Plan Love Insidious...แผนรักร้าย

-

เขียนโดย tripleme

วันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 เวลา 13.48 น.

  4 chapter 1
  0 วิจารณ์
  6,617 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 11.21 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

วันอาทิตย์  6.20 น.

 

“งึม  งึม  งึม”การได้นอนช่างมีความสุขอะไรเช่นนี้ อิอิ ฮุฮุ เตียงนอนนุ่มๆ  ผ้านวมอุ่นๆในวันที่ฝนตกพรำ พรำ  โอยยยฟินได้อีก ><

“เฮียเพื่อนตื่นนนนนนนนน!!! ”แม่งวิมานของกูถล่มเลย ครายมันบังอาจมารบกวนการพักผ่อนของพี่เพื่อนคนหล่อเนี่ย

“อืออออออ”แน่จริงก็ปลุกไปเลย ยังไงก็ไม่ตื่นหรอก ดูดิว่าจะทำไง อ่ะอ่ะไม่ต้องกลัวว่าจะโดนถีบตกเตียงเหมือนในนิยาย  เพราะผมได้ทำการล็อคห้องไว้อย่างแน่นหนาเรียบร้อยแล้ว วะฮะฮ้า  คลุมโปงแม่งเลย

“อ๊ะ!! ห้องล็อค เฮียตื่นมาเปิดประตูเดี๋ยวนี้นะ ไม่งั้นหนูจะฟ้องมี้”มี้? มี้ไหนว่ะ มันเป็นครายยยย เช้าๆแบบนี้สมงสมองประมวลผลไม่ค่อยจะทันด้วย ช่างแม่ง  ไม่รู้จัก = ไม่กลัวโว้ย อยากทำอะไรก็เชิญ

“เออ ตามบายเลยน้องสาว”นาทีนี้ไม่รู้ ไม่สนจะนอน นี่บอกเลย

“โอ้ววว!! เฮียแน่มากนี่บอกเลย เฮียเสร็จมี้แน่ อิอิ”นางพูดจบก็เดินไป พร้อมกับที่สมองของผมเริ่มประมวลผลช้าๆ มี้ มี้ มี้  มี้ = แม่  แม่ = หม่ามี้  ว๊ากกกกกก กูตายแน่ เมื่อคิดได้ดังนั้นผมก็รีบลุกขึ้นจากที่นอนด้วยความเร็วแสงแล้วตรงไปที่ประตู

 

หมับ   ตึก ตึก ตึก  แหมะ

 

ไม่ต้องสงสัยไปครับว่ามันคือเสียงอัลไร มันก็คือเสียงเปิดประตู ตามด้วยเสียงผมวิ่งลงบันไดและสุดท้ายลงมานอนแหมะอย่างสวยงามอยู่ที่บันไดขั้นสุดท้าย พร้อมเสียงหัวเราะของยัยน้องสาวตัวแสบกับขุ่นพ่อสุดที่รักที่หัวเราะราวกับกำลังดูตลกคาเฟ่ก็ไม่ปาน โคตรเป็นห่วงกูเลย ฮึ้ย!!

“เอา เอา ไม่ต้องรีบขนานนั้นก็ได้”พ่อครับน้ำเสียงเหมือนเป็นห่วงแต่หน้านี่ประมาณว่า  สมน้ำหน้า ดันโง่?เอง อะไรเทือกนั้นมากอ่ะ  

“โถ่ว!! พ่ออ่ะ ไม่ให้รีบได้ไงก็น้องพายจะไปฟ้องมี้ว่าเพื่อนไม่ยอมตื่นอ่ะ เดี๋ยวเพื่อนก็ได้โดนมี้ด่าหูชาพอดี”ประโยคแรกพูดบอกกับพ่อตัวเองครับ แต่ประโยคหลังนี่พึมพำกับตัวเองเพราะถ้าพูดเสียงดังแล้วมี้ได้ยินนี่ยาวครับ

“มี้ไม่อยู่หรอก ออกไปบ้านป้าเพ็ญตั้งแต่เช้าแล้ว  น้องพายก็ไปแกล้งเฮียเค้า เห็นมั้ยเฮียตกบันไดเลย หึหึ”เออว่ะ  เมื่อวานนี้แม่บอกว่าจะไปบ้านป้าเพ็ญแต่เช้า   แล้วกูจะตื่นมาเพื่อ  แต่เดี๋ยวนะไอประโยคหลังนั่นมันอะไร ลูกยังเจ็บไม่พออีกหรือไร งือออออ ไหนๆตื่นแล้วก็หาอะไรกินเลยดีกว่าจะได้อาบน้ำเตรียมตัวออกไปลั้นลา  ฮูเร่ ฮูเร่ 

“เฮียทำหน้าอย่างงั้น แสดงว่าเดี๋ยวจะออกไปเที่ยวใช่มั้ยเนี่ย”แหม่รู้ดีจริงๆน้องสาวใครเนี่ย ผมไม่ได้ตอบแต่ส่งยิ้มกลับไปแทน  น้องสาวผมนี่ส่ายหน้าอย่างเอือมระอาเต็มที่ แต่ใครจะสนก็ผมเป็นของผมแบบนี้มาตั้งนานแล้ว

“มี้ไปกับเฮียหรอ?”ผมถามขึ้นเมื่อไม่เห็นเฮียแพงอยู่ร่วมโต๊ะอาหาร

“ป่าว ไปกับป้าพิม  ส่วนเฮียแพงไปหาเฮียปุ่นที่บ้าน หนูกับพ่อเลยคุยกันว่าเดี๋ยวพ่อทานข้าวเสร็จก็จะไปที่บ้านเฮียปุ่นเหมือนกัน  เจอกันเมื่อวานยังคุยกันไม่หายคิดถึงเลย  เอ๊ะ! แต่ไม่เห็นเฮียป่านเลยอ่ะสงสัยคงไม่ได้กลับมาอีกแน่เลย เฮียเพื่อนจะไปด้วยกัยมั้ย?”น้องสาวผมพูดตอบออกมา แต่มันกลับไม่ได้เข้าไปในสมองของผมเลย เพราะสิ่งที่ผมรับรู้คือ บ้านหลังที่อยู่ห่างกันเพียงถนนกั้นตรงด้านข้างของตัวบ้านที่เคยร้างคนอาศัยมานานเกือบ 6 ปี เนื่องจากเจ้าของบ้านได้ย้ายตามลูกชายคนเล็กของบ้านเข้ากรุงเทพเพราะลูกชายดันเลือกเรียนโรงเรียนมัธยมชื่อดังในจังหวัดนั้นอีกทั้งยังเป็นโอกาสเหมาะที่จะขยายธุรกิจของครอบครัวให้ใหญ่ขึ้น ตอนนี้ได้กลับมาแล้ว ในเมื่อครอบครัวมันกลับมาแล้วแต่ทำไมมันถึงไม่กลับมาด้วยล่ะ มันคิดจะทิ้งผมไปจริงๆใช่มั้ย? ในหัวผมมันมีแต่คำถามเต็มไปหมด ให้ตายเถอะ! เพราะมึงคนเดียวเลย    ไอป่าน ไอเพื่อนบ้า

“ไม่อ่ะ เดี๋ยวเฮียจะออกไปหาพวกไอช้อยที่ร้านMac-Chiato House (แมค ชาโต้ เฮาส์ )แถวถนนถลางนะ พอดีนัดกันไว้”ผมตอบน้องสาวแล้วจัดการกับอาหารตรงหน้าทันที อันที่จริงก็ไม่ได้นัดอะไรใครไว้หรอกคับ ผมแค่ไม่อยากอยู่บ้านเท่านั้นเอง  รู้สึกเบื่อๆ แถมยังรู้สึกเหมือนวันนี้จะเจอเรื่องชวนปวดหัวอีกด้วย

“จะกลับกี่โมงล่ะ”พ่อผมถามขึ้น

“คงเย็นๆอ่ะ”ผมตอบพ่อ

“อืม ขับรถดีดีล่ะ แล้วก็อย่าลืมเอายาไปด้วยล่ะ”พ่อพูดพลางจิบกาแฟไปด้วย ไม่ต้องสงสัยหรอกครับว่ายาอะไร มันก็แค่ยาแก้แพ้ธรรมดาเอง ก็ผมเป็นภูมิแพ้ เดี๋ยวแพ้นั่น แพ้นี่  แล้วแต่อารมณ์(เกี่ยวมั้ย) มันก็ไม่ได้หนักหนาอะไรหรอกคับ  จะหนักอยู่ก็ตอนที่แพ้มากๆผมจะมีอาการเลือดกำเดาไหล ไหลทีนี่นึกว่าก๊อกแตก

5555 ถ้าถามว่าไอที่ว่าแพ้หนักๆอะ ผมแพ้อะไร ผมตอบได้เลยว่า ผมแพ้อากาศเย็นจัด-ร้อนจัด แพ้ปู และสุดท้ายนี่เด็ดมากครับ แพ้ทุเรียน อันนี้นี่จัดว่าเด็ด คนบ้าอะไรแพ้ทุเรียน กินไม่ได้ ได้กลิ่นเป็นเลือดพุ่ง อ้วกแตกเลยครับ ประสาทสัมผัสเรื่องทุเรียนของผมนี่ดีมาก ย้ำว่ามากกกก

“คร้าบบบบ”พอตอบรับคำพ่อแล้วผมก็ขอตัวไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าและจัดการโทรปลุกเพื่อนๆของผมพร้อมนัดแนะสถานที่และเวลา

 

 

 

 

 

 

ตอนนี้ผมนั่งอยู่ที่ร้านMac-Chiato House (แมค ชาโต้ เฮาส์ )ครับ ซึ่งแน่นอนว่าผมมาถึงเป็นคนแรกตามมาด้วยไอป๊อป ที่มาถึงก็บ่นใส่ผมใหญ่เลย

“สัสเพื่อน มึงจะโทรมากวนอะไรกูแต่เช้าเนี่ย แม่ง!ถ้าหน้ากูโทรมนะกูจะตัดเพื่อนกับมึง แล้วนี่ไอช้อยกับไอนุ้ยมันยังไม่โผล่หัวมาอีกหรอว่ะ ช้าฉิบหาย”ดูมัน ไอห่าราก!! วันๆห่วงแต่หน้าตัวเอง แล้วได้ข่าวว่ามึงก็พึ่งมาถึง

“ห่า!! บ่นจริงมึง” ผมว่าอย่างไม่จริงจังนัก นั่งกันซักพักบริกรก็เดินมารับออเดอร์พอดี

“รับอะไรดีครับ”บริกรหนุ่มถามแต่สายตาเนี่ยมองไอป๊อปไม่วางตาเลย  ก็อย่างว่าล่ะครับไอป๊อปมันน่ารักนิ ตัวเล็กกว่าผมนิดนึง หน้าขาวใสไร้สิวอุดตัน ปากนิดจมูกหน่อย ผิวขาวเนียนอย่างคนสุขภาพดี บอกได้เลยสวยยิ่งกว่าผู้หญิงบางคนซะอีกครับ

“เอาFruits Parfé กับ Nutella ปั่น แล้วมึงเอาอะไรไอเพื่อน”ไอป๊อปตอบพี่บริกรแล้วหันมาถามผม

“เอาTokyo Toast เอ่อ ขอเปลี่ยนไอศกรีมเป็นรสมะนาว 2 ลูก ชาเขียว 1 ลูก แล้วก็เพิ่มวิปครีม กับ Caramel Macchiato ครับ”ผมตอบพร้อมส่งยิ้มให้กับพี่บริกร แต่ดูเหมือนพี่แกจะไม่สนใจผมเท่าไหร่ เพราะตานี่มองแต่หน้าไอป๊อปอย่างเดียวเลยครับ

“เอ่อ ทวนรายการนะครับFruits Parfé1ที่  Nutella ปั่น  1 ที่  Tokyo Toast เปลี่ยนไอศกรีมเป็นรสมะนาว 2 ลูก ชาเขียว 1 ลูก เพิ่มวิปครีม 1 ที่  แล้วก็Caramel Macchiato1ที่ นะครับ กรุณารอสักครู่นะครับ”เมื่อทวนรายการเสร็จพี่แกก็เดินจากไปอย่างอาลัยอาวรไอป๊อป ไอป๊อปมันไม่สนใจหรอกครับ ไอนี่มันสนใจอยู่แค่ 2 เรื่องเท่านั้นแหละครับ คือ 1 เรื่องหน้าตาของมัน กับ 2 เรื่องเกม  ว่าแต่นี่ไอนุ้ยกับไอช้อยมันไปมุดหัวอยู่ที่ไหนว่ะเนี่ย ช้าฉิบหาย  พูดยังไม่ทันขาดคำก็ได้ยินเสียงเปิดประตูร้านดังขึ้น พร้อมกับร่างของคน 2 คนที่เดินเข้ามา

“พวกมึงทำเหี้ยอะไรกันอยู่วะช้าฉิบหาย กูกับไอเพื่อนรอจนรากจะงอกอยู่แล้ว”อึหืม!!จัดเต็มมาเลยครับ

“มึงอย่ามาทำเป็นพูดดีเลยไอป๊อป กูรู้หรอกว่ามึงก็พึ่งมาถึง ห่าทำมาเป็นว่าพวกกู”ไอนุ้ยมันว่าแล้วก็ตบไปที่หัวของไอป๊อปเต็มแรง

 

ป้าบ

 

“สัสนุ้ย!! กูเจ็บ”ไอป๊อปว่าพลางลูบหัวตัวเองปอยๆ

“ก็กูทำให้เจ็บไงสัส”ไอนุ้ยลอยหน้าลอยตาพูด แล้วนั่งลงข้างๆไอป๊อป ส่วนไอช้อยก็เดินมานั่งลงข้างๆผม

“สัส!!!”

“พวกมึงนี่ก็กัดกันอยู่ได้”ไอช้อยว่าพลางส่ายหน้าอย่างเอือมๆ

“แล้วมึงอ่ะตามพวกกูออกมาทำไมวะ ถ้าไม่สำคัญนะกูจะตบให้คว่ำเลย”ไอช้อยครับ แม่ง!!ทำหน้าหงิดมาเลย

“เออ เออ เดี๋ยวบอก พวกมึงสั่งอะไรมากินก่อนเถอะ กินก่อนค่อยเล่า”ผมตอบมันแล้วจัดการเรียกบริกรมารับออเดอร์เพิ่ม  พวกเรานั่งพูดคุยหยอกล้อกันซักพักอาหารที่สั่งมาก็มาเสริม

“อาหรามาแล้ว แดกไปคุยไปจะได้ไม่เสียเวลา ว่ามา”มึงจะรีบไปไหนว่ะไอช้อย

“เออแม่ง!! รีบจริง ก็ไม่มีไรมากแค่เบื่อเลยไม่อยากอยู่บ้าน  อีกอย่างวันนี้ครอบครัวไอป่านพึ่งย้ายกลับมาแต่…………..”ผมยังพูดไม่ทันจบไอนุ้ยก็พูดแทรกขึ้นมา

ไอป่านไม่ได้กลับมาด้วย  กูพูดถูกใช่มั้ย”

“สัส!! รู้ดี”

คิดถึงก็ไปหาสิวะ มึงจะมานั่งทำหน้าหมาหงอยอย่างนี้ทุกครั้งที่ครอบครัวเค้ากลับมาแต่ไร้เงาลูกชายคนเล็กอย่างนี้ตลอดไปเลยหรือไง  6 ปี มันยังไม่พอหรอวะ”นั่นสินะ 6 ปีมันยังไม่พอหรอ? ถูกของไอช้อยมัน

“………….”เงียบครับไปไม่เป็นเลย ก็มันพูดถูกอ่ะ

“มึงก็นะ ทนมาได้ไงตั้ง 6 ปีวะ ถ้าเป็นกูนะแค่อาทิตย์เดียวก็ลงแดงแล้ว”ไอป๊อปพูดไปกินไป ข้างปากก็เลอะคราบวิปครีมเต็มไปหมด เด็กจริงๆเลยมึง ไอนุ้ยมันมองหน้าผมแล้วพูดขึ้นว่า

มึงกำลังกลัวใช่มั้ย?

“…………………….”

“แล้วมึงกลัวอะไรละระหว่างกลัวว่ากลับไปที่บ้านแล้วจะไม่เจอมันอย่างที่มึงคิดกับกลัวว่ากลับไปที่บ้านแล้วเจอมันแต่ความสัมพันธ์ระหว่างมันกับมึงไม่เหมือนเดิม”เหี้ย!!!มึงแม่งอ่านใจกูได้ด้วย  มึงจะเมพเกินไปแล้วนะไอนุ้ย   แต่ก็อย่างที่มันว่านั่นแหละผมกำลังกลัว กลัวไปหมดทุกอย่างไม่ว่ามันจะกลับมาหรือไม่กลับมา แต่ตอนนี้ผมขอเลือกที่จะไม่เผชิญหน้ากับมันจะดีกว่า เพราะมันดีต่อความรู้สึกของผมที่สุดแล้ว 

 

 

 

 

 

พอกินเสร็จพวกผมก็ไปเดินเล่นกันต่อที่ outlet เดินดูนั่นดูนี่ไปเรื่อยจนเวลาล่วงเลยมาประมาณ 4 โมงกว่าๆ พวกผมก็ต่างคนต่างแยกย้ายกันกลับบ้านเพราะเริ่มเหนื่อยกันแล้ว ไอผมที่ยังไม่ค่อยอยากกลับเท่าไหร่ก็เลยตัดสินใจว่าจะไปเดินดูหนังสือที่ B2S เซ็นทรัล   เดินดูได้สักพักก็รู้สึกเบื่อ เลยคิดว่ากลับบ้านดีกว่า  ผมมาถึงบ้านประมาณ 5 โมงครึ่งได้

“แม่ง!! ทำไมบ้านมันเงียบจังวะ อย่าบอกนะว่ายังไม่กลับกันมาอีกหนะ”ผมพูดพึมพำกับตัวเอง พอดีกับที่ป้าแอ๋ว แม่บ้าน เดินออกมาพอดี

“ป้าแอ๋วครับ ไม่มีใครอยู่บ้านหรอครับ”

“อ่อ มีค่ะ พวกคุณๆเธออยู่ด้านหลังบ้านตรงสระว่ายน้ำกันหนะค่ะ”

“อ่า ครับ”ป้าแอ๋วพูดจบก็เดินเข้าไปในครัวทันที

“ไปทำอะไรกันที่สระว่ายน้ำวะ”ผมพึมพำพร้อมกับเดินตรงไปยังสระว่ายน้ำ  ผมมีความรู้สึกว่าหัวใจมันเต้นแรงผิดปกติ เหมือนกับว่าผมกำลังทำเรื่องน่าตื่นเต้นหรือกำพอลังกลัว? ผมค่อยเดินเข้าไปช้าๆ ขาผมกำลังจะก้าวเข้าไปบริเวณสระว่ายน้ำกลับหยุดชะงัก เพราะสายตาดันเหลือบไปเห็นบุคคลที่นอกเหนือจากสมาชิกในครอบครัว สิ่งที่ผมกำลังหนีมันกำลังจะกลับมา

ยืนทำอะไรอยู่ ทำไมไม่เข้าไปล่ะ

 

เฮือก

 

เสียงที่กระซิบอยู่ที่ข้างหู ทำเอาผมสะดุ้งสุดตัว ขนอ่อนบริเวณต้นคอลุกชันเมื่อลมหายใจอุ่นของใครบางคนกระทบอยู่ที่ต้นคอ ตัวผมแข็งทื่ออย่างกับโดนสาป ผมค่อยๆหันหลังกลับไปดูช้าๆว่าเป็นใคร? แต่ผมกลับต้องก่นด่าตัวเอง เพราะนั่นเป็นการกระที่ผิดพลาดของผมอย่างแรง

 

“มะ มึง  ปะ ป่าน  ยังไง  ได้ไง”ตอนนี้สมองผมมันมึนงงไปหมด บอกไม่ถูกว่าตอนนี้รู้สึกยังไงเท่าที่รู้คือเสียงผมมันสั่นมาก  ให้ตายเถอะที่กูเป็นอะไรวะเนี่ย!!!!

“อืม กูเอง กูกลับมาแล้ว”ป่านพูดขึ้นพร้อมกับเอื้อมมือขึ้นมาลูบที่แก้มของผมอย่าแผ่วเบา  นั่นทำให้ผมเผลอสบตากับมันเข้า ดวงตาคู่นั้นเป็นคู่เดียวกันกับที่มองผมเมื่อ 6 ปีก่อนและมันก็กำลังมองมาที่ผมในตอนนี้เช่นเดียวกัน แต่ความรู้สึกมันต่างออกไป ก็ตอนนั้นสายตาที่มันมองมาที่ผมมีแต่ความอ่อนโยนและเอ็นดู  แต่ในตอนนี้ สายตาแบบนั้นมันคืออัลไล!!! คิดถึง โหยหาแฝงไปด้วยความเร้าร้อนปานจะกลืนกิน เหี้ย!!!! ขนลุก สัสๆ

“นะ  ไหนว่าไปแล้วไปลับไง ละ  แล้วกลับมาทำไม!!”ผมเบือนหน้าหนีมันแล้วทำเสียงดังกลบเกลื่อน

“คิดถึง”

O//////O       เยดดดดดดด!! สตั้นเลยกู ผมรู้สึกได้เลยว่าหน้าตัวเองร้อนผ่าว ตาโต อ้าปากหวอเลยครับ ถามว่าเขินมั้ย ตอบได้เลย โคตรๆ  คนพูดมันไม่สะทกสะท้านอะไรเลยแถมยังมีหน้ามายิ้มหน้าแป้นแล้นใส่ผมอีกด้วย

“เขินหรอ หน้าแดงเชียว”ไม่พูดเปล่าแต่กลับเดินเข้ามาใกล้พร้อมโน้มตัวลงมาให้หน้าเราอยู่ในระดับเดียวกัน นั่นทำให้ผมตกใจและหน้าแดงเข้าไปใหญ่ก็หน้าเราแทบจะติดกันอยู่แล้ว คือแบบถ้าผมขยับตัวนิดนึงจมูกเราชนกันแน่  ตาย ตาย ไอเพื่อนจะเป็นลม

“เฮ้ย!! ยะ อยู่เฉยๆนะมึงอย่าขยับ”เสียงร้องตกใจของไอป่านเรียกสติของผมให้กลับมาได้ แต่ให้อยู่เฉยๆห้ามขยับนั่นมันอะไร  คิดว่ากูจะเชื่อหรอไม่มีทาง คิดได้ดังนั้นผมก็ก้าวถอยหลังทันที

“กูบอกว่าอย่าขยับไง!! เฮ้อ!!  ดูซิเลือดเลอะเสื้อหมดแล้ว”ประโยคแรกมันตะคอกใส่ผมอย่างเป็นห่วง มันคงจะเห็นว่าผมตกใจมันเลยปรับน้ำเสียงให้อ่อนลงเล็กน้อย ย้ำว่าเล็กน้อย ว่าแต่นี่กูเลือดกำไดเหลา เฮ้ย!!ไม่ใช่ไม่ใช่ เลือดกำเดาไหล เพียงเพราะกูเขินมันเนี่ยนะ แม่ง!! รู้ถึงไหนอายถึงนั่น

“กะ กูเช็ดเองก็ได้”เหี้ย!!เสียงกูจะสั่นไปไหนวะ

“เฉยๆเฮอ มึงเช็ดเองมันไม่สะอาดหรอก กูเช็ดให้นั่นแหละ”มันว่าพลางเอาชายเสื้อมันขึ้นมาเช็ดเลือดที่จมูกของผมให้

“เฮ้ย!! มึงจะทำอะไรเนี่ย”ผมร้องเสียงหลง พร้อมกับดึงชายเสื้อตัวเองที่ให้ป่านมันเลิกขึ้นลง

“ก็เสื้อมึงเลอะอ่ะ กูก็เลยจะถอดออกให้”สัส!! ปากว่าแต่ตามึงอ่ะช่วยเงยหน้ามามองกูหน่อยได้มั้ย ไม่ใช่มองแต่หน้าท้องของกู แถมหน้ามันนี่แบบว่า หื่นเหี้ยๆ!!!!

“ไม่ต้องเลยสัส เดี๋ยวกูขึ้นไปเปลี่ยนบนห้องเอง”พูดจบผมก็เดินกระแทกไหล่มันขึ้นไปบนห้อง แต่ก็ยังไม่วายได้ยินเสียงมันตะโกนไล่หลังว่า

“ให้กูไปช่วยเปลี่ยนมั้ย”

“เสือก!!!”

 

 

 

 

พอขึ้นมาบนห้องผมก็เลยถือโอกาสอาบน้ำด้วยเลย เมื่อทำธุระส่วนตัวเสร็จผมก็ลงไปร่วมวงกับข้างล่าง ก็ไม่มีอะไรมากมายก็แค่มี้กับป้าแป้งเค้าอยากจะฉลองที่ได้อยู่กันครบทั้ง 2 ครอบครัว เลยจัดชุดใหญ่แบบปิ้ง ย่าง กินกันที่สวนข้างสระว่ายน้ำ ตั้งแต่ผมลงมาไอป่านมันก็

“เพื่อนมึงกินกุ้งมั้ย อ่ะนี่กูย่างให้”สัสมึงจะถามกูทำไม ถ้ามึงจะไม่รอคำตอบจากกูอ่ะ  ยังไม่หมดนะครับ

“เพื่อนมึงชอบกินบาบีคิวใช่มั้ยกูจำได้ อะกูย่างมาให้”

“เพื่อนมึงเอาน้ำอะไร มึงแดกน้ำเปล่าก็แล้วกันผิวจะได้สวยๆ”

“เพื่อนมะ………..”

“พอ!! ที่อยู่ในจานกูยังไม่ได้แดกเลย มึงยังจะเอามาให้อีก มึงจะเอามาใส่ให้สูงเท่าภูเขาเลยมั้ยสัส”ผมพูดขึ้นเมื่อมันยังไม่หยุดตักนู่นตักนี่ให้ผม

“ก็กูกลัวมึงไม่อิ่มอ่ะ”ยังมีหน้ามาทำหน้าเจี๋ยมเจี้ยมใส่อีก โว้ย!! กูอยากจะบ้าตาย

“เออ พอเลย แดก แดก”ผมว่าพลางเอากุ้งที่มันตักให้เข้าปาก  ขอบอกว่าอร่อยมว๊ากกก ผมนั่งกินไปคุยไปกับพวกเฮียปุ่น เฮียแพง แล้วก็ยัยพาย โดยมีไอป่านที่คอยตักนู่นตักนี่ให้ตลอดจนอิ่ม  อยากจะบอกว่าพุ่งแทบแตกเพราะมันอิ่มมากกกก

มึงกินไอติมกูมั้ย?”ผมที่กำลังดื่มน้ำอยู่ถึงกับสำลัก ทำเอาวงแตกเลยครับ

“แค่ก แค่ก มึง แค่ก ว่าอะไรนะ แค่ก”ผมนี่ไอหน้าดำหน้าแดงเลยครับ

“เฮ้ย!! ค่อยๆมึง”ป่านว่าพลางลูบหลังผมไปด้วย

“หึ หึ/หึ หึ”เฮียปุ่นกับเฮียแพงหัวเราะในลำคอแล้วทำหน้าประมาณว่า มึงแม่งทะลึ่งวะ  ผมเลยถลึงตาใส่

“อี๊!! เฮียสกปรกอ่ะ”นี่แหละครับน้องสาวผม

“โอเคยัง”ไอป่านถามพลางเลิกชายเสื้อของมัน(อีกแล้ว)มาเช็ดน้ำที่หน้าผมให้ ผมพึ่งสังเกตว่ามันเปลี่ยนเสื้อแล้ว

“อืม อืม”ว่าแล้วก็พยักหน้าให้มัน

“กูถามว่ามึงจะกินไอติมของกูมั้ย พอดีกูแวะซื้อมาตอนเดินกลับบ้านไปเปลี่ยนเสื้อ  ทะลึ่งนะมึง  เอ๋!! หรือว่ามึงอยากกินไอติมแท่งพิเศษของกู”อยู่มันก็พูดขึ้นมาแต่ประโยคหลังนี่มันกระซิบบอกที่หูผมนะครับเล่นเอาผมรู้สึกเสียววูบที่ในอก หน้าแดงอย่างอัตโนมัติ

“บะ บ้า >////<”

“หนูเพื่อนจ๊ะ  เห็นแม่เราบอกว่าเราได้ที่มหาวิทยาลัย yy ใช่มั้ย  แล้วได้คณะอะไรล่ะ”ป้าแป้ง แม่ไอป่านถามขึ้นมา

“เอ่อ ครับ ได้วิศวะ วิศวะซอฟต์แวร์ ครับ”ผมตอบกลับไป แต่รู้สึกเหมือนตามันกระตุกแปลกๆ

“ตายแล้ว เก่งจังเลยค่ะ นี่ก็เท่ากับว่าหนูเพื่อนก็ได้ที่เรียนที่เดียวกับตาป่านเลยแถมยังได้ค่ะเดียวกันอีก ต่างกันแค่หนูเพื่อนเรียนซอฟต์แวร์ แต่ตาป่านเรียนโยธา”ป้าแป้นหันไปยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่กับมี้ผม 2 คนอย่างมีความสุขกับข้อมูลที่พึ่งได้รับไปเมื่อกี้  แต่ผมนี่ช็อคค้างไปเลยครับ อะไรเนี่ย มหาลัยเดียวกัน คณะเดียวกัน ต่างกันแค่สาขา อย่างนี้ก็เท่ากับว่านับแต่นี้ผมกับป่านก็จะได้เจอกันทุกวัน เหี้ย!! อะไรมันจะซวยแบบนี้เนี่ย หวังว่านี่คงสุดติ่งความซวยของผมแล้วนะ

“ฉันว่าฉันมีความคิดดีดีแล้วแหละ”มี้ผมเองครับ นางพูดพร้อมทำหน้าประมาณว่าสิ่งที่นางคิดนั้นเยี่ยมยอดที่สุดแล้ว

“อะไรจ๊ะพิม ที่เธอว่าดีดีหนะ”

“ก็ไหนๆ ลูกเราก็เรียนที่เดียวกันแล้ว ก็ให้ทั้ง 2 คนอยู่ด้วยกันไปเลยไง มีอะไรจะได้ปรึกษากัน คอยช่วยเหลือกันได้”เมื่อสิ้นสุดประโยคของมี้  หน้าของผมก็

 

แบบนี้ >>>  OoO  

 

หน้าไอป่าน >>>^_______^

 

“ว๊ายยย!! เลิศมากจร้า เห็นด้วยที่สุด  งั้นก็ตกลงตามนี้นะ โอเค๊”ถามว่าอยากค้านมั้ยตอบได้เลยอยากมากแต่คือแบบว่านาทีนั้น กูพูดไม่ออก กำลังอึ้ง  แม่ง!! ชีวิตกูต่อจากนี้จะป็นยังไงวะเนี่ยยยยยยย

 

 

 

มาแล้ว มาแล้ว  ครบ 100% แล้วน้าาาา   เม้นเม้นเนาะ  

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา