แผลที่ไม่หาย { Y }

7.7

เขียนโดย acertam

วันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2557 เวลา 10.03 น.

  30 ตอน
  5 วิจารณ์
  25.96K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 14 มีนาคม พ.ศ. 2558 17.31 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

19) Chapter 18

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

 

เย็นวันนั้นหลังจากเลิกชมรมผมก็กลับบ้านพร้อมมาร์ค เราไม่ได้ไปต่อที่ไหนกัน วันนี้ผมไม่เห็นนัทเลยทั้งวันจริงๆ ยิ่งนัททำเหมือนพยายามตัดใจจากผมแบบนี้ ก็ยิ่งเป็นเรื่องยากที่นัทจะโทรหาหรือทำตัวเหมือนปกติ

ใช่...นัทมีเรื่องที่จะต้องทำ คือตัดใจจากผม และผมเองก็ต้องการเวลาในการสืบเรื่องมิกซ์กับคาสึมิเหมือนกัน หาหลักฐานที่จะทำให้แน่ใจว่าคนที่ทำร้ายคาสึมิแน่ๆ คือมิกซ์ไม่ใช่มาร์ค

 

รถของมาร์คมาชะลอจอดลงที่หน้าบ้านผม ผมจึงเอื้อมมือไปปลดเข็มขัดนิรภัย

 

"ขอบคุณนะ" ผมมองหน้ามาร์ค

 

"ไม่เป็นไร...ไม่ต้องขอบคุณหรอก ห่างเหินเกินไป..."

เขาพูดสั้นๆแค่นั้น ผมก็เลยโน้มหน้าไปกดจูบที่ริมฝีปากเขาเร็วๆ แล้วรีบถอนออก มาร์คทำหน้าตกใจอยู่เหมือนกัน แต่ผมไม่รอให้เขาตั้งตัวได้ รีบลงจากรถแล้ววิ่งเข้าบ้านตัวเองทันที

 

ผมกลับเข้าไปในห้องตัวเองเพื่อคนหาสมุดจดเบอร์โทรศัพท์ เนื่องจากต้องการติดต่อไปหาเพื่อนที่ญี่ปุ่นเพื่อขอให้เขาช่วยเหลือ

"เฮ้อ! โชคดีที่ยังไม่หาย" ผมอดถอนหายใจด้วยความโล่งใจไม่ได้ เพราะปกติผมเก็บข้าวของไม่ค่อยเป็นที่เท่าไหร่

 

ผมเปิดดูสมุดนั่นและไล่หาชื่อของเพื่อนสนิทอีกคนหนึ่ง ใช้เวลาไม่นานก็เจอ

 

"นี่ไงล่ะ! อาราตะซัง" ผมพึมพำชื่อเพื่อนเบาๆ ก่อนจะใช้โทรศัพท์ของตัวเองโทรหาเขา 

อาราตะซังคือเพื่อนที่สนิทของผมอีกคน ถ้าเทียบกับนัทแล้วเขาเนี่ยถือว่าหล่อไม่แพ้กัน ทั้งฐานะด้วย

 

[ครับ]

"อาราตะซัง นี่ฉันเองนะ ลายไทย"

[เฮ้...นายเป็นไงบ้าง ช่งนี้ไม่ติดต่อกันเลย]

อาราตะซังว่า ทำน้ำเสียงดูดุกันหน่อยๆ เพราะปกติผมจะติดต่อเขาอยู่สม่ำเสมอ

"ขอโทษนะ ช่วงนี้ฉันเรียนหนักมากๆ แล้วก็ใกล้สอบแล้วด้วย..."

[เอาเถอะๆ มีอะไรก็พูดมา ยังไงที่โทรมาก็คงมีธุระใช่มั้ยล่ะ]

"อืม คืองี้นะ...ฉันอยากให้นายไปเยี่ยมผู้หญิงที่ชื่อ มายามิ คาสึมิ ที่โรงพยาบาล...ให้หน่อย"

[ทำไมฉันต้องไปเยี่ยมผู้หญิงคนนั้นด้วยว่ะ]

อาราตะซังทำเสียงงงๆ จนผมต้องรีบพูดต่อ

"ฉันยังไม่มีเวลาอธิบายนะอาราตะซัง ขอเล่าให้ฟังคร่าวๆแล้วกัน..."

ผมค่อยๆเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสามปีก่อนที่เป็นสาเหตุที่ผมบอกเลิกมาร์ค กับเรื่องจู่ๆ ฝาแฝดของมาร์คก็โผล่มาให้อาราตะซังฟัง อาราตะซังเป็นคนฉลาด เก็บความลับเก่ง และไว้ใจได้ ที่สำคัญเขาสืบเรื่องต่างๆได้รวเร็วมาก ถ้าผมตต้องการข้อมูลอาราตะซังเท่านั้นจะช่วยผมได้

[เป็นแบบนี้นี่เอง...อืม เข้าใจแล้ว อยากให้ไปเยี่ยมแล้วทำอะไรอีกล่ะ]

อาราตะซังว่าง่ายและพร้อมจะช่วยเหลือผมเสมอ นั่นทำให้ผมรู้สึกปลื้มใจไมน้อยที่ได้เป็นเพื่อนกับเขา

"ฉันอยากให้นายสืบด้วยว่าอาการของเธอเป็นยังไงบ้าง และก็ดูด้วยว่ามีใครมาเยี่ยมเธอบ้างมั้ย อย่างพวกเพื่อนสนิทของเธอ ถ้ามีก็ลองถามๆ เรื่องเมื่อสามปีก่อนดู"

[หึ เรื่องขุดคุ้ยแบบนี้ฉันชอบนักล่ะ เอาเป็นว่าจะสืบให้ แล้วจะติดต่อไปอีกที]

"ฝากด้วยนะ"

[อืม แค่นี้นะว่างๆ ก็กลับมาเยี่ยมกันด้วยล่ะ คิดถึง]

"อืม ขอบคุณมากนะ..."

 

 

ผมลงมาทานอาหารมื้อเย็นกับครอบครัวตามปกติเหมือนทุกวัน ระหว่างนั้นทุกคนก็กำลังกินข้าวพร้อมน้าพร้อมตากันอยู่

ระหว่างที่กำลังทานข้าวน้ำก็พูดขึ้นว่า

"นี่ลายไทย มีผู้ชายมามองดินด้วยล่ะ ฮ่าๆๆ นึกแล้วยังขำไม่หาย ผู้ชายล่ำๆ หน้าตาก็หล่อด้วยนะ ฉันว่าดินไม่รอดแน่ๆ"

 

"หุบปากไปเลย เธอไปจิ้นในนิยายเธออย่างเดียวก็พอได้มั้ย"

พี่ดินชักสีหน้าทันที พี่เขาไม่ชอบให้ใครมาสบประมาทในความแมนของเขาน่ะครับ ฮ่าๆ

 

"ยอมรับเถอะน่า พี่น่ะหน้าตาน่ารักไม่ต่างจากลายไทยเลยสักนิด พวกเราน่ะสวยกันทั้งบ้าน จริงไม่ค่ะแม่"

ผมส่ายหน้านิดหน่อยที่น้ำหาว่าพวกเรา เพราะเดี๋ยวพี่ดินต้องปรี๊ดแตกด้วยความโมโหแน่ๆ

 

"ใช่จ๊ะ สวยกันทั้งบ้าน ฮ่าๆๆ"

แม่ทั้งพูดทั้งหัวเราะ 

 

"หนูว่านะคะ ไม่นานสองคนนี้ต้องหาลูกเขยให้แม่แน่นอนเลย"

 

"ยัยบ้า!" พี่ดินโวยวายด้วยความโมโห ส่วนน้ำกับแม่ก็หัวเราะเฮฮา มีแต่ผมคนเดียวที่ทำช้อนหล่นจากมือ

 

เคร้ง!

ทุกสายตาเลยหันมามองที่ผมเป็นตาเดียว

 

"เป็นอะไรหรือเปล่าลูก" แม่ถามด้วยความเป็นห่วง ผมจึงส่ายหน้าพลางยิ้มเจื่อนๆ จากนั้นก็กินต่อ ทุกคนเลยไม่ได้สงสัยอะไร

 

"กินเยอะๆนะลูก ช่วงนี้ลายไทยผอมไปเยอะเลย เรียนหนักหรอ" ผม่ถามผมอีกครั้งด้วยแววตาอ่อนโยน และนั่นทำให้ผมรู้สึกตื้อจนกินไม่ลงขึ้นมา

 

"แม่ครับ" ผมเรียกแม่เบาๆ

 

"จ๊ะ?" แม่มองราวกับรอให้ผมพูดอยู่ รวมถึงน้ำและพี่ดินด้วย ผมจึงกลั้นใจถามออกไป...

 

"ถ้าหากว่าลายไทยมีแฟนเป็นผู้ชายจริงๆ แม่จะว่าไงครับ"

คำถามของผมทำให้ทั้งโต๊ะเงียบไปทันที น้ำเบิกตากว้างเพราะเธอรู้เรื่องบางอย่างของผม ส่วนพี่ดินก็ช็อกไปเลยเหมือนไม่คิดว่าผมจะถาม

ส่วนแม่...ท่านเผยรอยยิ้มอ่อนโยนออกมา และบอกกับผมด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเข้าใจ

 

"ลูกของแม่จะเป็นอะไรก็ได้ ขอแค่เป็นคนดี เป็นลูกที่ดีของแม่ ถ้าลูกจะเป็นอะไร แม่ก็ยอมรับอยู่แล้ว เพราะลูกคือลูก..."

คำพูดของแม่ทำให้ผมน้ำตาซึม ได้แต่เอ่ยขอบคุณอยู่ในลำคอเบาๆ พอน้ำกับพี่ดินเห็นแบบนั้นทั้งสองก็เอื้อมมาขยี้เส้นผมของผมจนยุ่งเหยิงด้วยความเอ็นดู แล้วบทสนทนาก็เต็มไปด้วยความอบอุ่น

 

หลังมื้ออาหารผมกลับขึ้นไปบนห้องและเปิดหน้าต่างเพื่อรับลม เนื่องจากอากาศในห้องมันร้อน และผมก็ไม่อยากเปิดแอร์ (พ่อคุณรักโลก) แน่ล่ะเจ๊ (ยอมเขาจิง น้องลายไทยรักโลก) ฮ่าๆเวอร์เจ๊

แต่สิ่งที่เห็นทำให้ผมอึ้งไป

มาร์คยืนสูบบุหรี่อยู่ที่หน้าต่างฝั่งตกข้ามนั่น

 

"......"

ควันบุหรี่บวกกับความชื้นนิดหน่อยทำให้บานกระจกหน้าต่างเป็นฝ้า มาร์คกระตุกยิ้มเล็กน้อยเหมือนทักทายผม ผมก็เลยยิ้มบางกลับไป

แล้วที่มันเหนือความคาดหมายสุดๆ คือ ผมเห็นมาร์คเอามือวาดรูปหัวใจลงบนกระจกที่เป็นฝ้า! จากนั้นก็ตวัดสายตาขึ้นมองผม ผมจึงได้แต่ยืนหน้าร้อนด้วยความอาย (อร๊ายยโรแมนติก) อิจฉาหรอเจ๊ (ก็ไม่นะ) แน่นะ (เชอะ)

 

 

ตอนเช้าผมไปมหาวิทยาลัยพร้อมกับมาร์คเหมือนเมื่อวาน เพราะเขามารับผมถึงหน้าบ้าน จะให้ผมปฏิเสธก็ยังไงอยู่ ผมเลยยอมนั่งรถมากับเขา เราก็พูดคุยกันตามปกติ 

พอรถชะลอจอดที่ลานจอดรถ ผมกับมาร์คก็แยกย้ายกันเข้าไปเรียน

 

หลังเลิกเรียนผมบอกมาร์คไปตรงๆ ว่าไม่ต้องรอ เพราะผมต้องไปทำงานที่คลับคือจริงๆ ก็ไม่ใช่ว่าผมกลัวมาร์คจะหวงหรืออะไร แต่เป็นเพราะผมไม่อยากให้เขากับนัทเผชิญหน้าให้ความบาดหมางมันเพิ่มมากขึ้น แต่กลายเป็นว่ามาร์ค 'หวง' ผมขึ้นมาจริงๆ

 

"ไม่ให้ไปทำแล้ว" เขาเอ่ยเสียงแข็ง หนำซ้ำยังทำหน้าตาดุซะจนผมแทบไม่กล้าพูดประโยคต่อไป

 

"ไม่เอาน่ามาร์ค สิ้นเดือนฉันก็ลาออกแล้ว ยังไงนัทเองก็คงไม่อยากเห็นหน้าฉันหรอก"

 

"หึ! มันน่าจะดีใจมากกว่านะที่เห็นลายไทย มันจะลำบากใจทำไม!"

นอกจากคำหว่านล้อมของผมไม่ได้ผล ผมได้คำประชดจากมาร์คอีกเต็มๆ

 

"เขาต้องลำบากใจแน่ เพราะฉันปฏิเสธคำขอคบของเขาไปไง" ผมพูดตรงๆ มาร์คเลยหันมามองด้วยสีหน้าตะลึง เห็นแบบนั้นผมจึงรีบพูดต่อไปอีก "ให้ฉันไปทำงานต่อเถอะนะ"

 

"เฮ้อ..." มาร์คเสยผมขึ้นด้วยหน้าตาบึ้งตึง "ลายไทยอ้อนแบบนี้ มาร์คจะปฏิเสธยังไงล่ะ"

ผมยิ้มกว้างเมื่อได้ยินคำตอบจากเขา ผมเอื้อมมือไปกุมมือมาร์คไว้ แล้วมองเข้าไปในดวงตาสีน้ำเงินคู่สวย "รอลายไทยก่อนนะ" มาร์คมองกลับมา และหากผมไม่ได้คิดไปเอง แววตาของเขาดูอ่อนแสงลงเมื่อจ้องวงหน้าของผม

 

"มาร์คไม่รู้หรอกว่ามาร์คต้องการอะไร และอาจจะเป็นการรออย่างไม่มีความหวังเลย แต่ถ้าลายไทยขอ มาร์คก็จะรอ"

 

"ขอบคุณนะ" ผมพูดขอบคุณเขา และบีบมือหนาไว้อีกครั้ง

มาร์คเบือนหน้าเหมือนไม่อยากจะยอมรับ แต่สุดท้ายก็พยักหน้ารับแกนๆ อยู่ดี

 

 

 

LADY Club 21:00 PM

ตอนนี้ที่คลับเป็นเวลาสามทุ่มแล้ว ผมทำงานอย่างเหน็ดเหนื่อยตั้งแต่คลับเปิด และที่ไม่อยากจะเชื่อคือ ผมเห็็นมาร์คมานั่งเฝ้าจริงๆ แต่ในฐานะลูกค้า ผมก็เลยไล่เขาไปไม่ได้ หนำซ้ำมาร์คยังสั่งเครื่องดืมราคาแพง สถาปนาตัวเองเป็นลูกค้าชั้นดี ขาค่อยๆละเลียดจิบเครื่องดื่มพลางมองดูผมทำงาน

เชื่อเลยของเขาแรงจริงๆ

ระหว่างที่ผมกำลังนินทาเขาอยู่ในใจ ผู้ชายอารมณ์ร้ายก็กวักมือเรียกให้ผมเข้าไปหาตอนที่ผมกำลังยืนว่างๆอยู่และไม่ได้บริการโต๊ะไหน ผมจำใจต้องเดินเข้าไปเพราะมันเป็นหน้าที่ มาร์คหรี่ตามองผม

 

"ถ้านอกใจมาร์คล่ะน่าดูเลยรู้ไหมลายไทย" เขาเอ่ยเสียงเข้ม ทำให้ผมต้องกลอกตาหน่อยๆ

ผมยังไม่ได้บอกเลยว่าจะกลับไปคบกับเขาแล้ว! แต่เอาเถอะ ผมเคยชนะผู้ชายคนนี้ด้วยหรอ

 

"ไม่ทำหรอกน่า!" ผมตอบปัดอย่างน่ารำคาญ

 

"อย่าให้จับได้แล้วกัน" เขาหรี่ตาขู่ ผมเลยยิ้มหวานแล้วตอบกลับด้วยความหมั่นไส้ "ไม่ให้จับได้หรอกครับ!"

มาร์คมองผมอย่างคาดโทษ แต่ลูกค้าอีกโต๊ะเรียกผมพอดี ผมเลยต้องขอตัวจากเขาไปรับออเดอร์ ผมวุ่นวายอยู่กับงานอีกครึ่งชั่วโมงก็รู้สึกปวดท้องขึ้นมาจึงจะเดินเข้าห้องน้ำ ทว่าตอนนั้นเองผมมองเห็นร่างสูงแสนคุ้นตากำลังยืนอยู่ตรงมุมอับถัดจากห้องน้ำชายไปหน่อยเดียว...

ธาร!เพื่อนของมิกซ์ เขายืนอยู่กับผู้ชายอีกคนที่ผมไม่รู้จัก!

จริงๆแล้วผมควรจะเดินผ่านไป แต่ท่าทางไม่น่าไว้ใจของธารทำให้ผมต้องแอบยืนพิงกำแพงและฟังพวกเขาคุย

 

"อย่าลืมล่ะ จัดการมันซะ เอาให้ตายได้เลยยิ่งดี มันเกะกะฉันมานานแล้ว ไหนๆก็แค้นสั่งสมกับมันมาซะขนาดนั้น จะได้ปิดบัญชีไปเลยทีเดียว" ธารเอ่ยด้วยน้ำเสียงเหี้ยวโหดแบบที่ทำให้ผมขนลุก

 

"แล้วเรื่องเงินล่ะ" ผู้ชายแปลกหน้าคนนั้นถามกลับ

 

"โอนครึ่งแรกไปแล้วห้าแสน หลังจากมันตายจะโอนให้อีกห้าแสน ตกลงมั้ย"

ค่าจ้างสูงขนาดนั้น ธารแค้นใครมาจากไหน เขาถึงกับต้องฆ่าอีกฝ่ายเชียวหรอ

 

"อืม ตงลงตามนั้น" ชายแปลกหน้าที่คุยกับธารรับปากด้วยสีหน้าเหี้ยมเกรียม

 

"งั้นก็รีบไป เดี๋ยวมีใตรได้ยินเข้าแล้วจะซวย" ธารตัดบท ผู้ชายคนนั้นจึงเดินทางไปอีกทาง

 

ส่วนผมก็ต้องตัวชาวาบเมื่อเห็นธารจะหันหน้าเดินมาทางนี้ ผมจึงทำทีเป็นเข้าไปในห้องน้ำและปิดประตู โชคดีว่ามีลูกค้าอีกคนมาเข้าห้องน้ำ ธารจึงไม่เห็นผม

ผมออกมาจากห้องน้ำอีกทีหลังจากทำธุระส่วนตัวเสร็จ และเม่อลองกวาดสายตาดูรอบๆ ผมก็ไม่เห็นอะไรที่น่าสงสัยอีก พวกนั้นคงแยกย้ายกันไปหมดแล้ว

 

 

 

 

### เฮ้อออ ใกล้จบแล้วสินะ อีก 1 วันเจ๊ก็เปิดเรียน ทั้งได้เป็นพี่สตาปของคณะสี ทั้งต้องสอบ  O-NET    GAT PAT  เจ๊อยากตายยยยยย ถ้าหายไปนานรอเจ๊ก่อนนะ ###

 

ติดตามเน้อออออออออออออออ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7.6 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา