Waiting for love รอเธอรัก...ควักหัวใจยัยเพื่อนซี้

-

เขียนโดย ภีรภร

วันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2558 เวลา 00.44 น.

  15 ตอน
  0 วิจารณ์
  15.35K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2558 17.18 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

14) ความรู้สึกที่เริ่มเปลี่ยนไป

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

               หนึ่งอาทิตย์ต่อมาตลอดเวลาที่ผ่านมาฉันพยายามหลีกเลี่ยงการพบหน้าณดล ไม่ใช่เพราะรังเกียจอะไรหรอกแต่ฉันต้องคอยทำตัวห่างเขาไว้เดี่ยวคนก็เอาไปต่อเติมแต่งข่าวขึ้นมาอีก อย่างเมื่ออาทิตย์ก่อนฉันบังเอิญเจอณดลที่ร้านสหกรณ์ ฉันหอบขนมออกมาเต็มไม้เต็มมือ ณดลเจอเข้าเลยอาสาช่วยถือ จะปฏิเสธก็ไม่ได้เพราะเขาบอกว่าจะไปคุยธุระกับสี่หนุ่ม ฉันกับเขาจึงตกเป็นข่าวอีกครั้งหาว่าฉันออดอ้อนให้ณดลซื้อขนมให้ เหอะ! ฉันหลอกล่อทั้งอ้อนวอนขอเงินเมฆมาซื้อต่างหากเล่า!              

     ฉันกับณดลไปถึงโต๊ะนั่ง พวกสี่หนุ่มส่งตาขวางให้ฉันทันทีโดยเฉพาะมะขามทั้งตาขวางทั้งหน้าบึ้ง ไม่คุยกับฉันจนกว่าณดลจะกลับ พอณดลกลับไปมันก็เทศนาฉันยกใหญ่ จะอธิบายยังไงมันก็ด่าอีกว่า 'หาข้ออ้างไม่ได้หรือไง จะรีบไปทำงาน ปวดขึ้ ปวดท้อง รีบส่งงานอาจารย์ ไม่ได้อยู่กับพวกฉัน โกหกไปสิ เก่งจริงเรื่องแถกับเถียงพวกฉัน ที่กับไอ้ดลใบ้กินรึไง หรืออยากเป็นข่าวกับมัน' ด่าจนฉันน้ำตาคลอ ไม่ใช่เพราะมันด่าเจ็บหรอกนะ ด่าแรงกลัวนี้ฉันก็รับมือได้ แต่น้อยใจต่างหาก มันเหมือนเราถูกไม่ไว้ใจไม่เชื่อใจถึงพูดยังไงก็โดนด่ากลับ ไม้ไฟเห็นฉันน้ำตาคลอเป้าก็ไม่ช่วยห้ามมะขามกลับตั้งคำถามชวนเอาฉันงงกับตัวเอง 'เดี่ยวนะ ช่วงนี้ทำไมแกอ่อนไหวกับคำพูดมันจังวะ ปกติจะเถียงไม่ใช่หรอ' ใช่ปกติฉันจะเถียงไม่ก็ด่ากลับ แต่ช่วงนี้ฉันกลับอ่อนไหวง่ายกับคำพูดของมะขาม และทุกครั้งที่มันด่า ฉันจะแอบน้อยใจอยู่ลึกๆ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ฉันกลับไม่รู้สึกน้อยใจหรือเก็บคำพูดมันมาคิดให้เปลืองสมองและอย่างตอนนี้ขณะที่ฉันกำลังเดินลงบันไดไปเข้าห้องน้ำที่อยู่ชั้นล่างของตึกเรียน ฉันก็เก็บคำพูดก่อนหน้าที่ของมันมาคิด 'แกเดินลงบันไดดีๆ ล่ะ ดูแลชบาด้วยเดี่ยวมันไปฟาดงวงฟาดงาใส่คนอื่น ฮ่าๆ' แล้วก็ตามมาพร้อมกับเสียงกรีดร้องและด่ากลับของชบา ผู้หญิงร่างท้วม ชื่อเล่นจริง “แก้ว” ซึ่งมันทำให้นึกถึงช้างชบาแก้วในหนังเรื่องก้านกล้วย พวกเราเลยเรียกมันว่าชบา(แก้ว) แล้วนี่ฉันก็มาน้อยจงน้อยใจมันอีก รู้ทั้งรู้ว่ามันพูดแซว แต่การที่มันพูดว่า เป็นห่วง ผู้หญิงคนอื่น ฉันก็อดไม่ได้ที่จะนอยด์

    "พี่คะ จำหนูได้มั้ย"

    "หือ?" ฉันหยุดเดินแล้วบอกให้ชบาเข้าห้องน้ำไปก่อน หันมามองหน้าคนที่อยู่ตรงหน้าอย่างสงสัย

    "จำหนูได้มั้ย" หน้าตาอย่างนี้ เสียงแบบนี้

    "อ่อ น้องที่ทำน้ำหกใส่เสื้อพี่" สีหน้าน้องดูชีดลงหลังจากที่ฉันพูดจบ ก่อนจะยิ้มแหยๆ นี่ฉันไปตอกย้ำความผิดคนจนได้

    "แหะๆ ค่ะ"

    "มีอะไรหรือเปล่า พี่ปวดฉี่"

    "พี่มะขามล่ะ" ว่าแล้วก็มองซ้ายมองขวา "ไม่มาด้วยหรอพี่"

    "พี่มาฉี่ มันจะมาได้ไง บ้าเปล่า"

    "เห็นตัวติดกันตลอดนี่ อ้อลืมไปพี่มาฉี่นี่เนอะ". เพิ่งคิดได้?

    "หนูว่าจะถ่ายรูปพี่สองคนไปอวดเพื่อน เสียดายพี่มะขามไม่มาด้วย งั้นหนูขอถ่ายรูปกับพี่แล้วกัน มาๆพี่มา ยืนตรงนี้" เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาจัดที่ยืนให้ฉัน แล้วมายืนข้างๆ "ยิ้มสิพี่ หนึ่ง สอง สาม!"

    แชะ!

 

    "ไปก่อนนะพี่ หนูชื่อฟีโน่นะ. บาย~" เอ่อยัยเด็กคนนี้ ขอถ่ายรูปเสร็จก็เผ่นทันที นี่ฉันดัง

ขนาดคนขอถ่ายรูปเชียว! แอบเขินนะเนี่ย^^

 

 

               หลังจากฉันทำข้อสอบท้ายบทเรียนวิชาเคมีมาด้วยความเหนื่อยยากลำบาก และเนื่องจากสมองด้านคำนวณไม่พัฒนา คะแนนที่ออกมาเลยผ่านแบบฉิวเฉียด พวกสี่หนุ่มก็ซ้ำเติมไม่หยุด ไอ้ไม้ไฟที่ได้คะแนนมากกว่าฉันเท่าไหร่ก็ทับถมไปอีก ไอ้สามคนที่เหลือได้คะแนนดีหน่อยก็เยาะเย้ยอย่างน่าหมั่นไส้ แต่ยังมีน้ำใจมาช่วยติวให้เพราะเห็นว่าคะแนนที่ได้คงได้มาแบบฟลุคๆ สรุปว่าพวกมันสี่คน ไม่สิสามคนมานั่งติวให้ฉันกับไม้ไฟที่โต๊ะหินอ่อนใต้ต้นมะม่วงข้างชมรมหลังเลิกเรียน

"เจ้าฟ้า! ฉันบอกกี่ครั้งแล้วแกจำค่าธาตุผิด"

"เออ รู้แล้วน่า"

ป๊อก!  นั่นไงพอเถียง มะขามก็ใช้ปากกาเคาะหัว ไม่ใช่เคาะเบาๆนะ มัน้เคาะแรงมากสะเทือนไปถึงสมอง 

"เจ็บนะ!"

"เจ็บสิดี จะได้จำสักที". 

"-0-"

"แกก็อีกคน จำชื่อธาตุผิด" คราวนี้มะขามบ่นไม้ไฟบ้างแล้ว ฉันแลบลิ้นใส่มันทีนึงโทษฐานที่เมื่อกี๊ฉันแอบเห็นมันยิ้มเยาะเย้ยฉัน 

"แกก็ไม่ต่างจากฉันหรอก ทำเป็นเยาะเย้ย"

"หยุดเล่นได้แล้ว โง่ขนาดนี้ยังใม่สำนึก" 

ฉึก!!! 0_0 มันคืออะไรรรรร จู่ๆไตรก็ด่าคำอันแสบทรวง ฉันกับไม้ไฟสะดั้นไปสามวิก่อนจะตั้งใจฟังพวกมันติวต่อโดยไม่ปริปากอีกเลย

ว่าไปแล้วสามคนนี้สอนเข้าใจกว่าการที่ฉันต้องพยายามจดๆ และตั้งฟังในห้องเรียนอีกนะ. หรือง่าพวกมันเลือกใช้คำพูดที่เข้าใจง่ายไม่วิชาการเกินไป สมองไม่พัฒนาแบบนี้ฉันเข้าใจและทำข้อสอบที่พวกมันให้ได้เกือบเต็ม 

"ตกลงว่าวันนี้แกจะเลี้ยงอะไรวะ" ไม้ไฟหยิบกระเป๋าขึ้นมาพาดบ่าแล้วเดินมาโอบไหล่ฉัน "ตามข้อตกลงอย่าลืม" 

"แกเดินไปสั่งรอเลยไป" 

ด้วยความปากไวและมั่นใจว่าจะทำข้อสอบได้เต็ม ฉันกับไม้ไฟเลยตกลงกันว่าคนที่สอบไม่ได้คะแนนเต็มจะต้องเลี้ยง ถ้าไม่มีใครได้เต็มก็ไม่เลี้ยง สรุปแล้วไม้ไฟมันได้ทำได้เต็ม ฉันต้องเดินหน้าบูดบึ้งเพราะจะเสียเงินเลี้ยงมันนี่ล่ะ. ไม่ใช่ว่าฉันเลี้ยงเพื่อนไม่ได้หรอกนะแต่นี่ไอ้ไม้ไฟมันไม่ได้กินแต่มันเขมือบ 

"ฉันมีนัด ไปก่อนนะ" เมฆเดินตัวปลิวไปยังทางออกโรงเรียนโดยไม่สนใจเสียงเรียกจากไม้ไฟ

"มันรีบไปไหนวะ" 

"แฟน"

"แกช่วยพูดให้เข้าใจได้มั้ยวะ ไตร"

"มันรีบไปหาแฟน" มะขามเป็นคนไขข้อสงสัยของไม้ไฟ แล้วหยิบกระเป๋าขึ้นมาพาดบ่บ้าง ก่อนหันไปบอกไม้ไฟ"แกรีบไปสั่่งเมนูรอเลย ไปถึงจะได้กิน"

"เออ ไปเว้ยไตร" รับคำโดยดีแล้วตวัดแขนลากคอไตรเดินนำออกไปได้สักพัก แล้วหยุดเดินหันมา"ปล่อยให้มันสองคนสวีทวี้ดวิ้วกัน แล้วอย่างนี้นมปั่นที่ว่าหวานจะสู่พวกมันได้มั้ยวะไตร"

"ไม่รู้ว่ะ"

"รับมุกหน่อยดิวะ". 

ฮ่าๆ ไม่รู้ว่าฉันจะขำหรือจะเขินกับคำแซวไม้ไฟดี ระหว่างที่ฉันกับมะขามกลั้นขำอยู่ เสียงไม้กระแทกของแข็งดังขึ้นและตามด้วยเสียงตะโกนโวยวายดังมาจากข้างสนามบาส มะขามยัดกระเป๋าใส่มือฉันก่อนจะหมุนตัว ฉันรีบคว้าต้นแขนมันไว้ก่อน

"นั่น! แกจะไปไหน"

"แกไปรอที่ร้านก่อน เดี่ยวฉันตามไป"

"ไม่ ฉันใปด้วย" 

มะขามมองหน้าฉันก่อนตัดสินใจกุมมือฉันแน่น "ระวังตัวด้วย" 

"แกก็เหมือนกัน" มะขามยิ้มรับก่อนที่เราสองคนออกเดินไปยังต้นเสียง ยิ่งเดินเช้าไกลมากเท่าไหร่มือหนาที่กุมอยู่ยิ่งเพิ่มแรงในการกุมมากขึ้น ไม่ใช่เพราะมะขามกลัวแต่เป็นฉันที่เริ่มขาสั่นมือเมื่อเข้าใกล้เสียง

"ไปรอฉันที่ร้านดีกว่า". เสียงกระซิบดังแผ่วเบาข้างหูเมื่อเราเดินมาใกล้ต้นเสียงมากขึ้น ฉันส่ายหน้าไปมาแทนคำตอบ บีบมือที่กุมเป็นการยืนยันว่าจะไม่ไปไหน.

ภาพเหตุการณ์ในอดีตผุดขึ้นมาตอกย้ำความรู้สึกตอนนี้ยิ่งทำให้ฉันเป็นห่วงมะขามมากขึ้น ครั้นเราเรียนอยู่ชั้นป.ห้า ช่วงเวลาหลังเลิกเรียน มะขามที่มีใบหน้าบวมเป่ง เสื้อผ้ายับเยินจากการถูกรุ่นพีผู้ชายสามคนรุมต่อยเพราะรุ่นพี่หนึ่งในนั้นผลักฉันตกคลองน้ำเล็กๆภายในโรงเรียนหลังจากเข้าใจผิดว่าฉันเป็นทอมแล้วไปแย่งแฟนพี่แก. มะขามอยู่ในเหตุการณ์มันเข้าไปกระชากตัวพี่่คนนั้นมาชกหน้าแต่กลับถูกพี่อีกสองคนช่วยกันขวางไว้แล้วรุมต่อย ฉันพยายามห้ามและเรียกคนมาช่วยแต่กลับไม่มีใครอยู่ในโรงเรียนในยามตะวันเริ่มตกดิน ฉันคว้าท่อนไม้ที่วางอยู่ข้างขึ้นฟาดลงกลางพี่คนหนึ่งเลยทำให้ฉันถูกล็อกตัวไว้ มะขามพยายามเข้ามาแต่ถูกถีบหงายหลังลงคลองแต่ก็เหมือนสวรรค์มาโปรดลุงภารโรงที่กำลังกลับบ้านวิ่งเข้ามาช่วย และนับตั้งแต่นั้นมาฉันพยายามทำตัวให้เข้มแข็ง เรียนเทควันโด้ส่วนมะขามไปเรียนมวยไทยไว้เพื่อป้องกันตัว และครั้งนี้ฉันจะไม่มีทางปล่อยให้คนที่กุมมือเป็นอะไรเด็ดขาด

"ระวัง". มะขามเตือนเบาๆ บอกให้ระวังกระเบื้องที่วางเรียงซ้อนกันขึ้นมาสองสามแผ่นขวางทางเดินข้างตึกหลังสนามบาส เราเลือกเดินอ้อมมาด้านหลังตึกเพื่อไม่ให้คนพวกนั้นรู้ตัว มะขามหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดแอพพิเคชั่นกล้องถ่ายรูปขึ้นมาเตรียมไว้บันทึกวิดีโอเพื่อเป็นหลักฐาน เราค่อยๆ เดินก้มตัวไปหลบที่พุ่มไม้พุ่มหนึ่งที่สามารถบดบังเราได้

"มึง! อย่ามาเสือกเรื่องพวกกุ"

"พวกมึงทำร้ายผู้หญิง แล้วจะให้กุอยู่เฉยๆหรอวะ! ปล่อยตัวยัยนั้นมา!"

"มึงเป็นประธานโรงเรียนแล้วพวกกุจะฟังรึไง กุไม่กลัวมึง!"

พลั๊ว!!!!

"หะ..อุ๊บ" ก่อนที่ฉันจะอุทานออกไปมือหนาก็ตปบปากฉันพลางส่ายหน้าบอกให้ฉันเงียบ. 

คนที่ถูกต่อยคือณดล เขาถูกผู้ชายอีกสองคนล็อกตัวไว้ให้นั่งคุกเข่ากับพื้น  ข้างหน้าณดลเป็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหน้าคุ้นมาก เอ๊ เฮ้ย 0_0 ฟีโน่  เธอถูกมัดแขนไว้แต่ปากยังใช้ด่าทอพวกนั้นไม่หยุด

"ไอ้เศษสวะ หน้าตัวเมีย"

"ปากดีนักนะ!" ไอ้ผู้ชายคนล่่ำใส่เสื้อนักเรียนโรงเรียนเราบีบคางฟีโน่ 

"โอ๊ย!"

"ปล่อยยัยนั้นไป แล้วมาทำฉันแทน"

"กูไม่หลงกลมึงหรอก ปล่อยยัยนี่ไปมันลากตำรวจมาสิวะ"

"จะทำยังไงมันดีวะพวก" ไอ้หุ่นล่ำหันไปถามเพื่อนอีกสองคน"พวกมันดันมารู้ความลับเรา" เสยค้างฟีโน่ขึ้นก่อนมองด้วยสายตาลวนลาม" ยัยนี่ถึงจะปากหมาไปนิดแต่หุ่นมันนี่..."สายตาที่มองมองไปยังฟีโน่ตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสายตาลวนลาม

ฉันเขย่าแขนมะขามที่กำลังบันทึกวิดีโอ แล้วกระชิบเสียงสั่น"เข้าไปช่วยเลยมั้ย"

"ชู่" มันเอามือจุ๊ปากบอกให้เงียบก่อนหยิบหินที่อยู่ข้างตัวขึ้นมาแล้วเอ่ยเสียงเครียด"อย่าเสี่ยงดีกว่า...ไม่รู้พวกมันมีอาวุธด้วยหรือเปล่า"

"แต่...". ฉับเงียบปากทันทีเมื่อเจอกับสายตาดุๆ

"แกโยนหินนี่ไปใส่ไอ้นั้น" ชี้ไปยังไอ้หุ่นล่ำ "แล้วฉันจะตะโกนว่าตำรวจมา"

ทำไมฉันต้องโยน? ในเมื่อมะขามโยนแม่งกว่าฉันอีก ตอนแรกจะเถียงแต่สายตาที่มองมาก็ทำเอาหุบปากไว้ทันก่อนตอบรับอย่างจำใจ

"อื้ม"

"ถ้าเกิดอะไรขึ้น แกห้ามออกไป ฉันจะออกไปเอง"

ฉันส่ายหน้าไปมาเป็นการปฏิเสธ แต่สายตาดุๆ แกมบังคับที่ส่งมากลับบอกให้ฉันทำตามและหากฉันดื้อดึงแบบนี้คงช่วยณดลกับฟีโน่ไม่ได้

มะขามกำมือก่อนจะชูนิ้วขึ้นทีละนิ้วให้สัญญาณการโยน ส่วนฉันกำก้อนหินแน่นตั้งท่าโยนพร้อมเล็งหัวไอ้หุ่นล่ำอย่างดี  ไม่พลาดแน่!

หนึ่ง

สอง

สาม

ฟิ้ววววววววว~~~  

ตุบ!!!

"เฮ้ย!  มาได้ยังวะ!"

พลาดเป้าได้งายยย ฉันเล็งหัวแต่มันดันเฉียดหัวไป แล้วดูมันหันซ้ายหันขวาหาคนโยน อยากตะโกนบอกจังฉันอยู่ตรงนี้! 

"เยี่ยมมากเจ้าฟ้า"

"?" เยี่ยมบ้าอะไรกัน พลาดเป้านะเว้ย 

"ไม่เลือดตกยางออก ถูกต้องแล้ว" นะนี่คือจุดประสงค์ของมันหรอ มิน่าถึงให้ฉันโยนถ้ามันโยนหัวคงเละแน่ หินก็ก้อนใหญ่ใช่เล่น ใหญ่เกือบเท่าฝ่ามือฉันแหนะ

"ลอยมาเองมั้ง ไอ้โง่" ไอ้คนที่กักตัวณดลเอ่ยขึ้น

"ก็มันลอยจริงๆ"

"ไอ้โง่"

"กุเป็นหัวหน้ามึง ด่ากุโง่ได้ยังหา!!!!!"

"ทำไมกูจะด่ามึงไม่ได้!!!"

เอาแล้ววววว พวกมันจะตีกันเอง เอาเลยๆ ตีกันเองแล้วปล่อยณดลกับฟีโน่มา และก่อนที่มันสองคนจะพุ่งเข้าใส่กัน พวกมันอีกคนก็ห้ามไว้

"พวกมึง จะตีกันทำไมวะ! รีบๆ จัดการสักที เดี่ยวพ่อมึงมา สาดเอ๊ย!!!"

"เออ!/เออ!"

"เอาไงวะทีนี้ กุว่ามีคนเห็นแล้ว"

"มันอยู่ไหนวะ" ว่าแล้วก็มองหาอีกครั้ง" ลากตัวไอ้ประธานมา ส่วนยัยนี้...ว้าวๆ หน้าอกเธอนี่"

"ไอ้ลามก! ทุเรศ! ขอให้ตาแก่บอด!  มองไม่เห็น! เป็นง่อย!!!!!".ก่อนที่ฟีโน่จะเถอะผ่าหมากไอ้หุ่นล่ำ

"โอ๊ยยย!!!!?  ฤทธิ์เยอะนักยัยนี่!!!!"

เพี๊ยะ!!!!

ไอ้หน้าตัวเมีย ตบผู้หญิง. ทำร้ายเพศแม่ ฉันเตรียมจะลุกแต่แรงฉุดมะขามทำให้หงายหลังซบเข้าที่อบมันซะงั้น ตึกๆ อ่า~ไอ้หัวใจบ้า!  เต้นไม่รู้เวล่ำเวลา!!!!!

"อย่าดื้อได้มั้ย" เสียงปรามดังขึ้นได้ยินแค่่สองคน แต่ฟังแล้วมันช่างหนาวเย็นยะเยือกจับขั่วหัวใจ นี่มันคงโกรธแล้ว

หลังจากที่ไอ้หุ่นล่ำทำร้ายเพศแม่แล้วยังเข้าคุกคาม บีบค้างฟีโน่จนเธอนิ่วหน้าอย่างเจ็บปวด"ทำผู้หญิงทำไมวะ!"ณดลพยายามดิ้นออกจากการจับกุม แต่ถูกทุบเข้าที่ไหล่และถูกเตะเข้าที่ขาพับ ล้มลงสู้พื้นอีกครั้ง

ฉันกับมะขามมองหน้ากันอย่างขอความเห็น ฉันพยักหน้าเตรียมพร้อมทำตามแผนต่อไป. จากนั้นมะขามก็เอามือป่องปากแล้วตะโกนออกไป

"ตำรวจครับ!!!!!!  ทางนี้ครับ!!!!  คุณตำรวจ. เร็วๆ ครับ!!!!!"

"พ่อมึงมาแล้ว!!!". 

"หนีสิโว้ย!!!" พวกมันสามคนผละออกจากฟีโน่กับณดลทันทีแต่แล้วไอ้หุ่นล่ำกลับเดินเข้ามาหาณดลอีกครั้ง

"ก่อนไปซักไอ้นี่อีกที"

พลั๊ก!!! 

"โอ๊ย!" ณดลถูกเตะเข้าที่หลังสุดแรงของไอ้หุ่นล่ำจนนอนตัวงอกองกับพื้น. 

"พวกมันหนีแล้วครับ!!!"

"เร็วสิโว้ย"

ตึกๆ ตึกๆ~~~ 

"มันหนีแล้วครับ!!!!" 

"..."

"..."

พวกมันทั้งสามต่างวิ่งหนีตาตั้งบีนกำแพงโรงเรียนออกไป มะขามมองหน้าฉันก่อนถอนหายใจอย่างโล่งออก. มองดูรอบๆว่าปลอดภัยแล้วจึงดึงมือฉันขึ้นออกเดินไปยังฟีโน่กับณดล ฉันรีบพุ่งตัวเข้าไปดูฟีโน่ จับแขนจับขา มองดูตามตัวแล้วทุกอย่าง ไม่มีร่องรอยใดๆ นอกจากบริเวณใบหน้าที่มีซ้ำจากการถูกตบ 

"เจ็บมากมั้ย". ฉันค่อยๆจับแก้มฟีโน่ที่บวมเบ่งผอย่างเบามือสุดๆ

"เจ็บสิพี่ แต่คงไม่เท่าไอ้คุณประธานหรอก. พี่ไปดูเถอะ"

 มะขามกำลังประคองณดลลุกขึ้น สภาพร่างกายที่ต่อยถูกเตะทำให้ณดลไม่มีแรงพอที่จะพยุงตัวเองได้ มะขามจึงต้องรับน้ำหนักณดลมาเต็มๆ  ฉันรีบประคองฟีโน่เดินไปสมทบกับมะขามเพื่อจะช่วยอีกแรง

"แกพยุงไหวไหม. ฉันช่วย"

" ตัวแกบอบบางรับน้ำหนักไม่ไหวหรอก ถึงจะแบกรับน้ำหนักคนละครึ่งก็เถอะ เดี๋ยวปวดไหล่ปวดแขนฉันขี้เกียจฟังแกบ่น"

"นะ..." พยายามเข้าไปประคองณดลแต่มะขามมันก็ผลักหัวฉันออกเบาๆ

"ไม่ต้องไง. อย่าทำให้เป็นห่วงมากสิ"

ตึกตักๆ ~ อ่า. อย่าเต้นๆ อย่าเขินมัน...

"นี่พวกพี่จะเถียงกันอีกนานมั้ย. ถ้าจะจีบกันก็หยุดก่อน ไอ้คุณประธานใกล้เข้าโลงแล้วมั้ง หน้าซีด รีบพาไปทำแผลดีกว่า"

ว่าแล้วพวกเราทั้งสี่ก็มุ่งหน้าไปที่อาคารสภานักเรียนที่ซึ่งมีอุปกรณ์ปฐมพยาบาล มีเกือบทุกอย่าง ของกิน น้ำดื่ม คอมพิวเตอร์ และอีกมากมายที่ฉันสาธยายไม่หมด มะขามประคองณดลไปนั่งโซฟาภายในห้องรับของสภานักเรียน ก่อนรีบหากล่องยามาปฐมพยาบาล 

"ณดล" ฉันเอ่ยเรียกขณะที่ณดลกำลังง่วงอยู่กับการปลดกระดุมเสื้อนักเรียนที่เปรอะเปื้อนเศษดินออก

"หือ?" 

"นายเจ็บตรงไหนบ้าง"

"ที่ไหล่กับหลังนิดหน่อย" ณดลบอกด้วยท่าทีสบายๆ ไม่รู้สึกเดือดร้อนอะไร สงสัยคงเจอเหตุการณ์แบบนี้จนชิน. นักเรียนโรงเรียนเราก็ใช่ย่อยเที่ยวมีเรื่องซกต่อยตลอด พวกสภานักเรียนต้องไปจัดการ เข้าไปห้ามศึก จับแยกและมันคงเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับพวกเขา หากจะได้รับบาดเจ็บ

"นายคงเจอเรื่องแบบนี้บ่อย"

"ใช่ บ่อยมาก แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งก่อนๆ" คุยกับฉันแต่สายตามองเขม่นฟีโน่ที่นั่งเก้าอี้นวมกินขนมอย่างไม่แคร์ใครแล้วสองคนนี้มาเกี่ยวข้องกันยังไง

  มะขามถือกล่องปฐมพยาบาลเข้ามานั่งข้างณดล หยิบอุปกรณ์ทำความสะอาดแผลขึ้นมาแล้วเปิดฝาแอลกอฮอล์ เทลงบนสำลีเตรียมเซ็ดแผลที่มุมปากณดล 

"เฮ้ย!เดี่ยว นี่มันแอลกอฮอล์นะ" ประธานนักเรียนผู้น่าเกรงขามมีสีหน้าหวาดกลัวเมื่อเห็นสำลีชุบด้วยแอลกอฮอล์ พยายามเบี่ยงตัวหลบมะขามที่พยายามทำความสะอาดแผลให้

"ใจเสาะไปได้"

"แกทำเป็นไหมเนี่ย"

"เป็นไม่เป็นไม่รู้" ยิ่งณดลพยายามขัดขืนเท่าไหร่มะขามยิ่งได้ใจ ขึ้นคร่อมณดลที่นอนราบไปกับโชฟาเป็นที่เรียบร้อย มืออีกข้างที่ว่างจากการถือสำลีรวบมือทั้งสองของณดลไว้เหนือหัว ขาสองข้างก็พาดก่าย กดทับขาของคนที่ออกแรงขัดขืน "แต่ที่รู้...คือแกต้องติดใจในสิ่งที่ฉันทำให้" ว่าแล้วมะขามก็ใช้สำลีแตะลงมุมปากณดล

"อ๊ากกกก! แสบเว้ย!" 

"อดทนอีกนิดนะ" แตะสำลีเข้าที่แผลอีกรอบและกดลงสุดแรงอีกครั้ง

"โอ๊ย!!! ไอ้มะขาม แกจะฆ่าฉันรึไง"

"โทษทีๆ พลั้งมือ"

"ไอ้มะขาม!!!"

เอ่อ... ผู้ชายคนหนึ่งกำลังสนุกสนานกับการทำแผลแต่น่าจะออกไปทางแกล้งมากกว่า. อีกคนก็อวดครวญ เจ็บปวดกับบาดแผล ทั้งยังดิ้นรนให้หลุดพ้นจากการพันธนาการ เห็นภาพแล้วมันชักจะยังไงนะ สองคนนั้นคงไม่ใช่...หรอกนะ

"พี่ ทำขอน้ำแข็งหน่อยมาประคบหน้าหน่อยสิ" ฟีโน่เดินมาสะกิดไหล่ฉัน ปากบอกขอน้ำแข็งอย่างพยายามกลั้นหัวเราะสุดๆ 

"โอเค รอแปบนะ"  น้ำแข็งถูกห่อด้วยผ้าเช็ดหน้าที่ฉันพกติดตัวมาเสมอ ความเย็นทำให้ต้องรีบสะบัดมือเพื่อคลายความหนาวเย็น ก่อนจะเปลี่ยนถือผ้าเช็ดหน้าด้วยมืออีกข้าง 

"เจ้าฟ้า!  ถ้ามันเย็นก็ห่อผ้าหนาๆ" ถึงจะง่วนอยู่กับการทำแผลให้ณดลก็ยังไม่วายส่งเสียงบอกด้วยความเป็นห่วง นี่มันมองฉันทุกการกระทำเลยรึไง

"รู้แล้วน่า" ฉันตอบรับพร้อมทั้งเหล่ตามองสองคนนั้น ก่อนยิ้มออกมาเมื่อป๊ะเข้ากับภาพที่ผู้ชายสองคนกำลังมองตากัน สายตาประสานกัน โอ้ว! ทำเอาฉันฟินเลย

สิบนาทีผ่านไป หลังจาก่มะขามและฉันช่วยกันทำแผลให้ณดลกับฟีโน่ เราทั้งหมดต่างนั่งเงียบอย่างไม่รู้จะเริ่มพูดคุยอะไรกันดี ณดลกับฟีโน่สำรวจแผลไป มะขามเก็บอุปกรณ์ทำแผล 

   ฉันก็ฉันยังตื่นเต้นกับเหตุการณ์ที่ผ่านมาไม่หาย มองไปรอบๆ อาคารก็มืดมากแล้ว ไฟที่ส่องสว่างตรงทางเดินเข้าโรงเรียนกลับสลัวๆ บรรยากาศชั่งวังเวงอะไรแบบนี้ ลมที่พัดเข้าทางหน้าต่างชวนขนลุก แล้วไหนจะพวกสามคนนั้นไม่รู้มันจะย้อนกลับมาหรือเปล่า ชีวิตฉันตกอยู่ในอันตรายจากสิ่งมีชีวิตและสิ่งที่ไม่อาจมองเห็นต้องได้ ยิ่งวันนี้เป็นวันพระด้วยใครจะรู้ว่าสิ่งที่มองไม่เห็นอาจอยู่รอบๆตัวเรา

โฮ่งๆ!  บรู๊ว~~~

นั่นไง เสียงหมาหอนมาแล้ว ลมก็กระทบบ้านหน้าต่าง

'เติ้ง'! 

เอี๊ยด! เอี๊ยด! เสียงเหมือนลากของหนักๆกับพื้นอาคาร ฉันค่อยๆ ขยับเข้าใกล้มะขาม

เอี๊ยด! ครืด! 

"มะขาม!" อ่า~ โผเข้ากอดคอมันไว้ซุกหน้าลงกับแผ่นหลังแกร่ง 

"เฮ้ย! เป็นอะไรของแกเนี่ย" 

เติ้ง! เพล้ง!

เสียงมันใกล้เข้ามาแล้ว ฉันชุกหน้าลง ลงเรื่อยๆ จนจะถึงก้นมัน นาทีนี้จะมีกลิ่นมั้ยฉันไม่สน อยากออกไปจากตรงนี้เร็วๆ  "ไม่ๆ อย่าแกะมือฉันออก ฉันกลัวผี" 

"เหลวไหลใหญ่แล้ว เอาหน้าออกจากก้นฉันเดี่ยวนี้" 

บรู๊ววววว โฮ่ง~ โฮ่ง!

"ไม่ๆ นั่นไงเสียงหมาหอน มันเห็นผีนะแก"

"เงยขึ้นมาเจ้าฟ้า"

"ม่ายยย"

เติ้ง!!!  เอี๊ยดดดด!!!! คราวนี้เสียงมันดังอยู่หน้าประตูแล้ววว 

"กรี๊ด!" นาทีนี้ไม่ต้องคิดอะไรมากมาย รีบเด้งตัวขึ้นกอดหลังมะขามทันที เปลี่ยนมือที่เกาะเกี่ยวคอมาโอบกอดหลังแทน หลับตาปี๋ ซุกกับแผ่นหลังมากกว่าเดิม

"..."

"..."

หือ?  เสียงเงียบไปแล้ว คนก็เงียบ

"มันกลัวผี่ขนาดนี้เลยหรอวะไอ้ขาม"

"ก็อย่างที่เห็น"

"ไล่เตะคนอื่นไปทั่วดันไม่กลัว กลับมากลัวผีเนี่ยนะ"

"ผู้หญิง ยังไงก็เป็นผู้หญิงอยู่วันยันค่่ำ"

เสียงคนคุยกันแถมยังนินทาฉันอีก ว่าแต่เสียงมันคุ้นๆ นะ ในขณะที่พยายามนึก มือของคนหรือผีวางลงบนบ่าก่อนออกแรงดันให้ฉีนเงยหน้าขึ้นแต่ฉันพยายามขืนตัวไว้แถมยังกอดมะขามแน่นขึ้น 

"ปล่อยฉัน!" 

"แกปล่อยไอ้ขามได้แล้ว!" เสียงมันห้วยๆ อย่างกับไม้ไฟมาเอง หรือว่าผีเแปลงกายเป็นคนคุยกับมะขามแน่ๆ เลย. เพราะไม้ไฟยังอยู่ร้านนม

"ไอ้ผีบ้า ไม่ต้องมาหลอกเป็นไม้ไฟเลยนะ ฉันไม่เชื่อ. ออกไป"

""โว๊ะ!  ไอ้บ้า ฉันไม้ไฟตัวเป็นๆเว้ย ผีที่ไหนหล่อขนาดนี้วะ กอดมันอยู่อย่างนี้เดี๋ยวสึกหรอหมด ปล่อยไอ้ขามได้แล้ว!" ฉันถูกดึงออกอีกครั้้ง คราวนี้ถูกดึงออกด้วยสองมือ หน้าฉันเด้งขึ้น ทุกอย่างสว่างคาตา กระจ่างแจงทันที ไอ้ไม้ไฟ ไตร มะขาม ณดลและฟีโน่กำลังกลั้นหัวเราะอย่างสุดๆ

ห๊ะ!  นี่ฉันจินตนาการล้ำเลิศเกินไปใช่มั้ย อยากรีบแทรกแผ่นดินหนีด่วน! 

"เจ้าฟ้า เธอนี่ตลกจังนะ หึๆ ~" ถึงมีแผลมุมปาก ณดลก็ยังจะขำ นี่ถ้าอยู่ในสภาพปกติคงจะขำกลิ้งระเบิดระเบ้อเลยมั้ง โอ๊ยอยากจะด่าจริงๆ เห็นฉันเป็นตัวตลกนี่ แต่ใครจะกล้าด่าประธานนักเรียนแถมยังดีแสนดีได้ลงคอ สิ่งที่ทำได้ก็เพียงยิ้ม แล้วก็ยิ้มอย่างยอมรับ 

"แกสองคนมาได้ไง" ฉันถามออกไปอย่างต้องการเบี่ยงเบนความสนใจไปยังไม้ไฟกับไตร

"ไอ้ขามไลน์บอก" 

ไตรที่ไม่ค่อยจะขำมากมายเท่าไม้ไฟเป็นคนตอบ

"แล้วเสียงหมาหอน แล้วก็เสียงดังครืดๆ ล่ะ" 

"หมามันเห็นพวกฉันน่ะสิ แล้วเสียงครืดๆ มันก็เสียงฉันลากถังขยะ นี่อย่าบอกนะแกคิดว่าผี ฮ่าๆ" ไม้ไฟเฉลยออกมา แล้วหัวเราะอีกครั้งอย่างคนเสียสติ มันจะขำอะไรนักหนาฉันอยากกระโดดถีบมันจริงๆ เลยเห็นจินตนาการฉันเป็นเรื่องตลกมากนัก

"แล้วนี่เรื่องมันเป็นมายังไง" ไตรที่ยืนดูไม้ไฟหัวเราะด้วยสีหน้าหน่ายๆเอ่ยถามขึ้นมาก่อนมองไปยังมะขามอย่างต้องการคำตอบ

"ฉันกับเจ้าฟ้าได้ยินเสียงคนต่อยกันเลยแอบย่องดูเลยโกหกว่าตำรวจมา ส่วนเรื่องก่อนหน้านี้ฉันก็ยังไม่รู้".

"ฉันก็เดินตรวจโรงเรียนก่อนกลับบ้าน ได้ยินเสียงตะโกนโวยวายของยัยนี่"ณดลกล่าวพลางส่งสายตา้ไปยังฟีโน่"พวกสามคนนั้นกำลังส่งยา ยัยนี่เห็นเข้าเลยตะโกนลั่น พวกมันเลยจับตัวไว้ ตะโกนทำไมไม่รู้ แทนทีจะจำรูปพรรณสัณฐานไปแจ้งตำรวจ เรื่องนี้ไม่จบแค่นี้แน่"

"ฉันผิดหรือไง จะปล่อยให้พวกมันลอยนวลไปโดยไม่ทำอะไรหรือไง" ฟีโน่เถียงขึ้นทันควัน

"บอกหรือยังว่าให้ปล่อยไป ฉันบอกให้เธอจำรูปพรรณเอาไปแจ้งตำรวจ คิดว่าตัวเป็นผู้ชายหรือไงถึงตะโกนบอกว่าพวกมันส่งยาแบบนั้น ถ้าฉันไม่อยู่แถวนั้นเธอคงเสร็จพวกมันไปแล้ว คราวนี้เธอรอดครั้งหน้าจะคงไม่"

"ใครใช้ให้นายมาช่วยฉัน ทำไมไม่ปล่อยให้พวกมันจับตัวฉันไปเล่า!"

"มันเป็นหน้าที่"

"ฉันไม่ต้องการ!"

"จำเป็นด้วยหรอที่ฉันต้องถามความต้องการของเธอ"

"นาย!" มือน้อยๆ คว้าเข้าที่คอเสื้อณดลอย่างแรง พลางส่งแววตาโกรธเคืองใส่่ณดล สาดใส่คำด้วยอารมณ์เดือด "ฉันไม่ได้ขอ ต่อไปไม่ต้องมายุ่งวุ่ยวายกับชีวิตฉันอีก!"

"บอกแล้วไง มันเป็นหน้าที่" ร่างหนาตอบกลับอย่างใจเย็น ไม่สายแวดโกรธเคืองใดๆ

ทำไมสองคนนี้ คุยกันเหมือนคนรู้จักกันมาก่อนและน่าจะสนิทกันใยระดับหนึ่ง ณดลที่มีท่าทีเป็นกันเองกับฟีโน่ เป็นกันเองในแบบที่ต่อปากต่อคำกันจนอีกฝ่ายโมโห ซึ่งปกติแล้วฉันที่ถือได้ว่าสนิทสนมกับณดลในระดับพูดคุยเล่นกันยังไม่เห็นฌดลยั่วโมโหหรือต่อปากต่อคำขนาดนี้นี้เลย ฟีโน่เองก็ไม่เกรงกลัวหรือเคารพณดลในฐานะรุ่นพี่เลยสักนิด มันยิ่งทำให้ฉันเริ่มสงสัยในความสัมพันธ์ของสองคนนี้ 

ณดลเองถึงแม้จะโดนหญิงสาวตรงหน้ากำคอเสื้อไว้แน่นไม่ยอมปล่อย ไม่มีท่าทีโกรธเคือง ยิ่งสาวเจ้าออกแรงกระชากคอเสื้อณดลกลับไม่สะทบสะท้าน ก็ยิ่งยั่วอารมณ์ร้อนของฟีโน่ขึ้นและก่อนที่คนโดนยั่วจะเปิดศึกอีกครั้งมะขามที่เห็นแววความมาคุกำลังเกิดก็รีบเข้าไปห้ามทัพไว้ด้วยคำพูดทีเล่นทีจริง

"สงบศึกก่อนดีมั้ย จะจิกจะกัด หรือตบตีหลังจากนี้ฉันไม่ว่า จะยืนถือป้ายไฟเชียร์เลย แต่ตอนนี้ช่วยเล่าให้มันจบๆ หน่อยเถอะครับ"

ฟีโน่ยอมผละออกจากณดลแล้วไปนั่งเก้าอี้่ตัวเดิมอย่างขัดใจ

ณดลพยักหน้าเห็นด้วยกับสิ่งที่มะขามพูดแล้วเล่าเรื่องต่อ"ถ้าจำไม่ผิดสามคนนั้นอยู่ห้องแปด มีประวัติโดนขึ้นทัณบน หลังจากวันนี้ไปคงไม่มาโรงเรียนอีก แต่เราต้องระวังตัวมากขึ้นเพราะมันอาจจะย้อนมาแก้แค้น"

"แล้วเรื่องแจ้งตำรวจ"

"เรื่องนี้ค่อนข้างอันตราย ฉันจะปรึกษากับอาจารย์ปกครองก่อน คิดว่าเรื่องนี้ต้องถึงตำรวจแน่นอน"

"ตกลงตามนั้น งั้นตอนนี้เรารีบกลับกันเถอะ ยิ่งมืดยิ่งอันตราย" มะขามบอกแล้วฉุดมือฉันลุกขึ้น "ฟีโน่ เดี่ยวพี่กับเจ้าฟ้าไปส่ง"

"โอ๊ย ไม่ต้องลำบากหรอก ฉันกลับเองได้"

"ถึงเธอไม่กลัว แต่พวกพี่ก็ไม่สบายใจอยู่ดี ฉะนั้นพวกพี่จะ่ไปส่ง ห้ามปฏิเสธ"

"ก็ได้"

"แล้วแกกลับไงวะดล ไปด้วยกันเลยสิ"

"อย่าดีกว่า ใครบางคนคงไม่เต็มใจ" พลางเหล่หางมองฟีโน่

โดนต่อยโดนเตะไม่รู้ข้างในจะซ้ำหรือเปล่า ขนาดเดินยังไม่ไหวเลย แล้วนี่บอกว่าจะกลับบ้านเองเนี่ยนะ

"สภาพนายเป็นแบบนี้ กลับเองได้แน่หรอ" 

"ขอบคุณที่เป็นห่วงนะเจ้าฟ้า ฉันกลับได้จริงๆ"

"กลับด้วยกันเถอะนะ หรือให้ไม้ไฟกับไตรไปส่งก็ได้" ด้วยความเป็นห่วง ฉันลากไม้ไฟมายืนตรงหน้าณดลเพื่อเป็นการกดดันให้ณดลรับปาก "นะ ณดล"

"เอ่อ..."

ระหว่างที่ณดลกำลังตัดสินใจ มะขามก็เอ่ยขึ้น ตัดจบเรื่องทันที "แกสองคนไปส่งไอ้ดล ส่วนฉันกับเจ้าฟ้าจะไปส่งฟีโน่ อย่าเรื่องมากน่าไอ้ดล กลับได้แล้ว มันอันตราย" พอณดลจะแย้งขึ้นมะขามก็ดักคอไว้ก่อน พลันลากมือฉันเดินออกจากห้องอย่างต้องการจบเรื่องนี้

 

 

 

 

ฮาโหลๆ อยู่กันมั้ยเอ่ย?

เอามะขามมาเสริฟต่อแล้วน้า

ปลื้มปริ่มมากที่นักอ่านเปิดอ่าน (อันนี้กำลังใจอย่างดีเลย)

ตัวหนังสือมีสภาพออกมาแบบนี้ต้องขออภัยด้วยนะคะ

ติเตือนแนะนำได้ทุกอย่างค่ะ. ชอบไม่ชอบยังไงบอกได้เลยนะคะ 

ขอบคุณทุกการอ่าน กำลังใจ. คอมเมนต์ ไลค์ โหวต นะคะ 

รับมะขามไว้ในอ้อมอกอ้อมใจสักคนไหมคะ?  ^^

 

 

 

อัพยาวๆ อัพแล้วน้า

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา