ซากุระฤดูร้อน 18+

-

เขียนโดย sanny17

วันที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2558 เวลา 15.41 น.

  20 ตอน
  0 วิจารณ์
  17.35K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2558 15.53 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

10) ตอน10

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
 "คุณหนูคะ คุณพ่อเรียกหาค่ะ" สาวรับใช้ภายในบ้านทรงญี่ปุ่นขนาดใหญ่รายล้อมไปด้วยแพรกพรรณนานาชนิด ทรงประตูไม้เลื่อนชั้นสองของตัวบ้านไม่ได้ถูกเลื่อนเปิดเพื่อแจ้งความประสงค์ต่อเจ้าของห้องเป็นหญิงสาวตัวเล็กในชุดอยู่บ้านสบายๆ ที่ปกปิดตั้งแต่คอยันข้อเท้า
 
    "จ้ะ" หญิงสาวรับคำสั้นๆ ก่อนจะลุกขึ้นเช็คความเรียบร้อยตรงโต๊ะกระจกทรงสี่เหลี่ยมเล็ก "โอเค เรียบร้อยแล้วหล่ะ.." ใบหน้าหวานจัดแดงเรื่อเมื่อนึกถึงเหตุการณ์หวาดเสียวเมื่อเช้า เจ้าคนบ้านั่นชอบพาเล่นอะไรก็ไม่รู้ เกิดถูกจับได้ขึ้นมา พากันนิ้วขาดแหง ...แต่จะว่าไป ก็ยังไม่เคยเลยสักครั้งนี่นะ
 
   "อ้าว มาแล้วหรอฮารุจัง มานั่งนี่สิ" 
 
    ในห้องชุดรับแขกเป็นแบบนั่งพื้นและมีโต๊ะไม้ตรงกลางขัดเงาอย่างดีบ่งบอกฐานะ คุณพ่อมีแขกเป็นชายวัยกลางคนรูปร่างสันทัดแต่งกายด้วยชุดแบบฉบับคนญี่ปุ่นแท้ และหญิงสาวอีกคนเคียงข้างที่ดูจากลักษณะการวางตัวคงเป็นภรรยาของเขา มุมด้านซ้ายของโต๊ะเป็นชายหนุ่มรูปร่างกำยำใบหน้าดูคุณชายโดยแท้ ปกติหากมีแขกมาพบปะที่บ้านแบบนี้ คุณพ่อมักจะเรียกให้ฉันมาหาเป็นประจำ และก็ช่วยแนะนำให้รู้จักคนนั้นคนนี้มากมายไปหมด หวังว่าในอนาคตเมื่อฉันเรียนจบคงได้ช่วยทำงานที่บ้านบ้าง แต่ฉันก็ไม่ขัดข้องหรอกนะ ชินซะแล้ว
 
     "คุณอา ไทจิ และ คุณน้า ลิน จ้ะ " 
 
      ฉันทำความเคารพผู้ใหญ่เป็นลำดับเมื่อคุณพ่อแนะนำ คุณลินที่พ่อพูดถึง ดูมีสง่าจนฉันรู้สึกได้ว่าเธอไม่ใช่คนธรรมดา ทั้งสองยิ้มทักทายอย่างเป็นมิตรจนฉันรับรู้ถึงความรู้สึกอบอุ่นแปลกๆ
 
    "นั่น พี่ฮิซูกิ ลูกชายน้าเองจ้ะ" 
 
    ฉันแอบหันไปมองคนตรงด้านซ้ายมือที่นั่งเงียบไม่พูดไม่จา นัยตาอมยิ้มน่ารัก เขาดูเป็นมิตรดีนะ แถมรัศมีรอบกายยังดูเป็นคุณชายเสียออกอย่างนั้น น้าลินและคถณอาไทจิคงอบรมลูกชายมาอย่างดีเลยทีเดียว และเมื่อฉันแสดงท่าทางทักทาย ฮิซูกิก็ค้อมหน้าลงเป็นตอบกลับ เขาดู..มีเสน่ห์ แบบอบอุ่น คล้ายพี่ชายเลย
 
    "ซูกิคุง นี่ลูกอาเอง ฮารุจัง อีกไม่กี่เดือนก็เข้าการศึกษาชั้นสูงแล้ว ช่วยแนะนำน้องหน่อยนะ อีกไม่นานก็คงได้ช่วยเหลือกันยาวเลยหล่ะ" 
 
   พ่อของฉันเอ่ยสั้นๆ สร้างความประหลาดใจให้ฉันไม่น้อย แต่มันก็ไม่ได้ถูกใส่ใจมากนัก เพราะสายตาหวานเชื่อมที่คนตรงข้ามฉันเอาแต่นั่งมองฉันไม่วางตานี่แหละ ...ถ้าดวงตาเขามีเวทย์มนต์ ป่านนี้ฉันก็คงละลายเป็นไอศครีมโดนต้มไปแล้ว
 
    "ฮารุจัง พี่เขาจบโทจากเม็กซิโก อาจแนะนำลูกได้บ้างเรื่องวางแผนอนาคต ลูกอยากทำออแกไนซ์ไม่ใช่หรือ ลองปรึกษาพี่เขาดูสิ" 
 
    "เอ่อ... ค่ะ" ฉันรับคำพ่อ ทั้งๆที่ไม่เงยหน้าขึ้นด้วยซ้ำ ..ก็มันอายนี่นา ทำไมเขาต้องจ้องเหมือนจะกลืนฉันลงไปยังไงยังงั้น
 
    "ถ้างั้น ผมขออนุญาตพาน้องไปเดินเล่นด้านนอกนะครับ เผื่อผู้ใหญ่จะได้คุยกัน" 
 
   ฮิซูกิเลิกจ้องหน้าฉันเพราะหันไปขออนุญาตคุณพ่อ ตามจริงฉันต้องเป็นคนพูดคำนี้สิ ไม่ใช่หรือ... เขาเป็นอาคันตุกะของบ้านฉันนี่นา 
    แต่พอทุกคนพยักหน้ายิ้มรับ เขาก็เดินนำฉันออกไปทันทีคล้ายเป็นเจ้าของบ้าน 
    แผ่นหลังกว้างของเขาทำไมทำให้ฉันรู้สึกอยากวิ่งเข้าไปกอดออดอ้อนจังนะ มันคง..อุ่นดีพิลึก นี่ฉันคงไม่ใช่สาวช่างฝันไปแล้วใช่ไหม
 
    "ฮารุจัง"  ฮิซูกิพูดคำเดิมเป็นครั้งที่สาม เมื่อในสองคราแรก คนที่เอาแต่ยืนจ้องหน้าเขานิ่งไม่พูดไม่จา ทำหน้าเคลิ้มฝัน จนเขาต้องเรียกอีกครั้งในระดับเสียงที่ดังขึ้น จนเจ้าตัวสะดุ้ง หน้าแดงระเรื่อ ตอบรับเขาอย่างเก้อเขิน
 
   "อะ.. เอ่อ คะ ขอโทษทีค่ะ พอดีฉัน เอ่อ..." ฉันไม่รู้จะพูดอย่างไรดี จะแก้ตัวอย่างไรดี มันตื้อไปหมด จู่ๆเขาก็หันกลับมาทั้งๆที่เอาแต่เดินนำฉันลิ่ว ทีนี้จะแก้ตัวยังไงดีฮารุจัง!
 
    ชายหนุ่มเดินนำมาหยุดตรงบ่อปลาคาร์ฟขนาดใหญ่ความลึกแค่หัวเข่า บรรยากาศเต็มไปด้วยความชื้น บริเวณนี้เป็นสวนที่จัดไว้เดินเล่นผ่อนคลายหรืออยากจะออกมานั่งรับประทานอาหารก็ยังได้ เพราะเป็นวิวร่มรื่น ต้นไม้ใหญ่เก่าแก่ถูกจัดแต่งตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ
 
    "ไม่เป็นไร ฉันเห็นฮารุจังดูเหม่อๆน่ะ เลยเรียก" เขายังอมยิ้มเป็นประกายน่ารัก และฉันก็ชอบใจในการพูดจาและท่าทีของเขาชะมัด 
 
   "เอ่อ ขอโทษค่ะ พอดีฉันคิดอะไรไปเรื่อย"
 
   "บ้านฮารุจังร่มรื่นดีนะ" ฮิซูกิเอามือไพร่ไปด้านหลังและพูดจาทั้งยังมองนั่นมองนี่ สุดท้ายมาหยุดมองหน้าฉัน
 
   "ค่ะ ชอบหรือคะ" 
 
   "ใช่ ฉันว่ามัน ผ่อนคลายดีน่ะ" รอยยิ้มของเขาช่างมีเสน่ห์ หากไม่รู้สึกคันหัวใจเวลาเจอพี่เรียวไปแล้วล่ะก็ ...ฉันคงตกหลุมรักเขาไปแล้ว
 
    "ถ้างั้น ก็มาบ่อยๆสิคะ" ฉันที่ยังไม่ทันคิดไตร่ตรองดีพูดออกไปโดยปากไวกว่าสมอง พูดแบบนั้นเขาจะหาว่าฉันเชิญชวนไหม
 
    "ฮารุจังนี่น่ารักจังนะ ฉันมาบ่อยๆได้จริงหรือ" ฉันไม่รู้ว่าเขาแกล้งถามหรือว่าอะไร แต่ดูท่าแล้วน้าลินอาไทจิ พ่อกับแม่ของเขาดูจะมีเรื่องต้องติดต่อกับคุณพ่ออีกมาก ดังนั้นฉันจึงตอบเกร่อไปว่าหากสะดวกเขาก็มาแวะเยี่ยมเยียนได้ รอยยิ้มอบอุ่นจึงส่งมาให้ฉันอย่างขอบคุณอีกครั้ง และครั้งนี้เป็นเขาที่ก้าวเข้ามาหาฉันอย่างช้าๆ จนอีกไม่กี่ก้าวก็จะชิดกันแล้ว หัวใจของฉันมันเต้นระส่ำไปหมด
 
    "ฮารุจัง พรุ่งนี้เป็นคืนสุดท้ายของเทศกาลดอกไม้ไฟ ไปเที่ยวกันกับฉันไหม" 
 
     เทศกาลดอกไม้ไฟอีกแล้วหรือ....
 
    "ต้องขออนุญาติคุณพ่อก่อนน่ะค่ะ" 
 
    "เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วง คุณพ่อเธออนุญาตแล้วก่อนหน้านี้ อยู่ที่เธอแล้ว ว่าจะไปไหม" แล้วนี่เขาไปขออนุญาตกันตั้งแต่เมื่อไรนะ ก็นี่เป็นการเจอกันครั้งแรก ก็จะชวนไปเที่ยวทั้งๆที่ยังไม่เห็นหน้าน่ะหรือ แม้จะยังแปลกใจแต่ฉันก็ยังเผลอพยักหน้าตอบเขาไป
 
    "แปลว่าอะไรน่ะ ทำท่าแบบนั้น" เขาอมยิ้ม ก้มลงมามองใบหน้าฉัน นั่นยิ่งทำให้ฉันเขินเข้าไปใหญ่ จนต้องเอนตัวไปด้านหลังหลบใบหน้าหล่อเหลานั่น
 
    "ปะ ไปก็ได้ค่ะ" 
 
    "ถ้างั้น เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่ำฉันจะมารับนะ แต่งตัวสวยๆล่ะ เดี๋ยวฉันจะพาไปเล่นอะไรสนุกๆ" 
 เขาเห็นฉันเป็นเด็กหรือไงถึงเอาอะไรพวกนั้นมาล่อ แต่จริงๆ แค่เขาบอกว่าไปเที่ยวกับเขา ฉันก็ยินดี ผู้ชายคนนี้น่าตื่นเต้นสำหรับฉัน เขาเหมือนของแปลกใหม่สำหรับโลกสดใสของผู้หญิงสาววัยรุ่นตอนปลายแบบฉัน เขาดู..น่าค้นหา
 
    หลังจากนั้นทั้งคู่ก็พูดคุยกันไปเรื่อยอย่างออกรส เรื่องส่วนมากก็เป็นเขาที่เล่าประสบป์การณ์หลายอย่างที่ออกแนวตลก จนหญิงสาวอ่อนต่อโลกถึงกับกลั้นไม่อยู่ ขำจนน้ำตาเล็ด และท้ายที่สุดเมื่อต้องร่ำลากัน ความรู้สึกประทับใจในอกจึงเกิดขึ้นมาโดยหญิงสาวไม่รู้ตัวสักนิด ว่าแอบเทคะแนนหัวใจให้ฮิซูกิไปแล้วไม่น้อย
 
 
 
     ประตูห้องนอนถูกเลื่อนเปิดออกและแสดงร่างเจ้าของห้องตัวเล็กน่ารักที่เข้ามาเพียงคนเดียว ร่างระหงส์บอบบางเดินไปยันมุมในสุดของห้องที่เป็นชั้นวางอุปกรณ์การแต่งตัว และเมื่อส่องกระจกดูจึงพบว่า
 
    "นี่ฉันมีความสุขจนหน้าขึ้นสีแดงระเรื่อขนาดนี้เลยหรือ น่าอายจัง" ป่านนี้ทุกคนบนโต๊ะทานอาหารเย็นก็รู้หมดน่ะสิ ว่าฉันน่ะ... มีอากาศแปลกไป น่าอายชะมัด 
 
    พ่อของฉันบอกหลังจากทานอาหารมื้อเย็นกันเสร็จสรรพ ว่าฮิซูกิ เขาเป็นคนสำคัญของบ้านเราในอนาคต ด้วยความรู้เขาเต็มเปี่ยม และพลังหนุ่มไฟแรงเขาจะช่วยบุกเบิกธุรกิจของคุณพ่อฉันให้ค้างฟ้าได้ เพราะเช่นนั้นแล้วฉันควรทำดีกับเขาให้มากๆ ซึ่งตัวฉันเอง หากช่วยอะไรให้ทางบ้านดีขึ้นได้ก็พร้อมจะทำ
   ไม่ใช่เพราะบ้านฉันกำลังแย่หรืออะไรหรอก สิ่งสำคัญคือฉันเป็นลูกสาวคนเดียวของที่บ้าน และหากฉันไม่สืบสานธุรกิจต่อ ใครที่ไหนเล่าจะทำ
   แถมฮิซูกิเองก็ยังดูจะคุยกับฉันได้เคมีพอดีกัน ไม่ใช่เรื่องยากหากฉันจะผูกมิตรกับเขาเอาไว้ หากไม่เข้าข้างตัวเองจนเกินไป ฉันก็พอดูรู้ว่าเขาก็ให้ความสนใจฉันอยู่เหมือนกัน
 
   เสียงข้อความแชทในมือถือดังขึ้นหนึ่งครั้ง จนหญิงสาวที่กำลังนั่งคิดอะไรเพลินๆอยู่ตกใจเล็กน้อย และเดินไปหยิบสมาร์ทโฟนที่นอนอยู่บนโซฟาเล็กในอีกมุมห้องหนึ่งขึ้นมากดดู และพิมพ์ตอบกลับ
 
   'ทำอะไร' เป็นข้อความจากพี่เรียวเอง เขากลับไปเมื่อตอนเช้าตรู่ และเพิ่งส่งข้อความมารบกวนเป็นครั้งแรกของรอบวัน 
 
   'ไม่บอกหรอก แบร่' ฉันแกล้งขัดใจเขาดู เวลาเขาโมโหแล้วทำอะไรฉันไม่ได้ มันตลก
 
   'เดี๋ยวนี้เก่งนะ..'
 
   'แน่นอนสิคะ' 
 
   'พรุ่งนี้ไปไหน' ข้อความของเขาทำให้ฉันชะงักคิดเพียงครู่ ทำไมเขาถามเหมือนรู้ล่ะว่าฉันมีนัด แต่ปกติ เขาก็ถามทำนองนี้นี่นะ คงถามไปเรื่อย
 
   'ไม่บอกอีกได้ไหมคะ' หญิงสาวหัวเราะคิกคักกับโทรศัพท์
 
   'ฮารุจัง... ฉันไม่ใช่เพื่อนเล่น' 
 
   'ก็ใช่สิคะ เป็นโจรปล้นสวาทฉันนี่' หญิงสาวที่ไม่รู้ดีว่าอีกฝ่ายที่กำลังนั่งคีย์งานอยู่ที่หน้าเครื่องคอมพิมเตอร์หน้าจอบางเฉียบกำลังส่งเสียงคำรามไม่พอใจ และบีบข้อนิ้วตัวเองดังกร่อบอย่างคนโมโห และคนที่ไม่รู้เรื่องก็ยังเอาแต่เล่น
 
   'วันนี้ฉันทำงาน ไม่อย่างนั้นฉันจะทำให้เธอร้องลั่นบ้าน และฉันห้ามให้เธอออกไปไหนพรุ่งนี้'
 
   ทั้งที่เขาพูดเพียงเท่านี้ ฉันเองก็เริ่มจะจับความรู้สึกได้แล้วว่า เขาโกรธจริงๆ ชินอิจิแม้จะชอบปรนเปรอฉันด้วยอารมณ์พิศวาส แต่หากเขาพูดคล้ายทำนองว่าจะทำให้ฉันขายหน้า นั่นคือเรื่องจริง แต่ตลอดเวลาที่ได้รู้จัก ชินอิจิก็ไม่เคยทำมันสักครั้ง เพียงแต่ขู่ให้เราว่า เขาจะทำ หากฉันขัดใจเขา ...แต่จะว่าไป ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าเขาไม่ได้ใจร้ายขนาดนั้นนะ
 
   ฉันได้แต่อ่านข้อความของเขาและไม่ตอบกลับไป และนั่นก็เป็นสาเหตุให้คืนนี้ฉันต้องลี้ภัยไปขออาศัยนอนที่ห้องรับแขก หวังจะหลบหากเขาบุกเข้ามาเช่นทุกครั้ง ในบ้านสองชั้นกว้างขนาดนี้ มีห้องรับแขกอยู่หลายห้อง เขาไม่มีทางหาเจอ
 
 
 
 
 
     ช่วงเวลาบ่ายคล้อยหญิงสาวได้ขอตัวจากการเรียนธุรกิจแบบโฮมสคูลเพื่อมาแต่งตัวด้วยชุดกระโปรงเดรสสายเดียวใส่สบาย ลายดอกเดซี่สีขาว ความยาวกระโปรงครึ่งน่องเมื่อถูกสวมด้วยถุงน่องความยาวพอดีชายกระโปรง ยิ่งทำให้ผู้สวมใส่ดูเด็กลง แม้ปกติจะเด็กอยู่แล้วก็ตาม หญิงสาวนั่งจัดทรงผมเรียบร้อยและกำลังจะเก็บกระเป๋าสะพานเดินออกไปด้านนอก หวังจะเดินเล่นรออยู่บริเวณสวนเพื่อรอฮิซูกิมารับ
  
     "ฉันบอกว่าห้ามออกไปข้างนอก ไม่ใช่หรือ" 
 
    "เฮือก!" ฉันกำลังจะจับประตูห้อง รู้สึกได้ทันทีว่าเลือดกำลังพากันจับตัวแข็งไม่ยอมเดิน เพราะเสียงเข้มๆนั่น ดังมาจากด้านหลัง ก็รับรู้รางร้ายได้ทันที อุตส่าห์เบาใจได้ว่าเขาคงไม่ว่างมา และก็จนได้ ชินอิจิเป็นตัวร้ายนี่นะ เขาจะโผล่มาตอนไหนก็ย่อมได้
 
   "แต่งตัวสวยเชียว ไปไหนล่ะ" 
 
   "ไปธุระข้างนอกค่ะ พี่เรียวมีอะไรหรือเปล่า"
 
   "มีอะไรงั้นหรือ ฉันว่าฉันบอกเธอไปแล้วนะ"
 
   "แต่ พี่เรียวไม่ควรมาห้ามให้ฉันทำหรือไม่ทำอะไรนะคะ มันไม่ใช่หน้าที่หรือสิทธิอะไรของพี่เรียวเลย" ฉันไม่ชอบเวลาเขาเผด็จการเอาเรื่องงี่เง่าพวกนี้มาบังคับเลย
 
   "ทีแรกฉันก็มาเช็คดูว่าเธอจะฟังฉันบ้างไหม แต่ก็ตั้งใจจะอนุญาตให้ไปทีหลังถ้าเธอรู้จักเชื่อฟังผู้ใหญ่บ้าง แต่นี่ไม่เลย ...ไม่ฟังแถมยังถือดีกับฉันอีก" เขาพูดตาไม่กระพริบสักนิด แถมก้าวยาวๆที่ค่อยๆเดินเข้ามาหาฉันอีก เล่นเอาฮารุเสียงสันหลัง
 
   "ฉันยังไม่ได้ถือดีอะไรเลยนะคะ" หาทางเอาตัวรอดไว้ก่อน คราวนี้เขาดูกลับมาเป็นชินอิจิคนแรกที่เคยทำเธอใจหายใจคว่ำเพราะแอบปล้นสวาทเธอไป 
 
   "แล้วใครบอกว่าฉันไม่มีสิทธิ ไม่มีหน้าที่" ดวงตาเรียวคมยังคงคาดคั้นเอาคำตอบ 
 
   "กะ ก็มันเป็นเรื่องจริงนี่คะ" พี่เรียวไม่ได้เป็นพ่อฉันนี่ แต่ขืนพูดออกไปแบบนั้น มีหวังไปกระตุ้นให้เขายิ่งโกรธเข้าไปอีก เท้าเล็กๆ ลากถอยหลังช้าๆ เตรียมตัวจะหนีเขา
 
   "แล้วไอ้ที่ร้องครางเรียกชื่อฉันแทบทุกวัน เรียกว่าไม่มีสิทธิด้วยไหม" 
 
   "พะ พี่เรียว!" เขาพูดให้ฉันได้อายจนหน้าคงแดงเป็นเลือดฝาด ทำไมชินอิจิชอบเอาเรื่องอย่างว่าของเรามาอ้างนักนะ ทั้งๆที่มันเป็นแค่ความสนุกชั่วครั้งชั่วคราว
 
   "ถ้าไม่จริง งั้นฉันขอพิสูจน์ ถ้าหากฉันยังพิสูจน์ไม่ได้ว่าฉันไม่มีสิทธิในตัวเธอ ก็จะไม่มายุ่งอีก แต่ถ้าฉันทำให้เธอพูดเองได้ ต้องฟังที่ฉันสั่งทุกอย่าง" ชินอิจิหยุดยืนอยู่ตรงหน้าหญิงสาวที่เงยหน้ามองเขาคอแทบเคล็ด
 
   "พี่เรียว จะทำอะไร" คนตัวเล็กเริ่มสั่นในใจเล็กๆกลัวเขาทำอะไรพิเรนท์กับเธออีก
 
และพอเขาไม่ตอบฮารุก็เตรียมถอยกรูดไปที่ประตูทำท่าจะวิ่งหนีเขาออกไป แต่มีหรือจะทันที่คนตัวโตคว้าเอาไว้ปราดเดียวก็รวบเอวพาดบ่าเดินไปยังมุมห้องที่เป็นชุดโซฟาเดี่ยว วางร่างบางลงกับที่นั่งสองขาเพรียวถูกยกขึ้นพาดแยกกันไว้กับที่พักแขนทั้งสองฝั่ง 
   มือใหญ่ไม่รอช้ารูดกางเกงชั้นในสีขาวสะอาดออกมาตามปลีน่องก่อนจะจัดทรงท่านั่งของหญิงสาวให้เปิดอ้าตามเดิม
 
   "อ๊า... พี่เรียว ทำอะไร!! อื้อ!!" ลิ้นอุ่นสัมผัสหยาบๆ นาบเข้าที่กลางร่องสวาทและกดดุนดันไปมาอย่างปลุกเร้า หญิงสาวดิ้นพร่านเพราะความหวาดเสียว เท้าเล็กจิกเกร็งกลางอากาศเพราะการบุกรุกรวดเร็วของเขา ทำให้ตั้งตัวไม่ทัน
 
   "อืม... " ชินอิจิไม่ใส่ใจมือที่คอยจิกรั้งเรือนผมของเขาเอาไว้ นานเข้าที่ลิ้นร้ายบุกลุยช่องทางลี้ลับ บดขยี้ปุ่มกระสันจนน้ำเนียนแฉะเฉิ่มไปทั่วบริเวณ จากมือที่คอยจิกรั้งใบหน้าเขาให้ออกไป เผลอไผลไปตามแรงอารมณ์กดให้ใบหน้าเขายิ่งแนบชิดไปอีก
 
   "อ๊าง... พี่เรียว พี่เรียว! อย่าเม้มตรงนั้นไว้มันเสียว อ้าย!!" จุดอ่อนไหวของหญิงสาวถูกคนตัวโตเม้มแน่นดูดดึงจนมีเสียงดัง มือร้ายสิงข้างก็ซ้อนปลีน่องเอาไว้ ความยาวมือถูกแบ่งมาเปิดแยกกลีบกรายหญิงสาวให้ต้อนรับริมฝีปากเขา 
 
   "อาาห์... พี่เรียวอย่า..." สติน้อยนิดก็อยากจะร้องห้ามออกไป ทั้งๆที่จะต้องออกไปข้างนอกกับผู้ชายอีกคนแท้ๆ 
 
   "พี่เรียวพอแล้ว ฉันเสียว อ้าาห์" แต่ลิ้นของเขายังคงทำหน้าที่ได้ดี อีกทั้งนิ้วหัวแม่มือที่ยังอุตส่าห์ใจดีมานวดคลึงจุดอ่อนไหวจนฉันได้แต่หลับตาเงยหน้าครวญครางระบายอารมณ์ไคร่ 
 
    ลิ้นร้อนรัวเร็วเป็นจังหวะกลองสนั่นเมื่อใหล้ถึงปลายทางอารมณ์ของหญิงสาว คนตัวเล็กสั่นเทิ้มและเขาก็ยิ่งปลุกปั่นมากยิ่งขึ้น แต่พอแรงส่งในกายจะถูกปลดปล่อยออกมาชินอิจิกลับดึงใบหน้าคมคายนั่นออกมาจากวงใน และมองหน้าหญิงสาวที่หลับตาพริ้มอ้าปากเซ็กซี่
 
     "แต่งตัวน่ารักด้วยสิวันนี้... เสื้อน่ะ แหวกจนจะเห็นจุกอยู่แล้ว" ชินอิจิลุกขึ้นยืน มองหญิงสาวที่นอนทอดขาไว้กับที่พักแขน รวยระริน กลางกายยังคงเป็นความเปียกชื้นจากลิ้นของเขา หญิงสาวส่งเสียงไม่พอใจที่ถูกทิ้งเอาดื้อๆ
 
    "พี่เรียว!" แกล้งฉันไม่พอยังพูดจาไม่เข้าหูอีก ชุดเป็นแค่สายเดี่ยวคว้านคอ แต่ก็ไม่ได้ลึกขนาดนั้นสักหน่อย ฉันเองก็แปลกใจอยู่เหมือนกันว่าทำไมช่วงนี้รู้สึกหน้าอกคัดตึงขึ้นเหมือนมันใหญ่กว่าเดิม
 
   เพียงไม่กี่วินาทีชินอิจิรวบร่างหญิงสาวตัวเล็กขึ้นและทิ้งตัวลงไปนั่งแทนที่ก่อนจะรวบร่างบางให้นั่งทับลงมาในท่าเดิม แม้หญิงสาวจะขัดขืนขนาดไหนก็คงจะสู้แรงหนุ่มตัวสูงใหญ่เช่นเขาไม่ได้จึงได้แต่หยิกเนื้อแขนเขาสู้ตาย และก็ส่งค้อนขวับมาให้อย่างคนดื้อรั้น
 
  "เธอรู้ไหมว่ามุมห้องเธอตรงนั้นมีกล้อง... และมุมนั้นก็มี... และทุกมุมห้องเธอ มีกล้องหมด"
 
  "ว่าไงนะ!" ...ชินอิจิ นี่เขากล้าขนาดมาแอบติดกล้องไว้ที่ห้องเธอเชียวหรือ ถ้าอย่างนั้น เวลาเปลี่ยนเสื้อผ้า หรือทุกอิริยาบถก็อยู่ในสายตาของเขาหมดเลยน่ะสิ
 
   "แต่มันไม่ใช่ประเด็นหรอก ฉันชอบรีรันดูเวลาเรามีอะไรกันน่ะ หน้าเธอมันเร้าอารมณ์ดี บอกเฉยๆไม่มีอะไร" 
 
   ฉันรู้ว่าเขาแค่ขู่ว่าไม่มีอะไร นัยยะของมันคือ อย่าทำอะไรเกินขอบเขตที่เขาห้ามถ้าไม่อยากเจอดีต่างหาก!
 
   "เมื่อวานฉันเห็นนะ ที่ระริกระรี้อยู่กับไอ้หน้าปลาหมอนั่น" ฮิซูกิน่ะหรือ .... เขาเห็น! ตายแล้ว... ตายแน่ๆ
 
   "แขกของคุณพ่อฉันนี่.." ฉันแก้ตัว ทั้งๆที่ท่านั่งคุยของเราไม่ปกติเลยสักนิด
 
   "ดูท่ามันอยากจะเป็นแขกของเธอมากกว่า แล้วเธอรู้ไหมว่าเธอจะโดนอะไร เพราะฉันสั่งห้ามยุ่งกับผู้ชายจนเกินไป แต่เธอก็ทำ"
 
   "ก็มันเลี่ยงไม่ได้นี่คะ คุณพ่อสั่งให้ทำความรู้จัก" ตอนนี้ฉันควรอ้อนเขาให้ได้มากที่สุด เผื่อเขาจะเห็นใจฉันบ้าง 
 
   มือเล็กเอื้อมไปเกาะคอเขาเอาไว้ หญิงสาวส่งสายตาเหมือนลูกกวาง จนเขาแทบจะหลงกลแล้ว ถ้าไม่ติดว่า... กำลังโมโหอยู่ และอารมณ์หื่นก็กำลังระอุได้ที่
 
   "แล้วนี่ก็จะออกไปกับมันทั้งที่ฉันห้าม" 
 
   "รับปากไว้แล้วนี่คะพี่เรียว โตแล้วผิดคำพูดไม่ดีนี่คะ"
 
   "ฉันควรจัดการกับเด็กดื้อ ปากดียังไงดีนะ" ชินอิจิมองหน้าคนที่ช้อนเรียวตาอ่อนหวานมามองเขา แล้วดูท่านั่งที่กำลังประสบกันอยู่สิ ใครจะมีอารมณ์เจรจา
 
   "ปล่อยฮารุไปเถอะนะคะ พี่เรียว แล้วคราวหน้าจะไม่ขัดคำสั่งอีกแล้ว" ก็ลองดื้อเขาดู มีหวังโดนเอาจริงขึ้นมา คนอย่างชินอิจิจะทำอะไรที่คาดไม่ถึงอยู่แล้ว
 
   "วันนี้ฉันให้เธอไป แต่ต้องพูดมาก่อนว่าฉันมีสิทธิในตัวเธอหรือยัง" 
 
    ฉันไม่รู้จะจัดการอย่างไรกับผู้ชายตัวโตที่นั่งจับขาฉันให็ล็อคนิ่งเอาไว้อยู่กับที่ดี ชินอิจิตั้งแต่วันแรกยันวันนี้ความสัมพันธ์ระหว่างเราสองคนมันเกินเยียวยาแล้ว ฉันติดที่จะมีเซ็กส์กับเขา และเขาก็หวังว่าฉันจะสามารถอยู่ใต้การควบคุมของเขาได้ แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นเท่า เราแค่เซ็กส์เฟรน ไม่ใช่แฟนน่ะสิ ฉันจะบอกอย่างไรได้ ในเมื่อเขาไม่เคยเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง แม้แต่จะพูดคำว่ารักยังไม่มีเลยสักครั้ง
 
    "พี่เรียว...." ฉันทำหน้าตาน่าเห็นใจก็เพราะหวังว่าเขาจะเข้าอกเข้าใจดีบ้าง แต่ไม่เลย ชินอิจิก้มลงมาจูบปิดปากฉันไว้ ลิ้นของเขายังมีรสชาติแปลกๆที่ติดอยู่ จูบดูดดื่มเริ่มทำให้ฉันมัวเมาอีกครั้ง และอีกครั้ง
 
    ความรู้สึกฉันมันเสียวช่องท้องไปหมด แค่โดนเขาจับเขาจูบ ฉันคงเป็นสาวไฟแรงอย่างที่เขาว่าไปแล้วจริงๆ
 
   "จะไปก็ไป แต่ต้องโดนฉันก่อน" ชินอิจิพูดเท่านั้นเขาก็ทำการรูดสายเสื้อของฉันลงมาทั้งสองข้าง เป็นการล็อกแขนฉันเอาไว้ไม่ให้ขยับไปไหนได้ 
    ซิลิโคไร้สายถูกเขาดึงออก มือใหญ่ทำการกอบกุมหน้าอกและประคองขึ้นใช้ปากครอบงำจนแทบทั้งเต้า อีกข้างเขาก็บีบเอาอยู่บนเม็ดยอดจนฉันเจ็บเสียวไปหมด ฉันได้แต่ร้องครางออกไปเพราะเสียว และต่อมาเขาก็เลื่อนมือที่บีบดึงเม็ดอกขิงฉันไปยังด้านล่างที่ไร้สิ่งกีดขวาง ในเมื่อเขารูดมันออกไปไว้ที่ปลีน่องฉันแล้ว
    ฉันรู้สึกได้ว่านิ้วของเขากำลังอาบไปด้วยน้ำของอารมณ์เพศของฉัน และเสียงที่ถูกนิ้วร้ายนั่นชอกชอนอยู่ตามกลีบเนื้อก็ทั้งสร้างอารมณ์และเร้าใจสุดๆ ชินอิจิเก่งเรื่องทำให้ฉันควบคุมตัวเองไม่ได้
    เกลียวพายุในท้องมันตีกันแน่นไปหมด และฉันกลับต้องอ้าปากค้างเมื่อเขาแทรกตัวตนเข้ามาจากด้านล่างโดยไม่ทันตั้งตัว
   ชินอิจิใช้มือยกสะโพกของฉันขึ้นเล็กน้อยและสวนสะโพกตนเองขึ้นมาจนเสียงเนื้อที่กระทบกันเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ สร้างความหฤหรรษ์แก่ทั้งฉันและเขามาก 
    และช่วงใกล้สุดท้ายที่เขาละเลงสะโพกไม่ยั้ง ฉันกลับรู้สึกแปลกๆตรงส่วนที่ประสานกัน และก็ต้องตกใจจนยั้งสะโพกห้ามแรงกระแทกของเขาเอาไว้
 
    "อ๊า อ๊า อ๊าาา.... นั่น!! ทำอะไรคะ!! " ฉันค้างสะโพกตัวเองเอาไว้ไม่ให้เขาจับกระแทก
 
    "อาวุธทำโทษคนผิด ฉันให้เธอออกไปกับหมอนั่น แต่เอานี่ไปด้วย... ตัวแทนฉัน" เขาพูดและยัดอะไรสักอย่างที่มีรูปร่างแปลกๆเข้ามาประกบติดกับร่องอุ่นภายในของฉัน และพอเขากดปุ่มที่มือ มันก็สั่นขึ้นมาจนชั้นทั้งตกใจและเสียวไปพร้อมๆกัน
 
    "อ๊าาาาาห์.... พะ พี่เรียว มันเสียว มันเสียว เอาออก " 
 
    ฉันร่องระส่ำ พอเขายัดมันเข้าไปด้านในตัวเขาเองก็กระแทกสะโพกเข้ามาซ้ำๆ จนท้ายที่สุดก็พอกันแตกสลาย แต่ฉันกลับกรีดร้องสุขสมเพียงครู่เดียวก็ต้องเริ่มครวญครางอีกครั้ง เพราะในกายมันยังมีอะไรบางอย่างคอยกระตุ้นฉันอยู่
 
    "พี่เรียวคะ ฉันเสียว เอาออกเถอะนะ" ฉันเพิ่งนึกออกว่ามันคือเซ็กส์ทอย! และมันจะสั่นอยู่ข้างในฉันตลอดเวลา และที่แย่กว่าคือ รีโมทควบคุมการทำงานอยู่กับชินอิจิ!
 
   "ใส่ไว้ ถ้าเธอสนิทกับมันเกินเหตุฉันจะทำให้เธอขายหน้า" เขาพูดและแกล้งเร่งความเร็วของการสั่นสะเทือน 
 
   "อ๊าาห์ อ๊ะ... พี่เรียว พอแล้ว ฉันขอโทษที่ขัดคำสั่ง" ฉันทนไม่ไหวหรอก ถ้าจะให้เจ้านี่ติดกายไปด้วย ถ้าไม่ทำอะไรสักอย่าง ชินอิจิจะแกล้งฉันด้วยวิธีที่เขาไม่เสียหายอะไรเลย
 
   "สายไปแล้ว ตอนนี้ฉันไม่อนุญาตให้เธอยกเลิกนัก เธอต้องไป และเอาเจ้านั่นไปด้วย"
 
หญิงสาวตาโตเป็นไข่ห่านเมื่อเขาไม่ยอมและแถมยังขู่เอาจะเป็นจะตายหากไม่ทำตามที่เขาสั่ง
 
 
 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา