ตื๊กรักพี่สาว

-

เขียนโดย Annakan

วันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2560 เวลา 14.52 น.

  3 ตอน
  0 วิจารณ์
  4,322 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2560 14.59 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) ตอน 1-3

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ตอนที่ 1

          “มึงเห็นคันนั้นป่ะ แม่งโคตรเจ๋ง” เกือบสองทุ่มเด็กหนุ่มหน้าตาหล่อเหลากำลังคุยกับเพื่อนแก๊งนักซิ่งอย่างออกรส เขามีชื่อว่านายมารดาชื่อน้อยส่วนพ่อทิ้งไปตั้งแต่ยังแบเบาะ นายไม่เคยรู้ว่าตัวเองหล่อและเป็นที่หมายปองของสาวๆ เขาคิดว่าที่ทุกคนในกลุ่มโดยเฉพาะผู้หญิงชอบมาคุยด้วยเพราะเขานิสัยดีและชอบช่วยเหลือผู้อื่น ถึงแม้เขาจะถูกเรียกว่าเด็กแว๊นเด็กซิ่งตามแต่ใครจะขนานนามเขาก็เป็นคนสุภาพและให้เกียรติผู้อื่นเสมอและเขาจะอ่อนโยนกับผู้หญิงมากเป็นพิเศษ ก็ชีวิตเขามีแต่แม่กับพี่สาวบ้านตรงข้ามมาตั้งแต่จำความได้

             “นาย ป้าน้อยให้มาตามกลับบ้าน” นึกถึงพี่สาวเธอก็มาทันที น้ำหรือที่เพื่อนๆ ของเขาเรียกว่าพี่น้ำอายุมากกว่าเขาสี่ปีแต่เขาไม่เคยเรียกน้ำว่าพี่สักครั้ง น้ำเรียนอยู่มหาวิทยาลัยปีสุดท้ายส่วนเขาอีกไม่กี่เดือนก็จะครบกำหนดอายุต้องไปเกณฑ์ทหาร บ้านของเขาอยู่ตรงข้ามกับน้ำแม่น้อยขายข้าวแกงส่วนแม่นวลแม่ของน้ำขายเครื่องดื่มมีทั้งน้ำปั่นน้ำหวานกาแฟร้อนชาร้อนก็มี

             เขาอยู่ที่ซอยนี้มาตั้งแต่เกิดส่วนน้ำเพิ่งย้ายมาตอนเธออยู่มัธยมปีที่สองสาเหตุเพราะว่าเธอต้องเปลี่ยนที่เรียน เธอประสบอุบัติเหตุและทำให้ต้องหยุดเรียนไปหลายเดือนจึงทำให้ไปสอบไล่ไม่ทันและซ้ำชั้นในที่สุดและที่แย่กว่าการซ้ำชั้นก็คือพวกเด็กๆ ในโรงเรียนลือกันไปต่างๆ นานา บ้างก็ว่าเธอทำผิดกฎจนโดนพักการเรียน บ้างก็ว่าเธอเป็นโรคติดต่อที่น่ารังเกียจแต่ที่ร้ายที่สุดคือพวกนั้นกล่าวหาว่าเธอหายหน้าไปเพื่อคลอดลูกและเธอท้องไม่มีพ่อ

             เขายังจำได้ดีว่าเดือนแรกๆ น้ำแทบไม่เดินออกมาพ้นเขตบ้านตัวเองเลยเธอดูหวาดระแวงและไม่ไว้ใจใครทั้งสิ้น แม่น้อยของเขาเองก็สังเกตเห็นว่าแม่หนูที่ย้ายมาใหม่ดูไม่ร่าเริงเอาซะเลยแม่จึงให้เขาไปซื้อน้ำซื้อขนมบ้านป้านวลทุกวันและพูดคุยทำความคุ้นเคยกับเพื่อนใหม่

             “พี่น้ำของน้องนายมาแล้ว” หนึ่งในกลุ่มเพื่อนทักทายและแซวพี่สาวหน้าใสในเวลาเดียวกัน

             “จะสองทุ่มแล้วทำไมยังไม่กลับบ้าน” น้ำส่งยิ้มที่อาบไปด้วยยาพิษให้ไอ้เด็กปากเปราะ เธอชินแล้วกับคำแซวที่กวนโมโหและอวัยวะเบื้องล่างเพราะได้ยินมาเกือบปี

             “ลืมดูเวลาเลย ขอโทษนะน้ำ” นายดูเวลาที่ข้อมือแล้วก็ตกใจจริงๆ นี่เขานั่งโม้กับเพื่อนมาเป็นชั่วโมงแล้วหรอ

             “เวลาก็อยู่กับมือ น่าเบื่อ” น้ำยืนกอดอกและฟังข้อแก้ตัวที่ฟังไม่ขึ้นเอาซะเลย

             “ก็รู้อยู่ว่าป้าน้อยยกของหนักไม่ได้ยังจะมาเที่ยวเล่นจนมืดค่ำนี่กลับจากเรียนยังไม่ได้เข้าบ้านก็ต้องมาตามเธอเนี่ย” น้ำยังคงเทศนาน้องชายต่างสายเลือดอีกชุดใหญ่

             “ขอโทษจริงๆ นะน้ำ กลับบ้านกันเถอะ”

             “ไอ้เชียรขากลับปั่นจักรยานไปไว้หน้าบ้านให้ด้วย” น้ำปั่นจักรยานมาตาม เขาจึงฝากให้เพื่อนปั่นกลับเพราะอยากให้เธอซ้อนท้ายไปด้วยกัน

             “ไม่รู้จักเวล่ำเวลา” ขึ้นมานั่งน้ำก็ยังคงบ่นไม่เลิก

             “ทำผิดครั้งเดียวบ่นอะไรเยอะแยะ”

             “ไม่ใช่ครั้งแรกป่ะนาย”

             “นานๆ ครั้งก็ได้อ่ะก็มันลืมดูเวลาจริงๆ”

             “ไม่เคยแยกแยะได้หรอกว่าอะไรสำคัญ ผู้ชายก็เป็นแบบนี้ทุกคนทำตัวไร้สาระไปวันๆ”

             “ขอโทษ” นายไม่รู้จะบอกยังไงว่าเขาไม่ได้ตั้งใจจะผิดเวลาและเขาก็น้อยใจด้วยที่น้ำกล่าวหาคิดไม่ได้ว่าอะไรสำคัญ ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นเขาไม่ยอมให้มานั่งบ่นนั่งด่าฉอดๆ แบบนี้หรอก น้ำไม่เคยรู้เลยว่าเธอสำคัญกับชีวิตเขาขนาดไหน

             “ตั้งแต่คบเพื่อนกลุ่มนี้เกเรกว่าเมื่อก่อนนะ” ขนาดมอเตอร์ไซค์วิ่งอยู่น้ำยังไม่วายมาตะโกนบ่นใส่หูเพื่อให้เขาได้ยินชัดๆ

             “ไหนมาคุยกันดีๆ ดิ หงุดหงิดอะไรมาป่ะ” นายตัดสินใจจอดเจ้าสองล้อเข้าข้างทาง ปกติน้ำจะบ่นแต่ก็ไม่มากมายขนาดนี้เธอไม่ใช่คนพูดมากแต่วันนี้มันมากเกินปกติ

             “เปล่า” น้ำปฏิเสธ

             “ไม่อ่ะ มันต้องมีอะไรแน่ๆ”

             “เรื่องเกรดจบหรอ” เมื่อเขาถามประโยคนี้น้ำก็ปิดปากเงียบและทำท่าจะร้องไห้

             “ก็บอกแล้วไงว่าไม่ต้องกังวล น้ำต้องหางานทำได้แน่ๆ ถ้าไม่ได้ก็ไม่เห็นเป็นไรน้ำมาช่วยแม่ขายของก็ได้”

             “แต่น้ำไม่อยากเป็นแม่ค้า น้ำอยากทำงานตามที่เรียนมา”

             “และน้ำจะทำได้เชื่อนายสิ ไม่ต้องกลัวใครจะไม่รับคนเก่งๆ แบบน้ำเข้าทำงาน”

             “อืม ขอบใจนะแล้วก็ขอโทษ” น้ำบอกอายๆ เธอก็เพิ่งรู้ตัวว่าไอ้ที่บ่นๆ ไปทั้งหมดเพราะกังวลเรื่องตัวเองแล้วเอาไปลงที่น้อง เธอกับนายเป็นลูกโทนและรู้จักกันมาเป็นสิบปีแล้วเธอรักและเอ็นดูนายเหมือนน้องชายคนนึง

             “ไม่เป็นไรกลับบ้านกันดีกว่า” นายขี่เจ้าสองล้อไปช้าๆ และมาถึงบ้านตอนสองทุ่มสิบนาที

             “ขอโทษนะแม่ นายลืมดูเวลาแม่เข้าบ้านเลยเดี๋ยวนายเก็บให้” เด็กหนุ่มกุลีกุจอเก็บจานชามไปหลังร้าน ทุกคืนเขาจะต้องล้างจานชามทั้งหมดหลังจากนั้นก็เช็ดทำความสะอาดโต๊ะกับเก้าอี้และจัดให้เข้าที่

             “ไม่เป็นไรข้าวอยู่บนโต๊ะนะ แม่ขอไปดูในตู้เย็นหน่อยว่าขาดผักอะไรบ้าง”

             “น้ำกินไหมลูก วันนี้มีแกงเลียงด้วยนะ”

             “ขอบคุณค่ะป้าน้อย” เธอยกมือไหว้แม่ของนายและทำหน้าเจื่อนๆ ขนาดแม่เขาเองแท้ๆ ยังไม่บ่นเท่าที่เธอบ่นเลย

             “ไปหาป้านวลก่อนก็ได้แล้วค่อยมากินข้าว” นายหันไปบอกน้ำ เธอพยักหน้าและเดินข้ามฝั่งไปบ้านตัวเอง

             “กลับมาแล้วค่ะแม่ หนูไปตามเจ้านายมาค่ะ” น้ำรายงานตัวกับแม่และวางสัมภาระลงบนโต๊ะ

             “อืม ป้าน้อยมาบอกแล้วจะกินข้าวไหมแม่จะได้ทำให้” นวลต้องทานข้าวตรงเวลาทุกวันคือหกโมงเย็นถ้าค่ำกว่านั้นตอนกลางคืนจะนอนไม่หลับเพราะมันอึดอัดแน่นไปหมด

             “ไม่เป็นไรจ้ะแม่เดี๋ยวหนูไปกินกับนาย วันนี้ขายได้เยอะไหมจ๊ะ”

             “เยอะลูก อากาศร้อนคนเดินซื้อน้ำกันทั้งวัน”

             “เหนื่อยไหมจ๊ะ ให้หนูนวดไหม” ลูกสาวเอ่ยถามมารดาด้วยความเป็นห่วง

             “ไม่เหนื่อยหรอกหนูไปกินข้าวเถอะเดี๋ยวแม่จะฟังเทศน์รอ” นวลมองตามลูกสาวแล้วยิ้มน้อยๆ เธอไม่รู้ว่าลูกของเธอรักนายแบบไหนเพราะที่มหาลัยก็เห็นมีหนุ่มๆ มาชอบพออยู่หลายคนแต่ถ้าเป็นไปได้เธอก็อยากให้ผู้ชายคนนั้นเป็นนายที่จะดูแลลูกสาวเธอไปตลอดชีวิต

             เด็กหนุ่มอายุยี่สิบเอ็ดปีแต่ความคิดและความรับผิดชอบมากกว่าผู้ใหญ่บางคนซะอีก น้อยเล่าให้ฟังว่าพอจบชั้นประถมลูกชายของเธอก็ตัดสินใจเด็ดขาดว่าจะเลิกเรียนตามเกณฑ์แต่จะไปศึกษาแบบ กศน. เพราะไม่ต้องการเป็นภาระให้แม่และเขาก็จะได้เอาเวลาที่ต้องนั่งในห้องเรียนไปทำงานแทน เด็กน้อยที่ควรจะเรียนชั้นมัธยมต้นจึงไปอยู่ที่ร้านซ่อมมอเตอร์ไซค์และมีรายได้เดือนนึงหลายพันบาท สองแม่ลูกช่วยกันเก็บหอมรอมริบจนเปิดร้านข้าวแกงได้ในที่สุด

             พออายุเข้าเกณฑ์ทำงานพาร์ทไทม์ได้นายก็ไปสมัครทันทีและมันก็เป็นจุดเริ่มต้นของงานอีกหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นแจกใบปลิว แจกสินค้าทดลองในย่านชุมชน เป็นตัวประกอบเดินผ่านฉากในละคร  เด็กเสิร์ฟในร้านฟาสต์ฟู้ดหรือแม้กระทั่งเต้นอยู่ในตัวมาสคอตตามห้างสรรพสินค้า อาชีพสุจริตที่ได้เงินขอให้บอกถ้ามีเวลาว่างแทรกได้นายจะไปทันทีเธอแทบไม่เคยเห็นนายหยุดทำงานเลยตั้งแต่เด็กจนโต

             นวลไม่เคยเห็นเด็กที่ไหนรู้คิดเท่านายมาก่อนและถ้าจะบอกว่าเด็กไม่ได้รับการศึกษาตามเกณฑ์ปกติจะไม่ฉลาดและเอะอะมะเทิ่งเด็กคนนั้นไม่ใช่นายแน่นอนเพราะนายสุภาพและพูดเพราะแถมยังมีเหตุผลและใจเย็น นายกับลูกของเธอสนิทสนมกันมากเพราะเด็กผู้ชายคนนี้แหละที่ทำให้ลูกน้ำกล้าเปิดใจรับมิตรภาพจากคนอื่นอีกครั้ง

             เธอยังจำได้ดีถึงความทุกข์ระทมของลูกสาวกับกล่าวโดนกล่าวหาต่อว่าต่างๆ นานา ทุกคืนลูกน้ำจะหลับไปพร้อมน้ำตาและได้แต่ถามเธอว่าทำไมเพื่อนๆ ว่าร้ายเธอแบบนั้น เธอจึงตัดสินใจให้ลูกย้ายโรงเรียนรวมถึงย้ายบ้านด้วย  

             “พรุ่งนี้เรียนเสร็จไปหานายที่ร้านได้ไหม” นายเอ่ยถามระหว่างที่กินข้าวด้วยกัน

             “อืม ได้”

             “อร่อยไหม”

             “อร่อย” น้ำตอบ เธอยังละอายอยู่ที่ไปหงุดหงิดใส่อารมณ์กับน้อง

             “ไม่เป็นไรหรอกไม่ต้องคิดมากน้ำแค่กังวล ยิ้มดิ” นายบอกผู้หญิงที่ยังนั่งหน้าตูมไม่เลิก

             “เอางี้ พรุ่งนี้ไถ่โทษด้วยการเลี้ยงไอติมนายก็ได้โอเคไหม”

             “โอเค” น้ำตอบแล้วยิ้มหน้าบาน

             “เพื่อนน้ำมีบริษัทต่างประเทศจองตัวด้วยแหละน่าอิจฉาเขาจัง” น้ำเรียนด้านตกแต่งภายในเธอฝันไว้ตั้งแต่เด็กแล้วว่าอยากมีบ้านสวยๆ ที่ตกแต่งทุกซอกทุกมุมด้วยตัวเอง

             “หรอ” นายใจหายวาบเขาไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อน ถ้าน้ำต้องไปอยู่ต่างประเทศเขาต้องตายแน่ๆ เกือบสิบปีที่ผ่านมาเขาเจอหน้าน้ำทุกวันอาจจะมีบางวันที่น้ำงอนแล้วไม่ยอมออกมาหาตลอดทั้งวันแค่นั้นก็ทำให้เขาจะบ้าแล้ว

             “นายไม่อยากไปทำงานต่างประเทศบ้างหรอ ได้เจออะไรใหม่ๆ คนใหม่ๆ ประสบการณ์ใหม่ๆ ดีจะตาย”

             “ไม่อ่ะ” เขาชินกับการมีน้ำอยู่ในชีวิตเขาไม่แน่ใจว่ารักน้ำแบบพี่สาวหรือชู้สาวแต่ที่แน่ๆ คือ เขาห่วงใยผู้หญิงคนนี้และทำใจไม่ได้แน่ๆ ถ้าเธอจะไปอยู่ที่อื่น

             “อิ่มแล้วไปล้างชามกันดีกว่าแม่น้ำรอแย่แล้ว” ทุกครั้งที่กินข้าวทั้งคู่จะช่วยกันล้าง นายมีหน้าที่ล้างส่วนเธอมีหน้าที่เช็ดให้แห้งและคว่ำให้เรียบร้อย น้ำคิดฝันไปไกลว่าถ้าเธอได้ไปทำงานต่างประเทศจะดีขนาดไหนส่วนนายคิดกังวลไปมากมายและภาวนาจนถึงขั้นอ้อนวอนว่าอย่าให้มีบริษัทต่างชาติที่ไหนมาเรียกตัวน้ำไป ยิ่งคิดเขาก็ยิ่งมั่นใจว่าเขามีชีวิตต่อไปไม่ได้แน่ๆ ถ้าไม่มีน้ำอยู่ข้างๆ

 

ตอนที่ 2

          สิ่งหนึ่งที่น้ำกับนายมีเหมือนกันคือความไม่เฉลียวใจทั้งคู่ไม่เคยรู้ว่าตัวเองมีเสน่ห์ดึงดูดเพศตรงข้ามมากแค่ไหน นายกำลังแตกหนุ่มเต็มตัวรูปร่างสูงใหญ่กำยำขึ้นเรื่อยๆ ส่วนหน้าตาก็หล่อเหลาแบบไปเป็นพระเอกได้สบาย น้ำไม่ใช่ผู้หญิงสวยสะดุดตาแต่เธอมีเสน่ห์ที่รอยยิ้มและดวงตาอันสดใสร้อยทั้งร้อยที่ได้พูดคุยและสบตาเธอมักจะโดนมนต์สะกดเข้าทุกราย

             “เดือนเมษาสงสัยไม่ได้ไปแน่เลย” น้ำนั่งทำรายการล่วงหน้าในชีวิตประจำวัน แค่กดๆ จิ้มๆ ไม่กี่ทีทุกสิ่งทุกอย่างก็ลงไปอยู่ในมือถือแล้วเธอก็จะไม่พลาดนัดสำคัญเพราะมันมีระบบเตือนล่วงหน้าด้วย เดือนเมษายนนายจะต้องไปเกณฑ์ทหารที่จังหวัดสงขลาเพราะบิดาของเขามีภูมิลำเนาที่นั่น กว่าจะรู้เรื่องว่าการเกณฑ์ทหารยึดตามภูมิลำเนาบิดาผู้ให้กำเนิดก็สายเกินจะแก้แล้วเพราะไม่รู้จะไปตามหาบิดาได้ที่ไหน เธออยากไปช่วยลุ้นตอนน้องจับใบดำใบแดงและน้องคงไม่อยากไปคนเดียวด้วยแต่ก็ต้องดูก่อนว่าเธอจะปลีกตัวไปได้หรือไม่เพราะช่วงนั้นเธอคงจะวุ่นกับเรื่องขอจบไม่ก็หางานทำ

             “น้ำ ทางนี้” นายโบกมือเรียกน้ำ เขายืนรอเธออยู่แถวประตูทางเข้าห้างสรรพสินค้า จริงๆ นายไม่ต้องโบกไม้โบกมือเล่นใหญ่ขนาดนั้นก็ได้ตัวสูงขนาดนั้นมองเห็นตั้งแต่ร้อยเมตรแล้ว

             “หิวไหม” นายถาม

             “นายล่ะหิวไหม”

             “ไม่ค่อย ถ้างั้นไปดูหนังก่อนไหม”

             “เรื่องไรอ่ะ”

             “การ์ตูนเจ้าหญิงไงวันก่อนน้ำบอกอยากดูไม่ใช่หรอ”

             “ไม่เป็นไรไว้น้ำมาดูกับเพื่อนดีกว่า” ถึงนายจะกวนประสาทและชอบแกล้งเธอแต่นายก็ตามใจเธอเสมอจนบางครั้งเธอคิดว่ามันมากเกินไปด้วยซ้ำ อย่างเช่นครั้งนี้ที่เขายอมดูหนังสุดหวานแหววเป็นเพื่อนเธอ

             “ไม่อยากดูด้วยกันหรอ” นายถามแล้วทำคอตก

             “นายไม่ได้ชอบจะฝืนทำไม”

             “ไม่ได้ฝืน นายอยากดูจริงๆ นะ”

             “อย่าดูเลยเก็บเงินไว้เถอะ” น้ำยังคงไม่อยากรับข้อเสนอ

             “วันนี้มีคุณป้าให้ทิปมาแต่ไม่เป็นไรถ้าน้ำไม่อยากดูกลับบ้านเลยก็ได้”

             “กลับได้ไงลืมหรอว่าวันนี้นัดมาทำอะไรกัน” น้ำทวงสัญญา

             “ไปกินไอติม กินเสร็จแล้วกลับบ้าน” นายตอบแล้วเดินนำลิ่วไปเลย

             “อ่ะ เลือกที่นั่งน้ำจะดูถ้าให้น้ำออกค่าตั๋วเอง” พอจัดการไอติมไปได้ครึ่งถ้วย น้ำก็ยื่นมือถือให้นายในนั้นมีแอพของโรงหนังที่บอกรอบฉายและที่นั่ง

             “น้ำออกค่าตั๋วของน้ำ นายออกค่าตั๋วของนายกับขนม” นายต่อรอง

             “โอเค” น้ำตกลงแล้วยื่นเงินให้นาย พอกินไอติมเสร็จก็ใกล้เวลาหนังเข้าพอดีน้ำไปทำธุระส่วนตัวกลับออกมานายก็ซื้อขนมชุดคอมโบ้เสร็จแล้ว

             “เข้าห้องน้ำป่ะ”

             “ไม่เข้า เดินดีๆ นะน้ำ” นายบอกเพราะน้ำเป็นผู้หญิงที่ซุ่มซ่ามมาก น้ำสามารถเดินบนพื้นเรียบๆ แล้วสะดุดล้มได้อย่างน่าประหลาดใจที่สุด

             “แล้วซื้ออะไรมาเยอะแยะ” ปากบ่นแต่มือหยิบกินตั้งแต่ทางเดินเข้าโรงแล้ว นายก็ไม่ว่าอะไรได้แต่แอบอมยิ้มทำไมเข้าจะไม่รู้ว่าน้ำชอบกินป๊อปคอร์นกับน้ำอัดลม

             ถึงจะสนิทกันมากแค่ไหนนายก็ไม่เคยฉวยโอกาสถึงเนื้อถึงตัวน้ำสักครั้งรู้จักกันมาเป็นสิบปี นายไม่เคยจับมือน้ำด้วยซ้ำ เวลาเดินข้ามถนนนายจะเดินนำหน้าแล้วให้น้ำจับชายเสื้อไว้กับผู้หญิงคนอื่นเขาก็เคยไปเที่ยวเล่นด้วยแต่มันก็แค่เพื่อนและไม่ได้รู้สึกผูกพันแบบที่เขาเป็นกับน้ำ

             “โอ๊ยยย น่ารักจังเลยอ่ะนายสนุกเนอะ” ทั้งคู่เดินออกมาจากโรงหนัง นายพยักหน้าเห็นด้วยหนังมันก็สนุกแหละแต่เขามีความสุขมากกว่าที่ได้ตามใจน้ำ

             “กลับบ้านกันเลยไหมเย็นแล้ว นายจะไปไหนอีกรึเปล่า”

             “กลับเลยจะได้กลับไปช่วยแม่เก็บร้านแล้วรีบนอนพรุ่งนี้นายต้องไปถึงกองถ่ายหกโมง”

             “เดี๋ยวน้ำโทรปลุกจะตื่นกี่โมง”

             “ตีสี่แน่ะ ไม่ต้องหรอกนายตื่นได้”

             “จะโทร” น้ำตัดบทและนายรู้ว่าไม่ต้องไปเถียงให้เสียเวลา

 

             “ตีสี่แล้ว” เสียงมือถือปลุกตามที่ตั้งไว้ตรงเป๊ะเสียงสัญญาณรอสายดังแค่สองครั้งนายก็รับสายแล้ว

             “ขอบใจนะน้ำ” นายบอกขอบคุณด้วยเสียงอู้อี้มันเหมือนเขาเพิ่งหลับตานอนไปเมื่อนาทีก่อนเอง

             “ลุก” น้ำสั่ง

             “ลุกแล้ว” แต่นายยังคงนอนคลุมโปงอยู่ในผ้าห่ม

             “ไปเปิดไฟแล้วมาที่ระเบียง” น้ำจำใจต้องสลัดตัวขี้เกียจออกจากตัวแล้วลุกไปเปิดไฟบ้าง เธอตั้งใจว่าจะตื่นไปใส่บาตรด้วย

             “อรุณสวัสดิ์” นายทักทายน้ำผ่านมือถือแล้วโบกมือให้ น้ำออกมายืนหัวยุ่งอยู่ที่หน้าระเบียงแล้วโบกมือกลับมา

             “ไปอาบน้ำได้แล้วตั้งใจทำงานนะ”

             “ครับผม” นายตอบรับเสียงใสแค่ได้เห็นหน้าน้ำเขาก็หายง่วงสดชื่นขึ้นมาทันที ทำไมเขาไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับผู้หญิงคนไหนเลยสักคนคงเป็นเพราะน้ำอยู่กับเขามาครึ่งชีวิตมั้ง

             “โจ๊กใส่ไข่ทุกอย่างถุงนึง อีกถุงใส่ทุกอย่างยกเว้นเครื่องใน” สถานที่นัดพบของกองถ่ายไม่ไกลมากนักและยิ่งออกเช้าขนาดนี้ใช้เวลาเดินทางแค่ครึ่งชั่วโมงก็ถึงแล้วแต่เขาก็ไม่อยากเสี่ยงเพราะถ้าไปสายจะทำให้หมดโอกาสกับงานครั้งต่อไป เขามาถึงปากซอยตอนตีสี่ยี่สิบแล้วแวะซื้อโจ๊กแล้วให้มอเตอร์ไซค์รับจ้างเอาไปแขวนไว้หน้าบ้านน้ำ

             “เลิกเรียนยัง” นายโทรไปหาน้ำตอนบ่ายสาม วันนี้เขาเดินไปเดินมาทั้งวันแต่มันก็คุ้มมากเพราะได้เงินมาพันกว่าบาท

             “เลิกแล้วแต่อ่านหนังสืออยู่กับเพื่อนมีอะไรหรอนาย”

             “ว๊าย น้องนายคิดถึงจังเลยจ้า” ยัยมดเพื่อนสาวประเภทสองที่จ้องจะงาบนายร้องเสียงแหลมขึ้นมา

             “งั้นเดี๋ยวนายไปหานะนั่งรถไปไม่ถึงชั่วโมงหรอก”

             “อืม” น้ำวางสายและพอบอกว่านายจะมารับ ยัยมดก็กรี๊ดจนมหาลัยแทบแตก

             “แกมองข้ามผู้ชายหล่อล่ำแสนดีแบบนายได้ยังไงย่ะยัยน้ำหน้าโง่” มดเท้าสะเอวชี้หน้าถามเพื่อนด้วยความโมโหปนสงสัยถ้าเป็นเธอนะจับทำสามีตั้งนานแล้ว

             “น้องไหมล่ะเธอ อ่อนกว่าไหมล่ะเธอ ฉันแก่กว่าสี่ปีนะจ๊ะเธอ” น้ำท่องประโยคเดิมให้เพื่อนฟัง สมองเธอตั้งความจำมาแบบนี้มาตั้งหลายปีและมันคงเปลี่ยนอะไรไม่ได้อีกแล้วนายเองก็คงเหมือนกัน

             “แก่กว่าสี่ปีมันจะอะไรหนักหนา คู่อื่นผู้หญิงแก่กว่าเป็นสิบๆ ปี ไม่เห็นเขาจะแคร์”

             “แต่ฉันแคร์และที่มันสำคัญกว่าแก่อ่อนคือนายเป็นน้องและนายก็เห็นฉันเป็นพี่ด้วย”

             “แต่ฉันว่าไม่” มดตบโต๊ะค้านสุดพลัง เธอเห็นสายตาของความห่วงหาเกินพี่น้องจากนายเสมอมีก็แต่แม่เพื่อนน้ำหน้าโง่นี่แหละที่มองไม่เห็นและดูจะไม่รู้ใจตัวเองหรือไม่ยอมรับซะมากกว่าว่าตัวเองก็คิดกับน้องเกินเลยกว่านั้น

             “ช่างมันเถอะแก พอเรียนจบก็คงไม่ได้เจอกันบ่อยๆ แล้วเพราะนายต้องไปเป็นทหารส่วนฉันก็คงยุ่งกับเรื่องหางานและก็คงต้องไปเช่าห้องอยู่ด้วยก็บ้านฉันมันชานเมืองเหลือเกิน”

             “แกมาอยู่กับฉันก็ได้”

             “อืม ไว้ถึงตอนนั้นค่อยว่ากันขอบใจแกมากนะมด”

             “หวัดดีครับพี่มดซื้อมาฝากครับ อันนี้ของน้ำ” นายซื้อลูกชุบมาฝากสาวๆ ทั้งสองคน

             “ว๊าย พี่ไม่ยอมนะของยัยน้ำมีแต่สีชมพูได้ยังไงพี่ก็ชอบสีชมพูนะ”

             “อ้าว หรอครับ ขอโทษนะครับพี่มด นายคิดว่าพี่มดชอบสีเหลืองซะอีกไว้วันหลังนายจะแก้ตัวใหม่นะครับ”

             “แหม่ๆ จำได้แต่ของพี่น้ำคนสวยเนอะ”

             “กินๆ ไปเหอะสีไหนก็เหมือนกันแหละ”

             “ไม่กินหรอ” น้ำถามแล้วยื่นกล่องขนมให้

             “ไม่อ่ะ น้ำกินเลย” นายนั่งมองพี่สาวคนสวยกินขนมเขาอาจจะเป็นโรคจิตอย่างนึงก็ได้เขาเสพติดรอยยิ้มของน้ำเวลาเห็นเธอมีความสุขเขาจะดีใจมากไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน

             “เหนื่อยไหม” น้ำเอ่ยถามคนที่นั่งจ้องหน้าเธอตาไม่กะพริบ บางทีเธออยากจะถามนายว่าคิดอะไรกับเธอรึเปล่าแต่คิดไปคิดมาคงไม่หรอกถ้าคิดอะไรจริงๆ ต้องจับมือถือแขนเธอบ้างสิไม่ใช่ให้เธอจับชายเสื้อเป็นลูกหมาแบบนั้น

             “ไม่เหนื่อยแต่ง่วงจัง”

             “แบบนั้นแหละที่เรียกว่าเหนื่อย ป่ะกลับบ้านกัน” น้ำเก็บหนังสือแล้วบอกลาเพื่อน

             โชคดีมากที่รถเมล์มีที่ว่างน้ำนั่งด้านในส่วนนายนั่งด้านนอกผ่านไปไม่ถึงห้านาทีนายก็หลับแล้ว เธออดทนนั่งนิ่งๆ อยู่หลายนาทีเพราะรำคาญศีรษะของนายที่โยกไปมาสุดท้ายเลยจับให้มาซบลงที่ไหล่ของเธอ นายยิ้มออกมาน้อยๆ เขาหลับสนิทและคิดว่ากำลังนอนหนุนหมอนนิ่มๆ อยู่

 

ตอนที่ 3

          “อ้าวนาย ทำไมไม่ไปทำงาน” น้ำตะโกนถามเธอเพิ่งตื่นนอนและออกไปยืนที่ระเบียงก็เห็นนายกำลังช่วยป้าน้อยจัดข้าวของในร้าน

             “เพื่อนขอแลกอ่ะหยุดวันนี้พรุ่งนี้ไปทำ” นายตะโกนกลับไป

             “เดี๋ยวนายจะไปเล่นเกมที่ร้านไอ้ต๊อดนะไม่ได้เล่นนานแหละ”

             “อืม” น้ำตอบแล้วเดินเข้าห้องไป เธออาบน้ำแต่งแล้วลงไปช่วยแม่ทำงานบ้านแล้วก็ทำมื้อเช้ากินด้วยกันแต่ในใจกลับไม่หยุดนึกถึงนายสักนาที

             “ไม่ชวนนายไปเที่ยวล่ะนานๆ จะได้ว่างตรงกัน” นวลเอ่ยถามลูกสาว

             “แม่รู้ได้ไงจ๊ะว่านายไม่ไปทำงานเขามาบอกแม่หรอ”

             “ตะโกนคุยกันดังขนาดนั้นคนอยู่หน้าปากซอยยังได้ยินเลยมั้ง”

             “แหะๆ” น้ำหัวเราะแห้งๆ

             “ไม่รู้เมื่อไหร่จะเลิกทำตัวเป็นเด็กๆ กันสักที”

             “หนูไม่ใช่เด็กแล้วนะแม่หนูแก่กว่านายตั้งสี่ปี”

             “แก่อายุนะใช่แต่การกระทำไม่ใช่เลย รู้ตัวไหมว่าเราเหมือนน้องสาวนายมาตลอดมีอะไรก็อภัยให้กันนะมิตรภาพดีๆ ของหนูกับนายมันไม่ใช่สิ่งที่หาง่าย”

             “จ้ะแม่”

             “ไปเที่ยวเล่นบ้างอีกหน่อยทำงานจะยิ่งหาเวลาว่างไม่ได้จานชามเดี๋ยวแม่ล้างให้เอง” น้ำหอมแก้มแม่แล้ววิ่งไปหยิบกระเป๋าเป้ใบเล็กสะพายขึ้นหลัง

             “อ้าว น้ำแม่ให้มาตามหรอ” นายทักพี่สาวที่เดินเข้ามาในร้านเกม

             “เปล่า อยากมาเล่นเกมด้วย” น้ำบอกแล้วยื่นเงินจ่ายไปชั่วโมงนึงเพราะนายกำลังติดพันกับเกมเขาคงไม่อยากไปไหนแน่ๆ ถึงจริงๆ เธอจะเกลียดการมานั่งร้านแบบนี้เข้าไส้ก็ตามเพราะมันมีแต่เด็กผู้ชายคุยกันดังลั่นไปทั้งร้าน

             “ไอ้เหี้ยนี่ฆ่ายังไงก็ไม่ตาย” ผู้ชายข้างๆ เธอด่าเกมในจอดังลั่น

             “ไอ้ห่ายังวิ่งตามกูมาอีกไอ้เชี่ยต๊อดหายหัวไปไหนมาช่วยกูหน่อย” น้ำเปิดเกมตกแต่งบ้านขึ้นมาแล้วก็จัดวางข้าวของไปเรื่อยๆ แต่หูก็ฟังการสนทนาของหนุ่มๆ ในร้านไปด้วย เท่าที่รู้คือเกมที่นายเล่นมันเป็นเกมออนไลน์ผู้เล่นแต่ละคนต่อสู้กันแบบสมจริงและสามารถพูดคุยกันได้ผ่านไมค์

             “เชี่ยนาย กูโดนยิงมึงไม่เห็นหรอ” คนชื่อต๊อดตะโกนกลับมา

             “เชี่ย ใครว่างมาช่วยกูทีกูโดนรุม” นายยังคงเอะอะโวยวายกับหน้าจอต่อไป น้ำนั่งแต่งบ้านไปเรื่อยๆ จนชั่วโมงนึงผ่านไปนายก็ยังคงเมามันกับเกมอยู่

             “น้องคะต่ออีกชั่วโมง” น้ำเตรียมจะหยิบเงินให้เด็กในร้าน

             “แป๊บนะน้ำจบตานี้ก่อนแล้วกลับบ้านกัน” นายหันมาบอกแต่เมื่อเห็นสีหน้าของน้ำเขาก็เปลี่ยนใจทันที

             “กลับแล้วนะไอ้ต๊อด” นายตะโกนบอกเพื่อน

             “อ้าว ไอ้เวรทิ้งกูเฉยมึงอยู่เล่นให้จบด่านนี้ก่อน”

             “ไม่มีอารมณ์แหละ”

             “เบื่อทำไมไม่บอกอ่ะ” นายหันมาถาม

             “เปล่า ไม่ได้เบื่อก็นั่งเล่นเกมอยู่” น้ำบอกแล้วโชว์ผลงานของตัวเองให้นายดู

             “เก่งจัง น้ำชอบชิงช้าแบบนี้หรอ” นายชื่นชมฝีมือการแต่งบ้านผ่านเกมของน้ำเขามองและพยายามจดจำรายละเอียดทุกอย่างไว้ให้ได้มากที่สุด

             “อืม ถ้าบ้านมีพื้นที่มีสวนก็อยากได้ชิงช้าแบบนี้”

             “วันนี้นายว่างใช่ไหม”

             “ว่างทั้งวันเลยทำไมหรอ”

             “อยากไปถีบเรือเป็ดไปเดินเล่นสวนหลวงไปด้วยกันได้ไหม”

             “อืมไปสิ ไปชุดนี้ได้ไหมอ่ะ” นายใส่เสื้อยืดกับกางเกงสามส่วนเขาไม่แน่ใจว่าน้ำจะรู้สึกยังไงถ้าต้องไปไหนกับเขาด้วยชุดแบบนี้เขาอยากให้น้ำภ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา