RED STONE WAR

9.0

เขียนโดย nemon

วันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 เวลา 21.50 น.

  86 ตอน
  9 วิจารณ์
  63.37K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 23.26 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

56) คู่ปรับของจัมพ์

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ที่เหลือก็คอยอยู่บนฝั่งเพื่อจะรีดลมออกจากห่วงยาง จัมพ์สังเกตไปเห็นนักกีฬาทีมสีเขียวคนหนึ่งซึ่งจัมพ์จำได้ดี นัสโกฟิวนั่นเอง นัสโกฟิวยืนจ้องมองมาทางจัมพ์ในขณะที่เค้ากำลังวอร์มอัพ เพื่อที่จะว่ายน้ำ

                 สายตาของนัสโกฟิวที่มองมาทางจัมพ์นั้น จัมพ์รับรู้ได้ทันทีว่าเป็นสายตาที่ดูถูกหรือเหยียดหยามเค้าอย่างชัดเจน ซึ่งเป็นสายตาที่เค้าเคยได้รับรู้มาก่อนเมื่อในสมัยเด็กตอนที่เค้ายังคงเป็นเด็กชาวเขาเผ่าอาข่า ที่ต้องถูกสายตาแบบนี้จ้องมองจากเด็กในเมืองที่มองดูเด็กชาวเขาอย่างพวกเค้า จัมพ์จดจำสายตาแบบนั้นได้ดี ทำให้ความโกรธภายในใจของเค้าเริ่มคุกรุ่นขึ้น

“ข้าจะลงแข่งขัน”เสียงจัมพ์เอ่ยขึ้นอย่างหนักแน่น ในขณะที่เค้ายืนขึ้นพร้อมกับจ้องมองไปทางทีมสีเขียวที่มีชายร่างเล็กยืนจ้องมองกลับมาที่เค้าเช่นกัน

“เกิดอะไรขึ้นเหรอจัมพ์ทำไมนายถึงคิดจะลงแข่ง”ไคสอบถามเพื่อนรักด้วยความแปลกใจ

“ไม่มีอะไรมากหรอกก็แค่ ข้าไม่อยากแพ้ไอ้หมอนั่นเท่านั้นเอง”จัมพ์บอกกับเพื่อนรักของเค้าพร้อมกับบ่งชี้ให้เห็นถึงต้นต่อที่ทำให้เค้าต้องลงแข่งขันว่ายน้ำครั้งนี้ ไคเองที่เห็นแววตาที่มุ่งมั่นของเพื่อนรัก ก็ไม่อาจจะขัดใจได้เค้าเองก็คงทำได้เพียงสนับสนุนจัมพ์ให้ได้รับชัยชนะเท่านั้นเอง

“จัมพ์ถ้านายตัดสินใจอย่างนั้นเราก็อย่ามัวเสียเวลาอยู่เลยเตรียมตัวลงแข่งกันเถอะ” ไคบอกจัมพ์ให้เตรียมพร้อมกับการแข่งขันทันที

                 แต่เมื่อจัมพ์มองเห็นชายร่างเล็กของทีมสีเขียวที่เตรียมพร้อมจะลงว่ายน้ำแล้วนั้น จัมพ์ที่นั่งอยู่ห่างออกไปจากจุดที่นักกีฬาของทุกทีม ที่กำลังเตรียมจะกระโดดน้ำ เค้าคิดภายในใจหากคิดแต่จะรอเวลาคงจะไม่ทันการณ์ เค้าจึงตัดสินใจออกตัววิ่งไปยังจุดกระโดด พอไปถึงริมบึงจัมพ์ก็ทะยานพุ่งตัวลงไปในน้ำทันทีทั้งที่ยังสวมชุดเดิมที่ใช้สำหรับวิ่งแข่งผิดกับผู้แข่งขันคนอื่น ที่ใส่ชุดว่ายน้ำและเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี ไคเองที่กำลังเตรียมหาชุดว่ายน้ำให้จัมพ์ก็ตกตะลึงกับการกระทำของเพื่อนรักของเค้า ไคจะห้ามไว้แต่ก็ไม่ทันเสียแล้วไม่ใช่เฉพาะไคเท่านั้นที่ตกตะลึงกับการที่จัมพ์กระโดดลงน้ำไปทั้งชุดเดิม แม้แต่กองเชียร์ของแต่ละทีมที่มารอเชียร์ก็เช่นกัน ต่างก็ตกตะลึงไปตามตามกัน

                  นัสโกฟิว ชายร่างเล็กนักกีฬาของทีมสีเขียวที่มองเห็นการกระทำของจัมพ์อย่างชัดเจน เค้ามองดูจัมพ์ที่กำลังว่ายน้ำอย่างเต็มกำลังเพื่อไปยังจุดหมายคือบริเวณกลางบึง เค้าแอบยิ้มเล็กน้อยแล้วจึงกระโดดน้ำรีบว่ายน้ำตามจัมพ์ไปทันที จัมพ์เองเมื่อเริ่มต้นว่ายมาได้ประมาณไม่กี่สิบเมตร นัสโกฟิวที่มีความสามรถในการว่ายน้ำที่รวดเร็วไม่นานนักก็ตามมาทัน เสียงกองเชียร์ของแต่ละทีมเริ่มดังกระหึ่ม แต่ละทีมก็ต่างส่งเสียงเชียร์นักกีฬาของสีของตน ผู้นำกลุ่มตอนนี้ก็คือจัมพ์และนัสโกฟิวของทีมสีเขียวที่ว่ายคู่กันอย่างไม่มีใครยอมใครพลัดกันนำพลัดกันตามไปมาอย่างสนุกสูสี เสียงของน้ำที่กระเพือมพร้อมทั้งเสียงของกองเชียร์ที่คอยปลุกเร้าให้นักกีฬาทุกคนออกแรงสุดกำลังเพื่อยังจุดหมายอย่างไม่มีความเหน็ดเหนื่อย ทำให้จัมพ์ลืมความเหนื่อยล้ากับการวิ่งที่ผ่านมาไปจนหมดสิ้น จัมพ์รู้เพียงอย่างเดียวว่าเค้าจะต้องชนะชายคนนี้ให้ได้เท่านั้นเอง ในขณะที่ชายทั้งสองกำลังแข่งขันกันอย่างสุดกำลังในที่สุด

                     ทั้งสองคนก็มาถึงกลางบึงก่อนนักกีฬาทีมอื่น เจ้าหน้าที่ที่ประจำจุดอยู่กลางบึงจึงโยนห่วงยางขนาดใหญ่ให้กับจัมพ์และนัสโกฟิวคนละหนึ่งห่วง จัมพ์เองไม่รอช้าเค้าพลิกห่วงยางแล้วใช้มือทั้งสองข้างดันห่วงยางไปด้านหน้าพร้อมกับดีดเท้าเตะน้ำต่อไปทันที ส่วนทางด้านนัสโกฟิวเค้าใช้แขนข้างหนึ่งคล้องห่วงยางเอาไว้แล้วใช้แขนอีกข้างแหวกน้ำทางด้านหน้าแตกต่างจากวิธีของจัมพ์ แต่ทั้งคู่ต่างก็เริ่มหมดแรงแล้วทั้งสองคนจึงอาศัยใช้วิธีเกาะห่วงยางลอยไปเรื่อยเรื่อยเพื่อพักเอาแรงในตอนนี้ทำให้ความเร็วในการว่ายของทั้งสองคนไม่ทิ้งระยะห่างกันมากนัก

                  พอทั้งคู่เริ่มว่ายมาได้ประมาณครึ่งทาง เนื่องจากจะต้องนำห่วงยางขนาดใหญ่กลับมาด้วยทั้งคู่เริ่มรับรู้ถึงภาระและความลำบากในการประคับประคองห่วงยางยักษ์นี้ในใจต่างคิดว่าอยากจะเอามันทิ้งไปให้ไกลไกลเสีย แต่ข้อดีของห่วงยางก็ยังมีคือมันยังช่วยให้สามารถพักเหนื่อยได้ ในตอนนั้นความเหนื่อยล้าที่สะสมมาตั้งแต่ต้นการแข่งขัน มันได้เริ่มแสดงผลของมันแล้วจัมพ์เริ่มมีอาการอ่อนล้า แขนและขาของเค้าเริ่มจะหมดแรงนั่นเป็นเพราะชุดที่เค้าใส่ซึ่ง มันไม่เหมาะกับการว่ายน้ำเอาเสียเลย มันเริ่มหนักอึ้งไปทั้งตัว เค้าจึงเอาตัวของเค้ามุดเข้าไปในห่วงยางเพื่อจะหยุดพัก จัมพ์เริ่มหายใจเข้าออกเริ่มติดขัดไม่เป็นจังหวะ ภายในใจของจัมพ์ต่างคิดไปถึงเรื่องราวต่างต่างนานา เค้าอยากหยุดพักแบบนี้นานนาน เค้าแหงนหน้ามองท้องฟ้าในวันนี้ท้องฟ้าเปิดกว้าง มีเมฆลอยจับกลุ่มกันเป็นก้อนก้อนสายลมอ่อนพัดผ่านมากระทบใบหน้าของเค้า ทำให้รู้สึกเย็นสบายจนแทบอยากจะนอนหลับไปเลย ในตอนนั้นสายตาของเค้าเหลือบไปเห็นนักกีฬาของทีมอื่นที่เริ่มว่ายตามหลังเค้ามา เริ่มขยับเข้ามาใกล้เค้าเรื่อยเรื่อยแล้วแต่ยังพอมีเวลาพอที่เค้าจะได้พักอีกสักหน่อยก่อนที่พวกนั้นจะตามมาทัน แต่คนที่เค้าทนไม่ได้เอาเสียเลยนั้นก็คือชายคนที่ว่ายน้ำนำหน้าเค้าออกไปเรื่อยเรื่อย ใช่แล้วนัสโกฟิวในตอนนั้นนัสโกฟิวได้โอกาศที่จะทิ้งห่างจัมพ์ออกไปเค้าเริ่มออกแรงเริ่มเร่งความเร็วรีบว่ายน้ำเพื่อหนีห่างออกจากจัมพ์

                    จัมพ์เองเมื่อเห็นดังนั้นเค้าเองก็ไม่อยากจะมาพ่ายแพ้แบบนี้เค้าจึงรวบรวมแรงฮึดอีกครั้ง เค้าสูดลมหายใจเข้าจนเต็มปอดเฮือกใหญ่ มุดน้ำลงไปจนออกมาจากห่วงยาง เค้าจึงใช้วิธีเดียวกันกับนัสโกฟิว เค้าใช้แขนข้างหนึ่งล็อคกับห่วงยางเอาไว้แล้วใช้แขนอีกข้าง ว่ายน้ำใช้เท้าดีดเตะน้ำเต็มแรงเพื่อเร่งความเร็วให้ทันคู่แข่งคนสำคัญของเค้า ทั้งคู่เริ่มขับเขี้ยวกันอีกครั้งทั้งสองคนต่างเร่งความเร็วขึ้น เหมือนกับว่าเพิ่งจะเริ่มแข่งขันกันใหม่ เสียงกองเชียร์เริ่มดังกึกก้องอีกครั้งการแข่งขันของทั้งสองคน ทำให้ทิ้งห่างนักกีฬาของทีมอื่นออกไปเรื่อยเรื่อย หัวใจที่ฮึดสู้หรือจะต้านทานสภาพร่างกายได้ในตอนที่กำลังจะตามทันคู่แข่งของเค้า จัมพ์รับรู้ถึงสภาพร่างกายของเค้า ที่มันพร่ำบอกเค้าอยู่ตลอดเวลาว่ามันเริ่มจะไม่ไหวแล้ว แขน ขา ของจัมพ์เริ่มที่จะไม่ขยับตามใจสั่ง มันหนักจนเหมือนกับว่ามีลูกเหล็กมาถ่วงเอาไว้ เค้าเริ่มสำลักน้ำบ่อยครั้ง สายตาของเค้าเริ่มพล่ามัวเค้าเริ่มมองคู่แข่งของเค้าที่อยู่เบื้องหน้าไม่ชัด มือข้างหนึ่งที่ยึดเกาะกับห่วงยางเอาไว้เริ่มหลุดออก ในตอนนั้นจัมพ์ขยับตัวแทบจะไม่ได้เลยเค้าเริ่มทิ้งตัวจมหายไปต่อหน้าต่อตาของกองเชียร์ที่อยู่รอบบริเวณริมบึง เสียงผู้คนตะโกนโหวกเหวกเหมือนกับจะร้องเรียกให้เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบการแข่งขันให้รีบเข้าไปช่วยเหลือทันที ไคที่ยืนอยู่บริเวณริมฝั่งเห็นดังนั้นก็เตรียมตัวจะกระโดดลงไปช่วยจัมพ์

                     แต่จู่จู่จัมพ์ก็โผล่ขึ้นมาเหนือน้ำพร้อมกับตะโกนเสียงดังลั่นเหมือนกับว่าเค้ากำลังเรียกพลังเฮือกสุดท้ายออกมา จัมพ์ใช้แขนข้างหนึ่งเกาะห่วงยางไว้แน่นแล้วเริ่มออกตัวว่ายน้ำอีกครั้ง จัมพ์เริ่มเร่งความเร็วขึ้นด้วยสายตาที่มุ่งมั่นเค้าจ้องมองแผ่นหลังของคู่แข่งของเค้าพร้อมกับสะบัดข้อเท้าเตะน้ำอย่างแรง จนในที่สุดก็มาอยู่ในแนวเดียวกันกับนัสโกฟิวจนได้ ทางนัสโกฟิวเองก็ไม่ยอมแพ้จัมพ์ง่ายง่าย เค้าก็ใช้แรงเฮือกสุดท้ายเช่นกัน เค้าเร่งความเร็วขึ้นอีก ส่วนทางจัมพ์เองก็ไม่ยอมแพ้ก็เร่งความเร็วตามเช่นกัน จนในที่สุด ทั้งสองคนก็มาถึงฝั่งโดยทั้งคู่นั้นมาถึงฝั่งพร้อมกันพอดี และ คำพูดแรกที่จัมพ์ตะโกนออกมาคำแรกเมื่อมาถึงฝั่ง นั่นก็คือ

“ไค รับห่วงยางนี่ไปเร็ว”เมื่อจัมพ์พูดจบก็ส่งห่วงยางให้ไคส่วนตัวเค้าเองก็นอนแผ่หราอยู่กับที่ พร้อมกับการหายใจ ที่ดูเหมือนกับว่าอากาศจะหมดไปจากโลกนี้เสียแล้ว จัมพ์หายใจแรงและถี่มากจนเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฐมพยาบาลต้องเข้ามาดูแล ในตอนที่เจ้าหน้าที่หน่วยพยาบาลได้นำเครื่องช่วยหายใจมาให้จัมพ์นั้นสายตาของจัมพ์ยังคงจ้องมองไค เหมือนกับว่าเค้ากำลังบอกให้ไครีบรีดลมออกจากห่วงยางโดยเร็ว ไคเองก็รับรู้ได้ทันที เค้าจึงรีบลงมือรีดลมออกจากห่วงยาง แต่ด้วยกำลังคนเพียงคนเดียวและห่วงยางที่มีขนาดใหญ่ ทำให้การไล่ลมออกจากห่วงยางนั้นเป็นไปอย่างยากลำบาก ไคพยายามทำทุกวิธีทางทั้งขึ้นเหยียบ ทั้งนอนกดทับ แต่ลมมันก็ออกมาน้อยเสียเหลือเกินผิดกับทีมอื่นต่างก็มีคนหลายคนช่วยกันไล่ลมออกจากห่วงยางได้อย่างรวดเร็ว เค้าจะทำยังไงดีตัวเค้าเองไม่อยากจะให้ความพยายามของจัมพ์ต้องเสียเปล่าเค้าจะทำอย่างไรดี ไคคิดภายในใจในขณะที่กำลังรีดลมออกจากห่วงยาง

                  ในตอนนั้นก็มีมือมาแตะที่ไหล่ของไคเบาเบา ในขณะที่เค้ากำลังง่วนอยู่กับการไล่ลมออกจากห่วงยาง เมื่อเค้าหันหน้าไปมองก็ถึงกับยิ้มออกเมื่อเห็นเพื่อนของเค้าอีกสองที่ยืนส่งยิ้มกว้างให้กับเค้านั่นก็คือ ฮันนี่และหรั่งนั่นเอง ไคเองรู้สึกโล่งใจอย่างที่สุดที่เห็นคนทั้งสอง

                   หลังจากนั้นเสียงเชียร์ของทีมสีแดงก็เสียงดังกระหึ่มขึ้มมาอีกครั้ง นักกีฬาของทีมสีแดงทั้งสามคนต่างก็ช่วยกันไล่ลมออกจากห่วงยางอย่างเต็มที่จนในที่สุด ลมที่อยู่ภายในห่วงยางก็ลดหายไปอย่างรวดเร็ว จนสามารถพับห่วงยางเก็บใส่ถุงตามกฎได้ ทางเจ้าหน้าที่ประจำฐานที่สี่เมื่อได้ตรวจเช็คความเรียบร้อยเสร็จ จึงมอบป้ายผ่านฐานที่สี่ให้กับไค

“เราเริ่มวิ่งต่อกันเถอะ เหลืออีกไม่ไกลก็จะถึงเส้นชัย รีบรีบเถอะ”เสียงฮันนี่กล่าว ในตอนนั้นไคยืนจ้องมองดูจัมพ์ที่นอนหายใจหอบอยู่ที่พื้น เค้าจึงพยักหน้าตอบรับคำของฮันนี่และเตรียมตัวที่จะวิ่งต่อไป เค้าเดินเข้าไปหาจัมพ์เพื่อจะบอกกับเพื่อนของเค้าให้นอนพักที่นี่ แต่เมื่อไคเดินไปถึงที่จัมพ์นอนพักอยู่ไคถึงกับพูดไม่ออกเมื่อเห็นแววตาความมุ่งมั่นของจัมพ์ ที่ฉายแววการต่อสู้การไม่ยอมแพ้ทำให้ไคถึงกับพูดอะไรไม่ได้เลย ไครู้ดีว่าจัมพ์คงจะไม่ยอมพักอยู่ที่นี่แน่นอน

“จัมพ์แกนอนพักซะเถอะ เดี๋ยวที่เหลือพวกข้าจะวิ่งให้เอง”เสียงของหรั่งพูดขึ้น

                    เมื่อจัมพ์ได้ยินดังนั้นเค้ากลับลุกขึ้นมานั่งแล้วถอดที่ช่วยหายใจออก เค้านั่งนิ่งอยู่ครู่หนึ่งแล้วสูดลมหายใจเข้าจนเต็มปอดพร้อมกับพ่นลมหายใจออกทางปากยาวยาว

“ไม่เป็นไรมันเป็นหน้าที่ของข้า ไคกับข้าจะคว้าชัยชนะครั้งนี้มาเอง”เมื่อจัมพ์พูดจบเค้าก็ลุกขึ้นยืน ออกตัววิ่งไปในทันที ไคเห็นดังนั่นจึงรีบวิ่งออกตามไปติดติดพร้อมกับโจเซฟที่เตรียมตัวอยู่นานแล้ว

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.2 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา