Bother Guy! ปฏิบัติการตื๊ออันตรายคุณชายมาเฟีย

9.1

เขียนโดย Kreota

วันที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 22.22 น.

  30 ตอน
  3 วิจารณ์
  25.30K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 7 เมษายน พ.ศ. 2561 22.29 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

11) ขัดดอก!

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

-11-

ขัดดอก!

 

            โปรดใช้ลูกเตะคาราเต้ฟาดเข้ากับล็อกเกอร์จนเสียงดังสนั่นไปทั่วตึก ทุกชีวิตที่อยู่ชั้นล่างถึงกับหยุดกิจกรรมทุกอย่างเพื่อหันมาดูเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น!

            “ใครที่มันกล้าแตะต้องเพื่อนฉัน มันจะโดนแบบนี้...อยากลองไหม?”  ประโยคสุดท้ายโปรดหันไปมองยัย 4 คนนั้นที่อึ้งกิมกี่จนพูดไม่ออก

            เฮ้! ใครเพื่อนเธอ ฉันอายุมากกว่าเธอนะยะ -_+

            “ไปเถอะ”  โปรดลากฉันออกมาท่ามกลางความตื่นตระหนกของนักเรียนทุกคนในนั้น

            “เธอพอจะมีที่เงียบๆ ให้ไปสิงบ้างไหม”  โปรดถามขณะที่เริ่มเดินช้าลง เหงื่อที่ผุดออกมาจากขมับและอาการหายใจหอบเหนื่อยจนน่าตกใจทำเอาฉันไม่กล้าถามอะไรมาก

            ฉันพาโปรดมาที่ตึกนาฏศิลป์ซึ่งเป็นตึกท้ายสุดของโรงเรียน มีแม่น้ำกั้นไว้ระหว่างตึกเรียนตึกอื่นๆ ที่นี่จึงกลายเป็นที่ปลีกวิเวกชั้นเยี่ยมของฉันและผองเพื่อน

            “ตึกผีสิงเนี่ยน่ะหรอ”  โปรดมองตึกที่เงียบสงัดนี้ด้วยท่าทางสยดสยอง แต่ก็เดินตามฉันเข้ามาอยู่ดี

            “ไม่มีผีที่ไหนหรอก ตึกมันเงียบเฉยๆ”

            “เธอมาที่นี่บ่อยหรอ”

            “ก็มาเวลาไม่มีคาบเรียน แล้วก็เวลาจะมาแอบงีบ”

            “หือ...รักเรียนดีจริงๆ”  โปรดพึมพำออกมาเบาๆ

            ...ยัยเด็กปากเสีย -*-

            “นั่งพักอยู่นี่ก่อนแล้วกัน เดินมาแค่นี้ก็หอบเหงื่อท่วมเชียว เป็นไรไหมเนี่ย”

            “ฉันคงใช้แรงเตะมากไปหน่อยน่ะ”  โปรดบอกแล้วนั่งลงบนเก้าอี้ทที่วางเรียงไปตามระเบียง ตรงนี้เป็นจุดชมวิวริมน้ำที่ฉันชอบมานั่งเล่นบ่อยๆ

            “งั้นเดี๋ยวฉันไปหาน้ำมาให้แล้วกัน”

            “เดี๋ยว...”  โปรดเรียกก่อนที่ฉันจะเดินออกมา

            “อะไร”

            “เอายาดมด้วยนะ”

            “ชิ! เรื่องมากจัง”  ฉันจิจ๊ะในลำคออย่างหมั่นไส้ โปรดหัวเราะฮึๆ ในลำคออย่างเหนื่อยๆ ขณะไปมองตึกเรียนที่อยู่ฝั่งตรงข้าม

            ฉันเดินกลับมาที่ตึกนาฏศิลป์พร้อมน้ำและยาดมตามที่ยัยโปรดขอ แต่ยัยนั่นกำลังคุยโทรศัพท์อยู่ฉันก็เลยลากเก้าอี้มาวางน้ำไว้ก่อนเพราะมันเย็นมาก กว่าจะเดินมาถึงมือแข็งหมด =_=;

            “ฉันว่าวันนี้แหละ...อืม...โอเค”  โปรดพูดกับปลายสายก่อนจะกดตัดสายไป

            “ช้าอย่างกับเต่า”  โปรดส่ายหน้าไปมาเป็นเชิงตำหนิฉันนิดๆ แต่ก็หยิบเอายาดมไปดมแล้วก็เอาน้ำไปดื่มอยู่ดี

            “เฮ้อ...”  ฉันถอนหายใจใส่โปรดแรงๆ แต่ก็ทำได้แค่นี้เพราะยัยโปรดช่วยฉันไว้ตั้ง 2 ครั้งแล้ว ทนฟังอะไรไม่เข้าหูแป๊บหนึ่งคงไม่เป็นไร

            “ขอบใจนะที่มาช่วยฉัน”

            “ไม่เป็นไร เราเป็นเพื่อนกันนี่ เพื่อนก็ต้องช่วยเพื่อนจริงไหม ^^”  โปรดพูดแล้วดูดน้ำจากขวดดังอึกๆ เหมือนคนกระหายน้ำมารอนแรมปี =_=

            “อีกแล้วนะ! ฉันบอกเธอแล้วไงว่าฉันอายุ...”

            “อายุมากกว่า...ใช่ไหม?”  โปรดพูดแทรกขึ้นมา

            “ใช่”

            “พ่อฉันบอกว่าเธอจะมาเป็นเพื่อนฉันนี่นา ฉันจะเรียกเพื่อนว่าพี่ได้ยังไง”

            “ห๊ะ? พ่อเธอทำไมรู้จักฉันล่ะ แล้วทำไมฉันต้องเป็นเพื่อนเธอด้วย ไม่มีเพื่อนขนาดนั้นเลยรึไง”

            “ใช่ ฉันไม่มีเพื่อนเลย”  โปรดตอบกลับมาแบบง่ายๆ เหมือนไม่ต้องใช้เวลาคิดอะไรมากมายกับเรื่องนี้

            เออ...ฉันเชื่อว่าคนอย่างเธอคงไม่มีใครอยากคบเท่าไหร่ -_-*

            “เธออยู่แบบไม่มีเพื่อนเลยเนี่ยนะ อยู่ได้ไง”

            “ก็ไม่เห็นยาก อีกหน่อยฉันก็ไปแล้ว จะมีเพื่อนไว้ทำไมให้ตัวเองเศร้าเวลาย้ายต้องไปล่ะ” 

            “เธอจะย้ายโรงเรียนหรอ”

            “อืม อยู่ที่นี่อีกประมาณปีหนึ่งมั้ง” 

            “ว่าแต่...พ่อเธอเป็นใคร ทำไมบอกว่าฉันจะเป็นเพื่อนเธอล่ะ ฉันรู้จักรึเปล่า”

            “พ่อฉันก็คือ...อ้าว มาแล้วหรอ ทางนี้!”  ระหว่างที่โปรดกำลังจะบอก จู่ๆ ก็มีใครบางคนเดินมาทางนี้ ดูเหมือนจะนัดกับโปรดไว้ แต่พอฉันหันไปมองกลับพบชายชุดดำ 2 คนกำลังเดินตรงมาทางนี้

            “เฮ้ย!!”  ฉันร้องแล้วดันตัวลุกขึ้นอย่างอัตโนมัติ แต่ยัยโปรดกลับรั้งตัวฉันไว้ไม่ให้ไปไหน!

            “โปรด! ปล่อยฉันสิ ฉันต้องรีบไปแล้ว!!”  ฉันบอกพร้อมกับพยายามแกะมือโปรดออก

            “จะรีบไปไหนล่ะ ไปกับฉันก่อน” 

            “ไปไหน! ไปกับใคร!”  ฉันถามย้ำขณะที่ผู้ชาย 2 คนนั้นใกล้เข้ามาเรื่อยๆ

            “ก็ไปกับฉันนี่แหละ ^^”  โปรดยิ้มกว้างมาให้ พร้อมกับๆ สติสัมปชัญญะทั้งหมดของฉันเริ่มลดลงอย่างรวดเร็ว ภาพรอยยิ้มของโปรดค่อยๆ จางหายไป...หายไป

           

            ความเย็นจากเครื่องปรับอากาศ และกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่ไม่คุ้นเคยปลุกให้ฉันลืมตาขึ้น ความรู้สึกปวดตุบๆ ที่ขมับทำให้ฉันไม่สามารถลุกขึ้นมานั่งได้ทัน ฉันนอนมองเพดานสีขาวและแชนเดอเลียร์ที่หรูหราอย่างงุนงง พอนึกไปถึงภาพสุดท้ายที่ฉันจำได้...ยัยโปรดรั้งฉันไว้ แล้วผู้ชายชุดดำ 2 คนก็เดินเข้ามา!! O_O!

            ฉันรีบดันตัวลุกขึ้นนั่งก็พบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่บนเตียงขนาดคิงไซส์สีขาวสะอาด ภายในห้องนอนถูกตกแต่งอย่างหรูหราจนฉันลืมเรื่องโปรดไปชั่วขณะหนึ่ง ที่ปลายเตียงมีผู้หญิงสวมชุดเมดยืนอยู่พร้อมกับชายชุดดำ 2 คนซึ่งฉันจำได้ว่าเป็นคนจับฉันมา!

            “พะ...พวกคุณเป็นใคร! จับฉันมาที่นี่ทำไม!!”  ฉันตะโกนสุดเสียงด้วยความตกใจ ถึงสู้ไม่ได้อย่างน้อยๆ ก็เอาพลังเสียงเข้าข่มไว้ก่อนแล้วกัน T^T

            “ขอประทานอภัยที่ทำให้ตกใจค่ะ คุณหนูโปรดฝากบอกว่า ถ้าคุณฟื้นแล้วให้เชิญลงไปห้องรับแขกด้านล่าง คุณหนูจะตอบทุกคำถามที่คุณอยากทราบ”  แม่บ้านคนนั้นพูดพร้อมกับค้อมศีรษะลงอย่างนอบน้อม จนฉันไม่กล้าตะโกนอะไรใส่อีก =_=

            แม่บ้านพาฉันเดินออกมาจากห้อง เดินลัดเลาะมาตามระเบียงทางเดินสุดหรู ก่อนจะพาลงมาจากชั้นบนโดยใช้บันไดที่กว้างใหญ่มหึมา เราเดินผ่านห้องโถงของบ้านที่ถูกประประดาด้วยเครื่องเรือนที่หรูหราไม่แพ้ชั้นบนก่อนจะเข้ามาในห้องห้องหนึ่งซึ่งดูจากโซฟาและการตกโดยรวมแล้วฉันคิดว่าน่าจะเป็นห้องรับแขกที่แม่บ้านคนนี้พูดถึง

            “เชิญนั่งรอตรงนี้สักครู่นะคะ คุณหนูโปรดและท่านปริญญ์กำลังมาค่ะ”  แม่บ้านบอกพร้อมกับยกน้ำส้มที่ตกแต่งขอบแก้วด้วยกลีบส้มเล็กๆ มาให้ฉัน

            “ขอบคุณค่ะ”  ฉันก้มศีรษะลงนิดหน่อยกับการบริการดุจญาติมิตรที่ได้รับ เขาบริการดีจนฉันเกร็งเลยอ่ะ -_-;

            เอ๊ะ!...ท่านปริญญ์? ชื่อคุ้นๆ นะ =_=?

            “ตื่นแล้วหรอเพื่อนยาก ฮ่าๆๆๆ”  ระหว่างที่สมองของฉันกำลังประมวลความคิดอยู่นั่น โปรดก็เดินเข้ามาพร้อมกับผู้ชายวัยกลางคนคนหนึ่ง ดูจากจากการแต่งตัว ฉันเดาว่าน่าจะเป็นท่านปริญญ์ที่แม่บ้านบอก

            “นี่พ่อฉันเอง ^O^”  โปรดกอดแขนผู้ชายที่อยู่ข้างๆ แน่นเพื่อเป็นการแนะนำ ฉันเลยรีบเด้งตัวลุกขึ้นยืนแล้วยกมือไหว้อย่างเก้ๆ กังๆ

            “สวัสดีค่ะ”

            “นั่งกันก่อนเถอะ”  พ่อของโปรดยิ้มอบอุ่นรับการทักทายของฉัน ก่อนเราทั้ง 3 คนจะนั่งลงบนโซฟาที่อยู่ตรงข้ามกัน

            “ขอโทษด้วยที่ลูกสาวของฉันทำเธอตกใจ ยังมีอาการวิงเวียนหรือว่าปวดหัวอยู่ไหม”  คุณปริญญ์ถามฉันอย่างห่วงๆ

            “...ดีขึ้นแล้วค่ะ” 

            “ที่ฉันให้คนพาเธอมาในวันนี้ก็เพื่ออยากจะเจรจากับเธอเล็กน้อย”  คุณปริญญ์เริ่มเกริ่นเข้าเรื่องอย่างไม่รอช้า ก็ดีเหมือนกันฉันอยากรู้ใจจะขาดแล้วว่าทำไมชายชุดดำพวกนั้นถึงโปะยาสลบฉันแล้วพามาที่บ้านของยัยโปรด แถมชื่อของเขาก็ยังคุ้นๆ เหมือนเคยได้ยินที่ไหน

            ....ปริญญ์?

            เฮ้ย!! หรือว่า -[ ]-!!

            “เธอรู้เรื่องหนี้สินของพ่อบ้างไหม”  คุณปริญญ์เริ่มถามอย่างตรงประเด็น นั่นไง! คนเดียวกับท่านปริญญ์เจ้าหนี้ 22 ล้านของพ่อจริงๆ ด้วย =_=;;

            “ซะ...ทราบค่ะ”  ฉันติดอ่างขึ้นมาทันที อย่าบอกนะว่ายัยโปรดหลอกฉันมาสังเวยให้พ่อตัวเองน่ะ T^T

            “ทั้งหมดที่พ่อเธอเอาไปรวมแล้วก็ 22 ล้านกว่าๆ แต่เท่าที่ฉันรู้ เงินดอกเบี้ยพ่อเธอก็ไม่ได้จ่ายมาหลายงวดแล้ว”  คุณปริญญ์มีน้ำเสียงเข้มขึ้นนิดหน่อยจนฉันรู้สึกว่าตัวเองเริ่มสั่นขึ้นมาแล้ว ที่จริงเขาพูดด้วยโทนเสียงปกตินะแต่ฉันกลับรู้สึกว่ามันก้องไปทั่วบ้านเลย -_-;;

            “เธอรู้เหตุผลที่ฉันส่งคนไปตามหาที่โรงเรียนไหม?” 

            “ไม่ทราบค่ะ”  ฉันตอบกลับไปด้วยความโกรธนิดหน่อยแต่ก็ต้องพยายามเก็บอาการเอาไว้ ฉันก็สงสัยมาตลอดว่าจะตามฉันทำไมนักหนา ในเมื่อเด็ก ม.ปลายอย่างฉันไม่มีปัญญาใช้หนี้ได้อยู่แล้ว

            “ที่ผ่านมาเธออาจจะตำหนิฉันในใจว่าจะเอาอะไรกับเด็กม.ปลายอย่างเธอ แต่ฉันทำอะไรฉันมีเหตุผลเสมอ...ลูกสาวของฉันต้องเรียนที่โรงเรียนนั้นเป็นเวลาหนึ่งปี เพิ่งจะย้ายเข้าไปพร้อมๆ กับพี่ชายแต่ยังไม่มีเพื่อน ฉันก็เลยอยากให้เธอช่วยเป็นเพื่อนลูกสาวฉันในระหว่างที่รอไปต่างประเทศปีหน้า”

            “คะ?...”  ฉันร้องด้วยความประหลาดใจ  “ที่ส่งคนไปตามหนูไม่ใช่ไปทวงหนี้หรอกหรอคะ”

            “ฉันอยากจะบอกเรื่องนี้กับเธอต่างหาก” 

            “อ้าว...”  เหตุผลผิดจากคาดเยอะเลยแฮะ แสดงว่าที่ผ่านมาวิ่งเหนื่อยฟรีสินะ =_=

            “เธอช่วยเป็นเพื่อน แล้วก็เป็นพี่ของโปรดระหว่างที่เรียนที่นี่ได้ไหม ช่วยดูแลลูกสาวฉันด้วย”  คุณปริญญ์ขอร้องด้วยท่าทางอบอุ่นจนฉันสัมผัสถึงความรักมากมายที่เขามีต่อลูกสาวได้

            “หนูไม่มั่นใจนะคะว่าหนูจะดูแลโปรดได้ดีเท่าที่คุณต้องการรึเปล่า”  เพราะที่ผ่านมามีแต่โปรดที่ช่วยฉันตลอด (อันนี้พูดต่อในใจ-_-)

            “ฉันไม่ได้หวังอะไรขนาดนั้น แค่เป็นเพื่อนแก้เหงาให้ลูกสาวฉันเท่านั้นแหละ ส่วนเรื่องหนี้สินของพ่อเธอไม่ต้องเป็นห่วง เพราะฉันจะไม่คิดดอกเบี้ยจากครอบครัวเธอเลยสักบาท”  คุณปริญญ์พูดออกมาอย่างหนักแน่นจนฉันอึ้ง เงินตั้ง 22 ล้านลองคิดดูว่าจะได้ดอกเบี้ยมากขนาดไหน (อาจจะมากกว่าเงินต้นด้วยซ้ำ =_=) แต่เขายอมแลกมันเพื่อให้ลูกสาวมีเพื่อนเท่านั้นเอง...ประเสริฐจริงๆ ความรักของพ่อแม่

            “ว่าไง...”  คุณปริญญ์เลิกคิ้วสูงอย่างต้องการคำตอบ

            “โอ้ย! คุณพ่อคะ จะขอร้องอะไรมากมายล่ะ แค่ยื่นข้อเสนอไปแล้วให้ทำตามก็จบ ยังไงเขาก็ไม่มีสิทธิ์ต่อรองอยู่แล้วไม่ใช่หรอคะ”  โปรดพูดแทรกหลังจากอดทนนั่งฟังเงียบๆ อยู่นาน

            “มันก็ต้องขอความเห็นเขาก่อนนะลูก”

            “ไม่ต้องหรอกค่ะ หนูกับโบอิ้งเป็นเพื่อนกันตั้งนานแล้ว...เน๊อะ”  คำสุดท้าย ยัยโปรดหันมาหาฉันเพื่อให้ฉันเออออไปด้วย

            ที่ผ่านมาเธอพูดเองเออเองทั้งนั้นเลยนะโปรด =_=

            “ทำไมเรียกแค่ชื่อแบบนั้นล่ะลูก เขาอายุมากกว่าไม่ใช่หรอ”  คุณปริญญ์ปรามโปรดที่พูดจาไม่รู้จักกาละเทสะ ใช่แล้วค่ะคุณปริญญ์ ควรจะอบรมเด็กปากเสียคนนี้บ้างนะคะ -_+

            “ก็ใช่ค่ะ แต่พ่อจ้างเขาให้มาเป็นเพื่อนโปรดนี่คะ จะเรียกพี่ได้ไง”

            “แต่...”  คุณปริญญ์พยายามจะเถียง แต่จู่ๆ โปรดก็มีทอาการหอบเหมือนเหนื่อยมากๆ ทั้งที่ยังไม่ได้ทำอะไร

            “เอ่อ...ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันไม่ถือหรอก”  ฉันโกหก =_=

            “งั้นก็ฝากโปรดด้วยนะ”  คุณปริญญ์พูดด้วยท่าทางห่วงโปรดจับใจ ถ้าเขาบอกว่าให้ฉันช่วยดูแลโปรดเพราะโปรดเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายฉันก็เชื่อนะ ดูห่วงใยกันจนเวอร์ -_-;

            จากนั้นคุณปริญญ์ก็ขอตัวไปทำงานด้านบนต่อ แต่ให้ฉันอยู่ทานข้าวเย็นก่อนค่อยกลับ ฉันก็เลยจำเป็นต้องอยู่คุยกับโปรดไปพลางๆ เพื่อฆ่าเวลา

            “ที่จริงฉันรู้มาสักพักแล้วล่ะว่าพ่อจะให้เธอมาเป็นเพื่อนฉัน วันนั้นฉันก็เลยแวะไปทักทายเธอไง ^_^”

            “วันไหน?”  ฉันลองนึกถึงประสบการณ์ที่ผ่านมาเวลาเจอโปรด ไม่เห็นมีวันไหนเลยที่ยัยโปรดจะทักทายฉันดีๆ

            “ก็วันนั้นไง วันที่เธอกำลังเข้าแถวแล้วฉันเรียกเธอว่ากระโห้อ่ะ ฮ่าๆๆๆ”  โปรดหัวเราะร่วนเมื่อพูดถึงตรงนี้ ตลกมากสินะที่ว่าคนอื่นเป็นกระโห้เนี่ย =_=

            “นั่นคือการทักทายของเธอหรอโปรด”  ฉันถอนหายใจออกมาแรงๆ เพื่อตั้งใจให้โปรดได้ยิน

            “ก็ตอนที่เธอโดนบาสอัดหน้ามันเหมือนปลากระโห้เลยนี่นา ฮ่าๆๆๆ”

            “ฉันไม่ตลกด้วยนะ”  ฉันกอดอกทำหน้ามุ่ยอย่างไม่พอใจ โปรดก็เลยยกมือยอมแพ้แล้วเปลี่ยนเรื่องคุย

            “ทำมาเป็นโกรธฉัน...เรื่องที่เธอจูบพี่ปาวฉันยังไม่ได้คิดบัญชีเลยนะ -_+!” 

            ฉันแทบจะสำลักน้ำลายตัวเองเมื่อโปรดพูดถึงเรื่องเมื่อเช้า ไหนว่ามีแค่อ๋องน้อยเท่านั้นที่เห็น แล้วทำไมยัยโปรดถึง...?

            “เธอ...เห็นหรอ?”

            “เห็นสิ!!”

            “นี่โปรด! มันเป็นแค่อุบัติเหตุนะ เธออย่าเข้าใจผิด >////<”  ฉันกูลีกูจอแก้ตัวยกใหญ่ ถ้าเกิดยัยโปรดเปลี่ยนใจไปฟ้องพ่อว่าฉันไปยุ่งกับแฟนหล่อนขึ้นมา มีหวังฉันโดนคิดดอกเบี้ยคูณสองแน่ๆ >_<!

            “อุบัติเหตุอะไรกัน ปากประกบปากขนาดนั้น!”  ยิ่งโปรดพูดลงรายละเอียด อุณหภูมิในร่างกายของฉันก็ยิ่งสูงขึ้น ฉันยังจำสัมผัสนุ่มๆ จากริมฝีปากของปาวได้อยู่เลย >.,<///

            “หัวเราะอะไรโปรด เสียงดังออกไปถึงโรงรถเลย”  จู่ๆ บุคคลที่ 3 ที่เรากำลังพูดถึงก็เดินเข้ามาในบ้าน

            “เฮ้ย! เธอ..O_O?”

            “ปาว! O[ ]o!”  ฉันกับปาวร้องออกมาเกือบจะพร้อมกัน ก่อนที่ปาวซึ่งเป็นฝ่ายปรับตัวได้ก่อนเป็นคนเอ่ยปากถาม

            “เธอมาที่นี่ทำไมเนี่ย”  ปาวถาม ถึงเขาจะสวมแว่นอยู่และพยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติ แต่ฉันก็พอจะมองออกว่าเขาตกใจมากที่เจอฉันที่นี่

            แต่ฉันไม่อยากจะบอกว่าฉันเองตกใจยิ่งกว่าที่เจอปาวมาบ้านยัยโปรด!! ไม่ใช่แค่แวะมาหาตามประสาเพื่อน คนรู้จักหรือแฟนแน่นอน เพราะว่าแม่บ้านวิ่งเข้าไปรับกระเป๋านักเรียนจากปาวแล้วเอาไปเก็บไว้ชั้นบนของบ้าน

            “นี่พวกเธอสองคน...อยู่บ้านเดียวกัน...งั้นหรอ?”  ฉันถามพร้อมกับความกระอักกระอ่วนปั่นป่วนในท้อง พวกเขาคงไม่ใช่คู่หมั้นหรือว่าคู่รักมัธยมหรอกนะ ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ ท่านยมคงทำบัตรคิวไว้ให้ปีนต้นงิ้วเรียบร้อยแล้วแน่ๆ Y_Y

*******************************************************

อัพเดตตอนที่ 11 จ้าาาาาาาา

รู้สึกว่าตอนที่ 11 จะเฉลยอะไรต่อมิอะไรไปเยอะมากๆ (จนเกือบหมดทุกอย่าง =_=)

ถึงจะเฉลยจนหมด แต่ความสนุกยังไม่หมดนะจ้ะรีดเดอร์ นี่เพิ่งจะแค่เริ่มต้น 

ฝากติดตามตอนต่อไปด้วยนะคะ 

********************************************************

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.3 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา