โอรีเวีย ( เมืองต้องสาป )

7.3

เขียนโดย shilen

วันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 18.27 น.

  188 บทที่
  11 วิจารณ์
  115.60K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 20.35 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

95) นั่งรถม้า

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
และแล้ววันหยุดก็มาถึง   อาเธอร์นำรถม้าเข้าไปรับเพื่อนๆ ของบุตรชายถึงในปราสาทขาว   เด็กๆ ตื่นเต้นกันมากเพราะตั้งแต่มาที่โอรีเวีย   พวกเขาก็อยู่แต่ในตัวเมืองที่แออัดไปด้วยตึกรามบ้านช่อง   แต่นอกเมืองที่เต็มไปด้วยทุ่งหญ้านั้น   น้อยครั้งที่จะได้สัมผัส
 
คาโลไรน์เตรียมของต้อนรับเป็นอย่างดี   และกล่าวขอโทษเด็กๆ ที่บ้านคับแคบไปหน่อย   โชคดีที่วันนี้อากาศอบอุ่น   พวกเขาจึงตั้งโต๊ะรับประทานอาหารกันนอกบ้าน   ฟีไลร่าชอบบรรยากาศแบบนี้นางชมไม่หยุดปาก   นั่นทำเอาเด็กชายเจ้าของบ้านหัวใจพองโต   ส่วนโลธอร์นั้นถึงขั้นชักชวนคาโลไรน์ให้ไปอยู่ในหมู่บ้านของเขา   อีเลียสได้แต่ส่ายหน้า   เขารู้ว่าเพื่อนนักกินคนนี้กำลังมีแผนอะไร
 
อาเธอร์ได้ถามเด็กๆ เกี่ยวกับเรื่องราวน่ากลัวที่เกิดขึ้นในชั่วโมงปรุงยา   เขามีท่าทีวิตกกังวลเป็นอย่างมาก   ถึงแม้จะรู้ว่าอาจารย์ผู้สอนถูกตรวจสอบและได้ออกนอกปราสาทไปแล้วก็ตาม   แต่เมื่อเด็กๆ ทุกคนบอกว่าได้ย้ายวิชาเรียนแล้วเขาจึงมีท่าทีผ่อนคลายลง
 
หลังจากรับประทานอาหารแล้วและคุยกันเป็นเวลาพอสมควร   พวกผู้ใหญ่ก็ขอตัวไปทำงาน   ปล่อยให้เด็กๆ ได้เล่นกันตามใจชอบ
 
ฟิโลโซเฟอร์พาเพื่อนๆ ไปเดินเล่นรอบบึงสีเขียว
 
“ ที่นี่สวยงามน่าอยู่   อากาศก็ดีด้วย   เจ้าโชคดีจริงๆ ”
 
ฟีไลร่าว่า
 
“ ตอนอยู่ที่ซีนาร์ยข้าก็อยู่แบบนี้แหละ ”
 
เด็กชายบอก
 
“ มิน่า   พวกเจ้าจึงดิ้นรนจะออกมานอกเมือง   แต่ก็คุ้มค่าแล้วแหละ   พูดถึงบ้านเดิมข้าก็อยู่ในรั้วของปราสาทเช่นกัน   ได้ออกมาแบบนี้ก็ประหลาดไปอย่าง   ข้าชักอยากมานอนบ้านของเจ้าแล้วสิ ”
 
เพื่อนตัวน้อยร่างผอมบางกล่าว
 
“ ถ้าเช่นนั้นก็ขอให้พ้นหน้าหนาวไปก่อน   ข้าจะสอนพวกเจ้าทำกระโจมจากหญ้าแห้ง   เราจะทำแค้มป์ไฟและนอนในกระโจมกัน ”
 
เพื่อนๆ ต่างนึกสนุกและเห็นดีเห็นงามไปด้วย
 
แต่เลโอน่าได้ชี้มือไปที่แนวป่ารกครึ้มที่อยู่ทอดยาวอยู่ด้านหน้า
 
“ นั่นใช่ป่าแดงหรือไม่   ที่ๆ กษัตริย์แฮโรดถูกโจมตีโดยผู้ใช้มนต์ดำ ”
 
“ ใช่   แต่เหตุเกิดกลางป่าใหญ่ซึ่งไกลจากที่นี่มาก ”
 
ฟิโลโซเฟอร์ตอบ
 
“ พวกเจ้านี่กล้าหาญกันจริง   อุตส่าห์ได้อยู่ในเมืองดีๆ แล้วก็ยังดั้นด้นออกมาข้างนอก   ไม่มีความหวาดกลัวกันบ้างหรือไร ”
 
นางถาม
 
“ ทุกคนย่อมมีความกลัว   แต่ชีวิตต้องดำเนินต่อไป   ท่านพ่อบอกว่าการโจมตีที่เกิดขึ้นนั้นมีเป้าหมาย   ส่วนพวกเราก็ด้อยค่าเกินกว่าที่ใครจะมาใส่ใจ   คงไม่มีใครคิดทำร้ายแบบเป็นการเจาะจง   หากต้องมีอันเป็นไปก็คงต้องโทษชะตากรรม   และเมื่อเป็นดังนั้นไม่ว่าจะอยู่ที่แห่งใดผลก็คงไม่ต่าง ”   
 
คาโอเรียเป็นคนให้คำตอบนั้น
 
“ เรื่องผู้ใช้มนต์ดำยังไม่ได้รับการยืนยัน   ทางสภาก็ไม่รับรองเรื่องนี้   ข้ากับท่านพ่อเข้าไปในป่าเพื่อหาฟืนอยู่เสมอ   ก็ไม่พบสิ่งผิดปรกติใด   มันเสียเวลาเปล่าที่จะกังวลกับเรื่องอะไรที่เรายังไม่แน่ใจ ”
 
เด็กชายชาวซีนาร์ยให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้
 
“ ทีความเคลื่อนไหวตรงราวป่านั่น ”
 
อีเลียสยกมือขึ้นป้องตาจากแสงแดด
 
“ เป็นเรื่องปรกติของที่นี่   มีชาวบ้านเข้าไปล่าสัตว์และหาของป่าอยู่ทุกวัน   ข้าเห็นจนชินแล้ว   คงเป็นคนของหมู่บ้านนอกกำแพง ”
 
ฟิโลโซเฟิร์บอก
 
โลธอร์มองเห็นรถม้าจอดอยู่ข้างโลงนาแล้วก็นึกสนุก
 
“ สหายเจ้าขับรถม้าเป็นหรือไม่ ”
 
“ ไม่ ”
 
เด็กชายตอบตามตรง
 
“ ท่านแม่ยังไม่ยอมให้ข้าฝึกขี่ม้า   ก็เลยพลอยขับรถม้าไม่เป็นด้วย   แต่ข้าจูงม้าได้นะ   พวกเจ้าล่ะขี่เป็นหรือกันหรือเปล่า ” 
 
“ ตั้งแต่มาอยู่ที่โอรีเวียข้ายังไม่ได้ฝึกอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย ”
 
เลโอน่าบ่น
 
“ พวกเราก็ไม่เป็น   แต่ตอนนั่งรถม้ามากับพ่อของเจ้ามองดูเหมือนง่ายดีนะ   หรือว่าอย่างไร   เอาอย่างนี้ไหนๆ ก็อยู่กันที่นี่กลางทุ่งโล่งแบบนี้รถก็มีม้าก็พร้อม   เราขี่รถม้าเล่นกันเถอะ   เจ้าเทียมรถม้าเป็นใช่ไหม ”
 
โลธอร์ถามเจ้าของสถานที่
 
“ ได้   เรื่องนี้ข้าทำบ่อย ” 
 
“ มันจะดีหรือ   แน่ใจนะว่าจะไม่เกิดอุบัติเหตุ ”
 
อีเลียสแย้งสีหน้าหวั่นๆ
 
“ ถ้าขี่ม้าเรามีโอกาสพลัดตกจากหลัง   สำหรับบนรถม้าข้าไม่เคยได้ยินข่าวแบบนี้   แต่เราให้ท่านพ่อสอนไม่ดีกว่าหรือ ”
 
คาโอเรียว่า
 
“ แต่ข้าว่าแบบนี้น่าสนุกกว่า   บิดาของเจ้ากำลังทำงานวุ่นวายอย่ารบกวนเลย   รถม้าคันนี้ทั้งใหญ่ทั้งแข็งแรงคงไม่มีเรื่องร้ายแรงอะไร ”
 
ฟีไลร่าออกความเห็น
 
           
            ดังนั้นฟิโลโซเฟอร์จึงแอบเอาม้ามาเทียมเข้ากับรถม้า   เขาไม่รู้สึกกังวลอะไรเพราะเบตตี้กับเบตเต้อร์เป็นม้าแกลบที่เชื่องมาก   เพื่อนๆ ต่างชอบใจม้าทั้งสองของเขา   เพราะเด็กๆ เหล่านั้นคุ้นเคยกับม้าศึกที่มีรูปร่างใหญ่โต   แต่เจ้าสองตัวนี้กลับดูประหลาด   มันเตี้ยแต่ล่ำและถึกทน   ดูเผินๆ เหมือนม้าอ้วนกลมอย่างไรอย่างนั้น
 
เบตตี้กับเบตเต้อร์นั้นใจดีกับเด็กๆ เป็นอย่างมาก   ทั้งที่เป็นคนแปลกหน้า   แต่ก็ยอมให้ลูบคลำได้โดยไม่มีอาการฟัดเหวี่ยงแต่อย่างใด   หลังจากถูกเทียมเข้ากับรถม้าแล้ว   มันก็ยืนสงบนิ่ง   เด็กผู้ชายก็ช่วยพยุงเด็กหญิงขึ้นรถ   พวกเธอมักสวมกระโปรงยาวอยู่เสมอทำให้ดูวุ่นวายทุกครั้งในการเดินทาง  
 
รถม้าคันนี้เป็นของเก่าที่มีคนทิ้งไว้ในบ้านตึก   อาเธอร์ได้ซ่อมแซมจนอยู่ในสภาพดีแล้ว   มันมีหลังคาอย่างดี   มีประตูและหน้าต่าง   นอกจากนั้นยังมีหน้าต่างอีกบานตรงฝั่งของคนขับ   เลโอน่าดึงผ้าม่านฝั่งนั้นออกเพื่อจะสามารถคุยกับเด็กผู้ชายทั้งสามที่นั่งกองกันอยู่ด้านหน้าได้สะดวก
 
โลธอร์อาสาเป็นคนขับ   จึงนั่งตรงกลางมีเพื่อนร่างผอมทั้งสองกระหนาบข้าง   อีเลียสนั่งตัวแข็งทื่อเขารู้สึกไม่ไว้วางใจการเล่นซนของเพื่อนๆ ในครั้งนี้   เด็กร่างอ้วนกระตุกบังเหียนม้าทั้งคู่ก็ออกเดินช้าๆ พาเด็กๆ เดินตรงไปในทุ่งหญ้า  
 
เลโอน่าถอนหายใจอย่างโล่งอก   ที่ม้าสองตัวเชื่อฟังและเป็นมิตร   ทุกคนเริ่มผ่อนคลายต่างพูดถึงบรรยากาศรอบกายอย่างมีความสุข   คนคุมม้าก็โม้ใหญ่ว่าเขาคือนักขี่ม้าที่ดีที่สุด  
 
คุยไปคุยมาก็วนมาเรื่องกษัตริย์แฮโรดและเรื่องมนต์ดำอีกจนได้
 
“ ข้ามีเรื่องประหลาดจะเล่าให้ฟัง ” 
 
อีเลียสว่า
 
“ เจ้าชายเอลานอสเมื่อกลับไปถึงเมืองโอรีออนได้ทำตัวแปลกๆ จากเคยเป็นคนเย่อหยิ่ง   ตอนนี้กลายเป็นว่าเที่ยววิ่งหาคนโน้นคนนี้   อย่างนอบน้อมเลยทีเดียว   ปู่ของข้ายังชมไม่ขาดปาก   ราวกับเป็นคนใหม่เลยทีเดียว ”
 
“ เกิดอะไรขึ้นกับเขาหรือโดนมนต์ดำเข้าให้แล้ว ”
 
โลธอร์ถาม
 
“ บ้าสิ   มนต์ดำไม่ทำให้คนกลายเป็นคนดีได้หรอก ”
 
เลโอน่าว่า
 
“ บางทีเขาอาจเติบโตขึ้น   เลยมีความคิดมากขึ้นล่ะมั๊ง ”
 
เด็กชายชาวซีนาร์ยว่า
 
“ เวลาไม่กี่วันจะโตได้เท่าไหร่เชียว   แต่นี่เขาเปลี่ยนตัวเองอย่างปุบปั๊บ   ทำตัวเป็นที่น่าชื่นชม   รู้จักเข้าหาทหารชั้นผู้ใหญ่ด้วย   ข้าว่าเขากำลังหาพวก   คงมีแผนอะไร ”
 
อีเลียสว่า
 
“ หึ   คนอย่างเจ้าชายเอลานอสน่ะนะจะที่มีหัวคิด ”
 
เลโอน่าว่า
 
“ เรื่องนี้ประหลาดจริง   พวกเจ้าคงยังไม่รู้   ทางสภาผู้ใช้เวทมนต์ปกปิดความจริง   ปู่ข้าเป็นที่ปรึกษากษัตริย์ย่อมรู้เรื่องนี้ดี   ขบวนเสด็จของกษัตริย์ได้เจอเข้ากับค่ายมนต์ดำ   เป็นศาสตร์มืดโบราณน้อยคนที่จะสร้างได้   ต้องเป็นระดับเชื้อพระวงศ์ของเมืองคาเลเท่านั้น   คนในขบวนเสด็จต่างคิดว่าต้องตายกันทั้งหมดแล้ว   แต่เชื่อหรือไม่คนที่สามารถทำลายค่ายปีศาจนี้ได้ก็คือ ”
 
เด็กชายร่างผอมแห้งเว้นจังหวะนิดหนึ่ง
เพื่อเรียกความสนใจ
 
“ เจ้าชายเอลานอสนั่นเอง ”
 
“ ห๊า !??!  ”
 
เพื่อนๆ ต่างอุทานเป็นเสียงเดียวกัน
 
“ แน่ใจนะว่านั่นใช่เจ้าชายเอลานอส   ไม่ใช่ตัวจริงโดนลอบสังหารไปแล้ว   ที่เห็นๆ นี่คือมีคนสวมรอยอยู่ ”
 
เลโอน่าว่า
 
“ แล้วใครกันที่สร้างค่ายมนต์ดำ   เป็นไปได้ไหมว่ากษัตริย์ควอซาร์แห่งเมืองคาเลยังไม่สิ้น ”
 
คาโอเรียถามบ้าง
 
“ เนื่องจากสภาแห่งโอรีเวียไม่ยอมรับเรื่องนี้   จึงยากที่จะพิสูจน์ว่าเป็นฝีมือของผู้ใด   แต่หากเป็นจริงดังเจ้าว่ากษัตริย์ควอซาร์ยังไม่สิ้น   ก็เตรียมรับมือกับเรื่องสยองได้เลย   เพราะมีคำเล่าลือว่าคนผู้นี้ชั่วร้ายมาก   จนสามารถเป็นซาเหวจลอร์ดคนที่สองได้เลย ”   
 
ฟิโลโซเฟอร์รู้สึกไม่เห็นด้วยกับความคิดนี้
เขาเกิดและเติบโตที่ซีนาร์ย
 
มีแค่แม่น้ำสายใหญ่กั้นกลางระหว่างเมืองคาเล
แต่เขาก็ไม่เคยได้ยินคำเล่าลือถึงความชั่วร้ายของกษัตริย์ผู้นั้นเลย
 
เมื่อคิดถึงบ้านเกิดก็พลันคิดถึงเพื่อนสนิท
เด็กชายชาวซีนาร์ยจึงได้หยิบขลุ่ยไม้ออกมา
 
มันเป็นของโรเซน
และเขามักจะเอาติดตัวไปด้วยเสมอ
 
“ ขลุ่ยของเจ้าสวยดีนี่ ”
 
อีเลียสทัก
 
“ เพื่อนเก่าของข้าเขาทำให้น่ะ ”
 
เด็กชายตอบ
 
“ ข้าคิดถึงเขา   โรเซนน่ะ   ไม่รู้ป่านนี้ยังอยู่ที่ซีนาร์ยหรือเปล่า   พ่อของเขาป่วยหนักจะอพยพก็ลำบาก ”
 
คาโอเรียว่า
 
“ อย่าห่วงเลย   หมอนั่นเก่ง   เอาตัวรอดได้อยู่แล้ว ”
 
ฟิโลโซเฟอร์บอก
แต่ในใจก็นึกหวั่น
เขาไม่ได้เชื่ออย่างที่ปากพูดออกมาเมื่อครู่แม้แต่น้อย
 
“ เจ้าเป่าขลุ่ยให้ฟังหน่อยสิ ”
 
ฟีไลร่าขอร้อง
 
“ ข้าเป่าไม่เป็นหรอก   พวกเราจากกันก่อนที่โรเซนจะทันได้สอนข้า ”
 
“ ไม่เป็นไรนี่   เป่าไปเถอะไม่จำเป็นต้องเป็นเพลงก็ได้ ”
 
เพื่อนๆ คนอื่นก็สนับสนุนเรื่องนี้
เด็กชายผู้พลัดถิ่นนึกถึงภาพตอนที่ดารีลเป่าขลุ่ย
 
เขาจึงเลียนแบบท่านั้น
เสียงที่ดังออกมากลับประหลาดจนเด็กๆ ต่างสะดุ้ง
 
แต่ที่ตื่นตกใจยิ่งกว่ากลับเป็นม้าแกลบทั้งสอง
มันกระโจนพรวดขึ้นแล้วเริ่มต้นออกวิ่ง
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา