fantasy virtual world online

-

เขียนโดย PLAYER

วันที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2559 เวลา 22.23 น.

  1 ตอน
  1 วิจารณ์
  2,477 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2559 22.32 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

1)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

                                                         I

                                                  ผจญฤทธิ์อสูร

                ความ มืดมาปกคลุมทั่วร่าง มีเพียงความเงียบงันและความเคว้งคว้างราวกับอยู่ในห้วงอวกาศอันไกลโพ้น ไร้แรงโน้มถ่วง ไร้ที่สิ้นสุด  ก่อนจะโดนดูดด้วยพลังอันมหาศาล ‘ภู’พยายามต้านแรงดึงดูดนั้นโดยไขว้คว้าหาที่ยึดเหนี่ยว แต่ก็คว้าได้เพียงความว่างเปล่า เหงื่อผุดบนใบหน้า และดิ้นรนอย่างทุรนทุราย หัวใจถูกบีบรัดมากขึ้นทุกทีจนต้องเต้นถี่ขึ้นเรื่อยๆ พอมาถึงช่วงที่หัวใจเต้นถี่สูงสุด!  สติ  ก็ดับวูบไป...

               

               

                ผมตายแล้วใช่มั๊ย?  ปวดหัวใจตุบๆเลย ไอ้วาโย แก!!

                ‘ผู้ เล่น ปฐพีไพศาล วัดระดับความถี่ของหัวใจได้ระดับสูงสุด หนึ่งในห้าของเกม ได้ผู้เล่นระดับสูงสุดตามเวลาที่กำหนดแล้ว ขอปิดกิจกรรมตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปค่ะ’

                ??? เสียงผู้หญิงก้องในหูผม ใครคือปฐพีไพศาล และเกมคือ? อย่าบอกนะว่าผมอยู่ในเกม โฮ่! นึก ว่าไอ้โยมันฆาตกรรมผมซะแล้ว ผมลืมตาพบกับความมืดมิดอีกครั้ง รู้สึกได้ถึงพื้นแข็งๆและที่แคบ ผมเอามือควานหาข้างบนพบว่าผิวแข็งๆนี้มีส่วนที่ยื่นออกมา ผมจับส่วนที่ยื่นออกมานั้นเลื่อนไปทางขวาจนสุดมีก็แสงเล็ดลอดเข้ามา ผมลุกขึ้นนั่งพร้อมกระพริบตาปริบๆเพื่อปรับแสง แล้วสังเกตที่ๆผมกำลังนั่งอยู่...

                มันคือ ‘โลงศพ’ ครับ ทำไมผมถึงโผล่มาจากโลงศพได้ล่ะครับเนี่ย เกมนี้มันแปลกจริงๆ-_- แต่ผมก็ต้องเก็บความสงสัยไว้ก่อนแล้วมองหาแนวร่วมทันที แต่ก็พบเพียงบริเวณรอบๆที่เป็นต้นไม้หนาทึบ มีแสงเล็ดลอดเป็นช่วงๆเท่านั้น ไม่เห็นแม้แต่ผู้เล่นคนอื่น  บรรยากาศเริ่มวังเวง ต้นไม้โยกไปมาตามลมเย็นๆ คือผมไม่ได้อยากได้แนวร่วมเป็นพลังงานบางอย่างนะครับ!! ผม ลุกขึ้น เหงื่อเริ่มผุดบนใบหน้าอีกรอบ แล้วเดินตามทางที่ต้นไม้เปิดทางไว้ให้ ยิ่งเดินเข้าไปลึกก็ยิ่งเงียบและมืดขึ้นเรื่อยๆ หวังว่าเกมนี้มันคงไม่ใช่เกมHorror หรอกนะ

   เปรี้ยงงงงง!!!!

               ฉับพลันก็เกิดเสียงดังกัมปนาทขึ้นคล้ายกับเสียงฟ้าผ่าอย่างรุนแรง ผมสะดุ้งด้วยความตกใจแล้วหันไปที่ต้นเสียงทันที มันปรากฏเป็นโพรงถ้ำขนาดใหญ่มาอยู่ในจุดอับสายตาของผม ผมลังเลอยู่สักพัก ก่อนจะตัดสินใจเดินเข้าไป(ด้วยความอยากรู้อยากเห็น) บางทีนั่นอาจจะเป็นทางออกก็ได้

 

                “พวกแกมันเล่นโกงนี่หว่า ไอ้พวกหมาหมู่”

                “หมาหมู่แล้วไง? ใครใช้ให้แกมาคนเดียวล่ะวะ!”เสียงของผู้ชายดังมาจากส่วนลึกของถ้ำ ผมย่องไปแอบแถบโขดหินที่นูนออกมาจากผนังพร้อมสังเกตการณ์

                “เอาคัมภีร์คืนมา!!”เสียง ผู้ชายที่นั่งคุกเข่ามือกุมหน้าอกตะโกนอย่างเกรี้ยวกราดพร้อมจ้องเขม็งไปที่ หัวหน้าของกลุ่มซึ่งทำหน้ายียวนกวนประสาทอยู่อย่างไม่สะทกสะท้าน

                “เฮอะ อยากได้ก็มาเอาคืนดิ”หัว หน้ากลุ่มพูดพร้อมแสยะยิ้มอย่างสะใจ แล้วชูคัมภีร์ขึ้นเยาะเย้ยก่อนจะเปิดคัมภีร์ลงช้าๆ ท่าทางผมจะมาผิดที่แล้วล่ะเนี่ย ผมจะไม่ช่วยมันก็กระไรอยู่แต่ไอ้พวกนั้นมีตั้งหลายคนแถมมีมีดมีดาบ ไอ้ผมมีแค่เสื้อกล้าม กางเกงบ๊อกเซอร์ รองเท้าคีบแตะจะไปช่วยอะไรเค้าได้ เกมบ้าอะไรวะเนี่ยมีดสักเล่มไม่ให้แล้วยังจะงกเสื้อผ้าอีก เกิดเดินๆไปเจอผู้หญิง เค้าจะไม่คิดว่าผมเป็นไอ้โรคจิตเหรอครับ?

                ตี๊ด   ตี๊ด   ตี๊ด   ตี๊ด  ตี๊ด    ตี๊ด   ตี๊ด.....!!!

                เสียงจากระบบโพล่ง!ขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว

                ‘โปรด ระวัง ขณะนี้พื้นที่นี้ได้กลายเป็นสถานที่ต่อสู้เรียบร้อยแล้ว  ขอต้อนรับเหล่าผู้กล้าทั้งหลาย บัดนี้....อสูรสิบทิศยามเฝ้าประตูได้ปรากฎตัวขึ้นแล้ว!’

                “สถานที่ต่อสู้อะไ....”ก่อน ที่ผมจะพึมพำเสร็จ ร่างใหญ่มหึมา ตัวดำทะมึนก็ปรากฏออกมาอย่างช้าๆ ทั่วทั้งถ้ำสั่นสะเทือนเลือนลั่น กลุ่มผู้ชายที่ยืนอยู่เริ่มจับกลุ่มสร้างค่ายป้องกัน มีเพียงชายที่น่าสงสารนั่งอยู่นอกค่ายเท่านั้น ยังไม่ทันจะได้เอ่ยอะไรออกมาก็โดนตะบองเหล็กยักษ์ฟาดจนเละคาที่แล้วกลายเป็น แสงสีนวลหายไปอย่างรวดเร็ว แม้มันจะหายไปเร็วแต่ผมเห็นชัดเลยล่ะ ในฐานะที่ผมไม่สามารถช่วยอะไรได้ ผม...ขอยืนไว้อาลัยซักครึ่งนาที จู่ๆก็มีผู้ชายคนนึงกระโดดมาจากทางด้านหลังของอสูรพร้อมฟาดกระบี่ลงไปที่ กลางศีรษะอย่างรุนแรง เสียงของอสูรสิบทิศคำรามลั่น แล้วใช้มือข้างซ้ายฟาดมือกระบี่อย่างรวดเร็วไม่สมกับขนาดตัวของมัน มือกระบี่ถูกตบแหลกเละกับพื้นถ้ำ ผมนี่กระอักกระอวลแทบจะอ้วกอย่างนี้ต้องติดป้ายเกมห้าสิบบวกไว้เลย! เท่านั้นยังไม่พอเจ้าอสูรสิบทิศใช้เท้ากระทืบไปที่ค่ายกลด้วยความโมโห ทั่วทั้งถ้ำสั่นสะเทือนจนคนในค่ายกลตั้งตัวไว้ไม่อยู่ เซไปเซมา แต่ก็ยังดิ้นรนกางค่ายกลไว้ ไม่นานนักค่ายกลนั้นก็พังพินาศ ร่างทุกร่างกลายเป็นร่างที่ไร้วิญญาณอยู่ใต้ฝ่าเท้าของอสูรสิบทิศ ใบหน้าดำทะมึนฟันยาวเฟื้อยกำลังสูดหายใจราวกับหาอะไรบางอย่าง ผมพยายามเบียดตัวเข้าโขดหินให้ชิดที่สุด คือถ้าสิงได้ ผมสิงเลย ในใจก็ภาวนาให้เจ้าอสูรนี่ไปสักที อย่าเห็นผมเลย..

 

    ตึง   ตึง   ตึง  ตึง  ตึง  ตึง  !!!

               เฮ้ยยย! มัน เห็นผมแล้ว ผมขอโท๊ดดดด ผมแค่มาหาทางออกเฉยเฉยยยย ผมออกจากที่ซ่อนแล้ววิ่งไปอีกฟากอย่างรวดเร็ว เสียงฝีเท้าขนาดยักษ์ตามมาติดๆ เสียงวืดของตะบองทำผมเสียวสันหลังวาบ หัวใจเต้นถี่ขึ้นเรื่อยๆ เริ่มเกิดอาการเหนื่อยหอบ พื้นก็ขรุขระและมืดขึ้นเพราะคบเพลิงเริ่มหรี่แสง ผมหนีตาย..จนกระทั่ง.. ‘ทางตัน’ สิ้น สุดของถ้ำมีสถานที่เป็นเสมือนห้องโล่ง มีคบเพลิงติดผนังอยู่รอบทิศ ใจกลางมีแท่นบูชาขนาดใหญ่ มีกระต่ายขนสีดำโดนมัดด้วยด้ายแดงและโซ่ตรวนหลายสิบสาย เผยให้เห็นอย่างชัดเจนเพียงดวงตาสีแดงก่ำแฝงความเจ็บปวดทรมาณ

    ตู้มมม!

          ในขณะที่ผมกวาดสายตาไปรอบๆ เจ้าอสูรสิบทิศก็ฟาดตะบองลงมาอย่างจังเฉียดผมไปเล็กน้อย แผ่นดินโดยรอบกระฉอกออกมาอย่างรุนแรงทำผมเสียการทรงตัวล้มไถลลงกับพื้น ผมไม่ได้อวดอ้างหรือโม้นะครับแต่ผมกลับเริ่มชินราวกับเคยเจอสถานการณ์แบบนี้ มาก่อน สำหรับผมแล้วถ้าหนีได้ก็ไม่สู้ เพราะเรื่องหนีเนี่ยผมถนัด แต่ถ้าจนตรอก....   เงาดำๆขนาดมหึมาทับร่างของผม เท้าขนาดยักษ์กำลังจะลงมาทับที่ๆผมอยู่

   ตู้มมมมมม!

          เสียงฝีเท้าดังกระหึ่ม ถ้ำทั้งถ้ำสั่นคลอน เจ้าอสูรสิบทิศคำรามเสียงกึกก้องพร้อมฟาดตะบองอย่างสะใจ ก่อนที่จะมารู้ว่าใต้ฝ่าเท้าของตนน่ะว่างเปล่ามันก็สายเกินไปเสียแล้ว

เพราะถ้าผมจนตรอก...ก็ต้องออกทางเดิมครับ!

ผมวิ่งออกมากำลังจะผ่านแท่นบูชาไปแล้วก็ยินเสียงฟิ้วมาแต่ไกล อย่าบอกนะว่า...

               “อ๊ากกกกกก!”ตะบอง เหล็กถูกเหวี่ยงมาอย่างรวดเร็วในระยะประชิดจนผมไม่สามารถหลบได้หมดซะทีเดียว ทั้งผมและแท่นบูชากระเด็นมาชนผนังถ้ำอีกที ร่างของผมมันไม่รู้สึกอะไร ไม่ได้ยินเสียงอะไร มองเห็นลางๆเพียงกองเลือดที่ท่วมตัวผมอยู่ กระต่ายถูกปลดเครื่องจองจำเดินเข้ามาใกล้ผม ตัวของมันโดนย้อมไปด้วยเลือด(ซึ่งน่าจะเป็นเลือดผม) ผมหายใจรวยรินลงเรื่อยๆ ตาของผมกำลังจะปิด สิ่งที่ผมเห็นเป็นสิ่งสุดท้ายคือแสงละอองสีขาวบริสุทธิ์กำลังมาโอบล้อมร่าง ของผมท่ามกลางสายตาสีแดงฉานราวกับจะกลืนกินดวงจิตของผม!

.

.

.

.

.

สายลมโปรยมาอ่อนๆ กลิ่นน้ำค้างแตะจมูก บรรยากาศชวนให้น่านอนยิ่งนัก

               ‘ที่นี่ที่ไหน’

ผม ลืมตาช้าๆ สิ่งที่ผมเห็นเป็นอย่างแรกคือ ท้องฟ้าสีทมิฬที่เต็มไปด้วยแสงดาวเกลื่อนกลาดราวกับมองจากบนเกาะอันไกลโพ้น หญ้าอ่อนราวปุยนุ่น ผมลุกขึ้นนั่งแล้วมองไปรอบๆ แสงสีขาวนวลเต็มไปหมดก่อนที่จะกลายเป็นตัวคนออกมา

               “ยี๊ เธอดูนั่นสิไอ้โรคจิตแบบนี้น่าจะให้GMจัดการซะให้เข็ด”

               “อย่าไปใกล้เชียว พวกโรจิตแบบนี้อันตรายสุดๆ”

               “...”ผม กวาดสายตามองไปรอบๆอีกทีมีแต่สายตารังเกียจส่งมาทางผมแบบไม่ขาดสาย ผมรู้สภาพตัวเองก็แทบกระอักและ เจอแบบนี้อยากจะแทรกแผ่นดินหนีเหลือเกิน ผมไม่รอช้ารีบเดินผ่านผู้คนแล้วตรงดิ่งไปทางอาคารผู้เล่นใหม่ทันที

แต่ พอเข้ามาถึงก็ยิ่งหนักกว่าเดิมเพราะมีผู้เล่นต่อแถวกันยาวเหยียด และเนื่องจากผมพึ่งเข้ามาใหม่ทุกสายตาจึงจับจ้องมาทางผมกันหมด บางคนก็ซุบซิบนินทา บางคนก็เมินเฉย ตอนนี้ผมหน้าชาหมดแล้ว ผมต้องการไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้เลย แต่โชคก็เข้าข้างผมที่มีประตูบานนึงไร้คนต่อคิวผมเลยรีบเดินไปที่ประตูบาน นั้นอย่างรวดเร็ว

               “เฮ้ย อันตรายยย!”ยัง ดีที่มีคนดีคนหนึ่งกล้าคุยกับผมอยู่แต่ว่าไม่มีที่ไหนอันตรายกว่าที่นี่แล้ว ครับยังไงผมก็ต้องออกจากที่นี่ให้ไวที่สุด พอผมเปิดประตูแล้วเดินเข้ามา ห้องทั้งห้องมีเพียงความมืดและไฟกระพริบสีแดงๆอยู่กลางห้องเท่านั้น บรรยากาศวังเวงเหมือนอยู่ในป่าช้าเลย พอผมเดินเข้าไปใกล้ไฟแดงๆนั้นกลับกระพริบถี่ขึ้นเรื่อยๆจนผมเกือบจะเดินไป ถึงมันแล้วแต่ไฟก็ดับลงเสียก่อน ทั้งห้องตกอยู่ในความมืด บรรยากาศชวนให้ขนลุกเกรียวทำให้เหงื่อผมเริ่มผุดขึ้นตามใบหน้า ผมหันไปหันมาอย่างระแวง รู้สึกฝืดคออย่างน่าประหลาดเหมือนมีดวงตาจับจ้องมาที่ผมตลอดเวลา

ก๊อง !

ผมหันควับตามเสียงทันที

               “ว๊ากกกกกกกกกกกกก!!”ไฟ สีแดงติดแล้วแต่กลับมีใบหน้าขาวซีดของผู้หญิงผมรกรุงรังทาลิปสติกสีแดง เข้มอยู่ข้างๆของแสงไฟนั่น เธอฉีกยิ้มอย่างสยดสยองพร้อมเสียงหัวเราะอันก้องกังวาน ประตู! ประตูอยู่ทางไหนวะเนี่ย!!ผมวิ่งระเบิดฝีเท้าไปที่ประตูอย่างรวดเร็ว แต่ทว่าไฟก็ติดขึ้นมาฉับพลัน ประตู.....อยู่ใกล้มาก

ตุบ!

เนื่องจากผมวิ่งเต็มสปีด พอชนประตูเสร็จผมก็กระเด็นม้วนกลับหลังมาหลายตลบ

               “อะไรจะไวปานนั้น”เสียงเล็กๆดังขึ้น ผมลืมตาดูช้าๆ เผยให้เห็นหน้าเด็กหญิงผมม้วนอายุประมาณ 11-12 ขวบใส่ชุดคลอสเพลย์พร้อมถืออมยิ้มไว้ในมือ ผมสีบลอนด์ทองเหมือนคุณหนูและตาสีฟ้าดูจะเป็นลูกครึ่ง

                “เอ่อ...”ผมยังงงไม่หาย

                “หนูเป็นNPCค่ะ ปกติจะมีป๊ะป๋าด้วยนะแต่ป๊ะป๋าต้องไปสำนักงานใหญ่”ผมลุกขึ้นมองไปยังกลางห้องอีกครั้ง ปรากฏเป็นเพียงโต๊ะสีขาว มีโคมไฟสีแดงและหน้ากากธรรมดาๆเท่านั้น

                “เมื่อกี้นี้...”

                “อ๋อ เมื่อกี้เป็นพลังจิต หนูกำลังฝึกพลังจิตลวงตาอยู่น่ะค่ะ”

                “พลังจิต?”เด็กหญิงยิ้มอย่างมีเลศนัย พร้อมเรียกผมให้ไปนั่ง

                “พลัง จิตสามารถก่อเป็นรูปร่างได้ถ้าฝึกฝน ถ้าจิตโกรธพลังก็รุนแรง ถ้าจิตสงบก็มีสมาธิ พลังจิตก็เหมือนพลังแห่งความคิด มองเห็นได้ จะจับต้องได้ต้องมีภาชนะสวมใส่ เมื่อกี้ที่พี่ชายเห็นหน้ากากเป็นหน้าคนขึ้นมาก็เพราะใส่พลังจิตลงไป จะใช้สะกดจิตหรือทำให้สิ่งของลอยได้ก็ได้ สร้างแรงกดดันไว้รอบตัวเพื่อป้องกันอันตรายก็ได้ อาวุธที่แฝงด้วยพลังจิตน่ะ แข็งแกร่งมากๆเลยนะคะแล้วอีกอย่างถ้าสั่นคลอนจิตใจของคู่ต่อสู้ได้ชัยชนะก็ มาอยู่ในกำมือเรากว่า 80% แล้ว เสียดายที่คนเล่นสายจิตน้อยมากๆเลย แล้วพวกนั้นจะต้องเสียใจที่ไม่เลือกสายจิตค่ะ!”เธอเล่าไปใส่อารมณ์ไป กลายเป็นการเล่าที่ยืดยาวและก่อนที่มันจะยาวไปกว่านี้

                “คือว่า..ทำไมพี่มาในชุดนี้ล่ะ ทำไมไม่ใช่ชุดแบบพวกข้างนอกล่ะ”

                “อ้าว นึกว่าพี่ชายอยากใส่แบบนี้เองซะอีก”

                “ไม่ใช่!”

                “แหม ล้อเล่นน่ะค่ะ เดี๋ยวตรวจสอบให้ค่ะ หืม? ลิสต์ ที่ค้างนี่นา พี่เคยเล่นเกมนี้เมื่อนานมาแล้วใช่ไหมคะ ผู้เล่นปฐพีไพศาล น่าจะเป็นช่วงที่เค้าให้ทดลองเล่นล่ะมั้งคะ แต่พอรีเซตเลยรีเซตไม่ออก อาจจะเกิดความผิดพลาดทางโปรแกรมเพราะก็มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นไปแล้วบ้าง เหมือนกัน แต่ไม่เป็นไรเพราะหนูรายงานเรื่องนี้ไปแล้วเดี๋ยวเค้าก็คงจะส่งของผู้เล่น ใหม่มาให้ค่ะ”

                “? พี่ไม่เคยเล่นเกมนี้มาก่อน”ผมไม่เห็นจำได้เลยว่าไปทดลองเล่นตอนไหน เพราะผมไม่เคยสนใจเกมพวกนี้เลยสักนิด

                “ไม่เลยจริงๆเหรอ เกมนี้ถ้าไม่มีส่วนที่เหมือนกัน ทั้งรูปร่าง สรีระ เส้นผม ดวงตา และดีเอ็นเอ 98% ขึ้นไปจะไม่สามารถมาแทนกันได้นะคะ”

                “แต่พี่จำไม่ได้......”หรือว่าบางทีอาจจะเกี่ยวอะไรกับความทรงจำที่หายไปเมื่อ 7-8 ปีก่อน

                ตี๊ด ตี๊ด ตี๊ด

                “อ๊ะ รู้สึกจะมีของส่งมาแล้วนะคะ”

                ตุบ! มีหลุมดำโผล่ออกมาแล้วหายไปชั่วพริบตา

                มีดสั้น ถุงเงิน ชุดมือใหม่ น้ำยาเพิ่มเลือดขนาด 500 มิลลิลิตรสองขวด และกระต่ายขนสีดำตาสีแดงฉาน ไอ้เจ้าตัวนี้มาอยู่นี่ได้ไงฟะ?

                “ทำไมไอ้กระต่ายนี่ถึงมาอยู่นี่ล่ะ”

                “อาจจะเป็นเควสอะไรบางอย่างก็ได้มั้งคะ เวลาพี่จะเอาของเก็บพี่ก็แค่ออกคำสั่ง ‘เก็บ’ ก็เท่านั้นเอง ลองดูสิคะ”

                “เก็บ”อยู่ๆก็โผล่หน้าตารางขนาดใหญ่ตรงหน้าผมรูปร่างโปร่งใสเหมือนกระจก ข้างๆมีรูปผมอยู่แต่ไร้ซึ่งข้อมูลทุกอย่างมีเพียงชื่อ ‘ปฐพีไพศาล’ ที่บ่งบอกถึงตัวตนผมเท่านั้น

                ผมมีเงินอยู่ 50เหรียญทอง 500เหรียญเงิน มีดสั้นกับน้ำยาเพิ่มเลือดหายเข้าไปอยู่ในตารางเรียบร้อยแล้ว

                “ทีนี้เวลาพี่จะเรียกก็แค่เรียกชื่อหรือกดใช้สิ่งของเท่านั้นค่ะ”ผม พยักหน้ารับแล้วสั่งเปลี่ยนชุดทันทีแล้วชุดมือใหม่ก็มาอยู่บนตัวผมโดยไม่ ต้องถอดหรือสวมใส่เอง เจ้ากระต่ายกระโดดมานั่งตักผม ยังไงๆก็ต้องเอามันไปด้วยสินะ

                “พี่ เดินไปทางประตูสีดำตรงนั้นนะ แล้วเลือกสายพลังเมื่อพี่เลือกเสร็จจะมีประตูอยู่สองบาน ทางซ้ายออกทางหน้าอาคาร ทางขวาออกทางหลังอาคารซึ่งถ้าพี่ผ่านป่าไปก็จะเจอเมืองค่ะ ขอให้โชคดีแล้วพบกันใหม่นะคะพี่ชาย^^”ผมยิ้มตอบ เธอหน้าขึ้นสีนิดหน่อย ผมจึงอุ้มกระต่ายเดินไปทางประตูสีดำ

                เมื่อผ่านประตูมาแล้ว ก็พบกับลูกแก้วขนาดใหญ่สามลูกกำลังส่องแสงสีต่างกัน ลูกสีม่วงปรากฏคำว่าเวทย์ ลูกสีขาวปรากฏคำว่าปราณ และลูกสีแดงเข้มปรากฏคำว่าจิต เมื่อกี้ที่เด็กคนนั้นบอกว่าสายจิตใช้สะกดจิตได้ทำให้ผมสนใจขึ้นมาเลยล่ะ เพราะเวลาขายของเดี๋ยวไปสะกดจิตให้คนซื้อ(จรรยาบรรณน่ะมีไหม?) เอาเป็นว่าผมเลือกอันที่ผมชอบนี่แหละ ผมเอื้อมมือไปแตะลูกแก้วสายจิต มันส่องแสงสีแดงจ้ายิ่งขึ้นและดูเหมือนกำลังเข้ามาในตัวของผม ทันใดนั้นผมก็ได้ยินเสียงอันดุดันกล่าวขึ้นมาในหู

                ‘เจ้าเลือกได้ถูกใจข้าเสียจริง  ข้าจะนำเจ้าไปเอาอาวุธในเร็ววันนี้’พลัน แสงหายไปก็มีประตูสองบานปรากฏขึ้น ลูกแก้วทั้งสามกลายเป็นลูกแก้วธรรมดา ผมตัดสินใจไปทางขวาเพราะไม่อยากไปเจอกับคนที่อยู่ข้างหน้ากลัวพวกนั้นจะจำผม ได้ แต่บรรยากาศข้างนอกกลับมืดสนิท ค่อนข้างวังเวงและไม่น่าไว้ใจ เหงื่อผมผุดขึ้นอีกครั้ง....

                .

                .

                .

                .

                .

                .              

                .

                .

            ‘ตกลงมันไม่ใช่เกมHorrorจริงๆใช่ไหม!!!’

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา