ภพรักหิมวันต์

9.1

เขียนโดย Brownies_PK

วันที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2558 เวลา 19.41 น.

  52 บท
  129 วิจารณ์
  72.21K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 26 มีนาคม พ.ศ. 2558 20.56 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

9) โชคชะตา

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 ระหว่างที่ยักษณกินรีอย่างแก้วกุสุมากำลังบินเพื่อไปยังอสุรานครก่อนรุ่งสาง ก็ได้พบกับลมพายุที่พัดพาร่างของนางไปตกยังหน้าอาศรมของฤาษีผู้ทรงฤทธิ์อย่างฤาษีเมฆสิทธิ์ 

 เมื่อฤาษีเมฆสิทธิ์เข้าฌาณดู จึงรู้ว่านางเป็นธิดาแห่งพญายักษ์ผู้เกรียงไกรและถูกพายุพัดมาที่นี่ และลมที่พัดร่างน้อยมานั้นมิใช่ลมธรรมดา แต่เป็นลมแห่งมหาเทพที่ต้องการพายักษณกินรีตนนี้ไปยังภพใหม่ 

"ท่าน ท่านตาเป็นใครกัน"

 ทันทีที่แก้วกุสุมาฟื้น นางก็เอ่ยถามชายชราผู้ทรงฤทธิ์ด้วยความสงสัย ฤาษีเมฆสิทธิ์ไม่ได้เอ่ยอะไร ก่อนที่จะเป่ามนต์แห่งนิทราให้ร่างน้อยหลับไป ก่อนที่จะพานางไปยังภพใหม่ด้วยความประสงค์ของฤทธีมหาเทวา!!

 ภพใหม่ของนางคือโลกมนุษย์ แต่เป็นโลกมนุษย์คนละมิติ!!

 .

 .

 .

 .

 .

 .

 กรุงเทพมหานคร

  "ทัตเทพ เอื้องดารา...ข้าขอฝากเด็กผู้นี้ให้เจ้าทั้งสองช่วยเลี้ยงดูที นางคือเด็กหญิงผู้เปี่ยมไปด้วยบุญญาวาสนาสูงส่ง แล้วเมื่อวันที่นางอายุครบ19ปี ข้าจะมารับตัวนางไปยังโลกที่นางจากมา..."

 ภาพพระฤๅษีแก่หง่อม ที่นุ่งห่มจีวรหนังเสืออย่างที่เห็นกันในละครจักรๆวงศ์ๆในตอนเช้านั้น ยังคงแจ่มชัดอยู่ในมโนสำนึกราวกับเป็นเรื่องจริง หลังจากสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึก หม่อมเอื้องดารา วัยยี่สิบห้าปี ก็นอนลืมตาโพร่งอยู่ในความมืด ทำเอาผู้เป็นสามีอย่างทัตเทพ ต้องลุกขึ้นมานั่งข้างด้วยความห่วงใย

 "เป็นอะไรหรือเอื้อง น้องนอนไม่หลับรึ??" ทัตเทพถามหลังจากที่เปิดโคมไฟเพื่อช่วยให้บรรยากาศในห้องสว่างขึ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 "เปล่าค่ะ น้องแค่ฝันแปลกๆ แต่มันแปลกจริงๆนะค่ะ บางครั้งน้องก็อดคิดไม่ได้ว่ามันเป็นเรื่องจริง"

 "น้องฝันเห็นพระฤๅษีรึเปล่า" หม่อมเจ้าทัตเทพถามหยั่งเชิง

 "ท่านพี่รู้ได้ยังไง?!" หม่อมเอื้องดาราอุทานด้วยความตกใจ

 "พี่เองก็ฝันเห็นพระฤๅษีเหมือนกัน ท่านมาบอกให้เราช่วยเลี้ยงเด็ก เด็กอะไรนี่แหละ" พอคนเป็นสามีพูดจบ คนเป็นภรรยาถึงกับหน้าถอดสี

 "น้องก็ฝันเหมือนกันเปี๊ยบเลยค่ะ น้องใจคอไม่มีเลย" หม่อมเอื้องดาราบอกสามีอย่างเป็นกังวล

 "ช่างมันเถอะ บางทีน้องอาจคิดมากก็ได้ มันก็แค่ดวามฝันไม่ใช่ความจริงซะหน่อย" ผู้เป็นสามีหาเรื่องมาปลอบใจ หวังให้ภรรยาคลายทุกข์ ก่อนที่ทั้งสองจะล้มตัวลงนอน เสียงของคนใช้ในบ้านก็เรียกจนทำให้ต้องสะดุ้งตื่นอีกครั้ง

 "ท่านค่ะ! ท่านค่ะ! ช่วยเปิดประตูให้พรด้วยค่ะ มีเด็กเข้ามาในบ้านค่ะ!" เสียงของ 'พร' สาวใช้วัยกลางคนรูปร่างท้วมวิ่งกระหืดกระหอบมาเคาะประตูห้องนอนของราชนิกูลทั้งสอง ราวกับมีเรื่องคอขาดบาดตายเกิดขึ้น

 "เกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงมาเรียกกลางดึกล่ะ??" หม่อมเจ้าทัตเทพเปิดประตูถาม ทำให้พรที่กำลังจะเคาะประตูถึงกับหน้าคะมำ 

 "คะ..คะ..คะ..คือมีเด็กเข้ามาในบ้านค่ะ ตอนนี้พรให้นวลกับป่านจับไว้แล้วค่ะ เด็กอะไรไม่รู้ แรงเยอะราวกับยักษ์แหน่ะค่ะ แถมยังแต่งตัวเหมือนพวกยี่เกหลงโรง พรกลัวจะเป็นพวกสิบแปดมงกุฏ จึงมาตามท่านชายให้ไปดูค่ะ" พรพูดก่อนจะนำผู้เป็นนายเดินไปยังห้องรับแขกทันที

 เมื่อได้ยินคำว่า 'เด็ก' หม่อมเอื้องดาราถึงกับนั่งไม่ติด รีบเดินตามผู้เป็นสามีไปทันที

 ทางด้านห้องรับแขกต่างพากันวุ่นวายกับ 'เด็ก' ปริศนาที่มีแรงมหาสารราวกับยักษ์ ซึ่งแก้วกุสุมาก็ตกใจและก็กลัวในคราเดียวกัน

 "ปล่อยข้าสิ ปล่อยข้า ฮือ..."

 เด็กหญิงตัวน้อยร้องบอก ตอนนี้น้ำตาของนางเริ่มไหลแล้ว

 "ปล่อยเด็กก่อน"

 หม่อมเจ้าทัตเทพบอกกับคนใช้ทั้งสองก่อนจะหันไปมองต้นเหตุที่ตอนนี้กำลังร้องไห้อยู่ 

 "หนูชื่ออะไรล่ะ"

 หม่อมเอื้องดาราเอ่ยถาม ซึ่งเธอมองเด็กผู้หญิงตรงหน้าน่าจะอายุประมาณ 7-8 ปี ใบหน้าสวยคม ผิวพรรณขาวนวลผุดผ่อง กลิ่นกายของเด็กผู้นี้หอมราวกับดอกไม้ป่า

 "ข้าไม่รู้"

 หลังจากที่ฤๅษีเมฆสิทธิ์พานางมาที่นี่แล้ว เหมือนความทรงจำและปีกของนางจะถูกปิดตายเหมือนรอวันที่นางจะอายุครบ 19 ปี ส่วนเขี้ยวและพละกำลังที่เปรียบเสมือนยักษ์นั้นยังคงอยู่ แต่เขี้ยวของนางจะยาวเท่าเดิมก็ต่อเมื่อมีอายุครบสิบเก้าแล้วเท่านั้น

 "บ้านหนูอยู่ไหนจ้ะ"

 เมื่อคนถูกถามไม่ยอมตอบ คนถามก็ต้องเปลี่ยนคำถามไปเรื่อยๆ

 "ข้าไมรู้"

 แต่คำตอบที่ได้ก็ยังคงเหมือนเดิม เอื้องดารานึกสงสารระคนเอ็นดูเด็กคนนี้เช่นเดียวกับหม่อมเจ้าทัตเทพที่อยากได้เด็กคนนี้มาเป็นลูก

 "ไม่รู้ก็ไม่รู้ ตอนนี้หนูมาอยู่กับพวกเราแล้วนะ หนูชื่อวรินนาราที่แปลว่ามนุษย์ผู้ประเสริฐแล้วกันนะ"

 "ข้าชื่อวรินนารา"

  แก้วกุสุมาพูดทวนคำนี้ซ้ำไปซ้ำมา เรียกรอยยิ้มจากหม่อมเจ้าทัตเทพและหม่อมเอื้องดาราได้ไม่น้อย

 "ตอนนี้หนูเป็นลูกพ่อกับแม่แล้วนะ ขอต้อนรับลูกเข้าสู่บ้านบดินทร์เดชา ตอนนี้หนูคือหนูริน วรินนารา บดิทร์เดชา แล้วนะ"

 หม่อมเจ้าทัตเทพพูดก่อนจะอุ้ม 'ลูกสาวคนใหม่' ขึ้นมาหอมแก้มซ้ายขวา ท่ามกลางความสุขของคนในบ้านบดิทร์เดชาที่ได้สมาชิกในบ้านคนใหม่เพิ่มมา จนไม่มีสังเกตุเห็นเงาเลือนลางของพระฤๅษีในจีวรลายเสือ ที่ค่อยๆเลือนพร่า จางหายไป...

 "ตาไปก่อนนะเจ้ารินเอ๋ย แล้วตาจะหมั่นมาเยี่ยม"

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.3 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา