แรดชิบหาย เมียอย่างมึง!

5.5

เขียนโดย LemonNest

วันที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 เวลา 21.06 น.

  42 chapter
  66 วิจารณ์
  48.60K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 21.17 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

34) ตอนที่ 33

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ตอนที่ 33

 

 

 

ต้นข้าว

 

ผมนั่งกอดเข่าอยู่มุมหนึ่งภายในห้องนอนของไอ้หล่อ มันโกรธผมที่ไม่ยอมเชื่อฟังมันเรื่องกางเกงขาสั้น ผมร้อนผมก็แค่อยากจะใส่ออกไปข้างนอกมันก็ไม่น่าจะร้ายแรงอะไร แต่สำหรับไอ้หล่อเหมือนมันจะเป็นเรื่องที่ใหญ่มาก ผมไม่เคยเห็นมันโกรธจริงจังขนาดนี้มาก่อน ครั้งนี้ดูท่ามันจะเอาจริง และง้อยากกว่าครั้งไหน ๆ

 

“ก็ไม่ใส่แล้วไง” ผมพูดเสียงที่คิดว่ามันคงจะนึกสงสาร ไอ้หล่อมันนอนคว่ำตัวอยู่บนเตียง สองมือจับเครื่องสี่เหลี่ยมจอใหญ่เล่นเกมส์

 

“ต้องให้กูพูดทุกครั้ง”

 

“มึงก็หัดฟังกูบ้างดิวะ คนอื่นก็ได้แต่มอง มึงก็อย่าไปสนใจ”

 

“ก็หวงของกู มึงไม่เข้าใจเหรอต้นข้าว กูอาจจะบังคับมึงมากเกินไป” ผมรีบลุกขึ้นยืนเมื่อไอ้หล่อมันก้าวลงจากเตียงเดินไปทางประตู

 

“มึงจะไปไหน?” ผมสวมกอดมันจากทางด้านหลัง เพทายยืนนิ่ง

 

“กูไม่อยากมาลงกับมึงเลย ขอกูไปหาที่เงียบ ๆ อยู่คนเดียวสักพัก”

 

“อย่าไปเลย พรุ่งนี้มึงสอบต่ออีกนะ”

 

“อย่าทำกูหงุดหงิด ปล่อย…” ผมกอดมันแน่นขึ้น “ต้นข้าว…” เพทายแกะมือที่รั้งเอวออก

 

“อย่าไป! มึงห้ามหันหลังให้กูนะหล่อ ห้ามก้าวออกไปจากห้องนี้” ผมยืนกำมือน้ำเสียงสั่นเครือ

 

“กูรักมึง”

 

ผมทรุดฮวบก้มหน้าน้ำตาคลอ รักกูแล้วเดินหนีกูทำไม เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับมันกันแน่ ก่อนหน้าที่มันออกไปคุยโทรศัพท์มันก็ยังดี ๆ อยู่ แล้วตอนนี้เหมือนมันพยายามหนีผม ห่างจากผมออกไปเรื่อย ๆ

 

…………………………………………………………………

 

เพทาย

 

แหมะ แหมะ

 

“กูไม่คิดว่าจะเห็นน้ำตามึงอีกครั้ง” ผมสูดน้ำมูกเข้ามืดปาดน้ำตาทิ้ง ติ้วนั่งมองผมมือมันคีบบุหรี่สูดเขาปอด ผมเลือกจะมาหาไอ้ติ้วเป็นคนแรกเมื่อมีปัญหา ความคิดมันผู้ใหญ่กว่าผมมากและดูพึ่งพาได้

 

“…กูไม่มีตัวเลือกอื่นอีก กูเกลียดมัน กูจะไปฆ่ามัน!”

 

“อย่าใจร้อน มึงฆ่ามันมึงติดคุก คนรอบข้างเสียใจ และมึงจะปล่อยให้เมียมึงอยู่คนเดียว?”

 

“ไม่” ผมยกกำปั้นทุบพื้นระบายความอัดอั้นที่อยู่ในใจ

 

“กูไม่เข้าใจไอ้ลม มันต้องการอะไรจากมึง แล้วมาเอาอะไรตอนนี้วะ มึงคบต้นข้าวมาตั้งนานก็ไม่เห็นมันจะมายุ่ง”

 

ยังจำที่ผมบอกว่าผมคุ้นหน้ามันไหมครับ ไอ้ลมมันเป็นหลานอีกคนของปู่ เป็นญาติที่ผมเกลียดหน้ามันทั้งตระกูล มันเป็นหลานคนโปรดที่ใครก็แตะต้องไม่ได้ ผมไม่ชอบเอาใจใครเหมือนมัน ไอ้ลมมันขยันไปหาปู่และเอาใจท่านสารพัด ผมลืมมันไปได้ยังไงกัน

 

“เรื่องนั้นกูจัดการมันแน่ไม่ต้องห่วง เรื่องที่กูเครียดคือปู่มากกว่า”

 

ผมเหลือสอบอีกสองวัน เป็นสองวันที่ผมไม่อยากให้มันผ่านไป เพราะหลังจากวันนี้ผมคงไม่ได้อยู่ที่ไทย ถึงเกรดผมจะออกมาน่าพอใจแค่ไหนผมก็ต้องไป…

 

“แกจะคบกับใครฉันไม่เคยสน แต่ตระกูลเราต้องไม่มีเรื่องเสื่อมเสียแบบนี้ ถ้าคิดเล่นๆ ฉันก็จะไม่ยุ่ง แต่ถ้าแกจริงจังถึงขึ้นเป็นเดือนแบบนี้ฉันไม่ยอม ฉันให้แกเลือกระหว่างมาเรียนต่อที่นี่ อยู่ใกล้ ๆ ฉันกับเลิกกับไอ้ผู้ชายคนนั้นซะ แกต้องเลือกนะหลานชาย ฉันให้สิทธิ์แกเลือกเต็มที่”

 

“ปู่ ผมขอต่อรอง ถ้าผมอยู่ที่นั่นแล้ว ผมขอติดต่อกับต้นข้าว ผมขอ…”

 

“แกต่อรองได้ด้วยเหรอหลานชาย ถ้าเจ้าลมไม่มาบอกฉันคงเป็นคนแก่ที่โง่ไปอีกนาน คิดว่าฉันสมควรให้แกต่อรองได้งั้นเหรอ ฉันปล่อยแกไปนานแล้วเพทาย อีกไม่นานฉันก็คงจะตาย แต่กว่าจะถึงเวลานั้นแกก็ควรอยู่ที่นี่ดูแลฉัน จำไม่ได้หรือไงว่าใครเลี้ยงแกมา”

 

เมื่อก่อนตอนที่ป๋าเลิกกับแม่ใหม่ ๆ ป๋าก็ให้ผมไปอยู่กับปู่ที่อิตาลี ผมอยู่ได้หนึ่งปีก็ทนกับสายตาของไอ้ลมไม่ไหว มันจ้องจะกินผมอยู่ตลอดเวลา ยิ่งปู่เปิดทางให้ผมกับมันได้อยู่ใกล้กันมันยิ่งได้ใจ ผมเลยหนีกลับมาไทยและไม่กลับไปอีกเลย และไม่รู้ด้วยว่ามันมาไทยตอนไหน

 

“มึงลองคุยเรื่องนี้กับพวกเฮียแล้วเขาว่าไง?”

 

“เฮียกับป๋าบินไปอิตาลีคืนนี้ กูก็ไม่รู้ผลจะออกมายังไง…กูห่วงต้นข้าว วันนี้กูจะบอกมันเรื่องปู่ บอกตามตรงว่ากูไม่อยากปิด ถ้าต้องห่างกันจริงกูก็ให้สองวันนี้ให้กูได้รักมันอย่างที่กูต้องการ แม่งเอ๊ย! ทุกอย่างกำลังจะดีก็มีเรื่องเข้ามาอีก กูเครียดจะตายห่าแล้วแม่ง” ผมสบถออกมามือชุ่มไปด้วยเลือดสีแดงสด ไอ้ติ้วมันมองมือผมเดินไปเอากล่องพยาบาลมาทำแผลให้

 

“อย่าเพิ่งรีบตาย กูไม่อยากหาผัวใหม่ให้เมียมึง”

 

“เรื่องนี้กูก็เครียด! ให้ตายกูก็ไม่ปล่อยเมียไปให้คนอื่นเด็ดขาด!!!” แค่ผมคิดว่าหากผมไม่อยู่แล้วไอ้ตัวผู้มันจะเข้ามาหาต้นข้าวมากสักแค่ไหน ใจมันก็ร้อนอยากจะกระทืบคนขึ้นมา

 

ปัง!!!

 

ผมกับไอ้ติ้วหันมามองหน้ากัน ไอ้ติ้วมันเปิดลิ้นชักส่งปืนให้ผมกระบอกหนึ่ง เสียงกลุ่มคนวิ่งเข้ามาภายนอกห้องนั่งเล่นที่พวกผมอยู่ เสียงฝีเท้าก้าวเข้ามาหยุดหน้าห้องนั่งเล่น พวกผมชักปืนออกมาเล็งไปหน้าประตู

 

“ผมรู้นะว่าพี่อยู่ข้างใน ออกมาเถอะครับอย่าให้ใช้กำลัง” เสียงไอ้ลม ผมเดินไปเปิดประตูเจอหน้ามันลอยหน้าลอยตาโดยข้างหลังมีลูกน้องมันอีกหลายสิบคน ไม่ต้องสงสัยว่ามันขึ้นมาได้ยังไงโดยไม่มีใครห้ามเอาไว้ ก็ชุดที่มันใส่มันเหมือนแขกทั่วไปที่มาซื้อคอนโดอยู่ ไอ้ลมมันสวมสูทมือต่อโทรศัพท์หาคนหนึ่ง

 

“อะไร?” ผมถามเมื่อมันยื่นโทรศัพท์ให้

 

“ปู่อยากคุยด้วย พูดสิครับ”

 

“มึงมันเลว” ผมกัดฟันพูดเสียงเข้ม “ครับปู่…อะไรนะ!! ไม่มีทาง!! ไหนว่าอีกสองวันไง ทะ…” เสียงของเพทายขาดหายไป ลมยิ้มเยาะเย้ยมือเก็บผ้าเช็ดหน้าที่มียาสลบใส่ถุงใสก่อนสั่งให้คนเอาไปทิ้ง ติ้วโดนตีเข้าที่ท้ายทอยสลบเหมือดหมอบกับพื้น

 

“พี่ไม่มีทางมีใครนอกจากผม ไม่ต้องห่วงนะครับ ไอ้พี่ข้าวที่แสนดีมันต้องได้ผัวอีกหลายคนเลย เพราะผมจะใจดีหาให้มันเอง” มือบางตบหน้าหล่อพูดกับคนที่ไร้สติหลับคอพับล้มลงกับพื้น

 

“จัดการข้างนอกเรียบร้อยแล้วใช่ไหม” ลมถามลูกน้องที่ออกไปพังกล้องทุกตัวที่ติดอยู่ทั้งชั้น และทำลายเทปที่ห้องควบคุมอย่างแนบเนียน

 

“ครับ”

 

คนทั้งหมดออกไปจากห้องปล่อยติ้วเจ้าของห้องให้นอนสลบไว้เพียงคนเดียว เพทายที่ถูกแบกมาไว้ที่รถคอตกหัวแนบเบาะหลัง ลมยื่นปากไปแตะแก้มหอมมือลูบไล้หน้าหล่อไปตลอดทาง

 

ถ้าพี่ไม่คิดจริงจังกับมัน ผมคงจะไม่ใช้วิธีสารเลวแบบนี้

 

……………………………………………………………………

 

ลม

 

เรื่องของความรักผมไม่มีเหตุผลมาอธิบายมันนอกจากคำว่า…ชอบ

 

ทุกอย่างมันเริ่มจากคำว่าชอบและหลงใหลในทุกอย่างของพี่เพทาย ผู้ชายที่เพียบพร้อมไปซะทุกอย่างมันน่าอิจฉาจนผมเก็บความอิจฉานี้ไม่ไหว อยากจะทำลายทุกอย่างของผู้ชายคนนี้ อยากจะแย่งทุก ๆ อย่างไว้เป็นของตัวเอง แต่นานวันเข้าความคิดของผมมันก็เริ่มนอกกรอบไปอย่างไม่รู้ตัว

 

“มึงมองอะไรวะลม” ผมส่ายหน้าหันไปมองทางอื่นที่ไม่ใช่ร่างสูงของพี่เพทาย

 

“เปล่า”

 

“มึงอย่ามาเปล่า มองสาวที่ไหนวะ” ไม่ใช่ผู้หญิงสักหน่อย ผมเดินหนีมือหยิบกระเป๋าเก็บกลับบ้าน ที่อิตาลีตอนนี้อากาศค่อนข้างหนาวมาก ผมเห็นพี่เพทายนั่งใส่เสื้อผ้าชิ้นบางก็อดจะห่วงไม่ได้จึงเดินลงจากอาคารเรียนไปหาหน้าหล่อ

 

“รอนานยังครับ” พี่เพทายเงยหน้ามองผม

 

“ไม่นาน ที่จริงก็กลับเองได้ทำไมต้องลำบากกูด้วยก็ไม่รู้” ผมกำมือแน่น ถ้าไม่ใช่คำสั่งปู่มีเหรอพี่เพทายจะมานั่งรอผม

 

เมื่อรถมาจอดอยู่หน้าบ้านผมก็ดึงเข็มขัดออกมองคนขับที่มองทางตรงไม่คิดจะกล่าวล่ำลากันสักนิด ผมเปิดประตูทำท่าจะก้าวขาลงก็ตัดสินใจดึงประตูปิดโน้มหน้าเข้าไปใกล้พี่เพทายหวังจะหอมแก้ม

 

“เหี้ย! มึงจะทำอะไรกู” พี่เพทายรังเกียจสัมผัสของผมมือชี้หน้าสายตาหวาดระแวง ผมเม้มปากเมื่อปากที่จะโดนหน้าหล่อมันไม่โดนอย่างที่หวัง

 

“ผมชอบพี่” คำสั้น ๆ ที่ผมบอกออกไปมันคือความกล้าที่ผมรวบรวมเอาไว้ทั้งหมด

 

“กูไม่ได้ชอบผู้ชาย กูชอบผู้หญิง ฟังเอาไว้ว่ากูไม่ชอบผู้ชาย!!” เสียงที่ก้องอยู่ในหัวของผมมันฝังแน่นและกลายเป็นปมในใจที่ยากจะลืม หนึ่งปีหลังจากนั้นพี่เพทายก็กลับประเทศไทย ผมใช้เวลาลืมพี่เพทายได้ไม่กี่เดือนก็ตัดสินใจตามพี่เพทายมาที่ไทย มันคือการหนีที่บ้านมาโดยไม่บอกไม่กล่าวนั่นแหละ

 

 “ต้นข้าว วันนี้มีน้องใหม่มาให้รู้จัก คนนี้ชื่อลมนะจ๊ะทุกคน สอนงานน้องด้วยนะ” ใบหน้าน่ารักของพี่ต้นข้าวมันทำผมคิดว่าพี่คนนี้ท่าทางจะใจดีและอยู่ด้วยกันได้ ผมเกือบจะเชื่ออย่างนั้นถ้าไม่เห็นพี่เพทายที่นี่! และกำลังจูบกับพี่ต้นข้าวอยู่ ทุกคำพูด ทุกการกระทำ มันเป็นความบังเอิญที่ผมผ่านมาเห็นและรับรู้มันทุกอย่าง

 

แชะ

 

รูปถ่ายของพี่ข้าวและลูกค้าที่หล่อเหลาถูกส่งต่อไปยังเบอร์ของพี่เพทายโดยฝีมือของผมเอง คิดว่านิสัยที่เจ้าชู้อย่างพี่เพทายต้องเลิกกับพี่ข้าวแน่ แต่เรื่องราวกลับตาลปัตรกลายเป็นทั้งคู่เข้าใจกันมากกว่าเดิม ผมนึกโทษตัวเองและถอยห่างออกมาดูเงียบ ๆ จากที่คิดว่าหนึ่งเดือนจะเลิกมันกลับยาวนานกว่านั้นมาก บ่อยครั้งที่ผมเผลอจะสั่งลูกน้องให้จัดการพี่ข้าวซะ แต่เพราะความใจดีและรอยยิ้มของพี่ข้าวทำผมต้องใจอ่อนและปล่อยผ่าน

 

“น่ารักกันดีนะคู่นี้ เตไม่เห็นน่ารักแบบเขาบ้างเลยล่ะคะ” พิมทำหน้าเพ้อฝันเอ่ยกับคนรัก

 

“ผมมันผู้ชายเถื่อน คงทำตัวน่ารักแบบนั้นไม่ไหวหรอกนะ”

 

ผมที่นั่งเช็ดถาดเลื่อนสายตาไปมองพี่เพทายและพี่ข้าวด้วยความอิจฉา ทำไมเราต้องยอมเจ็บ มันไม่ใช่นิสัยเราเลยสักนิด พี่ข้าวมีอะไรดี ผมคิดว่าผมทั้งรวยกว่าและการศึกษาที่ดีกว่าทำไมต้องมานั่งมองภาพบาดใจนี้ด้วย และความคิดที่จะแย่งมันก็ผุดขึ้นมาในหัว

 

ลมเสมองไปนอกรถตลอดการเดินทางไปสนามบินเพื่อตรงไปอิตาลี ความอ้างว้างความโดดเดี่ยวมันเกาะกุมหัวใจของผู้ชายคนหนึ่งที่รักใครไม่เป็น มีเพื่อนก็ไม่จริงใจ มีแฟนก็หวังจะรวยทางลัด คงมีแต่พ่อแม่ที่พอจะเข้าใจเขาบ้าง มันน่าจะคิดเช่นนั้นถ้าหากว่าพ่อแม่ไม่บังคับให้เขาไปเยี่ยมคุณปู่อยู่ตลอดเวลาจนกลายเป็นหลานคนโปรด ที่มีอยู่มันยังไม่พอใช่ไหม ผมต้องฝืนตัวเองไปอีกนานแค่ไหน

 

……………………………………………………………………………

 

ป๋า

 

“คุณพ่อจะทำกับลูกชายผมแบบนั้นไม่ได้นะครับ”

 

“เพมันหลานของฉันนะ ทำไมฉันจะทำอะไรกับมันไม่ได้ แกตามใจลูกเกินไปจนเสียคนยังมีหน้ามาขอร้องฉันอีกรึไง”

 

“ปู่ครับ แต่เขารักกัน การที่ปู่ทำแบบนี้มันเหมือนไปพรากคนรักเขานะครับ เพลงไม่ยอม และไม่มีวันยอม!”

 

“เจ้าเพลง” ผมปรามลูกชายคนกลาง เพลงเงียบลง

 

“หึ แกเลี้ยงลูกได้ดีทุกคนเลยนะ หรือฉันควรจะเอาลูกชายสามคนของแกมาอยู่นี่ให้หมดเลยดี”

 

 “ผมอาจจะเป็นลูกที่ไม่เอาไหน แต่พ่อครับ เรื่องลูกชายผมขอดูแลเอง”

 

 “แกจะคิดยังไงก็เรื่องของแก แต่เรื่องเททายฉันไม่มีวันวางมือง่าย ๆ ตระกูลเราจะเสื่อมเสียแค่ไหนถ้านักข่าวรู้เรื่องพวกนี้ ขนาดเจ้าเพมันไม่ค่อยออกสังคมยังมีนักข่าวบางคนให้ความสนใจ แล้วถ้าเกิดมันทำงานเป็นใหญ่เป็นโต ฉันคงปล่อยให้มันทำลายตระกูลฉันไม่ได้”

 

“ความรักมันห้ามกันได้ด้วยเหรอปู่! ถ้าเกิดตอนนั้นมีคนมากีดกันความรักของปู่กับย่า ปู่จะทำยังไงครับ ป๋าไม่ต้องห้ามเพลงแล้ว เพลงจะสู้เพื่อน้อง เพลงจะปกป้องน้องให้ถึงที่สุด!!”

 

“พยัคฆ์!! ออกไปรอข้างนอกไป ดาต้า เอาเจ้านายแกออกไปก่อน” ผมกุมขมับหันไปตวาดลูกชายคนกลางเสียงดังลั่น

 

“ไม่เอานะป๋า! มึงอย่ามาห้ามกูดาต้า ยังไงเพลงก็ไม่ยอม” เสียงโวยวายของเพลงหายไปพร้อมประตูที่ปิดลง

 

“สงสัยฉันคงต้องสอนเรื่องมารยาทเจ้าเพลงใหม่”

 

“ผมขอทราบเหตุผลของพ่อได้ไหมครับ อย่างน้อยให้ผมได้รู้ว่าพ่อต้องการอะไร เด็กสองคนจะรักจะชอบกันมันก็ไม่แปลก ถึงทั้งคู่จะเป็นผู้ชายแต่สังคมสมัยนี้เปิดกว้าง ผมไม่คิดว่าผมจะหัวโบราณ”

 

“ก็ใช่ ฉันรับได้ที่จะคบหากัน แต่ต้องไม่ใช่คนระดับล่าง! จะให้ฉันป่าวประกาศว่าหลานชายคนดีมันไปคว้าเอาไอ้เด็กข้างทางมาเป็นแฟนรึยังไง และต่อให้ฉันรับได้จริง แต่พอมาเจอกับตัวแบบนี้มันก็ยากจะทำใจได้ แกก็รู้ว่าตระกูลเรา...”

 

“ถ้าลูกชายของผมมันสร้างเรื่องลำบากใจให้พ่อนัก พ่อก็ตัดพวกเราออกจากตระกูลเถอะครับ ผมยอมเป็นคนไม่มีชื่อเสียงดีกว่าจะทำลายความสุขของลูกตัวเอง ผมยอมทิ้งทุกอย่างเพื่อให้ลูกชายทั้งสามคนโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดี และรู้จักรักคนอื่นด้วยหัวใจที่แท้จริง ไม่ใช่การโดนบังคับแต่งงานและการฝืนทำเรื่องที่ตัวเองไม่ต้องการ”

 

“แกคิดจะตัดพ่อตัดลูกกับฉันใช่ไหม?!”

 

“แล้วแต่พ่อจะคิดเลยครับ ทั้งชีวิตผมให้ลูกทั้งสามคนหมด พ่อบังคับผมมาคนหนึ่งแล้ว แต่กับลูกชายผม ผมขอได้ไหมครับ….ผมรักลูกมาก และคงยอมเห็นลูกไม่มีความสุขไม่ได้” เข่าของผมทั้งสองข้างตั้งอยู่บนพื้นพรม พ่อตกใจที่เห็นผมยอมคุกเข่าลงตรงหน้า ผมก้มหัวลงเป็นลำดับต่อมาเมื่อสีหน้าท่านยังเรียบเฉย

 

“แกไม่กลัวไอ้เด็กคนนั้นมันหวังจะหลอกเจ้าเพบ้างรึไง แกคิดว่าฉันจะใจร้ายกับหลานตัวเองลงได้นานสักแค่ไหนเชียว…ก็ได้…ถ้าไอ้เด็กคนนั้นมันรอเจ้าเพเรียนจบได้ฉันก็จะให้คบกัน แต่ระหว่างนี้ฉันคงให้เจ้าเพติดต่อไปที่ไทยไม่ได้แม้แต่คนเดียว ถ้าเพทายมันขัดคำสั่งข้อตกลงเราถือว่าไม่เคยเกิดขึ้น”

 

“ขอบคุณครับพ่อ แค่นี้ก็พอแล้ว” ผมลุกขึ้นนั่งบนเก้าอี้ตามเดิม ต่อจากนี้ก็อยู่ที่ว่าเจ้าเพกับต้นข้าวจะรักกันแค่ไหน เวลาแค่สองปีมันก็ไม่นานเกินที่รอได้ ป๋าช่วยได้แค่นี้นะลูกชาย

 

……………………………………………………………………..

 

ต้นข้าว

 

แกร๊ก

 

ผมวิ่งไปที่ประตูหลังจากพยายามติดต่อไอ้หล่อทุกวิถีทาง มันกลับมาแล้ว มันกลับมาหาผมแล้ว ต่อไปนี้ผมจะเชื่อฟังมันทุกอย่าง ผมจะไม่…

 

“สวัสดีครับพี่ต้นข้าว”

 

“ลม…”

 

“คงอยากจะรู้ว่าผมเข้ามาได้ยังไง หึ พี่เพทายเขาให้กุญแจผมเอาไว้เองครับ และยังฝากให้ผมมาบอกพี่ด้วยว่าคงไม่กลับมาแล้ว” ลมเดินผ่านร่างของผมเข้าไปข้างใน ผมยื่นนิ่งค้างอยู่หน้าประตู ตั้งสติได้มือปิดประตูสาวเท้าเข้ามาหาลมที่นั่งไขว่ห้างท่าทีสบาย

 

“หมายความว่าไง”

 

“พี่ยังกล้ามาถามผมอีกเหรอครับ ผมจะบอกอะไรให้นะ” ลมนั่งเท้าคางยื่นหน้าเข้ามาใกล้ผม “เพราะพี่เพเขาเบื่อพี่แล้วไง เห็นว่าคุณปู่มารับตัวกลับไปเมื่อสองชั่วโมงที่แล้ว วันนี้ก็หมั้นกับผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้สิ คงคบกันมานานก่อนจะเจอพี่เสียอีกมั้ง”

 

“ลมพูดอะไร!! อย่ามารู้ดีเกินไปดีกว่า พี่เป็นเมีย! แต่ลมไม่ใช่”

 

“แน่นอน ว่าผมอาจจะไม่ใช่ในตอนนี้ เพราะพี่เพทายต้องแต่งงานกับผู้หญิง…และถ้าให้เดานะครับ พวกพี่ ๆ ของพี่เพก็คงจะมาบอกกับพี่ข้าวว่าพี่เพต้องเรียนต่อที่นั่น ห้ามติดต่อมาไทย และพี่ข้าวก็จะรอเก้อ หึ ๆ น่าสงสารจริง ๆ”

 

กูอาจจะบังคับมึงมากเกินไป

 

คำพูดของมันย้อนกลับเข้ามาในหัว ตัวของผมชาดิกขยับไปไหนไม่ได้ แขนสองข้างทิ้งลงข้างตัว ผมต้องไม่เชื่อคำพูดคนอื่น ผมต้องได้ฟังจากปากมันเท่านั้น…

 

“ถึงกับเข่าอ่อนเลยเหรอครับ อย่าพี่แค่อ้าขาก็มีคนวิ่งเข้าหาไม่หยุด ลืมพี่เพแล้วไปหาคนอื่นเถอะครับ”

               

“มึงเป็นอะไรกับมัน?” ผมกำลังจะเสียสติ แต่แค่อยากรู้ว่าลมมันรู้ได้ยังไง

 

“ผม…ก็เป็นหลานอีกคนของคุณปู่ไง ตั้งแต่วันนี้พี่ก็คงไม่เจอผมที่ร้านแล้วล่ะนะ หมดเวลาเล่นสนุกของผมสักที เพราะผมจะไปอยู่กับพี่เพทาย เจอหน้ากันทุกวัน แค่นี้ก็มีความสุขแล้วจริงไหมครับ หึ ไม่ได้ครอบครองแต่ยังไงซะ พี่เพก็หนีผมไปไหนไม่รอด”

 

“มึงชอบมันมานานแค่ไหน กูถามว่านานแค่ไหน?!!”

 

“ก็ก่อนจะมาเจอมึงไง!! พี่เพบอกไม่ชอบผู้ชายแต่ก็มาคบกับมึง! กูใจดีมากแล้วนะที่ไม่ทำอะไรมึง แต่เพราะตัวมึงเองที่ทำให้พี่เพต้องเดือดร้อน เพราะตัวมึงไง! ที่งี่เง่าเอาแต่ใจแต่พี่เพก็ไม่เคยพูด แต่มึงก็หน้าโง่ที่ให้พี่เพหลอกมาได้นานขนาดนี้ เพราะยังไงคนที่พี่เพต้องแต่งงานด้วยก็คือผู้หญิง! มึงมันก็ของเล่นฆ่าเวลาเท่านั้นแหละ”

 

“มันไม่ได้หลอกกู ไม่มีทาง!!”

 

“งั้นก็มาคอยดูกันว่าสิ่งที่ผมพูดมันจริงไหม ผมจะเอาหลักฐานมาให้พี่ดูเอง จะได้ตาสว่างเลิกหลอกตัวเองสักทีว่าพี่เพเขารักพี่ เหอะ เชิญหน้าโง่ต่อไปนะครับ ผมกลับล่ะ”

 

ลมปิดประตูเสียงดังหลังแนบพื้นไม้แอบฟังเสียงข้างในก่อนจะยกยิ้มพอใจเมื่อแผนการสำเร็จไปอีกขั้น แต่งงานที่ไหนกัน หึ พี่เพต้องเป็นของผมแค่คนเดียวเท่านั้นแหละ แค่คนเดียว!

 

………………………………………………………………………………

 

เพทาย

 

“ครับ” ผมนั่งเหม่อตอบรับคำสั่งของป๋าจิตใจไม่อยู่กับตัว เฮียเพลงดึงผมเข้าไปกอดบอกจะดูแลต้นข้าวให้ผมเป็นอย่างดี ครั้งนี้ผมไม่โวยวายได้แต่กุมมือพี่ชายตัวเองแน่นเงยหน้าทั้งน้ำตาให้มันเห็น

 

“ดูแลหัวใจของเพด้วยนะครับ บอกมันว่าเพจะกลับไปแน่นอน ผมรักมัน”

 

“เห้อ~ เฮียขอโทษที่ช่วยอะไรไม่ได้ แต่…พยายามเข้านะ เฮียจะส่งข่าวมาหาบ่อย ๆ ถึงปู่จะห้ามให้เพติดต่อมาที่ไทย แต่เฮียจะเอาดาต้าไว้ที่นี่ มันฉลาดพอจะช่วยเหลือเพได้ โจ้มันโทรมาว่าเดี๋ยวจะมาหาบ่อย ๆ งานที่นั่นไม่ต้องเป็นห่วงมันดูแลได้ เรื่องเมียก็เช่นกัน”

 

ไอ้โจ้มันก็คงอยากจะมาอยู่กับผมด้วยแต่ติดงานในส่วนที่ผมดูแลให้ป๋าอยู่ ไม่มีแม้แต่เวลาจะล่ำลา ไม่มีแม้แต่เวลาจะเห็นหน้ากัน ปู่ทำไมใจร้ายกับผมนักครับ ต้นข้าว…กูคิดถึงมึง กูรักมึง เสียงที่ร้องอยู่ในใจมันคงส่งไปไม่ถึงอีกคนสินะ สองปีของผมและมันจะเกิดอะไรขึ้นบ้างก็ไม่รู้ ใครคิดว่ารักมันเป็นเรื่องง่าย ผมว่าอุปสรรคของเรามันเยอะจนเกินไป เยอะจนผมตั้งรับไว้แทบไม่ไหว

 

ขอให้มึงเชื่อกู เชื่อในความรักของเรา…

 

 

 TBC.

 

 

 เพิ่งจะได้พักเองจ้า ว่างปุ๊บมาต่อให้ทันทีเลย ขอโทษนะ งานมันเยอะมากเลย

จะสอบแล้ว อ. ชอบเทงานให้ทำ พรุ่งนี้จะมาลงพี่ตี๋ต่อให้หายคิดถึงนะ

เรื่องนี้จะจบแล้วด้วย ม่อนบอกเลยว่าไม่ดราม่า ต้นข้าวไม่โง่นะ หลังจากคิดได้อะนะ

 

 

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
6.4 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
4.8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
5.4 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา