ภพรักหิมวันต์

9.1

เขียนโดย Brownies_PK

วันที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2558 เวลา 19.41 น.

  52 บท
  129 วิจารณ์
  72.19K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 26 มีนาคม พ.ศ. 2558 20.56 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

14) เพื่อนร่วมทาง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 ให้ตายเถอะ!! ทำไมยัยรินคนนี้ต้องรับภาระเฝ้ายัยนารีผลตนนี่ด้วยเนี่ย? 

วรินนาราคิดก่อนจะพินิจนารีผลตนนี้อย่างถี่ถ้วน จะว่าไปนางก็สวยนะ สวยมากด้วย ใบหน้ารูปไข่รับกับจมูกที่เชิดรั้น ช่างเหมาะกับริมฝีปากบางสีชมพูระเรื่อ ผิวของนางเนียนสวย นี่น่ะหรือนารีผลตนสุดท้าย ช่างงามสมคำเล่าลือจริงๆ

เปลือกตาของนารีผลเริ่มมีการขยับ สร้างความตื่นเต้นแก่วรินนาราอย่างมาก ก็เธอเพิ่งเคยเห็นนารีผลเป็นครั้งแรกนี่นา ก็ต้องตื่นเต้นเป็นธรรมดาสิ

ดวงตาคู่สวยยังคงจับจ้องร่างของนารีผลตนนี้ ซึ่งตอนนี้นางได้ลืมตาขึ้นมามองโลกใบใหม่แล้ว 

"เจ้าเป็นใคร??"

นี่คือคำถามแรกที่นารีผลตนนี้เอ่ยวาจาพูดกับนาง

"ข้าชื่อวรินนารา เจ้าล่ะ??"

"สุพรรณิการ์คือนามของข้า"

เมื่อได้รู้ชื่อของนางแล้ว วรินนาราก็ดีใจที่นางจะมีเพื่อนใหม่ แม้เพื่อนใหม่ของนางนี้จะมีอายุอยู่ได้ 7 วันก็ตาม

วรินนาราจึงพาสุพรรณิการ์ไปหาเพทายที่ธารน้ำตกเพื่อทำความรู้จักกัน แต่ดูเหมือนจะไม่มีวี่แววของพิทยาธรหนุ่มแล้ว ในความคิดของวรินนาราที่เธอคิดได้นั้นคือ...

'เขาไปแล้ว!!'

เขาไปโดยไม่ร่ำลา ทำให้วรินนาราเสียความรู้สึก 

'ไม่เห็นต้องทำอย่างนี้เลย'

ก่อนจะหันไปหาเพื่อนใหม่ที่เพิ่ง 'เกิด' เมื่อไม่กี่เพลาที่ผ่านมานี้

"เราไปกันเถอะ สุพรรณิการ์"

"เราจะไปไหนกัน"

นารีผลน้อยเอ่ยถามด้วยความสงสัย

"อสุรานคร นครแห่งบิดาเรา!!"

ดูเหมือนวรินนาราจะได้เพื่อนร่วมทางคนใหม่เสียแล้วมั้ง ถึงแม้ว่าเพื่อนร่วมทางคนใหม่นี้จะเป็นนารีผลก็ตาม

ซึ่งปัญหาในที่ตามมาในครั้งนี้คือสุพรรณิการ์นางบินไม่ได้!! แล้วทีนี้จะทำเช่นไรดีล่ะเนี่ย!? อย่าบอกนะว่าข้าจะต้องพาสุพรรณิการ์ไปยังอสุรานครโดยการเดิน!! หนทางก็ไม่ใช่ใกล้ๆซะด้วย แต่ช่างมันเถอะ! วรินนาราคิดก่อนจะจูงมือนารีผลสุพรรณิการ์เดินเรียบไปตามธารน้ำตก

#เกร็ดความรู้

 

นารีผล

 

  นารีผล หรือ มักกะลีผล เป็นพรรณไม้ตามความเชื่อจากตำนานป่าหิมพานต์ เป็นพืชที่ออกลูกเป็นหญิงสาว เมื่อผลสุกแล้ว บรรดา ฤๅษีกินร วิทยาธร คนธรรพ์ เอาไปเสพสังวาส

 

ตำนานการถือกำเนิด

ต้นกำเนิดของนารีผล ตำนานมีอยู่ว่า เมื่อครั้งพระเวสันดรกับพระนางมัทรีพร้อมกับกัณหาและชาลีได้ถูกเนรเทศออกจากนครจึงเดินทางไปสู่ป่าหิมพานต์ และบำเพ็ญเพียร ปฏิบัติธรรมอยู่ที่นั้น

ที่ป่าหิมพานต์ มีสัตว์ป่ามากมายอันตรายรอบด้าน ทว่า สัตว์ป่าทั้งหลาย เมื่อได้รับเมตตาจิตจากพระเวสสันดร ก็คลายความดุร้ายลง กลายเป็นมิตร ... นอกจากสัตว์ป่าทั้งหลายแล้ว ก็ยังมีดาบส ฤๅษี นักสิทธิ์ วิทยาธร คนธรรพ์ ทั้งหลายอาศัยอยู่ หรือไปมาอยู่เรื่อยๆ พระนางมัทรี ผู้มีรูปร่างโสภา บางครั้งออกหาอาหาร หาผลไม้ตามลำพังคนเดียว หากนักสิทธิ์ วิทยาธร ตลอดถึงฤๅษีมาพบเข้า อาจตบะแตก แล้วล่วงศีลได้

ท้าวสักกะเทวราชได้เล็งเห็นเหตุร้ายนี้แล้ว พระองค์จึงเนรมิตต้นไม้วิเศษไว้รอบทิศ ณ ที่ไกล ก่อนถึงถิ่นแดน อันเป็นที่พำนักของพระเวสสันดรและนางมัทรี รวม 16 ต้น ต้นไม้วิเศษนี้ ออกผลซึ่งมีรูปร่างเหมือนสตรี ผลโตเต็มที่ จะมีทรวดทรงปานสาวงามแรกรุ่น แต่ผิวพรรณ ทรวดทรงองค์เอว รูปร่างหน้าตา งดงามปานเทพธิดา... เมื่อเหล่าบรรดาดาบส ฤๅษี นักสิทธิ์ วิทยาธร คนธรรพ์ ทั้งหลายเดินทางมาพบเข้าจึงพากันไปเด็ดเพื่อเสพสังวาล ทำให้เหล่าบรรดาดาบส ฤๅษี นักสิทธิ์ วิทยาธร คนธรรพ์หมดอิทธิฤทธิ์ลงเนื่องจากผลเสพสังวาลนารีผล ไม่สามารถเหาะไปต่อหรือออกมาได้ ทางเดียวที่จะออกมาก็ต้องบำเพ็ญเพียรใหม่จนแก่กล้าจึงจะออกไปได้

การที่ท้าวสักกะเทวราชเนรมิตต้นวิเศษทั้ง 16 ต้นนี้เพื่อเป็นด่านป้องกันไม่ให้เกิดเหตุร้ายแก่นางมัทรีให้เสื่อมเสียได้ แม้พระเวสสันดรและพระนางมัทรีจะเสด็จออกจากป่ากลับเข้าเมืองไปแล้ว ต้นนารีผลก็ยังคงมีอยู่ในที่นั้นตราบเท่าทุกวันนี้


 ขอบคุณที่ติดตามนะค่ะ สำนวนในการแต่งอาจจะผิดพลาดไปบ้างก็ขออภัย ณ ที่นี้ด้วย

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.3 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา