คิร่ากับศิลาแห่งภูติ

3.3

เขียนโดย Giants_tee

วันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2558 เวลา 10.37 น.

  5 ตอน
  3 วิจารณ์
  7,024 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558 07.41 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

4) คืนวันสุดท้ายอันแสนสุข จบ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

....................มาต่อโล้ด!!! (จะมีใครรอไหมเน้อ 555+)

 

 

“ข้ารู้สึกไม่ค่อยดีอีกแล้ว ยังไงช่วยพาข้าไปส่งที่พักได้ไหมท่าน” หญิงสาวกล่าวพร้อมส่งสายตาเว้าวอน หากแต่บางอย่างส่งสัญญาณบอกให้รู้ว่าเขาไม่ควรทำตามคำขอนั้น เด็กหนุ่มพยายามส่งสายตาให้อีกฝ่ายรู้ว่ากำลังลำบากใจกับแผนการแกล้งป่วยของหญิงสาว

 

 

“ทำอะไรกันอยู่นะ”

 

 

กัสยิ้มขึ้นทันทีเมื่อเห็นเจ้าของเสียง เจ้าหญิงเอเลนน่ากำลังยืนกอดอกมองดูทั้งคู่อย่างหงุดหงิด หล่อนกวาดตามองหญิงสาวในมือกัสตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนที่ไม่ช้าจะเอ่ยวาจาที่ทำให้เขาเกือบสำลัก

 

 

”ปล่อยมือเจ้าเดียวนี้นะ กล้าดียังไงมายุ่งกับคนของข้า”

 

 

สิ้นเสียงดูเหมือนเรี่ยวแรงของหญิงสาวในมือจะกลับมา นางโกรธจนลืมว่าตัวเองกำลังจะเป็นลม สายตาจ้องมองเจ้าหญิงด้วยอารมณ์ฉุนเฉี่ยว กัสได้แต่ถอนใจมองสถานการณ์ตรงหน้าพลางคิดเสียใจที่ยอมติดตามเจ้าหญิงออกมาอย่างง่ายดาย ตั้งแต่เมื่อไรกันที่เจ้าหญิงของเขากลายเป็นเด็กปากกล้าขนาดนี้

 

 

“ยัยเด็กเมื่อวานซืน กล้าดียังไงมาตะโกนด่าข้าอย่างงี้”

 

 

“คงไม่ใช่คนเมืองนี้สิน่ะเจ้านะ” เอเลนน่ายิ้มพร้อมแสดงท่าทางเหยียดๆส่งให้ “อายุก็ดูมากแล้วนี้หนา มาให้ท่าผู้ชายแบบนี้ ไม่อายเด็กแบบข้าบ้างรึไง”

 

 

วาจาตอบกลับอย่างไม่ไว้หน้าทำให้คู่กรณีถึงกับอดทนต่อไม่ไหว หญิงสาวที่เคยป่วยบัดนี้พุ่งตัวเข้าหาเอเลนน่าพร้อมยกมือขึ้นหมายจะทำร้ายอย่างโกรธแค้น ด้วยความรวดเร็วกัสรีบคว้ามือนั้นไว้ มือของหล่อนจึงทำได้เพียงค้างไว้เมื่อข้อมือถูกยึดด้วยมือใหญ่ของชายหนุ่ม

 

 

“ข้าว่าถึงเวลาที่เจ้าควรรีบกลับไปพักเสียที เสียใจที่ข้าคงไม่ไปส่งตามคำขอ”

 

 

“…….!! เจ้า”

 

 

หล่อนอ้าปากจะต่อว่าอะไรบางอย่างแต่ก็ต้องเปลี่ยนใจไม่พูดเมื่อเริ่มรู้สึกเจ็บข้อมือที่ถูกบีบ

 

 

เมื่อหมดทางอีกฝ่ายจึงทำได้เพียงทำใจให้สงบลง กัสตัดสินใจปล่อยมือที่ยึดไว้ในขณะขยับตัวไปยืนขวางหน้าเจ้าหญิงกับอีกฝ่าย หญิงสาวจ้องมองเขาและเอเลนน่าอย่างโมโหก่อนเดินจ้ำอ้าวจากไป เจ้าหญิงตัวแสบยังคงตั้งท่าล้อเลียนอย่างสะใจอยู่เบื้องหลัง

 

 

“องค์หญิงไม่ควรทำตัวเช่นนี้” กัสเอ่ยปากทันทีเมื่อหญิงสาวชุดแดงเดินจากไป

 

 

“ทำไมปล่อยให้ผู้หญิงคนนั้นหลอกอยู่ได้ ไม่เห็นหรือไงว่าแม่นั้นจงใจจะยั่วเจ้า” เอเลนน่ากลับโพล่งไปอีกเรื่อง

 

 

เสียงที่ดังทำให้คนที่ผ่านไปมาเริ่มสนใจคนทั้งสอง กัสมองหล่อนด้วยแววตาดุก่อนเดินจ้ำออกไป ปล่อยให้เด็กสาวก้าวตามมาข้างหลังอย่างรีบร้อน

 

 

"จะรีบไปไหนของเจ้าน่ะ ข้ายังดูการแสดงไม่จบเลยนะ!" เอเลนน่าร้องขึ้นทันทีเมื่อเริ่มจะก้าวตามคนข้างหน้าไม่ทัน

 

 

"นี้เจ้าโกรธที่ข้าเข้าไปขัดจังหวะทำให้เจ้าอดไปจู๋จี๊กับยัยผมทองนั้นละซิ ไม่รู้รึไงว่าแม่ผู้หญิงพวกนั้นจ้องจะรวบหัวรวบหางเจ้าอยู่นะ ทำไมพวกผู้ชายถึงโง่กันนั๊กเนี้ย"

 

 

คำพูดร้อนแรงของสตรีข้างหลังทำให้ฝีเท้าที่เริ่มช้าลงกลับมาเร็วยิ่งกว่าเก่า หญิงสาวรีบก้าวเดินตามแต่สุดท้ายก็กลายเป็นวิ่งจนสะดุดล้มลงไป กัสจำใจหยุดเดินเมื่อได้ยินเสียงร้องลั่น เมื่อหันมาพบหญิงสาวนั่งจ้ำอยู่กับพื้นเนื้อตัวเต็มไปด้วยโคลนอารมณ์ขุ่นๆก่อนหน้าจึงเริ่มดีขึ้น สุดท้ายตัวเขาก็เดินกลับไปช่วยฉุดร่างเจ้าหญิงตัวดีขึ้นจากพื้น

 

 

“ท่านควรทำตัวให้เหมาะสมกว่านี้ ข้าไม่เคยรู้จักเจ้าหญิงคนไหนที่คอยแต่จะหาเรื่องเข้าตัวไม่หยุดหย่อนอย่างท่าน รู้ไหมเอเลนนน่า...ท่านควรทำตัวให้ต่างกับผู้หญิงพวกนั้นบ้าง"

 

 

คำพูดและสายตาตำหนิของกัสทำให้เอเลนน่าถึงกับหน้าเปลี่ยนสี นี่คิดว่าหล่อนทำตัวเหมือนยัยพวกนั้นเหรอ ด้วยความอายและโมโหเอเลนน่าสะบัดมือที่ช่วยฉุดออกส่งตัวเองล้มลงไปนั้นจ้ำเบ้ากับโคลนอีกครั้ง

 

 

“เจ้า !!? โอ้ย ..

 

 

กัสอดหัวเราะไม่ได้เมื่อเห็นท่าทางโมโหร้ายราวเด็กๆของเจ้าหญิง หากแต่ในเวลาต่อมาใบหน้าของชายหนุ่มก็บิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด ทันทีนั้นกัสทรุดตัวไปกับพื้นรู้สึกถึงความเจ็บที่แผ่ซ่านออกมาจากอกด้านซ้าย เด็กหนุ่มหายใจอย่างติดขัดทำได้เพียงใช้มือเกาะกุมอกของตัวเองไว้ สีหน้าแสดงถึงความทรมานจนแม้แต่เอเลนน่าที่มองยังต้องหยุดร้องโวยวาย เจ้าหญิงรีบลุกขึ้นมาใกล้อย่างตกใจ เด็กหนุ่มรีบกลบเกลื่อนใบหน้าให้กลับมาเป็นปกติ ในขณะที่เจ้าหญิงยังคงมองมาที่เขาด้วยความกังวล

 

 

 

“เจ็บที่อกซ้ายอีกแล้วรึ ข้าไม่เห็นเจ้าเจ็บมานานแล้วนี้หนา”

 

 

 

เอเลนน่าร้องถามอย่างห่วงใยเมื่อนึกอาการเจ็บเป็นระยะที่อกซ้ายซึ่งทำให้คนตรงหน้าต้องทนทุกข์ทรมานมาตั้งแต่เธอจำความได้ เด็กสาวลอบมองใต้เสื้อผ้าที่ปกปิดผิวอันขาวซีดของเด็กหนุ่ม พลางนึกไปถึงรอยบาดแผลใหญ่ที่เธอเคยเห็นมันเมื่อยามเด็ก แผลที่ดูราวกับถูกสัตว์ใหญ่ขย้ำบนอกข้างซ้ายของเด็กชาย แผลที่ทำให้เธอถึงกับร้องจ้าทุกครั้งที่เห็นมัน!

 

 

"อย่าห่วงเลยมันเป็นแผลน่ากลัวก็จริงแต่มันไม่ได้ทำให้ข้าเจ็บปวดอะไรมากมาย คงเพราะอาการเย็นลงเลยทำให้เจ็บขึ้นมา แถมตอนนี้ข้าก็รู้สึกดีขึ้นมากแล้ว” กัสพยายามทำสีหน้าให้ปกติที่สุดขณะค่อยๆลุกกลับมายืน

 

 

“นี้เย็นมากแล้ว เรากลับเข้าปราสาทกันเถอะเจ้าหญิง”

 

 

“แต่ข้ายังเดินเที่ยวไม่ทั่วเลยนะ” เด็กสาวกล่าวทั้งที่สายตายังจ้องมองมาอย่างห่วงๆ

 

 

“ยังมีเวลาให้ท่านเที่ยวเล่นอีกมากมาย วันนี้กลับกันก่อนเถอะ” เด็กหนุ่มเอ่ยโดยไม่สนใจท่าทางปฏิเสธของเธออีก เขาฉุดมือของเจ้าหญิงให้เดินตามตัวเองมา มือที่เกาะกุมเธอไว้ทำให้ใบหน้าของเด็กสาวเปลี่ยนเป็นสีชมพูขณะมองตามหลังของชายหนุ่มอย่างเงียบๆ

 

 

เส้นทางที่ทั้งคู่ผ่านแม้จะเริ่มเย็นแต่ผู้คนก็ยังคงคึกคัก ตลอดทางเอเลนน่าต้องคอยปั้นหน้างิ้วคิ้วขมวดใส่หญิงสาวที่พยายามส่งสายตาหรือรอยยิ้มมาให้กับองครักษ์ของเธอ ท่าทางของสาวๆเหล่านี้สร้างอารมณ์หงุดหงิดให้แก่เธอเป็นอย่างมาก ถึงจะรู้สาเหตุดีว่าทำไมสตรีเหล่านี้จึงชอบเข้าใกล้ชายตรงหน้าก็ตาม คิดไปสายตาก็แอบลอบมองเจ้าตัวอย่างพิจารณา…

 

 

คงเพราะเรืองผมสีดำยาวปะบ่าที่ดูนุ่ม หน้าตาดูดีโดยเฉพาะดวงตาคมเข้มสีดำที่แม้บางครั้งดูจะติดดุไปซักหน่อย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นสายตาที่ดูลึกลับน่าค้นหา ดวงหน้าแม้จะดูเย็นชาแต่ก็เต็มไปด้วยความสุขุมอ่อนโยน รูปร่างที่สูงผอมดูเพียบพร้อมด้วยลักษณะของบุรุษ และผิวขาวที่ผิดแปลกจากชาวแดนใต้ก็ยิ่งทำให้กัสเป็นที่ชวนมอง คงเพราะสิ่งเหล่านี้เองที่ทำให้สาวๆอยากจะสานสัมพันธ์กับองค์รักษ์คนนี้ของเธอ

 

 

กว่าจะรู้ตัวกัสก็พาหล่อนเดินผ่านผู้คนจนมาถึงประตูเมือง ประตูบานใหญ่มีทหารเข้าเวรอยู่จำนวนหนึ่ง เมื่อเห็นผู้ที่เดินเข้ามาใกล้ๆ ทั้งหมดรีบทำความเคารพด้วยความตกใจ ท่าทางโล่งใจของเหล่าทหารแสดงให้รู้ว่าในปราสาทคงตามหาเจ้าหญิงที่หายตัวไปกันวุ่นวาย เอเลนน่าเองก็ทำตัวไม่รู้ร้อนรู้หนาวใดๆทั้งสิ้น

 

 

"ข้าส่งท่านแค่นี้นะองค์หญิง" กัสเอ่ยเมื่อถึงจุดหมาย หญิงสาวพยักหน้ารับรู้แต่ยังมีท่าทางคล้ายอยากจะเอ่ยอะไรต่อ เด็กหนุ่มจึงรอเธอพูดออกมาอย่างใจเย็น

 

 

“พรุ่งนี้เสด็จพ่อจะจัดงานเต้นรำ” สาวน้อยเงียบไปเพื่อรอดูท่าทีของเขาก่อนกลั้นใจเอ่ยประโยคต่อไปด้วยเสียงที่แสนเบา

 

 

“ข้า…อยากให้เจ้ามาร่วมงานด้วย คือข้าหมายถึง เสด็จพ่อคงดีใจหากเจ้ามาหาท่านที่ปราสาทบ้าง”

 

 

มีเพียงรอยยิ้มเป็นคำตอบจากเด็กหนุ่มตรงหน้า

 

 

“องค์หญิงก็รู้ว่าข้าเต้นรำไม่เป็น” กัสเอ่ยขึ้นเพื่อปฏิเสธ ฝากถึงท่านเมนอสไว้โอกาสหน้าข้าจะแวะเวียนเข้ามาเยี่ยมพระองค์อย่างแน่นอน คำตอบที่ได้ฟังทำให้เอเลนน่ามีสีหน้าผิดหวังอย่างเห็นได้ชัด "นี้ก็เย็นมากแล้วข้าว่าองค์หญิงรีบเข้าข้างในเถอะ ข้าคงขอตัวแค่นี้”

 

 

กัสเลือกที่จะเดินออกมาและแกล้งทำราวกับไม่เห็นท่าทางผิดหวังบนดวงหน้างาม

 

 

“พรุ่งนี้ท่านพ่อจะเลือกคู่ให้ข้า เจ้าไม่สนใจมันเลยรึไง!” เสียงตะโกนด้วยน้ำเสียงตัดพ้อของเอเลนน่าที่ดังอยู่เบื้องหลังทำให้กัสชะงักเท้าชั่วขณะ ตัวเด็กหนุ่มรู้ดีว่าสิ่งใดทีเจ้าหญิงทรงต้องการเพียงแต่ตัวเขาไม่กล้าอาจเอื้อม สุดท้ายกัสก็เลือกที่จะเดินต่อไป...

 

 

 

..........................................................................

แง้ววว เริ่มมึนกับชื่อตัวละคร ตอนนี้นึกตัวละครมาได้อีกเพียบ แต่ดันนึกชื่อที่ดูเหมาะไม่ค่อยจะออกเลยนี้สิ แอบกลุ้มใจเลยนะเนี้ย

ชื่อตัวละครผิดหรือสับสนมึนงงยังไง อย่างลืมเม้นบอกกันด้วยนะคะ ตอนนี้คนแต่งชักมึนพิมพ์ผิดพิมพ์ถูกเป็นหย่อมๆ เศร้าจริง เหอๆ

 

อย่างลืมคอมเม้นเป็นกำลังใจหรือติชมกันนะคะ (^3^)

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
2 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
3 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา