The Water's Pure Heart: ดวงใจของสายน้ำ

-

เขียนโดย Valentinlover

วันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 เวลา 22.14 น.

  56 ตอน
  0 วิจารณ์
  43.65K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 10.14 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

4) สิ่งของไว้แทนใจ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

       

จุ๊ยเหมือนโดนค้อนฟาดหน้า

เขาสะบัดล้มกลิ้งไปโดยไม่ต้องเซแสร้ง

“เทค” ผู้กำกับตะโกน

อ้าวผ่านสักที... แต่ตอนนี้จุ๊ยลุกไม่ขึ้นเสียแล้ว แถมรู้สึกหมือนมีอะไรไหลในปาก

“จุ๊ย จุ๊ย” เดฟที่เข้าฉากด้วยเพราะเป็นเพื่อนพระเอกรีบเข้ามา

“โอเคไหมจุ๊ย”

“โอเค” เขาตอบแล้วจะพยายามยิ้ม  ปรากฏว่าสิ่งที่ไหลออกมาในปากมันก็ย้อยมาข้างแก้ม

“เฮ้ยเลือดเต็มเลย” เดฟร้องเสียงหลง

โยชิที่หันหนีไป พอได้ยินก็หันมากลับมาทันที

 

โยชิต้องมีอีกสองสามฉากที่ต้องถ่ายคู่กับนางเอก  เขาพยายามควบคุมสมาธิโชคดีที่ไม่ใช่ซีนอารมณ์ยากเย็นเพราะตอนนี้พระเอกยังต้องงอนกับนางเอกอยู่

“แล้วเพื่อนนายไปไหนแล้ว” โยชิเข้าไปถามกับเดฟที่นั้งให้ช่างแต่งหน้าลบหน้าอยู่

เดฟเงยหน้ามอง

“จุ๊ยเหรอ” เดฟถามก่อนจะตอบ

“กลับไปแล้ว..พี่งไปเมื่อกี้ ปฐมพยาบาลแล้วให้นั่งพักเขาก็บอกว่าไม่เป็นไรแล้วก็กลับ  ก็นายต่อยเขาซะเลือดกลบ  สมจริงไปเปล่าโยชิ”

โยชิถอนหายใจ

“ยังไม่ได้ขอโทษเขาเลย” โยชิกล่าว

“ไม่เป็นไรหรอก  จุ๊ยเขาเป็นคนไม่ถือสาอะไรใคร  พี่ ทิพย์ก็ให้เงินพิเศษแล้วก็ขอโทษแทนนายไปแล้วด้วย จุ๊ยเขาไม่ได้ติดใจอะไร” เดฟตอบแล้วหลับตา เพราะช่างแต่งหน้ากำลังทำท่าจะเช็ดที่ตาของเขา

“ไม่ต้องคิดมาก ฉันจะบอกให้ว่า..” เดฟกล่าวแล้วลืมตา เมือช่างเช็ดที่ตาเขาเรียบร้อย

แต่ปรากฏว่า โยชิเดินไปแล้ว

 

ถึงจะบอกว่าไม่เป็นไรแต่จุ๊ยก็ปากเจ่อมาเรียนในวันรุ่งขึ้น

อ๊อดดูแผลจุ๊ยแล้วก็ส่ายหัว

“นี่มันจงใจเปล่าวะ”

ฮ้อยก็กอดอกส่ายหน้า

“กูว่าแมร่งจงใจ อิจฉาที่มึงหล่อสู้มันไม่ได้”

ทุกคนหันมามองหน้า

“อะไรของมีง”

“อ้าว... ก็เพราะไม่หล่อไง เราก็เคยมีอิสรเสรี  อยากทำอะไรก็ทำได้ ไม่ต้องอายสายตาใคร” ฮ้อยทำท่ากอดฟ้า

จุ๊ยมองหน้า ส่ายหัวแล้วพูดแบบปากเจ่อ

“ไม่ล่ะ กูอาย เพราะกูหล่อ  ไม่ได้เป็นปลาจวดว่ายบวกประตุเขื่อนเหมือนมึง”

“อ้าว..ปากแตกยังปากดี  เอาอีกแผลไหมวะ” ฮ้อยคว้าคอจุ๊ยมากอดทำจะต่อย แต่ยิ้มแย้ม

“นายนทีธาร นักเรียนชั้นม.หกห้องสิบเอ็ด ติดต่อที่แผนกประชาสัมพันธ์ตอนนี้ด้วยครับ” เสียงประกาศดังขึ้น

“อะไรวะ” จุ๊ยบ่นแต่ก็ลุกขึ้น  เขามักจะโดนเรียกตัวบ่อยๆอยู่แล้วก็เลยไม่แปลกใจ

“เฮ้ยกูไปด้วย กูจะไปฝ่ายห้องการเงิน” อัศวะลุกขึ้น

 

ตอนที่ทั้งสองหนุ่มไปถึงตึกอำนายการ  อาจารย์ที่ทำหน้าทีประชาสัมพันธ์ประจำวันก็ออกมาจากห้องพอดี

“อ้าวมาเร็วดีนี่” อาจารย์หนุ่มกล่าว

“มีอะไรให้ผมรับใช้คร๊าบผม” จุ๊ยยืนตรงตะเบะ

อาจารย์ส่ายหน้า

“ไม่ใช่ครู  มีคนมาหาเธออยู่ทางโน่น”

มองตามที่อาจารย์ชี้ไป  แล้วจุ๊ยก็ยืนนิ่ง

แล้วอาจารย์ก็เดินไป 

“เฮ้ยจุ๊ยกูไปห้องการเงินก่อนนะ” อัศวะบอกแล้วทำท่าจะเดินไป

“เฮ้ยเดี่ยว” จุ๊ยคว้าคอไว้

“อะไร” อัศวะถาม

“ไปเป็นเพื่อนกูก่อน”

“ทำไม.. ก็มีคนมาหามีง ไม่ใช่กู” อัสวะตอบ

“เฮ้ย... แต่มัน...” จุ๊ยกลืนน้ำลายดังอึก

“มันคือคนที่ต่อยกู”

 

เพราะกลัวจะมีคนจดจำได้  โยชิจึงมาในชุดนักศึกษาของสถาบันการศึกษาที่เรียน  ทว่าใส่แว่นตากรอบหนามาด้วยเพื่ออำพรางกระนั้นกลับเป็นอีกมุมมองที่ดูดี  จนแม้อาจารย์สาวที่จะเดินขึ้นตึกก็ยังหันมามอง “นาย... มาหาเราเหรอ”

โยชิหันมาเห็นจุ๊ยยืนอยู่คู่กับอีกคนที่เขาไม่รู้จัก

“เราโยชินะ” เขาเลื่อนแว่นตาขี้น

“เออจำได้.. “จุ๊ยตอบ

“มีธุระอะไรรีเปล่า หรือว่าจะมาหาเดฟ เดฟมันชื่อจริงชื่อเดวิด วูลดิ้งเบอร์ก  เดี่ยวฉันเรียกให้ใหม่นะ”

“เปล่า” โยชิปฏิเสธ

“เรามาหานาย”

จุ๊ยมองหน้าอัศวะแบบไม่ไม่แน่ใจ

“คือเราอยากจะ” แล้วเขาก็ยืนตัวตรง แล้วโค้งให้สุดตัวแบบญี่ปุ่น

“ขอโทษที่ผมทำร้ายคุณ”

จุ๊ยอึ้งนิ่งทำอะไรไม่ถูก

รู้สึกตัวก็รีบดึงเขาขี้นมา

“อะไรเล่า ไม่เป็นไร  มันเป็นอุบัติเหตุจากการแสดงฉันเข้าใจ”

ระหว่างนั้นก็เหลือบตามองอัศวะ

“ขอบคุณนะ” โยชิยิ้ม  แต่ก็มองปากของจุ๊ย

“เป็นอะไรมากไหม”

“โอ๊ยสบาย  โดนบอลอัดหน้ายังเจ็บกว่านี้” จุ๊ยหัวเราะ แต่ต้องผืนความเจ็บปากไว้นิดๆ

โยชินิ่งไปตอนมองอาการหัวเราะของจุ๊ย

“คือ... ฉันขอถามอีกครั้ง” โยชิกล่าว

จุ๊ยเลยหยุด

“ฉันถามอีกรอบนะ  นายจำฉันไม่ได้จริงๆเหรอ”

จุ๊ยอึ้ง..  เมื่อวานเขาถามว่าจำเขาได้ไหม  ตอนนั้นจุ๊ยจำได้ว่าคำตอบทำให้เขาดูไม่พอใจ  แล้วโยชิก็ต่อยเขา... ถ้าให้คำตอบเดิม... จะโดนต่อยอีกรอบไหม

“เออออ” เขาลากเสียง ก็ก่อนจะกล่าวต่อไป

“คือเราจำไม่ได้จริงๆว่าเราเคยเจอกันที่ไหน  เราความจำสั้นน่ะ เป็นญาติกับปลาทอง”

โยชิไม่ได้มีอาการเหมือนเมื่อวาน

“มีอะไรช่วยเตือนความจำได้ไหม ว่าที่ไหนอะไรยังไง ที่เราเจอกันก่อนหน้านี้” จุ๊ยกล่าวต่อไป

โยชินิ่งไปก่อนจะหันไปมองทางอื่น แต่กล่าวออกมา

“รถประจำทาง  ระยองกรุงเทพ”

จุ๊ยนิ่งคิด...

แล้วเขาก็คิดออก

“อ๋ออออ” เขาร้อง

“อย่าบอกนะว่านายคือเด็กญี่ปุ่นคนนั้น ”

โยชิหันมา  รอยยิ้มยินดีปรากฏขี้นเต็มใบหน้าทำให้ดวงหน้าของเขาสว่างโรจน์

“ใช่ๆ ฉันเอง” โยชิกล่าวอย่างดีใจ

แต่เพลงเรียกเข้าของโทรศัพท์ก็ดังขึ้น  โยชิไม่รับก็รู้เพราะเสียงเรียกเข้านี้เป็นเสียงเรียกเข้าเฉพาะของเลขหมายหนึ่งที่บันทึกไว้

“เราต้องไปแล้ว  นายมีเบอร์ไหม เราจะได้โทรคุยกับนาย” โยชิถาม

“เราไม่มีโทรศัพท์มือถือ มีแต่เบอร์บ้าน” จุ๊ยตอบแบบไม่ลังเล

โยชินิ่งก่อนจะหยิบโทรศัพท์อีกเครื่องออกมาจากกระเป๋า จริงแล้วนี่คือโทรศัพท์ส่วนตัวที่เขาใช้กับเพื่อนสนิทเท่านั้น  แต่เครื่องที่ดังคือเครื่องที่ใช้เรื่องงาน

“เอาโทรศัพท์เราไว้”

“เฮ้ย บ้าเหรอ...มันแพงไม่ใช่เหรอ” จุ๊ยปฏิเสธ

แต่โยชิจับมือจุ๊ยขี้นมาแล้วเอามันโทรศัพท์ราคาแพงยัดใส่มือ

“เอาไว้  เราจะได้คุยกันได้”

แล้วโยชิก็อำลาด้วยการโบกมือก่อนจะเดินกึ่งวิ่งไปเรียกรถแท็กซี่ที่ผ่านมาหน้าโรงเรียนพอดี

“อะไรวะ” จุ๊ยหันมาถามกับอัศวะ

อัศวะก็ยังงง

 

“ให้มือถือ” ก้องภพเอาสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดที่จุ๊ยได้รับมาจากโยขิมาดู

มันเป็นยี่ห้อญี่ปุ่นชื่อดัง  แถมรุ่นใหม่ล่าสุดด้วย

“ถึงไม่ใช่ยี่ห้อผลไม้ก็แพงอยู่นะเนี่ย  นี่มันพึ่งออกเลย”

“ยี่ห้ออะไรวะยี่ห้อผลไม้” จุ๊ยเอาโทรศัพท์กลับมา

“ก็...” ก้องภพตอบชื่อยี่ห้อออกมา  แล้วหยิบของเขาขึ้นมา

ฮ้อยมองหน้าจุ๊ย

“มันคิดอะไรกับมึงรึเปล่า  หรือว่าจะคิดแดกมึงอย่างไอ้เดฟ”

จุ๊ยเอียงคอ

“ไม่รู้สิ... แต่เขาก็ดูไม่ใช่อย่างเดียวกับไอ้เดฟนะ”

“แล้วไอ้เดฟมันพันธุ์ไหน...”ตั้มกล่าวพลางเกาหลังคอเบาๆ

“มันเหมือนเราม๊าย  มันก็ดูแมนๆเหมือนเรานี่ล่ะ  แต่มันชอบมึง ชอบผู้ชายด้วยกัน”

อัศวะจ้องหน้า จุ๊ยตอนนี้เงียบไป และพิจารณาโทรศัพท์

“ไม่หรอกมั้ง... อาจแค่อยากให้กูเป็นเพื่อนมัน” จุ๊ยตอบ

“เออ” อัศวะนึกอะไรได้อย่างหนึ่ง

“มันพูดเหมือนเคยเจอมึงมาก่อน”

จุ๊ยดันริมฝีปากล่างขึ้นบนแล้วพยักหน้า

“ก็ใช่ว่ะ  คือมันสามหรือสองปีนี่ล่ะ ข้าไปหาน้องสาวตอนปิดเทอม  กลับมาเจอมันนั่งร้องไห้อยู่ข้างๆบนรถทัวร์  กูก็ไม่รู้จะทำยังไง  เพราะมันก็ดูเหมือนไม่ใช่คนไทย เพราะแม่งพิมพ์โทรศัพท์เป็นภาษาญี่ปุ่น  ก็เลยชวนมันคุยเพราะคิดว่ามันเป็นเด็กหลง  คุยไปคุยมาก็แค่นั้น”

“ไม่แค่นั้นม๊าง  มันไม่ใช่แค่พูดไทยได้  ตอนนี้แม่งเป็นดาราดัง  แถมมันยังชกมึง แต่ดันเอาโทรศัพท์ให้มึง...”ก้องภพวิเคราะห์

“แบบนี้กูว่า...”

เพื่อนตั้งใจฟังกันหมด

“ไม่รู้สิ” ก้องภพกล่าวออกมา

“ไอ้หอก” จุ๊ยเอาสันโทรศัพท์เคาะกระบาล

แล้วจุ๊ยก็พลิกโทรศัพท์ไปมา ขมวดคิ้วเครียด

“แต่กูมีปัญหาใหญ่กว่านั้น”

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา