เจ้าชายหมาป่าเย็นชา กับ เจ้าชายแวมไพร์น่ารัก

9.0

เขียนโดย มากิโตะ

วันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2557 เวลา 16.13 น.

  6 chapter
  6 วิจารณ์
  11.74K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 19.12 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

6) Chapter 6 นั่น...ใครน่ะ?

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

chapter 6 who is...that?

  "ฮ๊าาา แฮ่กๆ"ฝันเมื่อกี่อะไรอีกเนี้ยะ?แล้วเลือดนั่นเป็นของใครกันแน่นะ ทุกครั้งที่นอนหลับก็ฝันจนเป็นเรื่องปกติก็จริงแต่ฝันครั้งนี้ต่างออกไป มันเต็มไปด้วยความเศร้าโศกเหมือนได้เห็นลางร้ายแปลกที่เขากลัวจนกระทั่งตื่นแล้วก็ยังคงเหลือความกลัว และเหมือนจะชัดขึ้นด้วย

  "ตื่นแล้วหรอจะ มิ้นท์"เสียงหวานแววเข้ามาในหู คนตรงหน้าก็คือแม่ของเขานั่นเอง

  "ฮะ ท่านแม่มิ้นท์ฝันร้ายหลายครั้งแล้วฮะ"เด็กน้อยพูดพลางเดินเข้าไปกอดผู้เป็นแม่

  "ฝันเรื่องอะไรบอกแม่ได้ไหม หืม?"หญิงสาวกล่าวเอียงคอน้อยๆ"ฮะ"

  "ผมฝันว่าตัวเองอยู่ในความมืด มีผู้หญิงคนหนึ่งเปิดประตูเสียงดังแล้วเข้ามาอุ้มตัวของผมเอาไว้พาออกจากที่ๆหนึ่งพอออกมาจากที่นั้นแล้ว ภาพก็ตัดฉากไปเป็นสีแดงหมดเลยล่ะฮะ... ผมกลัว"เขาว่ากอดจะค่อยๆเข้าหาอ้อมกอดอบอุ่นของแม่

  เมื่อฟังเรื่องราวจบไซน์มีสีหน้าเจื่อนลงแลดูซีดเซียวก่อนจะค่อยๆลูบผมของมิ้นท์ไปเรื่อยๆ"มิ้นท์ จำลักษณะของผู้หญิงคนนั้นได้ไหม?"หญิงสาวถามขึ้นเด็กน้อยพยักหน้าก่อนจะเดินไปหยิบกระดาษและดินสอออกมาพร้อมกับวาดรูป

  ฝีมือการวาดรูปของเด็กน้อยดีขึ้นกว่าเคยเขารู้ว่ามิ้นท์ชอบวาดรูปแต่ในเวลาเดียวกันไม่ชอบลงสี(ซะงั้น...//ซีเวีย)ไซน์หวังเพียงแค่ว่าการวาดครั้งนี้ขออย่าให้เหมือนกับที่เขาคาดการเพราะฝีมือการวาดรูปของเด็กหนุ่มช่างเหมือนจริงอย่างไม่หน้าเชื่อเลย

  "เสร็จแล้วฮะ"เด็กน้อยว่าและยกรูปขึ้นอย่างภาคภูมิใจ ในเวลาเดียวกับผู้เป็นแม่หันมาพอดี

  ในภาพเป็นผู้หญิงผมสีเหลืองทองยาวถึงกลางหลังโดยมีเปียเล็กๆพันเป็นรัดเกล้าและปล่อยที่เหลือยาวลงมา นัยต์ตาสีม่วงแดงกลมโตราวกับอัญมณีหายากเลอค่า ผิวซีออกซีดเล็กน้อย ชุดเดรสสีขาว ที่สำคัญ เธอนั้นมีจี้ห้อยคอเหมือนของเด็กน้อยไม่มีผิด... ราวกับถอดแบบกันออกมาแม่พิมพ์เดียวกัน

  แต่เมื่อผู้เป็นแม่เห็นเช่นนั้นแล้วหน้าตายิ่งซีดกว่าเก่ามองด้วยสายตาที่ต่อให้ตายก็ไม่ยอมเชื่อในสิ่งที่เห็นเอามือปิดปากถ้าเธอไม่ได้นั่งเก้าอี้ยืนอยู่ตัวเธอคงได้ไถลไปนั่งกับพื้นแน่นอน คนเบื้องหน้าช่างเป็นใบหน้าที่แสนช่วนคิดให้คิดถึง เขาถึงกับข้างไปชัวครู่

  ...โอ้ ไม่นะ องค์ราชินี...

    ((ถึงเวลาแล้วหรือ??...))

    "ท่านแม่ฮะ? ท่านแม่"เด็กน้อยเขย่าผู้ที่เป็นแม่ตอนนี้ จู่ๆหญิงสาวก็นิ่งไปหน้าซีดเซียว เหงื่ออกตามไรผม กัดริมฝีปากล่างจนไร้สีเลือด เมื่อเด็กน้อยเขย่ามากขึ้นเธอก็สะดุ้งก่อนจะหันมาหาลูกของเธอ"อ่ะ! จ่ะ? มีอะไรรึเปล่าคะมิ้นท์?"

    "ก็อยู่ดีๆท่านแม่ก็นิ่งไปผมเรียกท่านแม่ท่านแม่ก็ไม่ตอบผมเลย ฮึก"เขากลัว เขาเคยอ่านในหนังสือการที่คนคนหนึ่งนั้นนิ่งไปร่างกายซีดเย็นเชียบหมายถึงความตาย เขาไม่รู้ว่าความตายคืออะไร แต่จากในหนังสือนั้นกล่าวว่าความตายคือการจากลาตลอดการ เขาอยากอยู่กับแม่ตลอดไป ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม

    "โอ๋ๆ ไม่ร้องนะคะคนดีของแม่ แม่ไม่เป็นอะไรค่ะ แค่นึกอะไรบางอย่างได้น่ะจ่ะ  งั้นเราไปทานอาหารเช้ากันดีกว่าเนอะ มิ้นท์คงหิวแย่แล้วล่ะ"เธออุ้มลูกชายขึ้นและพาไปที่ห้องครัวที่มีกลิ่นของอาหารเช้าอบอวลอยู่เต็มห้อง จากเด็กน้อยที่กลั้นร้องไห้หน้าแดงก่ำเมื่อพูดถึงเรื่องอาหารหูเล็กกระดิกดุ๊กดิ๊กทำจมูกฟุดฟิดๆก่อนที่จะถลาไปดูอาหารเช้า

    "ซุปปี้ๆๆๆ มิ้นท์อยากกินซุปป"ลูกของเธอเห็นแก่กินจริงๆ เธอวางเด็กน้อยลงบนเก้าอี้ก่อนที่จะเดินไปชงช็อกโกแลตร้อนและนำมาให้บนโต๊ะและมองลูกรักที่กำลังทานซุปข้าวโพดกับขนมปังที่เธอเพิ่งอบ ยังดีที่ตอนนี้ยังทานได้ เพราะถ้าเกิดไม่สบายและอยู่ในช่วงที่ทานอะไรไม่ได้เลยเธอคงต้องลำบากใจและยุ่งยากกว่านี้ แสดงว่าไข้ลดเรื่อยๆแล้วสินะ...

    "เดี๋ยวทานซุปเสร็จแล้วทานยาด้วยนะจ้ะมิ้นท์"เธอกล่าวและลูบหัวเด็กน้อยเบาๆ"ฮะ!"

    "เดี๋ยวแม่มานะคะ"ไซน์ลุกขึ้นและเดินออกจากห้องครัวไปจุดหมายคือไค เขาต้องบอกสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ให้พี่ชายเขาฟังโดยไวที่สุด

 

 

 

    ก๊อกๆ

    "เชิญ"

    "มีอะไรรึเปล่า?"ไคถามน้องชายที่เดินเข้ามาโดยที่สายตายังไม่ละออกจากหนังสือเล่มหนึ่งที่เขาใช้เวลาอ่านมาซักพักแล้ว ไซน์ที่เดินเข้ามาด้วยสีหน้าเคร่งเครียดเข้าประเด็นทันที"คำทำนายใกล้มาถึงแล้ว"

    ฉับ!

    "ว่าไงนะ?"

    "องค์ชายเริ่มจำเรื่องต่างๆได้แล้ว คาดว่าอีกไม่นาน... จุดเริ่มต้นของคำทำนายกำลังจะเกิดขึ้น"ไซน์กล่าว และเดินเข้าหาพี่ชายของตน สบสายตาด้วยความกังวลและสับสน เขาไม่รู้จริงๆว่าควรจะทำอย่างไรต่อไป ถ้าหากองค์ชายจำเรื่องทุกอย่างได้ท่านจะเปลี่ยนไปหรือไม่? ท่านจะยังคงเป็นเด็กไร้เดียงสาอยู่หรือเปล่า? เดิมทีในทางโลก องค์ชายเองก็เป็นคนอ่อนต่อโลกอยู่แล้ว ความใจดี ความเมตตา ความใจกว้างโดยไม่คิดอะไรทำให้เป็นตรายต่อการมีชีวิตอยู่ ยิ่งตอนนี้ฝั่งพวกหมาป่านั้นก็ดูเหมือนว่าจะเริ่มรับรู้ว่ายังเหลือแวมไพร์อยู่จากการฆ่ากวาดล้างเผ่าพันธุ์ระยะหลังๆพวกเขาจึงต้องย้ายบ้านกันบ่อยมากขึ้น

    และที่ต้องพึงระวังไว้อีกอย่าง ถ้าหากพลังขององค์ชายตื่นขึ้นไม่ใช่แค่พวกหมาป่าแต่ทุกสิ่งมีชีวิตจะรับรู้ถึงเขา จากนั้นเราก็จะไม่สามารถซ่อนตัวได้อีกต่อไป และถ้าหากมนต์ของราชินีเสื่อมลงองค์ชายเองก็จะจำได้หมดทุกอย่างและความทรงจำของบรรพบุรุษจะถูกสืบทอดทันที ถ้าเป็นตอนนี้บอกได้อย่างเดียวคือทางไหนก็เสียทั้งนั้น

    "ใจเย็นๆ จนกว่าจะถึงตอนนั้นขอให้เธอคอยดูองค์ชายอย่างใกล้ชิด ข้าจะหาวิธีเอง"ไคพูดและลุกขึ้น เขาคงต้องตามหาตำราเวทย์ผนึกอีกครั้ง และเดินไปที่เตาผิง"คงจะกลับมาดึกหน่อยล่ะนะ ดูแลตัวเองด้วยไซน์"

    ฟูววววว

    "ท่านด้วย..."

 

 

 

    "ท่านแม่ฮะๆๆๆ"เมื่อกลับมาถึงห้องครัวก็พบว่าเด็กน้อยทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว และในถ้วยยาเองก็หมดแล้วเช่นกัน"มิ้นท์กินยาแล้วเก่งมั้ยฮะๆ?"

    "เก่งมากเลยค่ะ เดี๋ยวนี้กินเองได้แล้วสินะ เก่งมาก อ้าวแล้วทานยังไงให้เลอะไปทั้งหน้าเลยนะมิ้นท์ล่ะก็"เธอยิ้มบางก้มลงลูบหัวเขาเบาๆก่อนที่จะเห็นคราบเลอะปากเลอะจมูกดูน่ารักน่าเอ็นดูก่อนที่เธอจะใช้ผ้ากันเปื้อนเช็ดปากเด็กน้อย

    "ท่านแม่ๆ มิ้นท์อยากออกไปสำรวจข้างนอกบ้านใหม่ฮะ ไปได้มั้ยฮะๆ?"เด็กน้อยทำท่าอ้อนสุดชีวิต

    "ไม่ได้นะ มิ้นท์อย่าลืมสิคะว่าเรายังไม่สบายอยู่นะ กลับไปนอนพักเธอจ่ะ แล้วเดี๋ยวแม่จะขึ้นไปเล่นด้วยนะ"เธอมีสีหน้าลำบากใจก่อนจะขอให้เขาพักผ่อนเพราะถึงจะดูเหมือนหายดีแล้วแต่นั้นก็เป็นเพราะฤทธิ์ยาเท่านั้นแหละ แล้วเธอก็ต้องทำงานบ้านอยู่ซักพักก่อนที่จะออกไปหาสมุนไพรและวัตถุดิบ อย่างน้อยๆถ้ามิ้นทืหลับไปเะอก็ยังโล่งใจว่าเขาจะไม่ไปไหนไกลและเธอจะรับรู้ได้ว่าเขายังอยู่ที่ไหน

    "ง่าา แต่ว่า..."เด็กน้อยเองก็อยากขัดแต่เพราะว่าเขาเองก็รู้ว่าท่านแม่มีงานที่จะต้องทำและถ้าหากว่าไม่อยากให้ท่านแม่ไม่สบายใจต้องเชื่อฟังและทำตาม

    "เก่งมากจะ มาเถอะขึ้นห้องนอนกันนะ"

 

 

 

    "ให้แม่ร้องเพลงกล่อมไหมคะ?"เธอถามหลังจากที่ห่มผ้าห่มให้มิ้นท์แล้ว เขาส่ายหัวและบอกว่า"มิ้นท์นอนเองได้ฮะท่านแม่ไปทำงานเถอะ"

    "จ่ะ มีอะไรก็เรียกแม่นะ" "ฮะ"

    หลังจากที่ปิดประตูลงบรรไดไป เขาก็ลุกขึ้นนั่ง เดินไปรอบๆห้อง คิดอยู่ว่าจะใช้แบบเดิมในการแอบออกไปดีไหมนะ? ใช่ เขาเคยแอบออกไปจากบ้านไปเล่นบ่อยอยู่ ถึงจะดูเป็นเด็กเรียบร้อยแค่ไหนแต่วัยเขาก็ยังเป็นวัยลิง(?) เขานำหมอนพิเศษที่เขาทำขึ้นเพื่อการนี้ออกมาจากหีบของตนเอง"จงเปลี่ยนรูป...Lumilastina"จากหมอนใหญ่เริ่มเปลี่ยนรูปร่างกลายเป็นเนื้อหนังกลายเป็นตัวเขาอีกคน เขาถอดจี้ห้อยคอของตัวเองออกและใส่ให้กับหมอนนี้

    ฟึบ

    "สวัสดีจ่ะ มิ้นท์"

    "สวัสดีฮะ มิน่า^^"

    จี้ของเขาเป็นของวิเศษที่ติดตัวมาตั้งแต่เด็กๆจากที่เขาสังเกตุว่าทุกครั้งที่เขาไปที่ไหนทั้งท่านพ่อกับท่านแม่ก็รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหนทำอะไร อีกทั้งเวลาที่เขาใช้เวทย์มนต์มันก็จะส่องแสงราวกับใีชีวิต เขาหาวิธีใช้จกสัญชาตญาณตัวเองล้วนๆว่าจะใช้ยังไงได้บ้าง และวิธีนี้ก็เช่นกัน เขาไว้ใช้ไปไหนคนเดียวเล่นๆเขาจะใช้มิน่าและลบพลังของตัวเองออก ต้องขอบคุณความชอบอ่านหนังสือของเขาความขี้สงสัยชอบทดสอบทดลอง มันทำให้เขาสามารถประยุกต์วิธีการใช้เวทย์แบบนี้

    "คุณมิน่าฮะ รบกวนอีกครั้งนะฮะ ผมไปแป๊บเดียว เดี๋ยวจะรีบกลับครับ"

    "จ้า ระวังตัวด้วยนะมิ้นท์"มิน่าโบกมือลาเขาก่อนจะขึ้นไปบนเตียงและสวมรอยหลับอย่างแนบเนียน หลังจากนั้นมิ้นท์ก็เริ่มหาทางลักลอบออกไป เขาเพิ่งย้ายมาที่นี่ คราวนี้เป็นบ้าใต้ดิน ทางที่จะออกไปคงมีทางเดียว... นอกเสียจากเขาจะหาวิธีลัดออกไปเองน่ะนะ

    เขาเก็บของที่จะเอาไปด้วยและค่อยๆออกจากห้องนอนของตัวเองเขาเดินเรียบทางไปเรื่อยๆจนมาถึงทางออก เมื่อกี้เขาเห็นท่านแม่ทำความสะอาดห้องนั่งเล่นอยู่เพราะงั้นทางสะดวกล่ะ เขาเปิดและปิดประตูอย่างเบาที่สุดเท่าที่จะทำได้แต่ยังไงซะเขาก็เท้าแมวอยู่แล้วไม่ค่อยห่วงอะไรเรื่องฝีเท้าตัวเองเท่าไหร่นัก

    คืนนี้พระจันทร์เสี้ยวสวยงาม ดวงดาวแพรวพราวอยู่เต็มท้องฟ้า เขาสูดหายใจเข้าลึกๆเต็มปอดรู้สึกสดชื่นมาก ภายนอกเป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์มากๆมีเสียงลมพัดโชยกลิ่นดอกไม้มาแต่ไกลไหนจะเสียงของน้ำจากลำธารที่อยูไม่ไกลเท่าไรนัก เขาเริ่มเดินทางสำรวจทันที มีทุ่งโลงกว้างมีแม่น้ำขั้นฝั่ง ระหว่างเดินๆไปเขาก็ได้เจอสมุนไพรและพืชที่ไม่เคยเจอมากมายเขาเก็บตัวอย่างขึ้นมาและใส่ไว้ในกระเป๋าของตนเองจนกระทั่งเดินมาถึง ณ จุดๆหนึ่งเขารู้สึกได้ถึงสิ่งมีชีวิตคล้ายคน เงาใหญ่นั้นเคลื่อนที่ไปอย่างรวดเร็วด้วยความอยากรู้อยากเห็นเขาจึงตามไปเรื่อยๆจนกระทั่งสัมผัสนั้นหายไป

    "เอ๋? หายไปไหนแล้วนะ?"วิ่งตามมาจนเริ่มหอบแล้วก็ยังไม่เจอตัวสักที ยังจะหายไปอีก ที่นี่คือน้ำตกสูงที่หนึ่งที่คาดว่าน่าจะมีถ้ำชวนท้าทายเข้าไปด้วย แต่เอ๋? เสียงหงิ๋งๆนี้มันคืออะไรหว่า?

    "...หงี...หงิง..."

    มิ้นท์ค่อยๆเดินเข้าไปใกล้เสียงนั้นค่อยๆชโงกหน้าเข้าไปดูก็พบว่าเป็นหมาป่าตัวหนึ่งที่กำลังหอบหายใจถี่ มันตัวใหญ่มากใหญ่พอๆกับเตียงของเขาเลยขนสีเงินที่ต้องแสงจันทร์แล้วสะท้อนแสงราวกับผ้าไหมชั้นดี ดวงตาใหญ่นั้นปิดสนิท ลำตัวกระเพื่อมเล็กน้อยหอบหายใจแรง เมื่อเลื่อนสายตามามองที่ท้องของมันแล้วมีบาดแผลสดๆและเลือดสีแดงฉานไหลออกมามากมายจนน่าตกใจ

    "นี่! นายไปโดนอะไรมาน่ะ?? เจ็บมากมั้ย?? ทำไงดีๆๆๆๆ"เด็กน้อยรีบโผล่พรวดเข้ามาและดูบาดแผลฉกรรนั้น เมื่อสัมผัสได้ว่ามีบุคคลเข้าใกล้ตัวด้วยสัญชาตญาณมันกระตุกและตะปบคนตรงหน้าทันที แต่เพราะความเจ็บปวดทำให้ทำได้เพียงแค่อุ้งเท้าหน้าตะปบไปที่หัวของเด็กน้อยเท่านั้น

    "เจ็บมากเลยสินะ งั้นรอแป๊บนะ!"จากนั้นเด็กน้อยก็โยนสัมภาระตัวเองไว้กับเจ้าหมาป่าและวิ่งไปเก็บสมุนไพรที่เจอระหว่างทางเก็บกิ่งไม้และใบไม้ขึ้นมาเป็นวัตถุดิบการำยา เขาเรียนรู้การรักษามาจากแม่ทั้งรักษาด้วยสมุนไพร ยา และเวทย์มนต์ เขาตักน้ำที่ลำธารมาด้วยพร้อมสำหรับการทำยากเขากลับมาที่หมาป่านอนอยู่ เด็กน้อยวางของและหยิบผ้าเช้ดหน้าของเขาขึ้นมาและซับเลือดเพื่อหยุดเลือด และเขาดึงผลๆนึงจากของที่หามาได้บดให้ละเอียดและแต้มตามแผล สมนไพรผลนี้คือUwaเอาไว้ห้ามเลือดผลข้างเคียงจะทำให้ระคายเคืองและแสบมากแต่ดูเหมือนว่าเจ้าหมาป่าตัวนี้จะหมดฤทธิ์แบบไม่เหลือเลย มันนอนให้เขาได้ทำการรักษาแผลที่ท้องมันจนเสร็จ จากนั้นเมื่อเขานำผ้าพันคอของตัวเองทำเป็นผ้าพันแผลชั่วคราวของมันเสร็จเขาเริ่มก่อกองไฟน้อยๆแต่ร้อนพอที่จะต้มยา

    ยาแก้ปวด ยาแก้อักเสบ ยาสมานแผล โชคดีที่เขาจำวิธีทำมันได้ ตอนที่เขามีแผลท่านแม่มักจะปรุงยาให่เขาทานถึงมันจะขมก็เถอะแต่เขาคิดว่าหมาป่านะจะไม่สามารถรับรสได้(เอาความคิดส่วนไหนมาคิดเนี่ย!?//ซี) เมื่อต้มยาเสร็จเขาก็หันไปหาเจ้าหมาป่าที่หลับอยู่เขาค่อยๆพยุงหัวมันขึ้น เอาล่ะสิปากยังงี้จะให้มันกินยังไงดี? อืมมมม ง้างปากแล้วเท? คิดได้ดังนั้นเด็กน้อยผู้ไร้ประสบการณ์มีแต่ความหวีงดีก็จัดการตามที่คิดผลที่ได้คือ...

    แหง๋งงงง หงึงง หงิงๆๆๆๆ

    เสียงหมาสำลักยาตามันเบิกขึ้นทันควันพยายามคายสิ่งที่อยู่ในปากนั้นออกและไอค่อกแค่กๆ"นี่ถ้าไม่กินเดียวก็ไม่หายปวดหรอกนะ! เรารู้นะว่ามันขมแต่นายต้องกินจะได้หาย"เด็กน้อยพยายามป้อนยาอีกครั้งหมาป่าไม่ยอมง่ายๆมันเริ่มลุกขึ้นเต็มความสูงทำให้เห็นถึงความแตกต่างนี้ นัยต์ตาสีเหลืองอำพันจองมองเจ้าตัวเล็กด้วยความกริ้วดกรธ ทว่าเมื่อสบตากลมโตสีม่วงแดงใสแจ๋วนั้นมันก็ชะงักไป

    "อย่าเพิ่งขยับสิ!เดี๋ยวเลือดออกนะ"คนตัวเล้กพยายามดันเจ้าหมาป่ายักษ์กลับไปนอนเหมือนเดิม ด้วยความประหลาดใจและสงสัยงุนงงทำให้เจ้าหมาป่าคล้อยตามแบบงงๆ "เอ้า!กินยาซะ จะได้หายไวไว"เขาว่าและยื่นยาให้มันอีกครั้ง คราวนี้มันกลับมองหน้าเขานิ่งๆดมยาที่เขาทำนิดๆก่อนที่ยอมทานจนหมดทั้ง3ตัว

    "ก็ว่าง่ายเหมือนกันนี้น่า"มิ้นท์อมยิ้มแล้วลูบหัวหมาป่าเบาๆก่อนจะเก็บของเล็กน้อยแล้วหันกลับมาหาเจ้าหมาป่า"นายชื่ออะไรหรอ?"

    "..."

    ความเงียบเข้าปกคลุมทั้ง2 มิ้นท์ไม่เคยเจอหมาป่า เขาไม่เคยเจอสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าหมาป่าเลยส่วนนึงที่เขาไม่รู้พ่อแม่ของเขากันเขาออกจากหมาป่าแบบสุดๆแต่ในตอนนี้ หมาป่าตัวแรกในชีวิตปรากฏตรงหน้าแล้ว

    "หืม? นายไม่มีชื่อหรอ?"เด็กน้อยเอียงคอถามอีกครั้งแต่ก็ไร้เสียงตอบรับใดๆเลย

    "เราชื่อมิ้นท์ ยินดีที่ได้รู้จักนะ"เขายิ้มกว้างก่อนจะยื่นมือจะจับแต่หมาป่ากลับถอยหนี

    "นายคือตัวอะไรน่ะ? เราไม่เคยเห็นสิ่งมีชีวิตแบบนายเลย"

    "..."ครางนี้เจ้าหมาป่าตอบสนองเล็กน้อย คนบ้าอะไรไม่รู้จักหมาป่า? หูตั้งขึ้นและหางสะบัดไปมา

    "เอ นายพูดไม่ได้หรอ?"ปกติแล้วความจริงมิ้นท์พูดกับสัตว์ได้ แต่สำหรับบางอย่างก็ไม่ได้เหมือนกัน

    "..."หมาป่ามองแบบเอือมๆ

    "อืมมม สีขนนายเป็นสีเงินสวยมากๆเลย เอ งั้น เราจะเรียกนายว่า Qamar* ละกันนะ"เด็กน้อยพูดและฉีกยิ้มกว้างกว่าเดิม

    ((...อย่าคิดเอาเองสิ...))

    "เราเป็นเพื่อนกันแล้วนะ!คาม่าร์~~~"

 

 

 

สวัสดีค่ะรีดเดอร์ทุกๆท่าน อันนี้ซีเวียเองนะคะ คือจะเรียนทราบว่าตอนนี้พวกเราห้าคนที่เป็นมากิโตะวงแตกค่ะ แต่ไม่ได้แตกแยกยังงั้นนะคะหมายถึงว่าพวกเราไม่ได้อยู่ด้วยกัน"เลย"ช่วงที่ผ่านมาเห็นเงียบไปไม่ใช่เรื่องแปลกค่ะคิดว่าทุกทราบดีแล้วด้วยแล้วช่วงนั้นคือตอนที่พวกสี่หนุ่มต้องไปต่างประเทศค่ะ ซึ่งทางของซีเวียเองก็ต้องไปต่างจังหวัดเช่นกันเลยหายยาวค่ะตอนนี้กลับมากรุงเทพแล้วเริ่มการเรียนต่อได้สักพักก็เกิดเหตุการณ์ที่เราได้ทราบกันนะคะว่าเกิดอะไรขึ้น(ขอไม่กล่าวนะคะยังเสียใจอยู่)ต่อมาเราก็เรียนตามปกติแต่แค่พวกสี่หนุ่มทิ้งซีเวียไปต่างประเทศนี้ล่ะค่ะ!!ไนท์กับไซน์ไปที่อเมริกา(เนื่องด้วยไปเรียนและแอบไปหาเพื่อนเก่าและญาติๆ)จินเจอร์จินเนอร์ก็ไปอิตาลี สาเหตุ ไปเที่ยว!!! ซีเวียถึงกับทรุดเลยค่ะกว่าพวกชีจะกลับมาก็คงปีหน้าอ่ะค่ะกลายเป็นว่าเราต้องอยู่เดียวรวมถึงสอบอีก(พรุ่งนี้สอบวันนี้แต่งนิยาย//เป็นลม)งานอีกเยอะแยะแล้วเราก็ไม่ได้เก่งภาษาไทยอะไรขนาดนั้นอ่ะนะคะ เอาเป็นว่าพ้นช่วงนี้ไปจะพยายามมาลงต่อเรื่อยๆอ่ะค่ะ

ตอนนี้เรามาลงระเบิดให้พวกรีท(โดนรุม)ลุ้นกันนะคะว่าไซน์(ในเรื่อง)เห็นใครถึงได้วิตกกันขนาดนี้นะคะรีทคงอยากเจื่อนเราเต็มทนทำไมไม่อัพเสียที ขออภัยจริงๆค่ะ ช่วงนี้สอบแล้วงานเยอะ"มากค่ะ"ใครที่เกรดมากขึ้นๆงานก็ยิ่งมากค่ะ(หวังว่าเราเข้าใจกันนะคะT^T)

เอาล่ะถึงตอนท้ายของการสนทนานะคะตอนนี้ซีเวียกำลัง(เพิ่งมา)ติดsaint seiya omegaมากกกเลยกะจะทำฟิคเสียหน่อยใครสนใจแล้วอยากลงคะแนนเสียง(?)commentเลยค่ะะะ เราเอาคู่เอเดนกับโคกะ(คู่เอก)ฮารุโตะกับริวโฮ(คู่รอง)เป็นหลักนะคะใครอยากให้เอาคู่ไหนมาmixอีกบอกได้เลยค่ะซีเวียจะสนองความต้องการของท่านแบบ"สุกขั้ว"ไปเลย หึๆๆๆๆๆ (น่ากลัว)

สุดท้ายนี้ก็ขอกราบลารีททุกท่าานไปอ่านหนังสอบก่อนนะคะเรารักรีทเดอร์ทุกคนเลยขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ สวัสดีค๊าาาา

ปล.อวยพรให้ซีสอบได้ด้วยนะคะ จุ๊บๆ

ปลสอง.ขอบคุณที่commentกันนะคะ

 

 

 

Qamar* ภาษาอาราบิกแปลว่าพระจันทร์มาจากคำว่า Omar

Thank you Mahal my classmate

 

  

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา