The Contacts Scar Black Killer

8.0

เขียนโดย แมวกินปลาทอง

วันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 เวลา 02.04 น.

  2 ตอน
  7 วิจารณ์
  3,812 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559 12.14 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) การต่อสู้ละน้ำตาแห่งความหวัง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

     สวัสดีค่า----------------การอื่นให้ทุกๆคน กดที่ช่องตัวละคร เพื่อดูตัวครที่มาใหม่ในตอนนี้นะคะ ตัวละครไหนที่ NEWs หลังชื่อก็คือตัวละครที่ออกมาใหม่ในตอนนี้นะคะ ขอบคุณที่ดูนะคะ 

ไปอ่านกันเลย!

 

 

     วันนี้ท้องฟ้าเป็นสีครามท้องฟ้าแจ่มใสทั้งๆที่มันควรจะเป็นวันที่น่ายินดีสำหรับพวกเรา...

แต่ตอนนี้ท้องฟ้าเต็มไปด้วยควันของเปลวไฟ เสียงเพลงที่น่ายินดีตอนนี้กลายเป็นเสียงปืนดังสนั่นหยั่งไม่หยุดหย่อน สีของเลือดหลั่งไหลลงสู่พื้นดิน เสียงร้องด้วยความหวาดกลัวของเหล่าหญิงสาวดังสนั่น ใช้แล้วตอนนี้ มันคือการสงหาร... 

 

The Contacts Scar Black Killer

 

     ตึก...ตึก...(เสียงวิ่ง)เหล่าทหารสาวรีบวิ่งอย่างสุดกำลัง เพื่อฝ่าเหล่ากระสุนนับร้อยที่ยิงไปมาท่ามกลางสนามรบ...

     “เร็วเข้า รีบวิ่ง ถ้ายังอยากมีชีวิตอยู่ก็อย่าหยุดวิ่ง!”  เสียงของครูฝึกดังมากจากข้างหน้า

     “คะ!” เหล่าทหารสาวตอบรับด้วยสีหน้าที่ไม่สู้ดีนัก 

ในขณะที่กลุ่มหญิงสาวกำลังวิ่งฝ่ากระสุนนั่นเองก็มีกระสุนพุ่งเข้าไปที่หัวของหญิงสาวคนหนึ่งร่างของเธอล้มลงและตายลงตรงนั่นทันที

     “เลวี้ ทำใจดีๆไว้ นี่ เละ...เล..วี้” หญิงสาวรีบกลับไปหาเพื่อนที่ล้มลงแต่มันก็สายไปสะแล้ว

“นี่เธอ   ก็บอกแล้วไงว่าอย่าหยุดวิ่งน่ะ”

“แต่ว่า ครูคะ”

“รีบมาได้แล้ว อะอา....”   ครูฝึกพยายามจะบอกให้ทหารสาวรีบออกมาจากตรงนั้นแต่มันก็ช้าไปแล้วกระสุนพุ่งเข้าไปที่ดวงตาของครูฝึกทำให้เธอตายทันที ร่างของครูฝึกล้วงลงกลับพื้น

“ครูคะ! อ๊ะ...” กระสุนพุ่งเข้าหัวของทหารสาว ล้วงลงอีกหนึ่ง....

“ไม่เอาแล้ว! ใครก็ได้ช่วยฉันที…” ในใต้ที่กำบังแห่งหนึ่งมีทหารสาวหลบซ่อนตัวอยู่จำนวนหนึ่ง

“เงียบน่า หยุดร้องแล้วก็เอาปืนไปได้แล้ว”

“ฉันยังไม่อยากตาย!” มีการถกเถียงกัน จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้จิตใจของแต่ละคนอยู่ในสภาพที่แย่มากๆ

“ถ้าเธอ มัวแต่อยู่แบบนี้เดียวเธอก็จะถูกฆ่านะ” ครูฝึกพยายามปลุกขวัญกำลังใจของเหล่าทหารสาวแต่มันก็ไม่สามารถช่วยได้เลยแม้แต่น้อย

“ทำไม...ทำไมฉันต้องมาเจอเรื่องบ้าๆนี้ด้วย!”

“ทำอย่างที่เคยฝึกมาสิ ลืมแล้วเหรอว่าตอนนี้เธอเป็น SAS แล้วนะ” ทันใดนั้นเองก็มีเสียงเตะประตูดังลั่น! พวก “Blood Wolf” ได้บกเข้าและได้กราดยิงทุกๆคนที่อยู่ในห้องนั้นจนตายหมด

ที่ตรงกลางพวก blood wolf ได้จับเชลยศึกมาที่สนาม 5 คน

มีคนหนึ่งได้หยิบปืนและจ่อไปไปที่หัวของทหารหญิงคนหนึ่ง

“ขอร้องละ...ด้วยโปรดอย่า...ฆ่าฉันเลย...ฉันมีครอบครัวนะ” ทหารสาวพยายามร้องขอชีวิตแต่มันก็ไม่เป็นผล...

“ครอบครัวเหรอ?  ครอบครัวของฉันน่ะ ไม่มีวันกลับมาหาฉันได้อีกต่อไปแล้ว!!”

พอพูดจบ เขาก็ลั่นไกปืน กระสุนพุ่งเข้าและทะลุหัวของทหารสาวคนนั้นเธอล้วงลงกลับพื้นและตายอย่างน่าสลด...

จากนั้นพวกมันก็ฆ่าพวกเธอที่เหลืออีก 4 คน

 

    

เหล่าทหารสาวที่ได้เห็นภาพแบบนั้นต่างก็เกิดอาการอยากยอมแพ้ สลด และ ตื่นกลัว

“โหดร้าย...” ไลน์พูดด้วยน้ำเสียงที่ดูสลดเล็กน้อย

“เจ้าพวกนั้น คงคิดจะฆ่าทุกๆคนที่อยู่ที่นี่แน่เลยละนะ” คริสพูดด้วยน้ำเสียงที่ใจเย็น

“เห็นด้วยเลยเจ้าค่ะ” แจ็กสันตอบกลับแบบระแวงเล็กหน่อย

“แต่ต้องขอบคุณ อเลนจริงๆนะ ที่ตอนนั่นรีบพาพวกเราออกจากสนาม ไม่งั้นพวกเราคงไม่มาอยู่ตรงนี้หรอก” ไลน์พูดขอบคุณอเลนอย่างสุดซึ้ง

“ไม่เป็นไรหรอกจ้า ทุกคนไม่เป็นอะไรฉันก็ดีใจแล้วละ” อเลนพูดพร้อมยิ้มอย่างจริงใจ

“แล้วที่นี่เราจะเอายังต่อดีละ? ไลน์เธอคิดว่าไงละ”  กริสเริ่มเปิดการประชุมว่าจะเอายังไงต่อ

“เอ่อ...ตอนนี้น่ะเราน่าจะอยู่ห้องนิรภัยตรงนิ...ถ้าจำไม่ผิดนะคะ...ฐานบัญชาการของเรารูปทรงมันก็จะประมาณนิ...แล้วจากที่เคยดูแผนที่มานะคะ...ห้องส่งสัญญาณก็จะอยู่ตรงนิ” ไลน์เริ่มอธิบายเกี่ยวกับโครงสร้างของฐานบัญชาการ

“อือ เข้าใจละจะให้พวกเราไปที่นั่นเพื่อขอความช่วยเหลือจากคนข้างนอกสินะ” กริสถามเพื่อย้ำความเข้าใจของตัวเอง

“ก็ประมาณนั้นละคะ ทุกคนคิดว่าไงบ้างคะ?” ไลน์ตอบกลับเพื่อย้ำความเข้าใจ

“แต่ว่า ถ้าจำไม่ผิดห้องนั้นจะมีระบบนิรภัยที่เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นมันจะปิดระบบการเข้าออกห้องนั้นทั้งหมดเลยนะ เห็นว่าแม้แต่รหัสผ่านของครูฝึกก็ยังเข้าไปไม่ได้เลย”อเลนพูด

“เอ่อ...คือว่าถ้าเป็นฉัน ฉันอาจจะทำได้นะเจ้าคะ เรื่องเจาะเนี้ยของถนัดฉันเลยละเจ้าค่ะ” แจ็กสันพูดออกมากลางวงสนทนาด้วยความมั่นใจ

“ถ้าสามารถเจาะเข้าไปได้แล้วสามารถส่งสัญญาณให้กรมตำรวจได้ละก็”

สถานการณ์ก็จะเปลียน” คริสและไลน์พูดอย่างมีความหวัง

“สุดยอดเลย! ไลน์เนียเก่งและฉลาดที่สุดเลย” อเลนกระโดดเข้ากอดไลน์ด้วยความดีใจ

“เอาละ เป็นอันว่าตกลงนะทุกคน” กริสพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

“ตามนั้นเลย” ทุกคนตอบรับอย่างชัดเจน

“งั้นพวกเรา ลุย!!” ไลน์ปลุกกำลังใจทุกคน

“โอ้!” ทุกคนตอบรับพร้อมยกชู้มือขึ้น

 

 

ในขณะเดียวกัน

ตึก...ตึก...เสียงวิ่งของใครสักคนกำลังวิ่งอยู่ตามลำพังเธอกำลังมองไปรอบๆ  เธอกำลังกังวล ทันใดนั้นเอง เธอก็ถูกใครสักคน ล็อกคอจากโดนหลัง เธอพยามจะสลัดให้หลุดแต่มันก็ไม่เป็นผลเธอถูกหกคออย่างง่ายดาย

“โทษทีนะ แต่ช่วยหลับไปตลอดกาลเถอะนะ” เสียงของทหารสาวลึกลับคนหนึ่งผู้ที่มีผมยาวสีเขียวพร้อมด้วยผ้าปิดตาสีดำที่ดวงตาข้างขวา

“AK 12 เหรอ ว่าแล้วเชียวของหาซื้อง่ายราคาถูกแถมยังใช้ได้ดีอีก แล้วนี่  Tokarev  โบราณชะมัด แต่ก็เอาเถอะ (เจ้าพวกผู้ก่อการร้ายนั้นมีเป่าหมายจะทำอะไรกันแน่นะ ถึงกับบุกฐานบัญชาการของ SAS ตรงๆเลยแบบนี้น่ะ ถ้าจะเป็นการตัดกำลังรบมันก็ดูบ้าบิ่นไปหน่อยนะ) โอ้!! เจอของที่ต้องการอยู่พอดีเลย”

 

 

 

 ตัดกลับมาที่พวกของไลน์อีกครั้ง

“เอาละตอนนี้เราน่ะ ไม่มีอาวุธจะไปสู้กับพวกนั่นเลย เพราะงั้นต้องระวังนะ” คริสบอกให้ทุกๆคนระวังตัว

“อือ!” ทุกคนตอบพร้อมกัน

“เอาละ เปิดละนะ” คริสพูดเสร็จก็ค่อยๆเปิดประตูนิรภัยออกช้าๆ

“เอาละ ระวังกันดะ...ดะ...” ข้างหน้าของคริสมีพวกของ Blood Wolf สองคนอีกคนหนึ่งกำลังจ่อปืนไปที่หน้าของคริส อีกคนหนึ่งจ่อไปที่พวกของไลน์ แล้ว Blood Wolf คนหนึ่งก็พูดออกมาว่า

“เอาๆ ออกมาๆ ยกมือขึ้นแล้วรีบเดินออกมา”

“ถ้ายังไม่อยากรีบตายน่ะนะ”

ทันใดนั้นเองคริสก็เอามือจับไปที่ลำกล้องของจนชึ้ฟ้าแล้วก็พูดเสียงดังว่า

“ทุกคน ลุยเลย” คริสออกคำสั่งฉับพลันให้ทุกคนลุยเข้าหา Blood wolf  อีกคน

อเลน วิ่งเข้าหา blood wolf อีกคนอย่างรวดเร็ว เขากำลังจะขึ้นลำเพื่อที่จะยิงแต่ช้าไป อเลน กระโดดเตะปืนของเขาลงกับพื้นแล้วไลน์ก็เข้าไปต่อยที่หน้าของ blood wolf คนนั้นเต็มแรงเขาล่วงลงกับพื้นและหมดสติ เสร็จไปหนึ่งขณะเดียวกันคริสก็กำลังดันแรงแข่งกับ blood wolf อีกคนหนึ่งแล้วเธอก็ใส่เข่าไปที่ท้องของ blood wolf  คนนั้นอย่างจังเธอคนนั้นพยามจะชักปืนพกออกมา แต่ช้าไป เธอโดนคริสเอาปืนฟาดไปที่หัวของเธอ เธอหมดสติ

 

 

ตอนนี้ไลน์และเพื่อนๆได้อาวุธเป็นปืนกลไรเฟิล 2 กระบอกและปืนพกอีก 2

“เอา ไลน์นี่ของเธอ” คริสพูดพร้อมกับส่งปืน AK12 ให้กับไลน์

“ขอบคุณมากนะ”

“เอาแล้วนี่ของเธอ โทษทีนะพอดีมันมีแค่นี่นะ” คริสส่งปืนพกให้กับอเลน

“ไม่เป็นอะไรหรอกจ้ะ เห็นแบบนี้นะ ฉันใช้ปืนพกยิงได้แม่นกว่าที่คิดอีกนะ”

อเลนพูดพร้อมกับยิ้มอย่างมั่นใจ

“ส่วนนี่ก็ของธอนะ”

“เอ๋...ฉันคงไม่ต้องก็ได้มั่งคะ” แจ็กสันพูดแบบเกรงใจเล็กน้อย

“ยังไงก็มีติดตัว ไว้ก็ดีกว่านะ” คริสพูดพร้อมกับส่งปืนพกให้กับแจ็กสัน

แจ็กสันถึงจะไม่เต็มใจแต่ก็รับมาไว้

“เก็บซองชุดเกราะมากันด้วยละ ไปกันเถอะ” คริสบอกกับทุกคน

“อือ” ทุกคนตอบรับ

พวกไลน์เริ่มภารกิจแล้ว พวกเขาเริ่มออกเดินทางไปยังห้องส่งสัญญาณ  ในขณะที่พวกเขากำลังเดินไปอย่างระวังอยู่นั้น พวกเขาก็เจอเข้ากับพวก blood wolf  นั่งคุยกันอยู่

“สองคนงั้นเหรอ เราจะให้ ยุทธวิธี CQB นะ ฉันจะให้สัญญาณ พอฉันนับ 1 ถึง 3 ก็ลงมือเลยนะ” คริสบอกให้ทุกคนเตรียมพร้อม

“อือ เข้าใจแล้ว” ทุกคนตอบรับ

“1…2…3 ลุยเลย!!!”

“โอ้!!!” ทุกคนวิ่งพร้อมใจกันวิ่งเข้าใส่พวก blood wolf   2 คนนั่น

ไลน์และอเลนวิ่งวิ่งเขาไปจัดการกับ blood wolf  ไลน์ยิงที่ต้นขาของเขาจนล้มลงกับพื้นแล้ว

อเลนก็กระโดดเตะไปที่หน้าของเขาทำให้หมดสติ ส่วนคริสก็ยิงไปที่มือของ blood wolf อีกคนหนึ่งเขาล้มลงกับพื้นแล้วร้องด้วยความเจ็บปวด  เขาไม่มีแรงพอจะจับปืนแล้ว คริสก็เอาปืนจ่อไปที่หัวของเขา คริสก็พูดว่า

“ตายสะ!”

ทันใดนั้นไลน์ก็เอามือปัดลำกล้องของปืนไปอีกทางทำให้ปืนลั่นออกมา เชียวหัวของ blood wolf คนนั้นไปนิดเดียว

“ทำบ้าอะไรของเธอเนี้ย!” คริสต่อว่าไลน์

“เราจะไม่ฆ่าใครทั้งนั้นนะ”

“ไม่ฆ่างั้นเหรอ? เธอไม่เห็นสิ่งที่เจ้าพวกนี้ทำกับพวกเรารึไงน่ะ”

“เห็นสิ! แต่ถึงอย่างนั้นน่ะ เราก็จะไม่ฆ่าพวกเขา เขาจะต้องรับผิดชอบ ในสิ่งที่พวกเขาได้ทำ ฉะนั้นแล้วเราต้องจับพวกเขานะ” ไลน์บอกกับคริส

คริสเงียบไปสักพักคริสก็ตอบกับไลน็ว่า

“เอางั้นก็ได้ แบบนั้นอาจจะดีกว่าก็ได้นะ ขอโทษละกัน”

“อือ ขอบคุณมากนะที่เข้าใจ”

“แล้วจะเอายังไงกับเธอคนนี้ดีละ?”

“งั้น เอาแบบนี้ละกันนะ”

ตุบ!!! ไลน์เอาปืนพกฟาดไปที่หัวของเขาจนหมดสติ

“ช่วยทำแผลให้พวกเขาด้วยละกันนะ”

“พูดว่าจะไม่ฆ่าก็เถอะนะ แต่เอาปืนฟาดหัวเนียก็โหดเหมือนกันนะ”

“แบบนี้เหมือน ลูบหลังก่อนแล้วค่อยฟาด เอ้ย! ตบหัวเลยนะเจ้าคะ”

“ไลน์...น่ากรัวกว่าที่คิดนะเนียยยยย” ทั้ง 3 คนพูดถึงการกระทำของไลน์อย่างสนุกสนาน

“เดียวสิ ไหนงั้นละ”

ทั้ง 3 คนก็หัวเราะเยาะไลน์อย่างสนุกสนาน ทันใดนั้นเองก็มีเสียงคนเดินมาทุกคนหยุดหัวเราะและค่อยฟังเสียง

“เสียงคนกำลังเดินมาทางนี้”

“ทางนั้น” อเลนบอกกับทุกคนมองไปทางประตู

ทุกๆคนขึ้นลำปืนรอ แล้วก็มีคนเดินออกมา! เป็นครูฝึกเยเกอร์กำลังจ่อปืนไปที่ทุกคน

“อ่าว พวกเธอเองเหรอ” ครูฝีกพูดออก

“อ่าวครูฝีกเยเกอร์เองเหรอคะ ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ละคะ” คริสถาม

“ฉันก็เดินมาเรื่อยๆ จนมาเจอกับพวกเธอนีละ ได้ยินเสียงหัวเราะก็เลยมาน่ะ”

“อ่อ ยังงี้นีเองน่ะ”

“แล้วพวกเธอกำลังจะไปไหนกันงั้นเหรอ”

แล้วไลน์ก็บอกแผนของพวกเขาให้กับครูฝึกฟัง

“ยังงี้นีเอง ฉันก็จะไปกับพวกเธอด้วยละกันนะ” ครูฝึกบอกทุกคน

“คะ ยังไงสะ มีกันเยอะๆ ก็ดีกว่านีนะ”

ทั้ง 5 ก็เริ่มออกเดินทางอีกครั้ง  ในระหว่างนั้นพวกเขาก็เจอกับพวก blood wolf กัน 6 คนกำลังยืนอยู่

“6 คนเลยงั้นเหรอเอายังไงดีละ ครูฝึกค่ะเอายังไง เออ!?!” คริสถามกับครูฝึกแต่เธอได้กระโจนวิ่งเข้าหา 6 คนนั้นอย่างไม่เกรงกลัวครูฝึกวิ่งเข้าไปกระโดดเตะหัวของ blood wolf คนที่หนึ่งแล้วใช้ปืนพกยิงไปที่ขาของ blood wolf คนที่ 2 และ 3 ทางด้านขวาจากนั้นก็หมุดไปทางซ้ายแล้วปาปืนพกไปหา blood wolf คนที่ 4 ที่หน้าอย่างจัง แล้วก็วิ่งพุงเข้าใส่ blood wolf คนที่ 5 และก็ต่อยไปที่ท้องอย่างจัง จากนั้นก็หันไปดันตัวของ blood wolf คนที่6 แล้วดันตัวไปจนติดกับกำแพงแล้วครูฝึกก็บอกพวกเธอว่า

“ไปฝึกมาใหม่นะ ไอน้อง” พอพูดจบเธอก็เอาปืนกระแทก blood wolf คนที่ 6 หมดสติ

ครูฝึกเยเกอร์ สามารถจัดการพวก blood wolf ทั้ง 6 คนอย่างง่ายดาย ครูฝึกหัดไปทางพวกไลน์แล้วก็ยกมือเพื่อแสดงว่า (ปลอดภัยละ มาได้เลย)

“ครูฝึกเก่งจัง...”

“สุดยอดเลยเจ้าค่ะ”

ทั้ง 4 คนอี้งกับฝีมือของครูฝึกมาก

“นี่ฉัน โดนคนแบบนี้ฝึกมารึเนีย?!?” ไลน์คิดในใจ

“ฝีมือยอดเยียมมากเลยคะ ฉันเห็นยังอึ้งเลยนะคะ” คริสและเพื่อนๆเดินเขาไปหาครูฝึก

“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก”

“ฝีมือระดับนี้น่ะ สมัยตอนเป็นนักเรียนคงได้คะแนนสูงแน่เลยสินะคะ” คริสถาม

“อ๋อ ป่าวหรอกฉันก็เป็นนักเรียนธรรมดาๆ นั้นเหละ ไม่ได้เก่งกาจอะไรหรอกจ๊ะ เผลอๆ แย่ซะด้วยสำ...” ครูฝึกเยเกอร์พูดตอบด้วยน้ำเสียงที่ให้ความรู้สึกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

“ช่างมันเถอะนะ ไปกันต่อได้แล้ว ขืนช้าละก็โดนทำโทษแน่” ครูฝึกกลับมาเป็น ครูฝึกจอมโหดอีกครั้ง!

“คะ...ค่า” ทุกคนตอบกลับพร้อมทั้งเดินตามไป

ในเวลานั้นไม่ได้มีใครเอะใจหรือได้สนใจคำพูดของครูฝึกแม้แต่คนเดียว มีแต่ไลน์เท่านั้นที่เข้าใจความหมายและความรู้สึกของครูฝึกอย่างแปลกประหลาด โดยที่แม้แต่ไลน์เองก็ไม่เข้าใจ

ทั้ง 5 คนก็ยังคงเดินต่อไประหว่างนั้นก็จัดการพวก blood wolf ไปเรื่อยๆ จนใกล้จะถึงห้องส่งสัญญาณแล้ว

 

 

“ดีละ ถ้าผ่านทางนี้ไปก็ถึงห้องส่งสัญญาณแล้ว”

คริสพูดด้วยความหวังแต่แล้วพวกเขาก็ต้องหยุด

“บ้าเอ้ย! มีคนอยู่เหรอ”

“แต่ว่าก็แค่คนเดียวเองนิเจ้าคะ?”

“ดูให้ดีๆสิ”

ครูฝึกชี้ให้ทุกคนๆมองไปกระจกด้ายนอกมีพวก Blood wolf อยู่เป็นสิบๆคน กำลังยิงเดินไปเดินมาอยู่เป็นจำนวนมาก

“เยอะเกินไป ถ้าเราออกไปมันต้องรู้แน่ๆ”

“ต้องรอให้เจ้าพวกนั้นเดินออกนอกสายตรงนี้ไปก่อน แต่ถึงยังงั้นเราก็จะไม่จัดการคนตรงนี้ด้วย เพราะถ้าหากพลาดแม้แต่นิดเดียว เราจบแน่” ครูฝึกบอกกับทุกคน

“ทางที่ดี เราควรเดินให้อยู่นอกสายตาของมันให้เงียบที่สุดแล้วจากนั้นก็ปิดประตู ส่งสัญญาณขอความช่วยเหลืออย่างเงียบที่สุด” คริสบอกแผนการให้ทุกคนฟัง

“เข้าใจแล้ว” ทุกๆคนตอบรับ

“มันไปแล้ว ค่อยๆเดินมานะ” ทั้ง 5 คนค่อยๆเดินไปทางประตูโดยเดินอย่างเงียบที่สุด

สถานการณ์เป็นไปได้ด้วยดี พวกเขาสามารถเดินผ่าน blood wolf คนนั้นได้อย่างไรปัญหาแต่ในขณะนั้นเองก็เกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดขี้นอยู่ดีๆ เสียงสัญญาณไฟไหม้ก็ดังขึ้นจากทางด้านหลังของไลน์ blood wolf  คนนั้นหันหน้ามาเห็นทั้ง 5 คน จากนั้นครูฝึกก็พูดว่า

“วิ่ง!” ทุกๆคนรีบวิ่งเข้าไปที่ประตูนิรภัยที่1 อย่างรวดเร็วทุกคนๆสามารถเข้าไปในห้องได้อย่างปลอดภัยแต่ไลน์ นั้นเกิดหกล้มลงเพราะกว้าวเท้าผิดจังหวะในช่วงเวลานั้น ปืนก็ได้ลั่นไกรออกมากระสุนพุ่งไปหาไลน์อย่างรวดเร็ว ในตอนนั้นเอง ก็มีคนพุ่งไปจับมือของไลน์แล้วเหวี่ยงตัวของไลน์เข้าไปในประตู คนๆนั้นก็คือครูฝึกเยเกอร์ทำให้กระสุนพุ่งไปที่เอวด้านซ้ายของเธอ เลือดไหลลงกับพื้น

“ครูฝึกคะ!”

ครูฝึกกระหักเลือดออก เธอหัดไปยิง blood wolf คนนั้นกลับ จากนั้นสถานการณ์ก็เริ่มแย่ลงไปอีก พวก bloodwolf ที่ได้ยินเสียงก็เดินมาเจอกับพวกของไลน์ในตอนนั้น ครูฝึกเยเกอร์ก็หัดไปบอกกับพวกของไลน์ว่า

“ปิดประตูเร็ว!” ครูฝึกบอกกับทุกคนให้ปิดประตู

คริสและอเลนก็รีบปิดประตูในช่วงเวลานั้น ไลน์ก็ได้พูดออกมาว่า

“คุณยู!” (ทอดเสียงยาว)

ในชั่วพริบตานั้นเอง ครูฝึกยู เยเกอร์ก็ได้ยิ้มและพูดอะไรสักอย่างที่ไลน์ฟังไม่ได้ศัพท์ ประตูก็ได้ปิดลง

 

 

 

“ครูฝึก…”

“โธ่เอ๊ย...ทำไมต้องทำให้เสียเรื่องด้วย เจ้าสัญญาณกันไฟไหม้บ้านั้น!”

“ขอโทษนะ เพราะฉันครูฝึกถึง...”

ทุกคนต่างเสียใจกับการเสียสละของครูฝึกเยเกอร์  จากนั้นคริสก็บอกข่าวร้ายอีกอย่างหนึ่งให้กับทุกคนรู้

“แย่แล้วละ ประตูนี้น่ะระบบล็อคมันไม่ทำงาน”

“หมายความว่าไงนะเจ้าคะ!”

“ประตูนิรภัยที่1 เนียถูกสร้างขึ้นมาเพื่อป้องกันการบุกรุกโดยเฉพาะ ขนาดว่า ระเบิดยังเจาะเข้ามาไม่ได้เลย โดยปกติเมื่อปิดประตูมันจะทำการล็อคอัตโนมัติ แต่รู้สึกว่า ระบบมันจะเสียน่ะสิ เพราะงั้นมันเลยเปิดทิ้งไว้แบบนี้” คริสอธิบายให้กับทุกคน

“แล้วตอนนี้เราจะเอายังไงต่อดีละ” อเลนถามกับทุกคน

“ต้องหาอะไรมากันประตูไว้ก่อน แจ็กสันไปหาคอมที่ยังใช้การได้ อเลนไปช่วยหานะ ส่วนฉันกับไลน์จะค่อยกันประตูให้เอง”  คริสบอกหน้าที่ของแต่ละคนฟัง

“เข้าใจแล้ว เจ้าค่ะ! มัวแต่ร้องไห้ก็ไม่มีประโยชน์หลอก”

“อือ อย่าให้การเสียสละของครูฝึกต้องไร้ความหมาย”

อเลนและแจ็กสันกับมาฮึดสู้อีกครั้ง

“เอาละ แยกย้ายไปได้ละ ไปกันเถอะไลน์”

“อะ...เออ...อือ”

น้ำเสียงของไลน์แสดงให้เห็นเธอช็อคกับสิ่งที่เกิดขึ้นมาก จนไม่แม้แต้แรงจะลุก

“ไม่เป็นอะไรหรอกนะ ไลน์ พวกเราจะรอดไปด้วยกัน พวกเราจะค่อยอยู่ข้างๆกัน เพราะพวกเราเป็นเพื่อนกันไงละ ฉะนั้นไลน์อย่ากังวลไปเลยนะ”

อเลนเดินเข้ากอดไลน์และพูดปลอบใจอย่างอ่อนโยนทำให้ไลน์นั้นกลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกครั้ง

“อือ ขอบคุณมากนะอเลน...”

“ไม่เป็นไรหรอกจ้า ก็ไลน์เป็นคนสำคัญของเรานี่น่า”

“โอเค ทุกๆเราจะรอดไปด้วยกัน”  คริสปลุกขวัญกำลังใจทุกคน

“โอ้!!!”

 

 

ในขณะเดียวกันด้านนอกประตู

“ชิ! อีก 4 คนมันเข้าไปในประตูแล้ว หน่อยแน่ แสบนักนะนังนี่” หนึ่งในกลุ่ม blood wolf  พูดออกมา

ตอนนี้ครูฝึกเยเกอร์กำลังถูกล้อมไปด้วยกลุ่มของ blood wolf เป็นจำนวนมาก ครูก็บอกกับพวกนั้นว่า

“ถ้าคิดจะทำอะไร นักเรียนของฉันละก็ ข้ามศพฉันไปก่อน!” พูดจบครูฝึกก็ยิงปืนไปที่กลุ้มของ blood wolf 4 คนหนึ่งในนั้นถูกยิงที่ไหล แล้วเขาก็ออกคำสั่งว่า

“มัวยืนบื้ออะไรเล่า! ยิงสิ” พูดจบพวกเขาก็กระหน่ำยิงไปที่ครูฝึกเยเกอร์ ครูฝึกพยายามวิ่งเข้าใกล้กลุ่ม blood wolf เพื่อให้พวกมันยิงโดนกันเองแต่ ทำได้แค่แปบเดียวก็ถูกยิงที่ต้นขา ถูกยิงพลาดเพียงแค่ครั้งเดียวหมายถึง “จุดจบ” ครูฝึกถูกยิงที่แขนซ้ายและข้างหลังจนเธอได้ล้มลงกับพื้นเธอพยาพามที่จะยืนแต่เธอก็ไม่สามารถขยับตัวได้ หนึ่งใน blood wolf คนหนึ่งก็เดินมาเอาปืนจ่อที่หัวของ ครูฝึกแล้วพูดว่า

“รู้สึกว่าแกจะมีฝีมือเอาเรื่องเลยนะ แต่โทษทีนะแกน่ะจบแล้วละ....”

“จบงั้นเหรอ...จบยังงั้นเหรอ?” ครูฝึกพูดออกมาลอยๆ แล้วมันก็ทำให้เธอนึกถึงเรื่องในอดีตของเธอ...

 

 

(ร่างกายอ่อนแอเกินไป สภาพการเต้นของหัวใจก็ไม่แน่นอนด้วย ขืนฝึกไปอาจจะเป็นอันตรายถึงชีวิตได้นะคะ /คุณมาพูด

ขอร้องละคะให้ฉันได้รับการฝึกเถอะนะคะ ฉันมีเหตุผลที่ไม่ว่ายังไงก็ต้องเป็น SAS ให้ได้นะคะ ขะ...ขอร้องละนะคะ /เยเกอร์ ยืนกรานขอร้องกับคุณหมอ

แต่ถ้าฝืนฝึกไปอาจจะทำให้ เกิดหัวใจหยุดเต้นได้นะคะ!

ขอ...ขอร้องเถอะค่ะให้โอกาสฉันเถอะนะคะ ขอแค่ครั้งเดียว ครั้งนี้แค่ครั้งนี้เท่านั้น ที่ฉันต้องทำให้ได้ ด้วยโปรดเถอะนะคะ ให้ฉันได้เป็น “SAS” ด้วยเถอะนะคะ /เยเกอร์ ก้มหัวพร้อมกับร้องไห้ข้อร้องอย่างสุดความสามารถคุณหมอมองสักพักก็ถอนหายใจแล้วก็พูดว่า

ก็ได้ค่ะ ฉันจะปลอมมันให้

จริงเหรอคะ!

แต่ถ้าหากเกิดอะไรขึ้นมา คุณต้องล้มเลิกสะนะคะนั้นก็เพื่อ “ชีวิต” ของตัวคุณเองนะคะ

ขอบคุณมากนะคะ คุณหมอ!!! เยเกอร์พุ่งเข้ากระโดดกอดด้วยความรู้สึกที่ดีใจอย่างสุดซึ้ง

3วันต่อมา “วัน ฝึกวันแรก ฐานบัญชาการของ SAS ที่1

จำไว้ให้ดี เมื่อ พวกเธอได้ก้าวเข้ามาที่นี่แล้ว สิ่งเดียวที่ฉันจะแนะนำให้พวกเธอคิดก็คือ อย่าคิดเรื่องไร้สาระเพราะมันไม่มีประโยชน์ต่อการฝึก พวกเธอจะได้รู้ว่าการได้วิ่งบนนรกน่ะมันเป็นยังไง แต่ถ้าพวกเธอสามารถผ่านการฝึกเหล่านั้นมาได้ พวกเธอก็จะกลายเป็นดังปีกแห่ง ชัยชนะ!

/ครูฝึกประกาศ

ฉันต้องเป็นให้ได้ไม่ว่ายังไงก็ตาม...

หลังจากวันนั้นเยเกอร์ก็ได้ฝึกฝนการเป็น SAS แต่การฝึกของเยเกอร์ดูเหมือนว่าจะสวยเท่าไรเพราะด้วยร่างกายของเธอ ทำให้เธอต้องเจออุปสรรคมากกว่าคนอื่นๆ

ฮะ...ฮ่ะ....อ่า / เยเกอร์สะดุดล้มลงกับพื้นบ่างที่ก็หอบจนต้องหยุดวิ่ง

อะไรกัน นร.เยเกอร์ วิ่งแค่นี้ก็ไม่ไหวแล้วเหรอ? นี่เธอคิดจะมาเป็น SAS จริงๆรึเปล่าเนียถ้าไม่มีความต้องใจก็ ออกไปซะเถอะ!

ขอโอกาสให้ฉันลองอีกครั้งเถอะนะคะ / เยเกอร์ถึงจะยังหอบไม่หยุดแต่ก็ยังไม่ยอมแพ้

พราดแล้วก็พราดอีกไม่ว่าเยเกอร์จะทำอะไรก็ไม่ได้เรื่องเลยสักอย่าง ทั้งหมดสติขณะวิดพื้นหรือไม่ก็หอบขณะตอนกำลังเล็งปืน ไม่ว่าเธอจะทำอะไรก็ด้อยกว่าคนอื่นตลอด จนเธอเริ่มคิดว่าเธอจะได้เป็น SAS รึเปล่า?

เห่อ...นี้ทำไมฉันถึงได้ห่วยแตกอย่างเงี้ยแต่ / เยเกอร์คิดในใจ

ในขณะที่เธอกำลังอยู่ในห้องน้ำพอยู่นั้น เธอก็ได้ยินเสียงของพวกผู้หญิงที่ตรงกระจก

“นี่ เธอเห็นรึเปล่า ยัยเยเกอร์น่ะ”

“เห็นสิ ห่วยซะไม่มีน่ะ 555”

“ฉันว่าถ้า นานกว่านี้ฉันว่ายัยนั้นคงตายแน่ๆ อะ 555”

“เธอก็พูดแรงไปนะ แต่ก็อาจจะจริงก็ได้ ก็ยัยนั้นมันอ่อนสะขนาดนั้น”

“น่าจะรีบๆลาออกหรือไม่ก็หนีไปนะ เป็นฉันคงอายตายเลยละ 555”

พวกเธอนินทาเยเกอร์ด้วยความสนุกสนาน โดยที่พวกเธอไม่ได้รู้เลยว่า เยเกอร์มีร่างกายอ่อนแอ เพราะยังที่รู้กันว่า เธอได้ปลอมเองสารเพื่อเข้ารับการฝึก เยเกอร์ได้แต่นั่งร้องไห้และโกรธตัวเองที่มีร่างกายแบบนี้

ทำไม!...ทำไมฉันต้องเกิดมามีร่างกายแบบนี้ด้วย... ทำไม.... ไม่ยอมแพ้หรอก...ไม่ว่ายังไงฉันก็จะไม่ยอมแพ้ ฉันจะต้องเป็น SAS ให้ได้!!!/ เยเกอร์ได้เลิกร้องไห้แล้วได้ใช้ทุดสิ่งที่อย่างเป็นแรงผลักดัน เธอได้ฝึกมากขึ้นกว่าทุกๆคน ทั้งฝึกนอกเวลาและฝึกให้หนักว่าคนอื่นๆ เธอพยายามอย่างสุดความสามารถจนวันหนึ่งเธอได้ออกมาวิ่งนอกเวลาแต่เพราะวันนั้นเธอได้ฝึกหนักกว่าทุกๆวัน ทำให้เธอล้ากว่าปกติ จนเธอวิ่งต่อไม่ไหวจนนอนลงกับพื้น ระหว่างที่เธอกำลังนอนพักอยู่นั้นก็มีคนเดินมาหาเธอ แล้วโยนผ้าขนหนูให้กับเยเกอร์  

ฮะ!/เยเกอร์โดนผ้าขนหนูปิดหน้าปิดตา เมื่อเธอเอาผ้าขนหนูออกก็ได้เจอกับ หญิงสาวผม

สีบลอนด์ห่างม้า  ดวงตาสีฟ้ากำลังยืนมองเธอด้วยท้าทางที่โลงใจพร้อมกับยื่นน้ำเปล่าให้กับ

เยเกอร์

ไง /หญิงสาวคนนั้นถามเยเกอร์ด้วยคำง่ายๆ แต่เหมือนกับว่ามันแฝงไปความอ่อนโยนอย่างมาก

อือ ขอบใจมากนะ / เยเกอร์ได้ตอบรับพร้อมกับรับน้ำมา  แล้วผู้หญิงคนนั้นก็ได้ยืนมือมาหา

เยเกอร์แล้วพูดว่า

ฉัน กลิส ฮันดาวิส จากนี้พวกเราก็เป็นเพื่อนกันแล้วนะ!  /ผู้หญิงคนนั้นพูดพร้อมยิ้มอย่างอ่อนโยนเยเกอร์ รู้สึกได้เลยว่า นั้นไม่ใช้ของปลอมหรือความฝันเยเกอร์ได้แต่ดีใจจนอยากจะร้องไห้ แต่เธอก็ไม่แสดงออกมาให้เห็น เพราะเธอกลัวว่ามันจะดูน่าขำ  เธอเลย จับมือของกลิสแล้วตอบกับเธอ

อือ! ฉัน ยู เยเกอร์ ยินดีที่ได้รู้จักนะกลิส! / เยเกอร์ตอบกลับกลิส พร้อมกับยิ้มอย่างจริงใจ

เยเกอร์ได้ลุกขึ้นมาแล้วแล้วก็เดินไปคุยไปกับกลิสอย่างสนุกสนานนี่เป็นครั้งแรกที่เธอ ได้คุยกับคนอื่น แบบเป็นกันเองแบบนี้ หลังจากนั้นทั้งสองก็เริ่มสนิทกันมากขึ้น  ทั้งสองค่อยช่วยเหลือ ซึ้งกันและกัน ถึงส่วนใหญ่กลิสจะเป็นคนช่วยก็ตาม กลิสเป็นคนอัจฉริยะรอบด้าน  เธอเป็นคนเก่งจนได้ชื่อว่าเป็น “อัจฉริยะ 100 ปี” ส่วนเยเกอร์นั้นถึงจะไม่มี พรสวรรค์ใดๆก็ตาม แต่เธอมี

พรแสวงที่มากว่าใครๆ จนได้ชื่อว่าเป็น “พรแสวง 100 ปี” ถึงทั้งสองจะต่างกันขนาดไหนก็ตาม แต่ทั้งสองก็เป็นเพื่อนรักทีดีต่อกันและกัน  วันหนึ่งช่วงเลิกฝึกซ้อม เยเกอร์กับกลิสกำลังวิ่งแข่งกัน กลิสได้วิ่งนำหน้าเยเกอร์แล้วหันมาบอกกับ เยเกอร์ว่า

ใครแพ้ต้องเลี้ยงน้ำนะ / กลิสท้าเยเกอร์วิ่งแข่งด้วยท่าท่างที่มั่นใจมาก

เอา...แบบนี้ก็สวยสิ / เยเกอร์รับคำท่าพร้อมเร่งสปีดให้เร็วขึ้น ทั้งสองวิ่งแข่งกันจนถึงหน้าค่าย โดยที่ กลิสยังนำเยเกอร์อยู่

ว้า------------สังสัยฉันคงได้น้ำจากเธอแน่ๆละ / กลิสเยาะเย้ยเยเกอร์อย่างสนุกสนาน

ยังไม่รู้ผล สะหน่อย / เยเกอร์พูดพร้อมกับเร่งสปีด แต่ในขณะนั้นเองเยเกอร์ก็มีความรู้สึกแปลกๆ เกิดขึ้นที่อก

อะ..อะไรกัน ทำไมขาถึงหยุ..หยุด...  /เยเกอร์ล้มลงไปนอนกับพื้น  กลิสที่ได้ยินเสียงได้หัดหลังไปหาเยเกอร์เห็ยเยเกอร์นอนแน่นิ่งจึงรีบวิ่งไปหาเยเกอร์อย่างรวดเร็ว

ยู...ยู! นี่เป็นอะไรรึเปล่า ยู / กลิสเข้าไปขว้าร่างของเยเกอร์

ในช่วงเวลานั้น เยเกอร์ได้เห็นผ่านดวงตาของเธอ ภาพ กลิสกำลังเขย่าตัวเธอ กลิสกำลังร้องไห้ มีครูฝึกเข้ามาช่วย  เธอกำลังอยู่บนรถเข็น จากนั้นภาพก็ดำไปแล้วเธอก็ได้ยินเสียง...เสียงของใครสักคนกำลังพูดคุยกันเรื่องของเธอ

เอกสาร ข้อมูลทางแพทย์ทั้งหมดของเธอถูกปลอมขึ้น  นอกจากชื่อจริงและข้อมูลต่างๆที่เกียวกับตัวเธอแล้วเป็นของปลอมทั้งหมด

เราไม่รู้ว่าเธอผ่านการตรวจสอบมาได้ยังไงนะ  แต่หากเป็นแบบนี้?

เธอจะต้องถูกปลดออกจากการฝึก เพราะร่างกายของเธอต่ำกว่าเกณฑ์เกินไป

น่าเสียดาย ทั้งๆที่มีความพยายาม แท้ๆแต่ เสียใจด้วยนะ เธอน่ะจบแล้วละ…)

 

 

ทั้นใดนั้นเยเกอร์ก็เข้าได้สติเธอก็ได้พูดออกมาว่า

“จบงั้นเหรอ?  พูดบ้าอะไรของเธอกัน.... ใครมันจะไปจบง่ายๆกันเล่า!” เยเกอร์หันกลับไปหา blood wolf คนนั้นแล้วใช้มือข้างขวาที่ยังใช้การได้ปัดปืนออกจากมือแล้วเอาตัวพุ้งเข้าหา blood wolf  คนนั้นล้มลงกับพื้นแล้วก็กระหน่ำต่อยไปที่หน้าของ blood wolf  คนนั้นด้วยแรงทั้งหมดที่เธอมีเธอก็ต่อยไปพร้อมกับพูดกับ blood wolf  คนนั้นไปว่า

“จบงั้นเหรอ? ที่จบน่ะมันเธอต่างหากละ”

“มัวมองหาอะไรยิงมันสิ ยัยพวกโง่!” กลุ่ม blood wolf  กระหน่ำยิงไปที่เยเกอร์และ blood wolf คนนั้นแต่เพราะเยเกอร์คร่อมตัวของ blood wolf  คนนั้นอยู่ทำไมกระสุนพุ้งเข้าหาเยเกอร์ เธอถูกยิงที่ หลังอย่างจัง 6 นัดร่างของเธอค่อยล้มลงกับพื้นแล้วก็แน่นิ่งไป...

 

 

ในขณะเดียวกันข้างในประตูนิรภัย

“เอาละเชื่อมต่อได้แล้วละเจ้าค่ะ” แจ็กสันกำลังแฮกระบบอยู่

“ว้าว เก่งจังเลย!” อเลนมองตาเป็นระยิบระยับ

“ถึงแบบนั้นแต่นี้มันก็แค่แฮกเข้าระบบธรรมดาเท่านั้นแหละเจ้าค่ะ…”

“อือ...ถ้าจะแย่แล้วละ ได้ยินเสียงปืนดังจากข้างนอก ถึงจะไม่ค่อยได้ยิน แต่ต้องเกิดอะไรขึ้นกับครูฝึกแน่เลย แจ็กสันรีบเร่งมือหน่อยนะ” คริสสังหอนใจค่อยไม่ดี

“เติมกระสุนเสร็จแล้วละถึงจะเหลือแค่นี้ละนะ” ไลน์ยื่นปืนพกให้กับคริส

“อือ ขอบคุณมากนะว่าแต่เธอไม่เป็นอะไรแล้วจริงๆเหรอ ไลน์?”

“อือ ทีแรกก็ช็อคมากเหมือนกันแต่พอเห็นทุกๆคนแล้ว ฉันเลยคิดว่าจะมัวแต่เศร้าไม่ได้น่ะ ขอบคุณมากนะทุกคน”

“อือ!” ทุกตอบพร้อมยิ้มอย่างจริงใจ

ทันใดนั้นเองก็มีเสียงกระทบที่ประตูดังขึ้นหลายครั้ง นั้นคือเสียงการออกแรงกระแทก ไลน์และ

คริสรีบออกห่างจากประตู  หลบเข้ากำบัง อเลนกับแจ็กสันก็รีบเร่งส่งสัญญาณ ตอนนั้นเองประตูก็ค่อยแง้มออกและมีการยิงออกมาจากรอยแง้มประตูนั้น ได้มีกระสุนนัดหนึ่งพุ่งไปที่จอคอมที่แจ็กสันกำลังส่งสัญญาณไปทำให้จอแตกและคอมดับแต่โชคดีที่ไม่ได้ทำให้แจ็กสันบาดเจ็บ

“แย่แล้วเจ้าค่ะ คอมโดนยิงเจ้าค่ะ”

“ว่าไงนะ แล้วจะเอายังไงต่อละ” คริสตะโกนถามแจ็กสัน

“ตัวส่งสัญญาณกับคีย์บอร์ดยังใช้งานได้อยู่รึเปล่า” ไลน์ถามไปที่แจ็กสัน

“จะ...เจ้าค่ะ ยังได้อยู่เจ้าค่ะ”

“รหัสมอสไง  ใช้รหัวมอสส่งไปแทน เร็วเข้า!”

“เข้าใจแล้วเจ้าค่ะ รหัสมอส รหัสมอส  เออ...ตัว G” แจ็กสันกำลังรีบพิมพ์รหัสมอสอย่างเร็วที่สุดเขียนผิดบ่างถูกบ่าง

“มันจะพังเข้ามาได้แล้วนะ”

“กระสุนหมดแล้วละจ๊ะ!” อเลนตะโกนบออกกับทุกคน

“ขอร้องละ  เจ้าค่ะช่วยมาสักทีเถอะเจ้าค่ะ!”

ทันใดนั้นประตูก็ได้เปิดออก กลุ่ม blood wolf บุกเข้ามาเข้าล้อมพวกของไลน์เอาไว้แล้ว blood wolf คนหนึ่งก็พูดออกมาว่า

“ให้ตายสิ ทำให้เรื่องมันยุ่งยากสะจริงๆนะ  ไอ่พวกสุนัข  ขอชมเชยที่รอดมาถึงตอนนี้ได้”

ปัง! เธอคนนั้นยิงปืนไปที่แขนของคริส

“ไม่ ไม่ ไม่ อย่าทำให้ฉันอารมณ์เสียสิ  ช่วยอยู่นิ่งเงียบๆ ให้ฉันได้ชื้นใจหน่อยสิ เอาละฉันจะถามนะ ใครเป็นหัวหน้าของพวกเธอกันละ รีบๆบอกมาสะ ไม่งั้นฉันจะฆ่าพวกเธอทีละคนละนะฉันจะนับ 3...2...1...สะ”

“ฉันเอง !”

“เดียวสิไลน์” ไลน์หันมายิ้มให้กับคริสแล้วก็บอกต่ออีกว่า

“ฉันนี้ละหัวหน้า” ไลน์เดินออกมาพร้อมทิ้งปืนลงกับพื้น

“เธอเองเหรอ หัวหน้าน่ะ” ทันใดนั้น blood wolf คนนั้นก็เอาปืนฟาดไปที่หน้าของไลน์ยังจังจนล้มลงกับพื้นพร้อมกับเอาปืนฟาดไปที่ร่างของไลน์อย่างต่อเนื่องและก็พูดว่า

“เป็นไงละ ซ่านักไม่ใช้รึไง ซ่านักก็ลองลุกขึ้นมาสิ  ห่ะ! เป็นอะไรไปไอ่สีหน้าเมื่อกี้มันหายไปไหนแล้วละ” เธอคนนั้นจับผมของไลน์แล้วก็บอกกับไลน์ว่า

“ยัยโสโครกเอ้ย! คิดว่าตัวเองแน่นักรึไง?” แล้วเธอก็เอาปืนฟาดหน้าของไลน์จนล้มลงกับพื้นอีกครั้ง  ไลน์สะบักสะบอมไปทั้งตัว

“อ๊าก…” ไลน์กระหักเลือดออกมา

“ไลน์”

“คุณไลน์”

“ไลน์”

ทุกๆคน ต่างช็อคกับการกระทำของ blood wolf คนนั้นมาก  แต่ดูเหมือนว่าคนที่ช็อคมากที่สุดดูเหมือนจะเป็นอเลน  เธอจ้องมองภาพไลน์กำลังนอนสะบักสะบอม  แล้วเริ่มแสดงสีหน้าอาฆาตออกมา ทันใดนั้น blood wolf คนนั้นก็เอาปืนจ่อไปที่หัวของไลน์แล้วพูดว่า

“หายไปสะ…”

“อย่านะ--------------!” 

บึม!!! เสียงระเบิดดังขึ้นจากข้างนอก

“อะไรวะ!! เกิดอะไรขึ้นน่ะ เรเจล!”  blood wolf  คนนั้นกำลังติดต่อกับพวกของเธอผ่านทางวิทยุ

“เกิดระเบิดขึ้นตรงประตูกลาง”

“แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกันเล่า!?!”

“ไม่รู้...แต่ที่แน่ๆตอนนี้เราถูกล้อมแล้ว”

“ห่ะ?!? หมายความว่าไง”

ทันใดนั้นเองก็ได้มีเสียงปริศนาดังขึ้นมาจากบนฟ้า นั้นคือ เฮลิคอปเตอร์สีดำตัดสีขาว ใช้แล้วนั้นคือ เฮลิคอปเตอร์ตำรวจนั้นเอง

“ฮัลโหล ฮัลโหลเทส  สวัสดีพวกคุณผู้ก่อการร้าย  ตอนนี้พวกเรา  กองกำลังตำรวจแห่งสหราชอาณาจักร ได้ล้อมที่นี้ไหวหมดแล้วขอให้ทุกคนยอมมอบตัวสะดวยดี ไม่งั้นเราจะทำการส่ง SWAT ลงไปละนะ

“ชิ ตัวเกะกะโผล่มายังงั้นเหรอ มัวมองอะไรอยู่ ยัยพวกเซ่อ รับไปเตรียมการป้องกันสะสิ!!!”

“แล้วเจ้าพวกนี้ละค่ะ?”

“ชิ เฝ้าไว้อย่าให้คลาดสายละ”

“รับทรายค่ะ”

“เห็นพวกเขาแล้วค่ะ พวกเขาอยู่ในห้องส่งสัญญาณ  ห่างจากตรงนี่ไป 2 กิโลค่ะ”

สไนเปอร์ SWAT ได้บอกกับหัวหน้าของเธอ

“โอ้ ทำได้ดีมาก ได้ยินละนะ โมด้า” หัวหน้าคนนั้นได้คุยผ่านวิทยุกับอีกคนหนึ่ง

“อา...ได้ยินแล้ว” “ฝากด้วยละ อ่อแล้วก็อีกเรื่องหนึ่ง....อย่าเอาถึงตายละ”

“รู้แล้วละน่า-------------คิดว่าฉันเป็นใครกัน”

“งั้นฝากด้วยนะ”

“เดียวดิฉันจะค่อยสนับสนุนให้ค่ะ”

“รับทราบ งั้นเริ่มกันได้เลย”

จบการสนทนา  เฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่งค่อยๆเข้าไปใกล้กับมุมกระจกแล้วประตูเฮลิคอปเตอร์ก็ค่อยๆเปิดออก ในนั้นมีหญิงผมยาวสีฟ้ากำลังวิ่งพุ้งออกจากเฮลิคอปเตอร์แล้วเธอก็กระโดดเข้าไปในตึก พอเธอเข้ามาเธอก็ได้เจอกับ blood wolf อยู่สองคน ทั้งสองขึ้นลำกล้องไปยังเธอ แต่เธอก็ไม่ได้รู้สึกแปลกอะไรแถมเธอยังบอกกับ blood wolf สองคนนั้นว่า

“ขอแนะนำว่าให้ว่างอาวุธแล้วหมอบลงกับพื้นสะดวยดี”

“พูดบ้าอะไรของแกน่ะ!”

“ตายสะเถอะ”

ในช่วงเวลานั้นเธอได้ชกปืนพกทั้งสองที่อยู่ในซองปืนตรงอกออกมาและยิงไปที่ปืนของ blood wolf สองคนนั้นอย่างรวดเร็วจากนั้นเธอก็พุ้งเข้าไปกระโดดเตะหน้าของ blood wolf คนที่หนึ่งจนล้มลงกับพื้น จากนั้นเธอก็หัดไปเตะ blood wolf อีกคนจนล้มลงกับพื้นไปอีกหนึ่ง

“ก็บอกไปแล้วนะ ว่าให้วางลงน่ะ...ห้องแรกเเคลียร์แล้ว” เธอติดต่อไปหา สไนเปอร์ที่กำลังสนับสนุนเธออยู่

“ถัดจากห้องนั้นจะเจออีก 3 คนค่ะ เดียวดิฉันจะจัดการคนที่อยู่ห่างจากอีกสองคนเองค่ะ”

“รับทราบ ลุยกันเลย” เอค่อยๆ บุกเข้าไปเรื่อยๆจนตอนนี้เธอได้เข้าไปถึงห้องที่พวกไลน์อยู่แล้ว

ในห้องนั้นตอนนนี้เหลือแค่ blood wolf คนเดียว และพวกของไลน์

“เห่ พวก เป็นไงบ้าง อย่าเงียบสิ ฉันใจคอไม่ดีเลยนะ เฮ้ย!” จากน้ำเสียงเธอกำลังระแวง ทันใดนั้นเอง ก็มีคนได้เข้ามาข้างหลังของเธอ นั้นคือผู้หญิงคนนั้นนั่นเอง เธอได้กระสิบบอกกับ blood wolf คนนั้นว่า

“มัวแต่มองข้างบนไม่มองข้างล่างเลยนะ...”

Blood wolf คนนั้นตกใจมาก จนหมดสติไป

“อ่าว ? หมดสติไปแล้ว” ผู้หญิงคนนั้นได้เดินไปหาพวกของไลน์

“เอ่อ...คุณ...คุณโมด้า!” ไลน์ได้เอยธอของผู้หญิง่คนนั้นออกมา

“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ ไลน์”  โมด้าได้ทักกลับไลน์แบบนิ่งๆ

“คนรู้จักเหรอไลน์?” คริสถามกับไลน์

“อือ! เขาเป็นเพื่อนของพี่สาวน่ะ งั้นแสดงว่าคุณ มอร์แกนก็มาสินะคะ” ไลน์ด้วยความรู้สึกดีใจ

ทันใดนั้นก็มีคนพูดออกมาจากในวิทยุสือสารของโมด้า

“ไงๆ ไลน์ น้าเองนะ ไม่ได้เจอกันตั้งนานแน่ะ!!!”

“คุณมอร์แกน”

“เออ พวกคุณเป็น?” คริสได้ถามกลับโมด้า

“พวกฉันน่ะเหรอ เป็นตำรวจน่ะ” โมด้าตอบกลับคริสแบบนิ่งๆ

“พวกเรามาช่วยตามสัญญาณขอความช่วยเหลือน่ะ ตอนนี้หน่วย SWAT คงกำลังจัดการกับผู้ก่อการร้ายแล้วละ น่าจะใกล้เสร็จแล้วละมั้ง!” มอร์แกนได้บอกกับทุกคน

 

 

ขณะเดียวกัน หน่วย SWAT ก็ค่อยๆล้อมกลุ่ม blood wolf ไปเรยๆ

“ยอมแพ้สะด้วยดี  พวกเราล้อมไว้หมดแล้ว!” หน่วย SWATได้ตะโกนออกมา

ทางด้านของกลุ่ม blood wolf  ก็ค่อยๆถอย

“เอาไงต่อ เรเจล มันจะถึงเราอยู่แล้วนะเว้ย” blood wolf คนหนึ่งได้พูดกลับ blood wolf อีกคนหนึ่ง

“แปบนึ่ง” เธอตอบแบบใจเย็น

“นี่ die-3 ประตูตะวันออกถูกยึดแล้วค่ะ!”

“die 2 และ 4 ประตูเหนือเองก็ถูกยึดแล้วจะเอาไงต่ะค่ะ”

“เฮ้ย เรเจล เร็วสิ” เธอได้ตะโกนบอก blood wolf คนนั้น แต่เธอไม่สนใจเพราะกำลังคุยกับ หัวหน้าอยู่

“จะเอายังไงดีค่ะ จะสู้ หรือ หนี” เธอถามหัวหน้าด้วยความใจเย็น หัวหน้าก็ได้บอกกลับเธอไปว่า

“ถอยก่อน กำลังเสริมยังมาไม่ถึง”

“รับทราบค่ะ” เธอตอบกลับหัวหน้าแล้วก็สิ้นสุดการสนทนา

“ใช้ไอ่นั้นได้เลย” blood wolf คนนั้นได้บอกกับพวกของเธอ

“’งั้นเหรอ? ชิ! เอาเถอะ เฮ้ยยัยพวกโง่ ใช้ไอ่นั้นแล้วถอยก่อน” เธอได้บอกกับ blood wolf ทุกคนให้ถอย

กลุ่ม blood wolf ที่ได้รับคำสั่ง ก็ได้หยิบสิ่งๆ หนึ่งออกมา นั้นคือกระสุนแก๊สน้ำตาและระเบิดแก๊สพิษ พวกเธอได้ยิงและขว้างไปที่หน่วย  SWAT ทำให้พวกเขาไม่สามารถเข้ามาได้ พวก blood wolf ได้ใช้จังหวะนั้นหนีขึ้น เฮลิคอปเตอร์ ที่บินมารับ หน่วย SWAT สามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว ตอนนี้พวกของไลน์ปลอดภัยแล้ว หน่วยแพทย์ได้เข้ามาช่วยเหลือผู้รอดชีวิตและพวกของไลน์ พอหลังจากนั้น พวกไลน์ที่นั่งอยู่ที่ รถพยาบาลกำลังรอตรวจเช็คร่างกายอยู่ โมด้าและมอร์แกนก็ได้เดินเข้ามาหาพวกของไลน์  เมื่อไลน์เห็นทั้งสองคนเดินมาก็ได้ตะโกนหาทั้งสองคน

“คุณโมด้า คุณมอร์แกน”

“ปลอดภัยดีสินะ พวกเธอน่ะทำได้ดีมากเลยนะ รู้ไหม” มอร์แกนชมพวกของไลน์

“ขอบคุณมากค่า!” อเลนตอบกลับทั้งสองคน

“เขินเลยนะเจ้าคะ”

“คือว่า พวกคุณรู้ได้ยังไงคะ ว่าพวกเราถูกผู้ก่อการร้ายบุกน่ะ” คริสได้ถามกับมอร์แกน

“อ่อ หน่วยข่าวกรองได้รับสัญาญาณขอความช่วยเหลือน่ะ พอสืบไปสืบมา ก็พบว่าเป็นที่นี่ และในตอนนั้นก็มีโทรศัพท์จากตำรวจในพื้นที่ได้แจ้งเหตุ ควันที่ลอยออกมาจากทางฐานบัญชาการของ SAS ก็เลยส่งหน่วย  SWAT ที่อยู่เมืองใกล้ๆทั้งหมดเลยน่ะ 555” มอร์แกนได้อธิบายกับทุกๆคน ทันใดนั้นไลน์ก็นึกเรื่องสำคัญอีกเรื่องหนึ่งได้ จึงถามกลับมอร์แกนไปว่า

“จริงสิ คุณมอร์แกนคะ เห็นคุณยู บ้างรึเปล่า ตอนที่พวกเราออกมาน่ะ ก็ไม่เห็นตัวของเขาเลยน่ะค่ะ เขาปลอดภัยดีใช้ไหมคะ!” พอไลน์ถามออกไป มอร์แกนก็ทำสีหน้าที่ไม่ค่อยดีออกมาอย่างเห็นได้ชัด แล้วมอร์แกนก็ได้บอก ไลน์ไปว่า

“ตามมาสิ” มอร์แกนพูดด้วยน้ำเสียงที่ให้ความรู้สึกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก มอร์แกนได้พาพวกไลน์ไปที่เต็นผู้ป่วยฉุกเฉิน ภาพที่ไลน์และทุกๆคนได้เห็นนั้นก็คือ ครูฝึกเยเกอร์ที่นอนไม่ได้สติและเต็มไปด้วยผ้าพันแผล แล้วมอร์แกนก็ได้พูดออกมาว่า

“โมด้าเจอเขานอนอยู่ห่างจากห้องที่พวกเธออยู่ แล้วก็บอกให้พวกฉันมารับตัวไปรักษาด่วนน่ะ แต่เธอเสียเลือดมากเกินไป แถมยังมีกระสุนฝั่งอยู่ตามบาลแผล ถึงเราจะเอาออกไปหมดแล้วแต่เธอก็ยังไม่ได้สติเลย” ไลน์ที่ได้ยินแบบนั้นน้ำตาก็ไหลออกมา ทันใดนั้นก็มีการตอบสนองจากตัวครูฝึก เยเกอร์

“น่ะ...นี่เรายัง...ไม่ตาย...งั้นเหรอ” เยเกอร์ค่อยๆลืมตาขึ้น เธอพูดลอยๆออกมา

“คุณยูคะ” ไลน์พูดออกมาด้วยความดีใจกร้อมทั้งพุ้งเข้ากอดเยเกอร์

“เดียะ...เดียวสิ...ฉันเจ็บนะ...ฮันดาวิส”

“ดีใจจังที่ครูฝึกยังไม่ตาย”

“เอ่อ ขอบคุณมากนะ ไลน์ ฉันไม่ได้เรียกเธอแบบนี้มานานขนาดไหนแล้วนะ” ครูฝึกเยเกอร์พูดไปพร้อมกับหัวเราะไปพลางๆ

“คุณยู…”

“เดียวเถอะ ตอนนี้ต้องเรียกครูฝึกเยเกอร์สิ เออว่าแต่ เจ้าพวกผู้ก่อการร้ายละ”

“ถอยไปแล้วละ ตอนนี้พวกคุณปลอดภัยแล้วละ ดิฉันชื่อ มอร์แกน โฮลีเวีย เป็นตำรวจนะค่ะ ได้ยินว่าคุณ รู้จักกับไลน์และก็กลิสด้วย ขอขอบคุณมากที่ช่วยดูแลพวกเธอให้นะคะ” มอร์แกนบอกกับเยเกอร์พร้อมกบัแนะนำตัวให้รู้จัก

“อ่อ...ค่ะ ดีฉันก็เช่นกันนะคะ เจ้าพวกนั้นหนีไปงั้นเหรอเจ็บใจชะมัด ที่ต้องมาอยู่ในสภาพแบบนี้”

“ขอโทษด้วยนะคะ ที่คุณยูต้องเป็นแบบนี้ ก็เพราะฉัน ถ้าฉันไม่ทำพลาดคุณก็ไม่ต้องกลายเป็นแบบนี้ ฉันน่ะมันไร้ความสามารถ ไม่มีแม้แต่คุณสมบัติที่จะเป็น SAS ฉันไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย” ไลน์พูดไปพร้อมกับน้ำตา ครูฝึกจงได้บอกกับไลน์ว่า

“ไลน์ ไม่ว่าเธอจะคิดแบบนั้นก็ตามแต่นะ ไม่ว่าเธอจะห่วยขนาดไหนก็ตาม แต่เธอน่ะ เป็นลูกศิษย์อันดับหนึ่งของฉันนะ เธอยังสามารถไปได้ไกลกว่านี้ นิสัยที่ชอบเป็นห่วงคนอื่นของเธอน่ะ อย่าทิ้งมันไปซะละ” ครูฝึกบอกกบัไลน์ด้วยท่าทางที่อ่อนโยน

“ไม่นะคะ อย่าทำแบบนี้นะคะ ขอร้องละค่ะ” 

“อีกเรื่อง...ไลน์...อย่าให้ความเศร้าเปลี่ยนเป็นความแค้น...และอย่าให้ความแค้นเมาปลี่ยนตัวของเธอเด็ดขาดนะ...” ครูฝึกเยเกอร์พูดออกมาด้วยสีหน้าที่จริงจัง ไลน์นิ่งไปสักพัก ตอบกลับไปว่า

“คะ ฉันจะไม่ทำให้คุณต้องผิดหวังค่ะ” ไลน์ตอบรับทั้งน้ำตา

“ดีมาก...ฉัน....ไม่มีอะไรต้องห่วงอีกแล้ว (กริส...ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง ลาก่อน...)”

หลังจากนั้นครูฝึกเยเกอร์ก็ได้หลับตาลงพร้อมกับรอยยิ้มและเสียงสัญญาณชีพจรก็ดับลง...

ในระหว่างความเสียใจนั้นเอง คริสก็ได้ทำบ่างอย่าง

“ทุกคน ทำความเคารพ” คริสสั่งให้ทั้ง 4 คนทำความเคารพ ทั้ง 4 คนทำความเคารพเลียงหน้ากระดานแล้วไลน์ก็ได้พูดออกมาว่า

“ขอบคุณสำหรับ คำสั่งสอนค่ะ” สิ้นสุด...

 

 

อีกด้านหนึ่ง หญิงสาวผมสีเขียวกำลังคุยกับใครสักคนอยู่

“ทำได้ดีมากเลยนะ เพราะเธอแท้ๆ ทำให้เราสามารถหยุดผู้ก่อการร้ายได้น่ะ” เสียงหญิงสาวปริศนาได้บอกท่านเครื่องวิทยุ

“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ”

“สามารถส่งสัญญาณให้กรมตำรวจได้เนีย ไม่ธรรมดาเลยนะ เธอจะต้องได้เลื่อนขึ้นแน่นอน”

“ของแบบนั้นฉันไม่สนใจหรอกนะคะ”

“งั้นเหรอ งั้นเธอมีอะไรที่ต้องการเป็นพิเสษรึเปล่าละ”

“จะดีเหรอค่ะ อะไรก็ได้งั้นเหรอ”

“แน่สิ สิ่งที่เธอทำน่ะมันสมควรแล้ว ที่จะได้รับ”

“’งั้นฉันมีเรื่องจะขอ ...................” เธอได้ขอบ่างอย่าง 2 ข้อกับหญิงปริศนาคนนั้น พอผู้หญิงปริศนาไดยินคำขอของเธอ เขาก็ตกใจเล็กน้อย

“งั้นเหรอ จะเอาแบบนั้นสินะ เข้าใจละ ฉันอนุมัติ เดียวฉันจะส่ง เฮลิคอปเตอร์ ไปรับนะ”

“ขอบพระคุณมากค่ะ” สิ้นสุดการสนทนา...

 

จบ

ติดตามตอนต่อไป..

 

     ขอบคุณที่อ่านจบนะคะ อาจจะงงไปนิดหน่อย ขอโทษด้วยจริงๆนะคะ อิฉันไม่อยากตัดสักส่วนเลยน่ะค่ะ เลยเขียนมาทุกฉาก ทุกสถานการณ์เลยละค่ะ ยังไงก็ฝากติดตามกันด้วยนะคะ ขอบคุณอีกครั้งค่ะ

ในส่วนของปมอดีตของ ครูฝึก ยู นะคะเดียวจะมีแบบเต็มเป็นเรื่องสั้นมาให้อ่านอีกทีนะคะ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา