RED STONE WAR

9.0

เขียนโดย nemon

วันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 เวลา 21.50 น.

  86 ตอน
  9 วิจารณ์
  63.31K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 23.26 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

32) น้องใหม่ อันน่าตื่นเต้น

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

“ผมว่าที่นี่ก็เหมาะกับพวกเราดีนะ เงียบสงบดูไม่ค่อยวุ่นวายและถ้าหากเราเข้าฝึกฝนที่นี่ถ้ามันไม่ดีเราค่อยเปลี่ยนก็ได้ จริงมั้ยและอีกอย่างเรนโบว์หล่อนเคยอยู่ที่นี่มาก่อน”ไคอธิบายให้จัมพ์ฟังถึงเหตุผลที่เค้าอยากฝึกฝนที่นี่

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า สรุปก็คือเรื่องสาวน้อยเรนโบว์เป็นเรื่องหลักคือเธอเคยเรียนที่นี่ แกก็เลยเลือกเรียนที่นี่ เป็นเหตุผลที่ไม่อาจขัดใจได้ถูกต้องมั้ย”จัมพ์พูด

“อืม”ไค พยักหน้า

“โอเค งั้นเราเข้าฝึกฝนที่นี่ละกัน”จัมพ์พูดขึ้นพร้อมกับเอากระเป๋าพาดบ่าเดินนำหน้าไคตรงไปยังประตูทางเข้าทันที

ส่วนไคเองก็อุ้มเจ้าสุนัขโจเซฟขึ้นมาไว้ที่ข้างลำตัวแล้วขอบคุณเจ้าหน้าที่วากัซที่แนะนำ ก่อนที่จะกล่าวคำร่ำลาเจ้าหน้าที่วากัซไป

ไคหันไปทางจัมพ์ก็เห็นจัมพ์เดินเข้าประตูไม้สีน้ำตาลเข้มบานใหญ่เข้าไปภายในแล้ว ไคสังเกตเห็นว่ายังมีอีกสองคนที่ยังไม่ได้เลือกที่ฝึกฝนเลยแต่พวกเค้าสองคนคงจะเลือกที่อื่นเป็นแน่เพราะไครู้ได้ทันทีหลังจากที่เค้าเห็นว่าทั้งสองคนเดินตามเจ้าหน้าที่วากัซย้อนกลับไปทางเดิมที่พวกเค้าเดินมา

ไคและโจเซฟจึงรีบเดินเข้าประตูไม้สีน้ำตาลเข้มตามจัมพ์ไปติดติด เมื่อไคผลักประตูสีน้ำตาลบานใหญ่เข้าไปด้านในก็พบจัมพ์ยืนนิ่งอยู่ตรงกลางห้องโถงใหญ่ด้านหน้าของเค้าเป็นพื้นที่ต่างระดับกันปูพิ้นด้วยหินอ่อนสีขาวทอดยาวไปจนสุดทางเดินจนถึงประตู ที่ไคมองดูแล้วน่าจะเป็นห้องอะไรซักอย่าง

ทางด้านขวามือมีเคาน์เตอร์สูงระดับหน้าอกของเค้าพอดี เรียงยาวไปจนสุดทางเช่นกันถัดออกไปใกล้ใกล้มีชุดโซฟาสลับสีกัน มีทั้งสีขาว สีดำ สีแดง เรียงรายอยู่สามสี่ชุด ภายในตัวอาคารประดับประดาด้วยกระจกและพลอยสีต่างต่างมากมาย รวมถึงรูปภาพคนที่หน้าตาแปลกแปลกเพราะแต่ละคนก็มีรอยสักที่ดูน่ากลัวบนใบหน้าทุกคน

ไคสังเกตเห็นทางด้านซ้ายของอาคารมีช่องทางเดินแคบแคบเมื่อมองเข้าไปจะเห็นประตูสีเงินสองบานมีปุ่มกดอยู่ตรงกลางระหว่างประตูทั้งสองบาน มีตัวเลขอยู่ด้านบนของบานประตูทั้งสองใช่แล้วมันคือประตูลิฟท์แน่แน่ ทันทีที่ไคมองออกว่าเป็นลิฟท์ก็มีเสียงกระดิ่งดังขึ้น

“กรี๊งง กริ๊งง กริ๊งง” เสียงดังมาจากด้านหลังประตูลิฟท์

“เสียงอะไรนะ ไค”จัมพ์เอ่ยขึ้น

“เสียงมาจากด้านหลังประตูลิฟท์อันนั้นแน่แน่เลยจัมพ์”ไคตอบพร้อมกับชี้ไปทางช่องทางเดินเล็กเล็ก

“ไม่มีใครอยู่แถวนี้เลยรึไงกันนะ แปลกชะมัดเลยที่นี่ว่ามั้ยไค”จัมพ์มองดูรอบรอบแต่ไม่พบใครเลย

“จัมพ์ผมว่าเราไปดูตรงลิฟท์กันเถอะเพื่อว่าเค้ามีอะไรให้เราช่วยเหลือ ลิฟท์อาจจะค้างก็ได้นะ”ไคพูดพร้อมกับเดินไปที่บริเวณหน้าประตูลิฟท์นั้น จัมพ์มองเห็นว่าที่ด้านข้างของตู้ลิฟท์มีโทรศัพท์ติดอยู่มีไฟสีส้มกระพริบติดติดดับดับตลอดเวลา

“ไค โทรศัพท์อันนี้เอาไว้โทรคุยกับคนข้างในรึเปล่าวะ”จัมพ์พูดขึ้นพร้อมกับชี้ให้ไคดูโทรศัพท์ที่ติดอยู่ ไคจึงเอื้อมมือไปยกหูโทรศัพท์นั้นขึ้นมาแนบไว้ที่หู

“ฮัลโหล“ไคพูดขึ้น

“โอ้ พระเจ้าข้าโชคดีจังวันนี้มีคนมารับโทรศัพท์ของข้าด้วย คือว่าพอดีข้าติดอยู่ในลิฟท์บ้านี่แกช่วยข้าออกไปทีสิ”เสียงผู้ชายที่อยู่ที่ปลายสายพูดขึ้น

“จะให้ผมช่วยยังไงละครับ คือพวกผมเพิ่งจะมาถึงกันนะครับยังไม่เจอใครเลย เจ้าหน้าที่ของที่นี่ก็ไม่อยู่”ไคพูดขึ้น

“ว่าไงนะ ไอ้เจ้าแปปซีหนีเที่ยวอีกแล้วเหรอ นี่ขนาดลุงเคนย้ำนักย้ำหนาแล้วนะว่าจะมีคนมาใหม่มันยังหายหัวไปอีกเหรอถ้ากลับมาจะจับขังกรงซะให้เข็ดไอ้หมาหัวเน่าเอ้ย แล้วจะทำยังไงดีละทีนี่”เสียงชายจากปลายสายกล่าว

“ที่นี่มีเจ้าหน้าที่ซ่อมบำรุงมั้ยครับ เค้าอยู่ที่ไหนเดี๋ยวผมไปตามให้ก็ได้ครับ”ไคพูด

“มีสิ ก็ข้านี่แหล่ะ แต่ดันมาติดอยู่ด้านในซะได้ ลิฟท์ตัวนี้มันก็เก่ามากแล้วล่ะมันต้องแก้จากภายนอก ไหนไหนก็ไหนไหนแล้วช่วยอะไรข้าหน่อยสิได้มั้ย ช่วยไปที่ด้านหลังประตูตรงบันไดหนีไฟให้หน่อยสิ มันจะมีเบรกเกอร์ สีแดงอันใหญ่ที่สุดแกช่วยไปสับมันลงแล้วเปิดขึ้นให้ใหม่ทีสิได้มั้ย”เสียงจากปลายสายกล่าว

เมื่อไคได้ยินดังนั้นก็ให้จัมพ์เดินไปดูแล้วจัมพ์ทำตามอย่างที่เสียงจากปลายสายบอก ทันทีที่จัมพ์สับ เบรกเกอร์ลงไฟทั่วทั้งอาคารก็ดับลงทันที จัมพ์เห็นก็ตกใจมากเลยรีบสับเบรกเกอร์กลับไปอย่างเดิมอย่างรวดเร็ว เมื่อไฟฟ้าเริ่มกลับมาติดอีกครั้ง เสียงของลิฟท์โดยสารก็ดังขึ้นอีกครั้งชายที่อยู่ที่ปลายสายที่คุยกับไคอยู่ก็วางสายลง เสียงการเคลื่อนที่ของลิฟท์ตัวใหญ่ค่อยค่อยเลื่อนลงมาอย่างช้าช้าจนมาหยุดลงตรงบริเวณชั้นล่างสุดทันทีที่ประตูเปิดออก ไคมองเห็นผู้ชายคนหนึ่งน่าจะสูงกว่าเค้าเล็กน้อยรูปร่างผอมบางยืนถือหนังสือหลายสิบเล่มแต่ละเล่มก็มีความหนามากมากเหมือนพจนานุกรมก็ไม่ปานวางซ้อนกันจนท่วมหัวของชายคนนั้นจนไม่เห็นใบหน้าของเค้าเลย

“แก ช่วยรับหนังสือหน่อยสิ”ชายที่ยืนอยู่เบื้องหน้าของไคกล่าว พร้อมกับส่งหนังสือหลายสิบเล่มให้ไคช่วยถือ ไครับหนังสือมาแทบจะหงายท้องเพราะน้ำหนักของหนังสือมันหนักมากมากจนแทบจะหลุดมือ จัมพ์เห็นเพื่อนของเค้าทำท่าจะไม่ไหวเลยมาช่วยประคองเอาไว้ พร้อมกับแบ่งหนังสือออกมาครึ่งหนึ่งเอาไปถือไว้เอง พอจำนวนหนังสือลดลงครึ่งหนึ่งไคก็ได้เห็นใบหน้าของชายที่เค้าได้คุยด้วยเมื่อซักครู่นี้อย่างชัดเจน ชายคนนั้นสูงประมาณร้อยเจ็ดสิบห้าเซนติเมตรเห็นจะได้ ผิวขาว ผมสั้น จมูกโด่ง มีฟันเยอะเรียงรายกันไม่เป็นระเบียบ

“อะไรกัน แกจะบ้ารึไงนี่เค้าไม่เรียกว่าช่วยถือแล้ว นี่เค้าเรียกเอาไปถือแทนแล้วไม่น่าช่วยออกมาจากลิฟท์เลยจริงจริง ให้ตายเถอะไม่มีขอบคุณกันซักคำ”จัมพ์ต่อว่าให้กับชายคนนั้นทันที

“อ้าวเหรอ งั้นข้าช่วยพวกเจ้าถือเล่มนึงละกัน”พอชายคนนั้นพูดจบก็หยิบหนังสือออกจากมือเล่มเล็กเล็กออกจากมือไคออกมาหนึ่งเล่ม

“หน่อยไอ้หมอนี่ทำแบบนี้มันกวนกันนี่หว่า”จัมพ์ทำท่าไม่พอใจ แต่ไคก็ห้ามไว้

“ว้าวมีลูกหมามาด้วย มาได้ยังไงเนี๊ยะทำไมถึงมีสัตว์เลี้ยงได้ละ แย่ล่ะสิข้าลืมแนะนำตัวไปเลยข้าชื่อ หรั่งเป็นช่างซ่อมบำรุงของอาคารAนี้ พวกเจ้าล่ะชื่ออะไรกันบ้าง”

ชายคนดังกล่าวแนะนำตัวเองหลังจากนั้นไคและจัมพ์ก็แนะนำตัวเองให้หรั่งฟังและเล่าเรื่องราวแบบคร่าวคร่าวให้ฟัง หลังจากนั้นหรั่งก็พาไคและจัมพ์ไปที่บริเวณเคาน์เตอร์เพื่อกรอกเอกสารเล็กน้อยเหมือนกับการลงทะเบียนเพื่อเข้าพักอาศัยอาคารแห่งนี้ หรั่งเดินไปหยิบกล่องไม้เล็กเล็กมากล่องหนึ่งเค้าค้นหาสิ่งของอะไรบางอย่างอยู่ แล้วเค้าก็หยิบออกมาเป็นลูกกุญแจสีทอง ที่ตรงด้ามของลูกกุญแจสลักตัวเลขเอาไว้คือเลข หนึ่งสองสี่

“พวกแกพักที่ห้องหมายเลขนี้ละกัน”เมื่อหรั่งพูดจบก็ส่งลูกกุญแจให้กับไคแล้วหรั่งก็เดินนำทั้งสองไปยังประตูลิฟท์เพื่อจะพาไปยังห้องพัก ลิฟท์ได้พาคนทั้งหมดพร้อมกับเจ้าโจเซฟ ริชาร์ด ปาร์คเกอร์ เลื่อนขึ้นไปจนถึงชั้นที่สามของตัวอาคาร

เมื่อประตูลิฟท์เปิดออกก็คล้ายคล้ายกับอาคารทั่วไปด้านหน้าของประตูลิฟท์เป็นทางเดินแนวตรงกว้างประมาณห้าเมตรสูงสามเมตรที่พื้นปูด้วยกระเบื้องสีเขียว ทั้งสองฝั่งมีประตูของห้องต่างต่างเรียงรายทอดยาวไปจนสุดทางเดิน เมื่อไคและจัมพ์สังเกตดูประตูแต่ละห้องจะมีป้ายบอกหมายเลขห้องเรียงตามลำดับประตูของแต่ละห้องตกแต่งดูสวยงามบางห้องก็มีรูปภาพขนาดใหญ่ติดเอาไว้ บางห้องก็มีรูปนักแสดง มองดูบรรยากาศเหมือนหอพักทั่วทั่วไป แต่ดูเงียบสงบเหมือนไม่มีใครอาศัยอยู่ที่นี้เลย เมื่อไคและจัมพ์เดินตามหลังหรั่งผ่านประตูบานที่สอง ประตูบานแรกที่พวกเค้าเดินผ่านมาก็เปิดออก แล้วก็มีผู้ชายสวมแว่นตากลมกลมสีน้ำเงินไม่สวมเสื้อ ไว้ทรงผมเดทร็อคบนตัวมีรอยสักเต็มไปหมดชะโงกหน้ามามองทางพวกเค้า ไคจึงหันไปมองชายคนดังกล่าวก็ยิ้มทักทายให้กับเค้าพร้อมกับพูดกับไค

“ว่าไง เด็กใหม่เพิ่งมาถึงเหรอ”

ชายที่ยืนอยู่หน้าห้องกล่าวพร้อมกับส่งรอยยิ้มแปลกแปลกแล้วชายคนดังกล่าวก็หยิบเครื่องดนตรีชนิดหนึ่งขึ้นมาเป่า มันคือทรัมเป็ตสีทองมันเงา พอชายทรงผมเดทร็อคเป่าเครื่องดนตรีอันนั้นเหมือนกับว่าเค้าส่งสัญญาณอะไรบางอย่างเป็นเสียงดนตรี แล้วจู่จู่ประตูห้องทุกห้องก็เปิดออกมีผู้คนที่เป็นเจ้าของห้องของตนออกมายืนหน้าห้องของตนเองพร้อมกับปรบมือแสดงการต้อนรับไคและจัมพ์มีทั้งผู้หญิงและผู้ชายบางห้องก็เอากระดาษสีหรือดอกไม้สีต่างต่างมาโปรยตามทางเดินบางห้องก็เอากลองขนาดเล็กมาตีทำให้เกิดเสียงอึกทึกครึกโครมไปทั่วทั้งชั้น ทุกย่างก้าวของไคและจัมพ์เวลาที่ทั้งคู่เดินผ่านแต่ละห้อง เจ้าของห้องในแต่ละห้องต่างก็พูดว่า

“ยินดีต้อนรับเด็กใหม่” ไคได้รับการต้อนรับอันแปลกตา แต่เค้ากับรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.2 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา