เหนือมาเฟีย

-

วันที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2563 เวลา 00.58 น.

  5 บท
  1 วิจารณ์
  4,651 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2563 01.04 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

5) บทที่ 3 เบลคนเดิมไม่มีอีกแล้ว(2)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
 
ณ ตระกูลรฉัตร
            อลิซมองภาพแม่ในมือด้วยหัวใจที่แหลกสลาย ใช่ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่แม่เธอ และผู้ชายที่นอนเป็นผักอยู่ที่โรงพยาบาลไม่ใช่พ่อแท้ของอลิซ ทั้งหมดมันคือของเบล ร่างที่ออนแอที่เธอเหมือนได้โอกาสจากสวรรค์ให้มาเกิดใหม่ อลิซไม่รู้ว่าเพราะอะไรเธอถึงได้มาเกิดในร่างเบล เธอไม่โทษสวรรค์ ไม่ได้มองว่าถูกสวรรค์กลั่นแกล้ง เพราะคนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เราเลือกที่จะเป็นได้ นี่คือคติประจำใจเธอตั้งแต่ยังเป็นอลิซ หญิงสาวที่แข็งแกร่ง อายุเพียง25 ปี แต่เรียนจบปริญญาโท2ใบพร้อมกัน  และพรสวรรค์ที่ติดมือมาแต่เกิดคือความสามารถในการยิงปืน ไม่ว่าจะลงสนามไหนก็กวาดรางวัลที่ 1 มาได้อย่างง่ายดาย แต่โชคร้ายที่พรสวรรค์ข้อนี้เหมือนเป็นมีดแหลมย้อนมาแทงตัวเอง เมื่อถิ่นที่เธอเกิดเต็มไปด้วยแก๊งมาเฟีย3แก๊งที่กำลังแก่งแย่งชิงพื้นที่เพื่อครอบครองเป็นของตัวเองกันอยู่ ถึงแม้เธอจะเป็นเพียงผู้หญิงตัวเล็กๆ แต่ฝีมือยิงปืนของเธอก็ไม่อาจถูกมองข้ามได้
ถ้าไม่ได้มาทำงานด้วย ก็ไม่ควรอยู่บนโลกนี้ให้ต้องมาระแวง
            อลิซนึกย้อนความจำตัวเองก่อนตายทั้งน้ำตา แล้วครอบครัวเธอเกี่ยวอะไรด้วย ทำไมพวกเขาต้องมาตายไปพร้อมกับเธอ
ก็ไม่แปลกที่เธอรู้สึกเกลียดพวกมาเฟียเข้าไส้
            ตอนนี้อลิซกำลังนอนอยู่บนเตียงขนาดกลาง ผ้าปูสีขาวถูกป้านวล ป้าแม่บ้านหนึ่งในไม่กี่คนที่ดูญาติดี ไม่มีพิษมีภัยตั้งแต่เธอย้ายกลับเข้ามาอยู่ที่บ้านตระกูลรฉัตร แต่เธอไม่ได้อยู่ห้องนอนเดิมที่เบลอยู่ตอนก่อนเกิดเรื่องเพราะ แม่ใหญ่ได้ยื่นคำขาดกับคุณปู่ว่าเธอไม่ยอมให้ผู้หญิงที่เป็นต้นเหตุให้คุณพ่อป่วยหนักมาอยู่ร่วมบ้านของเธอแน่นอน อลิซก็ไม่อยากเหมือนกัน ท่อนหลังอลิซได้แต่คิดในใจ เธอจึงบอกคุณปู่ว่าเธอย้ายมาอยู่เรือนหลังเล็กที่อยู่ข้างๆก็ได้สบายมาก คุณปู่ไม่ขัดพร้อมให้คนรับใช้มาดูแลเธอ2คน คือป้านวลกับ นาหลานของป้านวล และก็ให้ลูกน้องของเขามาเป็นบอดีการ์ดเธออีก 2 คน
            อลิซเดินออกมาจากห้องมาหยิบไอแพดเปิดหนังสือพิมพ์ประจำวันนี้อ่าน เพื่ออัพเดทข่าวสารรอบตัว ทั้งของต่างประเทศและของในไทย เธอเลื่อนอ่านหาข่าวที่น่าสนใจจน มือบางหยุดเลื่อนที่ข่าวเกี่ยวธุรกิจ
ตระกูลรฉัตรมีเซ เมื่อประธานคนปัจจุบันนอนเป็นผักที่โรงพยาบาล
            อลิซกดเข้าไปอ่านต่อ มีหลายสำนักพิมพ์เล่นข่าวเรื่องเกี่ยวกับตระกูลของเธอว่ากำลังดิ่งลงเหวบ้าง กำลังจะถึงจุดจบบ้าง ลูกค้าหลายคนไร้ความเชื่อมั่นเปลี่ยนไปหาคู่แข่งบ้าง หุ้นบริษัทจึงค่อยตกลงเรื่อยๆ เพราะตอนนี้ประธานบริษัทอย่าง ดิเรก ป่วยหนักไม่มีทีท่าจะหาย ตอนนี้คนที่ดูแลเลยกลายเป็น อริศวรที่ต้องกลับมาบริหารงานด้วยวัยย่างเข้า 80 พ่วงด้วยโรคหัวใจ
            ในความทรงจำของเบลที่อลิซจำได้ เธอรู้เพียงแค่ว่าครอบครัวเธอทำธุรกิจส่งออกสัตว์ทะเลทุกชนิดไปทั่วไทยและขยายไปในหลายๆประเทศ ส่วนรายละเอียดที่ลึกกว่านี้เธอไม่รู้เลย เมื่อก่อนเบลไม่เคยเข้าไปเกี่ยวของกับงานของคุณพ่อเลย วันๆเบลมีหน้าที่แค่เรียนหนังสือ กับทำงานบ้าน และก็อีกอย่างคือทำตามคำสั่งของพี่ๆน้องๆคนอื่นๆที่มักมากลั่นแกล้งเธอ
            ช่วงนี้มหาวิทยาลัยเบลปิดเทอมเลยได้อยู่บ้าน ที่ผ่านมาเธอก็วุ่นๆกับการจัดงานศพของแม่ที่คุณปู่คอยเป็นธุระให้ อีก2วันมหาลัยเธอก็เปิดเรียนเทอมใหม่แล้ว เมื่อคิดถึงวันเปิดเรียน อลิซก็บิดขี้เกียจอย่างเกียจคร้าน
นี่เธอต้องกลับไปเรียนให้เบลอีกรอบเหรอเนี่ย
            แค่คิดเธอก็เอียนแล้ว แต่เหมือนอลิซจะไม่ต้องเบื่ออีกต่อไป เมื่อเสียงเปิดประตูบ้านเสียงดัง โครม เหมือนคนเปิดไม่ได้ใช้มือเปิด น่าจะใช้เท้าถีบ ทำให้อลิซขมวดคิ้ว
ใคร?
ปึ้ก
            และจบลงด้วยเสียงโยนตะกร้าเสื้อผ้าอีก 2 ตะกร้า
“นี่คือคำสั่งของคุณหนู จีนา กับคุณหนูดาริน ถ้าอยากอยู่บ้านหลังนี้ต่อก็เอาเสื้อผ้าไปซักให้หมด”
            อลิซวางไอแพดในมือลงก่อนจะเดินไปหาสาวใช้ทั้งสองที่เธอเรียกการกระทำนี้ว่า ‘กร่าง’ ได้ข่าวว่าเธอเป็นคุณหนูของบ้านนี้อีกคน
“นี่ไม่ใช่หน้าที่ของพวกเธอเหรอ ระวังโดนหักเงินเดือนนะ”
            อลิซเดินกลับมานั่งที่เก้าอี้ตัวเดิมอย่างไม่สนใจ พลางหยิบไอแพดขึ้นมาเปิดเล่น แต่หางตาเธอยังคงแอบมองว่าสาวใช้ทั้งสองจะทำยังไงต่อไป
“นี่เป็นคำสั่งจากคุณหนูจีนา เธอกล้าขัดคำสั่งเหรอ”
            อลิซเงยหน้ามามองคนพูดอีกรอบด้วยสายตาที่ดูแข็งขึ้น เธอขัดหูกับสรรพนามที่สาวใช้เรียกอลิซ ‘เธอ’ แทนที่จะเป็นคุณหนู
ขนาดคนรับใช้ยังขนาดนี้คนเป็นเจ้านายของนางจะขนาดไหน
            บางทีอลิซก็ชักอยากเห็นหน้าพวกคนที่เคยรังแกเบลตัวจริงซะแล้วสิ ตั้งแต่มาอยู่ในร่างเบล เธอยังไม่ได้เจอกันเลย คงอยู่เรือนหลังใหญ่ล่ะสินะ แต่ตอนนี้เธอรู้สึกขี้เกียจเดินไปไหนแล้ว
“เหรอ เป็นคำสั่งของพี่จีนาเลยเหรอ แต่ฉันไม่มั่นใจว่าเป็นอย่างที่เธอพูดนี่นา ถ้าเป็นคำสั่งของพี่เค้าจริงๆ ให้พี่เค้ามาสั่งฉันเองสิ”
            ก็บอกแล้วเธอขี้เกียจเดินไปดูหน้าพี่สาวต่างพ่อทั้งสองที่ไม่รู้ยัยเบลไปทำอะไรให้ถึงได้คอยกลั่นแกล้งไม่เว้นแต่ละวัน ก็เลยให้คนที่เธออยากเจอหน้ามาหาเธอเองดีกว่า
“ได้เลย อย่าหนีไปไหนนะ เดี๋ยวฉันจะให้คุณหนูมาจัดการเธอ”
            หนึ่งในสาวใช้พูดขึ้นพลางวิ่งออกไปตามเจ้านาย เหลือสาวใช้อีกคนไว้กับอลิซ ทีแรกแววแต่เธอก็หยิ่ง จองหองเหมือนนางร้ายในละคร แต่พอเห็นแววตาที่ไม่สะทกสะท้านของอลิซก็เริ่มสงบเสงี่ยมขึ้น สองเท้าค่อยๆก้าวถอยหลังเองอัตโนมัติ เมื่อค้นพบว่าหญิงสาวตรงหน้าที่เธอมักถูกสั่งให้มาแกล้งคุณหนูคนนี้ ตอนนี้กลับไม่มีท่าทียอมคนเหมือนเมื่อก่อน
“อยู่นี่เลยค่ะคุณหนูๆ” เสียงเจื้อยแจ้วดังนำเจ้าของมา ทำให้เบลเลือกที่จะวางไอแพดในมืออีกรอบ เพราะอยากเห็นพี่น้องต่างบิดาทั้งสอง
“ไหนนังเบล เดี๋ยวนี้แกกล้าเล่นลิ้น ขัดคำสั่งพวกฉันเหรอ” เสียงเล็กดังออกมาจาก ดาริน ลูกสาวคนเดียวของแม่รองที่หน้าตาผนวกกับเรือนผมยาวสีบรอนทองทำให้น่ารักไม่แพ้ใคร  แต่นิสัยช่างเอาแต่ใจไม่เหมือนหน้าตาเสียเลย
“อย่านึกว่าคุณปู่ออกหน้าแทนแล้วจะรอดนะ” น้ำเสียงหยิ่งไม่มีใครเป็นรองดังจากปากบางสวยเป็นกระจับ ดวงตาสีเทาเหมือนผู้เป็นแม่ ใบหน้ารูปไข่ที่ถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางราคาแพง ส่งเสริมให้ จีนา ลูกสาวคนโตของแม่ใหญ่ สวยหรูไม่แพ้ใครเช่นกัน
            อลิซมองพี่น้องต่างบิดาทั้งสองอย่างไม่เข้าใจ
เบลมีอะไรดีไปกว่าสองคนนี้เหรอ ทำไมถึงได้อิจฉาจนต้องมากลั่นแกล้งกันทุกวัน
“เหนื่อยไหมคะ” อลิซจ้องหน้าจีนากับดารินไม่ทีท่าว่าเกรงกลัวเหมือนแต่ก่อน “มาแกล้งเบลบ่อยๆ ไม่เหนื่อยเหรอคะ”
“แกพูดอะไรเพ้อเจ้อ อย่ามาเปลี่ยนเรื่อง ฉันนี่แหละเป็นคนสั่งให้แกซักเสื้อผ้าให้ฉัน ซักเดี๋ยวนี้ฉันต้องได้ก่อนเที่ยง” ดารินยิ้มเยาะ เธอมองเบลอย่างสมเพสความจริงเธอเองก็เป็นลูกเมียน้อยเหมือนกัน แต่เพียงแค่เธอรู้จักปรับตัวไง ประจบประแจงพี่ใหญ่คือพรสวรรค์ของเธอ
“คนใช้ก็มีทำไมต้องให้เบลซักด้วยคะ เบลก็เป็นได้แค่คนใช้สมัครเล่น สะอาดสู้พี่คนใช้ที่แท้จริงไม่ได้หรอก” เมื่ออลิซบรรลุเป้าหมายในการอยากเห็นหน้าทั้งสองสาวแล้วเธอจึงพูดตัดบทแบบประนีประนอม แต่ประโยคหลังก็ไม่วายหันไปแขวะอีก2สาวใช้ ทำเอาคนถูกด่าทางอ้อมสะดุ้งไปตามๆกัน
“ฉันบอกให้แกซักให้ฉันเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นแกโดนตบแน่” จีนาก้าวเข้ามาหาอลิซพร้อมกับอีก3มือของสามสาวที่เหลือ
            อลิซหันไปมองลูกกระจ๊อกทั้งสามของพี่สาวอย่างขำขัน จนเผลอหลุดขำออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่
“นึกว่าฉันไม่กล้าเหรอ เผี๊ยะ” ดารินตบเข้าที่หน้าของอลิซจนหน้าหัน มีเหรอคนอย่างอลิซจะยอมให้กระทำอยู่ฝ่ายเดียว เธอสวนด้วยกำปั้นของเธอเข้าที่เป้าตาของดารินจนเจ้าตัวร้องโวยวาย
“ตบมาต่อยกลับ ไม่โกง” อลิซไม่ใช่คนที่ชอบใช้กำลัง ถึงแม้เธอจะเคยเรียนศิลปะป้องกันตัวมาก่อน แต่เธอก็ไม่ได้ต่อสู้เก่งอะไร สี่ต่อหนึ่งเธอยังมีเปอร์เซนต์แพ้อยู่ เธออาจชนะแต่ที่แน่ๆเธออาจต้องเจ็บตัว ซึ่งเธอไม่อยากเจ็บตัวเพราะเรื่องไร้สาระอย่างนี้ เธอไม่ได้มองว่าพี่น้องทั้งสองเป็นศัตรู ยังไงก็คือคนในครอบครัวเดียวกัน
“มัวยืนทำอะไรอยู่ล่ะ ยัยปิ่น ป่าน รุมมันสิ” ดารินจับเบ้าตาที่โดนต่อยของตัวเองพลางกระทืบเท้าขัดใจ
“พี่ปอ พี่กัน เข้ามานี่หน่อย” อลิซตะโกนเรียกบอดีการ์ดหนุ่มทั้งสองคนที่คุณปู่ส่งมาให้เธอ
            ร่างหนาในชุดสูทรีบวิ่งเข้ามาหาอลิซเตรียมรับคำสั่ง ซึ่งนั่นก็ทำให้สาวใช้ที่กำลังพุ่งมาจัดการอลิซชะงักฝีเท้า
“พี่ช่วยเอาหิ้วคนใช้สองคนนั้นออกไปนอกบ้าน และก็ฝากเชิญคุณหนูของเรือนใหญ่ทั้งสองออกไปด้วยนะคะ พอดีเบลอยากพักผ่อน”
“รับทราบครับคุณหนู” การ์ดคนนึงลากสาวใช้ทั้งสองออกไปอย่างง่ายดาย ส่วนอีกคนก็หันมาทางคุณหนูอีกสองคนที่ก็เหมือนเป็นเจ้านายของเขาเหมือนกัน แต่เขาได้คำสั่งมาว่าให้ปกป้องความปลอดภัยของคุณหนูเบล ไม่ใช่คุณหนูสองคนนี้ เพราะฉะนั้นตอนนี้คำสั่งสูงสุดคือของคุณหนูเบล “เชิญกลับเรือนใหญ่ครับคุณหนู ผมไม่อยากใช้กำลัง”
“คุณปู่ปกป้องแกไม่ได้ตลอดหรอก” จีน่ายิ้มเหยียดก่อนจะสะบัดผมเดินออกไปอย่างไม่พอใจ
“ฝากไว้ก่อนนะ ฉันจะไปฟ้องแม่ว่าแกต่อยฉัน ฮื่อ” ดารินรีบวิ่งตามพี่สาวออกไป
            อลิซถอนหายใจโล่งอก แค่ไม่มีลูกกระจ๊อกสองคนนี้ก็ไม่กล้าทำอะไรเธอแล้ว แต่ดูท่าว่าเธอยังต้องเตรียมรับมือกับแม่รองอีกรอบ เพราะเธอดันลืมยั้งมือต่อยเข้าที่เบ้าตาของดาริน
“ต่อจากนี้อย่าให้คนจากบ้านนู้นเข้ามาที่บ้านเบลนะคะ ถ้าเบลยังไม่ได้อนุญาต” อลิซหันไปสั่งบอดีการ์ดที่เหลืออยู่ข้างตัว ก่อนจะเดินเข้าห้องนอนไปพักผ่อนอย่างที่บอกจริงๆ
กริ๊งงงงง
            เสียงโทรศัพท์อลิซดังขึ้นก่อนที่อลิซจะหลับลึก อลิซถอนหายใจก่อนจะลุกขึ้นไปหยิบมือถือดูที่หน้าจอว่าใครกันที่โทรมาขัดจังหวะงีบของเธอ
ผู้ช่วยคุณปู่ อลิซหยุดคิดสงสัยว่าเขาเธอมีธุระอะไรถึงได้โทรหาเธอ
“สวัสดีค่ะ เบลพูดค่ะ”
“สวัสดีครับคุณเบล คุณอดิศวรเรียนให้คุณเบลมาที่เรือนใหญ่เดี๋ยวนี้เลยครับ ท่านมีเรื่องจะแจ้งให้ทุกคนในตระกูลรฉัตรทราบ”
 
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา