ตลกร้ายใต้สะดือ

9.7

เขียนโดย Jalando

วันที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 15.03 น.

  45 ตอน
  9 วิจารณ์
  46.53K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 8 มกราคม พ.ศ. 2562 15.17 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

19) ไม่รอดแน่ น้องแหวว

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ตอนที่ 19 ไม่รอดแน่ น้องแหวว

 

        บุญกอบพูดจบ เขาก็ย้ำเจตนารมณ์ให้ชัดขึ้นด้วยการกระชากคอเสื้อของลุงขี้เมาจนร่างเล็กบางลอยตามแรง แต่ก่อนที่หมัดของหนุ่มอีสานร่างล่ำจะถูกปลดปล่อย ลุงขี้เมาก็เอ่ยขึ้นมาคำหนึ่ง 

 

“ เหตุที่ลุงมาวุ่นวายกับเอ็ง เพราะครั้งหนึ่งลุงเคยเป็นแบบเอ็ง ” 

          

 

       บุญกอบนิ่งในบัดดล สิ่งที่ลุงขี้เมาพูด มันชวนให้สงสัยจนเขาต้องไถ่ถามด้วยเสียงอันดัง 

 

“ เป็นแบบผม หมายความว่าไง บอกมาเดี๋ยวนี้นะ ” 

            

 

       ลุงขี้เมาเหล่มองมือที่กำคอเสื้อเป็นนัยว่า….ปล่อยกูก่อนดีกว่ามั้ย บุญกอบสังเกตอาการ เขาก็รู้และปล่อยคอเสื้อชายสูงวัยในทันที พอลุงขี้เมาตั้งหลักได้ เขาก็เริ่มขยายความ 

 

……………….

           

         ลุงขี้เมาเล่าเรื่องราวสมัยหนุ่มให้บุญกอบฟัง เรื่องราวประมาณว่า….สมัยหนุ่มๆ ลุงขี้เมาหลงรักสาวที่บ้านเกิด แต่ด้วยความจน เขาจึงมาทำงานหาเงินที่กรุงเทพเพื่อนำเงินไปสู่ขอ สุดท้ายลุงขี้เมากลับถูกสาวคนรักหักอกด้วยการแอบไปแต่งงานกับเพื่อนชายคนสนิท มันทำให้ลุงเสียศูนย์จนไม่เป็นผู้เป็นคนและหันมาพึ่งพาเหล้าเป็นเครื่องปลอบประโลมใจ สุดท้ายก็กลายเป็นขี้เมาที่ไม่มีใครเหลียวแล 

             

 

         หลังจากลุงขี้เมาเล่าอดีตอันรันทดของตนเองจบ เขาก็ปิดท้ายด้วยการตบขวดเหล้าขาวที่ถือในมือเบาๆ พร้อมสรรเสริญเยินยอคุณความดีของน้ำเปลี่ยนนิสัยสุดตัว 

 

“ เอ็งรู้มั้ยว่าไอ้น้ำเมาที่ข้าถือเนี่ย มันเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดในยามที่ข้าเจ็บปวด ข้ายิ่งกิน ข้ายิ่งลืม มีแต่ความสุขหรรษาในใจ ข้าตั้งใจว่าจะอยู่กับมันไปจนวันตาย ” 

           

 

         หลังจากบุญกอบได้รับฟังเรื่องราวของลุงขี้เมา เขาก็เกิดความเห็นใจขึ้นมาทันที ชีวิตของลุงขี้เมาคล้ายกับเขามาก ต่างกันก็แต่ว่าตอนนี้เขาลืมเลือนสาวเจ้าที่เขาตั้งใจจะเก็บเงินไปสู่ขอเป็นที่เรียบร้อยแล้ว 

 

“ ก็ทำไงได้ สาวที่กรุงเทพมันสะสวย น่ามองกว่าเป็นไหนๆ ” 

        

 

         ลุงขี้เมาเหลือบมองบุญกอบที่กำลังนั่งเงียบอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็เชื้อเชิญหนุ่มอีสานวัยหลาน 

 

“ ถ้าเอ็งอยากจะลืมทุกข์ที่อยู่ในใจ เอ็งจะลองลิ้มรสมันซักหน่อยมั้ย รับประกันเลยว่าเอ็งจะไม่มีวันลืมเลือนมันเลย ” 

         

 

         เมื่อลุงขี้เมาพูดจบ เขาก็ยื่นขวดเหล้าขาวที่มีน้ำเมาเหลืออยู่ครึ่งค่อนให้กับบุญกอบ 

         

 

         บุญกอบยอมรับว่าตนเองรู้สึกลังเลเป็นอันมาก แต่ในยามที่เขาต้องการลืมเลือนความกลัดกลุ้มที่สุมแน่นในอก เขาก็ยินยอมพร้อมใจที่จะรับข้อเสนอของชายสูงวัย 

 

“ โอเค เอาก็เอา สำหรับวันแย่ๆแบบนี้ เมาซักยก มันก็ไม่เลวนะ ” 

          

 

        หลังจากบุญกอบรับขวดเหล้าขาวมาไว้ในมือ เขาก็ยกขวดขึ้นสูง เพื่อปลดปล่อยของเหลวสีขาวขุ่นให้ทะลักลงสู่กระเพาะ และทันทีที่มันไหลผ่านลำคอ เขาก็รู้สึกร้อนวูบวาบอย่างรุนแรง 

 

“ บรื้อ….เหล้าของลุงนี่แรงดีจริงๆ กี่ดีกรีกันล่ะเนี่ย ” บุญกอบส่ายหัวไปมา เพื่อขับไล่ความมึนงง 

 

“ ฮ่าๆ….ก็ไม่เท่าไหร่หรอก แค่น้องๆแอลกอฮอล์เท่านั้นเอง ” ลุงขี้เมาตบไหล่ล่ำสันของบุญกอบ ปากก็หัวร่อเสียงดัง 

 

“ โหๆ…..ถึงว่าสิ อึกเดียว เล่นเอาร้อนไปทั้งตัว ” บุญกอบตอบเสียงสั่น สีหน้าของเขาดูเหลอหลา  

           

 

         ลุงขี้เมาได้เห็นอาการของหนุ่มอีสานร่างล่ำ เขาก็โต้ตอบด้วยการส่งยิ้มกว้าง พร้อมแนะนำหนุ่มรุ่นหลานด้วยอาการร่าเริง 

 

“ หึ หึ หึ งั้นเอ็งก็ต้องกินบ่อยๆ มันจะได้อยู่ตัว ” 

          

 

         หลังจากนั้น สองสหายต่างวัยก็เริ่มดวลสุรากันอย่างเมามัน และเมื่อทั้งสองจัดกันไปคนละหลายอึก เสียงสนทนาก็เริ่มดังขึ้นเรื่อยๆตามกำลังเมา 

        

 

         ใบหน้าบุญกอบแดงก่ำจนดูคล้ายกับเทพเจ้ากวนอูในวรรณคดี สติที่ใช้ยั้งคิดก็เริ่มรางเลือน ทำให้เขาเผยความในใจที่ซุกซ่อนมานาน 

 

“ เฮือก….ลุงรู้มั้ยว่าแท้จริงแล้ว ผมกลุ้มใจเรื่องอะไร อึก…” 

 

“ ฮะ ฮะ ฮะ กูจะไปรู้มึงหรือว่ามึงกลุ้มเรื่องอะไร กูไม่ใช่ผู้วิเศษนะโว้ย แต่ถ้าให้เดา คงจะคล้ายๆกูนี่ล่ะโว้ย ” ลุงขี้เมาตอบด้วยเสียงที่กลั้วหัวเราะ 

 

“ ผิด ผิด ผิด อึก….คนละเรื่องกับที่ลุงคิดเลย เฮือก….” บุญกอบส่ายหัวรัวๆ ดวงตาเริ่มหรี่ต่ำคล้ายคนที่กำลังจะหลับ 

          

 

         คำตอบของสหายรุ่นหลาน ทำเอาลุงขี้เมานึกสงสัยขึ้นมานิดๆ เขาจึงเอ่ยถามด้วยความใคร่รู้ 

 

“ อ้าว….ถ้าไม่ใช่ แล้วมึงกลุ้มเรื่องอะไร ” 

        

 

          บุญกอบสะอึกอีกสามสี่หน ก่อนจะเหลียวซ้ายแลขวาอย่างระมัดระวัง เมื่อเห็นว่าทางสะดวก ไม่มีใครแอบฟัง เขาจึงเอ่ยวาจา 

 

“ ผมกลุ้มเรื่องที่ยังไม่ได้จัดหนักกับพวกสาวๆ มีหลายนางเลยที่ผมคิดจะซั่มด้วย แต่มันติดขัดตรงจังหวะและโอกาส ” 

          

 

         สิ้นคำสารภาพของหนุ่มอีสานร่างล่ำ ลุงขี้เมาถึงกลับเหวอ เพราะจากข้อมูลที่ได้รับ มันค่อนข้างที่จะผิดคาดจนจะบอกว่า…เรื่องมันโอละพ่อ ก็คงไม่ผิดนัก ถึงกระนั้นลุงขี้เมาก็ยังคงถามย้ำอีกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าเขาฟังไม่ผิด 

 

“ เฮ้ย!....เอ็งแน่ใจนะว่าเอ็งไม่ได้อำข้า ” 

           

 

         บุญกอบเงยหน้าขึ้นมองลุงขี้เมาในทันที ดวงตาของเขาดูขวางคล้ายคนที่พร้อมจะมีเรื่องได้ทุกเวลา เขามองอยู่อึดใจ ก่อนจะเค้นคำกร้าว 

 

“ ก็จริงน่ะซิ ลุง และคนแรกที่ชั้นอยากจะสอยก็คือ…..น้องแหวว ” 

           

 

        คิ้วหงอกขาวของลุงขี้เมาเลิกสูง เพราะชายสูงวัยรู้จักน้องแหววเป็นอย่างดี เนื่องจากเป็นผู้อยู่อาศัยในละแวกเดียวกัน แต่เพื่อให้แน่ใจมากยิ่งขึ้น เขาจึงถามย้ำไปอีกครั้ง 

 

“ แหววที่ว่านี่คือ….แหวว แฟนของไอ้โมทย์ที่อยู่ห้องพักฝั่งตะวันออกรึเปล่าวะ ” 

            

 

         บุญกอบไม่ตอบคำใด เขาเพียงแต่มองหน้าลุงขี้เมานิ่งๆ ถ้าพิจารณาให้ดี ก็จะพบว่าดวงตาของหนุ่มอีสานร่างล่ำยิ่งขวางหนักกว่าเดิม เนื่องจากอารมณ์ของเขาในตอนนี้ มันพลุ่งพล่านจนแทบสะกดไม่อยู่ ท่าทางก็ดูแกร่งกร้าวคล้ายคนที่พร้อมจะกินหัวใครก็ได้ที่เข้ามาขวางทาง ด้วยอาการที่ใกล้เคียงกับหมาบ้า จึงทำให้ลุงขี้เมานึกกลัว และกล่าวขอตัวในเวลาต่อมา 

 

“ เอ่อ…..ข้านึกขึ้นได้ว่าข้าต้องกลับไปรีดผ้า แล้วเจอกันนะ ไอ้บุญกอบ ” 

          

 

         พูดจบ ลุงขี้เมาก็ลุกขึ้นยืน เพื่อเตรียมจรลา แต่ก่อนที่ชายสูงวัยจะไปตามทาง บุญกอบก็กล่าวทัดทานโดยพลัน 

 

“ เดี๋ยวก่อน ” 

          

 

         เสียงนั้นดูห้วนและห้าวจนสะกดให้ชายสูงวัยไม่กล้าเดินหนี แต่ด้วยความที่ตนเองสูงวัยกว่า เขาจึงข่มความกลัวและหันกลับมาถามด้วยเสียงที่สั่นเทา 

 

“ มะ…มีอะ…ไร ”  

          

 

         บุญกอบหันหน้ามามองลุงขี้เมา เขามองหน้านิ่งๆอยู่อย่างนั้นหลายอึดใจ ก่อนจะตอบกลับไปด้วยเสียงที่แผ่วเบาและเด็ดขาดว่า….. 

 

“ วางขวดเหล้านั่นเอาไว้ ” 

 

“ หาๆ…..ว่าไงนะ นี่เหล้าของข้านะโว้ย ” ชายสูงวัยโวยดัง เขาเริ่มของขึ้นบ้างแล้ว เพราะเขากำลังโดนแย่งของรักของหวงที่ชวนฝัน 

          

 

         บุญกอบไม่พูดพร่ำทำเพลงให้มากความ เขาตีหน้าขรึมและยืนขึ้น กำปั้นทั้งสองข้างถูกกำแน่น เวลาต่อมาเขาก็ยื่นคำขาดด้วยเสียงที่เหี้ยมเกรียม 

 

“ กูบอกให้วางมันลง ไม่ได้ยินรึไง ไอ้แก่ ” 

         

 

         ท่าทางที่ดูเอาจริงของหนุ่มอีสานร่างล่ำ ทำให้ชายสูงวัยถึงกลับหงอในบัดดล เเละเมื่อบวกลบคูณหารให้ดีแล้ว ชายสูงวัยก็ยอมถอยออกมาหนึ่งก้าวด้วยการวางขวดเหล้าลงบนโต๊ะหินตามคำบัญชาของบุญกอบ 

 

“ เอ้า…นี่จ๊ะ เชิญเอาไปเลย พ่อมหาจำเริญ ” 

 

“ ดีมาก ทีนี้ก็ไสหัวไป ” บุญกอบพูดจบ เขาก็ทรุดกายลงนั่ง พร้อมยกขวดเหล้าขึ้นมากระดกอีกอึกใหญ่ๆ 

           

 

        ลุงขี้เมามองขวดเหล้าในมือของบุญกอบด้วยแววละห้อยไห้ เขานึกเสียดายมันเป็นที่สุด แต่เพื่อรักษาชีวิตให้ปลอดภัย เขาจึงยอมเดินจากมา และจากบทเรียนในครั้งนี้ ทำให้เขาได้คิด….. 

 

“ ต่อไปกูจะไม่ชวนมันกินเหล้าอีกแล้ว ไอ้นี่เมาแล้วโคตรนักเลงเลย ” 

 

……………….

          

        หลังจากลุงขี้เมาจากไปแล้ว บุญกอบก็ร่ำสุราอยู่เพียงลำพัง เขากระดกมันลงคออยู่หลายๆต่อหลายอึก ในที่สุด ก็ถึงคราวที่ต้อง……หมด 

 

“ เชอะ…หมดแล้วรึ ” บุญกอบคำรามดังด้วยความไม่พอใจ จากนั้นเขาก็ระบายอารมณ์ด้วยการเขวี้ยงขวดเหล้าไปที่กำแพงห้องสุดกำลัง 

 

“ เพล้ง….” 

          

 

        เสียงขวดเหล้าแตกกระจาย เพราะมันลอยไปชนกำแพงห้องพักของเขาอย่างรุนแรง แต่เขาหาได้สนใจต่อสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ เขามองตรงไปข้างหน้าด้วยประกายตาที่แข็งกร้าว อึดใจต่อมา เขาก็เริ่มยิ้มเหี้ยมๆ พร้อมกล่าวออกมาว่า….. 

 

“ ดีล่ะ วันนี้กูจะจัดหนักกับอีแพรว ”

 

 

สามารถติดตามงานเขียน ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจJalandoนักเขียนดาร์คไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ

https://www.facebook.com/Jalando.darksidewriter

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณชอบนิยายเรื่องนี้แค่ไหน

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา