Bother Guy! ปฏิบัติการตื๊ออันตรายคุณชายมาเฟีย

9.1

เขียนโดย Kreota

วันที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 22.22 น.

  30 ตอน
  3 วิจารณ์
  25.23K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 7 เมษายน พ.ศ. 2561 22.29 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

5) การลงทุนมีความเสี่ยง [2]

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

-5-

การลงทุนมีความเสี่ยง [2]

(ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน)

 

 

            กินอิ่มก็พอดีกับเวลาเข้าแถว เมื่อเราเดินไปถึงแถวของ ม.6 ก็เจอเหมยยืนรออยู่แล้วพร้อมกับเป้สะพายหลังสีแสดขัดใจอาจารย์ฝ่ายปกครอง

            “หือ สภาพ...แกไปรบสงครามโลกมารึไงเหมย เหงื่อท่วมเชียว”  ฉันถาม

            “รถยางรั่วแก ขับบดล้อมาอยู่ดีๆ รถก็ดับไปเฉยๆ สตาร์ทก็ไม่ติด เกือบมาไม่ทัน”  เหมยบ่นขณะใช้ทิชชู่ซับเหงื่อที่ผุดออกมาเต็มหน้าผากแล้วบ่นต่อ

            “กว่าฉันกับไอ้มิ๊งจะช่วยกันเข็นรถมาจนถึงร้านซ่อมทางโค้งโรงเรียนได้ ลมแทบจับ”

            คนชื่อมิ๊งที่เหมยพูดถึงเป็นน้องชายของเหมย เรียนอยู่ ม. 5 โรงเรียนเดียวกับพวกเรานี่เอง ได้ข่าวว่าฮอตอยู่เหมือนกันนะน้องมิ๊งเนี่ย

            กึก!

            จู่ๆ เด็กผู้หญิง ม.4 คนหนึ่งก็หยุดกึกอยู่กับที่เมื่อเดินผ่านมา ก่อนจะหันควับมาจ้องฉันอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ

            “น้อง! มีปัญหาอะไรจ้ะ”  อ๋องน้อยเริ่มเปิดฉากก่อน เพราะสายตานางดูไม่เป็นมิตรอย่างเห็นได้ชัด

            “หน้าปลากระโห้แบบนี้น่ะหรอจีบพี่ปาว บ้านมีกระจกไหมเนี่ย”  เด็กคนนั้นพูดเสียงเรียบ แถมทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคออย่างขัดใจ ตอนนี้หน้าฉันคงเหวอจนไม่รู้จะเหวอยังไงแล้ว เจอด่ามาเต็มขนาดนี้ตรูโกรธไม่ทัน U_U

            “น้อง!!!”  เหมยกับอ๋องประสานเสียงกันจนข้าวตัง หัวหน้าห้องของฉันถึงกับละสายตาขึ้นมาจากกระดาษเช็คชื่ออย่างสนอกสนใจ

            “อะไร รับความจริงไม่ได้?”  น้องคนนั้นเลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถาม เอ่อ...หน้ากวนทรีนได้อีกนะน้อง =_=;

            “นังเด็กนี่!!”  เหมยกำลังจะเข้าไปขย้ำน้องคนนั้นก็มีผู้ชายชุดดำ 2 คนเดินดุ่มๆ มาทางพวกเรา แต่ยังเดินมาไม่ถึงเด็กคนนั้นก็เดินไปแล้ว ทำให้ผู้ชาย 2 คนนั้นหยุดแล้วเดินกลับไปยืนอยู่ข้างห้องประชาสัมพันธ์ตามเดิม

            “นังเด็กโปรดนี่ทำตัวอย่างกับมาเฟีย เห็นว่ามีการ์ดมาเฝ้าก็ทำตัวกร่างไปทั่ว!”  เหมยสบถออกมาดังๆ

            อ๋อ น้องคนนี้น่ะหรอชื่อโปรด ฉันได้ยินมาว่าไม่มีใครชอบน้องคนนี้เลยสักคน ทำตัววางอำนาจ นิสัยเอาแต่ใจจนอาจารย์แต่ละคนระอากันเป็นแถบ แต่ไม่รู้เพราะอะไรถึงไม่มีใครกล้าขัดใจ คงจะเหวอกับการกระทำเหนือมนุษย์ของชีเหมือนฉันเมื่อกี๊รึเปล่า เหวอกินตัวใหญ่เบ้อเริ่มจนลืมโกรธ

            “สงสัยจะเคืองที่แกไปจีบปาว แถมได้ใกล้ชิดแนบเนื้อแบบเอ็กส์คูลซิฟเมื่อวานนี้แน่ๆ”  อ๋องพูดพร้อมกับเบ้ปากไปทางโปรดที่ยืนเข้าแถวอยู่โซนถัดไป

            “ทำไม อย่าบอกนะว่าเด็กโปรดนั่นก็เป็นแฟนคลับปาวเหมือนกัน!”  ฉันถาม

            “ไม่ใช่แค่แฟนคลับย่ะ” 

            “...ได้ข่าวว่าแอบคบกับปาวอยู่”  เหมยป้องปากเสริมจากอ๋อง

            “เฮ้ย! ทำไมว่างั้นล่ะ ปาวยังโสดไม่ใช่หรอ”  ฉันแย้งทันควัน ไม่จริงใช่ไหม!

            “ก็ใช่...แต่เหมือนมีคนเคยเห็นสองคนนี้ไปไหนมาไหนด้วยกัน คอยรับส่งเวลามาเรียนก็บ่อย เขาเลยคิดว่าปาวกับนังเด็กผีมาโปรดนั่นจะแอบคบกันอยู่จริงๆ รึเปล่า...แต่ก็อย่างว่า คนแปลกพิลึกทั้ง 2 คนไม่มีใครกล้าสืบแบบจริงๆ จังๆ ก็เลยเป็นแค่ข่าวลอยๆ ยังไม่มีหลักฐานชัดเจนสักที”

            นี่นังอ๋อง ชักจะเกินไปแล้วนะมาเรียกปาวว่า ‘คนพิลึก’ ได้ไง แอบเคืองนะเนี่ย -*-!

            “โบอิ้ง! แปลกจัง วันนี้เธอมาเข้าแถวทันด้วย”  ข้าวตังทักพร้อมกับใช้ปากกาติ๊กที่ท้ายชื่อของฉันในใบเช็คชื่อ

            “วันนี้ตื่นเร็วน่ะ”  ฉันตอบยิ้มๆ

            “ถึงวันนี้จะเข้าแถวทัน แต่วันอื่นๆ ก็ไม่ทันอยู่ดี นี่ก็จะสิ้นเดือนแล้วอาจารย์เพียงออฝากมาบอกเธอว่าให้เลือกเอาระหว่างขัดห้องน้ำกับเก็บขยะรอบโรงเรียน”  ข้าวตังส่งยิ้มกว้างยิ่งกว่ามาให้ แล้วเดินไปเช็คชื่อเพื่อนคนอื่นๆ ต่อ

            ไม่ต้องสงสัยเลยค่ะว่าทำไมอาจารย์เพียงออถึงดูมีบทบาทกับชีวิตฉันซะเหลือเกิน นอกจากจะเป็นอาจารย์ฝ่ายปกครองแล้ว อาจารย์เพียงออยังพ่วงตำแหน่งอาจารย์ที่ปรึกษาของห้องฉันด้วย

            “คราวก่อนฉันเลือกเก็บขยะเพราะไม่อยากไปดมกลิ่นห้องน้ำ นึกว่ามันจะหมูๆ แต่เก็บได้ไม่เท่าไหร่ก็เหนื่อยแล้ว”  ฉันนึกย้อนไปถึงเดือนก่อนที่เพิ่งจะเดินสายเก็บขยะจนทั่วโรงเรียน

            “แกก็มาให้เร็วๆ หน่อยสิโบ จำนวนวันได้ครึ่งเดือนอาจารย์ก็ไม่ทำโทษแล้ว”  เหมยบอก

            “ถ้าโบมันทำได้ คงไม่ครองตำแหน่งแชมป์เก็บขยะของโรงเรียนทุกเดือนขนาดนี้หรอกเหมย”  อ๋องเสริม

            เอ่อ...อ๋อง เราชักจะคบกันนานเกินไปแล้วล่ะ เลิกคบกันม๊ะ -_-*

 

            ฉันเดินไปตามระเบียงทางเดินของตึกเรียนด้วยความหวาดกลัว เพราะตอนนี้มันทุ่มกว่าแล้วแต่ฉันเพิ่งนึกได้ว่าลืมมือถือที่ชาร์ตเอาไว้หลังห้องก็เลยต้องกลับมาเอา แต่วันนี้แปลกนะปกติลุงภารโรงจะปิดตึกตั้งแต่ห้าโมงเย็นแล้วนี่นา ทำไมวันนี้ไม่ปิดล่ะ?

            เฮ้อ...ช่างเถอะ ฉันควรจะรีบไปเอามือถือแล้วรีบกลับเลยจะดีกว่า มัวสงสัยอยู่แบบนี้ไม่ดีเท่าไหร่ บรรยากาศก็วังเวงจนนึกว่าตัวเองกำลังแสดงซีรีย์เรื่องเพื่อนเฮี้ยนโรงเรียนหลอนของพี่ย้งอยู่

            บรื๋อออ~ หลอนชะมัด

            ตึก..ตึก..ตึก

            ตึก..ตึก..ตึก

            จู่ๆ ฉันก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของใครบางคนอยู่ใกล้ๆ จำได้ว่าตอนขึ้นตึกมามันไม่มีใครเลยนี่หว่า ฉันแอบชำเลืองไปมองก็เห็นเงาของใครบางคนเดินอยู่ข้างหลัง ฉันจึงเร่งฝีเท้าขึ้นมาหน่อยเพื่อเว้นระยะห่างจากเสียงฝีเท้าน่าสงสัยนั้น

            ตึกๆๆๆ

            ตึกๆๆๆ

            ยิ่งฉันเร่งฝีเท้า เสียงฝีเท้าปริศนาก็เร่งตาม และพอฉันลองหยุดเดินเสียงฝีเท้านั้นก็เงียบลงไปด้วย ความรู้สึกเย็นวาบที่แผ่นหลังลามขึ้นมาถึงท้ายทอยทำเอาขนลุกซู่ไปทั้งตัว ฉันสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะตัดสินใจวิ่งไปข้างหน้าทันทีแต่เจ้าของฝีเท้านั้นมันก็วิ่งตามฉันมาติดๆ จนกระทั่ง...

            “กรี๊ดดด...!!!!!”  ฉันร้องเสียงหลงเมื่อถูกแรงมหาศาลผลักจนหลังไปกระแทกกับกำแพง พร้อมกับร่างสูงของผู้ชายคนหนึ่งมายืนอยู่ตรงหน้าพร้อมกับยกแขนขึ้นมากันฉันไว้ทั้ง 2 ข้าง

            ฉันหลับตาปี๋พร้อมกับหัวใจเต้นแรงด้วยความกลัวที่พุ่งขึ้นถึงขีดสุด เสียงหายใจหอบของฉันดังประสานกับเสียงหายใจฟึดฟัดของเขาจนฉันไม่กล้าลืมตาขึ้นมอง

            “เธอ...”  ผู้ชายคนนั้นพูด ถึงเสียงจะแหบพร่าจนเกือบไม่ได้ยิน แต่ฉันก็จำได้แม่นว่าเป็นเสียงของปาว

            ฉันค่อยๆ ลืมตาขึ้นมองก็พบเงาของปาวสะท้อนกับแสงจันทร์ ฉันพยายามหรี่ตามองเพราะวันนี้จันทร์เต็มดวงทำให้ภาพที่ฉันเห็นมันเป็นลักษณะย้อนแสง ใบหน้าของปาวก็เลยไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่นัก

            “นาย...มาทำอะไรที่นี่”

            “ฉันน่าจะถามเธอมากกว่า ดึกดื่นขนาดนี้ เธอมาที่นี่ทำไม”  ปาวถามกลับแทนคำตอบ

            “ฉันลืมมือถือก็เลยมาเอา” 

            “งั้นหรอ”  ปาวพูด แล้วหัวเราะในลำคอเบาๆ น่าแปลกที่เสียงหัวเราะของเขาทำเอาฉันขนลุกซู่ไปทั้งตัว

            “เลือด! ทำไมมือนาย..เลือดเต็มเลย!!”  ฉันละสายตาจากหน้าของปาวไปมองมือของเขาที่อยู่ข้างๆ แก้มแทน ฉันรีบดึงมันมาดูทันที แต่ปาวกลับไม่มีท่าทางว่าเจ็บเลย

            “มันไม่ใช่เลือดฉัน”  ปาวพูดเสียงเย็น จู่ๆ ฉันก็รู้สึกแปลกๆ ขึ้นมา ทำให้ฉันค่อยๆ เงยหน้าไปมองปาวอีกครั้ง...

            “ปาว!!!”  ฉันร้องเสียงหลงแล้วรีบผละออกมาทันที ตอนนี้! ปาวไม่ใช่ปาวที่ฉันเคยเห็นหรือเคยรู้จักอีกแล้ว...เขาเป็น...เป็น!!!

            “นายเป็น...แวมไพร์!!!”  ฉันพูดออกมาอย่างยากลำบากพร้อมกับมองไปที่เขี้ยวยาวๆ และเลือดที่เปื้อนอยู่รอบๆ ริมฝีปากของเขาอย่างหวาดกลัว

          ‘ฉันว่าแกเปลี่ยนไปชอบท็อท ไม่งั้นก็ฟานไม่ดีกว่าหรอ ปาวความลับเยอะจะตาย ไม่รู้แอบเป็นแวมไพร์รึเปล่า’  เสียงของเหมยดังเข้ามาในความคิด ตั้งแต่เกิดมาฉันไม่เคยคิดว่าจะมีแวมไพร์อยู่ในโลกนี้จริงๆ แต่แล้วคนที่ฉันชอบกลับเป็นแวมไพร์เนี่ยนะ!

            “แย่จังนะ เธอดันมาเห็นตอนที่เรากำลังล่า”  ปาวพูดพร้อมกับยกแขนขึ้นเช็ดเลือดที่เปื้อนริมฝีปากออก

            “อะไรนะ..’เรา’ งั้นหรอ”  ฉันถามย้ำเพราะฉันรู้สึกสะดุดกับสิ่งที่เขาพูด เหมือนกับว่า...ไม่ได้มีแค่เขาคนเดียว!

            กึกๆๆ

            ระหว่างนั้นฉันก็ได้ยินเสียงเหมือนมีอะไรดิ้นอยู่ในห้องที่อยู่ใกล้ๆ ฉันหันไปมองในห้องผ่านช่องประตูที่แง้มไว้ ก็พบกับสิ่งที่คาดไม่ถึง...!!

            “กรี๊ดดด!!!!!”  ฉันร้องออกมาสุดเสียงพร้อมกับน้ำตาที่ผุดออกมาด้วยความหวาดกลัว ร่างกายทรุดฮวบลงกับพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง

            ในห้องนั้น โปรดกำลังดูดเลือดลุงยามอยู่ ส่วนลุงยามก็พยายามใช้แรงเฮือกสุดท้ายดิ้นทุรนทุรายเพื่อเอาชีวิตรอด

            “ไม่ต้องตกใจหรอกน่า เจ็บนิดเดียว”  เสียงปาวดังอยู่ข้างหู พอฉันหันไปก็เจอใบหน้าของปาวอยู่ใกล้ๆ เขาแสยะยิ้มเหี้ยมเกรียมมาให้ฉันพร้อมกับแยกเขี้ยวมาใส่ ฉันรีบถอยครูดไปข้างหลังเพื่อให้ตัวเองออกห่างจากปาวมากที่สุด

            “นะ..นายจะทำอะไรฉัน”

            “โชคร้าย..เธอรู้ความลับของพวกเรา เพราะฉะนั้น...ฉันปล่อยเธอไปไม่ได้!”  ปาวตามมาติดๆ แล้วเข้ามาคลอเคลียอยู่ที่ต้นคอของฉัน

            “อย่านะ!!”

            “เอาน่า...ดีกว่าให้โปรดทำนะ ยัยนั่นกัดเจ็บ ฮึๆๆ”  พูดจบปาวก็กดไหล่ฉันให้อยู่กับที่ และ...

            “ไม่!!!!!!!!!!!”

            “เฮ้ย! โบอิ้ง แกจะแหกปากทำไมเนี่ย!!”  จู่ๆ เสียงของอ๋องก็ดังขึ้นมาพร้อมกับแรงเขย่าๆ แรงๆ ที่ต้นแขน

            “แกฝันร้ายหรอโบ”  เหมยถามทันทีที่ฉันลืมตาขึ้น

            ฉัน...ฝันไปหรอ? ฉันรีบลุกขึ้นจากโต๊ะที่กำลังฟุบอยู่ แล้วรีบคว้ากระจกมาส่องดูที่คออย่างร้อนรน

            “อะไร ฝันว่าโดนผู้ชายซุกไซร้ซอกคอมาหรือไงยะ”  อ๋องเหน็บพร้อมกับแย่งกระจกไปส่องเอง

            “เปล่าซะหน่อย”  ถ้าฝันโรงแมนติกแบบนั้นก็ดีน่ะสินังอ๋อง ฝันฮาร์ดคอร์แบบเมื่อกี๊ไม่ไหวเลย T^T

            “ดูสิน้ำหูน้ำตาไหลเลยแก ไปล้างหน้าล้างตาหน่อยดีไหม”  เหมยเสนอ

            “ก็ดีนะ”  ฉันลุกจากที่ด้วยอาการวิงๆ เวียนๆ จนเหมยกับอ๋องจะช่วยหิ้วปีกลงมา แต่มันจะเริ่มคาบเรียนช่วงบ่ายแล้วก็เลยลงมาเองดีกว่าเผื่อมีเช็คชื่อจะได้มีคนบอกอาจารย์ให้ว่าฉันหายไปไหน

            ฉันลงมาที่ห้องน้ำของตึก ม.6 แล้วก้มหน้าก้มตาล้างหน้าเพื่อไล่ความฝันฮาร์ดคอร์นั่นทิ้งไปซะ ภาพมันยังติดตาอยู่เลยที่ลุงยามพยายามดิ้นพล่านๆ ส่วนยัยเด็กโปรดก็ดูดกินเลือดอย่างสบายใจ แถมใบหน้าหล่อๆ ของปาวก็มีเขี้ยวอันใหญ่ยักษ์โผล่ออกมาอวดสายตาแบบสยดสยองสุดๆ โอ๊ย! หัวใจจะวาย!!

            ฟุบ!

            บุ๋มๆๆ

            ระหว่างที่ฉันกำลังนึกถึงความฝันผีดิบอยู่เพลินๆ ก็มีใครบางคนจับศีรษะฉันกดลงไปกับอ่างล้างหน้า! เสียงหัวเราะชอบใจดังอื้ออึงอยู่รอบตัว พอฉันถูกปล่อยเป็นอิสระและตั้งสติได้ฉันก็รีบหันไปมองรอบๆ ทันที แต่ที่ฉันเห็นกลับมีเพียงความว่างเปล่า แต่เสียงหัวเราะยังไม่หายไป...พวกมันอยู่ในห้องน้ำแน่!!

            ผั๊วะ!!

            “พวกเธอใช่ไหมที่เป็นคนแกล้งฉันเมื่อกี๊!!”  ฉันออกแรงถีบประตูห้องน้ำห้องแรกที่ใกล้ประตูทางเข้ามากที่สุด ทำให้เสียงหัวเราะเงียบลง

            “แน่จริงก็ออกมาสู้กันซึ่งๆ หน้าสิ มัวมุดหัวอยู่ทำไม!!”  ฉันแผดเสียงลั่น พร้อมกับแตะประตูห้องน้ำบานนั้นด้วยแรงอารมณ์ กล้าจับฉันกดน้ำแล้วมามุดหัวอยู่แบบนี้มันไม่ขี้ขลาดไปหน่อยหรอ! ฉันไม่ปล่อยพวกมันไว้แน่!!!

            “ออกมา!!!”

            ผั๊วะๆๆๆ

            ฉันเตะประตูซ้ำๆ ด้วยความโกรธ แต่ระหว่างนั้นก็มีใครคนหนึ่งเดินเข้ามาในห้องน้ำ

            “เป็นอะไรกันเนี่ย!”  ยัยคนนั้นตะโกนขึ้นมาแข่งกับเสียงเตะประตู

           “ไม่ต้องยุ่ง!”  ฉันหันไปตวาดผู้หญิงคนนั้น แต่พอเห็นว่าเป็นใครฉันก็ถึงกับชะงัก...ยัยแวมไพร์โปรดนี่นา =_=;

            “ไม่ยุ่งไม่ได้ ถ้าเธอยังมีเรื่องกันอยู่แบบนี้ฉันจะเข้าห้องน้ำได้ยังไง...อ้าว! แล้วนั่นเธอไปทำอะไรมา หัวเปียกหมดเลย แบบนี้หน้าตายิ่งดูไม่ได้เข้าไปใหญ่”  ยัยเด็กโปรดพูดเมื่อเดินเข้ามาดูหน้าฉันใกล้ๆ

            “นี่!!”  ปากคอเราะร้ายแล้วยังไม่รู้จักสัมมาคารวะอีก ฉันอายุมากกว่าเธอตั้ง 2 ปีนะโปรด -_+

 

   

*******************************************************

เฮ้!!! เรากลับมาแล้วววว >O< 

ฝากติดตามด้วยจ้าาาา 

*******************************************************

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.3 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา