความคาดหมายเค้าถ่มน้ำลายใส่ใบหน้าเจ้าหัวหน้าโจรเต็มเต็ม จนใบหน้าของมันเลอะไปด้วยคราบน้ำลายของพัชไหลย้อยอาบแก้ม เจ้าหัวหน้าโจรโมโหสุดขีดขยับปืนที่จ่อหัวพัชอยู่เตรียมเหนี่ยวไกทันที

“เดี๋ยวก่อน”ไคตะโกนขึ้นเพื่อหยุดเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นทันที พร้อมกับโยนกระเป๋าใบใหญ่สีดำที่เปิดซิปออกแล้วโยนลงที่พื้นตรงหน้าของทั้งสองคน กระเป๋าใบใหญ่เปิดออกแต่ภายในกระเป๋ากับว่างเปล่าไม่มีอะไรในนั้นเลย

“นี่ มันอะไรกัน หมายความว่าไงแล้ว แล้ว ไหนเงินค่าไถ่ของเพื่อนแกล่ะพวกแก พวกแก คิดจะเล่นตลกกับข้ารึไงต้องมีคนตายใช่มั้ยถึงจะยอมพวกแก พวกแก กล้าหยามข้ารึงั้นก็ตายซะเถอะ”เจ้าหัวหน้าโจรฉุนเฉียวมากขึ้นกว่าเดิม

           หลังจากที่มองเห็นกระเป๋าใบใหญ่ที่น่าจะมีเงินเต็มกระเป๋าแต่กลับว่ามันเป็นแค่กระเป๋าเปล่า มันกระชากคอเสื้อพัชขึ้นมาคราวนี้มันตัดสินใจจะเหนี่ยวไกปืนหวังจะสังหารพัชจริงจริง

“เงินน่ะ พวกข้ามีแต่คนที่รู้ที่ซ่อนเงินน่ะก็คือ คนที่แกกำลังจะเหนี่ยวไกสังหารเค้าไงล่ะ”ไคพูดขึ้น

“หมาย หมายความว่าไงวะ แกจะบอกว่าไอ้หัวฟูนี่มันเป็นคนเก็บเงินงั้นรึ”เจ้าหัวหน้าโจรเอ่ย

                 หลังจากนั้นไคก็เริ่มแผนการที่เตรียมมาทันที โดยไคได้เล่าว่าเงินจำนวนหนึ่งล้านห้าแสนได้ถูกเก็บเอาไว้ในที่ปลอดภัยโดยที่เค้าและจัมพ์ไม่รู้ที่ซ่อนของมันคนที่รู้คือคนหัวฟูที่เจ้าหัวหน้าโจรกำลังจะปลิดชีพอยู่นั่นล่ะ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.2 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา