ภพรักหิมวันต์

9.1

เขียนโดย Brownies_PK

วันที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2558 เวลา 19.41 น.

  52 บท
  129 วิจารณ์
  72.19K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 26 มีนาคม พ.ศ. 2558 20.56 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

7) หนีเที่ยว

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 "เสด็จพ่อเพค่ะ ลูกนำพวงมาลาดอกมะลิมาถวายเพค่ะ"

เสียงน้อยของพระธิดาวัย7ชันษาเอ่ยขึ้น เมื่อจะขึ้นเฝ้าพระราชบิดาและพระมารดาพร้อมด้วยมาลัยพวงน้อยในมือเล็กๆของเด็กหญิงผู้มีเค้าโครงใบหน้าสวยคมถอดมาจากจิตราสูรพระราชบิดาแห่งพระองค์ แต่มีเพียงดวงพระเนตรเท่านั้นที่อ่อนโยนและเข้มแข็งเหมือนสุวรรณรัศมี ผู้เป็นแม่

"แก้วกุสุมา นี่ลูกร้อยเองรึ??"

เสียงเอ่ยถามของพระราชบิดาทำให้ธิดาน้อยมุ่นหน้าด้วยความน้อยพระทัย

"เสด็จแม่เพค่ะ เสด็จพ่อไม่เชื่อในฝีมือลูก"

แก้วกุสุมาทรงเอ่ยถามผู้เป็นมารดา ทำให้สุวรรณรัศมีถึงกับอดยิ้มในความน่ารักน่าชังของบุตรีไม่ได้ ดูเหมือนว่ายิ่งเจริญชันษาเพียงใด พระราชบุตรีก็ยิ่งช่างเจรจายิ่งนัก

"พ่อก็แค่ตรัสถามด้วยด้วยความประหลาดใจที่ไม่เคยเห็นพวงมาลาพวงไหนสวยงามกว่าพวงมาลาของลูกเท่านั้นเอง"

องค์จิตราสูรทรงตรัสแก่พระราชบุตรี ก่อนจะทรงใช้พระหัตถ์อุ้มพระธิดามาประทับที่พระเพลา ท่ามกลางเสียงหยอกล้อตามประสาพ่อ แม่ ลูก ท่ามกลางสายตาอาฆาตแค้นและชิงชังของโฉมสุรางค์!! หารู้ไม่ว่าช่วงเวลาแห่งความสุขกำลังของทั้งสามกำลังจะหมดไป

 ยามทิวากาลผันเปลี่ยนเป็นราตรี ราชธิดาน้อยยืนมองดวงจันทราที่สุกสกาวท่ามกลางดวงดาวนับร้อยพันอยู่บนแผ่นฟ้าสีดำสนิทคล้ายกับทักทายกัน

"คิดอะไรอยู่เหรอเพค่ะ พระธิดา"

วิชุตาเอ่ยวาจาถามร่างน้อยเมื่อเห็นพระธิดายังไม่บรรทมสักที

"เปล่าคิด"

แก้วกุสุมาตอบก่อนจะเดินมายังเตียงเพื่อบรรทม ทางด้านวิชุตาเมื่อรู้ว่าพระธิดาทรงบรรทมแล้ว จึงนำความไปกราบทูลสุวรรณรัศมี เมื่อคนเป็นแม่เมื่อรู้ว่าลูกหลับแล้วจึงค่อยๆเข้ามายังเตียงที่พระธิดานอนอยู่

"แก้วกุสุมา ลูกเปรียบดั่งน้ำทิพย์ชโลมใจแม่ ถ้าแม่ขาดลูกไป แม่คงอยู่ไม่ได้แน่"

สุวรรณรัศมีเอ่ยกับเด็กน้อยที่นอนหลับตาพริ้มอยู่บนเตียง ไม่รู้ทำไมนางถึงกล่าวเช่นนั้น สุวรรณรัศมีมองร่างน้อยด้วยใจห่วงหาอาทรเหมือนว่าแก้วกุสุมากำลังจะจากไป 

'นี่เราเป็นไรไปนี่ คิดมากทำไม แก้วกุสุมาไม่หายไปไหนหรอก'

สุวรรณรัศมีกล่าวก่อนจะเดินออกจากห้องของพระธิดาน้อยไป

 เมื่อเห็นพระมารดาเสด็จออกจากพระตำหนักแล้ว ราชธิดาจอมซนก็แอบหัวเราะด้วยดีพระทัย ก่อนจะเสด็จลงจากแท่นบรรทมแล้วดำเนินไปยังหน้าพระแกล (หน้าต่าง) เพื่อที่จะกระทำการบางอย่าง ก่อนที่ร่างน้อยจะนึกย้อนไปเมื่อ2วันก่อนที่สุวรรณรัศมีพาพระราชบุตรีประพาสยังสระอโนดาตพร้อมด้วยนางกำนัลจำนวนหนึ่ง


2วันก่อน

'เสด็จแม่เพค่ะ ที่นี่คือที่ใดเพค่ะ'

แก้วกุสุมาเอ่ยถามผู้เป็นมารดาในขณะที่สายตาทอดมองไปยังสระน้ำใหญ่ที่มีพันธุ์ไม้นานาชนิดขึ้นบริเวณรอบสระ ทำให้แสงของดวงอาทิตย์ไม่สามารถสาดแสงส่องลงมาได้

'ที่นี่คือสระอโนดาต สระที่ไม่ถูกแสงอาทิตย์ส่องให้ร้อนไงเล่า แก้วกุสุมา'

'ถ้าเป็นเช่นนั้นน้ำในสระอโนดาตก็ไม่ร้อนสิเจ้าค่ะ งั้นลูกขอลงเล่นน้ำนะเพค่ะ เสด็จแม่'

'จ้ะ ลูกลองชวนวิชุตาไปด้วยสิ'


 แก้วกุสุมาเมื่อคิดถึงการประพาสในครั้งนั้นก็อยากไปเห็นสระอโนดาตในครารัตติกาลบ้าง ว่าจะมีบรรยากาศเป็นเช่นไร

 ยักษณกินรีน้อยกางปีกนกสีขาวนวลขลิบทองก่อนจะโผบินออกสู่นอกพระแกลยามราตรี

#เกร็ดความรู้

 

สระอโนดาด

 

 แม่น้ำทั้งหลายย่อมไหลไปที่ภูเขาเหล่านั้น น้ำทั้งหมดนั้นก็ไหลเข้าไปสู่สระอโนดาดแห่งเดียว.
---พระจันทร์และพระอาทิตย์ เมื่อโคจรผ่านทางทิศทักษิณหรือทิศอุดร ก็โคจรผ่านไปตามระหว่างภูเขา ส่องแสงไปในที่นั้น แต่เมื่อโคจรไปตรงๆ ก็ไม่ส่องแสง เพราะเหตุนั้นนั่นแหละ สระนั้นจึงเกิดบัญญัติชื่อว่า 

สระอโนดาด แปลว่า พระอาทิตย์ส่องไปไม่ถึง.

ที่สระอโนดาดนั้นมีท่าสำหรับอาบน้ำ มีแผ่นศิลาเรียบน่ารื่นรมย์ใจ ไม่มีปลาหรือเต่า มีน้ำใสดังแก้วผลึก เป็นของอันธรรมชาติตกแต่งไว้ดีแล้ว เป็นที่ๆ พระพุทธเจ้าทั้งหลาย พระขีณาสพ พระปัจเจกพุทธเจ้าและฤาษีผู้มีฤทธิ์ทั้งหลายสรงสนาน เทวดาและยักษ์เป็นต้นก็พากันเล่นน้ำ ทั้ง ๔ด้านในสระนั้น มีมุขอยู่ ๔ มุข คือสีหมุข หัสดีมุข อัศวมุข พฤษภมุขอันเป็นทางที่แม่น้ำทั้ง ๔ สายไหลไป.

---ที่ฝั่งแม่น้ำด้านที่ไหลออกทางสีหมุข มีราชสีห์อยู่มาก.
---ที่ฝั่งแห่งแม่น้ำด้านที่ไหลออกทางหัสดีมุขเป็นต้น มีช้าง ม้าและโคอุสภะอยู่มาก.
---แม่น้ำที่ไหลออกจากทิศตะวันออก ไหลเวียนขวาสระอโนดาด ๓ เลี้ยว แล้วเลี่ยงแม่น้ำอีก ๓ สาย ไหลไปยังถิ่นที่ไม่มีมนุษย์ ทางป่าหิมวันต์ด้านทิศตะวันออก และทางป่าหิมวันต์ด้านเหนือ แล้วไหลลงสู่มหาสมุทร.
---แต่แม่น้ำที่ไหลออกทางทิศตะวันตกและทิศเหนือ ก็เวียนขวาเช่นนั้นเหมือนกัน ไปยังถิ่นที่ไม่มีมนุษย์ ทางป่าหิมวันต์ด้านทิศตะวันตกและป่าหิมวันต์ด้านเหนือ แล้วไหลลงสู่มหาสมุทร.
 
แต่แม่น้ำที่ไหลออกทางมุขด้านใต้ เวียนขวาสระอโนดาดนั้น ๓ เลี้ยวแล้วก็ไหลตรงไปทางทิศเหนือ เป็นระยะทาง ๖๐ โยชน์ ไปตามหลังแผ่นหินนั่นแหละ ปะทะภูเขาโลดขึ้นเป็นสายน้ำ โดยรอบประมาณ ๓ คาวุต ไหลไปทางอากาศ เป็นระยะ ๖๐ โยชน์ แล้วตกลงที่แผ่นหินชื่อว่าติยัคคฬะ แผ่นหินก็แตกไป เพราะความแรงแห่งสายน้ำ.
 
---ในที่นั้นเกิดเป็นสระใหญ่ ชื่อว่าติยัคคฬะขนาด ๕๐ โยชน์.
---กระแสน้ำพังทำลายฝั่งสระ แล้วไหลเข้าแผ่นหินไประยะ ๖๐ โยชน์.
---ต่อแต่นั้นก็เซาะแผ่นดินทึบเป็นเป็นอุโมงค์ไป ๖๐ โยชน์ แล้วปะทะติรัจฉานบรรพต ชื่อว่าวิชฌะ แล้วกลายเป็น ๕ สาย ประดุจนิ้วมือ ๕ นิ้วที่ฝ่ามือฉะนั้น.
---ในที่ๆ สายน้ำนั้นเลี้ยวขวาสระอโนดาด ๓ เลี้ยวแล้วไหลไป เรียกว่าอาวัตตคงคา.
---ในที่ๆ ไหลตรงไป ๖๐ โยชน์ ทางหลังแผ่นหิน เรียกว่ากัณหคงคา.
---ในที่ไหลไปทางอากาศ ๖๐ โยชน์ เรียกว่าอากาสคงคา.
---ในที่ที่หยุดอยู่ในโอกาส ๖๐ โยชน์ บนแผ่นหินชื่อว่าติยัคคฬะ เรียกว่าติยัคคฬโปกรณี.
---ในที่ที่เซาะฝั่งเข้าไปสู่แผ่นหิน ๖๐ โยชน์ เรียกว่าพหลคงคา.
---ในที่ที่ไหลไป ๖๐ โยชน์ ทางอุโมงค์เรียกว่าอุมมังคคงคา.
---ก็ในที่ที่สายน้ำกระทบติรัจฉานบรรพต ชื่อวิชฌะแล้วไหลไปเป็นสายน้ำ ๕ สาย ก็ถือว่าเป็นแม่น้ำทั้ง ๕ คือ คงคา ยมุนา อจีรวดี สรภู มหี.
---พึงทราบว่า แม่น้ำใหญ่ ๕ สายเหล่านี้ย่อมไหลมาแต่ป่าหิมวันต์ด้วยประการฉะนี้.

 
ขอบคุณที่ติดตามอ่านนะค่ะ 

ท่านสามารถติชมนิยายเรื่องนี้ได้ที่กล่องคอมเม้นท์ด้านล่างนะค่ะ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.3 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา