ปริศนาราณี

5.8

เขียนโดย Richa

วันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 เวลา 15.17 น.

  14 ตอน
  1 วิจารณ์
  12.45K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 27 เมษายน พ.ศ. 2561 13.53 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

7) แรกพบ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

เด็กหญิงตัวน้อยจมดิ่งสู่วังน้ำวนพร้อมเพื่อนเด็กชายคนสนิทสองหนูน้อยตะเกียกตะกายเอาตัวรอดอย่างหวาดกลัว วังน้ำวนแห่งนี้ดูดร่างและวิญญาณของผู้คนมานักต่อนักแล้ว ร่างของเด็กชายถูกหญิงสูงวัยดึงกลับขึ้นไปได้สำเร็จ เด็กชายตัวเล็กถูกช่วยชีวิตขึ้นไปได้แล้ว

หญิงสูงวัยยังคงดำดิ่งสู่วังน้ำวนอีกครั้งเพื่อช่วยเด็กหญิงตัวน้อยผู้เป็นสายเลือดเดียวกัน แต่ร่างเด็กหญิงจมดิ่งลึกลงไปใต้ผืนน้ำอันกว้างใหญ่ เด็กหญิงตัวน้อยจมลง จมลงไป ลึกเกินกว่าที่หญิงสูงวัยจะตามลงไปได้ วังน้ำวนได้ดูดดึงร่างกายและดวงวิญญาณของหญิงสูงวัยลงสู่ใต้ผืนน้ำและกักขังเอาไว้ตลอดกาลนาน

“สวัสดีเด็กน้อย หนูชื่ออะไร” เสียงอันอ่อนหวานดังจากผืนน้ำ

“หนูชื่ออารียา ... ใคร ๆ ก็เรียกหนูว่าไอริช แล้วคุณล่ะ ชื่ออะไรคะ” เสียงเล็ก ๆ ของเด็กหญิงวัยสิบขวบดังขึ้น

“ฉันชื่อราณี” เสียงอันอ่อนหวานตอบกลับมา “ไอริช ... ชื่อเพราะมาก บ้านหนูอยู่บนโน้นหรือจ๊ะ”

“ใช่ บ้านหนูอยู่บนฝั่ง บ้านไม้ทรงโบราณเก่า ๆ ที่อยู่ติดริมโขง” เด็กหญิงตอบอย่างใสซื่อ “จริง ๆ มันไม่ใช่บ้านของหนูหรอก มันเป็นบ้านของคุณตาและคุณยาย บ้านของหนูอยู่ที่ลอนดอน คุณเคยไปลอนดอนมั้ย”

“ไม่เคยจ้ะ ฉันไม่เคยไปไหนเลย ฉันอยู่ใต้ผืนน้ำนี่มายาวนานเหลือเกิน” เสียงอ่อนหวานตอบกลับมา

“ใต้ผืนน้ำ? บ้านคุณอยู่ใต้ผืนน้ำนี่เหรอคะ?” เด็กน้อยถามไปอย่างไร้เดียงสา

“ใช่จ้ะ บ้านฉันอยู่ใต้ผืนน้ำอันกว้างใหญ่ ลึกลงไปจากวังน้ำวนแห่งนี้คือบ้านของฉัน”

“มีบ้านอยู่ใต้น้ำด้วยเหรอ”

“มันไม่ใช่บ้าน แต่มันคือแหล่งที่อยู่อาศัยของอมนุษย์ผู้ทรงอิทธิฤทธิ์ อมนุษย์ผู้มีคาถาและอาคม อมนุษย์ผู้สามารถสร้างปาฏิหาริย์ให้เกิดขึ้นได้ถ้าบารมีที่สั่งสมมาแก่กล้ามากพอ อมนุษย์ผู้ร่ำรวยด้วยทรัพย์สมบัติอันประเมินค่ามิได้ดั่งเช่นเพชรนิลจินดาและอัญมณีล้ำค่าทั้งหลาย”

“อะไรคืออมนุษย์” เด็กหญิงตัวน้อยเอ่ยถาม เธอยังเด็กเกินไปที่จะมีความโลภในทรัพย์สมบัติต่าง ๆ มีเพียงความใฝ่รู้ในสิ่งที่ไม่เคยได้ยินได้ฟังมาก่อนเท่านั้นที่เป็นปริศนาคำถามของเด็กหญิงตัวน้อย

“อมนุษย์คือสิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช่คน”

“คุณเป็นสัตว์เหรอ?”

“จะเรียกแบบนั้นก็ไม่ผิด”

“แล้วคุณหน้าตาเป็นยังไง ทำไมหนูมองไม่เห็นคุณ ได้ยินแต่เสียง”

“ฉันเหรอ ...ฉันมีร่างกายเหมือนงูตัวใหญ่มาก ศีรษะมีหงอนสีทอง นัยน์ตาสีแดงแต่บางครั้งก็สีน้ำตาลเข้ม ลำตัวยาวเหยียดของฉันเป็นเกล็ดเหมือนปลาและเกล็ดของฉันก็มีสีดำนิล”

“คุณพ่นไฟได้มั้ย”

“ได้ซิ”

“แล้วคุณมีปีกด้วยรึเปล่า”

“ไม่มี ฉันไม่มีปีก ไม่มีขา ฉันเคลื่อนไหวด้วยการเลื้อยเหมือนงู”

“จริงเหรอ? หนูอยากเห็นคุณจัง หนูเห็นคุณได้มั้ย หนูไปเที่ยวบ้านคุณได้หรือเปล่าคะ”

“ได้ซิ เมื่อหนูโตขึ้นฉันจะปรากฏกายให้หนูเห็น เมื่อหนูโตพอฉันจะพาหนูลงมาเที่ยวบ้านของฉัน แต่สัญญากับฉันข้อหนึ่งได้มั้ย”

“สัญญาอะไร แล้วทำไมหนูถึงลงไปตอนนี้ไม่ได้” เด็กหญิงตัวน้อยเอ่ยปากถาม

“เพราะตอนนี้หนูยังเด็กเกินไป มันอันตรายเกินไปสำหรับเด็กหญิงอย่างหนู”

“ถ้าหนูโตเป็นผู้ใหญ่ หนูจะลงไปได้ใช่มั้ยคะ” เด็กน้อยวัยกำลังอยากรู้อยากเห็นซักไซ้อย่างตื่นเต้น

“ได้จ้ะ แต่หนูต้องสัญญากับฉันก่อนข้อหนึ่ง”

“สัญญาอะไร” เด็กหญิงตัวน้อยเอ่ยปากก่อนที่เธอจะยอมรับคำมั่นสัญญา

“อย่าบอกเรื่องนี้กับใคร เรื่องที่เราพบเจอกัน หนูต้องเก็บงำมันเอาไว้เป็นความลับของเราสองคนตลอดไป สัญญาได้มั้ย ไอริช”

“ได้ซิ หนูสัญญา หนูจะไม่บอกเรื่องนี้กับใคร ถ้าหนูโตขึ้น คุณจะให้หนูเห็นร่างกายของคุณและพาหนูไปเที่ยวบ้านของคุณแน่นะ สัญญากับหนูนะ”

“สัญญาจ้ะ” เสียงอ่อนหวานจากอมนุษย์ผู้อยู่ใต้ผืนน้ำตอบ

ไอริชชชชช ฉันมาตามคำสัญญา” เสียงกระซิบที่น่าขนลุกขนพอง ดังก้องอยู่ในโสตประสาทของหญิงสาว ชายผู้เป็นตาคว้าเอวเล็กคอดกิ่วของหลานสาวขึ้นมาจากวังน้ำวนอย่างรีบร้อน

ชายชราร่างเล็กประคับประคองร่างอันสูงโปร่งของหลานสาวขึ้นไปบนเรือแจวอย่างทุลักทุเล นกเหยี่ยวตัวหนึ่งเกาะอยู่ขอบเรืออย่างอยากรู้อยากเห็น มันจ้องมองสองตาหลานปีนขึ้นมาบนเรือแจวจนปลอดภัยแล้วมันก็ค่อยบินจากไปอย่างรู้สึกโล่งอก

ผู้เป็นตารีบพายเรือกลับเข้าฝั่งอย่างใจหายใจคว่ำ เขาเกือบจะเสียหลานสาวไปอีกแล้วเป็นครั้งที่สอง แม่น้ำโขงบริเวณนี้ช่างอาถรรพ์นัก นี่ถ้าไม่ใช่เพราะจดหมายฉบับนั้นของบุตรสาว เขาจะไม่มีวันยอมให้สายเลือดสุดท้ายของเขาต้องก้าวลงสู่วังน้ำวนแห่งนี้อีกเลย

“คุณตาร้องไห้ทำไมคะ” อารียาหันไปถามผู้เป็นตา ที่พายเรือเข้าฝั่งด้วยน้ำตานองหน้า

“ตากลัวน่ะลูก ตากลัวเหลือเกิน สิบสองปีที่แล้วหนูก็จมลงสู่วังน้ำวน ครั้งนั้นยายของหนูเห็นและลงไปช่วย แต่ช่วยขึ้นมาได้แค่ไก่โต้ง ส่วนหนูจมดิ่งลงไปลึก ตาว่ายน้ำตามไปหวังจะช่วยหนูกับยาย จู่ ๆ หนูก็ลอยขึ้นมาเหมือนมีพญานาคพามาส่ง แล้ววังน้ำวนก็ดูดร่างและวิญญาณของยายลงไปแทน” ผู้เป็นตาเล่าพลางสะอื้นไห้ น้ำตาไหลออกมาอาบแก้มอย่างไม่ขาดสาย

ตาบังอาจพายเรือกลับเข้าฝั่งพลางปาดน้ำตา เสียงสะอื้นไห้อย่างตื่นตระหนกนั้นยังไม่จางหาย ภาพเหตุการณ์อันแสนโหดร้ายครั้งนั้นยังกลายเป็นฝันร้ายของเขาจนถึงวันนี้ เขาต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวมายาวนานถึงสิบสองปี เพราะหลานสาวถูกผู้เป็นพ่อของเธอห้ามปราม มิให้เดินทางกลับมาอีก

ความดีใจนั้นหาที่เปรียบมิได้ เมื่อจดหมายด่วนจากหลานสาวเขียนมาถึงว่าเธอจะเดินทางกลับมา อารียาต้องทะเลาะกับบิดายกใหญ่เรื่องที่เธอยืนกรานจะเดินทางกลับมาเมืองไทย แต่เพราะเธอโตเป็นผู้ใหญ่ เรียนจบแล้ว บรรลุนิติภาวะแล้ว เธอสามารถตัดสินใจด้วยตัวเองได้แล้ว เธอสามารถเลือกทางเดินในชีวิตของเธอได้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องมีพ่อและแม่คอยชี้แนะอีกต่อไป

จดหมายจากมารดาถูกเขียนเอาไว้ก่อนตาย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นก้ำกึ่งระหว่างฆาตกรรมอำพรางกับฆ่าตัวตาย ร่องรอยการต่อสู้ไม่มีปรากฏให้เห็น แต่มารดาของเธอไม่ได้ฆ่าตัวตายอย่างแน่นอน แต่ทำไมจดหมายฉบับนี้จึงถูกเขียนขึ้นอย่างใจเย็นด้วยลายมือที่ไม่ได้รีบร้อนเลย มันคือลายมือของมารดาเธอแน่ ๆ

“ตากลัวเหลือเกิน กลัวว่าตาจะเสียไอริช หลานคนเดียวของตาไปอีกคน ตากลัวเหลือเกิน ให้แลกด้วยชีวิตของตาสิบชาติ ให้ตกนรกสิบขุมตาก็ยอมทุกอย่าง ขอให้หลานคนเดียวของตาแคล้วคลาดปลอดภัย จากภัยร้ายใต้น้ำนั่น” ชายชรายังคงสะอื้นไห้อย่างน่าเวทนา

“คุณตาคะ ไอร์ขอโทษที่ทำให้คุณตาต้องกลัว ไอร์แค่หน้ามืดเหมือนจะลม จู่ ๆ ไอร์ก็วูบและตกลงไปในแม่น้ำ สงสัยแดดเมืองไทยจะแรงเกินไปสำหรับไอร์”

“สัญญากับตานะ ว่าไอริชของตาจะไม่ลงไปใกล้น้ำโขงนั่นอีก ที่นั่นมันมีพญานาคและมันจะมาเอาไอร์ลงไปใต้ผืนน้ำนั่น” ชายชราพายเรือมาจนถึงฝั่ง ลุงบรรเจิดรอคอยอยู่แล้วและช่วยผูกเรือให้

“คุณตาคะ เชื่อไอร์เถอะค่ะ ทุกอย่างมันมีเหตุและผลของมัน ไอร์ไม่ห้ามคุณตานะคะที่จะเชื่อเรื่องพญานาค เรื่องผีสาง เรื่องงมงายอะไรก็ตาม เพราะนั่นคือความเชื่อส่วนบุคคลของคุณตา ไอร์เคารพความเชื่อนี้ แต่คุณตาอย่าบังคับให้ไอร์ต้องเชื่อในสิ่งที่ไอร์พิสูจน์ไม่ได้” อารียาจอมดื้อดึงหันไปพูดกับผู้เป็นตาด้วยน้ำจริงจัง

ผู้เป็นตายังคงสะอื้นไห้อย่างไม่สนใจว่าผู้คนจะมองว่าเขาอ่อนแอเช่นไร ในเมื่อหัวใจของเขาเกือบจะแตกสลายไปแล้วเช่นนั้น หญิงสาวผู้เป็นดั่งแก้วตาดวงใจสุดท้าย ลุกขึ้นจากเรือแจวไปยืนอยู่บนท่าเรือ เธอกำลังจะเดินหนีไปอย่างขุ่นเคืองแต่แล้วก็อดไม่ได้ที่จะสงสารผู้เป็นตาแท้ ๆ

“คุณตาคะ ไอร์ ... ไอร์ จะไม่ลงไปว่ายน้ำหรือพายเรือ หรือทำอะไรก็ตามที่ใกล้กับแม่น้ำโขงนี่อีก ถ้าไม่จำเป็น” คำพูดของอารียาทำเอาผู้เป็นตาต้องปาดน้ำตาครั้งสุดท้าย

หลานสาวตัวน้อยจอมซน ช่างพูดช่างเจรจา เจื้อยแจ้วทั้งวัน บัดนี้เติบใหญ่เป็นสาวเต็มตัวผู้มุ่งมั่นและมั่นใจเกินร้อย การจะลงไปลอยอังคารครั้งนี้ก็เช่นกัน อารียายืนกรานจะทำตามเจตนารมณ์ของมารดาแม้จะยังมีปริศนาคาใจมากมายก็ตาม ... แต่เธอต้องหาคำตอบให้ได้

อารียาเดินเลาะลัดเลียบริมโขงจากท่าเรือท้ายวัดเพื่อจะกลับมายังบ้านของคุณตา เธอเดินผ่านสิ่งปลูกสร้างขนาดเล็กที่มีรูปร่างคล้ายเจดีย์ถูกตั้งเรียงรายมากมายอยู่ริมรั้วของวัด หญิงสาวยืนมองอย่างสงสัย เธอหยุดอยู่ด้านหน้าของสิ่งที่เธอคิดว่าเป็นเจดีย์ขนาดใหญ่ที่สุด

“สิ่งนี้ ชาวบ้านแถวนี้เขาเรียกกันว่า ธาตุ มีไว้บรรจุอัฐิคนตาย” เสียงนุ่มทุ้มลึกเอ่ยขึ้นจากด้านหลังของหญิงสาว

อารียาหันไปมองตามเสียงนั้นด้วยสัญชาตญาณ มันไม่ใช่เสียงของไก่โต้ง เขาหายไปไหนก็ไม่รู้ เธอเห็นเพียงลุงเจิดเท่านั้นที่มารอรับเธอที่ท่าเรือ บางทีเขาอาจเบื่อที่จะรอคอยเธอแล้วก็เป็นได้ เขาอาจจะโกรธเคืองที่เธอแบ่งรับแบ่งสู้กับมิตรภาพระหว่างเธอและเขา แต่นั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่หญิงสาวหนักใจเลย

ภาพที่อารียาเห็นเมื่อเธอหันมาคือชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่กำยำ เขาสูงพอ ๆ กับไก่โต้ง เพียงแต่ชายผู้นี้มีผิวขาวเนียนละเอียด ผมสีดำสนิทและนัยน์ตาของเขานั้นเป็นสีน้ำตาลอ่อน เขาคือชายหนุ่มผู้ผสมผสานกันระหว่างเผ่าพันธุ์จากซีกโลกตะวันออกและตะวันตกได้อย่างลงตัวเหมือนเช่นเธอ

จู่ ๆ สายลมก็พัดมาอย่างแรง ต้นไม้ใหญ่เริ่มไหวตามแรงลม ใบไม้ที่หล่นตามพื้นก็ปลิวขึ้นมาอย่างไม่อาจจะต้านทานแรงแห่งธรรมชาติได้ เส้นผมที่ยาวสลวยของอารียาก็เช่นกัน มันปลิวไสวไปด้านหลังเผยให้เห็นรูปหน้างามนั้นอย่างชัดเจน

รอยยิ้มละไมปรากฏขึ้นที่ใบหน้าหล่อเหลาของชายหนุ่มผู้มีอายุรุนราวคราวเดียวกับอารียา แววตาสีน้ำตาลอ่อนคู่นั้นส่องประกายเจิดจ้าอย่างต้องมนต์เสน่ห์แห่งความงามของอิสตรี

อารียาก็เผยยิ้มออกไปอย่างลืมตัวเช่นกัน หนุ่มตาสีเขียว ฟ้า น้ำตาลอ่อน หรือที่ชาวไทยชอบเรียกว่าหนุ่มฝรั่งตาน้ำข้าวนั้นเธอเจอมานักต่อนักแล้ว แต่เธอไม่คิดว่าในหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งนี้นอกจากเธอแล้วจะมีจะมีลูกครึ่งคนอื่นอีกและเขาผู้นี้เป็นลูกครึ่งที่มีเสน่ห์ของความเป็นไทยอยู่มากมายเลยทีเดียวเหมือนเขาเกิดหรือไม่ก็เติบโตยังดินแดนแห่งนี้มานานแสนนาน

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
4.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา